World Extension

10.0

เขียนโดย Indy32

วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 21.50 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  322 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2568 21.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ความสนใจของหญิงสาว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 


แสงแดดอ่อนยามเช้าเริ่มสาดส่องผ่านหน้าต่างไม้ของโรงเตี๊ยม ห้องพักที่เรียบง่ายชั้นบนสุดยังคงเงียบสงบ กลิ่นขนมปังอบจากร้านใกล้เคียงลอยมาตามลมแผ่วเบา พร้อมกับเสียงไก่ขันของหมู่บ้านรอบนอกที่ยังพอจะเล็ดลอดมาได้

อินลืมตาช้า ๆ มือเล็กที่ยังคงมีรอยขีดข่วนจากการทำเควสเล็ก ๆ เมื่อวาน ขยี้ตาเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นจากเตียงเก่า ใบหน้าของเขาดูอิดโรยนิดหน่อยแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความสงบอย่างประหลาด… คงเพราะยู้… เธอปกป้องเขาเอาไว้

ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อมากนัก ประตูไม้ก็ถูกเคาะเบา ๆ ก่อนจะเปิดออก

“อิน ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงหวานแผ่ว ๆ ที่แฝงไปด้วยพลังงานเต็มเปี่ยมดังขึ้นก่อนที่ใบหน้าของยู้จะโผล่เข้ามา

อินหันไปมองพร้อมพยักหน้าแทนคำตอบ ยู้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าร่าเริง แม้จะไม่พูดอะไรมาก แต่แววตาของเธอดูโล่งใจที่เห็นเขายังปลอดภัย

“วันนี้…จะไปส่งเควสมั้ย?” เธอถามเบา ๆ ขณะยืนพิงประตูอย่างสบาย ๆ

“อืม คงต้องไปล่ะ…” อินตอบเสียงแผ่ว น้ำเสียงไม่ได้บ่งบอกถึงความเต็มใจนัก

พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันมากนักระหว่างเตรียมตัว แต่น้ำเสียงของทั้งคู่กลับไม่ได้เงียบงัน มันคือความสบายใจแบบแปลก ๆ ที่ไม่ต้องเอ่ยอะไรเลยก็ยังเข้าใจกันได้

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย อินกับยู้เดินออกจากโรงเตี๊ยมด้วยกัน ถนนของเมืองเฟย์เดียในยามเช้าเริ่มมีผู้คนเดินพลุกพล่านขึ้น พ่อค้าตะโกนเชิญชวนผู้คน เด็ก ๆ วิ่งเล่นในตรอกเล็ก ๆ บรรยากาศเหมือนจะเป็นเมืองปกติทั่วไป… ยกเว้นเพียงแค่สายตาบางคู่ที่ยังจับจ้องมาทางอินอย่างเหยียด ๆ ราวกับเขาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของที่นี่

ยู้หันไปมองกลับ แต่ไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงจับแขนของอินแน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินเคียงกันไปอย่างมั่นคง

ประตูไม้ของกิลด์นักผจญภัยเปิดออกพร้อมเสียงกระดิ่งเบา ๆ ภายในเต็มไปด้วยเสียงคุย เสียงหัวเราะ และเสียงชนแก้วเบียร์ของนักผจญภัยกลุ่มต่าง ๆ

สายตาบางส่วนหันมามองพวกเขา บ้างขมวดคิ้ว บ้างหัวเราะในลำคอ และบางคนถึงขั้นพูดออกมาตรง ๆ

“ดูสิ เจ้านั่นอีกแล้ว… ตัวแค่นั้นยังกล้ามาทำเควสอีกเหรอ”

“สงสารคนที่ต้องลากมันไปด้วยว่ะ”

เสียงซุบซิบที่ไม่ได้ปิดบังดังมาเรื่อย ๆ อินไม่แสดงสีหน้าใด ๆ แต่ยู้กลับจ้องพวกนั้นตาเขม็ง เธอไม่ตอบโต้ ไม่พูดกลับสักคำ… เธอรู้ว่าอินไม่อยากให้เรื่องมันยืดยาว และที่สำคัญ เขาเองก็คงชินแล้ว

ทั้งคู่เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่เคยโดนเยาะเย้ยเมื่อวันก่อน พนักงานคนเดิมมองอินอย่างไม่แยแส ก่อนจะยื่นมือมารับถุงสมุนไพรที่เขานำมาส่ง

“…เควสเสร็จสมบูรณ์” เสียงของพนักงานเรียบเฉย เขาไม่ได้พูดอะไรอีกก่อนจะโยนเงินตอบแทนจำนวนน้อยนิดมาให้

อินรับมันโดยไม่ปริปาก ขณะเดียวกัน ยู้ยังคงจ้องพนักงานคนนั้นด้วยแววตาไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่พูดอะไร

จากตรงนี้… เรื่องราวของพวกเขา กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง


หลังจากออกจากกิลด์ ยู้และอินก็เดินไปตามถนนสายหลักของเมือง ท้องฟ้าเริ่มเปิด แสงแดดยามสายส่องกระทบลงบนหลังคาอิฐสีหม่นและพวงดอกไม้ที่ห้อยเรียงรายหน้าร้านขายของข้างถนน กลิ่นอบอุ่นของขนมปังสดใหม่ และเสียงไม้เคาะกันเบา ๆ จากร้านช่างตีเหล็ก ทำให้เมืองเฟย์เดียดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากกว่าในกิลด์เมื่อครู่

“อิน...นายหิวมั้ย?” ยู้ถามขึ้นมาขณะเดินเคียงกัน สีหน้าของเธอยังดูหงุดหงิดจากเหตุการณ์ในกิลด์ แต่พยายามซ่อนมันไว้

“นิดหน่อย” อินตอบเรียบ ๆ ดวงตาของเขายังดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย อาจเพราะเขาไม่เคยชินกับการมีใครคอยอยู่ข้าง ๆ แบบนี้มาก่อน

“งั้น...ไปกินข้าวด้วยกันเถอะ” ยู้พูดขึ้นเสียงสดใส พร้อมจับข้อมือของอินแล้วลากเขาไปโดยไม่รอฟังคำตอบ

ร้านอาหารที่เธอเลือกเป็นร้านเล็ก ๆ ข้างทางที่ดูเงียบสงบ มีโต๊ะไม้วางเรียงติดผนังที่ทำจากหินลูบเรียบ อินเลือกนั่งข้างหน้าต่าง ส่วนยู้ก็นั่งฝั่งตรงข้าม แสงแดดอุ่น ๆ ส่องลอดผ่านกระจกใสเข้ามาอย่างนุ่มนวล

เมนูอาหารของร้านไม่ได้หรูหราอะไรนัก มีเพียงข้าวอบกับซุปไก่ที่มาพร้อมขนมปังอบแข็ง แต่กลิ่นหอมที่ลอยมาตามไอน้ำกลับทำให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

ระหว่างที่รออาหาร ยู้ก็จ้องมองอินอยู่นาน จนกระทั่งเอ่ยขึ้นเบา ๆ

“อิน...ทำไมนายถึงอยากเป็นนักผจญภัยเหรอ?”

คำถามนั้นทำให้อินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมองมือของตัวเอง

“มันอาจจะฟังดู...โง่ ๆ นะ” อินพูดช้า ๆ

“ลองเล่ามาสิ ฉันอยากฟัง” ยู้พูดยิ้ม ๆ แล้ววางมือเท้าคาง จ้องเขาไม่วางตา

อินสูดหายใจเข้าเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

“ตอนเด็ก ๆ … ฉันเคยมีเพื่อนที่อยากเป็นนักผจญภัยมาก เขาเล่าให้ฟังถึงดันเจี้ยนสุดขอบโลก มังกรที่บินเหนือท้องฟ้า... แล้วบอกว่าวันหนึ่งเขาจะไปให้ถึงที่นั่นให้ได้”

“แล้ว…?” ยู้เอียงคอถาม

“เขาตาย…เพราะอสูร ระหว่างที่ไปเก็บสมุนไพรแถวชานเมืองคนเดียว” อินตอบเสียงแผ่ว “…ฉันไม่อยากให้เขาตายเปล่า ก็เลย…ลองทำตามฝันของเขาดู ถึงฉันจะไม่เก่งก็เถอะ”

ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะ ยู้มองอินนิ่ง ๆ แววตาเธอเปลี่ยนจากความสดใสเป็นบางอย่างที่ลึกซึ้งขึ้น

“นายไม่ได้โง่เลยสักนิด… อิน” เธอพูดช้า ๆ “ฉันกลับคิดว่านายเก่งมาก…ที่ยังเดินอยู่ได้ถึงตอนนี้”

อินไม่พูดอะไร เขาเพียงยิ้มบาง ๆ ที่แทบจะมองไม่เห็น

เสียงกริ่งจากประตูไม้ดังขึ้นเบา ๆ เมื่ออาหารถูกยกมาเสิร์ฟ กลิ่นหอมของข้าวอุ่นและไอน้ำจากซุปทำให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้นอีกครั้ง ยู้ตักข้าวคำแรกแล้วยิ้มกว้าง “อร่อยกว่าที่คิดแฮะ!”

อินพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเริ่มตักซุปกินบ้าง เสียงหัวเราะเบา ๆ ของยู้ดังขึ้น สลับกับเสียงช้อนกระทบจาน เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ความเจ็บปวดจากอดีตถูกละลายลงในไออุ่นของมื้อนี้


หลังจากกินข้าวเสร็จ ทั้งคู่ก็เดินออกจากร้านเล็ก ๆ ด้วยความรู้สึกที่ต่างไปจากตอนเช้า ยู้เดินยิ้มละมุน ส่วนอินดูสงบและเบิกบานขึ้นเล็กน้อย แม้ดวงตาจะยังซ่อนความเหนื่อยล้าไว้

ระหว่างที่เดินผ่านลานกว้างของเมือง ยู้ก็หยุดเดิน แล้วหันมายิ้มกว้างให้เขา

“ฉันตัดสินใจแล้วล่ะ”

“หืม?” อินหันมองด้วยแววตาสงสัย

“ฉันจะเป็นนักผจญภัย”

“หา?” อินอ้าปากค้างไปนิดหนึ่ง

ยู้ยืดอกแล้วชี้นิ้วโป้งเข้าหาตัวเอง “ก็เห็นนายพยายามขนาดนี้ ฉันจะอยู่เฉยได้ยังไง ฉันเองก็อยากช่วยนาย อยากเดินไปกับนายด้วย”

อินนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ

“อะไรขำล่ะ!” ยู้ทำเสียงดุใส่เขาแต่ใบหน้ากลับแดงขึ้นเล็กน้อย

“เปล่า...แค่ไม่คิดว่าฉันจะทำให้คนอยากเป็นนักผจญภัยได้” อินพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ ก่อนจะเอ่ยต่อ “ขอบคุณนะ ยู้”

“ห้ามขอบคุณเด็ดขาด” ยู้พูดเสียงหนักแน่น “เราคือพวกเดียวกัน เพื่อนกัน!”

คำว่า "เพื่อนกัน" นั้นสะท้อนในใจของอินอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้จะดูเหมือนคำธรรมดา แต่กับคนที่ใช้ชีวิตมาอย่างโดดเดี่ยว มันกลับมีความหมายที่ใหญ่กว่านั้นมากนัก

ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อน แสงแดดยามเย็นตกกระทบยอดอาคารในเมืองเฟย์เดีย ผู้คนเริ่มทยอยกลับบ้าน เด็กเล็กวิ่งเล่นตามทาง ส่วนร้านค้าก็เริ่มเก็บของ

อินกับยู้เดินกลับไปที่โรงเตี๊ยมด้วยจังหวะสบาย ๆ ไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ย มีเพียงเสียงเท้าเบา ๆ บนพื้นหิน และความอุ่นใจที่ต่างฝ่ายต่างรับรู้

ที่ปลายถนน โรงเตี๊ยมไม้หลังเดิมรอพวกเขาอยู่พร้อมแสงไฟอ่อน ๆ ส่องลอดจากหน้าต่าง เมื่อเข้าไปข้างใน ยู้พยักหน้าให้ก่อนแยกกลับห้องของตัวเอง อินมองตามเธอไปสักพัก ก่อนจะหันกลับมามองเพดานห้องที่ตนพักอยู่

เงียบสงบ

ความรู้สึกที่อินไม่ค่อยได้สัมผัส

แต่ในค่ำคืนนี้… มันดูอบอุ่นกว่าที่เคย


ข้อมูลเบื้องต้นกิลด์นักผจญภัย (Adventurer’ s Guild)

  • หน้าที่หลัก: รับลงทะเบียนนักผจญภัย, จัดเควส, ตรวจสอบภารกิจ, ซื้อขายชิ้นส่วนมอนสเตอร์, วัดระดับแรงค์
  • แรงค์นักผจญภัย: D > C > B > A > S > SS
  • แรงค์ S มีเพียง 5 คนในโลก
  • แรงค์ SS ยังไม่มีใครไปถึงในปัจจุบัน
  • การเลื่อนแรงค์: ผ่านการสอบ (มีเฉพาะแรงค์ D-C, C-B, B-A) จัดสอบในเมืองใหญ่เท่านั้น
  • ระบบการจ่ายเงิน: จ่ายค่าตอบแทนเมื่อทำเควสเสร็จ และซื้อชิ้นส่วนมอนสเตอร์ตามมูลค่า
  • ระบบติดตามผลงาน: นักผจญภัยมีบันทึกเควสและภารกิจ, ใช้สำหรับพิจารณาเลื่อนแรงค์

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา