ฟิลเลอร์ Juvederm มีจุดเด่นอย่างไร ? ทำไมถึงนิยมใช้ในวงการความงาม ?
เขียนโดย beauty_content
วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 11.36 น.
แก้ไขเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 11.41 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
1) รู้จัก Juvederm ฟิลเลอร์แบรนด์ดังจากอเมริกา มีกี่รุ่น ? ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหากพูดถึงฟิลเลอร์ที่คลินิกส่วนใหญ่นิยมใช้คงต้องเคยได้ยินฟิลเลอร์ Juvederm กันมาบ้าง โดย juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่มีชื่อเสียงจากอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของฟิลเลอร์
บทความนี้จะพาไปรู้จัก ฟิลเลอร์ Juvederm ให้มากขึ้นว่ามีคุณสมบัติเด่นอย่างไรทำไมถึงได้รับความนิยม ? มีกี่รุ่นและใช้ฉีดตรงไหนได้บ้าง อ่านต่อพร้อมกันได้เลยค่ะ
สารบัญ juvederm
- รู้จักฟิลเลอร์ Juvederm ให้มากขึ้น ทำไมถึงได้รับความนิยม ?
- คุณสมบัติเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm มีอะไรบ้าง ?
- ฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติอย่างไร ?
- อยากฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ต้องเตรียมงบเท่าไรกันนะ ?
- สรุปฟิลเลอร์ Juvederm
รู้จักฟิลเลอร์ Juvederm ให้มากขึ้น ทำไมถึงได้รับความนิยม ?
ฟิลเลอร์ Juvederm คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด Hyaluronic acid (HA) จากประเทศอเมริกา สามารถฉีดได้ทุกจุดบนใบหน้า เมื่อเวลาผ่านไปจะสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นผู้ผลิตเดียวกับโบท็อกซ์ Allergan
ในประเทศไทย juvederm ถูกนำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Allergan Thailand ผ่านการรับรองจาก อย. อเมริกา (US FDA) และ อย. ไทย (TH FDA) ว่าเป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก และเป็นที่นิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
คุณสมบัติเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm มีอะไรบ้าง ?
จุดเด่นของฟิลเลอร์ juvederm คือ เนื้อฟิลเลอร์มีคุณภาพสูง โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ juvederm 2 เทคโนโลยี ได้แก่ Hylacross และ Vycross Technology
- เทคโนโลยี Hylacross Technology
Hylacross เป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมของแบรนด์ juvederm ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้นหลังฉีด อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูง รองรับการเคลื่อนไหวของผิวได้ดี เหมาะสำหรับการฉีดในจุดที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม หรือแก้มตอบ
- เทคโนโลยี Vycross Technology
Vycross เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่พัฒนาขึ้นมาล่าสุดของแบรนด์ juvederm เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว ทนต่อการขยับได้ดี ด้วยโมเลกุลของ Hyaluronic Acid ที่เชื่อมต่อกันอย่างหนาแน่น ผลลัพธ์หลังฉีดจึงดูเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติ สามารถฉีดได้ในทุกจุดของใบหน้า
ฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ juvederm ใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ทั้งนี้รุ่นที่นิยมใช้ในคลินิกหลาย ๆ แห่ง จะมีด้วยกันอยู่ 6 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน ดังนี้
- Juvederm Ultra Plus
- ใช้เทคโนโลยี : Hylacross
- จุดเด่น : ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดแล้วมีความฟูมาก หลังฉีดช่วยให้บริเวณที่เป็นแอ่ง ร่องลึก เต็มสวยขึ้น
- ตำแหน่งที่เหมาะ : ขมับ, ร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก และปาก
- ระยะเวลา : อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Voluma
- ใช้เทคโนโลยี : Vycross
- จุดเด่น : ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความฟูปานกลาง เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลขนาดใหญ่ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ
- ตำแหน่งที่เหมาะ : ขมับ, ใต้ตา, ร่องแก้ม, ปาก และคาง
- ระยะเวลา : อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- Juvederm Volbella
- ใช้เทคโนโลยี : Vycross
- ลักษณะเนื้อ : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลมีความเล็กละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่ต้องการความเรียบเนียน ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ juvederm รุ่นนี้จะไม่เป็นก้อน ดูเป็นธรรมชาติ
- ตำแหน่งที่เหมาะ : หน้าผาก
- ระยะเวลา : อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volift
- ใช้เทคโนโลยี : Vycross
- ลักษณะเนื้อ : ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม โมเลกุลมีความละเอียดมากกว่ารุ่น ultra plus จึงเหมาะสำหรับคนที่ผิวบาง นิยมฉีดในบริเวณที่มีปัญหาไม่ลึกมาก
- ตำแหน่งที่เหมาะ : ระหว่างคิ้ว, ใต้ตา, แก้มตอบ, ร่องแก้มชั้นตื้น, มุมปาก และปาก
- ระยะเวลา : อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volite
- ใช้เทคโนโลยี : Vycross
- ลักษณะเนื้อ : ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผิว เหมาะกับคนที่ผิวค่อนข้างบาง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ตำแหน่งที่เหมาะ : ใต้ตาชั้นตื้น และบริเวณผิวชั้นตื้นเพื่อช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
- ระยะเวลา : อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
- Juvederm Volux
- ใช้เทคโนโลยี : Vycross
- ลักษณะเนื้อ : ฟิลเลอร์เนื้อทน มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง คงรูปได้ดีที่สุด และปั้นทรงได้สวย หลังฉีดผลลัพธ์อยู่ได้นาน
- ตำแหน่งที่เหมาะ : ใต้ตา, ขมับ, ร่องแก้มชั้นลึก และคาง
- ระยะเวลา : อยู่ได้นานประมาณ 8-24 เดือน
อยากฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ต้องเตรียมงบเท่าไรกันนะ ?
โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์ juvederm จะเริ่มต้นที่ประมาณ 7,000-18,000 บาท ต่อ 1 CC ทั้งนี้ราคาจะขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ และโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อประเมินสภาพปัญหา และเลือกใช้รุ่นของฟิลเลอร์ juvederm ที่เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อการเตรียมงบประมาณที่เหมาะสม และได้รับผลลัพธ์หลังฉีดที่ดีที่สุด
สรุปฟิลเลอร์ Juvederm
หลังจากอ่านบทความนี้จบสาว ๆ คงรู้จักกับฟิลเลอร์เกรดพรีเมียมแบรนด์ juvederm สัญชาติอเมริกากันมากขึ้นนะคะ สำหรับผู้ที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ สิ่งสำคัญควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์ juvederm ของแท้ได้มาตรฐาน และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์เพราะแม้จะเป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ก็อาจให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ