วิตามินซี ช่วยเรื่องอะไร ? มีประโยชน์อะไรบ้าง ? ถ้าร่างกายขาดวิตามินซี จะเกิดอะไรขึ้น !

-

เขียนโดย beauty_content

วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 09.46 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  843 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 09.56 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า

แชร์เรื่องเล่า Share Share Share

 

1) วิตามินซี ช่วยเรื่องอะไร ? มีประโยชน์อะไรบ้าง ? ถ้าร่างกายขาดวิตามินซี จะเกิดอะไรขึ้น !

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

ถ้าพูดถึง “วิตามินซี” หลายคนคงมีภาพจำเป็นเม็ดยาสีส้มรสชาติหวานอมเปรี้ยวในวัยเด็ก ที่กินเพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย และป้องกันการเป็นไข้หวัดอย่างแน่นอน แต่หลาย ๆ คนรู้ไหมคะว่าอีกสรรพคุณหนึ่งของวิตามินซีที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือสามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดี และกระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย
 
วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวิตามินซีให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซีมีประโยชน์อย่างไร ? ควรได้รับวิตามินซีวันละเท่าไหร่ ? และเราสามารถได้รับวิตามินซีจากทางไหนได้บ้าง ? ตามไปดูกันเลยค่ะ
 

 
วิตามินซีคืออะไร ? มีประโยชน์อะไรบ้าง ?
วิตามินซี (Vitamin C) หรือเรียกอีกอย่างว่า “กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid)” คือ วิตามินประเภทที่สามารถละลายในน้ำได้ ถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะมีส่วนสำคัญในการสร้างหลอดเลือด กล้ามเนื้อ และคอลลาเจนในกระดูก รวมถึงวิตามินซียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์หรือเนื้อเยื่อเสียหาย และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย 
 
หนึ่งในสารอนุมูลอิสระที่หลาย ๆ คนต้องพบเจอกันทุกวัน คือ รังสียูวีที่อยู่ในแสงแดดค่ะ สารตัวนี้ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผิว ทั้งผิวคล้ำเสีย จุดด่างดำและฝ้ากระบนใบหน้า ริ้วรอยก่อนวัย แถมถ้าได้รับรังสียูวีมาก ๆ ยังส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังด้วยค่ะ 
 
ดังนั้นหากร่างกายได้รับวิตามินซีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ผิวพรรณมีสุขภาพที่ดี ดูกระจ่างใสขึ้น ผิวหนังเต่งตึง และริ้วรอยจางลง
 
จะเห็นได้ว่า วิตามินซีมีความสำคัญกับร่างกายของเรามากค่ะ แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างวิตามินซีขึ้นได้เอง และไม่สามารถสะสมไว้ในร่างกายได้นาน จึงจำเป็นต้องได้รับจากภายนอกเป็นประจำ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการค่ะ
 

 
ควรได้รับวิตามินซีเท่าไหร่ ? ถ้าขาดวิตามินซีจะเกิดอะไรขึ้น ?

ควรได้รับวิตามินซีวันละเท่าไหร่ ?
 
เราควรกินวิตามินซีวันละ 1000 มิลลิกรัมต่อวันค่ะ เพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพราะโดยทั่วไปร่างกายของเราจะดูดซึมวิตามินซีได้เพียงประมาณ 200-400 มิลลิกรัมต่อครั้ง และถ้าร่างกายได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอจะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น เลือดออกตามไรฟัน เป็นหวัดง่าย และผิวแห้งกร้านค่ะ
 
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ถ้างั้นยิ่งร่างกายได้รับวิตามินซีในปริมาณมากก็ยิ่งดีใช่หรือไม่ ?
ขอบอกก่อนเลยว่า ไม่ใช่ค่ะ! 
 
การได้รับวิตามินซีที่มากเกินไปสามารถก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร รู้สึกแสบท้อง หรือมีอาการถ่ายเหลวได้ค่ะ โดยทั่วไปเราควรได้รับวิตามินซีไม่เกินวันละ 2000 มิลลิกรัม แต่สำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพบางกลุ่ม คุณหมออาจแนะนำให้บริโภควิตามินมากกว่านั้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสุขภาพของแต่ละคน และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ไม่ควรบริโภควิตามินซีมากเกินไปด้วยตัวเองนะคะ
 
ดังนั้น ตัวเลขที่ปลอดภัยในการได้รับวิตามินซีจะอยู่ที่ระหว่าง 1000-2000 มิลลิกรัมต่อวันค่ะ อะไรที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้น 
 

 
ร่างกายได้รับวิตามินซีจากทางไหน ?
การกิน

การกินถือเป็นวิธีได้รับวิตามินซีที่หลายคนทำเป็นประจำทุกวันกันอยู่แล้ว ทั้งแบบที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว เพราะวิตามินซีก็มีอยู่ภายในอาหารหลายชนิดที่เรารับประทานเข้าไปค่ะ หรือบางคนอาจเลือกกินอาหารเสริมวิตามินซีร่วมด้วย เพื่อผลลัพธ์ทางความงามและสุขภาพร่างกาย
 

ผักผลไม้ วิตามินซีสามารถพบได้ทั้งในผลไม้และผักใบเขียว เช่น มะขามป้อม มะเขือเทศ ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี ส้ม เป็นต้น โดยวิตามินซีที่ได้จากผลไม้จะดีที่สุดค่ะ เพราะจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า “สารซีตรัสไบโอฟลาโวนอยด์” ที่ทำหน้าที่ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ 

 

อาหารเสริม ในท้องตลาดอาหารเสริมวิตามินซีมีด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น แบบอัดเม็ด แบบแคปซูล แบบเม็ดฟู่ หรือแบบเม็ดอม ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีวิธีการกินและข้อควรระวังที่แตกต่างกัน จึงควรอ่านฉลากก่อนบริโภคทุกครั้ง เลือกวิตามินซีที่มีเครื่องหมายรับรองขององค์กรอาหารและยา (อย.) และซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือเท่านั้นนะคะ

 
ข้อเสียของการรับประทานวิตามินซี คือ ร่างกายจะดูดซึมวิตามินได้เพียงครั้งละ 200-400 มิลลิกรัมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องแบ่งกินวิตามินซีในหลายมื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอต่อวัน 
 
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กินวิตามินซีรูปแบบอาหารเสริม ควรดื่มน้ำตามอย่างน้อย 1-2 แก้ว เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่วิตามินซีจะตกตะกอนจนกลายเป็นนิ่ว และควรหลีกเลี่ยงการกินก่อนนอน เพราะเราอาจดื่มน้ำตามไม่เพียงพอค่ะ 
 
การทา

วิตามินซีสำหรับการทาจะมาในรูปแบบของเซรัมหรือเอสเซนส์เนื้อบางเบา เพื่อให้สามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ เพราะวิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นกรด จึงยับยั้งการผลิตเม็ดสีของเมลานิน และปรับผิวให้ดูกระจ่างใส รวมถึงยังมีคุณสมบัติเด่นในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว จึงทำให้ผิวดูเต่งตึง และยังป้องกันการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย 
 
จะเห็นได้ว่า วิตามินซีในรูปแบบการทาจะมุ่งเน้นประโยชน์ในด้านความงามมากกว่าการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ คือ จำเป็นต้องมีวินัย และใช้อย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผล จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการใช้ผิวอย่างเร่งด้วย นอกจากนี้วิตามินซียังไม่ค่อยทนต่อแสงแดด หรือความร้อน จึงจำเป็นต้องเก็บรักษาในที่ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันวิตามินซีเสื่อมคุณภาพค่ะ 
 
การฉีดวิตามินผิว

การฉีดวิตามินผิว หรือการดริปวิตามินผิว คือ การฉีดวิตามินซีที่มีความเข้มข้นสูงเข้าสู่ผิวโดยตรงผ่านทางหลอดเลือดดำ จะมีลักษณะคล้ายกับการให้ยาทางน้ำเกลือ เป็นวิธีที่ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินซีได้อย่างเต็มที่ แตกต่างจากการรับประทานที่ร่างกายจะดูดซึมได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
 
สำหรับการดริปวิตามินผิวในคลินิกเสริมความงาม อาจมาในรูปแบบวิตามินซีที่มีส่วนผสมของสารอาหารที่จำเป็นอื่น ๆ รวมอยู่ด้วยค่ะ ถือเป็นวิธีที่เห็นผลเร็วกว่าการกินหรือการทา โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังจากครั้งแรกที่ฉีดวิตามินผิว เหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน
 
ใครที่สนใจวิธีนี้อย่าลืมเลือกคลินิกเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ และทำหัตถการกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ เพื่อให้สวยอย่างปลอดภัยนะคะ
 

 
สรุป
วิตามินซีเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด รวมถึงยังช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี แต่ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตวิตามินซีเองได้ จึงจำเป็นต้องเติมเข้าไปในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการกิน การทา หรือการฉีดวิตามินผิว
 
สำหรับใครที่รู้สึกร่างกายอ่อนเพลีย มีผิวหมองคล้ำ ต้องการการบำรุงและบูสต์ผิวแบบเร่งด่วน การฉีดวิตามินซีผ่านทางหลอดเลือดดำถือเป็นวิธีที่ตอบโจทย์มากค่ะ เพราะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเข้มข้นได้อย่างเต็มที่มากกว่าการกินหรือการทา แต่ก็ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตน่าเชื่อถือ และทำหัตถการภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับเรื่องเล่าเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านเรื่องเล่าเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา