โชคดีฉันได้สามีสามคน

-

เขียนโดย Linwan

วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 22.19 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  515 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568 22.25 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) การยินยอม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ปพนต์พยักหน้าให้อย่างเข้าใจ เมื่อมารตีหันมองไปที่เขา แม้จะลังเล แต่หัวใจกลับผลักดันนำร่างกายให้ลุกตามไป

ชายหาดเงียบสงบ...ใต้แสงดาว ทรายเย็นใต้ฝ่าเท้าคล้ายบอกให้เธอหยุดคิด และเริ่มรู้สึก

ประภาวี เดินเคียงข้างโดยไม่พูดอะไร เธอเพียงเดินเงียบๆ แล้วหันมามองมารตี ด้วยสายตาอ่อนโยน ใกล้ชิดจนผิวที่แขนแทบสัมผัสกัน

“ฉันเคยเป็นเหมือนคุณนะคะ แต่งงานกับผู้ชายที่แสนดี แต่ไม่มีวันไหนที่รู้สึก ‘เป็นตัวเอง’ เลย”

มารตี เหลือบตามอง “แล้ววันหนึ่งคุณก็ตัดสินใจเดินออกมาเหรอคะ”

“ไม่ค่ะ...วันหนึ่งฉันก็แค่ยอมให้ตัวเองรู้สึกโดยไม่ปฏิเสธอีก”

เธอพูดเบาๆ แล้วหยุดเดิน มือข้างหนึ่งสัมผัสมือมารตีเบาๆ ก่อนจะคล้องเข้าไปให้แนบแน่นขึ้นเล็กน้อย

“รู้ไหม...บางครั้งความอ่อนโยนก็เร้าอารมณ์ได้มากกว่าการจู่โจมเสียอีก”

หัวใจของมารตี เต้นผิดจังหวะ เธอไม่ได้ผลักมือประภาวีออก แต่กลับปล่อยให้สัมผัสนั้น ค้างอยู่อย่างนั้น…ยาวนาน

หลังจากเดินกลับมาที่วิลล่า ปพนต์ออกไปโทรศัพท์ข้างนอก ปล่อยให้ประภาวี และมารตี อยู่กันตามลำพังใน ห้องรับแขกที่ตกแต่งอย่างมีรสนิยม โซฟาหนังนิ่มลื่น และไฟวอร์มไวท์นวลตา

 

ประภาวี หยิบไวน์อีกแก้วมาให้มารตี  ก่อนจะนั่งลงใกล้ๆ “ขอโทษนะคะ ถ้าฉันก้าวร้าวไป”

“ไม่ค่ะ…” มารตี ตอบอย่างซื่อตรง “แค่...มันเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกอะไรแบบนี้ กับผู้หญิงด้วยกัน”

ประภาวี ไม่ตอบ แต่เลื่อนมือไปแตะที่แก้มของหญิงสาวตรงหน้า นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยเบาๆ จนเธอหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว

ประภาวี โน้มตัวเข้ามาใกล้อีกนิด ก่อนจะจูบเบาๆ ที่หน้าผาก แล้วเลื่อนริมฝีปากมาหยุดใกล้ข้างใบหู กระซิบเสียงเบา “ถ้าสักวันคุณอยากรู้ว่าแค่การสัมผัสก็ทำให้ผู้หญิงอีกคนรู้สึกมีชีวิตขึ้นมาได้ยังไง…ฉันยินดีจะบอกค่ะ”

มารตี ไม่ตอบ แต่แววตาของเธอสั่นไหว...

 

หญิงสาวนั่งเงียบอยู่ตรงปลายเตียงในวิลล่า เสียงคลื่นที่ซัดฝั่งในระยะไกลและกลิ่นไอทะเลที่ลอยผ่านหน้าต่างบานใหญ่ทำให้ห้องทั้งห้องคล้ายถูกโอบล้อมด้วยความเงียบงัน แต่ทว่าในหัวใจเธอกลับไม่สงบเลยแม้แต่น้อย

ประภาวี ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว ปพนต์เองก็ยังไม่กลับเข้ามา บรรยากาศรอบกายมีเพียงเสียงหัวใจของเธอที่ดังก้องอยู่ภายใน  มารตีวางมือลงบนอกตัวเอง สัมผัสได้ถึงแรงเต้นที่เร่งเร้าขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ หรือบางทีเธออาจรู้…แต่แค่ไม่กล้าจะยอมรับมัน

ในหัวของเธอวนเวียนด้วยภาพจากชายหาด ที่หลายคู่กอดจูบกันอย่างเปิดเผย เสียงกระซิบอ่อนหวาน และสัมผัสจากปลายนิ้วของประภาวี ที่แตะผิวเธออย่างบางเบา แต่กลับปลุกความร้อนผ่าวให้แล่นไปทั่วร่างจนต้องกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อข่มมันไว้

“ฉันเป็นอะไรไปนี่...” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ

มารตี เดินเข้าไปในห้องน้ำกว้างของวิลล่า ผนังหินธรรมชาติเรียบเย็นตัดกับแสงไฟสีอุ่นที่ทำให้ทุกสิ่งดูนุ่มละมุนตา ร่างของเธอในชุดคลุมบางเบาที่ปราศจากชุดชั้นใน ถูกสะท้อนผ่านกระจกเต็มบาน

สาวสวยค่อยๆ ปลดสายคลุมไหล่ลง...ช้าและลังเล...ก่อนจะปล่อยให้ผ้าทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างเงียบงัน ยืนเปลือยเปล่าต่อหน้าตัวเอง เธอพินิจมองเนินไหล่ เนินอกอวบอิ่มชูชัน เอวคอดบาง เนินเนื้อนูนที่มีขนละเอียดฟูและต้นขาอวบขาวผ่องของตนเอง ร่างกายที่เคยถูกสัมผัส แต่ไม่เคยรู้สึก ‘ตื่น’

เสียงน้ำจากฝักบัวไหลเบาๆ เมื่อหญิงสาวเปิดมัน หยาดน้ำอุ่นไหลรินผ่านผิวเนียนของเธอ ล้างกลิ่นเก่า และเหมือนจะพยายามปลุกให้เธอเกิดใหม่อีกครั้ง

ขณะที่หลับตาอยู่ใต้สายฝนเทียม เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกเบาๆ ประภาวี เดินเข้ามา พร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่ไม่ได้มีความคุกคาม แต่เต็มไปด้วยความเข้าใจ

“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะรบกวน...แต่คุณลืมผ้าเช็ดตัว”

ประภาวี วางผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ไว้บนราว แล้วกำลังจะหันหลังกลับ แต่มารตี กลับเอ่ยชื่อของเธอเบาๆ

“ประภาวี ...”

หญิงสาวหยุดเดิน หันกลับมาพร้อมแววตาที่ราวกับอ่านใจคนได้

“…คุณเคยกลัวที่จะรู้สึกอะไรแบบนี้บ้างไหมคะ?” มารตี ถามเสียงแผ่วเบา

ประภาวี ไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปใกล้ ช้าๆ และยกมือขึ้นแตะข้างแก้มเธอใต้สายฝักบัว ละอองน้ำชโลมทั้งสองคน ราวกับล้างความลังเล ความกลัว และความผิดบาปออกจากหัวใจ

“เคยค่ะ...และทุกครั้งที่ฉันไม่ปฏิเสธตัวเอง ฉันได้รู้จักตัวเองชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ”

ริมฝีปากทั้งสองแตะกันเพียงแผ่วเบาในช่วงวินาทีที่หัวใจหยุดเต้นก่อนจะสอดลิ้นนุ่มให้สัมผัสกัน ไม่ใช่เพราะความต้องการ แต่เพราะ ‘การยอมรับ’ ที่ปลดล็อกอะไรบางอย่างในหัวใจ

ประภาวี ไม่ดึงเธอไปไกลกว่านั้น…แต่จูบเพียงหนึ่งเดียวก็เพียงพอจะทำให้มารตี รู้ว่า...โลกใบใหม่ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เธอเคยคิด

 

หลังจากนั้น...

เมื่อเธอออกจากห้องน้ำ ปพนต์ได้กลับมาแล้ว เขามองมารตี ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง และเขาก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในแววตาของภรรยาสาวแสนสวย

มารตี ยิ้มบางๆ แล้วเดินเข้าไปกุมมือของเขา เธอไม่พูดอะไร เพียงแต่มองเขานิ่งๆ และเอ่ยเพียงประโยคเดียว “รตี...อาจจะลองดูก็ได้ค่ะ”

ปพนต์ไม่ได้ตอบ แต่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ราวกับโลกที่เขาหวังจะสร้างกับภรรยากำลังจะเริ่มต้นจริงๆ เสียที

 

ค่ำคืนนั้น… วิลล่าเปิดไฟสลัวๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเทียนอโรมาลอยอยู่ในอากาศ หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาหนังนุ่มในชุดเดรสสายเดี่ยวเว้าลึกทั้งหน้าและหลังสีครีมที่เผยแผ่นหลังขาวเนียนเกือบหมด ด้านหน้าเผยให้เห็นเม็ดเล็กๆ ดันนูนออกมาบอกให้รู้ว่าไม่มีอะไรอยู่ภายใต้ชุดนี้...

นี่เป็นชุดที่ปพนต์เลือกให้ ภรรยาคนสวยสวมใส่...

ตรงข้ามเธอ คือปพนต์ และคู่สามีภรรยาอีกคู่ที่ทั้งสองเคยพบกันมาก่อนระหว่างทริปพักผ่อน พวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่ก็ไม่ใช่คนสนิท เป็นแค่ "คนที่รู้เรื่องเดียวกัน" ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้

ปพนต์นั่งอยู่ข้างมารตี มือของเขาวางบนต้นขาเธอเบาๆ ไม่ใช่เพื่อบีบบังคับ แต่เพื่อเป็นสัญญาณว่า “รตีไม่ได้อยู่คนเดียวในคืนนี้”

มารตี หันไปสบตากับสามี เธอไม่ได้พูด แต่หัวใจเธอกำลังกระซิบเสียงดังว่า “ฉันกำลังจะเดินไปยังอีกฝั่งแล้วจริงๆ หรือ?”

บรรยากาศรอบตัวชวนให้หัวใจหวั่นไหว เสียงเพลงเบาๆ ดังแทรกเข้ามาจากลำโพงในมุมห้อง เพลงแจ๊สบรรเลงไร้เนื้อร้อง พาให้ทั้งห้องตกอยู่ในม่านหมอกของความรู้สึกที่ลื่นไหล

มารตี จิบไวน์แดงช้าๆ ลมหายใจของเธอเริ่มถี่ขึ้น หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นประหลาดที่แล่นไปตามทรวงอกไหลผ่านต่ำลงไปตามช่องท้องสู่เบื้องล่าง

หญิงสาวอีกคนที่ร่วมวงในคืนนี้...

“นิศา” หญิงวัยสามสิบปลายๆ ผิวสีแทน ผมสั้น ดวงตาคมกริบ เธอพูดน้อย แต่มักมองมาทางมารตี ด้วยแววตาเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างโดยไม่ต้องเอ่ยคำใด

“หนาวไหมคะ?” นิศากระซิบเบาๆ พร้อมยื่นผ้าคลุมไหล่ผืนบางให้

มารตี รับไว้ แต่อุณหภูมิจริงๆ ของห้องนั้นอบอุ่นดีอยู่แล้ว...เธอรู้ว่าไม่ได้หนาวจากภายนอก…แต่หนาวจาก "ความสั่นในหัวใจ" ของเธอเอง

หลังจบไวน์แก้วที่สอง ปพนต์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้มารตี อยู่กับนิศาตามลำพัง

“คุณดูเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างที่ยากมาก” นิศาพูดเสียงนุ่ม นิ้วมือของเธอขยับมาแตะหลังมือมารตี เบาๆ

มารตี หันไปมอง ไม่ใช่สายตาต่อต้าน แต่เป็นสายตาที่เปิดใจอย่างเงียบๆ “ฉัน…กลัวค่ะ แต่ก็รู้สึกว่าไม่อยากกลัวอีกต่อไป”

นิศายิ้ม ก่อนจะเอียงตัวเข้ามาใกล้ กลิ่นน้ำหอมแนวกลิ่นไม้ลอยมาจากร่างเย้ายวนของเธอ ริมฝีปากของนิศาแตะลงบนแก้มมารตี อย่างแผ่วเบา...

ไม่เร่าร้อน แต่ชัดเจนว่า นี่คือการขออนุญาตเข้าสู่พื้นที่ของเธอ และมารตี ก็ไม่ได้ถอยหนี

 

เมื่อปพนต์กลับมา

เขากลับเข้ามาในห้อง เห็นทั้งสองสาวนั่งใกล้ชิดกันมากกว่าปกติ เห็นแววตาแปลกใหม่ในดวงตาภรรยาของเขา และเห็นรอยยิ้มบางๆ ที่ไม่เคยได้เห็นจากเธอมานานแล้ว ปพนต์ไม่พูดอะไร เพียงเดินเข้ามานั่งด้านหลังมารตี  และโอบเธอไว้จากข้างหลังเบาๆ

“เราจะกลับบ้านก็ได้นะ ถ้ารตียังไม่พร้อม…”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา