Love is Sunshine แผนรักสลับขั้วหัวใจ เจ้าชายแสงตะวัน

-

เขียนโดย Killolat

วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 21.38 น.

  1 บท
  0 วิจารณ์
  82 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) *Phototropism*

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ผู้ชายคนแรกในชีวิตฉันคือ ‘ทวิตซ์’ ไอ้แฝดผีแย่งชิงสารอาหารจากสายสะดือ
 
‘ลูกดิ้นแรงมาก’ 
 
ประโยคนี้เป็นเครื่องการันตีว่าเราเคยหยุมหัวกันในท้อง
 
แถมวันคลอดฉันยังถีบส่งเขาออกจากท้องมี๊อย่างแรง
 
ฉันเกลียดน้องชายมาก ไม่ใช่เพราะอัปลักษณ์ ชั่วช้า นิสัยเสีย หรือโง่เง่าเกินเยียวยา 
 
แต่เพราะเขาช่างสมบูรณ์แบบและเหมือนฉันจนน่าขนลุก
 
ไอ้ปีศาจแย่งความรักไปไม่พอ ยังสร้างจุดด่างพร้อยให้ฉันถูกเปรียบเทียบ 
 
‘ดอพเพลแกงเกอร์’ ราวกับฉันเป็นได้แค่เงา
 
ฝาแฝดคนหนึ่งอยู่บนโลก ส่วนอีกคนถูกทอดทิ้งเคว้งคว้างเพียงลำพังในอวกาศ 
 
เพศสภาพลิขิตชีวิตเราเหมือนหนังคนละม้วน เส้นทางของทวิตซ์โปรยปรายด้วยกลีบกุหลาบ ส่วนของฉันคือขวากหนาม
 
อิจฉาหรอ? เฮอะ คำนั้นยังน้อยไป ฉันอยากฆ่ามันให้ตายด้วยซ้ำ…
 
แต่ตอนนี้ เรารักกันดีแล้วล่ะ ^^
 
“ทวิตซ์~ นายยังจำพี่ไม่ได้อีกหรอ?”
 
สองมือฉันตะครุบหน้าสวย จ้องนัยน์ตาแซฟไฟร์ของเจ้านกหงส์หยกเงิน
 
แจ้งเพื่อทราบ น้องฉันความจำเสื่อม เพราะโดนคนขับรถบรรทุกขี้เมาชนแล้วหนีเมื่อเดือนก่อน
 
แต่ก็นั่นแหละนะ ‘เพอร์เฟ็กบอย’ ฉายานี้ไม่ได้มาเล่นๆ 
 
ไอ้เด็กแสบปรับตัวเร็วมาก เรื่องแค่นี้ทำอะไรมันไม่ได้
 
“บลัดดี้ แมรี่~ ความทรงจำเกี่ยวกับเธอมีแต่เรื่องน่ากลัว”
 
รอยยิ้มกรีดกว้าง เล่นเสียงยียวนกวนทีนหาว่าฉันเป็นผีในกระจก
 
พลาดแล้วไอ้น้อง พี่น่ะร้ายกว่าผีเยอะ!
 
“อะแฮ่ม ฉันคือรักแรกของนายเชียวนะ ไม่สิ ก่อนหน้านี้นายก็เคยขอมี๊แต่งงานนี่นา อี๋~ อินเซสท์”
 
เด็กขี้อายผละออกจากกระจกบานใหญ่สะบัดหน้าหนีความพ่ายแพ้ หูแดงแจ๋น่าหมันเขี้ยว
 
หมับ
 
ฉันกระโจนเกาะแขนรั้งไว้ ก่อนเจ้าตัวจะแจ้นไปหาสาว
 
“ออกล่าอีกแล้วพ่อคาสโนว่า”
 
“โรมิโอต่างหาก เพราะทั้งใจผมมีแค่จูเลียต”
 
เฮ้อ ลำไย! กิมจิ Lover
 
แด๊ดอีกคน ล่าสุดส่งปากกาฝังเพชรเหยียบแสน HBD ว่าที่ลูกสะใภ้
 
ส่วนฉันจัดชุดนอนไม่ได้นอนประชดไปหนึ่งกรุบ (ปีหน้าถ้ายังคบกันดีว่าจะห่อสายหนัง SM พร้อมโซ่แส้กุญแจมือ)
 
ยุบหนอ พองหนอ~ 
 
เราต่างรู้ดีว่า ความรักน่ากลัวเสมอ
 
ถ้าไม่อยากถูกเขี่ยตกกระป๋อง ฉันก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน
 
“แต่งแน่ใช่มั้ยคนเนี้ย ฉันเปย์แม่นางเยอะอยู่นา”
 
“แหงอยู่แล้ว นี่ว่าจะมีลูกสัก 3 คน”
 
มองการณ์ไกลเว่อร์ คนหรือกล้องเทเลสโคป -_-;
 
“อ้อ พี่ว่าลีโอเป็นไงบ้าง?”
 
เจ้าเพื่อนซี้ตีท้ายครัวนายอะนะ จู่ๆ พูดถึงมันทำไม 
 
“จะไปรู้เหรอ ฉันไม่ใช่แม่มัน”
 
คิดถึงหัวฝอยทองนั่นแล้วหงุดหงิด รู้มั้ยตอนนายนอนเป็นผัก ฉันต้องใช้มารยาหญิงตั้งกี่ร้อยเล่มเกวียน กว่าจะกันมันออกจากแฟนนายได้
 
“หมอนั่นหวงความโสด มีน้องสาว แล้วก็ไม่เคยมีข่าวฉาวเรื่องผู้หญิงด้วยนะ”
 
“แบบนั้นยิ่งน่ากลัว ระวังหลังไว้เหอะ อย่าเผลอทำสบู่ตกเชียว”
 
ฮาร์ดเซลให้ตาย ใครจะซื้อก็ซื้อ หมอนั่นมันเจ้าชู้ ดูก็รู้มีรูเอาหมด
 
“สมมุติให้เป็นรูมเมทพี่จะว่าไง”
 
“ฉันเกลียดผู้ชาย”
 
ตัดจบดีมั้ย? ชักรำคาญละ -_-^
 
“แล้วถ้าเกิดต้องแกล้งเป็นแฟนล่ะ”
 
“ขอกัดลิ้นตาย…ห้ะ เดี๋ยวนะ ไอ้น้องเวร!!!”
 
“อ๊าา สายแล้ว~ ผมไปหายูแชดีกว่า”
 

 
รองจากอับดุลเอ๋ย เอเดลไวส์นี่แหละ โคตรแม่น!
 
น้องชายฉันเป็นคนดี ถึงแม้มันจะเจ้าเล่ห์เพทุบาย ฉลาดเป็นกรด แต่ซื่อบื้อ
 
เทวดาตัวน้อย ทำผิดทีไร มิวายต้องสารภาพบาป
 
ครั้งนี้ก็เช่นกัน…
 
ใบลาออก ใบสมัคร ใบขอความยินยอม และเอกสารสัญญา
 
ลายเซ็นทั้งหมดถูกปลอมแปลงอย่างไร้ที่ติ มีเพียงคนเดียวที่ทำได้
 
ความรักคือนิรันดร์ ไม่อาจลบเลือนจากใจต่อให้มีสิ่งใดมาบดบัง เช่นเดียวกับความเกลียด
 
ฉะนั้น ขอถอดถอนคำพูดเมื่อต้นตอน
 
…อยากฆ่ามันให้ตายจริงๆ!
 
ตึง!!!
 
ต่อจากโต๊ะก็หัวนาย! ไอ-จะขยี้-ให้-แหลกคึ!!!!
 
.
 
ผู้ชายคนที่สองในชีวิตฉันคือ ‘แด๊ด’ ตราชั่งรักเราสมดุลพอๆ กับความเกลียด
 
แด๊ดมีภรรยาตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ดันตกหลุมรักมี๊ จนเกิดโศกนาฏกรรมรักสามเส้าเคล้าน้ำตายิ่งกว่านิยายเชกสเปียร์ 
 
เข็มของนาฬิกาไม่หมุนทวน นังผีบ้านั่นตายไปพร้อมกับมี๊ เหลือไว้เพียงป้ายหลุมศพเกะกะตาและแผลเป็นในใจเราทุกคน
 
ช่างหัวเรื่องดราม่า ตอนนี้ครอบครัวฉันมีความสุขดี ^^ 
 
…ถ้าไม่นับเรื่องที่ไอ้น้องทรพีก่อไว้
 
“แด๊ดอยู่ข้างใคร?”
 
ฉันถามเสียงเย็นเยียบ เพราะในเอกสารทุกใบมีลายเซ็นเขาด้วย
 
เจ้าของเรือนผมดำ นัยน์ตานิล หล่อคมสูงเกือบ 2 เมตร แจกยิ้มเอ็นดู ตักอาหารแบ่งใส่จาน
 
“คราวนี้น้องทำอะไรพังอีกล่ะ ^^”
 
“อ้อ ไม่ใช่ของมีค่าอะไร แค่ความเชื่อใจเอง”
 
ปีศาจในคราบนักบุญไร้เทียมทาน ตรงข้ามกับพวกเราที่โกหกไม่เก่ง
 
เนื้อในปากถูกบดเคี้ยวหนุบหนับอย่างหงุดหงิด
 
อุตส่าห์คิดว่าบ้านหลังนี้เป็นพื้นที่ปลอดความลับ แต่ดูท่าคงผิดถนัด
 
.
 
สามทุ่มแล้ว ไม่เห็นแม้แต่เงา มัวแต่หมักกิมจิอยู่รึไง?
 
เฮ้อ…จริงๆ เล้ย ถึงจะอยากฆ่าให้ตาย แต่อดห่วงไม่ได้อยู่ดี
 
คิดว่าใครกันล่ะ เสียสละทำหน้าที่ดูแลนายแทนมี๊มาตลอด 10 ปี 
 
งานวันแม่ กีฬาสี ค่ายธรรมมะ ประชุมผู้ปกครอง ฉันผ่านมาหมดแล้ว
 
“อยู่ไหน”
 
[…หอ]
 
น้ำเสียงงัวเงียปลายสายของไอ้เด็กอนามัยนอน 2 ทุ่ม ตื่นตี 4 ทำฉันปรี๊ด
 
ทะเลาะกันทีไร มีแต่มันหลับสนิท ทิ้งฉันว้าวุ่นอยู่คนเดียว
 
[รักพี่นะ]
 
ติ๊ด
 
กดตัดสายหน้าด้านๆ แถมเปิดโหมดเครื่องบินพร้อม เอาตัวรอดเก่งจริงเชียว -*-
 
ฉันรู้จักไอ้เด็กนี่ดี ลองได้ซิกแซกเบอร์นี้ หาตัวจับยากแล้วล่ะ
 
ถ้าอยากไขข้อกระจ่าง ฉันคงต้องเบนเข็มไปทางพ่อพระอาทิตย์สีทอง
 
“ฮายพอน~ ว่างไม่ว่าง เราก็ต้องคุยกัน!”
 
[ว่าไงคร้าบ~ เหงาอีกแล้วหรอเอล]
 
“อย่ามาเนียน ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว”
 
[โรแมนติก สคูล?…ฮ่าๆๆ น่าสนุกเนอะ]
 
“Ferme ta bouche”
 
[หงุดหงิดหรอมายควีน เจอกันหน่อยมั้ยล่ะ Same time, same place]
 
.
 
ซ่าาา
 
ฝนเปลี่ยนฤดูดันตกตรงเวลานัดพอดี
 
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา รอดูเถอะ Magic show จะเริ่มขึ้นในอีก 3…2…1
 
วิ้งงง
 
ท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้ง เดาว่าเทพอพอลโล่คงขับรถสปอตหรูมาเกยรอหน้าบ้านฉันแล้ว
 
หนุ่มฟ้าใสโบกมือร่าทักทายฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันครบ 32 ซี่ ผมบลอนด์ทองเปล่งประกายสู้แดดพอๆ กับดวงตาเขียวมรกตและชุดลำลองจี๊ดจ๊าดคัลเลอ
ร์ฟูลสั่นสะเทือนวงการแฟชั่น
 
“ชาติก่อนเป็น Timer หรอ ^^”
 
“ชมเก่ง เชิญเสด็จครับควีน~”
 
ลีโอเข้าประจำที่นั่งคนขับ ส่วนฉันเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเอง สุภาพบุรุษสุดเทคแคร์มีแค่พวกหนุ่มๆ บ้านฉันเท่านั้น ส่วนตานี่อะหรอ…
 
พอหย่อนก้นถึงเบาะปุ๊บ มันก็โน้มตัวเนียนแต๊ะอั๋ง ทำทีเป็นคาดเข็มขัดให้ แล้วหยุดสบตามองหวานจ๋อย
 
เออ รู้หรอกน่า เจอนายทีไรเสี่ยงเปลืองตัวตลอด -_- 
 
ขอล่ะเลิกปั้นฟีลโรแมนติกหายใจรดหน้าซักที
 
ตึกตักๆๆ…
 
เสียงกองชุดในอกหมอนั่นน่ะสิ ดังทะลุผ่านฝ่ามือฉันเลย 
 
ไม่ยักรู้ว่านอกจากหน้าฝนแล้ว มกรายังเป็นฤดูติดสัตว์
 
“ฉันซีเรียสนะ”
 
“แหงล่ะ น้องเธอทำแสบใช่เล่น”
 
พอโดนเก๊กขรึมใส่ ลีโอจึงยอมถอยให้ผลักออกง่ายดาย
 
“โอเช จะรีบบึ่งเลยคร้าบ”
 
“Psychic~”
 
นายนี่เดาใจเก่งตลอด 
 
ขืนเริ่มโต้วาทีตอนนี้ วีนแตกชัวร์ ขอฉันหาอะไรหวานๆ กระแทกปากหน่อยเถอะ
 
.
 
สำหรับความสัมพันธ์ของฉันกับลีโอ ไอ้ที่อ่อยกันไปมา ไม่ได้จับแม้แต่แขนเนี่ย เค้าเรียกไรนะ?
 
เอาเป็นว่า ‘เฟื่อน’ ละกัน 
 
ยอมยกให้แค่ในนามเท่านั้น เพราะฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน
 
แต่ไม่ชอบเห็นนังชะนีที่ไหนมาล่าแต้มต่อหน้า
 
“น้ำหวานๆ เย็นชื่นใจค่ะลูกค้า~”
 
เสียงสอง ไม่สิ เสียงห้าเลยเหอะ แอ๊บอะไรเบอร์นั้น 
 
พนักงานเสิร์ฟสาวปากแดง เลื่อนแก้ววางตรงหน้าลีโอ ส่งสายตาจิกยั่วเหมือนอยากงาบเค้าทั้งตัว
 
ประทานโทษ นี่คาเฟ่ถูกมั้ย? นึกว่าสวนสัตว์เขาเขียวทำกระซู่หลุด
 
-^-+ ชิ้งงง
 
นังนั่นเหลือบมองฉัน แผ่รังสีเหม็นขี้หน้า แอบเบะปากใส่ 3 วิ
 
เอาล่ะ ฉันไม่ชอบอินี่ -*-
 
ส่วนนายไอ้หัวทอง ลับหลังอยากไปเล่นสนุกกับใคร เชิญ! แต่ตอนอยู่ด้วยกัน ห้ามยิ้ม ห้ามมอง ห้ามสัมผัสสาวอื่น มันเสียเซลล์! ช่วยให้เกียรติความ
งามระดับยูนิเวิร์สของฉันด้วย
 
ชึบ
 
ปลายเท้าเหยียบทับสนีกเกอร์ขาว ดึงสายตาสีเขียวกลับมา 
 
หวงรองเท้ามั้ยล่ะ? เกลียดเวลาของสีขาวเลอะเปอะเปื้อนเหมือนฉันรึเปล่า?
 
หึ นายก็รู้นี่ ว่าฉันเป็นยัยแสบที่ทั้งเอาแต่ใจและนิสัยเสีย พอๆ กับความสวย
 
“ดาร์ลิ้ง~ ช่วยเช็ดปากให้หน่อยซี้~”
 
แอ๊บกินเลอะอ่อยเหยื่อสักหน่อย
 
เสียงห้าฉันก็ทำเป็น เอาเสียงหกเลยก็ได้ แถมเซอร์วิสเม้มปากยั่วอีกดอก
 
“แต่แหม~ ทิชชู่หมดซะละ…คงต้องใช้ ‘อย่างอื่น’ เช็ดแทน”
 
“…อึก”
 
กลืนความหื่นลงคอให้พอใจ จะผู้ชายหน้าไหนมันก็เหมือนกันหมด
 
ฮ้าา กลิ่นอายชัยชนะ~ 
 
ตอนนี้ฉันอารมณ์ดีขึ้นละ พร้อมคุยเรื่องซีเรียสสุดๆ ^o^
 

 
(จบตอน)
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา