นิรันดร์รัตติกาล
-
เขียนโดย zarat
วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 04.28 น.
7 ตอน
2 วิจารณ์
1,697 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 22.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ฉลองวันเกิด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(ร้องเพลง)แฮปปี้เบิด เดย์ ทู๊ ยู ~~~ วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ !!!!!!!
“เป่าเลยๆๆๆๆๆๆๆ” (เสียงเชียร์จากมาร์คัส)
อลิซประสานมือหลับตาและอธิษฐานชุดใหญ่ ขอตั้งแต่สุขภาพ โชคลาภ และคู่ครอง
“เป่าซะทีเถอะน่า ยัยแก่ ฉันเมื่อย” มาร์คัสบ่นในขณะที่ถือเค้กให้อลิซ
“ใครแก่ ไอเด็กบ้า ถือนิ่งๆเถอะน่า” อลิซบ่นกลับ
“ฟู่” (เสียงเป่าเค้ก)
“เย้!!!!!!”(เสียงทุกคน)
“มีความสุขมากๆนะหลานรัก 20 ปี มันไวจริงๆ ย่ายังรู้สึกเหมือนหลานยังเป็นตัวน้อยอยู่เลย” ย่าพูดพลางเอามือลูบหัวอลิซ
“หนูก็ยังเป็นตัวน้อยของย่าน้า” อลิซพูดพลางสวมกอดคุณย่าและพยายามแกล้งๆจะนั่งตัก
“555 กระดูกจะหัก” ย่าพูดพลางหัวเราะ
“ดึกมากแล้วสินะ”ย่าพูดพลางมองไปที่นาฬิกา
“’งั้นหนูไปส่งย่าเข้านอนนะคะ”อลิซประคองส่งย่าถึงเตียงนอนพร้อมห่มผ้าให้ ในขณะที่ลุกขึ้นนั้น
หมับ!!! ย่าคว้าแขนอลิซไว้ พร้อมพูดเบาๆ .”ย่ารักหนูมากนะลูก” ย่าน้ำตาไหล
“ไม่ร้องน้า หนูก็รักย่าค่ะ จุ๊ฟ!’’ อลิซพูดแล้วก็จุ๊ฟที่หน้าผากคุณย่า แล้วก็เดินออกจากห้องมา
ปกติเราจะบอกรักกันทุกวันอยู่แล้ว แต่วันนี้ฉันรู้สึกแปลกใจนิดๆ มันโหวงๆแปลกๆ (อลิซยืนครุ่นคิดอยู่พักนึง)
“ลิซ คิดอะไรอยู่” มาร์คัสพูดเรียกสติ
“เปล่า แค่รู้สึกแปลกๆ บอกไม่ถูก”
“วัยทองล่ะมั้ง”มาร์คัสพูดพร้อมทำหน้ากวนตีนใส่ ฉันหันไปมองค้อน นางก็หัวเราะสบายใจ ราวกับว่าวันไหนไม่ได้ยั่วโมโหจะนอนไม่หลับ
มาร์คัสกับฉันเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก นางเด็กกว่าฉันแค่1เดือน แต่เรียกฉันว่ายัยแก่มาตลอด น่าโมโหมั๊ยล่ะ แต่ก็ดีที่มีนางเป็นเพื่อน คอยช่วยเหลือหลายอย่าง ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้กัน พ่อกับแม่มาร์คัสก็รู้จักกับคุณย่า เลยไปมาหาสู่กันบ่อย แทบจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เค้าคงเอ็นดูที่ฉันอยู่กับย่าสองคน พ่อแม่ก็เสียไปหมด
หลังจากช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะเสร็จ มาร์คัสก็กำลังจะเดินกลับบ้าน ฉันเดินไปส่งที่ประตู แล้วมาร์คัสก็ยื่นของขว้ญกล่องเล็กๆมาให้
“อ่ะ สุขสันต์วันแก่” ยื่นของมาแต่หน้ามองฟ้าแก้เขิล
“ว๊าย แตงกิ้วน้า เกรงใจอ่า จริงๆไม่ต้องลำบากเลย”ฉันพูดพร้อมรีบคว้าของขวัญมาแกะอย่างไว
“โหย สวยมาก ทำเองเลยเหรอ”ฉันชูสร้อยขึ้นแล้วมองอย่างปลื้มใจ
“อื้ม สร้อยนี้ทำจากเขี้ยวหมาป่าแท้เลยนะ มันเป็นเครื่องรางนำโชคช่วยให้ปลอดภัยจาก..........................
“จาก?”ฉันขมวดคิ้วสงสัย
“ก็จากสิ่งชั่วร้ายต่างๆไง ใส่ไว้ซะ เวลาเธอมีปัญหาฉันจะรีบมาช่วย”
“แหม โรแมนติกเชียว จะจองฉันไว้ก่อนล่ะเซ่ รีบๆมาขอน้า เดี๋ยวคนอื่นจะมาฉุดไปก่อน”
“จองบ้าบออะไร ยัยแก่มั่นหน้า ชิ” มาร์คัสพูดพร้อมหน้าแดงก่ำ แล้วรีบเดินจ้ำอ้าวกลับบ้านไป
ฉันปิดประตูบ้าน แล้วก็รีบขึ้นบ้านอาบน้ำเตรียมเข้านอน
“นอนไม่หลับแฮะ” ฉันพลิกตัวไปมาเพื่อหาท่าที่เหมาะที่จะนอนสบาย
ติ๊ง~~~~ แต่ง~~~~ ติ๊ง ~~~~แต่ง~~~~ เสียงนาฬิกาดังเตือนบอกเวลาเที่ยงคืน
จู่ๆฝนก็ตกหนัก ลมพัดต้นไม้สั่นไหวราวกับพายุเข้า แล้วก็มีฟ้าผ่าลงมาตรงต้นไม้หน้าบ้านพอดี เปรี้ยง!!!เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แสงจ้าจนแสบตาไปหมด ไฟทั้งบ้านดับพรึบ ฉันรู้สึกเป็นห่วงคุณย่า เลยเดินลงมาดู เผื่อท่านต้องการความช่วยเหลือ แต่สิ่งที่เจอคือ ประตูบ้านเปิดออก พร้อมมีรอยเท้าเปื้อนโคลนเดินตรงไปทางห้องคุณย่า ต้องเป็นโจรแน่ ฉันรีบคว้าไม้เบสบอลวิ่งเข้าไปที่ห้องคุณย่า แต่ดันลื่นขี้โคลนซะได้
โครม!!! “โอ๊ยเจ็บ คุณย่าเป็นอะไรรึเปล่า”ฉันตะโกนถามออกไปทั้งๆที่ล้มก้นจ้ำเบ้าอยู๋กับพื้น
ในตอนนั้นมีเพียงแค่แสงจากฟ้าร้องที่ส่องเข้ามา ฉันเห็นเหมือนร่างคนยืนอยู่ใกล้เตียงคุณย่า ฉันรีบลุกแล้วง้างไม้สุดแรงเตรียมฟาดกะว่าเข้าท้ายทอยแน่ๆ แต่ร่างนั้นเอื้อมมือมาจับไม้ไว้ โดยที่ไม่หันมามองด้วยซ้ำ มืดขนาดนี้ทำได้ไงฟะ
“ไอโจรบ้าออกไปเดี๋ยวนี้นะ อยากตายรึไง แม่จะฟาดให้หัวแตก”ฉันพูดพลางพยายามยื้อยุดฉุดกระชากไม้สุดแรงแต่ทว่าไอโจรบ้าไม่ได้ขยับตัวเลยสักนิดแรงจะดีไปไหน ฉันเลยปล่อยไม้แล้วผลักเจ้านั่นแทน และกลายเป็นฉันที่กระเด็นล้มตึงลงไปอีกรอบ
“แกอยากได้อะไรก็เอาไปแต่อย่าทำร้ายฉันกับย่าเลยนะ”ฉันร้องอ้อนวอนโจร ฝนตกขนาดนี้ เรียกใครให้ช่วยคงไม่ได้ยิน ถ้ายังคิดสู้อาจจะแย่ก็ได้ ในระหว่างที่พูด ร่างนั้นก็ยังยืนนิ่ง ไม่พูดอะไร ด้วยความที่โจรใส่ฮุ้ด ฉันเลยไม่เห็นว่าสีหน้ามันเป็นยังไง
“พอเถอะ อลิซ ย่าไม่เป็นไร นี่คนรู้จักของย่าเอง”
“คนรู้จักที่มาหายามวิกาลในคืนฝนตกหนักเนี่ยนะคะ”ฉันถามย่ากลับไป พลางมองที่ชายผู้นั้นอย่างสงสัย
“ออกไปรอข้างนอกสักแปปนึงนะ ย่ามีเรื่องต้องคุยกับเค้า”
ฉันเดินออกมากจากห้องแบบงงๆพร้อมปิดประตู แล้วไฟในบ้านก็ติด ฉันเลยไปปิดประตูบ้าน แล้วจัดการถูคราบรอยเท้าโคลนระหว่างรอเค้าคุยกัน
“คุยกันตอนเที่ยงคืนกว่าเนี่ยนะ บ้าบออะไร”ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง แล้วก็ย่องไปเอาหูแนบประตู ขอเสียมารยาทแอบฟังหน่อยเถอะ มันสงสัยไม่ไหว
“ไม่เจอกันนาน นายท่านยังคงงดงามเช่นเดิม มันถึงเวลานั้นแล้วสินะ”ย่าคุยกับชายคนนั้น ด้วยน้ำเสียงเรียบๆที่แสดงถึงความเคารพ แถมยังเรียกนายท่าน ฉันนี่งงไปหมด
“ยังพอมีเวลาอีก 3 วัน ให้เจ้าได้ทำใจและร่ำลา”เสียงทุ้มๆของคนๆนั้นพูดขึ้น แต่ไม่ใช่เสียงคนแก่ เสียงยังหนุ่มมาก
อะไรกัน นี่คุณย่าจะหนีไปกับตานี่เหรอ OMG ฉันจะถูกทิ้งเหรอนี่ (ความคิดไร้สาระวุ่นวายไปหมด)
“3 วันนี้คงวุ่นวายกันน่าดู พวกฝั่งนู้นคงตามหาอลิเซียกันอยู่เหมือนกัน” ห๊ะ!อลิเซียอะไรกัน หมายถึงฉันเหรอ
“ข้าให้คนเฝ้าไว้ตลอดเจ้าก็รู้”ชายคนนี้เป็นสต้อกเกอร์เหรอ มาตามดูอะไร ฉันได้แต่สงสัย(เงี่ยหูฟังต่อ)
“ข้าสัมผัสพลังงานชั่วร้ายได้ในช่วงนี้ กลัวนางจะไม่ปลอดภัย”
“ก็ว่าสิ กางเขตอาคมแน่นหนา กว่าข้าจะฝ่าเข้ามาได้ไม่ง่ายเลย ขอบคุณนะมาเรีย ที่ช่วยดูแลลูกสาวข้ามาตลอด”ฉันที่ยืนฟังอยู่ อึ้งไปชั่วขณะ ลูกสาว? พ่อเหรอ? เค้าคือพ่อของฉันเหรอ?ฉันที่คิดมาตลอดว่าเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ตายด้วยอุบัติเหตุ ย่าโกหกฉันทำไม? คำถามมากมายวิ่งเข้ามาในหัว ความสับสน สงสัย ปะปนกันไป
โครม!!!!แล้วประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง รอบนี้หลุดมาทั้งบาน
“เจอตัวแล้ว”เจ้าของเสียงนั่นกระโจนเข้ามาบีบคอฉัน แล้วง้างมือ เตรียมเอามีดจ้วงฉัน แต่ตอนนั้นเหมือนมีแสงออกมาจากสร้อยที่มาร์คัสให้ไว้ แล้วจู่ๆก็มีหมาป่าสีขาวตัวใหญ่พุ่งเข้าหาคนที่เข้ามาทำร้ายฉัน หมาตัวนั้นกัดเข้าที่คอของคนร้ายนั่น แล้วลากออกไป แล้วสิ่งที่ฉันเห็นคือคนนั้น ไม่สิ เหมือนไม่ใช่คน มีเล็บยาว เขี้ยวแหลม ตัวซีด ต่อสู้ขัดขืนกับหมาป่าตัวนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นไวจนงง ว่านี่ฝันหรือเรื่องจริง ฉันทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งอยุ่ที่พื้น จากนั้นชายในห้องของย่าก็พุ่งออกมาด้วยความไวแสง เห็นอีกทีคือไปกระชากหัวของคนเขี้ยวยาว หลุดออกมาคามือ เลือดสาดกระเซ็นทั่วบ้าน ฉันยิ่งช็อคเข้าไปใหญ่
“ทำดีมากมาร์คัส ปกป้องนายหญิงของเจ้าได้ดีเช่นเดิม” ชายในฮู้ดหันไปคุยกับหมาป่าตัวนั้น จากนั้นหมาก็กลายร่างเป็นมาร์คัสเพื่อนของฉัน
“ขอรับนายท่าน ด้วยพันธะสัญญา ข้าให้สัจจะไว้แล้วว่าจะปกป้องนายหญิงจนกว่าชีวิตจะหาไม่” มาร์คัสพูดกับชายคนนั้นเหมือนรู้จักกันมานาน
“มันเข้ามาได้โดยที่ข้าไม่รู้ คงไม่ใช่เล่นๆ พอจะรู้มั๊ยว่าเป็นพวกไหน”คุณย่าพูดพลางเดินถือไม้เท้าออกจากห้อง
“ข้าคิดว่าเป็นพวกทหารรับจ้างไร้ฝ่าย ดูจากรอยสัญลักษณ์ที่แขน พวกนี้ทำงานให้ทุกคนที่จ่ายได้มากพอ โดยไม่สนเผ่าพันธ์ใด คงเป็นการส่งมาดูชั้นเชิง”มาร์คัสพูดพลางตรวจศพตัวประหลาดนั้น
“ข้าคงต้องเพิ่มอาคมอีกชั้น กล้าดียังไงถึงกล้ามาบุกรังแม่มดมาเรีย”จากนั้นคุณย่าก็ใช้ไม้เท้าที่ถือมาปักไปที่ศพตัวประหลาด แล้วท่องอะไรสักอย่าง จากนั้นไฟสีเขียวก็ลุกทั่วศพแล้วก็สลายไป
“ท่านทำอะไร”ชายในฮู้ดถามย่า
“ข้าใช้มนตราล้างร่องรอย เผื่อมีใครติดตามมันมา ซึ่งมีแน่ เพราะการจะเข้ามาได้ต้องมีแม่มดเก่งๆช่วย แล้วข้ายังฝากของขวัญไปถึงแม่มดนั่น อยากลองดีกับข้า ก็ต้องเจอหน่อย”
“ป่านี้ฝั่งนั้นคงวายวอดกันไปหมดละ”มาร์คัสพูดพร้อมยิ้มมุมปากซะใจ
“คงต้องเก็บกวาดกันหน่อย”ย่าพูดพร้อมยกไม้เท้ากระทุ้งพื้น วิ๊ง!!! แสงวาบขึ้นมา แล้วบ้านที่เละเทะก็กลับกลายเป็นปกติ
“อลิเซีย เป็นอะไรรึเปล่า”ชายในฮุ้ดหันมาถามฉัน
ฉันไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่มอง3คนตรงหน้า ยังอึ้งว่าเมื่อกี้มัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ โอ๊ย!! เวียนหัวชะมัด แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆพร่าเลือน........
“อลิซ!!!”มาร์คัสพูดพร้อมวิ่งมารับตัวอลิซไว้
“นางหมดสติไปแล้วท่าน”มาร์คัสพูดกับชายในฮู้ด
“พานางไปพักที่ห้องเถอะ จากความทรงจำแบบมนุษย์ คงจะตกใจน่าดู”
“นายท่าน ตอนนี้มีพวกมันหานางเจอแล้ว ไม่นานคงมีพวกอื่นมาอีก คงต้องรีบคืนความจำให้นาง 3 วันอาจจะนานเกินไป เราต้องทำพิธีกันพรุ่งนี้เลย คืนนี้ข้าจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อม”
“ฝากเจ้าด้วยนะมาเรีย”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
“เป่าเลยๆๆๆๆๆๆๆ” (เสียงเชียร์จากมาร์คัส)
อลิซประสานมือหลับตาและอธิษฐานชุดใหญ่ ขอตั้งแต่สุขภาพ โชคลาภ และคู่ครอง
“เป่าซะทีเถอะน่า ยัยแก่ ฉันเมื่อย” มาร์คัสบ่นในขณะที่ถือเค้กให้อลิซ
“ใครแก่ ไอเด็กบ้า ถือนิ่งๆเถอะน่า” อลิซบ่นกลับ
“ฟู่” (เสียงเป่าเค้ก)
“เย้!!!!!!”(เสียงทุกคน)
“มีความสุขมากๆนะหลานรัก 20 ปี มันไวจริงๆ ย่ายังรู้สึกเหมือนหลานยังเป็นตัวน้อยอยู่เลย” ย่าพูดพลางเอามือลูบหัวอลิซ
“หนูก็ยังเป็นตัวน้อยของย่าน้า” อลิซพูดพลางสวมกอดคุณย่าและพยายามแกล้งๆจะนั่งตัก
“555 กระดูกจะหัก” ย่าพูดพลางหัวเราะ
“ดึกมากแล้วสินะ”ย่าพูดพลางมองไปที่นาฬิกา
“’งั้นหนูไปส่งย่าเข้านอนนะคะ”อลิซประคองส่งย่าถึงเตียงนอนพร้อมห่มผ้าให้ ในขณะที่ลุกขึ้นนั้น
หมับ!!! ย่าคว้าแขนอลิซไว้ พร้อมพูดเบาๆ .”ย่ารักหนูมากนะลูก” ย่าน้ำตาไหล
“ไม่ร้องน้า หนูก็รักย่าค่ะ จุ๊ฟ!’’ อลิซพูดแล้วก็จุ๊ฟที่หน้าผากคุณย่า แล้วก็เดินออกจากห้องมา
ปกติเราจะบอกรักกันทุกวันอยู่แล้ว แต่วันนี้ฉันรู้สึกแปลกใจนิดๆ มันโหวงๆแปลกๆ (อลิซยืนครุ่นคิดอยู่พักนึง)
“ลิซ คิดอะไรอยู่” มาร์คัสพูดเรียกสติ
“เปล่า แค่รู้สึกแปลกๆ บอกไม่ถูก”
“วัยทองล่ะมั้ง”มาร์คัสพูดพร้อมทำหน้ากวนตีนใส่ ฉันหันไปมองค้อน นางก็หัวเราะสบายใจ ราวกับว่าวันไหนไม่ได้ยั่วโมโหจะนอนไม่หลับ
มาร์คัสกับฉันเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก นางเด็กกว่าฉันแค่1เดือน แต่เรียกฉันว่ายัยแก่มาตลอด น่าโมโหมั๊ยล่ะ แต่ก็ดีที่มีนางเป็นเพื่อน คอยช่วยเหลือหลายอย่าง ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้กัน พ่อกับแม่มาร์คัสก็รู้จักกับคุณย่า เลยไปมาหาสู่กันบ่อย แทบจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เค้าคงเอ็นดูที่ฉันอยู่กับย่าสองคน พ่อแม่ก็เสียไปหมด
หลังจากช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะเสร็จ มาร์คัสก็กำลังจะเดินกลับบ้าน ฉันเดินไปส่งที่ประตู แล้วมาร์คัสก็ยื่นของขว้ญกล่องเล็กๆมาให้
“อ่ะ สุขสันต์วันแก่” ยื่นของมาแต่หน้ามองฟ้าแก้เขิล
“ว๊าย แตงกิ้วน้า เกรงใจอ่า จริงๆไม่ต้องลำบากเลย”ฉันพูดพร้อมรีบคว้าของขวัญมาแกะอย่างไว
“โหย สวยมาก ทำเองเลยเหรอ”ฉันชูสร้อยขึ้นแล้วมองอย่างปลื้มใจ
“อื้ม สร้อยนี้ทำจากเขี้ยวหมาป่าแท้เลยนะ มันเป็นเครื่องรางนำโชคช่วยให้ปลอดภัยจาก..........................
“จาก?”ฉันขมวดคิ้วสงสัย
“ก็จากสิ่งชั่วร้ายต่างๆไง ใส่ไว้ซะ เวลาเธอมีปัญหาฉันจะรีบมาช่วย”
“แหม โรแมนติกเชียว จะจองฉันไว้ก่อนล่ะเซ่ รีบๆมาขอน้า เดี๋ยวคนอื่นจะมาฉุดไปก่อน”
“จองบ้าบออะไร ยัยแก่มั่นหน้า ชิ” มาร์คัสพูดพร้อมหน้าแดงก่ำ แล้วรีบเดินจ้ำอ้าวกลับบ้านไป
ฉันปิดประตูบ้าน แล้วก็รีบขึ้นบ้านอาบน้ำเตรียมเข้านอน
“นอนไม่หลับแฮะ” ฉันพลิกตัวไปมาเพื่อหาท่าที่เหมาะที่จะนอนสบาย
ติ๊ง~~~~ แต่ง~~~~ ติ๊ง ~~~~แต่ง~~~~ เสียงนาฬิกาดังเตือนบอกเวลาเที่ยงคืน
จู่ๆฝนก็ตกหนัก ลมพัดต้นไม้สั่นไหวราวกับพายุเข้า แล้วก็มีฟ้าผ่าลงมาตรงต้นไม้หน้าบ้านพอดี เปรี้ยง!!!เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แสงจ้าจนแสบตาไปหมด ไฟทั้งบ้านดับพรึบ ฉันรู้สึกเป็นห่วงคุณย่า เลยเดินลงมาดู เผื่อท่านต้องการความช่วยเหลือ แต่สิ่งที่เจอคือ ประตูบ้านเปิดออก พร้อมมีรอยเท้าเปื้อนโคลนเดินตรงไปทางห้องคุณย่า ต้องเป็นโจรแน่ ฉันรีบคว้าไม้เบสบอลวิ่งเข้าไปที่ห้องคุณย่า แต่ดันลื่นขี้โคลนซะได้
โครม!!! “โอ๊ยเจ็บ คุณย่าเป็นอะไรรึเปล่า”ฉันตะโกนถามออกไปทั้งๆที่ล้มก้นจ้ำเบ้าอยู๋กับพื้น
ในตอนนั้นมีเพียงแค่แสงจากฟ้าร้องที่ส่องเข้ามา ฉันเห็นเหมือนร่างคนยืนอยู่ใกล้เตียงคุณย่า ฉันรีบลุกแล้วง้างไม้สุดแรงเตรียมฟาดกะว่าเข้าท้ายทอยแน่ๆ แต่ร่างนั้นเอื้อมมือมาจับไม้ไว้ โดยที่ไม่หันมามองด้วยซ้ำ มืดขนาดนี้ทำได้ไงฟะ
“ไอโจรบ้าออกไปเดี๋ยวนี้นะ อยากตายรึไง แม่จะฟาดให้หัวแตก”ฉันพูดพลางพยายามยื้อยุดฉุดกระชากไม้สุดแรงแต่ทว่าไอโจรบ้าไม่ได้ขยับตัวเลยสักนิดแรงจะดีไปไหน ฉันเลยปล่อยไม้แล้วผลักเจ้านั่นแทน และกลายเป็นฉันที่กระเด็นล้มตึงลงไปอีกรอบ
“แกอยากได้อะไรก็เอาไปแต่อย่าทำร้ายฉันกับย่าเลยนะ”ฉันร้องอ้อนวอนโจร ฝนตกขนาดนี้ เรียกใครให้ช่วยคงไม่ได้ยิน ถ้ายังคิดสู้อาจจะแย่ก็ได้ ในระหว่างที่พูด ร่างนั้นก็ยังยืนนิ่ง ไม่พูดอะไร ด้วยความที่โจรใส่ฮุ้ด ฉันเลยไม่เห็นว่าสีหน้ามันเป็นยังไง
“พอเถอะ อลิซ ย่าไม่เป็นไร นี่คนรู้จักของย่าเอง”
“คนรู้จักที่มาหายามวิกาลในคืนฝนตกหนักเนี่ยนะคะ”ฉันถามย่ากลับไป พลางมองที่ชายผู้นั้นอย่างสงสัย
“ออกไปรอข้างนอกสักแปปนึงนะ ย่ามีเรื่องต้องคุยกับเค้า”
ฉันเดินออกมากจากห้องแบบงงๆพร้อมปิดประตู แล้วไฟในบ้านก็ติด ฉันเลยไปปิดประตูบ้าน แล้วจัดการถูคราบรอยเท้าโคลนระหว่างรอเค้าคุยกัน
“คุยกันตอนเที่ยงคืนกว่าเนี่ยนะ บ้าบออะไร”ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง แล้วก็ย่องไปเอาหูแนบประตู ขอเสียมารยาทแอบฟังหน่อยเถอะ มันสงสัยไม่ไหว
“ไม่เจอกันนาน นายท่านยังคงงดงามเช่นเดิม มันถึงเวลานั้นแล้วสินะ”ย่าคุยกับชายคนนั้น ด้วยน้ำเสียงเรียบๆที่แสดงถึงความเคารพ แถมยังเรียกนายท่าน ฉันนี่งงไปหมด
“ยังพอมีเวลาอีก 3 วัน ให้เจ้าได้ทำใจและร่ำลา”เสียงทุ้มๆของคนๆนั้นพูดขึ้น แต่ไม่ใช่เสียงคนแก่ เสียงยังหนุ่มมาก
อะไรกัน นี่คุณย่าจะหนีไปกับตานี่เหรอ OMG ฉันจะถูกทิ้งเหรอนี่ (ความคิดไร้สาระวุ่นวายไปหมด)
“3 วันนี้คงวุ่นวายกันน่าดู พวกฝั่งนู้นคงตามหาอลิเซียกันอยู่เหมือนกัน” ห๊ะ!อลิเซียอะไรกัน หมายถึงฉันเหรอ
“ข้าให้คนเฝ้าไว้ตลอดเจ้าก็รู้”ชายคนนี้เป็นสต้อกเกอร์เหรอ มาตามดูอะไร ฉันได้แต่สงสัย(เงี่ยหูฟังต่อ)
“ข้าสัมผัสพลังงานชั่วร้ายได้ในช่วงนี้ กลัวนางจะไม่ปลอดภัย”
“ก็ว่าสิ กางเขตอาคมแน่นหนา กว่าข้าจะฝ่าเข้ามาได้ไม่ง่ายเลย ขอบคุณนะมาเรีย ที่ช่วยดูแลลูกสาวข้ามาตลอด”ฉันที่ยืนฟังอยู่ อึ้งไปชั่วขณะ ลูกสาว? พ่อเหรอ? เค้าคือพ่อของฉันเหรอ?ฉันที่คิดมาตลอดว่าเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ตายด้วยอุบัติเหตุ ย่าโกหกฉันทำไม? คำถามมากมายวิ่งเข้ามาในหัว ความสับสน สงสัย ปะปนกันไป
โครม!!!!แล้วประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง รอบนี้หลุดมาทั้งบาน
“เจอตัวแล้ว”เจ้าของเสียงนั่นกระโจนเข้ามาบีบคอฉัน แล้วง้างมือ เตรียมเอามีดจ้วงฉัน แต่ตอนนั้นเหมือนมีแสงออกมาจากสร้อยที่มาร์คัสให้ไว้ แล้วจู่ๆก็มีหมาป่าสีขาวตัวใหญ่พุ่งเข้าหาคนที่เข้ามาทำร้ายฉัน หมาตัวนั้นกัดเข้าที่คอของคนร้ายนั่น แล้วลากออกไป แล้วสิ่งที่ฉันเห็นคือคนนั้น ไม่สิ เหมือนไม่ใช่คน มีเล็บยาว เขี้ยวแหลม ตัวซีด ต่อสู้ขัดขืนกับหมาป่าตัวนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นไวจนงง ว่านี่ฝันหรือเรื่องจริง ฉันทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งอยุ่ที่พื้น จากนั้นชายในห้องของย่าก็พุ่งออกมาด้วยความไวแสง เห็นอีกทีคือไปกระชากหัวของคนเขี้ยวยาว หลุดออกมาคามือ เลือดสาดกระเซ็นทั่วบ้าน ฉันยิ่งช็อคเข้าไปใหญ่
“ทำดีมากมาร์คัส ปกป้องนายหญิงของเจ้าได้ดีเช่นเดิม” ชายในฮู้ดหันไปคุยกับหมาป่าตัวนั้น จากนั้นหมาก็กลายร่างเป็นมาร์คัสเพื่อนของฉัน
“ขอรับนายท่าน ด้วยพันธะสัญญา ข้าให้สัจจะไว้แล้วว่าจะปกป้องนายหญิงจนกว่าชีวิตจะหาไม่” มาร์คัสพูดกับชายคนนั้นเหมือนรู้จักกันมานาน
“มันเข้ามาได้โดยที่ข้าไม่รู้ คงไม่ใช่เล่นๆ พอจะรู้มั๊ยว่าเป็นพวกไหน”คุณย่าพูดพลางเดินถือไม้เท้าออกจากห้อง
“ข้าคิดว่าเป็นพวกทหารรับจ้างไร้ฝ่าย ดูจากรอยสัญลักษณ์ที่แขน พวกนี้ทำงานให้ทุกคนที่จ่ายได้มากพอ โดยไม่สนเผ่าพันธ์ใด คงเป็นการส่งมาดูชั้นเชิง”มาร์คัสพูดพลางตรวจศพตัวประหลาดนั้น
“ข้าคงต้องเพิ่มอาคมอีกชั้น กล้าดียังไงถึงกล้ามาบุกรังแม่มดมาเรีย”จากนั้นคุณย่าก็ใช้ไม้เท้าที่ถือมาปักไปที่ศพตัวประหลาด แล้วท่องอะไรสักอย่าง จากนั้นไฟสีเขียวก็ลุกทั่วศพแล้วก็สลายไป
“ท่านทำอะไร”ชายในฮู้ดถามย่า
“ข้าใช้มนตราล้างร่องรอย เผื่อมีใครติดตามมันมา ซึ่งมีแน่ เพราะการจะเข้ามาได้ต้องมีแม่มดเก่งๆช่วย แล้วข้ายังฝากของขวัญไปถึงแม่มดนั่น อยากลองดีกับข้า ก็ต้องเจอหน่อย”
“ป่านี้ฝั่งนั้นคงวายวอดกันไปหมดละ”มาร์คัสพูดพร้อมยิ้มมุมปากซะใจ
“คงต้องเก็บกวาดกันหน่อย”ย่าพูดพร้อมยกไม้เท้ากระทุ้งพื้น วิ๊ง!!! แสงวาบขึ้นมา แล้วบ้านที่เละเทะก็กลับกลายเป็นปกติ
“อลิเซีย เป็นอะไรรึเปล่า”ชายในฮุ้ดหันมาถามฉัน
ฉันไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่มอง3คนตรงหน้า ยังอึ้งว่าเมื่อกี้มัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ โอ๊ย!! เวียนหัวชะมัด แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆพร่าเลือน........
“อลิซ!!!”มาร์คัสพูดพร้อมวิ่งมารับตัวอลิซไว้
“นางหมดสติไปแล้วท่าน”มาร์คัสพูดกับชายในฮู้ด
“พานางไปพักที่ห้องเถอะ จากความทรงจำแบบมนุษย์ คงจะตกใจน่าดู”
“นายท่าน ตอนนี้มีพวกมันหานางเจอแล้ว ไม่นานคงมีพวกอื่นมาอีก คงต้องรีบคืนความจำให้นาง 3 วันอาจจะนานเกินไป เราต้องทำพิธีกันพรุ่งนี้เลย คืนนี้ข้าจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อม”
“ฝากเจ้าด้วยนะมาเรีย”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ