หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวอย่างไร ให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นาน

เชื่อว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ ทุกคนก็ล้วนต้องการผลลัพธ์ที่ออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติ โดยการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราได้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนและอยู่กับเราได้นาน โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ? สิ่งไหนที่ควรทำ ? สิ่งไหนที่ควรระวัง ? บทความนี้ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้วค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเข้าที่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการปรับรูปหน้าที่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ ซึ่งหลังฉีดอาจเกิดรอยเขียวช้ำ อาการบวมเข็มบริเวณที่ฉีด เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ตามปกติ ไม่เป็นอันตรายค่ะ 
โดยอาการบวมและรอยเขียวช้ำเหล่านี้จะค่อย ๆ ยุบลงไปได้เองภายใน 7-14 วัน และฟิลเลอร์จะใช้เวลาเข้าที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังทำ ถึงจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน ซึ่งการที่ฟิลเลอร์จะเข้าที่ได้ไวหรืออาการบวมยุบได้เร็วแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำเป็นสำคัญค่ะ

หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันทีค่ะ แต่ก็ไม่ควรละเลยที่จะดูแลตัวเองเพื่อผลลัพธ์ที่ดี และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาหลังฉีดฟิลเลอร์
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

เลี่ยงการกด นวด ถู สครับผิว สัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ หรือการแสดงสีหน้าอารมณ์ที่ทำให้เกิดการขยับของใบหน้าแรง ๆ เช่น การยิ้มกว้าง ๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูป หรือเคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ฉีดได้
2. นอนหนุนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอก

หลังฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 2-3 วันแรก ควรนอนหงายโดนหนุนหมอนให้สูงกว่าระดับหน้าอก จะสามารถช่วยลดอาการบวมได้คค่ะ
3. ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม

หากมีอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ แนะนำให้ใช้ผ้าห่อน้ำแข็ง เจลเก็บความเย็น ประคบเย็นเบา ๆ บริเวณที่บวม เพื่อช่วยบรรเทาให้อาการบวมดีขึ้น
4. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด

หลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด ๆ หรือการออกแดดค่ะ เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดง และเกิดการระคายเคืองผิวบริเวณที่ฉีดได้
5. อยู่ในที่มีอากาศเย็น และหลีกเลี่ยงการโดนความร้อน

หลังฉีดฟิลเลอร์พยายามอยู่ในที่ ๆ มีอากาศเย็น และหลีกเลี่ยงการโดนความร้อนอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น การอาบน้ำอุ่น การซาวน่า เพราะอาจส่งผลต่อการคงรูปของฟิลเลอร์ได้
6. งดการออกกำลังกายอย่างหนัก

ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ให้งดการออกกำลังกายอย่างหนัก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ฉีดได้เแล้ว ยังอาจทำให้เกิดรอยแดง และอาการบวมอักเสบได้ง่าย โดยแนะนำให้ออกกำลังกายเบา ๆ อย่างการเล่นโยคะ การเดินเร็วแทนค่ะ
6. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

เนื่องจากฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic acid (HA) ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ กักเก็บความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิว การดื่มน้ำจึงเป็นการช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้ดีขึ้น ฟู สวย ได้รูป และทำให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น
7. งดการสูบบุหรี่

หลังฉีดฟิลเลอร์ให้งดการสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้อาการบวมหายช้าลง และยังทำให้ผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงไม่นานเท่าที่ควร

ฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?

อาหารและเครื่องดื่มที่คุณหมอแนะนำให้ควรเลี่ยงในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากอาจส่งผลให้อาการบวมหายช้าลง และเสี่ยงต่อการเกิดอาการอักเสบได้ง่าย ได้แก่

อาหารร้อน เช่น ปิ้งย่าง ชาบู : ความร้อนอาจทำให้เกิดอาการบวมและอักเสบ หรือทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก
อาหารที่มีรสจัด เค็มจัด หวานจัด โซเดียมสูง : กระตุ้นการอักเสบบนผิวหน้าได้ง่าย และทำให้ใบหน้าดูบวมขึ้น อาการบวมหายช้าลง
อาหารหมักดอง อาหารดิบ : อาจส่งผลให้การติดเชื้อหรือเกิดการอักเสบจากกรรมวิธีการที่ไม่มีความสะอาด
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : ทำให้เลือดสูบฉีดมาก หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้หน้าบวมแดง อาการบวมหายได้ช้าลง

หลังฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้รับประทานอาหารจำพวกผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินสูง หรืออาหารที่ช่วยลดบวม เช่น ใบบัวบก น้ำมะพร้าว ฟักทอง สาหร่ายทะเลค่ะ


ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์
สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษหลังฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุด

ฟิลเลอร์ใต้ตา : ระวังการยิ้มตาหยี หรือเผลอขยี้ตา โดยเฉพาะในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้
ฟิลเลอร์ขมับ : ระวังการนอนตะแคง นอนหันข้าง อาจทำให้เกิดการกดทับบริเวณขมับ
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม : ระวังการแสดงสีหน้า การฉีกยิ้มกว้าง
ฟิลเลอร์ปาก : ระวังการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีความร้อนในช่วงแรก
ฟิลเลอร์คาง : ควรระวังการเผลอนั่งเท้าคาง


สรุป
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการฉีดฟิลเลอร์ที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์หลังฉีดที่ออกมาสวย เห็นผลชัดเจน ทั้งยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้ฟิลเลอร์อยู่กับเราได้นานขึ้น