What the Love like Hell รักร้ายหลอมใจ นายเจ้าชายโลกันต์

-

เขียนโดย Killolat

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 15.01 น.

  21 บท
  4 วิจารณ์
  1,535 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 12.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ~เวรกรรม~

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

แจ็คก้าพาเช็คอินสวีทรูมชั้น 12A วิวสวยสมมงเห็นมุมเมืองแบบ 360 องศาทีวีชอปปิ้ง

 

“กระทะทอดกรอบลื่นหัวหมาแตกโคเรียควีน ผิวเคลือบหนา ดีไซน์สวยด้วยเหลี่ยมเพชร…”

 

ใช่จ้า ฮีเปิดช่องนี้ไว้เอนเตอร์เทนก่อนหนีเข้าห้องน้ำ -_-; 

 

เห็นแอบเหล่สมาร์ทโฟนแว้บนึง ดูทรงกำลังจัดระบบ

 

เฮ้อ คอแห้งจุง จิบไวน์แดงรอดีฝ่า 

 

“704 ขอเปตรุส กับแกล้มเป็นเบลูก้าคาร์เวียร์ ชีสพูเล่และพาร์มาแฮมจากอิตาลี…ห้ะ ของหมด”

 

เห๊อะ! รีวิวลบ 10 ดาว ไม่เริ่ดเลยอ่ะแม่! T^T 

 

กริ๊ก!

 

แจ็คก้าเดินออกมาปิดทีวีจังหวะฉันวางสายพอดี

 

 

เข้าสู่โหมดเครื่องบิน เหลือเพียงเสียงแอร์เย็นฉ่ำ 

 

ฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานซัมติงยามสบตา…

 

นัยน์ตาดาร์กช็อกฯ และผิวสีน้ำผึ้งของเค้าเหมือนกับหมอนั่นจนน่าหงุดหงิด

 

ต่างตรงรอยยิ้มแบดบอยในมาดหนุ่มเจ้าสำอางที่ฉีกจากกันอย่างสิ้นเชิง

 

ร่างสูงย่างสามขุมรุกหนัก มือใหญ่กดไหล่ฉันติดชนักโซฟา

 

เอ๊ะ ซีนนี้ต้องกรี๊ดช้ะ? 

 

อิมเมจิ้นคือน้ำดำเนินซู่ซ่า…But why ไอด้อนฟินนาเล่??

 

อ้อ ช็อคแหละ บั่บว่าออร่าความหล่อฟาดหน้า ^^;

 

“ว๊าย…!”

 

สันจมูกโด่งไซร้ซอกคอ มือออโต้รีเฟล็กซ์ผลักเค้าออก

 

What the พาร์กินสัน? ผีนางอายเข้าสิง?? 

 

ถ้าเป็นแม็กม่าป่านนี้คง…

 

อ๊าา!!! สะเออะนึกถึงมันทำไม๊ >\\<

 

ชิ่วๆ! Get out of my head!

 

แจ็คก้าสะดุด But the show must go on ก้มกระซิบข้างหูเบาๆ ว่า

 

“ไม่จูบนะ”

 

พูดจบฮีสคริป Make out เดินเกมเร็วช่วยฉันปลดสายเดี่ยว

 

‘อย่าหนักนะ เป็นห่วง’

 

“เดี๋ยวก่อน…!”

 

ฉันเกี่ยวสายเดี่ยวขึ้น เพราะภาพหลอนไอ้หัวแดงรีรันพร้อมประโยคเด็ด

 

แต่ผู้ดันสู้ชีวิตโบ๊ะบ๊ะ จึงเกิดสงครามปลด เกี่ยว ปลด เกี่ยว

 

“แม็กม่า!”

 

“…”

 

อุ๊บส์…เรียกผิดชีวิตเปลี่ยน!

 

แจ็คก้าหน้าตึง ก่อนฉีกยิ้มโคตรน่ากลัว

 

โอ้ยยย เวรกรรมอันใดน๊ออ T[]T

 

“ยั่วเก่ง!”

 

สิ้นเสียงกึ่งตะคอกข้อมือบางถูกบีบล็อคแทบหัก ตาคมลุกพราวฉายแววนักล่าอันตราย

 

ดั๊นไปปลุกใจเสือป่า งานนี้รอดยากแล้วช้านน~ >-<

 

“อ๊าา”

 

ไม่จูบจริง แต่กัดเลย

 

“ฉ…ฉ…ฉัน”

 

ฟินอยู่…แต่ความรู้สึกผิดมันดันมีมากกว่า

 

“เป็นแฟน…แม็กม่า”

 

“…”

 

I did it again…นี่ฉันพูดอะไรออกป๊ายยย~

 

แจ็คก้าพ่นลมหายใจฉุนเฉียวขบฟันกรอด มือใหญ่สั่นระริกด้วยความโกรธที่เจ้าตัวพยายามกดกลั้น

 

แง๊~ Calm dawn โซซอรี่~ ToT ใจร่มๆ อย่าเพิ่งบีบคอข่อยคื๊อไก่น่อย

 

“เอ่อ ขอโทษ…”

 

“หุบปาก! เคยมีใครบอกมั้ยว่าเธอมันน่าทุเรศ! เอากับน้องฉันเนี่ยนะ…เป็นถึง ผอ. โรงเรียนหัดมีจรรณญาบรรณบ้างสิวะ!!!”

 

ฉันสั่นง๊กทำท่าลิงปิดหู ปิดตา ปิดปาก <(>x<)>

 

ว๋ายย~ น่ากลั๊ว บ้านนี้อี๊ทชิวาว่าเป็นมื้อเย็นรึไง?!

 

ความบรรลัยยังไม่จบ เมื่อแจ็คก้ายกหูยิงตรงหาซัมวัน

 

“เอ้อ ไอ้แม็ก โคตร*** เฮียเพิ่งรู้ว่าเอ็งตาต่ำคบผู้หญิงพันธุ์นี้ ห้องเดิมจดไว้อยู่ใช่มั้ย เคลียร์กันเองแล้วกัน!”

 

ต่อด้วยเจนนิเฟอร์

 

“จอย จิง เจน…F*ck your name เพื่อนเธอแม่งทำฉันอารมณ์ค้าง!”

 

และสาวๆ ในสต็อก

 

“ฮัลโหลน้องออย โสดแล้วค่ะ คืนนี้เจอกัน”

 

ฮีแสร้งเมินเหมือนฉันเป็นผีในห้อง

 

เต็มที่เลยพ่อหนุ่ม =_= 

 

I see เป็นฉันก็คงไม่ยิ้มหวานโบกมือลา

 

“Bad night ครับ คุณเชอรี่!”

 

ร่างสูงชูนิ้วกลางส่งท้าย

 

ปัง!!!!

 

จบด้วยแอฟเฟคกระแทกปิดประตูก็ดีกว่าเสียงลูกตะกั่ว 

 

จุกอกอิ่มใจด้วยดราม่า คืนนี้ฉันควรรีบกลับก่อนมีต่อก๊อกสอง

 

แกร่กๆๆ

 

อ้าว ประตูเปิดไม่ออก???

 

WTF! ดั๊นมาพังอะไรตอนเน้!? T[]T

 

.

 

-10 นาทีผ่านไป -

 

ไฟว้ลูกบิดจนหมดแรงแล้วเพิ่งนึกได้ว่าควรเรียกบ๋อยมาจัดการ

 

โทรละ เหลือแค่รอ…

 

 

ฉันนั่งลงบนโซฟาดื่มด่ำวิวมุมเมือง…

 

อุแหวะ! Forgot กลัวความสูง หมดกันมู้ดโลนลี่ >TT<

 

แต่ที่อยากจะเซดคือ lesson ในครั้งนี้ทำให้รู้ตัวว่า 

 

ฉันชอบแม็กม่ามากจริงๆ…

 

ตึกตัก…ตึกตัก…ตึกตัก…

 

ไม่ใช่โยหรือแจ็คก้า ใจฉันเต้นผิดจังหวะก็เพราะนาย

 

และคงรู้สึกดีกว่านี้ ถ้าไม่ทำเรื่องนั้นลงไป

 

“ขอโทษที่เป็นแฟนแรดร่าน ขี้เมา และหยาบคาย…”

 

ปากพึมพำเพ้อเจ้อ เมื่อคิดถึงประโยคหนึ่งในอดีต

 

จู่ๆ น้ำตามันก็ไหล…นี่ฉันเป็นบ้าอะไรเนี่ย??

 

“ฉันไม่ยกโทษให้!”

 

“แม็กม่า!? O[]o”

 

ฉันขยี้ตาไล่คราบน้ำ ไม่อยากเชื่อภาพตรงหน้า 

 

นายซึมผ่านกำแพงมารึไง? 

 

ร่างสูงทรุดตัวนั่งข้างๆ แต่เลือกเบือนหน้าหนี

 

“หุบปากแล้วตั้งใจฟังซะ…”

 

น้ำเสียงโมโนโทนทำฉันรู้สึกกลัวยิ่งกว่าถูกสาดอารมณ์รุนแรงใส่

 

“ถ้าเธอไม่ขอโทษ ฉันคงฆ่าเธอแล้วฆ่าตัวตายตาม”

 

เฮือก…! Calm down! ปาพลอต Dead End ทิ้งโลด! ฉันยังอยากแก่ตายอยู่โว้ย T^T

 

ประโยคนี้ช็อตฟีลแล้ว ประโยคต่อไปยิ่งช็อคกว่า…

 

“เลิกกันเถอะ”

 

“…”

 

ถึงพอเดาได้ว่าต้องจบแบบนี้ แต่ฉัน…

 

“ฮึก ไม่อ๊าวว~ ToT”

 

“เฮ้ย! อย่าร้องดิ ไม่ใช่ความผิดเธอ คือ…ฉันลืมแฟนเก่าไม่ได้”

 

โคตรต้องร้องเลย! 

 

“แง๊!!!~ TTTT[]TTTT”

 

ไอ้ขี้โม้! ไหนใครว่ารักฉันจนอยาก Suicide!

 

ฉันควรเป็นฝ่ายหักอกนายสิ! ไหงพลอตสวิตซ์นายหักอกฉันเฉย!?

 

“เบอรี่…ฉันรักเธอจริงๆ นะ”

 

ปลายนิ้วอุ่นช่วยปาดหยดน้ำตา

 

“ตอแ*ล! ถ้ารักฉันจะเลิกทำไม!?”

 

นัยน์ตาคู่นั้นฉายแววเจ็บปวดแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน…

 

ไม่สิ มันเป็นแบบเดียวกับตอนที่นายบอกว่ารักยัยนั่นมากแค่ไหน

 

“เพราะฉันเป็นแฟนที่ดีให้ใครไม่ได้…คืนนี้มันก็ชัดเจนแล้ว…”

 

ปลายนิ้วย้ายมาลูบคลำที่รอยกัดของแจ็คก้า

 

น้ำเสียงที่สั่นไหวพอๆ กับแววตาส่งต่อความเจ็บปวด

 

“เรา…อย่าเจอกันอีกเลย”

 

 

ฉันนั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น ในขณะที่เค้าเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

 

.

 

-1 สัปดาห์ต่อมา-

 

Hell week ป๋าจดทะเบียนสมรส ดัมปี้ย้ายไปแดนแคงการู จิงเจนรีเทิร์นฮันนีมูนเจเปน ป้าข้างห้องอวดผัวใหม่ เหลือฉันแซดอะโลน T_T โซเซซบอก

เพิ่ลก็โดนสมน้ำหน้า 

 

The worthless คือป้าจี๊ดหายต๋อมสงสัยหนีตามลุงจ๊อด

 

“ฮาย~ ป้าจี๊ดกลับวันไหน ฉันมีเรื่องอยากเม้าท์มอย”

 

[ญาติคนไข้หรอคะ?]

 

เสียงปลายสายตอบกลับในรอบ 7 วันเศษ ด้วยประโยคคุ้นๆ เหมือนบทหมอในละคร

 

“เอ่อ…ขอสายป้าจี๊ดหน่อยค่ะ”

 

[ตอนนี้คนไข้กำลังอยู่ในขั้นตอนการรักษา ไม่สะดวกคุยค่ะ]

 

ติ๊ด!

 

คือเสียงฉันมันยังไง เอะอะตัดสายใส่ตลอด - -*

 

วุ้ว! โทรซ้ำก็ไม่ติด ป้าจี๊ดเป็นไรป่ะเนี่ย?

 

หื้มม…ฉันว่ามีซัมติงวรอง 

 

สบมยห.เรื่องนี้สืบไม่ยาก 

 

เมื่อเกิดเหตุผิดปกติ ใครล่ะรู้ทุกเรื่อง

 

ก๊อกๆๆ

 

แอ๊ด~

 

ขอเปิดตัวป้าข้างบ้าน! 

 

ยายแก่ปากย้อมหมากหงอกรุงรังเจ้าของบ้านผีปอบทรงไทยปูพื้นด้วยขี้ไก่กลิ่นขิวคอ ฉีกยิ้มโชว์ฟันหรอมองเดี๊ยนแบบหิวตับ

 

“เอิ่ม รู้จักป้าจี๊ดมั้ยเคอะ ^0^”

 

“ฮี่ๆๆ…เข้ามาคุยข้างในซี้หนู”

 

มือเหี่ยวกวักเรียกหยอยๆ

 

เอาจริงนะ…ฉันว่า No safety 

 

ฝุ่นเขรอะ มืดตื๋อ คลุ้งกลิ่นเน่าซากสัตว์

 

ชึบ

 

ฉันควักแบงค์เทาวัดใจทำขุ่นป้าตาลุกวาว

 

“ป้าจี๊ดอยู่ไหนคะ? ^^”

 

“แฮร่~ ญาติมารับไปแล้ว”

 

-*- เงินถูกโฉบยัดนมอย่างไว แต่ฉันยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ

 

ชึบ

 

“ฮุฮิ~ เห็นว่าป่วยเลยพาไปรักษา”

 

รู้ย่ะ ขอพิกัดแบบจึ้งๆ ได้ป้ะ -0-

 

ชึบ

 

“โวะโฮะๆ *0* อยู่โรงบาลศรีธัญญ่า มันเป็นบ้าน่ะหนู ไอ้จ๊อดป้าก็รู้จักนา แต่ก่อนมีเมียเด็ก ติดหนี้บ่อนชนไก่ ลูกคนโตบวชพระ คนเล็กหนีทหาร หย่า

กันเพราะมีกิ๊ก…”

 

“อ๊า! ขอบคุณมากนะป้า”

 

ฉันควักแบงค์เทาปิดจบแล้วรีบแจ้นขึ้นรถ

 

สรุปป้าจี๊ดเป็นบ้า ลุงจ๊อดมีเมียเด็ก

 

คือจะบอกว่าหมอดูที่เดี๊ยนบีลีฟมาตลอดนั้น…ป่วยทางจิต

 

อ่า ก็นะ คนปกติที่ไหนจะคุยกับผี =_=;;

 

แล้วฉันเอาไงดี…ไปต่อหรือพอแค่นี้?

 

ค.ว.ย.จากทุกสิ่งที่พานพบ ทั้งคำทำนายสุดล้ำ ภูตผี กะเทยทอง หม้อแม่นาค

 

Go to โรงบาลบ้าละกัน ไม่หมอก็ป้าจี๊ดอาจช่วยได้ =o=^

 

.

 

ไปถึงหมอห้ามพบ ที่นี่จรรณญาบรรณสูงซะด้วย พอควักแบงค์เทาปุ๊บ รปภ.ชาร์จเลยจ้า

 

อยากสาวต่อถามป้าข้างโรงบาลอยู่หรอก แต่วันนี้พอก่อน ฉันเหนื่อย ToT ช่วงเย็นมีสอบอีก

 

No halo~ Baby, I'm the reason why Hell's so hot~

 

O_O เฮือก! ทุกทีเดี๊ยนชอบดองสายฟังริงโทน บัดคนนี้ไม่คาดคิด

 

“ฮัลโหล…โย”

 

[เย็นนี้ว่างมั้ย?]

 

เสียงขรึมหล่อลากที่ไม่ได้ยินซะนานกำลังชวนฉันเดท…!

 

 

Don't have any feeling, No ตึกตัก anymore.

 

OMG ฉันเลิกชอบโยได้ด้วย?! 

 

“สอบเสร็จ 6 PM เจอกันหน้าเมเจอร์นะ”

 

[อืม]

 

ติ๊ด!

.

 

ตั้งแต่ยัยเอวาสลีป.ing แม้จะเรียน ม.เดียวกัน แต่ฉันไม่ว่างเข้ากิจกรรมและไม่อยากแวะเยี่ยมยัยนั่น เราเลยอยู่กันคนละโลก แถมวิธีหลบหน้าโยก็ง่าย

มาก เพราะเค้ามีเสียงนกหวีดแหลมเฟี้ยวติดตัวตลอดเว

 

“กรี๊ดดด~ พี่โยหล่อจุงเบ๊ยย!!!”

 

“ชิ่วๆๆ อย่ามายุ่งกับแฟนเพื่อนฉันน๊ะ! นู่นพวกเธอเห็นแฟนฉันป่าว? ตานั่นหล่อกว่าอีก!”

“อ้าวเฮ้ย! ไหงโบ้ยมาทางนี้ฟะ?!”

 

ฝูงแรดแบ่งทัพออกครึ่งนึง เผยให้เห็นยัยสโนว์ขาวโอโม่เพื่อนซี้ยัยเอวา

 

กระจอกเกิ๊น ดูฉันนี่ ผู้คว่ำหวอดวงการไล่ชะนี

 

“วี๊ด~ เราไปกันเถอะโย ^0^”

 

ฉันบุกชิงตัวโยแบบเหยียบหมดไม่สนซ่งติงใคร ซึ่งนังโลว์คลาสพวกนี้ต่างรู้จักฉันดี 

 

ชิ้งงง - -+

 

ไผแน่จริงสลอนเข้ามาโลด! 

 

“ขอบใจ”

 

พอออกห่างเสียงหุยหวนโยจึงเริ่มเปิดปากคุย

 

“แหม แค่ทำเอาสะใจเฉยๆ ^^”

 

“ไม่ใช่เรื่องนั้น”

 

เค้ายังเป็นคนพูดน้อยที่ทำให้รอลุ้นทุกประโยค

 

“แม่ฉันหายดีแล้ว ไว้เรียนจบจะใช้คืนให้ ส่วนโรงเรียนเธอเอาไปได้เลย”

 

“…”

 

บั่บว่าอึ้งขอแจกแจงเป็นบลูเลต

 

•รู้จักกัน 5 ปี โยไม่เคยเสวนาเกินประโยคละ 5 พยางค์

 

•เรื่องแม่โยก็ขอยินดีด้วย

 

•สคูลที่ฉันเฝ้าฟูมฟักรอนายบริหาร ถ้าไม่ต้องการแล้ว…ขายแม่มทิ้งดีมะ?

 

“เธอเป็นไงบ้าง?”

 

ประโยคง่ายๆ ที่ไม่มีใครถามฉันเลยตลอด 1 สัปดาห์ ทำให้อยากระบายจนหมดเปลือก

 

“แย่มาก! ฉันเพิ่งเลิกกับแม็กม่าเพราะมันลืมแฟนนายไม่ได้ เอิ่ม…ที่จริงฉันผิดเองที่นัดซอยจุ๊ญาติเค้า หมอดูคนโปรดเช็คอินศรีธัญญ่า เพื่อนสนิท

อพยพไปต่างแดน ป๋าแต่งงานอยู่อีสานถาวร ช่วงนี้ป้าข้างห้องเห่อผัวใหม่ตำสากมันส์จนตึกสั่น เรียนชิลล์ งานดี เงินคล่อง สุขภาพจิตติดลบ ดวงตก มี

แววได้ขึ้นเมรุปลายปี”

 

ใบหน้าเรียบเฉยคลายยิ้มบางหลังรับฟังสารพัดปัญหา

 

เงี้ยไงฉันถึงเลิฟโยโซมัส >3<

 

แค่เปลี่ยนจากรักแบบ ชาย-หญิง เป็นเพื่อนที่ผูกพันกันยาวนานเหมือนดัมปี้

 

“ช่วงนี้หมอนั่นไม่ได้เอาดอกไม้มาเยี่ยม”

 

“อ้อเหรอ ถังแตกมั้ง -o-”

 

โยส่ายหัวเบาๆ ก่อนพูดกับฉันตรงๆ

 

“ไปง้อสิ”

 

“…”

 

“เธอไม่เคยยอมแพ้นี่”

 

“ใช่ แต่ฉันทรยศเค้า ต่างจากตอนจีบนายที่ทุ่มเทให้ 100%”

 

“ถ้างั้นก็เจ๊ากัน”

 

“???”

 

ฉันไม่เก็ตโยซักติ๊ด…หรือบางทีอาจเข้าใจ

 

ขอเก็บไปนอนธิงค์ก่อนละกัน

 


 

(จบตอน)

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา