ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องรู้อะไรกันบ้าง มาอ่านกัน
10.0
เขียนโดย tiulips
วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.21 น.
1 ตอน
0 วิจารณ์
1,364 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 16.39 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
1) ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องรู้อะไรกันบ้าง มาอ่านกัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโซวอน
ฟิลเลอร์ (Filler) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยเเก้ไขปัญหารูปหน้าได้ดี เนื่องจากการ ฉีด Filler คือเติมเต็มสาร Hyaluronic เข้าผิวหน้าในส่วนที่หายไปให้กลับมาดูละมุน ดูอ่อนเยาว์ ดูสดใสยิ่งขึ้น แต่หลาย ๆ คนก็อาจจะมีข้อสงสัยหรือคำถามเกิดขึ้นมาในหัวมากมาย ควรฉีดกี่ซีซีถึงจะดี กี่วันถึงจะเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน หรือใครบ้างที่ไม่ควรฉีด เพราะทุกวันนี้เราก็เห็นข่าวมากมายเกี่ยวกับอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ของปลอม ฟิลเลอร์แข็ง ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล บางคนโชคร้ายเกิดเลือกหมอผิดชีวิตเปลี่ยน ไปฉีดกับหมอกระเป๋าหรือคลินิกที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีความชำนาญ ฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง จนตาบอดกันมาแล้วก็มี ดังนั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจและตอบคำถามเกี่ยวกับข้อสงสัยเรื่องฟิลเลอร์ ไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
ฟิลเลอร์ เติมเต็มจุดไหนดี? ช่วยเรื่องอะไร?
คาง ปัญหาคางสั้น คางตัด เป็นสาเหตุทำให้ใบหน้าเราดูกลม ไม่มีมิติ เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป รูปหน้าจะดูเรียว V-shape ได้สัดส่วนที่ดีมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ดีไม่เเพ้การผ่าตัดเสริมคางเลยทีเดียว
ปาก ปัญหาปากบาง ปากไม่มีกระจับ ปากไม่เป็นทรง ทาลิปไม่สวย เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป หลังทำเสร็จทันที ปากจะดูอวบอิ่ม กระจับชัด มุมปากยก หน้าเราก็จะดูหวาน เวลายิ้มมีเสน่ห์มากขึ้น
ใต้ตา อายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือปัจจัยต่างๆในการใช้ชีวิต เช่น การนอนดึก การเป็นภูมิแพ้ เป็นสาเหตุทำให้กระดูกใต้ตายุบตัวลง เนื้อบริเวณใต้ตาจะมีความหย่อนคล้อย ความหมองคล้ำ หน้าโทรมดูเหนื่อย เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป ใต้ตาจะอิ่มฟูขึ้นทันที หน้าดูสดใส ดูเด็กลงอีกด้วย
ขมับ ขมับตอบ เป็นสาเหตุทำให้หน้าดูแก่ ดูโทรม เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปสัดส่วนของรูปหน้าจะดูละมุนมากขึ้น ถือเป็นจุดเสริมโหงวเฮ้งด้านการค้าขาย การงานได้อย่างดีเยี่ยม
ร่องแก้ม ร่องแก้มลึกเป็นสาเหตุทำให้เราดูแก่กว่าวัย เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป นอกจากจะได้ความหน้าอิ่มฟู ยังได้ความหน้าเด็กเพิ่มมากอีกด้วย
เเก้มส้ม ปัญหาหน้าเเบน ไม่มีเเก้ม หน้าไม่มีมิติ เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณหน้าเเก้มจะสามารถปรับเปลี่ยนจุดกระทบของเเสงที่ตกลงบริเวณโหนกแก้ม ให้เเสงเปลี่ยนมาตกกระทบลงที่หน้าแก้มหรือครึ่งกลางตา ซึ่งจะทำให้หน้าดูละมุน ดูเกาหลีมากยิ่งขึ้น
แก้มตอบ ส่งผลให้หน้าโทรม ดูแก่กว่าวัยเพราะเนื้อบริเวณเเก้มยุบตัวลง เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป จะช่วยให้ใบหน้าเราดูเอิบอิ่ม สดใส ผิวไม่หย่อนคล้อย เเถมช่วยลดความเด่นของโหนกเเก้มได้อีกด้วย
กรอบหน้า เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป ใบหน้าของเราจะได้รูปมากขึ้น กรอบหน้าชัดได้สัดส่วนที่ดีขึ้น เเละยังช่วยเรื่องกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าให้กลับมาดูเต่งตึง
ผิวหน้า หรือ Skin Radian ปัญหาผิวหน้าโทรม ผิวขาดน้ำ หน้าไม่มีมิติ เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์ผิว ใบหน้าจะดูเปล่งประกาย ออร่า ผิวโกลด์ ฉ่ำวาว มี hilight ธรรมชาติ เเบบไม่ต้องเสียเวลาเเต่งหน้านานๆ
ฟิลเลอร์ เติมจุดไหนยี่ห้ออะไร? กี่ซีซีดี?
1. ฟิลเลอร์ใต้ตาควรฉีดยี่ห้อ BELOTERO FILLER SOFT คุณสมบัติเป็นฟิลเลอร์ที่มีสารอุ้มน้ำช่วยทดเเทนคอลลาเจนบนใบหน้าที่หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะที่จะใช้เติมใต้ตาจะทำให้ใต้ตาไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน เนียนละมุน กลืนเข้ากับผิวได้เร็ว โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-2 cc2. ฟิลเลอร์ขมับควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Voluma เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความคงตัว จึงเหมาะที่จะนำมาเติมบริเวณที่แข็งๆ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-4 cc3. ฟิลเลอร์ร่องแก้มควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Ultra Plus เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความนุ่ม ฟู สามารถเติมเต็มร่องต่างๆ ได้ดี ซึ่งจะทำให้ใบหน้าเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-4 cc4. ฟิลเลอร์แก้มส้มควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Ultra Plus เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความนุ่ม ฟู สามารถเติมเต็มแก้มให้อิ่มเต็มขึ้น จะช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบ หรือใบหน้าไม่มีมิติได้ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 2-4 cc5. ฟิลเลอร์ปากควรฉีดยี่ห้อ BELOTERO FILLER INTENSE คุณสมบัติเป็นฟิลเลอร์ที่มีสารอุ้มน้ำช่วยทดเเทนคอลลาเจนบนใบหน้าที่หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะที่จะใช้เติมปากให้อิ่มสวย ได้รูปทรงที่ต้องการ จะทำให้ปากไม่ดูแข็ง ไม่เป็นก้อน อวบอิ่มกำลังดี โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-2 cc6. ฟิลเลอร์คางควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Voluma เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความคงตัว สามารถปั้นคางให้เป็นทรงต่างๆ ตามความเหมาะสมได้ จึงเหมาะที่จะนำมาเติมบริเวณที่แข็งๆ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-2 cc
ฟิลเลอร์ กี่วันถึงเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์นั้นจะเห็นได้ทันทีหลังฉีด โดยฟิลเลอร์จะอิ่มเต็มที่เมื่อครบ 2 สัปดาห์ ส่วนเรื่องระยะเวลาที่เห็นผลนั้นจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของคนไข้ และที่สำคัญคือยี่ห้อที่ใช้ฉีด ดังนี้
Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา ที่หลายๆคนรู้จักกันและนิยมใช้กัน จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี
Belotero เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ราคาไม่แพง จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี
Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลี จะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน โดยทางคลินิกเลือกใช้ คือ รุ่น Deep
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ
งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด
สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
หากเป็นไปได้ในวันฉีดควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
งดการออกกำลังกายหนักๆ รวมถึงการให้ใบหน้าโดนความร้อนโดยตรงเช่น การอบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น การนวดหน้าด้วยความร้อน เป็นเวลส 2 สัปดาห์
งดการบีบ นวด กด ใบหน้าแรงๆ โดยเฉพาะบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไปจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปผิดรูปได้ ทั้งนี้การปั้นฟิลเลอร์นั้นจะมีเพียงแพทย์ที่ทำการฉีดเป็นผู้ปั้นทรงให้ได้เท่านั้น
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เป็นเวลา 3-7 วัน
ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากกว่าปกติ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูยิ่งขึ้นและอยู่ได้นานมากขึ้น โดยเฉพาะใน 3 วันแรกหลังฉีดไปจนถึง 2 สัปดาห์หลังฉีด
ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ต่างกันยังไง?
ทั้ง 2 สิ่งนี้อยู่คู่กับสาวๆมานาน แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจในความแตกต่างของ โบท็อกซ์ และ ฟิลเลอร์ วันนี้เราจะมาเรียนรู้ไปพร้อมๆกันค่ะ
ผลลัพธ์ ซึ่งผลลัพธ์ของ โบท็อกซ์ และ ฟิลเลอร์ มีความแตกต่างกัน อย่างที่กล่าวมาคือโบท็อกซ์จะช่วยในการลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง และช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดย่น ให้กลับมาเรียบเนียนตึงได้อีกครั้ง โบท็อกซ์จึงเปรียบเสมือนเตารีด ส่วนการฉีดฟิลเลอร์เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน และเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปให้ดูสมส่วนและมีมิติยิ่งขึ้น
ตำแหน่งที่ฉีด โบท็อกซ์สามารถฉีดได้หลายจุด ดังนี้
ลดกราม
ลิฟท์กรอบหน้า
ลดน่อง
ลดริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว
ผิวหนังบริเวณคอ มือที่เหี่ยว
บริเวณใต้วงแขนเพื่อลดกลิ่นกาย
รีวิวโบท็อกซ์ริ้วรอย
รีวิวโบท็อกซ์ลดกราม
รีวิวโบท็อกซ์ริ้วรอย
รีวิว FILLER ใต้ตา
ก่อนทำ
หลังทำ
รีวิว FILLER คาง
รีวิว FILLER ร่องแก้ม
รีวิว FILLER ขมับ
รีวิว FILLER ปาก
ฟิลเลอร์คาง หรือเสริมคาง แบบไหนดีกว่ากัน?
ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์หรือการเสริมคางซิลิโคนนั้น เราจะต้องประเมินรูปหน้าของตัวเองเสียก่อน จะได้รู้ว่าเราควรเหมาะกับอะไรกันแน่ค่ะ โดยสัดส่วนของใบหน้าที่สวยงามได้รูปจะต้องแบ่งสัดส่วนออกได้เป็น 1 : 1 : 1 ดังนี้ค่ะ
จากหน้าผาก ถึงหว่างคิ้ว 1 ส่วน
จากหว่างคิ้ว ถึงปลายจมูก 1 ส่วน
จากปลายจมูก ถึงคาง 1 ส่วน
ฟิลเลอร์คางเหมาะสำหรับเคสที่มีปัญหาคางบุ๋ม คางตัด คางไม่ได้รูปสวย และเคสที่มีคางสั้นเล็กน้อย (มีส่วนต่างของส่วนที่ 3 น้อยกว่า 1 ซม.) เพราะฟิลเลอร์สามารถเพิ่มความยาวของคางได้ 0.5 ซม. – 1 ซม. หากยาวกว่านี้จะทำให้เกิดปัญหาคางเบี้ยวเอียงได้ สำหรับเคสที่มีคางสั้นมากๆ (มีส่วนต่างของส่วนที่ 3 มากกว่า 1 ซม.) จึงแนะนำให้ศัลยกรรมเสริมคาง
ฉีดฟิลเลอร์คาง
ข้อดี• เป็นการปรับรูปทรงคางเล็กน้อย หลังทำจึงเป็นธรรมชาติ• มีอาการบวมเล็กน้อย แต่ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำงานได้ตามปกติ
ข้อเสีย• มีระยะเวลาที่ตัวฟิลเลอร์จะสลายไปได้ใน 1-2 ปี
เสริมคาง
ข้อดี• เป็นการเสริมซิลิโคนจึงอยู่ได้ตลอดชีวิต
ข้อเสีย• เป็นการผ่าตัด จึงมีอาการบวมช้ำหลังทำและมีเวลาในการพักฟื้นหากเลือกซิลิโคนไม่เหมาะสม คางจะดูยาวหรือยื่นมากจนเกินไป
ฟิลเลอร์กับฉีดไขมัน ทำอะไรดี?
อีกประเด็นหนึ่งที่หลายคนกำลังลังเลใจว่า ควรเติมเต็มใบหน้าด้วยฟิลเลอร์ หรือควรเติมด้วยการฉีดไขมันดีกว่ากัน วันนี้เรามีข้อดี และข้อเสียของทั้ง 2 อย่างมาให้ดูกันค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์
ข้อดี• หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น• การดูแลตัวเองหลังฉีดไม่ยุ่งยากเท่าการฉีดไขมัน• ราคาไม่สูงเท่าการฉีดไขมัน• หลังฉีดทันทีปริมาณไม่ลดลงจากร่างกายที่เข้ามาทำลาย แพทย์จึงสามารถประเมินปริมาณได้อย่างถูกต้อง
ข้อเสีย• ฟิลเลอร์ของแท้จะต้องมีระยะเวลาในการสลายไปตามธรรมชาติ แต่หากใช้ฟิลเลอร์ของปลอมไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้สารเหลวอื่นที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์จะไม่ย่อยสลายและตกค้างในร่างกาย
ฉีดไขมัน
ข้อดี• เนื่องจากเป็นการใช้ไขมันของตัวเราเองในการฉีดเติมเต็ม สามารถอยู่ได้นาน• ไม่มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณที่ใช้เติม เนื่องจากเป็นไขมันของเราเอง ขึ้นอยู่กับจำนวนไขมันที่แพทย์ดูดได้
ข้อเสีย• การผ่าตัดใหญ่ มีการวางยาสลบและจะต้องผ่าตัดดูดไขมันส่วนเกินจากร่างกาย เช่น แขน ขา หรือหน้าท้องจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นเล็กๆ ประมาณ 1-2 ซม. หลังดูดไขมัน• เมื่อดูดไขมันแล้วจากนั้นจะใช้เติมเต็มใบหน้า ดังนั้นคนไข้จะต้องมีแผลและเจ็บตัวมากกว่า 2 ที่• การเติมไขมัน ไม่สามารถคำนวณปริมาณที่จะเติมเต็มได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากการดูดไขมัน 100 cc จะสามารถอยู่รอดได้เพียง 20-30 cc ของที่เติมได้ ทำให้แพทย์จำเป็นต้องเติมปริมาณให้มากที่สุด เพื่อให้ไขมันที่อยู่รอดมีปริมาณมากพอ• หากเติมในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ใบหน้าบวมไม่เป็นธรรมชาติ (Overfilled syndrome)• การดูแลตัวเองหลังทำจะต้องมีอาการพักฟื้นเพื่อให้เข้าที่• มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่อยากพลาดต้องรู้!!
แม้ว่าฟิลเลอร์จะเป็นที่ยอมรับจากวงการความสวยความงาม และอยู่คู่สาวไทยกันมานาน แต่ฟิลเลอร์ก็สามารถกลายมาเป็นภัยร้ายได้มากกว่าการเป็นเครื่องมือที่จะเสกความสวยให้เราได้เหมือนกัน
1. ฟิลเลอร์ปลอม ส่วนใหญ่มักเจอจากการฉีดกับหมอกระเป๋า หรือหมอที่ไม่ชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ทราบวิธีการตรวจฟิลเลอร์ของปลอม หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมหลังฉีดแรกๆจะรู้สึกเหมือนปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะพบว่าฟิลเลอร์ไม่สลาย และจะจับเป็นก้อน กลายเป็นซิลิโคนเหลวที่เกาะแน่นกับกระดูก หรืออาจจะไหลไปมาบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าเสียรูปไปเลยก็ได้ หากต้องการสลายจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดขูดซิลิโคนออกเท่านั้น2. ติดเชื้อจากการฉีดฟิลเลอร์ จากการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ที่ไม่สะอาด เลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน จะมีการทำให้อักเสบ บวมแดง และเขียวช้ำมากกว่าปกติ3. ฉีดฟิลเลอร์ผิดจุด หากแพทย์ไม่มีความชำนาญพอและฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป จะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่สวยงามและไม่เป็นธรรมชาติ4. เลือกฟิลเลอร์ผิด อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าในแต่ละจุดที่เราจะฉีดฟิลเลอร์นั้น จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากจะต้องเติมเต็มฟิลเลอร์ในโมเลกุลที่มีความแตกต่างกัน
ใครบ้างไม่ควรฉีดฟิลเลอร์?
คนที่แพ้สาร Hyaluronic Acid
คนที่มีโรคประจำตัวต้องรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
คนที่มีอาการแพ้ยาชา
คนที่มีประวัติเป็นแผลคียลอยด์ง่าย
ความเปลี่ยนแปลงหลังฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์คาง
ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 1 CC
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
วิธีเช็คฟิลเลอร์ของแท้ VS ของปลอมดูยังไง?
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ Q&A ถามมาตอบไป รวมคำถามเกี่ยวกับฟิลเลอร์ สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องใบหน้าไม่ได้รูปและมีข้อสงสัยอื่นๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ หรืออยากปรึกษาปัญหาผิวพรรณกับคุณหมอ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โซวอนคลินิก
ฟิลเลอร์ (Filler) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยเเก้ไขปัญหารูปหน้าได้ดี เนื่องจากการ ฉีด Filler คือเติมเต็มสาร Hyaluronic เข้าผิวหน้าในส่วนที่หายไปให้กลับมาดูละมุน ดูอ่อนเยาว์ ดูสดใสยิ่งขึ้น แต่หลาย ๆ คนก็อาจจะมีข้อสงสัยหรือคำถามเกิดขึ้นมาในหัวมากมาย ควรฉีดกี่ซีซีถึงจะดี กี่วันถึงจะเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน หรือใครบ้างที่ไม่ควรฉีด เพราะทุกวันนี้เราก็เห็นข่าวมากมายเกี่ยวกับอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ของปลอม ฟิลเลอร์แข็ง ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล บางคนโชคร้ายเกิดเลือกหมอผิดชีวิตเปลี่ยน ไปฉีดกับหมอกระเป๋าหรือคลินิกที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีความชำนาญ ฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง จนตาบอดกันมาแล้วก็มี ดังนั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจและตอบคำถามเกี่ยวกับข้อสงสัยเรื่องฟิลเลอร์ ไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
ฟิลเลอร์ เติมเต็มจุดไหนดี? ช่วยเรื่องอะไร?
คาง ปัญหาคางสั้น คางตัด เป็นสาเหตุทำให้ใบหน้าเราดูกลม ไม่มีมิติ เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป รูปหน้าจะดูเรียว V-shape ได้สัดส่วนที่ดีมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ดีไม่เเพ้การผ่าตัดเสริมคางเลยทีเดียว
ปาก ปัญหาปากบาง ปากไม่มีกระจับ ปากไม่เป็นทรง ทาลิปไม่สวย เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป หลังทำเสร็จทันที ปากจะดูอวบอิ่ม กระจับชัด มุมปากยก หน้าเราก็จะดูหวาน เวลายิ้มมีเสน่ห์มากขึ้น
ใต้ตา อายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือปัจจัยต่างๆในการใช้ชีวิต เช่น การนอนดึก การเป็นภูมิแพ้ เป็นสาเหตุทำให้กระดูกใต้ตายุบตัวลง เนื้อบริเวณใต้ตาจะมีความหย่อนคล้อย ความหมองคล้ำ หน้าโทรมดูเหนื่อย เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป ใต้ตาจะอิ่มฟูขึ้นทันที หน้าดูสดใส ดูเด็กลงอีกด้วย
ขมับ ขมับตอบ เป็นสาเหตุทำให้หน้าดูแก่ ดูโทรม เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปสัดส่วนของรูปหน้าจะดูละมุนมากขึ้น ถือเป็นจุดเสริมโหงวเฮ้งด้านการค้าขาย การงานได้อย่างดีเยี่ยม
ร่องแก้ม ร่องแก้มลึกเป็นสาเหตุทำให้เราดูแก่กว่าวัย เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป นอกจากจะได้ความหน้าอิ่มฟู ยังได้ความหน้าเด็กเพิ่มมากอีกด้วย
เเก้มส้ม ปัญหาหน้าเเบน ไม่มีเเก้ม หน้าไม่มีมิติ เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณหน้าเเก้มจะสามารถปรับเปลี่ยนจุดกระทบของเเสงที่ตกลงบริเวณโหนกแก้ม ให้เเสงเปลี่ยนมาตกกระทบลงที่หน้าแก้มหรือครึ่งกลางตา ซึ่งจะทำให้หน้าดูละมุน ดูเกาหลีมากยิ่งขึ้น
แก้มตอบ ส่งผลให้หน้าโทรม ดูแก่กว่าวัยเพราะเนื้อบริเวณเเก้มยุบตัวลง เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป จะช่วยให้ใบหน้าเราดูเอิบอิ่ม สดใส ผิวไม่หย่อนคล้อย เเถมช่วยลดความเด่นของโหนกเเก้มได้อีกด้วย
กรอบหน้า เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไป ใบหน้าของเราจะได้รูปมากขึ้น กรอบหน้าชัดได้สัดส่วนที่ดีขึ้น เเละยังช่วยเรื่องกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าให้กลับมาดูเต่งตึง
ผิวหน้า หรือ Skin Radian ปัญหาผิวหน้าโทรม ผิวขาดน้ำ หน้าไม่มีมิติ เมื่อเติมเต็มฟิลเลอร์ผิว ใบหน้าจะดูเปล่งประกาย ออร่า ผิวโกลด์ ฉ่ำวาว มี hilight ธรรมชาติ เเบบไม่ต้องเสียเวลาเเต่งหน้านานๆ
ฟิลเลอร์ เติมจุดไหนยี่ห้ออะไร? กี่ซีซีดี?
1. ฟิลเลอร์ใต้ตาควรฉีดยี่ห้อ BELOTERO FILLER SOFT คุณสมบัติเป็นฟิลเลอร์ที่มีสารอุ้มน้ำช่วยทดเเทนคอลลาเจนบนใบหน้าที่หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะที่จะใช้เติมใต้ตาจะทำให้ใต้ตาไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน เนียนละมุน กลืนเข้ากับผิวได้เร็ว โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-2 cc2. ฟิลเลอร์ขมับควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Voluma เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความคงตัว จึงเหมาะที่จะนำมาเติมบริเวณที่แข็งๆ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-4 cc3. ฟิลเลอร์ร่องแก้มควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Ultra Plus เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความนุ่ม ฟู สามารถเติมเต็มร่องต่างๆ ได้ดี ซึ่งจะทำให้ใบหน้าเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-4 cc4. ฟิลเลอร์แก้มส้มควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Ultra Plus เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความนุ่ม ฟู สามารถเติมเต็มแก้มให้อิ่มเต็มขึ้น จะช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบ หรือใบหน้าไม่มีมิติได้ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 2-4 cc5. ฟิลเลอร์ปากควรฉีดยี่ห้อ BELOTERO FILLER INTENSE คุณสมบัติเป็นฟิลเลอร์ที่มีสารอุ้มน้ำช่วยทดเเทนคอลลาเจนบนใบหน้าที่หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะที่จะใช้เติมปากให้อิ่มสวย ได้รูปทรงที่ต้องการ จะทำให้ปากไม่ดูแข็ง ไม่เป็นก้อน อวบอิ่มกำลังดี โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-2 cc6. ฟิลเลอร์คางควรฉีดยี่ห้อ Juvederm Voluma เนื่องจากลักษณะโมเลกุลมีความคงตัว สามารถปั้นคางให้เป็นทรงต่างๆ ตามความเหมาะสมได้ จึงเหมาะที่จะนำมาเติมบริเวณที่แข็งๆ โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้อยู่ที่ 1-2 cc
ฟิลเลอร์ กี่วันถึงเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์นั้นจะเห็นได้ทันทีหลังฉีด โดยฟิลเลอร์จะอิ่มเต็มที่เมื่อครบ 2 สัปดาห์ ส่วนเรื่องระยะเวลาที่เห็นผลนั้นจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของคนไข้ และที่สำคัญคือยี่ห้อที่ใช้ฉีด ดังนี้
Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา ที่หลายๆคนรู้จักกันและนิยมใช้กัน จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี
Belotero เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ราคาไม่แพง จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี
Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลี จะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน โดยทางคลินิกเลือกใช้ คือ รุ่น Deep
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ
งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด
สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
หากเป็นไปได้ในวันฉีดควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
งดการออกกำลังกายหนักๆ รวมถึงการให้ใบหน้าโดนความร้อนโดยตรงเช่น การอบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น การนวดหน้าด้วยความร้อน เป็นเวลส 2 สัปดาห์
งดการบีบ นวด กด ใบหน้าแรงๆ โดยเฉพาะบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไปจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปผิดรูปได้ ทั้งนี้การปั้นฟิลเลอร์นั้นจะมีเพียงแพทย์ที่ทำการฉีดเป็นผู้ปั้นทรงให้ได้เท่านั้น
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เป็นเวลา 3-7 วัน
ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากกว่าปกติ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูยิ่งขึ้นและอยู่ได้นานมากขึ้น โดยเฉพาะใน 3 วันแรกหลังฉีดไปจนถึง 2 สัปดาห์หลังฉีด
ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ต่างกันยังไง?
ทั้ง 2 สิ่งนี้อยู่คู่กับสาวๆมานาน แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจในความแตกต่างของ โบท็อกซ์ และ ฟิลเลอร์ วันนี้เราจะมาเรียนรู้ไปพร้อมๆกันค่ะ
ผลลัพธ์ ซึ่งผลลัพธ์ของ โบท็อกซ์ และ ฟิลเลอร์ มีความแตกต่างกัน อย่างที่กล่าวมาคือโบท็อกซ์จะช่วยในการลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง และช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดย่น ให้กลับมาเรียบเนียนตึงได้อีกครั้ง โบท็อกซ์จึงเปรียบเสมือนเตารีด ส่วนการฉีดฟิลเลอร์เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน และเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปให้ดูสมส่วนและมีมิติยิ่งขึ้น
ตำแหน่งที่ฉีด โบท็อกซ์สามารถฉีดได้หลายจุด ดังนี้
ลดกราม
ลิฟท์กรอบหน้า
ลดน่อง
ลดริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว
ผิวหนังบริเวณคอ มือที่เหี่ยว
บริเวณใต้วงแขนเพื่อลดกลิ่นกาย
รีวิวโบท็อกซ์ริ้วรอย
รีวิวโบท็อกซ์ลดกราม
รีวิวโบท็อกซ์ริ้วรอย
รีวิว FILLER ใต้ตา
ก่อนทำ
หลังทำ
รีวิว FILLER คาง
รีวิว FILLER ร่องแก้ม
รีวิว FILLER ขมับ
รีวิว FILLER ปาก
ฟิลเลอร์คาง หรือเสริมคาง แบบไหนดีกว่ากัน?
ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์หรือการเสริมคางซิลิโคนนั้น เราจะต้องประเมินรูปหน้าของตัวเองเสียก่อน จะได้รู้ว่าเราควรเหมาะกับอะไรกันแน่ค่ะ โดยสัดส่วนของใบหน้าที่สวยงามได้รูปจะต้องแบ่งสัดส่วนออกได้เป็น 1 : 1 : 1 ดังนี้ค่ะ
จากหน้าผาก ถึงหว่างคิ้ว 1 ส่วน
จากหว่างคิ้ว ถึงปลายจมูก 1 ส่วน
จากปลายจมูก ถึงคาง 1 ส่วน
ฟิลเลอร์คางเหมาะสำหรับเคสที่มีปัญหาคางบุ๋ม คางตัด คางไม่ได้รูปสวย และเคสที่มีคางสั้นเล็กน้อย (มีส่วนต่างของส่วนที่ 3 น้อยกว่า 1 ซม.) เพราะฟิลเลอร์สามารถเพิ่มความยาวของคางได้ 0.5 ซม. – 1 ซม. หากยาวกว่านี้จะทำให้เกิดปัญหาคางเบี้ยวเอียงได้ สำหรับเคสที่มีคางสั้นมากๆ (มีส่วนต่างของส่วนที่ 3 มากกว่า 1 ซม.) จึงแนะนำให้ศัลยกรรมเสริมคาง
ฉีดฟิลเลอร์คาง
ข้อดี• เป็นการปรับรูปทรงคางเล็กน้อย หลังทำจึงเป็นธรรมชาติ• มีอาการบวมเล็กน้อย แต่ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำงานได้ตามปกติ
ข้อเสีย• มีระยะเวลาที่ตัวฟิลเลอร์จะสลายไปได้ใน 1-2 ปี
เสริมคาง
ข้อดี• เป็นการเสริมซิลิโคนจึงอยู่ได้ตลอดชีวิต
ข้อเสีย• เป็นการผ่าตัด จึงมีอาการบวมช้ำหลังทำและมีเวลาในการพักฟื้นหากเลือกซิลิโคนไม่เหมาะสม คางจะดูยาวหรือยื่นมากจนเกินไป
ฟิลเลอร์กับฉีดไขมัน ทำอะไรดี?
อีกประเด็นหนึ่งที่หลายคนกำลังลังเลใจว่า ควรเติมเต็มใบหน้าด้วยฟิลเลอร์ หรือควรเติมด้วยการฉีดไขมันดีกว่ากัน วันนี้เรามีข้อดี และข้อเสียของทั้ง 2 อย่างมาให้ดูกันค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์
ข้อดี• หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น• การดูแลตัวเองหลังฉีดไม่ยุ่งยากเท่าการฉีดไขมัน• ราคาไม่สูงเท่าการฉีดไขมัน• หลังฉีดทันทีปริมาณไม่ลดลงจากร่างกายที่เข้ามาทำลาย แพทย์จึงสามารถประเมินปริมาณได้อย่างถูกต้อง
ข้อเสีย• ฟิลเลอร์ของแท้จะต้องมีระยะเวลาในการสลายไปตามธรรมชาติ แต่หากใช้ฟิลเลอร์ของปลอมไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้สารเหลวอื่นที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์จะไม่ย่อยสลายและตกค้างในร่างกาย
ฉีดไขมัน
ข้อดี• เนื่องจากเป็นการใช้ไขมันของตัวเราเองในการฉีดเติมเต็ม สามารถอยู่ได้นาน• ไม่มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณที่ใช้เติม เนื่องจากเป็นไขมันของเราเอง ขึ้นอยู่กับจำนวนไขมันที่แพทย์ดูดได้
ข้อเสีย• การผ่าตัดใหญ่ มีการวางยาสลบและจะต้องผ่าตัดดูดไขมันส่วนเกินจากร่างกาย เช่น แขน ขา หรือหน้าท้องจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นเล็กๆ ประมาณ 1-2 ซม. หลังดูดไขมัน• เมื่อดูดไขมันแล้วจากนั้นจะใช้เติมเต็มใบหน้า ดังนั้นคนไข้จะต้องมีแผลและเจ็บตัวมากกว่า 2 ที่• การเติมไขมัน ไม่สามารถคำนวณปริมาณที่จะเติมเต็มได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากการดูดไขมัน 100 cc จะสามารถอยู่รอดได้เพียง 20-30 cc ของที่เติมได้ ทำให้แพทย์จำเป็นต้องเติมปริมาณให้มากที่สุด เพื่อให้ไขมันที่อยู่รอดมีปริมาณมากพอ• หากเติมในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ใบหน้าบวมไม่เป็นธรรมชาติ (Overfilled syndrome)• การดูแลตัวเองหลังทำจะต้องมีอาการพักฟื้นเพื่อให้เข้าที่• มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่อยากพลาดต้องรู้!!
แม้ว่าฟิลเลอร์จะเป็นที่ยอมรับจากวงการความสวยความงาม และอยู่คู่สาวไทยกันมานาน แต่ฟิลเลอร์ก็สามารถกลายมาเป็นภัยร้ายได้มากกว่าการเป็นเครื่องมือที่จะเสกความสวยให้เราได้เหมือนกัน
1. ฟิลเลอร์ปลอม ส่วนใหญ่มักเจอจากการฉีดกับหมอกระเป๋า หรือหมอที่ไม่ชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ทราบวิธีการตรวจฟิลเลอร์ของปลอม หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมหลังฉีดแรกๆจะรู้สึกเหมือนปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะพบว่าฟิลเลอร์ไม่สลาย และจะจับเป็นก้อน กลายเป็นซิลิโคนเหลวที่เกาะแน่นกับกระดูก หรืออาจจะไหลไปมาบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าเสียรูปไปเลยก็ได้ หากต้องการสลายจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดขูดซิลิโคนออกเท่านั้น2. ติดเชื้อจากการฉีดฟิลเลอร์ จากการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ที่ไม่สะอาด เลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน จะมีการทำให้อักเสบ บวมแดง และเขียวช้ำมากกว่าปกติ3. ฉีดฟิลเลอร์ผิดจุด หากแพทย์ไม่มีความชำนาญพอและฉีดฟิลเลอร์ตื้นเกินไป จะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่สวยงามและไม่เป็นธรรมชาติ4. เลือกฟิลเลอร์ผิด อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าในแต่ละจุดที่เราจะฉีดฟิลเลอร์นั้น จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากจะต้องเติมเต็มฟิลเลอร์ในโมเลกุลที่มีความแตกต่างกัน
ใครบ้างไม่ควรฉีดฟิลเลอร์?
คนที่แพ้สาร Hyaluronic Acid
คนที่มีโรคประจำตัวต้องรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
คนที่มีอาการแพ้ยาชา
คนที่มีประวัติเป็นแผลคียลอยด์ง่าย
ความเปลี่ยนแปลงหลังฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์คาง
ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 1 CC
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
วิธีเช็คฟิลเลอร์ของแท้ VS ของปลอมดูยังไง?
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ Q&A ถามมาตอบไป รวมคำถามเกี่ยวกับฟิลเลอร์ สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องใบหน้าไม่ได้รูปและมีข้อสงสัยอื่นๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ หรืออยากปรึกษาปัญหาผิวพรรณกับคุณหมอ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โซวอนคลินิก
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ