CHESS:พลิกกระดานเทพ

10.0

เขียนโดย TKFD

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01.14 น.

  49 ตอน
  4 วิจารณ์
  12.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 01.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

49) ตอนที่ 15.2 ถือกำเนิด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
    ระหว่างที่เดิน อากิพยายามก้าวอย่างมั่นคง ลดแรงกระแทกของฝีเท้าให้เบาที่สุด โดยมีลีน่าเดินเคียงข้างอยู่เสมอ
 
    แต่ระหว่างที่กำลังเดินทางนั้น โจเซฟก็ยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้หยุด ก่อนจะเรียกทั้งสองให้เข้ามาใกล้ด้วยสัญญาณมือ
 
 
 
    อากิและลีน่าเห็นดังนั้นก็รีบเดินขึ้นไปหา
 
 
 
    "อากิ:มีอะไร"
 
 
 
    *"โจเซฟ:ชู! มีฝูงกวางข้างหน้า"*
 
 
 
    อากิเหลือบมองตามที่โจเซฟชี้ เห็นฝูงกวางถ้ำกำลังเล็มมอสอยู่อย่างสบายใจ ไม่ทันระแวดระวังเลยสักนิด
 
 
 
    *"โจเซฟ:ฝากจัดการด้วยนะลีน่า"*
 
 
 
    *"ลีน่า:หนูเหรอคะ"*
 
 
 
    *"โจเซฟ:ใช่ เพราะหนูใช้ธนูเก่งที่สุดแล้ว"*
 
 
 
    ลีน่าหันไปมองเพื่อนร่วมทีม สีหน้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สายตาของทุกคนที่ตอบกลับมาล้วนจริงใจ พวกเขาเชื่อมั่นอย่างแท้จริงว่าเธอคือคนที่เหมาะสมที่สุด
 
    เด็กสาวสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
 
 
 
    *"ลีน่า:ซูด...ฟู่~ ก็ได้ค่ะ"*
 
 
 
    *"ลีน่า:เปิดใช้งานสกิลการใช้ธนู เปิดใช้งานสกิลเล็งเป้า เปิดใช้งานสกิลโฟกัส เปิดใช้งานสกิลเพิ่มเดเมจระยะไกล เปิดใช้งานสกิลสมาธิ เปิดใช้งานสกิลตาเหยี่ยว"*
 
 
 
    หลังจากการตัดสิ้นใจอันแนวแน่ สายลมรอบกายเธอพลันนิ่งสงบ ลีน่าค่อยๆ หยิบธนูออกมา ง้างสายด้วยท่วงท่ามั่นคงและชำนาญกว่าที่เคย อากิที่ยืนมองอยู่ก็สังเกตได้ทันที—ท่าทางของเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
 
 
 
    'อากิ:ดูท่าง้างธนูนั้นสิ... มันทั้งมั่นคงและทรงพลัง เทพที่แนะนำเธอ คงเป็นผู้ชำนาญการใช้ธนูจริงๆ'
 
 
 
    ลีน่าเปิดใช้สกิล ตาเหยี่ยว ดวงตาของเธอซูมระยะการมองเห็นเข้าไปชัดเจน—แม้แต่เส้นขนของกวางก็ยังเห็นได้ แต่ทันทีที่ภาพของฝูงกวางทั้งหมดปรากฏขึ้นตรงหน้า เธอกลับค่อยๆ ลดธนูลง
 
 
 
    "ลีน่า:..."
 
 
 
    โจเซฟที่เห็นท่าทางนั้นจึงก้าวเข้ามาใกล้ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
 
 
 
    *"โจเซฟ:มีอะไรงั้นเหรอคนเก่ง"*
 
 
 
    *"ลีน่า:หนู...หนูยิงพวกมันไม่ลงค่ะ พวกมันมีลูกหลายตัวมากๆ หนูทำไม่ลงค่ะ"*
 
 
 
    คำพูดสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยความสงสาร ทำให้ทุกคนเงียบไปชั่วขณะ ไม่มีใครกล้าจะค้านสิ่งที่เธอพูด
 
 
 
    "โจเซฟ:งั้นเราไม่ต้องล่ามันก็ได้"
 
 
 
    "คริส:ใช่ เราไม่ต้องล่ามันก็ได้ เพราะยังไงพี่อากิก็มีตัวหนึ่งแล้ว"
 
 
 
    "อากิ:ใช่ เพราะก่อนหน้านี้พี่ล่ามาตัวหนึ่งแล้ว ไม่ต้องก็ได้"
 
 
 
    ลีน่าที่ได้ยินกลับแสดงสีหน้าเศร้า เพราะรู้ว่ามีการล่าเกิดขึ้นแล้ว
 
    อากิที่สังเกตเห็นก็รีบอธิบายทันที เล่าให้ฟังว่าเขามีสกิลประเมิน และตอนนั้นเขาแน่ใจว่ากวางตัวนั้นไม่มีลูก อีกทั้งยังเลือกที่จะปล่อยตัวที่กำลังตั้งท้องไป
 
  
 
    เมื่อฟังจบ สีหน้าของลีน่าก็ค่อยๆ คลายความหม่นหมองลง
 
 
 
    "ลีน่า:ขอบคุณนะคะ ที่ปล่อยมันไป"
 
 
 
    "อากิ:ฮ่าฮ่า แน่นอนอยู่แล้ว พี่เป็นคนดีนี่น่า"
 
 
 
    "ลีน่า:หนูเห็นด้วยค่ะ"
 
 
 
    "คริส:แล้วจะเอายังไงกันต่อครับ จะไล่มันไปไหม"
 
 
 
    "โจเซฟ:ไม่ต้องหรอกมั้ง เดินไปให้มันเห็น เดี๋ยวมันก็หนีไปเอง"
 
 
 
    "อากิ:งั้นก็เดินไปกันเลย"
 
 
 
    ทุกคนจึงก้าวเดินเข้าไปหาฝูงกวางที่กำลังเล็มมอสอยู่ พอพวกมันเห็นเข้าก็แตกฮือหนีไปอย่างรวดเร็ว
 
 
 
    "โจเซฟ:เห็นไหม บอกแล้ว แค่เดินเข้าไป มันก็หนีแล้ว"
 
 
 
    "คริส:โอโห ความเร็วระดับนั้น ถ้าไม่ใช่ธนูคงล่าไม่ได้แน่ๆ"
 
 
 
    ระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกัน ลีน่าก็ชี้ไปข้างหน้า พลางเอ่ยเสียงแผ่ว
 
 
 
    "ลีน่า:แล้วกวางแม่ลูกคู่นั้น...มันไม่หนีนี่คะ แถมเหมือนกำลังเดินมาหาเราด้วย"
 
 
 
    ทุกคนหันตามสายตาไป ก็เห็นจริงดังว่า—แม่กวางสีเทาตัวหนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามา ข้างหลังมีลูกกวางสีขาวสว่างผิดธรรมชาติ มันก้าวตามอย่างเก้ๆ กังๆ พลางหลบอยู่หลังแม่
 
 
 
    "โจเซฟ:มันเดินมาหาเราจริงๆด้วย"
 
 
 
    "คริส:เอ่อ...เราจะทำยังไงกันดีครับ"
 
 
 
    "ลีน่า:ปล่อยมันเถอะค่ะ มันคงแค่สนใจเราเฉยๆ หนูสงสาร...แถมมันก็ดูน่ารักด้วย"
 
 
 
    ขณะที่ทุกคนยังลังเล อลิสก็ทำสิ่งหนึ่ง
 
 
 
    [อลิส:ใช้งานสกิลประเมิน... เป้าหมาย:กวางถ้ำตรงหน้า...ติ๊ด! เป้าหมายถูกประเมินไปแล้ว]
 
 
 
    อากิที่ได้ยินเสียงรายงานก็รีบถามทันที
 
 
 
    *"อากิ:หมายความว่านี่คือฝูงเดิมงั้นเหรอ"*
 
 
 
    [อลิส:ใช่ค่ะ]
 
 
 
     *"อากิ:งั้น...ประเมินลูกมันหน่อย"*
 
 
 
    [อลิส:ใช้งานสกิลประเมิน... เป้าหมาย:ลูกกวาง...
 
    ผลลัพธ์
 
    เผ่าพันธุ์:กวางถ้ำ
 
    สุขภาพ:ปกติ
 
    เพศ:ผู้
 
    สถานะ:พึ่งเกิด ระแวง]
 
 
 
    *"อากิ:นั่น...ใช่ตัวที่เราปล่อยไปหรือเปล่า"*
 
 
 
    [อลิส:มีความเป็นไปได้สูงมากค่ะ]
 
 
 
    อากิยืนนิ่ง สายตาจับจ้องกวางแม่ลูกไม่กะพริบ ขณะที่เจ้ากวางสีเทากับลูกน้อยเดินตรงเข้ามาแทนที่จะหนีเหมือนตัวอื่นๆ มันก้าวผ่านทุกคน ก่อนจะวนรอบอากิ ราวกับกำลังดมกลิ่นตรวจสอบ
 
 
 
    "คริส:เอ่อ...มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย"
 
 
 
    "ลีน่า:ฉันก็ไม่รู้...แต่อย่าโจมตีมันนะ"
 
 
 
    *"อากิ:อลิส มันกำลังทำอะไรอยู่"*
 
 
 
    [อลิส:เอ่อ...ดิฉันไม่แน่ใจค่ะ แต่ลักษณะนี้เหมือนมันกำลังพยายามตรวจสอบกลิ่นท่าน]
 
 
 
    อากิมองตามอย่างเงียบๆ จนแม่กวางหยุดอยู่ตรงหน้าเขา สบตากับเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปดันก้นลูกน้อยให้เดินมาข้างหน้า แม้เจ้าตัวเล็กจะพยายามขัดขืน แต่ก็โดนผลักดันให้มายืนตรงหน้าอากิอยู่ดี
 
 
 
    อากิเพียงจ้องมองมันด้วยสายตาจริงจัง เจ้ากวางน้อยที่เพิ่งเกิดดูสับสนและลุกลี้ลุกลนกับการถูกจ้องแบบนั้น แต่นั้นก็ยิ่งทำให้อากิรู้สึกเอ็นดูมากขึ้น
 
 
 
    *"อากิ:ดูเจ้าตัวเล็กนี่สิ...น่ารักมากเลยไม่ใช่หรือไง"*
 
 
 
    [อลิส:ที่มันได้มายืนตรงนี้ แสดงความน่ารักได้ ก็เพราะความเมตตาที่ท่านมีให้แม่มันนะคะ ไม่อย่างนั้น...มันคงไม่มีโอกาสมาหาท่านหรอก]
 
 
 
    *"อากิ:...รู้สึกดีจริงๆ ที่ตอนนั้นไม่ได้ฆ่ามัน..."*
 
 
 
    [อลิส:...จะลองลูบมันไหมคะ]
 
 
 
    *"อากิ:..."*
 
 
 
    เขานิ่งไปชั่วครู่ แต่ไม่นานก็ย่อตัวลงช้าๆ ลีน่าที่เห็นรีบเข้ามาช่วยอุ้มเมิ่งซินออกจากหลังของเขา อากิพยักหน้าขอบคุณ แล้วหันกลับมาหาเจ้ากวางน้อย ยื่นมือออกไปอย่างระมัดระวัง
 
 
 
    กวางน้อยสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อเห็นมือยื่นเข้ามา อากิจึงหยุดกลางค้างไว้ ไม่เร่งรัด รออย่างใจเย็น จนกระทั่งเจ้าตัวเล็กค่อยๆ ก้าวเข้ามาดมกลิ่นจากมือเขา แล้วค่อยๆ เอาหน้าถูเบาๆ อากิจึงยิ้มบาง ก่อนจะลูบมันด้วยสัมผัสอันนุ่มนวล
 
 
 
    'อากิ:ถึงขนมันจะสั้น...แต่มันนุ่มมากจริงๆ...'
 
 
 
    อากิค่อยๆ ลูบเจ้ากวางน้อยจนมันยอมเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนสุดท้ายอากิสามารถโอบตัวมันไว้ได้ ส่วนลีน่าที่ยืนมองอยู่ก็ทำได้แค่มองนิ่งๆด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เพราะไม่กล้าเข้าไปใกล้ อากิที่เห็นดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น
 
 
 
    "อากิ:ลองจับดูไหม"
 
 
 
    "ลีน่า:อะ-เอ๊ะ หนะ-หนูจับได้จริงเหรอคะ"
 
 
 
    ลีน่าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น อากิพยักหน้ารับเบาๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น ลีน่าก็ค่อยๆ ย่อตัวลง แล้วยื่นมือออกไปลูบเจ้ากวางน้อยอย่างระมัดระวัง
 
 
 
    "ลีน่า:ว้าว~...นุ่มจังเลย"
 
 
 
    ในขณะที่เธอกำลังลูบอยู่นั้น ลีน่าก็สังเกตเห็นบางอย่างเข้า
 
 
 
    "ลีน่า:?...พี่อากิ"
 
 
 
    "อากิ:มีอะไรงั้นเหรอลีน่า"
 
 
 
    "ลีน่า:พี่ลองลูบสวนขนตรงหัวเจ้าตัวเล็กสิคะ เหมือนจะมีสัญลักษณ์อะไรบางอย่างเลย"
 
 
 
    อากิที่อยู่ด้านหน้าของเจ้ากวางน้อยขยับตัวไปด้านข้าง แล้วค่อยๆ เปิดดูบริเวณที่ลีน่าบอก คนอื่นๆ ก็เข้ามามุงดูด้วยเช่นกัน สิ่งที่พวกเขาเห็นคือ ปานสีดำ มีรูปทรงคล้าย ต้นไม้—โดยที่โคนต้นอยู่ตรงหว่างคิ้ว ลำต้นทอดขึ้นไปกลางศีรษะ ก่อนจะแผ่กิ่งก้านแตกใบครอบคลุมเกือบทั่วทั้งหัวของมัน
 
 
 
    "โจเซฟ:มัน...มีเกือบเต็มหัวมันเลยนี่"
 
 
 
    "ลีน่า:เกือบทั่วทั้งหัวเลย แถมยังคล้ายต้นไม้ด้วย"
 
 
 
    "คริส:เหมือนจริงๆ ด้วย"
 
 
 
    "อากิ:ถ้าลีน่าไม่บอก พี่ก็คงไม่เห็นนะเนี่ย"
 
 
 
    ทั้งสี่ต่างประหลาดใจกับปานของเจ้ากวางน้อย เพราะมันไม่ใช่ปานที่เกิดแบบสุ่ม แต่กลับมีรูปทรงชัดเจนราวกับต้นไม้จริงๆ
 
 
 
    "ลีน่า:ในเมื่อมันมีปานเด่นขนาดนี้...เรามาตั้งชื่อให้มันกันไหมคะ"
 
 
 
    "อากิ:ได้สิ"
 
 
 
    "โจเซฟ:ลุงเอาด้วย"
 
 
 
    "คริส:ผมด้วยครับ"
 
 
 
    "ลีน่า:ถ้างั้น...หนูขอตั้งชื่อว่า ทรีตี้ ค่ะ ฟังดูน่ารักดี"
 
 
 
    "โจเซฟ:ลุงว่าชื่อ รากไม้ ฟังดูเท่กว่านะ"
 
 
 
    "คริส:ผมขอเสนอชื่อ ลีฟเวอร์ ครับ หมายถึงผู้ถือใบไม้"
 
 
 
    "ลีน่า:ชื่อของคุณลุงใช้ไม่ได้เลยค่ะ มันดูธรรมดาเกินไป แถมยังเชยอีกต่างหาก ของหนูสิถึงจะเหมาะ"
 
 
 
    "โจเซฟ:เชยตรงไหน ชื่อของลุงเท่จะตาย แถมเจ้าตัวเล็กนี่ก็เป็นตัวผู้ด้วย"
 
 
 
    "ลีน่า:ถ้าจะเอาชื่อของคุณลุง หนูว่าเอาของคริสดีกว่าเยอะเลย อย่างน้อยก็มีความหมาย ใช่ไหมคริส"
 
 
 
    "คริส:อะ-อืม..."
 
 
 
    "โจเซฟ:ไม่ต้องมาอืมเลย ยังไงชื่อของลุงก็ดีกว่าไอ้หนุ่มน้อยนี่แน่ๆ"
 
 
 
    "ลีน่า:ไม่เห็นจะดีกว่าเลย ของหนูอันดับ 1 ของคริสอันดับ 2 ของลุงนะที่สุดท้าย"
 
 
 
    ระหว่างที่ทั้งสามกำลังโต้เถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย อากิก็หันไปปรึกษากับอลิส เพื่อหาชื่อที่เหมาะสมให้เจ้ากวางน้อยแทน
 
 
 
    *"อากิ:อลิสมีชื่อดีๆ แนะนำบ้างไหม"*
 
 
 
    [อลิส:อืม...ดิฉันแนะนำ เวอร์เดนท์ (Verdant) ค่ะ หมายถึงเขียวชอุ่ม น่าจะเหมาะกับกวางที่ชอบกินพืช แถมยังเข้ากับปานต้นไม้ตรงหัวด้วย]
 
 
 
    *"อากิ:ฟังดูดีนะ งั้นลองบอกคนอื่นๆ ดูดีกว่า"*
 
 
 
    [อลิส:เชิญเลยค่ะ]
 
 
 
    ในจังหวะที่การเถียงเรื่องชื่อของทั้งสามกำลังดุเดือดขึ้น อากิก็พูดแทรกขึ้นมา
 
 
 
    "อากิ:งั้นฉันขอเสนอชื่อว่า... เวอร์เดนท์ (Verdant) หมายถึงเขียวชอุ่ม เหมาะกับเจ้ากวางน้อยที่ชอบกินพืช และก็มีปานต้นไม้บนหัว"
 
 
 
    ทั้งสามที่กำลังเถียงกันอยู่ชะงักและหันมองหน้ากัน เพราะชื่อที่อากิเสนอนั้นฟังดูมีความหมายดี แถมเจ้ากวางน้อยยังทำท่าคลอเคลียกับอากิ เหมือนบอกว่ามันชอบชื่อนี้จริงๆ
 
 
 
    "ลีน่า:ชื่อเวอร์เดนท์สินะคะ ฟังดูดีนะคะ... แถมเจ้าตัวน้อยก็เหมือนจะชอบด้วย"
 
 
 
    "โจเซฟ:เฮ้อ เถียงกันแทบตาย สุดท้ายเจ้าตัวน้อยดันชอบชื่อของอากิซะงั้น"
 
 
 
    "คริส:ฮ่าฮ่า งั้นก็ตกลงตามนี้เลยครับ ชื่อของมันคือเวอร์เดนท์"
 
 
 
    เจ้ากวางน้อยเหมือนจะรับรู้ได้ จึงส่งเสียงร้องเบาๆ ราวกับตอบรับชื่อใหม่ของมัน หลังจากนั้นมันก็เงยหน้าขึ้นมาใกล้ๆ อากิ
 
 
 
    [ระบบ:ต้องการตั้งชื่อให้กวางถ้ำตัวนี้ว่า เวอร์เดนท์ หรือไม่]
 
 
 
    'อากิ:หืม... การตั้งชื่อต้องมีข้อความระบบขึ้นมาด้วยเหรอ... ช่างมันเถอะ คงเป็นเรื่องของระบบละมั้ง'
 
 
 
    อากิไม่ได้คิดอะไรมากนัก จึงกดตกลงตั้งชื่อให้เจ้ากวางน้อยไป โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำนั้น จะนำพาเรื่องใหญ่เกินคาดมาสู่ตัวเขา...
 
 
 
    [ระบบ:ยินยอมที่จะตั้งชื่อแล้ว กำลังทำการดูดมานาครึ่งหนึ่งของผู้ตั้ง เพื่อใช้ในการตั้งชื่อให้เจ้ากวางน้อย]
 
 
 
    ทันใดนั้น มานาจำนวนมหาศาลก็พลันไหลออกจากร่างของอากิ มานาที่ไหลออกมานั้นมีลักษณะเป็นหมอกสีฟ้าที่พวยพุ่งกระจายออกมาเต็มโถ่งทางเดิน อากิรู้ถึงมานาที่ไหลออกไปอย่างชัดเจน ขณะที่ทั้งสามคนที่อยู่ใกล้ต่างถอยกรูออกมาทันทีด้วยความตกใจ
 
 
 
    "โจเซฟ:ม-มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!"
 
 
 
    "คริส:มะ...ไม่รู้ครับ!"
 
 
 
    เสียงของทั้งสองเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่หมอกสีฟ้าเริ่มหนาขึ้นจนบดบังการมองเห็น ลีน่าที่พยายามเพ่งมองกลับเห็นสิ่งผิดปกติ—เธอเห็นเจ้าแม่กวางกำลังดึงเมิ่งซินที่อยู่ด้านหลังของอากิออกมาอย่างทุลักทุเล ลีน่าที่เห็นก็พุ่งเข้าไปทันที
 
 
 
    "โจเซฟ:เฮ้ย! ลีน่าไปไหน!"
 
 
 
    "ลีน่า:ไปช่วยพี่เมิ่งซินค่ะ!"
 
 
 
    "โจเซฟ:ไอ้คริส! มาช่วยกันด่วนเลย!"
 
 
 
    ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปสมทบ และช่วยกันฉุดเมิ่งซินออกมาจากขอบเขตของหมอกที่แผ่กระจายออกมาจากร่างอากิ ราวกับหมอกนั้นเป็นพลังอันตรายที่พร้อมจะกลืนกินผู้ที่เข้าใกล้
 
 
 
    "อากิ:อลิส! เกิดอะไรขึ้นกันแน่!"
 
 
 
    [อลิส:การตั้งชื่อให้มอนสเตอร์พิเศษ จำเป็นต้องใช้มานาของผู้ตั้ง เพื่อเป็นสื่อกลางให้มอนสเตอร์พิเศษเกิดวิวัฒนาการค่ะ]
 
 
 
    "อากิ:อะไรนะ!? แล้วทำไมไม่บอกก่อนล่ะ!"
 
 
 
    [อลิส:ดิฉันก็ไม่ทราบเช่นกันค่ะ… เพราะสกิลประเมินไม่ได้บอกว่าเจ้ากวางน้อยเป็นมอนสเตอร์พิเศษ]
 
 
 
    'อากิ:บ้าเอ้ย! สกิลประเมินของฉันมันระดับต่ำเกินไปสินะ'
 
 
 
    "อากิ:แล้วฉันยกเลิกได้ไหม!"
 
 
 
    [อลิส:ไม่ได้ค่ะ ต้องรอให้กระบวนการเสร็จสิ้นเท่านั้น]
 
 
 
    คำตอบนั้นทำให้อากิเม้มปากแน่น เขาไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางความรู้สึกเหมือนมานาในร่างถูกสูบจนแทบหมดสิ้น
 
 
 
    หมอกสีฟ้าเริ่มทวีความเข้มขึ้นเรื่อยๆ จากอ่อนใสกลายเป็นเข้มข้นหนาแน่น ราวกับจะกลายเป็นกำแพงที่ปิดกั้นการมองเห็นทุกสิ่งภายนอก
 
 
 
    'อากิ:เมื่อไหร่จะจบกันวะ... แทบมองไม่เห็นอะไรแล้ว'
 
 
 
    เวลาค่อยๆ ไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า ราวห้านาทีต่อมา พลังมานาที่หลั่งไหลก็หยุดลงในที่สุด ร่างของอากิทรุดฮวบลงกับพื้น ก่อนจะล้มลงอย่างหมดแรง
 
 
 
    "อากิ:ทำไมเรื่องแบบนี้...เกิดแต่..กับกู"
 
 
 
    มานาที่ลอยวนอยู่ในอากาศพลันค่อยๆ ถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างของเจ้ากวางน้อยทีละน้อย...
 
 
 
    "โจเซฟ:บ้าเอ้ย มองไม่เห็นอะไรด้านในเลย!"
 
 
 
    ในจังหวะนั้นเอง เมิ่งซินที่เพิ่งตื่นจากการพักผ่อนก็ลืมตา ก่อนจะสบตากับภาพแปลกประหลาดเบื้องหน้า เธอพูดขึ้นมาเสียงสั่นเล็กน้อย
 
 
 
    เมิ่งซิน:เกิดอะไรขึ้น... ตอนที่ฉันหลับไปเนี่ย..."
 
 
 
    เสียงของเมิ่งซินดังขึ้นแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความสับสน ลีน่าที่ได้ยินเสียงนั้นก็หันขวับไปหาเธอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโล่งใจ
 
 
 
    "ลีน่า:พี่ตื่นแล้ว!"
 
 
 
    "เมิ่งซิน:ใช่ พี่ตื่นแล้ว... แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"
 
 
 
    โจเซฟถอนหายใจแรงเหมือนพยายามควบคุมตัวเอง ก่อนจะเอ่ยตอบแทนทุกคน
 
 
 
    "โจเซฟ:เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง"
 
 
 
    จากนั้นทั้งสามก็ช่วยกันเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เมิ่งซินฟัง ตั้งแต่ตอนที่้จอเจอกวางและหมอกสีฟ้าเริ่มพวยพุ่งออกจากร่างอากิจนถึงตอนนี้
 
 
 
    "เมิ่งซิน:จะบอกว่า... ไอ้หมอกนี่เกิดจากอากิงั้นเหรอ?"
 
 
 
    "โจเซฟ:ใช่ มันออกมาจากตัวหมอนั่น"
 
 
 
    เมิ่งซินที่ได้ยินยิ่งแสดงสีหน้ากังวล เธอแทบจะลุกพรวดเข้าไปในหมอกทันที แต่คำถามหนึ่งก็หลุดออกมาพร้อมน้ำเสียงกระชาก
 
 
 
    "เมิ่งซิน:แล้วพวกนายได้ลองทำอะไรหรือยัง!?"
 
 
 
    โจเซฟขมวดคิ้วทันที ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งไม่แพ้กัน
 
 
 
    "โจเซฟ:แล้วจะให้ลองอะไรล่ะ! เราไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดบ้าอะไรขึ้น! แถมหมอกพวกนี้ก็ออกมาจากร่างเขาด้วย"
 
 
 
    บรรยากาศรอบตัวตึงเครียดทันที ความกังวลผสมกับความโกรธไหลวนในวงสนทนา ราวกับทุกอย่างพร้อมจะระเบิดออก ลีน่าที่เห็นรีบแทรกเสียงขึ้นมา
 
 
 
    "ลีน่า:พี่คะ ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ! ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากทำอะไร... แต่เราไม่รู้อะไรเลยจริงๆ! แถมการที่เข้าไปในหมอกสีฟ้านี่—มันอันตรายเกินไป!"
 
 
 
    เสียงของลีน่าหนักแน่นพอที่จะทำให้เมิ่งซินนิ่งไปเล็กน้อย สีหน้าที่ร้อนรุ่มค่อยๆผ่อนคลายลง แม้ยังมีความกังวลอยู่เต็มเปี่ยมก็ตาม
 
 
 
    ลีน่าเดินเข้าไปหาโจเซฟต่อด้วยสายตาจริงจัง
 
 
 
    "ลีน่า:หนูเข้าใจนะคะว่าลุงเองก็กังวลเหมือนกัน แต่หนูอยากให้ลุงใจเย็นลงนิดนึง... การทะเลาะกันตอนนี้ มันไม่ช่วยอะไรเลยนะค่ะ"
 
 
 
    โจเซฟเงียบไปอึดใจ ก่อนถอนหายใจยาว
 
 
 
    "โจเซฟ:ฮือ~~~ ลุงขอโทษ พอดีใจร้อนไปหน่อย... ลุงจะพยายามคิดก่อนพูด"
 
 
 
    บรรยากาศเริ่มคลี่คลายลงเล็กน้อย ทุกคนยังคงจ้องไปยังหมอกสีฟ้าที่ปกคลุมหนาทึบ จนกระทั่งพวกเขาเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง...
 
 
 
    หมอกค่อยๆ จางลงทีละนิด เผยให้เห็นว่าเจ้ากวางน้อยกำลังอ้าปากดูดกลืนหมอกสีฟ้าเข้าไป เหมือนสิ่งนั้นคืออาหารชั้นเลิศของมัน
 
 
 
    "โจเซฟ:นั้น...มันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่..."
 
 
 
    "คริส:เหมือนมัน...กำลังดูดหมอกเข้าไปนะครับ"
 
 
 
    "โจเซฟ:โธ่เว้ย...เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอีกแล้ว"
 
 
 
    พวกเขาตั้งตารออย่างไม่วางตา ไม่นานหมอกก็เริ่มจางหายไปจนหมดสิ้น ภาพตรงหน้าทำให้ลีน่าเผลอร้องเสียงสั่นออกมา
 
 
 
    "ลีน่า:นะ-นั่น... พี่อากิ!"
 
 
 
    ร่างของอากิที่หมดแรงนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นปรากฏชัด เมิ่งซินเบิกตากว้าง ร่างเธอแทบจะพุ่งออกไปทันที แต่กลับถูกโจเซฟกับคริสจับแขนเอาไว้
 
 
 
    "คริส:ใจเย็นๆ ครับพี่! รอให้หมอกมันจางหมดก่อนดีกว่า!"
 
 
 
    "โจเซฟ:ใช่... อย่าเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าเลย เดี๋ยวจะซวยกันหมด"
 
 
 
    "ลีน่า:ใจเย็นๆ ก่อนนะคะพี่... อีกนิดเดียวแล้ว"
 
 
 
    เมิ่งซินที่ได้ยินก็ยืนนิ่งรอ แม้จะตั้งท่าจะพุ่งเข้าไปทุกเมื่อ แต่ก็พยายามอดกลั้นไว้ จนในที่สุด หมอกสีฟ้าถูกเจ้ากวางน้อยดูดเข้าไปจนหมดสิ้น
 
 
 
    ทันใดนั้น โจเซฟกับเมิ่งซินก็รีบพุ่งเข้าไป ลากร่างอากิออกมาอย่างร้อนรน พวกเขาไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเจ้ากวางน้อยยังอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งพาร่างอากิมาถึงตรงที่ลีน่าและคริสยืนอยู่
 
 
 
    "โจเซฟ:เมิ่งซินดูอาการเขาหน่อย"
 
 
 
    เมิ่งซินไม่รอช้า รีบจับชีพจรและตรวจการหายใจ สีหน้าค่อยๆ คลายกังวลเล็กน้อย
 
 
 
    "เมิ่งซิน:เหมือนจะตัวร้อนเฉยๆ ยังไม่แน่ใจว่ามีอาการอื่นไหม"
 
 
 
    "โจเซฟ:ลีน่า ลุงขอน้ำหน่อย"
 
 
 
    แต่คำเรียกหานั้นกลับไร้เสียงตอบสนอง โจเซฟจึงเงยหน้ามองลีน่า ก่อนจะเห็นว่าเธอกำลังยืนอ้าปากค้าง ดวงตาจ้องไปยังบางสิ่งอย่างไม่กระพริบ
 
 
 
    โจเซฟขมวดคิ้วแล้วหันไปมองทิศเดียวกัน — และเขาเองก็ถึงกับอึ้ง เมิ่งซินที่เห็นสีหน้าทั้งคู่เปลี่ยนไปจึงหันกลับไปบ้าง และในวินาทีนั้นเอง…
 
 
 
    เจ้ากวางน้อยกำลังลอยกลางอากาศ ร่างกายเปล่งแสงสีขาวนวลที่สว่างขึ้นเรื่อยๆ จนโถ่งทางเดินสว่างไสวราวกับถูกจุดตะเกียงนับร้อย ความเงียบเข้าครอบงำ ทุกคนมองภาพนั้นโดยไม่อาจละสายตาได้
 
 
 
    แล้วทันใดนั้นเองก็มีของเหลวสีขาวขุ่นก็เริ่มหยดไหลออกมาจากร่างกวางน้อย ราวกับน้ำตาที่หลั่งรินจากฟากฟ้า มันหยดลงบนพื้นก่อนจะลอยกลับขึ้นมาอย่างช้าๆ รวมตัวกันกลายเป็นรูปทรงคล้ายถ้วยรองรับร่างนั้นไว้
 
 
 
    หยดแล้วหยดเล่า ของเหลวค่อยๆ ก่อตัวห่อหุ้มรอบกายกวางน้อยทีละชั้นๆ จนสุดท้ายสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าพวกเขา คือ "ไข่สีขาวเรืองแสง" ใบมหึมาที่ลอยเด่นกลางโถ่งทางเดิน
 
 
 
    เหนือเปลือกไข่กลับมีสิ่งแปลกประหลาดยิ่งกว่า— เขากวางขนาดใหญ่ค่อยๆ งอกออกมา และเหนือขึ้นไปยังมีเถาวัลย์สีขาวโปรยปกคลุมราวม่านหมอก เสริมความขลังราวกับภาพจากเทพนิยาย
 
 
 
    ทุกคนยืนนิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและศรัทธา พวกเขาไม่อาจหาคำบรรยายใดๆ มารองรับสิ่งที่เห็นตรงหน้าได้
 
 
 
    ในขณะเดียวกัน อลิสก็รีบร้อนปลุกอากิอย่างสุดความสามารถ
 
 
 
    !!![อลิส:กริ่ง~~~ กริ่ง~~~ กริ่ง~~~]!!!
 
 
 
    เสียงก้องสะท้อนอยู่ในหัว อากิที่ได้ยินก็เริ่มขมวดคิ้ว ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก
 
 
 
    "อากิ:โอ้ย... เกิดอะไรขึ้นละเนี่ย"
 
 
 
    [อลิส:ท่านอากิ รีบดูเจ้าเวอร์เดนท์เร็วเข้าค่ะ!]
 
 
 
    ได้ยินดังนั้น อากิก็รีบเงยหน้าขึ้นมองหาเจ้าเวอร์เดนท์น้อย แต่สิ่งที่เห็นกลับมีเพียงไข่สีขาวขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ตรงหน้า
 
 
 
    "อากิ:ไหนเจ้าเวอร์เดนท์... ไม่เห็นเลย...เดี่ยวนะ!"
 
 
 
    เมื่อมองชัดขึ้น เขาก็เห็นเปลือกไข่กำลังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนไม่อาจปฏิเสธได้
 
 
 
    "อากิ:เหี้ยอะไรวะนั้น"
 
 
 
    [อลิส:นั่นคือเวอร์เดนท์ค่ะ]
 
 
 
    "อากิ:มะ-มันเกิดอะไรขึ้น..."
 
 
 
    [อลิส:เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง ชมสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อนค่ะ—สิ่งมหัศจรรย์กำลังจะเกิดขึ้น]
 
 
 
    ถึงจะยังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาก็มองไปยังไข่ยักษ์นั้นตามที่อลิสบอก ไข่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้มีขนาดมหึมา สูงกว่าคนไปหลายเท่า ลวดลายสีเขียวคล้ายไม้เลื้อยเริ่มเผยตัวออกมาบนเปลือกไข่ ก่อนจะถูกตัดขับด้วยเส้นสีทองที่ส่องประกายงดงาม ลวดลายเหล่านั้นเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต แผ่ขยายปกคลุมทั่วทั้งเปลือก ก่อนจะหยุดนิ่งพร้อมกับเสียงแตกร้าวที่ดังสะท้อน
 
 
 
    "แก๊ก!"
 
 
 
    รอยร้าวกระจายไปทั่วเปลือกไข่—
 
 
 
    "เพล็ง!!"
 
 
 
    ในชั่วพริบตา เปลือกแตกกระจาย เศษแสงปลิวว่อนกลางอากาศเผยให้เห็นร่างของสิ่งมีชีวิตใหม่ที่ปรากฏตรงหน้า
 
 
 
    มันคือกวาง—แต่ไม่ใช่กวางธรรมดา หากเป็นร่างอันยิ่งใหญ่สง่างาม สูงตระหง่านเกือบ 4 เมตร เขาคู่มหึมาของมันกว้างเกือบ 3 เมตร ปกคลุมด้วยไม้เลื้อย ดอกไม้ และมอสสดชื่นดั่งป่าทั้งผืนเติบโตอยู่บนร่างเดียว ลำตัวของมันขาวสะอาดเกินกว่าจะเปื้อนสิ่งใด เส้นลวดลายไม้เลื้อยสีเขียวไหลเวียนไปตามร่าง แซมด้วยเส้นทองเปล่งประกาย และเหนือหน้าผาก ปานที่เคยเป็นเพียงจุดเล็กๆ บัดนี้เปล่งแสงสีทองเป็นรูปลักษณ์เดียวกับขนบนศีรษะ สง่างามประหนึ่งมงกุฎ
 
 
 
    ทันทีที่ภาพนั้นปรากฏ เสียงของระบบก็ดังขึ้นก้องกังวานไปทั่วทั้งชั้น
 
 
 
    [ระบบ:จงรับรู้และสรรเสริญ—บัดนี้ผู้พิทักษ์แห่งชีวิตได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว จงขับขานบทกลอนเพื่อรับพรอันเมตตา]
 
 
 
    เงามืดแห่งความว่างได้ปกคลุมโลกนานนับศตวรรษ
 
    ผืนดินแห้งผาก สายน้ำเหือดหาย
 
    เสียงแห่งชีวิตถูกกลืนสู่ความเงียบงัน
 
 
 
    แต่ ณ ห้วงวินาทีนี้—คำพยากรณ์ได้เป็นจริง
 
    เปลือกไข่แห่งปฐพีแตกร้าว
 
แสงแห่งเถาวัลย์โอบล้อมร่างอันสง่างาม
 
 
 
    เขาไม้คู่ดั่งขุนเขา ชี้ฟ้าทะลวงเมฆา
 
    รากแห่งชีวิตหยั่งลึกลงใต้ผืนดิน
 
    เชื่อมดวงใจแห่งสรรพชีพให้กลับมาดังเดิม
 
 
 
    ขอจงสรรเสริญนามของเขา—
 
ผู้ปลุกพงไพรให้ตื่นจากนิทรา
 
ผู้โอบอุ้มสรรพสัตว์ไว้ในเงาไม้
 
ผู้พิทักษ์แห่งชีวิต ผู้จะยืนหยัดตราบชั่วกาลนาน
 
 
 
    จงรับรู้เถิดทั่วทุกมุมแผ่นดิน—
 
ว่าตั้งแต่บัดนี้ ความตายจะไม่อาจพรากทุกสิ่งไปได้
 
ตราบที่เขายังยืนหยัดอยู่บนผืนโลกนี้]
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
               จากผู้แต่ง
 
    เหมือนอากิจะทำเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นน้อ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา