The Prince of Flower เกมรักมัดใจ เจ้าชายดอกไม้กับยัยเย็นชา

9.7

เขียนโดย Killolat

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07.31 น.

  27 บท
  1 วิจารณ์
  3,711 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) -ลาเวนเดอร์-

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

-Edelweiss sides-

 

ท่ามกลางสวนเอเดนงามเมกไม้ เด็กหญิงผมเงินเกริ่นเรื่องราวโตเกินวัยให้เทวดาตัวน้อยบนตักฟัง

 

“พระเจ้าทรงสร้างอีฟขึ้นจากกระดูกป๋องแป๋งอดัม” 

 

“พูดอะไรของเธออ่ะเอเดล? =o=” 

 

น้องชายหลุดทำหน้าเหยเก ไม่อยากเชื่อหูว่าฝาแฝดที่เหมือนดอพเพลแกงเกอร์สลับเพศ ไร้เดียงสาเอ่ยคำหยาบโลนเกินงาม

 

“เรียก ‘พี่’ ไม่งั้นนายอดฟัง ^^” 

 

เสียงเล็กเจ้าเล่ห์ยื่นคำขาดแสดงอำนาจ เมื่อความสงสัยฆ่าแมวได้ ไม่แปลกที่มันจะทำให้เด็กหนุ่มผมเงินในวัยอยากรู้อยากเห็นยอมสิโรราบเช่นกัน

 

“…พี่” 

 

เจ้าชายเยาว์วัยเพรียกแผ่วเบาทิ้งศักดิ์ศรี องค์หญิงเอาแต่ใจชนะเสมอ ว่าที่ราชินีผมเงินงามดุจเอลฟ์ กระแอ้มซ้อมลอกข้อมูลจากอากู๋ ถ่ายทอดผ่าน

เสียงสดใส

 

“แฮ่ม~ ต่อจากเมื่อกี้ มนุษย์เพศชายจึงเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงไม่กี่ชนิดบนโลกที่ไร้กระดูกป๋องแป๋ง” 

 

“โว้ว~” 

 

ผู้ฟังอุทานเบิกนัยน์ตาฟ้าพราวระยับตื่นเต้น ยิ่งสนุกกระตุ้นต่อมนักบรรยาย

 

“สัตว์ส่วนมาก เช่น สุนัข จำเป็นต้องมี เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกแย่งคู่ระหว่างสืบพันธุ์ ส่วนลิงชิมแปนซีตรงกันข้าม มันไม่มีกระดูกป๋องแป๋ง เนื่องจากตัวเมีย

 

จำเป็นต้องร่วมรักกับตัวผู้ทั้งฝูง เพื่อปกป้องลูก” 

 

“อื๋อ”

 

ธรรมชาติหฤโหด ทำร้ายหัวใจอ่อนโยนบริสุทธิ์ น่าแขยงขุ่นหมองเหลือทน 

 

กระนั้น ยังพ่ายแพ้แก่ขวนขวาย หูผึ่งรอฟังถ้อยวจีแห่งความหวัง

 

“…แต่มนุษย์ต่างออกไป เราเรียนรู้ที่จะมอบความรัก ไว้วางใจ และมีคู่ครองเพียงคนเดียวเท่านั้น กระดูกป๋องแป๋งจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป” 

 

เธอปิดจบลึกซึ้งตรึงใจ เปี่ยมความหมายตามคาด

 

“ว้าว พี่เนี่ยสุดยอด!” 

 

 

ฉันได้แต่หวังว่านายจะไม่โตมาเป็นผู้ชายสองเมียแบบแด๊ด…

 

.

 

Bong jour! Comment allez-vous?

 

ตะลึงงันอ้าปากค้างกันเลยล่ะซี้~ สำเนียงฝรั่งเศสสุดเซะซี่ของช้านน ^3<

 

ไม่จำเป็นต้องแนะนำตัว ความสวยประกาศก้องไกล ทุกคนต้องรู้จักหญิงงามล่มเมืองอย่างฉัน

 

อะ ก็ได้ๆ เห็นแก่ที่แด๊ดกะมี๊บรรจงตั้งให้ซะสวยหรู ฉันชื่อ ‘เอเดล’ มีที่มาจาก ‘เอเดลไวส์’ ดอกไม้แดนหนาว ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์ โฉมงามผู้เบ่ง

บานผ่าเผยท่ามกลางความเยือกเย็น

 

แหมๆ~ เป็นจริงทั้งนั้น ฉันน่ะสวยใสไร้เทียมทาน ยิ่งถ้ามาเป็นแพคคู่กับทวิตซ์ เราครองโลกได้เลยล่ะ

 

เปรียบดังดาบและคฑา ปัญญาและอำนาจ ป้อมปราการแห่งหัวใจแก่กล้า อุดช่องโหว่เติมเต็มไร้พ่าย ไม่มีใครหน้าไหนบุกทลายสายใยสมดุลเหนียว

แน่นนี้ลงได้

 

ทวิตซ์และฉันสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันเนิ่นนาน นับตั้งแต่วันแรกที่ฉันสร้างบุญคุณ ช่วยถีบส่งเค้าออกจากท้องมี๊ เราพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวตัวติดกัน

ตลอด ไม่เคยเหลือพื้นที่ว่างสำหรับซุกซ่อนความลับใด 

 

กระทั่งกาลเวลาขีดเส้นแบ่งหยินหยาง บังคับให้ชายหนุ่มต้องเติบโต

 

.

 

…ฉันไม่ยอม!!!

 

พักนี้ลิสต์รายชื่อในมือถือทวิตซ์ มีชะนีเพิ่มอีกตัว! -*- 

 

ปกติเขาเป็นพวกจำใครไม่ค่อยได้เลยมักเมมชื่อพ่วงด้วยสถานะ เช่น ‘ปลาดาว สภานักเรียน’ ‘เค ยิวยิตสู’ ‘ผอ.เชอรี่’ ‘พี่แม็กผีบ้า’ แต่หากชื่อไหนไร้

ตำแหน่งฉายา นั่นหมายถึง บุคคลสำคัญพิเศษใส่ไข่ จดจำได้ขึ้นใจ 

 

ซึ่งนอกจากชื่อฉัน แด๊ดและ ‘ลีโอ’ ยังมีนังหนอนแมลงอีกสองตัวรกตา

 

‘ยูแช’ ใครกัน? คราวนี้นายเล่นชิมกิมจิเลยนะ ละนัง ‘หวาน’ ปีก่อนกับ ‘นุ่มนิ่ม (ติ๊งต๊อง)’ ที่เพิ่งเติมยศล่ะ?

 

“แด๊ดด ทวิตซ์แอบมีกิ๊กอีกแล้วอ่ะ” 

 

ฉันหน้ามุ่ยระบายเรื่องอัดอั้นตันใจให้แด๊ดที่กำลังนั่งกินข้าวด้วยกันฟัง

 

เสียงหัวเราะในลำคอตอบสนองพร้อมสายตาดำขลับแสนเอ็นดู

 

“ธรรมดาวัยกำลังกลัดมัน…อ้อ ถ้าหมายถึง ‘ยูแช’ แด๊ดให้พามากินข้าวด้วย เดี๋ยวคงได้เจอกัน” 

 

แด๊ดยิ้มบาง มือนุ่มนวลตัดแบ่งเนื้อใส่จาน

 

“รู้จักหรอ?” 

 

ท่านางฟ้าน้อยไร้เดียงสาเอียงหัวช้อนมอง คลายความลับได้เสมอ

 

“ลูกเพื่อนน่ะ เป็นเด็กน่ารักทีเดียว หนูต้องชอบแน่ ^^” 

 

‘ไม่-มี-ทาง’

 

เนื้อในปากถูกเคี้ยวแหลกหนุบหนับด้วยความริษยา

 

ชิ้วๆ ไสหัวไป๊!!! ฉันครอบครองหัวใจหนุ่มหล่อบ้านนี้ไว้หมดแล้ว! ไม่มีเหลือซักเศษเสี้ยวให้เธอหรอกนะยัยขอทาน!

 

เอ๊ะ หรือยัยยูแชอะไรนี่ จะเป็นเหตุผลที่ช่วงนี้นายไม่กลับบ้าน? 

 

ไม่ได้การละ…นังนี่ไม่ธรรมดาแน่ ฉันต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง! >o<

 

….

 

“ฮั๊ดชิ้ววว!!!” 

 

บรื๋อ~ หนาวจัง >~< ฉันไม่ได้จงใจป่วยจริงๆ หรอกนะ! แค่บงการเชื้อโรคต่างหาก It is a plan, you know?

 

อย่างแรกที่ทำหลังรู้ตัวว่าอาการไม่สู้ดี คือโทรไปแบ๊วใส่น้องชายแสนรัก

 

“ค่อกแค่ก…ทวิตซ์~ ฉันไม่สบายง่า ToT” 

 

[เหลือเชื่อ~ ไอ้เชื้อโรคหน้าไหนมันกล้าเล่นพี่?] 

 

ปลายสายยียวนตอบกลับให้หายคิดถึง

 

แหม ยกยอกันเกินไป ^o^ เค้าชมแหละ ฉันสวยจนเชื้อโรคไม่กล้าแตะ

 

…that's right?

 

แบบนี้ต้องเจอท่าไม้ตาย ‘แม่เสือสาวคลอเสียว ไอ-จะขยี้ยู-ให้แหลกคึ <3’

 

“เหงาจัง…แค่กๆ แด๊ดไม่อยู่บ้าน แวะมาหาหน่อยซี้~” 

 

[ได้สิเอล~ ถ้าเธอเลิกทำเสียงประหลาด] 

 

เจ้าตัวแสบต่อกร เล่นเสียงล้อเลียนปนจิกกัด

 

ติ๊ด

 

ชะอ้าว…เดี๋ยวเซ่! ไอ้น้องทรพี กล้าตัดสายทิ้งเร๊อะ?! 

 

แล้วนายจะมาเมื่อไหร่ว๊ะคะ??? หรือต้องรอฉันสวยตายก่อน!!!

 

.

 

“เจ้าหญิง…แด๊ดไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวทวิตซ์มาเฝ้าต่อ ฝากเอกสารให้น้องด้วยล่ะ” 

 

แด๊ดแจกจุ๊บเหม่งไม่กลัวติดหวัดหลังเฝ้าไข้ฉันทั้งคืน

 

“เลิฟยูน้า” 

 

ฉันส่งจุ๊บกู๊ดบายอิดโรย ตัวร้อนจี๋แดงแจ๋สั่นเทาเหมือนลูกแมวเพิ่งคลอด

 

บรื๋อ~ ยังหนาวอยู่เลย

 

ก่อนไปแด๊ดขยิบตาส่งซิก ซองกระดาษสีน้ำตาลวางล่่อบนหัวเตียง เชื้อเชิญให้เปิดดู

 

หึๆ…บ้านนี้น่ะเป็นพื้นที่ปลอดความลับ มีหรอฉันจะไม่ดู!

 

แกร๊บ

 

[ใบขอความยินยอมหอพักฉิมพลี] 

 

เอกสารจังไรนี่มันอะไร๊!? โรงเรียนนายประหลาดชะมัด! 

 

ถ้าฉันเดาไม่ผิดชื่อคู่นอนต้องเป็นยัยยูแชชัวร์! 

 

กรี๊ดๆๆๆ ยัยนั่นมันจ้องจะเซ็ดยอน้องฉันจริงๆ ด้วย!!!

 

“แค่กๆๆ!” 

 

“ป่วยหนักเลยนะ…อ๊ะ นั่นมัน!” 

 

ทวิตซ์ที่เพิ่งมาถึงพุ่งหลาวเล็งเอกสาร 

 

เฮ๊อะ! ช้าไปละไอ้น้อง พี่พับเก็บยัดนมเรียบร้อย

 

“ขอผมเถอะ~ พลีส~ T T” 

 

โอ๋~ สายตาหมาน้อยละห้อยน่าสงสาร…ซะเมื่อไหร่!

 

“Nope!” 

 

“ลีลา! พี่จะเอาอะไร?” 

 

เมื่อรู้ว่าลูกอ้อนไม่ได้ผล ท่าทีของปีศาจน้อยก็เปลี่ยนไปทันที 

 

ฮ่า~ นายรู้จักฉันดีเหลือเกินนะ

 

“ขี่หลัง 10 รอบ! วิ่งด้วย! ถ้าไม่ทำ…แค่กๆ ฉันจะไม่กินยา!!!” 

 

“=[]=” 

 

ไม่บ่อยนักที่ได้เห็นหนุ่มสุขุมทำหน้าเหวอ 

 

โฮะๆๆ อยากถ่ายรูปเก็บไว้จุง~ ^w^

 

 

“เร็วซี้~ เร็วอีก! อ๊าา…จะถึงแล้วว” 

 

ฉันแกล้งครางเซ็กซี่แก้เผ็ดที่น้องบ้ากล้าตัดสาย ให้เค้าอายพวกสาวใช้จนเสียอาการ แต่ดูท่าจะโดนรำคาญมากกว่า

 

“เออๆ รู้แล้วน่า…แฮ่กๆ หุบ-ปาก…เลิกทำเสียงทะลึ่งซักที!” 

 

“ว๊าย~ ฉันช๊อบชอบ ตอนนายดุเนี่ย~” 

 

งั่ม

 

“โอ๊ย!” 

 

ไอ้น้องซ่าร้องโอดโอยเพราะโดนกัดหู

 

วะฮ่าๆ สมน้ำหน้า! ^o^

 

“อุ๊ย โทษที ลืมคุมแรง” 

 

ฉันเฟคขอโทษพ่อกระสอบทรายน้อย

 

“พี่ใจร้าย~ หูผมแหว่งแล้วมั้ง… ToT” 

 

เสียงออดอ้อนนั่นช่างน่าเอ็นดู

 

“วี้~” 

 

ฉันอ้าแขนกว้างโอบกอดลมปะทะร่าง หัวเราะร่าสนุกสนานจนลืมป่วย ปล่อยให้น้ำหนักตัวเป็นภาระคนแบก

 

ตื๊ดด ตื๊ดดด ตื๊ดดดด

 

เรียวขาสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่กระเป๋ากางเกงของน้องชายรู้สึกจั๊กจี้

 

“สั่นใหญ่เลยอะ” 

 

เอี๊ยดดด

 

ทวิตซ์เบรกเอี๊ยดหยุดฉุกเฉิน เกือบได้ล้มหน้าคะมำทั้งคู่ 

 

ร่างสูงย่อตัวส่งฉันลงโดยสวัสดิภาพ ลุกลี้ลุกลนรีบรับสาย สภาพเหมือนพ่อบ้านใจกล้าโดนเมียโทรจิกที่วงเหล้า -*-

 

“โทษที เผลอปิดเสียงไปตอนไหนไม่รู้ มีอะไรหรอ?” 

 

แหม่ๆๆ เสียงสองเลยนะพ่อคู้ณณ ปกติเก๊กเข้มกว่านี้หนิ โดนผีเทเลทับบี้เข้าสิงรึไง?

 

“ทวิตซ์จ๋าา…ใครโทรมาหรอ?” 

 

ฉันเจ๋อสอดเสีียงหวานยั่วยวน จงใจให้ปลายสายได้ยิน

 

นี่! ไม่ว่าหล่อนจะเป็นหวานปริศนา ยูแชนักล่าแต้ม หรือยัยนุ่มนิ่มวงเล็บติ๊งต๊อง รู้ไว้ซะ! น้องฉันมีเจ้าของ!

 

ทวิตซ์รักฉันคนเดียวย่ะ! รักที่สุดในโลกด้วย! ตั้งแต่มี๊ตายฉันก็เป็นดุจศาสนาช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจเค้า 

 

พวกหล่อนเป็นใครจะมาพรากเราจากกัน!!!

 

“อ๋อ…เพื่อนที่โรงเรียนน่ะ” 

 

ฮึ่ย! อ๋อลากยาวเชียวนะ…

 

“ไม่เอาซี้~ วางสายไปเลย มาสนุกกันต่อดีกว่า” 

 

ฉันยังแกล้งใช้ท่าไม้ตายต่อไป 

 

หัวใจของยัยปลายสายน่ะ ไอ-จะขยี้-ให้แหลกคึ!

 

“เอล!” 

 

ทวิตซ์ตะคอกดุจริงจัง 

 

เค้ามักเรียกชื่อฉันย่อๆ ว่า ‘เอล’ ตอนหงุดหงิดไม่พอใจ เหมือนแมวเหมียวพองขนขู่

 

หมับ!

 

มือหนาชิงปิดผนึกปากสวยแน่นสนิท

 

ชิ! รอดไปนะยัยบ้า -x-

 

“ยังไม่สะดวกคุย ไว้เจอกันตอนเย็นนะ ฉันจะรีบไป” 

 

ทีฉันล่ะเสียงแข็ง…นังนั่นมันเป็นใคร!? ทำไมสายตาต้องอ่อนยวบยาบเป็นมาร์ชเมลโล่ขนาดนั้นย๊ะ!!!

 

“ผมต้องกลับแล้ว” 

 

ทวิตซ์เก็บมือถือลงกระเป๋า บอกลาห้วนๆ 

 

…แต่นายเพิ่งมาเองนะ T^T

 

ฉันทำหน้าอ้อนเหมือนจะร้องไห้ 

 

“งื้อ…อุ้มหน่อยจิ” 

 

“เฮ้ออ” 

 

เขาไม่ได้ถอนหายใจจริงๆ แต่จงใจลากยาวให้ฉันรู้ว่ารำคาญเหลือทน 

 

โหดร้ายย~ นี่พี่เองเอเดลไง TOT คนที่คอยช่วยนายซ่อนผ้าปูตอนฉี่ราด!

 

น้องชายฉันใจดีเสมอ แม้สีหน้าไม่สบอารมณ์ดูอยากแจ้นไปหามะเมียแทบแดดิ้น แต่สุดท้ายก็ยอมอุ้มท่าเจ้าหญิงส่งฉันกลับเตียง…

 

โฮ~ ช่างน่าเศร้า สักวันสาวที่นายอุ้มขึ้นเตียงคงไม่ใช่ฉันแล้วสินะ

 

.

 

ฝันร้ายกำลังยืนจ้องหน้าฉัน 

 

ใช่ ทวิตซ์พาแฟนมาบ้าน! 

 

นับตั้งแต่วันนั้นฉันก็พยายามโทรไปก่อกวนเธอ แต่ยัยนั่นไม่เคยรับสาย แถมยังบล็อคเบอร์ฉันอีก!

 

“N…Nice to meet you” 

 

นังบ้านี่กำลังล้อเลียนฉันหรอห๊ะ!? ละดูสิทำเป็นหัวร่อต่อกระซิกอะไรกันมิทราบ! เหม็นความรักโว้ยยย >[]<

 

ถึงฉันจะใจแคบแต่เป็นคนมองโลกในแง่ดี อย่างน้อยเธอก็พอเจียมตัวอยู่บ้าง ไม่จ้องฉันด้วยสายตาร้ายกาจ

 

…ไม่สิ มีหน้าเดียวมากกว่า

 

 

แต่ไม่ปฏิเสธหรอกนะ ว่าเธอมีแรงดึงดูดบางอย่าง โดยเฉพาะดวงตาที่สื่อชัดยิ่งกว่าคำพูด 

 

หลงใหล เอ็นดู งุนงง ประหม่า หลากอารมณ์ ทั้งเรียบง่ายน่าค้นหา…

 

เข้าใจล่ะ ฉันคงห้ามไม่ได้ ในเมื่อนายชอบสวมบทเป็นนักสำรวจแต่เด็ก

 

ถึงอย่างนั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยึดโยงพวกเขาอย่างเด่นชัด

 

…ความรัก?

 

ถึงไม่แน่ใจนัก แต่สายตาแบบนั้น ฉันเคยเห็นมาก่อน ตอนที่แด๊ดและมี๊จ้องมองกัน…มันน่ากลัว

 

.

 

ใช่ วันนั้นฉันสวมบทเป็นนางมารร้ายทำลายความรัก…แต่กลับกลายเป็นว่า ยิ่งทำให้เหนียวแน่นกว่าเดิม

 

“แฟนนายไปไหนซะล่ะ?” 

 

ฉันเอ่ยถามระหว่างซ้อมกิจกรรมเข้าจังหวะ 

 

ฮั่นแน่~ แค่เต้นรำจ้า เต้นรำ

 

“เลิกกันแล้ว” 

 

เจ้าหนุ่มผมเงินทำหงอย

 

มิน่า ช่วงนี้กลับบ้านบ่อยเชียว…

 

“จริงหรอ?” 

 

ฉันถามยืนยันเพื่อความแน่ใจ เราจะได้ฉลองกันซักที

 

“ยัยนั่นว่างั้น แต่ผมไม่ยอมหรอก” 

 

สายตาสีฟ้ายังคงมุ่งมั่นหนักแน่น 

 

ประทานโทษ โดนเล่นของรึเปล่า?

 

“ซื่อ-บื้อ” 

 

มันน่าด่าจริงๆ 

 

“รีบไปง้อสิ” 

 

อาจเพราะพลังจิตฝาแฝดเชื่อมถึงกัน ฉันเลยเข้าใจความรู้สึกทวิตซ์และเผลอพูดแบบนี้ออกมา 

 

“มัวแต่ซ้อมกับฉันมันจะได้เรื่องมั้ยเนี่ย?” 

 

“ใกล้สอบแล้ว ผมไม่อยากกวนใจ” 

 

โธ่ ยิ่งน่าหมันไส้กว่าเดิม

 

“จ้าา พ่อพระเอก ขอกระโถนได้มั้ย? ฟังละอยากอาเจียน โดนคาบไปกินไม่รู้ด้วยน้า~” 

 

ฉันยียวนกระตุกต่อมหึง รู้ดีว่าเค้าเป็นคนขี้หวงแค่ไหน

 

“ไม่มีทาง ยูแชรักผมจะตาย” 

 

เกือบลืม มันกำเม็ดมั่นมาเกิดนี่หว่า =_=

 

“รักแล้วเลิกทำไม เพี้ยนรึไง?” 

 

คราวนี้ฉันเริ่มข้องใจความคิดยัยนั่นแทน…แม้เป็นมือวางยาเอง

 

ละดูเหมือนทวิตซ์จะคิดเหมือนกันเปี๊ยบ

 

“นั่นน่ะซี้” 

 

สองเท้าก้าวตามจังหวะ

 

“แต่ผมเชื่อนะ สิ่งที่เธอทำมักถูกต้องเสมอ” 

 

รอยยิ้มหวานละมุนเมื่อคิดถึงผู้หญิงของเขา ทำเอาเพลงโรแมนติกดูจืดไปเลย

 

“คิกๆ พ่อคนคลั่งรัก No.1” 

 

โคตรจี้~ ตกหลุมรักจนปีนไม่ขึ้นซะละน้องฉัน 

 

ดูไว้นะ ตัวอย่างชั้นดีของพวกความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด พร่ำสอนแทบตายดันโดนสาวหักอก

 

“Cupid's chokehold~” 

 

สมควรโดนแซวอีกหนึ่งดอก 

 

ดูท่ากามเทพคงไม่ปล่อยนายไปง่ายๆ

 

ทวิตซ์จับร่างบางหมุนรื่นเริงสนุกสนาน

 

“รอพี่พลาดท่าบ้างเถอะ ผมจะล้อให้ม้วนต้วน!” 

 

โรมิโอนักรักกดเสียงหมันเขี้ยว

 

“โฮะๆ ไม่มีวันนั้นหรอกย่ะ” 

 

.

 

ความรักมักมาพร้อมหายนะ ดูสภาพนายตอนนี้สิ ไม่เหมือนเจ้าเด็กซุกซนที่ฉันคุ้นเคย นอนแน่นิ่งเป็นผัก…

 

แล้วไหนล่ะ คนที่นายเชื่อมั่นนักหนา นังนั่นไปมุดหัวอยู่ไหน!?

 

มีแต่ยัยหวานเฟรนโซน นั่งร้องไห้กระจองอแงโคตรน่ารำคาญ!

 

“มืออย่าหยุดสิย๊ะ! ช่วยฉันก๊อน!!!” 

 

“ฮึก! ตาบอดรึไงคะ? ฉันก็กดอยู่นี่ไงเล่า!!! ฮือออ นิ้วจะหัก…อยู่แล้ว!!!!” 

 

“บ้องตื้น! กดบ้าบออะไรหลุดขอบจอไปดาวอังคาร! ฮือ…นี่เธอโง่ ฮึก! หรือง่าวห๊าาา…!!!” 

 

“แง๊งงงงง TTTT O TTTT” 

 

หยุดร้อง! หนวกหูว๊อย!!! TOT ทั้งโลกมีหล่อนเศร้าอยู่คนเดียวรึไงย๊ะ!?

 

“…ทำอะไรกันครับ?” 

 

ฉันกับหวานระดมโทรส่งข้อความหายัยยูแชกันบ้าคลั่ง ทั้งที่ร้องไห้น้ำตาแทบไหลเป็นสายเลือด ไม่มีเวลาตอบไอ้หนุ่มลีโอผู้จ้องมองสถานการณ์อย่าง

งุนงง

 

แต่สุดท้ายคนที่พานังตัวดีย์มาได้ กลับเป็นตาอ๊องนั่นเนี่ยนะ???

 

 

หวังว่านายจะพอใจนะทวิตซ์ ตอนนี้แฟนสาวจอมขี้แยงอแงเป็นเด็กเชียว ข้าวปลาไม่ยอมกิน เอาแต่นั่งเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ข้างเตียง ถ้าไม่อยากเห็น

นกเงือกตัวเมียตรอมใจตาย…ต้องรีบฟื้นนะ

 

อีกอย่าง ฉันไม่ค่อยไว้ใจรูมเมทหน้าหล่อของนายเท่าไหร่เลย ตานี่เหมือนพวกชอบตีท้ายครัวชอบกล ถึงโอกาสตีแตกจะมีแค่ 0.001% แต่ความเป็น

ไปได้ยังคงอยู่ที่ 50-50 ถ้าบังเอิญผีผลักขึ้นมา น้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่!

 

ส่วนยัยหวานนั่นก็ประหลาดหลงนายขนาดนั้น ดันไม่กล้าแตะตัว ทนเหม็นความรักไม่ไหวหายต๋อมไปละ

 

เหลือแค่ฉันนั่งเป็นเอ็กตร้าประกอบฉากสัปผงกอยู่บนโซฟา เผอิญเห็นเหตุการณ์ประหนึ่งซีรี่ส์เกาหลี

 

ลีโอถอดเสื้อนอกคลุมไหล่ให้ยูแชผู้มีสายตาเหม่อลอยระทมทุกข์

 

“ไม่เป็นไร” 

 

เธอรีบส่งคืนทันที เมื่อสติสตังกลับเข้าร่าง

 

“ดื้อแบบนี้ตลอดหรอ? ทวิตซ์จะโกรธเอานะ ถ้ารู้ว่าฉันปล่อยให้เธอนั่งหนาวสั่นเป็นเจ้าเข้า” 

 

อะไรวะนั่น =-= บทยังกะพระรอง กล้าดียังไงสะเออะคิดแทนน้องฉัน!

 

“…ขอบใจ” 

 

ละหล่อนไปคล้อยตามมันทำไม๊!?

 

ฟึ่บ!

 

“หนาวจัง” 

 

ฉันฉกเสื้อไอ้หม้อลีโอมาใส่หน้าตาเฉย ก่อนล้มตัวนอนจุ้มปุ๊กต่อ ทำทั้งคู่อึ้งกิมกี่

 

ยัง! ยังไม่หมด มีก๊อกสอง! 

 

วันต่อมาไอ้หัวทองนั่นก็กลับมาอีก พร้อมกล่องเค้กสตอเบอรี่หวานฉ่ำ

 

“กินสิ ทวิตซ์คงไม่อยากตื่นมาเห็นเธอผอมแห้งเป็นไม้เสียบผี” 

 

เอ๊ะ! บอกว่าอย่าสะเหร่อคิดแทนน้องฉันไงตาเบื๊อก!

 

“…” 

 

คราวนี้ยูแชแน่นิ่งไปเลย

 

…เธอจะปฏิเสธใช่มั้ย?

 

“ฮึก ฉันเกลียด…สตอเบอรี่” 

 

แม่สาวน้อยบ่อน้ำตาแตก เสียงสั่นเครือ ช่างดูเจ็บปวดทรมาน ทำลีโอช็อคค้าง

 

ไม่เป็นไรทุกคน โปรดอยู่ในความสงบ เดี๋ยวเจ้รับจบเอง

 

ฟึ่บ!

 

“แต่ฉันชอบสตอเบอรี่ ^^” 

 

“=[]=” 

 

ลีโออ้าปากหวอ ตั้งท่าพูดอะไรซักอย่างแต่เสียงติดในลำคอ 

 

ไหงทำหน้าเหมือนโดนผีหลอกอย่างงั้นล่ะ?

 

ส่วนยูแชก้มหน้าซุกร่างทวิตซ์ ปล่อยโฮหนักกว่าเดิม เหมือนจะฟ้องแฟนหนุ่มว่า 

 

‘ช่วยด้วย ฉันโดนรังแก’

 

หมับ!

 

ฉันคว้ามือคนเอ๋อออกจากห้อง ปล่อยพระนางเค้าเล่นบทดราม่าตามลำพัง 

 

เดินมาถึงบันไดหนีไฟจนมั่นใจว่าไม่รบกวนใครแน่ จึงดันผลักร่างสูงติดกำแพง สวมบทจิ๊กกี๋สั่งสอน แผ่รังสีอำมหิตยิ้มเหี้ยมเกรียม จ้องนัยน์ตามรกต

งุนงง

 

“นั่นแฟนน้องฉันนะ…ทำอะไรให้เกียรติกันบ้าง ^^” 

 

ตานั่นนิ่งคิดไล่เรียงการกระทำในหัวอยู่พักนึง ก่อนเปรยยิ้มสบายๆ ไม่ยี่หระ

 

“ฉันแค่ทำในฐานะ’ เพื่อน’ ไม่เคยคิดเกินเลยอะไร” 

 

“แต่มันเกินขอบเขต” 

 

ความรู้สึกของฝาแฝดเชื่อมถึงกันเสมอ ฉันสัมผัสได้ว่าถ้าเป็นทวิตซ์ตอนนี้ต้องหึงแน่!

 

ความสัมพันธ์ครอบครัวเละเทะ ทำให้เราต่างไม่ไว้ใจใคร…

 

ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่เกี่ยวว่ามั่นคงแค่ไหน ผู้หญิงกำลังอ่อนแอ พอมีคนทำดีด้วยอาจเผลอไผลตามน้ำได้ง่าย 

 

ฉันจำเป็นต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

 

“แหม ขอบใจที่เตือนนะ ^^” 

 

ผีเห็นผี ตานี่มันดื้อเงียบ แค่รับฟังแต่ไม่ปฏิบัติตามชัวร์ 

 

พวกหัวแข็งจนสว่านเจาะไม่ผลุ Not my type! ฉันล่ะโคตรเกลียดเลย -*-

 

“เธอเนี่ยเหมือนทวิตซ์จนน่าขนลุก ทั้งรอยยิ้ม นิสัย ยันความคิด” 

 

มือใหญ่ผลักร่างฉันออก ขีดเส้นแบ่งระยะ

 

ไอ้สายตาแบบนั้นมันอะไร…ไบเซ็กชวลรึไง? 

 

ชอบฉันหรือทวิตซ์?

 

ทำไมนายถึงเลือกคบแต่คนที่มันดูสุ่มเสี่ยงเสียเอกราชจังล่ะน้องชาย

 

ปั่ก!

 

ฉันปัดมือลีโอออก กรีดยิ้มเจ้าเล่ห์ยื่นหน้าใกล้ร่นระยะ

 

“ไม่ใช่สเปค…” 

 

นิ้วเรียวแตะวนวาดก้นหอยบนอกแกร่ง หัวเราะในลำคอสนุกสนานสวมบทปีศาจน้อยซุกซน 

 

“แต่ให้เล่นสนุกด้วยได้อยู่นะ~” 

 

หนุ่มไร้เดียงสา ใจเปราะเหลาะแหละ เบือนหน้าหนี กลืนน้ำลายหนืดลงคอ…

 

หว๋า~ พวกน่าเบื่อ

 

เอ้า รีบตื่น! พี่อุตส่าห์ถ่วงเวลาให้นายแล้วทวิตซ์ 

 

ราชินีน้ำแข็งอย่างฉัน ไม่อยากเขมือบพ่อพระอาทิตย์สีทองให้ร้อนท้องหรอกนะ

 

-The end of Edelweiss sides-

 

 

…..

 

……..

 

‘7 วันแห่งการสร้างโลก’

 

-วันแรก พระเจ้าแยกแสงสว่างออกจากความมืด-

 

สถานะของเรากลับมาชัดเจนอีกครั้ง…คืนนั้นเราเลิกกัน นายถูกรถชนนอนโคม่า โดยที่ฉันไม่รู้อะไรเลย

 

.

 

-วันต่อมา พระองค์แบ่งน้ำออกเป็นสองส่วน เกิดเมฆหมอกพร่ามัวและมหาสมุทรลึกล้ำ-

 

เพราะมือถือพัง ไม่มีใครติดต่อได้ ฉันเก็บตัวฟุ้งซ่าน ว้าวุ่นอยู่กับเรื่องตัวเอง จนสายตาพร่ามัวเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาย

 

.

 

-วันที่สาม ทรงสรรค์สร้างผืนดินเสถียรมั่นคง อุดมสมบูรณ์ด้วยเมกไม้-

 

ฉันเอาแต่นั่งเฝ้าร่างไร้สติอยู่อย่างนั้น เอเดลแวะเวียนมาบ่อยที่สุด ส่วนหวานขอตัวกลับก่อน 

 

สองคนนี้ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ จนฉันต้องคอยห้ามศึกตลอด

 

อ้อ พ่อนายมาเยี่ยมด้วยนะ พกดอกไม้กับของฝากจากทุกคนจัดวางเต็มพื้นที่จนหอมฟุ้ง เนรมิตห้องผู้ป่วยเป็นแดนสวรรค์ 

 

คุณอาเล่าว่า ไม่อยากให้ใครรบกวนและดูท่าห้องนี้คงแคบเกินไป เขาเลยบอกให้ทุกคนส่งของเยี่ยมไข้ไปที่บ้านแทน

 

อารมณ์ขันของพระเจ้า สะท้อนผ่านสายตาเล่นเอาขำไม่ออก…

 

เจ้าชายดอกไม้ผู้รายล้อมด้วยความรักที่เขาหวาดกลัว ฉันหวังว่านายจะฟื้นขึ้นมาพิชิตมันได้ในสักวัน

 

.

 

-วันที่สี่ กำเนิดดวงอาทิตย์และแสงดาวส่องสว่าง-

 

ช่วงนี้เจอลีโอบ่อย ตานั่นมีน้ำใจยกเสื้ออุ่นๆ ให้…

 

ไม่ต้องห่วงฉันอาบน้ำหลายรอบแล้ว นายไม่ชอบให้มีกลิ่นผู้ชายคนอื่นใช่มั้ยล่ะ? 

 

แสบกว่านั้นคือเค้าดันเอาเค้กสตอเบอรี่มาฝาก วนฉากเดจาวูจนฉันร้องไห้คิดถึงนายแทบแย่

 

แต่เพราะลีโอ ฉันถึงเริ่มคิดว่า ควรดูแลตัวเองบ้าง จะได้มีแรงเฝ้ารอนายต่อไป

 

นี่ ทวิตซ์…ความหวังของพวกเราก็เหมือนกับดาว มันยังคงอยู่ตรงนั้นเสมอ แม้ไม่เด่นเท่าแสงตะวัน 

 

และยิ่งเห็นชัดเจนเมื่อเผชิญความมืดมิด

 

…ทุกคนรอนายอยู่นะ

 

.

 

-วันที่ห้า เหล่าสรรพสัตว์สุขสันต์ แวะเยี่ยมเยือนความงามจากฝีพระหัตถ์ น้อมรับคำอวยพรให้ลูกดกแผ่ขยายเผ่าพันธุ์ทั่วแดนดิน-

 

บรรยากาศครื้นเครงเป็นพิเศษ ปลาดาวและแคคตัสแวะมาเยี่ยม 

 

พวกเขามีพัฒนาการ ในที่สุดเธอก็ยอมให้ไอ้แว่นจับมือถือแขนแบบคู่รักปกติ หมอนั่นเห่อจับไม่ปล่อยยังกะติดกาว นายเห็นต้องขำกลิ้งแน่

 

ฉันสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างเอเดลกับลีโอด้วยนะ ช่วงนี้เธอชอบแกล้งยั่วปั่นหัวเค้าเล่น ทำเอาเจ้าชายแสงตะวันเสียทรงใจเหลวเป๋วน่า

สงสาร อย่าลืมขอบคุณเขาด้วยล่ะ ผู้ชายแสนดีที่รองรับอารมณ์ให้พี่นายน่ะ

 

ช่วงเวลาปิดเทอมเล็กแสนสั้น ทุกคนต้องแยกย้ายกลับไปจัดการธุรของตัวเอง

 

ห้องนี้เหลือแค่เราอีกครั้ง…

 

ความรู้สึกเศร้ายังคงอยู่ หากแต่มันถูกบดบังด้วยความหวังและกำลังใจมากมาย

 

.

 

ทุกลมหายใจของฉัน เฝ้าอธิษฐานให้วันที่หกมาถึง…

 

-อดัมลืมตาตื่นจากเถ้าธุลีอย่างแจ่มใส มีอีฟอยู่เคียงข้างกาย ดื่มด่ำครอบครองทุกความสุขที่พระองค์ทรงประทาน-

 

……..

 

…..

 

 

สัมผัสบางเบานุ่มนวลของบางสิ่งเขี่ยปัดหน้า ปลุกฉันตื่นจากฝัน

 

“อ่า ขอโทษครับ คือ…ผมคุณมันเกะกะตา” 

 

ท่าทางเก้ๆ กังๆ และดวงตาสีน้ำทะเลประหม่าจัดของหนุ่มหน้าสวยเรือนผมเงิน ที่พูดจาสุภาพเกินเหตุ ทำเอาฉันสร่างง่วง ตาเบิกโพล่ง O_O

 

บอกทีว่าไม่ใช่ฝัน…!?

 

หมับ!

 

ร่างกายโผเข้ากอดไวกว่าความคิด จนอดีตเจ้าชายนิทราสะดุ้งโหยง

 

ช่างหัวเรื่องต่อจากนี้ ฉันไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น! แค่อยากกอดเค้าไว้ให้แน่นที่สุด…

 

“ฮึก…” 

 

ก้อนสะอื้นและน้ำตาแห่งความปิติยินดีหลั่งไหล มือหนาลูบปลอบหัวอ่อนโยน 

 

ความอบอุ่นคุ้นเคยเติมเต็มหัวใจฟูฟ่อง ขจัดความหม่นหมอง

 

แต่ไม่กี่นาทีต่อมา…หัวใจฉันกลับแตกสลายอีกครั้ง ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว

 

“คุณเป็นใคร?” 

 

“…” 

 

ประกาศิตประกาศหยุดเวลา 

 

เอเดลและลีโอที่นอนซบกันทั้งคืน ตื่นขึ้นทันได้ยินคำนั้นพอดี

 

อ้อมกอดของฉันคลายออกอัตโนมัติ จ้องมองแฟนเก่าที่ตอนนี้เป็นยิ่งกว่าคนแปลกหน้า

 

…นายไม่ได้เล่นมุกใช่มั้ย?

 

แน่ล่ะ แววตานั่นบอกชัดอยู่แล้ว

 

‘ไม่เหลือแม้เศษเสี้ยวความทรงจำ’

 

 

“ทวิตซ์!!! แล้วฉันล่ะ จำได้มั้ย?!” 

 

เอเดลพุ่งเข้าแทรกเขย่าตัวน้องชายเป็นขวดยาคู้ไร้ความปราณี

 

“มะ ไม่ได้ ใครอ่ะ??” 

 

เค้ายิ่งดูสับสนหนักกว่าเก่า

 

“รอแป๊บนะ! ฉันไปเอากระจกมาให้ คำตอบอยู่ในนั้นแหละ!!!” 

 

เอเดลลุกลี้ลุกลนค้นกระเป๋า ในขณะที่ทวิตซ์ก้มหน้าจับคางพยายามครุ่นคิด

 

“อ๋อ” 

 

เสียงอุทานแห่งความหวังชวนให้ลุ้นตัวโก่ง 

 

“…บลัดดี้แมรี่?” 

 

งึด

 

ราชินีผมเงินกำหมัดแน่นสั่นระริก หักคอหันมองสโลโมชั่น 

 

หน้าเอเดลเหมือนจะกินหัวไอ้น้องชายปากร้าย ที่ไม่รู้ในหัวสมองหลงเหลืออะไรไว้บ้าง ถึงได้หลุดปากหาว่าพี่เป็นผีในกระจก

 

โชคดีลีโอล็อคตัวทัน พยายามกล่อมให้เธอสงบสติอารมณ์ 

 

“นั่นคนป่วย Calm down… Calm down…” 

 

คงเป็นสัญชาตญาณเอาตัวรอดที่เจ้าตัวสั่งสมมา จากสายตางุนงงเริ่มผันเปลี่ยนนิ่งสงบกวาดสำรวจ ค่อยๆ ปรับตัวตามสถานการณ์ 

 

“แฟนเธอหรอ?” 

 

ทวิตซ์เอียงคอถามล็อคเป้าหมายที่สอง มองหน้าลีโออย่่างสงสัย เล่นเอาเงียบไปพักใหญ่

 

เอิ่ม นั่นสิ สองคนนั้นเป็นอะไรกัน… 

 

‘เฟื่อน’ รึเปล่า?

 

“เหมือนใช่ม๊าาา~ ^0^” 

 

เอเดลยิ้มย่องภาคภูมิใจอะไรซักอย่าง โยนอารมณ์ขุ่นเคืองทิ้ง

 

ร่างสูงบนเตียงผู้ป่วยหัวเราะในลำคอเบาๆ 

 

“เปล่า แกล้งถามเฉยๆ” 

 

“…” 

 

ต้องเป็นคนยังไง??? กวนส้นอะไรปานนั้น =-=

 

เริ่มไม่มั่นใจละ…หรือตานี่แอ๊บความจำเสื่อม?

 

“…ก็เห็นเครียดกันนี่นา” 

 

ทวิตซ์ช้อนตามองน่าเอ็นดูขออภัย 

 

รอยยิ้มทะเล้นของเจ้าชายดอกไม้ทำลายบรรยากาศมาคุ สะกดจิตหมู่คนทั้งห้อง เริ่มคล้อยตามอารมณ์ขัน

 

“ฮ่าๆๆ สำเนาถูกต้อง ^o^” 

 

ลีโอระเบิดหัวเราะโปรยแจกความสดใส

 

“ไอ้ตัวแสบ” 

 

รอยยิ้มสวยของเอเดลคลายกังวล

 

สายตาสีครามพึงพอใจ ทอดมองผู้คนรอบกายอย่างอ่อนโยน

 

เมื่อรู้ตัวว่าโดนจดจ้องเนิ่นนาน ทวิตซ์ก็เริ่มพุ่งเป้าเก็บข้อมูลเหยื่อรายสุดท้ายด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขายิงคำถามเถรตรงใส่ จนฉันตั้งตัวไม่ทัน 

 

“แล้วเราล่ะ เป็นอะไรกัน?”

 

นัยน์ตาฟ้าระยับจ้องคมลึกค้นคำตอบ

 

ฉันนิ่งคิดชั่วครู่ ก่อนกล่าวตอบเสียงเรียบ 

 

“เพื่อน” 

 

ไม่ใช่คำโกหก ทั้งสายตาของนายและระยะห่างระหว่างเรา บ่งบอกว่าเป็นได้แค่นั้นจริงๆ 

 

ถึงจะรู้สึก…เจ็บแปลบในอกก็เถอะ แต่สถานะนี้น่ะเหมาะสมที่สุด

 

“แฟ-” 

 

แป๊ะ!

 

ลีโอตั้งท่าเจ๋อเฉลยความสัมพันธ์ ถูกเอเดลสะกัดดาวรุ่งใช้มือตบปิดปากดังแป๊ะ 

 

นะ…น่าสงสารจัง =o=;

 

“เพื่อนหรอ?” 

 

นัยน์ตาฟ้าแสกนจับคำลวง ซึ่งไม่มีตั้งแต่แรก

 

“ใช่ ฉันเป็นเพื่อนนาย” 

 

เมื่อได้ยินย้ำชัดอีกครั้ง ริมฝีปากบางสวยก็คลี่ยิ้มขี้เล่น มือซนหมันเขี้ยวขยี้หัวฉันฟูเพิ้งเป็นรังนก

 

“อ้อเหรอคร้าบ~ ขอบใจนะเพื่อน!” 

 

“ปล่อยน๊ะ! >O<” 

 

ฉันตวาดเสียงแข็ง ปัดมือออกอย่างหงุดหงิด!

 

ใบหน้าสวยสังหารฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ ทิ้งคราบคนป่วยใกล้ตายเป็นปลิดทิ้ง

 

“เพราะกอดของเธอเลย ฉันถึงรู้สึกปึ๋งปั๋งขึ้นมา ^^+” 

 

อีตานี่…ปึ๋งปั๋งหรอย๊ะ!?!

 

ปั๊ก!

 

“โอ๊ย” 

 

ฉันทุบกำปั้นลงอกแน่น สั่งสอนไอ้คนพูดจาเสี่ยวทะลึ่งตึงตัง!

 

ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก

 

และยังคงทุบรัวต่อเป็นกลองชุด เพื่อระบายความโกรธ

 

ร่างสูงยอมรับกรรมปล่อยให้ฉันกระทำจนหนำใจ

 

เมื่อโทสะหมดหลอด เหลือเพียงเสียงหอบถี่และกำปั้นเจ็บจนผิวชา สายตาเอ็นดูที่จ้องมองมาก็ทำให้ฉันเกลียดเค้าไม่ลงทุกที…

 

“ฮะ ฮะๆๆ” 

 

ฉันเริ่มบ้าจี้หัวเราะดีเลย์ตามหลังชาวบ้าน

 

อื้ม เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว นับถือเลย ตัวตนนายนี่มันยืนยงคงกระพัน 

 

เล่นซะฉันที่เคยหัวใจแตกสลาย กลายเป็นยัยโง่ไปเลย

 


 

(จบตอน)

 

ลาเวนเดอร์; การรอคอยด้วยความหวังอันเปี่ยมล้น

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา