ไฮยาลูรอน คืออะไร ? ช่วยเรื่องอะไร ? มีความสำคัญต่อผิวอย่างไรบ้าง ?
-
เขียนโดย beauty_content
วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เวลา 14.20 น.
1 ตอน
2 วิจารณ์
1,342 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 15.29 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
1) ไฮยาลูรอน คืออะไร ? ช่วยเรื่องอะไร ? มีความสำคัญต่อผิวอย่างไรบ้าง ?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความไฮยาลูรอน เป็นส่วนผสมที่เรามักจะเห็นในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ลดริ้วรอย ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ บวกกับเทรนด์การดูแลผิวในปัจจุบันที่เน้นการบำรุงอย่างล้ำลึกให้ผิวสุขภาพดีมี Skin Quality จากภายในสู่ภายนอก
สำหรับคนที่สนใจอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ไฮยาลูรอน” ในบทความนี้ จะพาไปทำความรู้จักให้มากขึ้นว่า ไฮยาลูรอน คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง ? มีกี่รูปแบบ ? อันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงอย่างไร ? รวมถึงผลลัพธ์ก่อน-หลังเติมไฮยาลูรอน
ไฮยาลูรอน คืออะไร ?
ไฮยาลููรอน หรือ ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติในชั้นผิวมากถึง 80% ทำหน้าที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) ทำให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึง ดูเรียบเนียนขึ้น
อย่างไรก็ตาม ร่างกายจะผลิตไฮยาลูรอนได้น้อยลง เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ผิวจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพลงจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต รวมถึงปัจจัยภายนอกด้านอื่น ๆ เช่น
การโดนรังสี UVA / UVB จากแสงแดด
มลภาวะจากฝุ่น ควัน
ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ
ดื่มน้ำน้อย น้ำในร่างกายไม่เพียงพอ
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
ซึ่งหากปล่อยให้ผิวสูญเสียไฮยาลูรอนเป็นเวลานาน ๆ ขาดการดูแลอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน ขาดน้ำ ไม่มีความชุ่มชื้น ทาครีมซึมลงสู่ผิวได้ยากกว่าเดิม และเกิดริ้วรอยร่องลึกขึ้นได้ง่าย เป็นสาเหตุให้ผิวแก่เร็วกว่าปกติ
ไฮยาลูรอน เหมาะกับใคร ?
ไฮยาลูรอน เหมาะกับ
คนที่มีปัญหาผิวแห้งมาก ขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น
คนที่มีปัญหาผิวมีริ้วรอย เป็นร่องลึก
คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หน้าเหี่ยว ผิวไม่กระชับ
คนที่มีปัญหาผิวบอบบาง ไวต่อแดด
คนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส
คนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง แต่งหน้าไม่ติด ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
คนที่ต้องการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น อิ่มฟู ผิวสวย ดูสุขภาพดีอยู่เสมอ
คนที่ต้องการชะลอวัย ป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต
ไฮยาลูรอน ช่วยอะไรบ้าง ?
“ไฮยาลูรอน” มีประโยชน์สำคัญต่อการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังสามารถช่วยสมานแผล เป็นส่วนประกอบหล่อเลี้ยงข้อต่อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย พร้อมกับดูดซับกักเก็บโมเลกุลของน้ำในผิวได้ถึง 1,000 เท่า พบได้ในเนื้อเยื่อและน้ำไขข้อต่าง ๆ ภายในร่างกายของเราด้วย ทำให้ไฮยาลูรอนสามารถช่วยได้ทั้งในแง่ของการบำรุงผิว และการรักษาโรค ดังนี้
ไฮยาลูรอน บำรุงผิว
ช่วยดูดซับและกักเก็บความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวอิ่มน้ำ ฟู นุ่มเด้ง ดูอ่อนเยาว์
ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวให้สร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin)
ช่วยลดเลือนและชะลอการเกิดริ้วรอย ร่องลึก
ช่วยให้ผิวตึงกระชับ ดูเรียบเนียน นุ่ม ฉ่ำ
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว
ช่วยลดความหมองคล้ำ เพิ่มความกระจ่างใส
ไฮยาลูรอน รักษาโรค
ช่วยรักษาโรคข้อเข้าเสื่อม หรือมูลกระดูกเสื่อม (Osteoarthritis of the knee)
ช่วยรักษาโรคภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ (Scapulohumeral periarthritis)
ช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก
ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดบริเวณข้อ
ช่วยรักษาตาต้อกระจก
ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง
ช่วยรักษาแผลในปาก
ช่วยสมานแผลและบรรเทาอาการไฟไหม้
ไฮยาลูรอน มีกี่รูปแบบ ?
เพื่อทดแทนไฮยาลูรอนที่ร่างกายสูญเสียไป ปัจจุบันจึงมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสกัดสารไฮยาลูรอน จึงสามารถแบ่งประเภทของไฮยาลูรอนออกเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
ไฮยาลูรอนแบบทา
ได้แก่ เซรั่ม ครีม โทนเนอร์ มอยส์เจอไรเซอร์ เอสเซนส์ หรือผลิตภัณฑ์ความงามอื่น ๆ ในกลุ่มเติมความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอย มักจะใช้ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) มาเป็นสารประกอบเพื่อเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวหน้าดูอิ่มฟู กระชับ เติมเต็มปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ สามารถเลือกใช้ได้ตามปริมาณที่เหมาะสม เพื่อตอบโจทย์กับช่วงอายุ และสภาพผิว ของแต่ละบุคคล
ไฮยาลูรอนแบบรับประทาน
ได้แก่ วิตามิน อาหารเสริม ทั้งชนิดเม็ดและชนิดชงดื่ม ในชนิดเม็ดจะมีความเข้มข้นของไฮยาลูรอน 50-120 mg ต่อเม็ด/แคปซูล แตกต่างกันไปตามยี่ห้อ นิยมนำมารับประทานเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น บำรุงผิวให้อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีจากภายใน
นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการสมานแผล บรรเทาอาการปวดตามข้อต่อ เสริมกระดูกให้แข็งแรง บรรเทาอาการตาแห้ง และป้องกันอาการปวดกระเพาะปัสสาวะ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
ไฮยาลูรอนแบบฉีด
ได้แก่ การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการใช้สารเต็มเติม Hyaluronic Acid (HA) ฉีดเข้าไปยังชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง โดยตรง เพื่อช่วยเติมเต็มผิว เสริมชั้นผิวให้กลับมาอิ่มเอิ่บ เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว นิยมเป็นอย่างมากในคลินิกเสริมความงาม
โดยสามารถนำฟิลเลอร์มาเติมหรือปรับรูปหน้าได้หลายส่วนที่มีปัญหาผิวเริ่มเสื่อมสภาพ หรือยุบตัวลงจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น เช่น บริเวณใต้ตา คาง ร่องแก้ม ปาก ขมับ หน้าผาก จมูก ก่อนฉีดแนะนำให้หาข้อมูลอย่างละเอียด เลือกแพทย์มีประสบการณ์ และเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ไฮยาลูรอน อันตรายไหม ?
ไฮยาลูรอน เป็นสารที่ถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกาย มีความปลอดภัยสูง หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่ในบางรายอาจเกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงขึ้นได้ ก่อนใช้ไฮยาลูรอนแต่ละแบบจึงมีข้อแนะนำ ดังนี้ค่ะ
ไฮยาลูรอนแบบทา : ควรเลือกที่มีความเข้มข้นของไฮยาลูรอนต่ำกว่า 2% เพราะอาจทำให้เกิดการแพ้ได้สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง
ไฮยาลูรอนแบบรับประทาน : เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย ผ่านช่องทาง Online Shopping ก่อนเลือกซื้อวิตามิน/อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนซื้อ ด้วยการปรึกษาแพทย์และเภสัชกร
ไฮยาลูรอนแบบฉีดหรือฟิลเลอร์ : ก่อนฉีดต้องมั่นใจว่าเป็นไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ของแท้ ฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ของแท้ หมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้าชัดเจนค่ะ
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไฮยาลูรอนกับผู้ที่มีร่างกายไม่สมบูรณ์ อ่อนแอ เพราะอาจเกิดอาการแพ้ยาหรือทำให้อาการกำเริบได้ เช่น ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ อยู่ในช่วงให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคมะเร็งหรือเคยเป็นโรคมะเร็ง
ไฮยาลูรอน มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
หากใช้ไฮยาลูรอนแบบฉีด อย่างการฉีดฟิลเลอร์ จะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยจากรอยเข็ม รอยแดง ร่วมกับมีอาการบวม อาการปวด เป็นอาการปกติที่สามารถหายไปได้เองภายใน 3-7 วัน ไม่ใช่ผลข้างเคียงอันตราย สามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดฟิลเลอร์
ผลลัพธ์ก่อน-หลังเติมไฮยาลูรอน ด้วยการฉีดฟิลเลอร์
เติมไฮยาลูรอนใต้ตา เติมไฮยาลูรอนร่องแก้ม
เติมไฮยาลูรอนขมับ เติมไฮยาลูรอนคาง
เติมไฮยาลูรอนปาก เติมไฮยาลูรอนหน้าผาก
เติมไฮยาลูรอนแก้มส้ม เติมไฮยาลูรอนแก้มตอบ
ขอบคุณภาพ : V Square Clinic
สรุป
ไฮยาลูรอน ถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐาน ที่มีความสำคัญต่อผิวเป็นอย่างมาก ช่วยในการสร้างความชุ่มชื้น ให้ผิวสวย สุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ จึงแนะนำให้เติมไฮยารอนอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการทา การรับประทาน หรือการฉีด เนื่องจากทำควบคู่กันจะยิ่งส่งผลดีต่อผิว โดยศึกษาไฮยาลูรอนแต่ละชนิดอย่างรอบคอบก่อนใช้ เพื่อความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ