The Prince of Flower เกมรักมัดใจ เจ้าชายดอกไม้กับยัยเย็นชา

9.7

เขียนโดย Killolat

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07.31 น.

  26 บท
  1 วิจารณ์
  1,939 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) -คาร์เนชั่น-

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ไฟรักร้อนแรงทลายกำแพงน้ำแข็งแตกพ่าย อีตาทวิตซ์โทรมาขายขนมจีบเป็นกิจวัตรวันละ 3 เวลา อัพเดทชีวิต มอนิ่ง กู๊ดไนท์ แวะป่วนบ้าน 2-3 ครั้ง
ต่อสัปดาห์ จัดการรวบหัวรวบหางป๊าม๊า ฝากตัวเป็นเขยคนสนิทเสร็จสรรพ
 
โชคดีที่ระยะทางบ้านเราห่างกันถึง 4 ชม. ไป-กลับ ไม่งั้นอีตานี่คงแจ๋นแหล๋นเสนอหน้ามาทุกวัน ฉันเลยพอได้พักหายใจหายคอบ้าง
 
เพราะช่วงนี้เขากำลังยุ่งกับการเตรียมเข้ามหาลัยด้วยแหละ ทั้งที่กว่าจะจบมัธยมก็อีกตั้งปีหน้า 
 
ทวิตซ์เคยแง้มเรื่องอนาคตคร่าวๆ ว่า อาชีพในฝัน ต้องอ่านหนังสือตลอดชีวิต เลยอยากอ่านเก็บไว้เยอะๆ ตอนเจอกันจะได้มีเวลาให้ฉันเต็มที่
 
เมื่อก่อนฉันก็เคยคิดว่า ชอบทำงานอยู่กับเอกสาร อาจต่อคณะบัญชีหรืออักษรศาสตร์ แต่พอนึกถึงตัวเองตอนพูดสื่อสารติดๆ ขัดๆ ฟังอีตาทวิตซ์ไม่
เข้าใจแล้วรู้สึกโง่ ‘ศิลปศาสตร์’ จึงกลายเป็นเป้าหมายใหม่แทน
 
เพราะศิษย์เก่าเซนต์อคาเดมี มักเรียนต่อมหาลัยในเครือเดียวกัน ซึ่งอยู่ถัดจากโรงเรียนเพียงรั้วกั้น…ระหว่างเราจึงไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ
 
ขอเล่าย้อนถึงแผนการล่อซื้ออันน่าสะพรึงกลัวนิดนึง 
 
ครอบครัวตานั่นสามัคคีร่วมใจ ทำกันเป็นขบวนการยังกะแก๊งมิจฉาชีพ =-=; 
 
ทีแรกมีแค่อีตาทวิตซ์ตามจีบป๊า พาตะลอนทำนู่นนี่ทั้งวัน แถมยังพกช่อดอกไม้และของขวัญจากคุณอาติดไม้ติดมือมาฝากม๊าตลอด
 
เขาปากหวาน ชมเก่ง ละบ้านนี้ดันบ้ายอซะด้วย ฉันจึงโดนแย่งตำแหน่งลูกคนโปรดไปอย่างง่ายดาย
 
ล่าสุด เอเดลร่วมแจม เจ้าหล่อนลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมตีซี้ม๊า ชวนเม้าท์มอยเรื่องผู้หญิงกระหนุงกระหนิงกุ๊งกิ๊งกันสองคน ทำฉันกลายเป็นหมาหัว
เน่าโดยสมบูรณ์ 
 
และแล้ว…วันที่แผนการร้ายตลอด 2 สัปดาห์ถูกบ่มเพาะจนสัมฤทธิ์ผลก็มาถึง 
 
คุณอาชวนป๊าไปดูแข่งบอลที่ยุโรป ม๊ามีนัดช๊อปปิ้งกับเอเดลกลับอีกทีตอนหัวค่ำ ทิ้งสาวน้อยอ้อยควั่นอย่างฉันไว้ตามลำพังกับทวิตซ์ลูกรัก ผู้ถือครอง
กุญแจสำรองทุกดอกของบ้านหลังนี้
 
“อ่านหนังสืออีกละ” 
 
คนตัวสูงใช้หัวฉันแทนแท่นวางคางตอกย้ำความเตี้ยบรม แขนพาดโอบสนิทสนม ทำเสียงนอยออดอ้อนเรียกร้องความสนใจ
 
ต้องขอบคุณชนักพิงโซฟาที่กั้นกลางระหว่างเรา ไม่อย่างนั้น อาการคลั่งรักของฉันคงกำเริบ หัวใจวายตายอย่างสงบศพสีชมพู 
 
“ทฤษฎีน่าเบื่อ มาสอบปฏิบัติกันดีกว่า~”
 
ทวิตซ์ทิ้งตัวนั่งจุมปุ๊กข้างๆ เผด็จการเลิฟฉกหนังสือเล่มหนาจากมือซึ่งหน้า ซุกพิงซ่อนไว้ด้านหลัง 
 
“ภาษาอังกฤษเธอเก่งแล้ว เดี๋ยวฉันสอนฝรั่งเศสให้”
 
เจ้าชายดอกไม้ในชุดเสื้อยืดขาวสกรีนลายกราฟฟิคเรียบเท่ ทับด้วยเสื้อนอกโทนฟ้าเบบี้บลูละมุนตุ้น แมตซ์กางเกงขาเต่อสีดอกเลา โปรยยิ้มเย้า วา
งมาดเนี๊ยบสวมบทครูสอนภาษา
 
“เอาล่ะคร้าบนักเรียน มองปากครู พูด-ตาม-นะ”
 
นักชักใยตัวยงใช้ท่าทีสนุกสนานล่อลวง นิ้วเรียวชี้ดึงสายตาโฟกัสริมฝีปากสวยได้รูปเน้นคำชัด 
 
พ่อมดหนุ่มสุดเซ็กซี่ร่ายมนตรามหาเสน่ห์ เหมือนเสียงดนตรีของนักเป่าปี่แห่งเฮเมลิน สะกดจิตคุมปากเชื่องให้เอ่ยคล้อยตามคำ แม้ไม่ล่วงรู้ความ
หมาย
 
“Je sius tombé amoureuse”
 
“เฌอ ซุย ตองเบ อมูเคิส”
 
“j'aime ton sourire”
 
“แฌม ตอง ซูเรีย”
 
“Je t'aime tout mon coeur”
 
“เฌอ แตม เดอ ตู มอง เกอร์”
 
“Je ne peux pas vivre sans toi”
 
“เฌอ เนอ เปอ ปะ วิฟเวอะ ซ็อง ทัว”
 
“Embrasse-moi”
 
“ออง บราส มัว”
 
“Veux-tu m'épouser?”
 
“เวอ ทู เมพูเซ่”
 
ริมฝีปากสีกุหลาบคลายยิ้ม ปิดหลักสูตรที่ทำให้หัวใจฉันเต้นระรัว และใบหน้าของเขาแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ
 
นัยน์ตาฟ้าหยาดเยิ้มจับจ้องมองลึกซึ้ง ก่อนเอ่ยถ้อยวลีแปลความหมายด้วยน้ำเสียงหวานล้ำพาใจสั่น
 
“ตกหลุมรักเข้าแล้ว ฉันชอบรอยยิ้มของเธอ ฉันรักเธอสุดหัวใจ”
 
ความประหม่าบุกจู่โจมชายตรงหน้า จนน้ำเสียงทุ้มต่ำเริ่มแผ่วลง แต่ยังคงมุ่งมั่นพูดต่อ…
 
“อยู่ไม่ได้…ถ้าขาดเธอ”
 
ทวิตซ์จับมือฉันวางนาบแก้มอุ่นเนียน ก้มหน้างุดสูดกลิ่นอาย ช้อนสายตาเร่าร้อนเปรยประโยคถัดมา 
 
“จูบฉันสิ”
 
ตึกตึกๆๆๆ!
 
ก้อนคลั่งรักในอกสั่นไหวรุนแรงเปรี้ยงปร้างเหมือนประทัดวันตรุษจีน
 
คนเจ้าเล่ห์เอาแต่ใจไม่รอฟังคำตอบ ริมฝีปากร้อนผ่าวนาบประทับหลังฝ่ามือ พรมจูบไล่เรียงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงแก้ม ทิ้งร่องรอยสัมผัสอุ่นละไมตราตรึง
ห้วงเวลา 
 
กลิ่นหอมเย้ายวนรวนลมหายใจระอุติดขัด นัยน์ตาฟ้าสั่นสะท้าน เว้าวอนยั่วให้อยากถลำลึกสมปรารถนา
 
ปลายนิ้วฉันแตะจรดสัมผัสริมฝีปากของเขา…แต่ไม่ใช่เพื่อผลักไส 
 
ร่างบางไร้ยางอายเป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อน
 
เพียงเสี้ยววินาทีแสนสั้น กลายเป็นช่วงเวลาอันเนิ่นนาน เหมือนทุกสิ่งถูกแช่แข็งด้วยความรัก 
 
และยิ่งชัดเจนแจ่มแจ้ง เมื่ออีกฝ่ายสนองตอบ 
 
รสจูบนี้อาจไม่เร่าร้อน หวานฉ่ำและขื่นขม เท่าครั้งใด หากแต่เปี่ยมด้วยสัมผัสหนักแน่นนุ่มนวลสลักลึกลงกลางใจ 
 
ทวิตซ์เป็นฝ่ายผละออกอย่างเชื่องช้า ปรากฏรอยยิ้มแสนสุขบนใบหน้าปราศจากความกลัว
 
ช่างน่ายินดี เมื่อความรักตัวร้ายทำอะไรพ่อหนุ่มมาโซคิสม์ไม่ได้อีกแล้ว
 
“ประโยคสุดท้าย…ไว้เรียนจบเมื่อไหร่ ฉันจะแปลให้ฟัง”
 
.
 
จูบก่อนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร ยังไงซะ สถานะเราตอนนี้ก็เป็นแค่ ‘Kiss Friend’ เหมือนที่เขาเคยนิยามนั่นแหละ…ทวิตซ์ไวต่อความรู้สึก ส่วนฉัน
เองก็กลบเกลื่อนได้แย่มาก ไม่มีทางเก็บซ่อนความต้องการไว้ได้อยู่แล้ว
 
พยายามคิดแง่นั้น เพื่อให้ใจสงบอยู่หรอก…แต่ไม่มีทีท่าว่าจะมูฟออนซักติ๊ด! >\\\<
 
อร๊ายยย!!!~ นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไป ทำไมแรดยังงี้!? 
 
เป็นสาวเป็นนางแอบจูบผู้ชายในบ้านตอนพ่อแม่ไม่อยู่ ยางอายเธอถูกกรีดขายหมดสวนแล้วรึไงยูแช!?!
 
สถานการณ์ตอนนี้อยู่ในความสงบตรงข้ามกับจิตใจว้าวุ่น เจ้าชายดอกไม้รูปงามนอนหนุนตักเข้าสู่ห้วงนิทรา 
 
แน่ล่ะ ไม่มีจุมพิตปลุกเขาตื่นจากฝันหรอก…นิทานเรื่องนี้เลวร้ายกว่านั้น
 
จ๊อกกกก~
 
O///O
 
เสียงท้องร้องหิวโหยของฉันเอง
 
“คิก…!” 
 
ทวิตซ์เพิ่งตื่นเอามือฮุบปิดปากกลั้นขำ 
 
ไม่ทันแล้วล่ะ ฉันได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักลอดออกมานะย๊ะ!!! >[]<//
 
ความผิดนายคนเดียว! เล่นปลุกกันตั้งแต่ไก่โห่ ป่วนกวนทั้งวันจนไม่มีกะจิตกะใจกินข้าว จูบเสร็จยังเนียนใช้ตักฉันแทนหมอนไม่ยอมลุก 
 
ไอ้ฆาตรกรหัวขาว! กระเพาะฉันเกลียดนาย! พยาธิในท้องฉันก็เกลียดน๊าย!!!
 
“ฉันหิว…นายจะเอาอะไรมั้ย?”
 
น้ำเสียงราบเรียบคีพคูล พยายามกลบอาการเขินอาย 
 
ขอบคุณพระเจ้า ตานั่นหยุดหัวเราะได้ซักที 
 
“ว้าว~ เธอจะทำให้กินหรอ? เอาซี้ ^o^” 
 
ร่างสูงดีดเด้งลุกจากตัก ดวงตาสีฟ้าเปล่งประกายวิบวับตื่นเต้นหวังสูง ตั้งตารอชิมรสมือแม่ศรีเรือน 
 
“กะอีแค่รามยอนโง่ๆ ถ้านายช่วยล้างจาน ฉันทำให้ได้อยู่แล้ว”
 
ฉันดักคอดับฝันด้วยเมนูดาษดื่น ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสายตาแวววาว เหมือนอัญมณีเล่นแสงนั่นได้เลย
 
“ครับผม ^^” 
 
ทวิตซ์รับทราบ เอียงคอ 45 องศาทำมุมน่ารัก
 
อีตาคนคลั่งรักนี่…ต่อให้เป็นน้ำล้างจานก็คงกินอย่างเอร็ดอร่อยแหงแซะ =_=^
 
.
 
ปุด ปุด ปุด
 
ฉันกำลังยืนรอน้ำเดือด มีปลิงยักษ์หน้าตาดีติดหนึบโอบหลัง เนียนสอดมือใส่กระเป๋าผ้ากันเปื้อน สันจมูกโด่งซุกดมซอกคอสยิวกิ้ว 
 
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
 
เป็นการทำอาหารที่จิตใจฟุ้งซ่านที่สุดนับตั้งแต่เกิดมา…
 
สงบสติอารมณ์หน่อยไอ้หื่นตาใส! ในครัวนายก็ไม่เว้น? หัดอายผีบ้านผีเรือนบ้างเถอะย่ะ 
 
“ผ้ากันเปื้อนน่ารักจัง” 
 
เสียงกระซิบเร้าอารมณ์ไหลผ่านหูพร้อมลมร้อน 
 
กลิ่นฮอร์โมนเย้ายวนแผลงฤทธิ์ทำมือไม้อ่อนแรง มือซนแกล้งลูบคลำในกระเป๋าหน้าท้องโดเรม่อนควานหาของวิเศษ ซึ่ง ณ บริเวณนี้ มีเพียงพุงกะทิน้
อยๆ ของฉันที่กำลังหิวโซเท่านั้น
 
อย่าบอกนะ ว่านายติดใจเสียงท้องร้องตะกี้ อยากขำกลิ้งอีกล่ะสิ
 
โธ่เอ้ย! เขินเสียของ ไอ้หมอนี่กำลังบูลลี่ฉันชัดๆ -*-
 
“หิวแล้วอะ”
 
งั่ม~
 
กรี๊ดดด!~ ติ่งหูฉันกลายเป็นกัมมี่แบร์ไปแล้วว >\\\<
 
ตอนนี้ฉันบรรลุถึงเจตนาของปีศาจราคะอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ 
 
คนเสพติดสกินชิพของขาดกว่า 2 สัปดาห์ กำลังอดอยากปากแห้ง สบโอกาสเลยจัดหนักจัดเต็ม เปิดโหมดหื่นกระหายขั้นสุด 
 
วี้ดดดด
 
เสียงกาน้ำหวีดหวิวช่วยหักห้ามใจได้ทันท่วงที ดึงสติกลับเข้าตัวอีกครั้ง
 
…ซะเมื่อไหร่
 
“โอ๊ย!”
 
มือสะดุ้งดีดออกทันที เมื่อเผลอเรอเหม่อลอย พลาดท่าจับของร้อนมือเปล่า จนนิ้วชี้ลวกพองเจ็บแปลบ
 
โทษเค้าอีกนั่นล่ะ! เพราะนายคนเดียว สติสตังฉันถึงได้…!
 
หมับ
 
O///O
 
…เตลิดเปิดเปิง 
 
สัญชาตญาณของเขาว่องไวไม่แพ้ปฏิกริยารีแฟลกซ์ที่ทำงานปกป้องร่างกายฉับพลัน 
 
เจ้านิ้วชี้น่าสงสารกลายเป็นโลลี่ป๊อบถูกเยียวยาด้วยไซรัปอุ่นในปาก
 
ตึกตักๆๆๆ!!
 
911 ช่วยด้วย! หัวใจจะระเบิดอยู่แล้ว! ตรงนี้มีมนุษย์กินคนจ้องจะงาบฉันทั้งเป็น~ 
 
กริ๊ก
 
มือใหญ่เอื้อมปิดเตาแก๊ส อารมณ์เปลี่ยนฉุนกึก กดเสียงเข้มดุจริงจัง
 
“ระวังสิ! ไปนั่งรอตรงนั้นเลย เดี๋ยวฉันต่อทำเอง”
 
เปล่าประโยชน์…ไม่ว่านายจะพูดอะไรตอนนี้ สมองเคลิ้มก็กลั่นกรองเป็นคำหวานไปหมดเลย -\\\-
 
ร่างสูงกร้าวใจถอดเสื้อนอกออก เหลือเสื้อยืดขาวคล่องตัวเผยโชว์หุ่นสรีระกำยำสมชาย หยิบผ้ากันเปื้อนขาวมาสวมใส่ หนุ่มหน้าสวยในลุคพ่อศรีเรือน
ทวีคูณดาเมจทำลายล้าง
 
ตายแล้ว!~ ใครก็ได้ช่วยกระชากฟีลเตอร์อินเลิฟออกจากตาฉันที! 
 
.
 
เพอร์เฟ็กซ์บอยหน่วยก้านดีชำนาญงานครัว ประเมินแล้ว โอกาสเสี่ยงเกิดอัคคีภัยต่ำเตี้ยเรี่ยดินกว่าฉันเยอะ
 
แน่นอน เมนูสุดพิเศษถูกรังสรรค์จากหัตถ์ลูกรักพระเจ้า ย่อมไม่ทำให้ผิดหวัง 
 
รามยอนร้อนสีสดสวย ใส่วัตถุดิบครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ ละเมียดจัดจานระดับมิชลินสตาร์ ประเคนเสิร์ฟในหม้อเกาหลีสีทองกลมมนพร้อมทาน
ส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ
 
ท่าทางลั้นลาดูภูมิใจกับผลงานตรงหน้าซะเหลือเกิน นึกว่าจะหงอยก๋อยซะอีกที่อดกินฝีมือฉัน 
 
ร่างสูงเลือกนั่งข้างกัน ริบอาวุธ ชิงม้วนคีบเส้นเป่าฟู่…
 
อ่าว ไม่แบ่งหรอ??? -o- ปอบตะกละเข้าสิง กะเปิบคนเดียวว่าซ่าน
 
ผิดคาด…ความหิวล่อลวงทำให้หลงประเมินเค้าต่ำไป 
 
เส้นบะหมี่หนึบเด้งพอดีคำถูกยื่นจ่อปากฉัน พร้อมเสียงสองลากยาวตะล่อมหลอกป้อนยาเด็ก 
 
“อ้ามม~”
 
ตั้ลล๊ากเกินทานทน~ o>\\<o ใครไหวไปก่อนเลย ตอนนี้ฉันกำลังติดกับดักรักถอนตัวไม่ขึ้น!
 
งั่ม
 

 
หวานเรียกพี่ เบาหวานเรียกพ่อ หวานจนมดตายยกรัง หวานไม่บันยะบันยัง
 
…ไม่ใช่ความรักของเรานะ ไอ้รามยอนนี่ต่างหาก! TOT~ 
 
“หวานอะ”
 
“เพราะฉันใส่ความรักลงไป” 
 
อย่ามาเนียนโกหกหน้าตาย! สารภาพซะดีๆ นายเผลอทำน้ำตาลหกใช่มั้ย? รสชาติยังกะลอดช่องสิงคโปร์ -*-
 
เอ่อ…ฉันคงหิวมาก เคี้ยวไปเคี้ยวมาอร่อยเฉย 
 
ใส่กัญชารึเปล่า? ผงนัว? หรือยาเสน่ห์?? 
 
โอเค พอกินได้แหละ 
 
“ไงล่ะ อร่อยเหมือนคนทำ ^^+” 
 
เชฟมือใหม่ส่งสายตาแพรวพราวมั่นหน้ามั่นโหนก เป่าฟู่ๆ ป้อนบะหมี่หวานเพิ่ม
 
จ้าๆ ยกธงขาว ยอมจำนนต่อหลักฐานคาปาก 
 
‘อร่อยมาก’ 
 
ดูท่าฉันคงโดนพ่อค้าน้ำตาลตัวเอ้ป้ายยา จนเสพติดรสหวานไปซะแล้ว
 
.
 
หลังกินเสร็จ อีตาทวิตซ์ยังไม่ยอมปล่อยให้ฉันจมปลักอ่านหนังสือ พยายามเสนอกิจกรรมทำร่วมกันต่างๆ นานา จนมาจบที่ดูหนัง 
 
เมื่อก่อนฉันเคยเห่อซื้อแผ่นซีดีตามกระแส เพื่อให้คุยกับชาวบ้านรู้เรื่องอยู่หรอก 
 
แต่ตอนนี้ภาพจำช่างเลือนลาง ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเรื่องที่ดูล่าสุดเป็นยังไง
 
“อะไรดีน้า~” 
 
เด็กชายทวิตซ์นั่งเลือกแผ่นหนังสนุกสนาน
 
อะไรก็ได้ ขอไม่เศร้าเคล้าน้ำตา ฉันเหนื่อยล้าเต็มทนกะดราม่าร้องไห้ฉ่ำ
 
“หนังรักมั้ย? ^^”
 
 เจ้าชายผมเงินเริงร่าทะเล้นถามยียวน
 
(<   ) (   >) (<   ) (   >) (<   ) (   >)
 
ฉันส่ายหัวรัวสามทีปฏิเสธสุดใจ 
 
ขอบายย่ะ! น้ำตาลในเลือดข้นคลั่กพอละ เดี๋ยวนายเกิดครูพักลักจำอะไรแปลกๆ มาทดลองใช้กับฉันอีก อย่างไอ้จูบซับน้ำตาบ้าบอนั่น มีหวังเป็นเบา
หวานตายแหงเก๋
 
หนุ่มหน้าหวานยิ้มกริ่ม เล่นเกมทายใจต่อ
 
“ถ้างั้น…จูอง?”
 
มหากาพย์ผีญี่ปุ่นหน้าวอกยอดนักคลานถอดกระดูก ปรากฏตัวตุ้งแช่พร้อมเสียงเรอเหม็นเปรี้ยว…
 
เพราะไอ้หนังเรื่องนี้ ฉันถึงเลิกกลัวผี =_=
 
เอาเหอะ อย่าพิลี้พิไลเลย ดูซักเรื่องให้มันจบๆ 
 
(-  -) (_ _) (-  -) (_ _)
 
ฉันพยักหน้าตอบเบื่อโลก 
 
ตามประสาผู้ชายไม่ใส่ใจเรื่องหยุมหยิม พอเห็นฉันตกลงก็ดี๊ด๊าเนื้อเต้น จัดการเปิดหนัง ปิดไฟสร้างบรรยากาศขนหัวลุก เตรียมหมอนกอดกันว่าง
ผ้าห่มกันผีพร้อม นั่งโอบไหล่แนบเนื้อดันหัวฉันซบอกแกร่ง พลางสางผมเบาๆ 
 
กลิ่นหอมกรุ่นกระจายเต็มปอดหลอมละลายประสาทสัมผัสอ่อนไหว ออกฤทธิ์ร้ายแรงแผดเผาจนฟินชาทั่วร่าง
 
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
 
ขอยืนยันคำเดิม ผีตัวไหนก็ไม่สู้ผีทะเล สำหรับฉันอีตานี่อันตรายกว่าจูองเยอะ
 
[ตือออ ตึ๊งง!!!]
 
ฉันพอเดาจังหวะจั๊มสแกร์ได้ จึงสะดุ้งบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นกรีดร้อง ตรงข้ามกับหนุ่มข้างกายที่กำลังสั่นสะเทิ้มบีบกุมมือฉันไว้แน่น 
 
นายกลัวจริงหรือตื่นเต้น? กะอีแค่ผีติ๊งต๊องเนี่ยนะ -_-;;
 
[เอออออออ~]
 
“ฮ่าๆๆๆ!!!!”
 
เสียงระเบิดหัวเราะบอกให้รู้ถึงบางอ้อ ที่ผ่านมาเขากำลังกลั้นขำอยู่นี่เอง =[]= 
 
เพี้ยนจริง คนบ้าอะไรดูหนังผีแล้วตลก? ไม่ใช่แค่ฉากเดียวนะ พอนังผีพิลึกนั่นโผล่มาทีไร เจ้าชายดอกไม้ก็ทริกเกอร์ฮากระจาย จนฉันต้องเปิดปาก
ถามด้วยความสงสัย - -^
 
“ขำอะไรนักหนา?” 
 
เสียงเรียบเชียบพาคนบ้ากลับเข้าร่องเข้าลอย
 
“โทษที…คิก อดไม่ไหว” 
 
ทวิตซ์กดหยุดหนัง พยายามระงับเส้นตื้น นิ้วปาดเช็ดน้ำตาเล็ด
 
“หน้าผีตลกออก ยิ่งตอนทำเสียง เอออออออ~” 
 
หนุ่มหล่อทำหน้าเอ๋อ อ้าปากหวอลากเสียงยาวในลำคอเลียนแบบจูอง เล่นเอาซะขำพรืดเกือบขิต
 
“ฮะฮ่าๆๆๆ! ^[]^”
 
คนอะไรขนาดติ๊งต๊องยังน่ารัก โอ้ย~ ปวดท้อง เสียงนายยังติดหูฉันอยู่เลย! 
 
สุดท้ายคือดูไม่จบ เพราะพากันบ้าจี้ขำกรามค้าง 
 
เป็นการดูหนังผีที่น่าอนาถจริงๆ…
 
.
 
“นี่ ยังจะอ่านอีกหรอ? T T”
 
เจ้าชายดอกไม้ตัวป่วนเริ่มขาดแคลนความรัก ทรุดตัวนั่งเกยคางบนตักฉัน สายตาหมาน้อยละห้อยช้อนอ้อนวอน
 
วันนี้นายใช้คำว่า ‘น่ารัก’ เปลืองจริงๆ…
 
“ถ้าอยากฝึกภาษาขนาดนั้น มาฟังเพลงด้วยกันดีกว่า”
 
ว่าแล้วทวิตซ์ก็ถือวิสาสะยัดหูฟังไร้สายใส่หูฉัน ทิ้งตัวนั่งข้างๆ 
 
ทึ่งกว่านั้นคือจับฉันแสกนลายนิ้วมือทำรหัสปลดล็อคจอมือถือของส่วนตัวหน้าตาเฉย
 
“เผื่อเธออยากเปลี่ยนเพลง”
 
เหตุผลอะไรของนาย กล้าทำขนาดนี้ไม่กลัวดีแตกรึไง?
 
“กันเหนียวไว้ รหัส 1618 นะ ^^” 
 
ใบหน้าสวยยิ้มกว้างผ่าเผยไร้กังวล กลั่นกรองเสียงเจ้าเล่ห์บอกทริค 
 
“จำง่ายๆ ก็อายุเธอตอนนี้…กับตอนพร้อมออกเรือน”
 
ปั่ก!
 
“โอ้ย”
 
สมควรโดนชกอกซักทีนะไอ้หื่น! เอาคำพูดหมาหยอกไก่เก็บเข้ากรุไปเลย -*-
 
“ล้อเล่น~ ตั้งจากวันเกิดเราต่างหาก” 
 
ตานั่นดริฟกลับเข้าโค้งโรแมนติกอย่างไว
 
ฉันจำแม่นว่านายเกิดมิถุนายน เดือนฝาแฝดสองบุคลิก แต่เพิ่งจำวันที่ได้ขึ้นใจเพราะไอ้มุกหยอดเสี่ยวเมื่อกี้นี่แหละ
 
ว่าแต่ไปแอบรู้วันเกิดฉันจากไหน? เอกสารสภานักเรียนเมื่อตอนนั้นหรือป๊าม๊า?
 
แต่นายคงจำไม่ได้สินะ ว่าวันที่ 18 เดือนก่อน เป็นวันครบรอบ 100 วันของเรา…
 
จุ๊บ
 
“อร้าย!~” 
 
ฉันเผลอม้วนเสียงหลงไม่เป็นคำ เมื่อถูกโจรหื่นขโมยจุ๊บแก้ม
 
สายตาสีครามจ้องมองเหยื่อ สองมือตะปบจับแก้มแดงเถือก นิ่งสนิทอยู่พักนึงก่อนเกริ่นเสียงเซ็งจิต
 
“คิดถึงมันอีกแล้ว”
 
“…”
 
นายหมายถึง ‘ทวิตซ์คนเก่า’ หรอ?
 
ไอ้หมอนี่ เมื่อไหร่จะเลิกหึงตัวเองซักที? =o=^
 
ดวงตาฟ้าขยายรูม่านตากว้างจดจ้องฉันแทบทะลุ
 
ยื่นหน้ามาใกล้ไปมั้ย…
 
“…อื้อ~”
 
ริมฝีปากร้อนฉ่านาบประกบ เกิดเสียงอื้ออึงแข็งขืนในลำคอ 
 
มือเล็กทุบอกแกร่งด้วยแรงเพียงน้อยนิด ก่อนถูกริมฝีปากแสนหวานกดบีบเม้มบดขยี้หัวใจ พลิกปฏิกริยาต่อต้านเป็นตอบรับ เสียงขัดขืนเปลี่ยนเป็น
ครางฟิน ไม่ต่างกับมือเจ้ากรรมที่จิกกุมเสื้อขาวไว้ ร่างกายสั่นสะท้านรุ่มร้อนกำลังฟ้องว่าต้องการเขาอย่างน่าไม่อาย
 
ทวิตซ์เป็นฝ่ายถอนจูบออกก่อนเสมอ…
 
สัมผัสเร่าร้อนแผ่วลง คงเหลือแต่เสียงหอบและหัวใจเราแข่งกันเต้นจังหวะสามช่า
 
ดวงตาแซฟไฟร์ฉ่ำหวานหยาดเยิ้ม ริมฝีปากระเรื่อแดงจัดเหมือนเพิ่งทานของเผ็ดร้อนคลายยิ้มพึงพอใจ 
 
มือใหญ่สอดประสานอบอุ่น ส่วนอีกข้างเอื้อมปาดเช็ดริมฝีปากเก็บงาน ถนอมซับเม็ดเหงื่อซึมบนใบหน้า 
 
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก…
 
“ฟังต่อเนอะ” 
 
นิ้วเรียวออกแรงเบาช่วยกดหูฟังบลูทูธกันหลุด 
 
สัมผัสตกค้างจากจูบกระทันหัน ทำร่างชาจนฉันลืมไปเลยว่ากำลังใส่หูฟังอยู่ 
 
ทวิตซ์เปิดเพลงรัก ยัดมือถือใส่มือฉัน ทอดกายนอนหนุนตักที่ประจำ 
 
ท่วงทำนองหลากอารมณ์และเนื้อหาชวนใจสั่น ทำฉันเขินจัดแทบคลั่งจนต้องหาอย่างอื่นดึงความสนใจ
 
จะอะไรซะอีกล่ะ เจ้ามือถือในมือนี่แหละ…
 
แปลกดี คนอะไรตั้งชื่อเพล์ลิสตามรสชาติอาหาร 
 
‘Sweet’ ‘Sour’ ‘Salt’ ‘Bitter’ ‘Spicy’
 
พอลองฟังถึงเข้าใจ 
 
หวาน = เพลงรัก 
 
เปรี้ยว = ตื่นเต้นสนุกสนาน
 
เค็ม = รสชาติของหยาดเหงื่อและคราบน้ำตา ซาบซึ้งกินใจ
 
ขม = เศร้า ดิ่ง หม่นหมอง
 
 
เผ็ด = …เอ่อ ไม่น่าเปิดมันเลย >\\<
 
“หึๆ” 
 
เสียงหัวเราะมีเลศนัย ทำฉันรีบกดข้ามเพลงหื่นแทบไม่ทัน
 
“เพลย์ลิสพวกนี้ ฉันกับเอเดลแชร์กันหาเพลงใส่เรื่อยๆ” 
 
เสียงทุ้มเกริ่นที่มาให้ฟัง 
 
“ถ้าเธอชอบเดี๋ยวส่งลิ้งก์ให้…เอาไว้ฟังเวลาคิดถึงกัน”
 
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
 
ให้ตายสิ…วันนี้หัวใจชักจะทำงานหนักเกินไปแล้ว
 
.
 
-3 วันต่อมา-
 
18 มกราคม วันเกิดฉันเอง 
 
ป๊าม๊าอยู่พร้อมหน้า สองแฝดซ่าไม่พลาดมาร่วมงาน 
 
บ้านฉันจัดแค่ปาร์ตี้มื้อเย็นเล็กๆ เป็นอีเว้นต์ไพรเวทเฉพาะคนในครอบครัว 
 
แม้ไม่มีของขวัญ แต่ถูกทดแทนด้วยธรรมเนียมเคร่งครัดว่า ต้องทำเค้กวันเกิดและซุปสาหร่ายกินด้วยกันทุกปี 
 
เป็นกฎเหล็กแสนอบอุ่นบัญญัติขึ้นโดยม๊า 
 
ปลาดาวและไอ้แว่นพากันกลับบ้านต่างจังหวัด แต่ยังมีน้ำใจส่งของขวัญให้ เช่นเดียวกับคุณอาที่ติดงานบินยาว 
 
แน่นอนว่า คู่ฝาแฝดหน้าสวยก็มีของขวัญปริศนากะเค้าเหมือนกัน 
 
อีตาทวิตซ์จัดกล่องใหญ่อลังการสูงถึงเอว ส่วนของเอเดลเล็กกระทัดรัด ทรงกลมแบนคล้ายกล่องคุกกี้
 
บรรยากาศระหว่างเตรียมอาหารครื้นเครงกว่าปีไหนๆ แม้เอเดลจะขอลางานครัวอาสาช่วยจัดโต๊ะแทน
 
แหงล่ะ เพราะฉันดันตกเป็นเป้า โดนสามีภรรยาสายปั่นแซวไม่หยุดเลยน่ะสิ…เหลือ 4 คนทีไร อีหรอบนี้ตลอด! วอนเอเดลกลับมาช่วยดึงความสนใจม๊า
ที แท็กทีมกะป๊าแล้วป่วนไม่ไหว~ ToT
 
“เหมือนคู่เราตอนเอ๊าะๆ เลยเนอะป๊า >< ตาจ้องตาปานจะกลืนกิน” 
 
ม๊ามองฉันกะอีตาทวิตซ์ช่วยกันทำอาหาร แล้วเกิดเขินม้วนต้วนมือไม้หมันเขี้ยวหยิกเอวป๊าสะดุ้งโหยง
 
“แหม่ๆ…ถ้าไม่ติดว่ายังเรียนอยู่ ป๊าจะขอยูแชน้อยซัก 12 คนไปชิงแชมป์ยูโร” 
 
พ่อบ้านใจกล้าคล้อยตามเมีย
 
“แหม~ ที่รักคะ สงสารลูกเราบ้าง เหลือแค่ทีมวอลเล่ห์ครึ่งโหลพอ”
 
“นั่นสิน้า~ เยอะเกินๆ เลี้ยงลูกทั้งวันเดี๋ยวไม่มีเวลาจู๋จี๋อู๋อี๋ ขั้นต่ำป๊าขอซัก 3 หน่อ ไว้ฟอร์มทีมบาส 3x3 ละกัน”
 
ที่ผ่านมาโฆษณาไว้ตั้งเยอะ…ป๊าม๊าช่วยหวงหนูบ้างเถอะค่ะ! >\\\<
 
“ฮ่าๆๆ ผมจะพยายามนะคร้าบ ^^”
 
ปั่นเก่งกว่ามิ๊กเซอร์ก็ป๊าม๊า ลื่นไหลกว่าจาระบีต้องทวิตซ์…ปวดขมับกะก๊วนนี้จริงๆ =*=
 
“ไม่ได้คบกันซักหน่อย” 
 
ฉันขวางโลกตัดบทเย็นชา
 
“เอ๊ะ แล้วภาษาวัยรุ่นเค้าเรียกอะไรหรอจ้ะ? ^-^” 
 
ม๊าไม่สะท้านหยอกสนุก ส่งไม้ต่อให้ทวิตซ์
 
“Kiss Fri…”
 
หมับ!
 
ฉันรีบตะครุบปิดปากคนหน้าด้าน ทั้งที่มือยังเลอะแป้ง ถลึงตาดุใส่
 
หุบป๊าก!!! รู้นะยะนายจะพูดอะไร!?
 
ละอองแป้งฟุ้งกระจายไหลเข้าปอดระคายคอ
 
“แค่กๆ…เพื่อนค่ะ!” 
 
เสียงแข็งฝืนสู้ชีวิตของฉัน ช่างไร้ความหมาย…
 
เมื่อร่างสูงหูทวนลม ใจดีช่วยปัดแป้งตามไรผมและเนื้อตัวออกให้ 
 
สายตาเผลอสอดประสานท่ามกลางหมอกขาวนวล เกิดฉากหวานชวนจิ้น 
 
ตึกตัก… ตึกตัก… ตึกตัก…
 
“เพื่อนรัก รักเพื่อนไงม๊า~” 
 
ป๊าทำเสียงทะเล้นกระทุ้งศอกสะกิดเบาๆ ส่งสัญญาณชวนม๊ารับมุก
 
“วี้ววว~” 
 
คู่รักนกการเวกผิวปากแซวหวีดหวิว
 
“ฮ่าๆๆๆ” 
 
อีตาทวิตซ์หัวเราะท้องแข็งไม่เป็นอันทำอาหาร
 
 
…เอเดลช่วยด้วย! ทำครัวไหม้ก็ได้~ ฉันล่ะอยากหนีออกจากบ้านจริงๆ TT///TT
 
.
 
อาหารปราณีตฝีมือม๊า เค้กวันเกิดครีมขาวและซุปสาหร่ายถูกจัดเรียงพร้อมรับประทาน 
 
ค่อยหายใจสะดวกขึ้นหน่อย เมื่ออยู่ครบ 5 คน 
 
เพราะเอเดลหึงน้อง เธอจึงมักแก้เกมด้วยการชวนตัวตั้งตัวตีอย่างม๊าเม้าท์มอยเรื่องอื่น พอป๊าขาดคู่โบ๊ะบ๊ะก็จะถูกทวิตซ์ลูกรักพาคุยกันเดดแอร์ เหลือ
ฉันรอดลอยลำ ถูกดึงร่วมวงสนทนาบ้างเป็นครั้งคราว
 
.
 
ตัดมาตอนเป่าเค้กเลยละกัน
 
 
ฟู่~
 
“อธิษฐานอะไรเอ่ย?”
 
เป็นคำถามลองเชิงที่ป๊าใช้ทุกปี
 
“จำไม่ได้แล้วค่ะ” 
 
ฉันอมยิ้มรอรับมุก เพราะไม่ว่าจะตอบอะไร ม๊าจะพูดแทรกขึ้นว่า
 
“แย่จัง~ คำขอคงไม่เป็นจริง หนูต้องรอแย่งป๊าม๊าเป่าเทียนแล้วล่ะ ^^”
 
อาจน่าเบื่อเมื่อต้องฟังซ้ำซาก แต่เพราะคำเชื้อเชิญอ้อมๆ นั่น ทำให้เรากลับมาร่วมฉลองพร้อมหน้าทุกปี…สมดังคำอธิษฐานของฉัน
 

 
เหตุการณ์ต่อจากนี้ไม่มีอะไรมาก งานเลิกสามทุ่มครึ่ง กินเค้กเสร็จแยกย้ายกลับบ้าน ป๊าม๊าเข้านอนก่อน เหลือฉันลุ้นแกะของขวัญ
 
เริ่มจากกล่องสี่เหลี่ยมไซส์กลางสีแดงสดของปลาดาวและแคคตัส เบาหวิวไร้เสียง…แกะออกมาเป็น ‘หมอนผ้าห่มอุ่นนุ่มลายแมวส้ม’ น่ารักจัง >\\< ดู
ก็รู้ว่าปลาดาวเป็นคนเลือก ส่วนไอ้แว่นแค่ใส่ชื่อเกาะบุญเธอเฉยๆ 
 
กล่องเล็กสุดสีทองระยับเหมือนแท่งทองคำของคุณอา น้ำหนักหน่วงพอดีมือ ว้าว~ *o* มันคือ ‘ปากกาหมึกซึมสีดำราคาแพงหูฉี่’ แทบอยากวางสัก
การะไว้บนหิ้งมากกว่าแกะใช้งาน \(_ _)/
 
กล่องสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ห่อสีเงินเรียบเก๋ไฉไลทันสมัย ที่ข้างในเป็น เอ่อ…O///O ‘ชุดนอนไม่ได้นอนสีแดงสด’ เอเดลเอ้ย! นี่เธอประชดหรือ
อวยพร?? ผ้าบางเฉียบถูกมดกัดเบาๆก็ขาด กุงเกงในจีสตริงสามสายปิดเหวอะไรไม่ได้ทั้งนั้น 
 
 
อย่าบอกนะว่าทวิตซ์ชอบแบบนี้…?
 
โอ๊ยย~ ฉันจะบ้า! ให้น้องหล่อนใส่เองเหอะย๊ะ!!! >[]<//
 

 
เฮ้อ…เอาล่ะ กล่องลาสต์บอส =-=;; สีชมพูสดใสอันบักเอ๊บเท่าตัวคน แต่ช่างแสนเบาหวิว…ไม่ผิดคาดเลยซักนิด ของขวัญคู่รักยอดนิยม ‘ตุ๊กตาหมี
ขาวนุ่มฟู’ ตาฟ้า จมูกดำ อุ้งเท้าสีชมพู ยิ้มหวานจ๋อย ตลบอบอวลด้วยกลิ่นหอมอบอุ่นคล้ายดอกคาโมมายล์ช่วยผ่อนคลาย
 
หอมจัง…คืนนี้ฉันคงหลับฝันดี -\\\-
 
คลาสสิค จำเจ แต่น่ารัก…ทั้งของขวัญและคนให้ 
 
….
 
กริ๊งงง กริ๊งงง กริ๊งงง
 
ดื่มด่ำของขวัญยังไม่ถึง 10 นาที จู่ๆ เสียงมือถือก็ทำฉันสะดุ้ง 
 
ตายยากจริง! น้องหมีเจ้าเล่ห์…แกแอบซุกกล้องไว้รึเปล่า? ทำไมตานั่นถึงโทรมาถูกเวลาจัง =o=;;
 
“อืม” 
 
ฉันตอบรับสายสั้นๆ 
 
[ชอบของขวัญมั้ย?] 
 
เสียงทุ้มนุ่มไม่ลีลาอารัมภบท ยิงคำถามตรงฉิน
 
“…ก็ดี” 
 
ฉันชอบมากเลยล่ะ…แม้แต่ตอนนี้ยังกอดไม่ปล่อย หวังว่านายคงไม่ได้ติดกล้องจิ๋วไว้จริงๆ หรอกนะ
 
[ไม่ถูกใจ? เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันเปลี่ยนเป็นผ้าสามสีผูกเอวให้ จะได้ไม่มีไอ้หน้าไหน กล้ายุ่งกับเธอ] 
 
เป็นการเล่นมุกตลกที่น้ำเสียงโหดเหี้ยมเกรียมทำเอาขำไม่ออก =[]=
 
 ต้องเป็นคนยังไง?? เอาเป็นว่า…ขอบคุณมากค่ะพระเจ้า ที่ดลใจให้ตานี่ไม่ห่อผ้าสามสีแทนตุ๊กตาหมี
 
“ฉันชอบแล้ว…ไม่คืนให้นายหรอก” 
 
ฉันเปล่งเสียงบอกเล่าราบเรียบ ซุกหน้าดมเจ้าตุ๊กตาหมีตัวโตอย่างหมันเขี้ยว 
 
จ้างให้ก็ไม่คืน จะเอาผ้าสามสีมาแลกยิ่งแล้วใหญ่!
 
[แค่ชอบหรอ?] 
 
คนปลายสายถามปนกลั้วหัวเราะ
 
 […นึกว่ารักซะอีก]
 
ตึกตักๆๆ!
 
เป็นแค่คลื่นเสียงไร้ตัวตนแท้ๆ! กล้าดียังไงเข้าแทรกแซงจังหวะหัวใจ!? o>\\\<o 
 
เดี๋ยวปั๊ดกดตัดสายทิ้งเลยหนิ…!
 
[ไม่กวนละ ฝันดีครับเจ้าหญิง…รักเธอที่สุดเลย]
 
ติ๊ด
 
เหมือนรู้ทัน คนปากหวานจึงคุมเกมชิงวางสายก่อน ทิ้งฉันไว้กับของขวัญวันเกิดที่หน้าตาเริ่มละม้ายคล้ายคนให้ขึ้นทุกที…
 
เอาล่ะ ฉันจะเรียกแกว่า ‘หมีดอกไม้’ ละกัน 
 
คืนนี้ยอมให้กอดซะดีๆ กล่อมฉันนอนหลับฝันดีด้วยนะ…ห้ามกลายร่างเป็นผีผ้าห่มแบบหมอนั่นเชียวล่ะ
 
ฝันดีนะ…รักที่สุดเลย
 

 
(จบตอน)
 
คาร์เนชั่น; Love me, Love my dog.
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา