มันมาจากป่า
-
เขียนโดย Glasz
วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 01.42 น.
8 ตอน
1 วิจารณ์
10.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 15.39 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
8) ความจริง x ตัวจริง x หมอกประหลาด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ และแล้ววันรุ่งขึ้นก็มาถึง ฉันและเพื่อนตื่นขึ้นมาแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความตื่นเต้นเพราะสภาพท้องฟ้าสีครามสดใสตัดกับสีขาวของหิมะและต้นสนที่อยู่บริเวณแถวนั้นทำเอาพวกเราอยากออกไปเดินเล่นหลังมื้ออาหารเช้าเป็นอย่างมาก หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จพวกเราสองคนก็รีบไปที่ห้องของเพื่อนอีกสามคนที่เหลือเพื่อปลุกเพื่อนๆออกไปรับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน แต่เพื่อนทั้งสามคนบอกว่าเหนื่อยมากตั้งแต่เมื่อวานวันนี้จึงขอตื่นสายหน่อย เดี๋ยวจะตามไปทีหลัง ดังนั้นจึงมีแค่พวกเราสองคนที่เดินไปที่ภัตตาคารอีกหลังซึ่งเป็นภัตตาคารอาหารเช้าสำหรับแขกที่มาพักที่โรงแรมโดยเฉพาะ ระหว่างทางที่กำลังเดินไปที่นั่นพวกเราได้ลองถ่ายรูปเล่นสองสามรูปและสิ่งที่ฉันสังเกตเห็นคือทุกรูปที่ฉันถ่ายไม่มีหมอกประหลาดติดในรูปเลย และรูปที่ได้ก็สวยใช้ได้เลยทีเดียว
เมื่อมาถึงภัตตาคารอาหารเช้า พวกเราสองคนจึงรีบตรงดิ่งไปที่อาหารโดยทันทีด้วยความหิว หลังจากตักเอาอาหารเช้าเสร็จพวกเราก็มานั่งรับประทานอาหารเช้าและคุยกับแขกคนอื่นๆบ้างเล็กน้อย จึงทำให้พวกเรารู้ว่ามีนักท่องเที่ยวจากเมืองอื่นๆมาเที่ยวที่นี่กันเยอะพอสมควร พวกเราสองคนรับประทานอาหารเช้าไปนั่งชมวิวนอกภัตตาคารไปพลาง นอกจากภาพท้องฟ้าสีครามตัดกับหิมะสีขาวและต้นสนแล้ว ยังมีภาพดงต้นไม้ที่มีกิ่งไม้ย้อยระย้าลงมาและมีน้ำแข็งจับเกาะเป็นจำนวนมาก นึกดูดีๆแล้วก็เหมือนในเรื่อง Frozen ภาคแรกในฉากที่แอนนา คริสตอฟ และเจ้ากวางเดินเข้าไปในดงต้นไม้ที่กิ่งไม้ย้อยระย้าลงมาและมีน้ำแข็งจับเกาะและเจ้ากวางก็เอาเขาของตัวเองตีพันกับกิ่งไม้ย้อยระย้าเพื่อให้เกิดเป็นเสียงดนตรีขึ้นมาเลย
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เพื่อนอีกสามคนที่เหลือก็มาที่ภัตตาคารพอดี พวกเราสองคนจึงตัดสินใจออกไปถ่ายรูปที่ข้างนอกภัตตาคารเพื่อรอเพื่อนรับประทานอาหารเช้าให้เสร็จ และแน่นอนว่ารูปที่ได้สวยๆทั้งนั้น
ในช่วงเช้าวันนั้นพวกเราใช้เวลาเล่นและเที่ยวทำกิจกรรมฤดูหนาวกันอย่างเต็มที่ ทุกคนต่างสนุกสนานกันเป็นอย่างมาก ตกบ่ายพวกเราก็ออกเดินทางจากโรงแรมกลับเข้าไปในเขตตัวเมืองอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับหอพักที่มหาวิทยาลัย หลังจากจบทริปท่องเที่ยวนี้ฉันได้เช็คดูรูปภาพที่ถ่ายได้แต่ละรูปหลังเหตุการณ์หมอกประหลาดนั่น ทุกรูปที่ได้ไม่มีอะไรผิดปกติเลยซักนิดเดียว สภาพอากาศและองค์ประกอบอื่นๆในวันนั้นมันดีไปหมดเลย มันเป็นวันดีๆที่ไม่มีอะไรมารบกวนจิตใจและได้รูปสวยๆกลับมาเยอะเลยเหมือนที่เพื่อนของฉันพูดไว้เลย งานนี้ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อแล้วล่ะ...!!!
##################
เวลาผ่านไปหลายเดือนหลังจากที่ทริปท่องเที่ยวจบลง
เพื่อน: จำได้มั้ยทริปเที่ยวที่มีหมอกประหลาดนั่น ?
ฉัน: จำได้สิ ไม่มีทางลืมหรอก ว่าแต่ทำไมหรอ ?
เพื่อน: แล้วรู้มั้ยว่าเจ้าของหมอกประหลาดนั่นเป็นวิญญาณผู้ชายหรือผู้หญิง ?
ฉัน: ผู้หญิง...(ฉันตอบออกไปในขณะที่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ถึงแม้ว่าฉันจะลบรูปเจ้าปัญหาทั้งหมดออกไปแล้วก็ตาม แต่รูปหมอกหนาทึบทั้งรูปและมีใบหน้าที่คล้ายผู้หญิงซ่อนอยู่ในหมอกหนานั่นฉันไม่มีวันลืมแน่ ซึ่งรูปนี้เพื่อนฉันคนนี้ไม่เคยเห็นแน่นอนเพราะฉันจัดการลบรูปนี้ทิ้งก่อนที่เพื่อนจะขอดูภาพในกล้องด้วยซ้ำ)
เพื่อน: ใช่...ถูกแล้ว เขาเป็นวิญญาณผู้หญิง แถมมีพลังและฤทธิ์เยอะด้วย
ฉัน: อย่าบอกนะว่าเพราะแบบนี้เขาเลยทำให้ฉันเห็นคนที่มีลักษณะเหมือนเธอตอนอยู่ที่ปราสาทนั่น ?
เพื่อน: ก็ใช่ แล้วรู้รึเปล่าว่าวิญญาณอีกสองตนเป็นใคร ?
ฉัน: ไม่รู้...แล้วเป็นใครล่ะ ?
เพื่อน:เป็นลูกน้อง เธอคงจะรู้แล้วใช่มั้ยว่าวิญญาณผู้หญิงตนนั้นเป็นใครในป่าสนนั่น...
ฉัน: ................................................
.
.
.
.
.
" เกือบซวยแล้วมั้ยล่ะ เคยได้ยินแต่อิทธิฤทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขาในไทย งานนี้เจอของนอกเลยเว้ยเฮ้ย" ฉันคิดในใจ
เมื่อมาถึงภัตตาคารอาหารเช้า พวกเราสองคนจึงรีบตรงดิ่งไปที่อาหารโดยทันทีด้วยความหิว หลังจากตักเอาอาหารเช้าเสร็จพวกเราก็มานั่งรับประทานอาหารเช้าและคุยกับแขกคนอื่นๆบ้างเล็กน้อย จึงทำให้พวกเรารู้ว่ามีนักท่องเที่ยวจากเมืองอื่นๆมาเที่ยวที่นี่กันเยอะพอสมควร พวกเราสองคนรับประทานอาหารเช้าไปนั่งชมวิวนอกภัตตาคารไปพลาง นอกจากภาพท้องฟ้าสีครามตัดกับหิมะสีขาวและต้นสนแล้ว ยังมีภาพดงต้นไม้ที่มีกิ่งไม้ย้อยระย้าลงมาและมีน้ำแข็งจับเกาะเป็นจำนวนมาก นึกดูดีๆแล้วก็เหมือนในเรื่อง Frozen ภาคแรกในฉากที่แอนนา คริสตอฟ และเจ้ากวางเดินเข้าไปในดงต้นไม้ที่กิ่งไม้ย้อยระย้าลงมาและมีน้ำแข็งจับเกาะและเจ้ากวางก็เอาเขาของตัวเองตีพันกับกิ่งไม้ย้อยระย้าเพื่อให้เกิดเป็นเสียงดนตรีขึ้นมาเลย
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เพื่อนอีกสามคนที่เหลือก็มาที่ภัตตาคารพอดี พวกเราสองคนจึงตัดสินใจออกไปถ่ายรูปที่ข้างนอกภัตตาคารเพื่อรอเพื่อนรับประทานอาหารเช้าให้เสร็จ และแน่นอนว่ารูปที่ได้สวยๆทั้งนั้น
ในช่วงเช้าวันนั้นพวกเราใช้เวลาเล่นและเที่ยวทำกิจกรรมฤดูหนาวกันอย่างเต็มที่ ทุกคนต่างสนุกสนานกันเป็นอย่างมาก ตกบ่ายพวกเราก็ออกเดินทางจากโรงแรมกลับเข้าไปในเขตตัวเมืองอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับหอพักที่มหาวิทยาลัย หลังจากจบทริปท่องเที่ยวนี้ฉันได้เช็คดูรูปภาพที่ถ่ายได้แต่ละรูปหลังเหตุการณ์หมอกประหลาดนั่น ทุกรูปที่ได้ไม่มีอะไรผิดปกติเลยซักนิดเดียว สภาพอากาศและองค์ประกอบอื่นๆในวันนั้นมันดีไปหมดเลย มันเป็นวันดีๆที่ไม่มีอะไรมารบกวนจิตใจและได้รูปสวยๆกลับมาเยอะเลยเหมือนที่เพื่อนของฉันพูดไว้เลย งานนี้ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อแล้วล่ะ...!!!
##################
เวลาผ่านไปหลายเดือนหลังจากที่ทริปท่องเที่ยวจบลง
เพื่อน: จำได้มั้ยทริปเที่ยวที่มีหมอกประหลาดนั่น ?
ฉัน: จำได้สิ ไม่มีทางลืมหรอก ว่าแต่ทำไมหรอ ?
เพื่อน: แล้วรู้มั้ยว่าเจ้าของหมอกประหลาดนั่นเป็นวิญญาณผู้ชายหรือผู้หญิง ?
ฉัน: ผู้หญิง...(ฉันตอบออกไปในขณะที่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ถึงแม้ว่าฉันจะลบรูปเจ้าปัญหาทั้งหมดออกไปแล้วก็ตาม แต่รูปหมอกหนาทึบทั้งรูปและมีใบหน้าที่คล้ายผู้หญิงซ่อนอยู่ในหมอกหนานั่นฉันไม่มีวันลืมแน่ ซึ่งรูปนี้เพื่อนฉันคนนี้ไม่เคยเห็นแน่นอนเพราะฉันจัดการลบรูปนี้ทิ้งก่อนที่เพื่อนจะขอดูภาพในกล้องด้วยซ้ำ)
เพื่อน: ใช่...ถูกแล้ว เขาเป็นวิญญาณผู้หญิง แถมมีพลังและฤทธิ์เยอะด้วย
ฉัน: อย่าบอกนะว่าเพราะแบบนี้เขาเลยทำให้ฉันเห็นคนที่มีลักษณะเหมือนเธอตอนอยู่ที่ปราสาทนั่น ?
เพื่อน: ก็ใช่ แล้วรู้รึเปล่าว่าวิญญาณอีกสองตนเป็นใคร ?
ฉัน: ไม่รู้...แล้วเป็นใครล่ะ ?
เพื่อน:เป็นลูกน้อง เธอคงจะรู้แล้วใช่มั้ยว่าวิญญาณผู้หญิงตนนั้นเป็นใครในป่าสนนั่น...
ฉัน: ................................................
.
.
.
.
.
" เกือบซวยแล้วมั้ยล่ะ เคยได้ยินแต่อิทธิฤทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขาในไทย งานนี้เจอของนอกเลยเว้ยเฮ้ย" ฉันคิดในใจ
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ