เอ็กซ์ทีน

8.0

เขียนโดย นางแกงพเนจร

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 18.31 น.

  15 บท
  1 วิจารณ์
  4,855 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 เมษายน พ.ศ. 2567 18.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) มึงอยากเห็นกูใช้พลังไม่ใช่เหรอ ดูซะสิ!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
19 กุมภาพันธ์ 2553
บันทึกของพิกเล็ท
 
          “พวกแกดูนี่!” เด็กสาวตาเฉี่ยว มีริมฝีปากกระจับและกรอบหน้าชัดเจน ผมยาวไว้หน้าม้า รูปร่างสูง ผิวขาวเหลือง ในชุดนักเรียนหญิงมัธยมต้นวิ่งดีใจโผล่เข้ามากลางกลุ่มเด็กสาวที่กำลังเดิน มือข้างซ้ายถือแผ่นเอกสารบางอย่างและยื่นให้กับเพื่อนของเธอภายในสนามบาสที่ปิดล้อมด้วยอาคาร 4 ชั้น 3 มุม สีชมพูฟ้าสลับกัน เวลาเช้าสายไม่เกินเที่ยง ซึ่งเป็นวันสอบวันสุดท้ายของโรงเรียน
“ฉันได้เรียนต่อที่เตรียมอุดมแล้ว เย้!” เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น มือสั่น ชูเอกสารให้กับกลุ่มเพื่อนอีกสามคนของเธอ มือของเธอสั่นมากจนเพื่อนต้องหยิบเอกสารมาอ่านเอง
“ว๊าย! เก่งมากยัยพิกกี้ ดีใจด้วยน้า” เด็กสาวผมซอยสั้น จมูกโต รูปร่างสูง ผิวสีเข้มพูดแสดงความยินดีตอบกลับพร้อมกับฉีกยิ้มดีใจไปกับเพื่อน
“ใครเขาให้เอาตัวจริงมาโชว์ เดี๋ยวเอกสารยับหมดโดนเด้งกันพอดี แต่ก็ดีใจด้วยน้า ฉันรักแก” เด็กสาวคนที่สองผมยาวประบ่า ดวงตากลมโต รูปร่างผอมแห้ง ผิวสีน้ำตาล พูดดุใส่เจ้าของเอกสารและแสดงความยินดีกับเธอ
“เหลือแต่พวกเราสามคนสินะ สงสัยคงได้เรียนต่อที่นี่ไปอีกสามปีแหงเลย” เด็กสาวคนสุดท้าย หน้าตาสวย ดวงตากลมโต รูปร่างผอม ผิวขาวผ่องเป็นประกาย พูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“ยัยแก้วแกควรจะดีใจสิที่มีเพื่อนสนิทเป็นเด็กโรงเรียนท็อประดับประเทศอย่างฉัน” ร่างผมยาวหน้าม้าพูดโอ้อวดกับเพื่อนสาวคนที่สาม
“หืม ได้ที่เอาใหญ่เลยนะอีพิก!” เด็กสาวคนที่สองหมั่นไส้จึงจี้ไปที่เอวของอีกฝ่ายหวังแกล้งให้สะดุ้ง ทั้งสี่คนเล่นกันอย่างสนุกสนาน
 
     ทันใดนั้นกองน้ำจำนวนมากจากด้านบนถูกเทราดลงมาใส่ตัวทั้งสี่คนรวมถึงเอกสารที่เธอถืออยู่ในมือก็เปียกโชกจนเสียหาย พวกเธอกรีดลั่นด้วยความตกใจก่อนที่จะได้ยินเสียงหัวเราะจากกลุ่มคนริมระเบียงชั้นสองของอาคารปีกซ้ายบริเวณที่พวกเธอยืนอยู่ เผยให้เห็นร่างของเด็กหนุ่มหน้าตาดี คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ตัวสูง ผิวขาว หัวเราะอย่างสะใจกับสภาพของพวกเธอ
 
“พิกอย่า ไอ้พิก!” ร่างผมหน้าม้าโกรธสุดขีด เอกสารในมือของเธอเปียกเสียหาย ทันทีที่รู้ว่าเป็นใครเธอรีบวิ่งเข้าไปในอาคารขึ้นไปบนบริเวณชั้นสองโดยที่ไม่ฟังเสียงห้ามของเพื่อนหญิงสาวเดินเข้ามาด้วยความโกรธเผชิญหน้ากับร่างสูงคิ้วเข้มและเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ นับสิบ กลุ่มเพื่อนทั้งสามคนวิ่งตามมาทีหลัง
“มึงทำแบบนี้ทำไมวะไอ้บาส สอบวันสุดท้ายแล้วนะเว้ย” เด็กสาวน้ำตาคลอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงโกรธ
“แล้วไงวะ?” เด็กหนุ่มในชุดเรียนมัธยมชายทำหน้ากวนประสาทกลับ
“พวกกูไปทำอะไรให้มึงนักหนาวะ ทำมึงถึงเกลียดพวกกูนัก แล้วมึงเห็นไหมว่านี่มันเอกสารยืนยันการเข้าเรียนของกู อนาคตของกู!” ร่างผมหน้าม้าระบายความโกรธออกมา เธอตะเบ็งเสียงลั่นไปทั่วทั้งอาคาร แต่ดูจะไม่ส่งผลต่อเด็กนักเรียนอื่นเท่าไหร่ พวกเขานิ่งเฉยทำเป็นไม่สนใจ
“มึงไม่รู้ตัวเหรอวะว่าพวกกูเกลียดอะไร เกลียดตัวประหลาดอย่างมึงไง แม่งโตมาสวยแต่เสืoกเป็นตัวประหลาด พวกมึงทำให้พวกกูกับเด็กนักเรียนคนอื่นต้องมาระแวงว่าวันไหนพวกมึงจะใช้พลังอาละวาดทำร้ายร่างกาย ทำลายโรงเรียนหรือเปล่า แล้วสิ่งที่กูทำนะ กูทำเพื่อความสะใจเว้ย!” เด็กหนุ่มพ่นคำพูดทำร้ายจิตใจเด็กสาวทั้งสี่ที่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ที่ส่งเสียงอันน่ารังเกียจใส่พวกเธอ
“แล้วมึงคิดว่าพวกกูไม่เกลียดพวกมึงบ้างเหรอ! พวกมึงแม่งเxี้ยกันทุกตัว แกล้งพวกกูตั้งแต่มอหนึ่ง พวกกูต่างหากที่กลัวพวกมึง รังเกียจพวกมึง กูถึงได้พยายามสอบเข้าที่ดี ๆ มีสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่โง่ดักดานแบบพวกมึงไง!” เด็กสาวตาเฉี่ยวสีหน้าเกรี้ยวกราดผลักร่างของเด็กหนุ่มจนเซ ก่อนจะพูดระบายออกมาทั้งหมดด้วยความโมโห
 
    นั่นทำให้ร่างสูงคิ้วเข้มไม่พอใจ เขาฉกเอาแผ่นเอกสารที่เปียกโชกมาขยี้ฉีกทิ้งคามือแล้วปาใส่หน้าเด็กสาวด้วยความโมโหและอับอายที่ถูกด่า
 
“มันจะเกินไปแล้วนะเว้ย ไอ้บาส!!!” เพื่อนสาวผมซอยสั้นที่ตัวเปียกไม่ต่างกันตะโกนใส่เด็กหนุ่มกับพฤติกรรมสุดแย่ของเขา
“พวกมึงหุบปากเลย!!” หน้าหล่อคิ้วเข้มกระแทกเสียงพลางชี้หน้าใส่เด็กสาวอีกสามคน เขาขยับเดินเข้ามาใกล้เด็กสาวตาเฉี่ยว เธอจ้องมองเอกสารสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเธอย่อยยับเป็นแค่เศษกระดาษไร้คุณค่ากองอยู่ที่พื้นแถมยังถูกเด็กชายใช้เท้าขยี้มันซ้ำให้สภาพย่อยยับมากกว่าเดิม เธอเริ่มกำหมัดแน่น ความโกรธเกลียดในใจของเธอปะทุขึ้นมาสุดขีด
“กูจะให้มึงอยู่ที่นี่ ติดแหงกและถูกพวกกูแกล้งไปอีกสามปี ตัวประหลาดอย่างมึงไม่มีสิทธิ์ได้ไปไหนทั้งนั้น” เด็กหนุ่มพูดกับเด็กสาวด้วยความสะใจ เด็กนักเรียนคนอื่นหัวเราะลั่น
“เงียบ เป็นอะไรโกรธกูเหรอ ถ้ามึงโกรธมึงก็ใช้พลังสิ เขาจะได้จับมึงเข้าวิลเลจ เอาสิ แน่จริงมึงก็ใช้พลังดิ!” เด็กหนุ่มเห็นอาการว่าอีกฝ่ายโกรธและโมโหจนตาแดง ด้วยความห่ามจึงท้าทายเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้า การใช้พลังในที่สาธารณะร่วมกับบุคคลธรรมดามีโทษสถานเดียวคือเข้าสู่กระบวนการควบคุมพฤติกรรมภายในคุกที่เรียกว่าวิลเลจ
 
     แต่เด็กสาวไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว เมื่อถูกท้าเธอโต้กลับตามคำท้าทาย ท้องฟ้าเปลี่ยนผันในเสี้ยววินาที มันทั้งมืดครึ้มและส่งเสียงราวกับมีสัตว์ร้ายอาศัยอยู่ในหมู่เมฆที่รวมตัว สายลมแรงขึ้นและพัดกระชากจนอาคารสั่นไหวราวกับมีอาเพศเกิดขึ้นในวันนั้น
 
“ไอ้พิกอย่า!” เพื่อนสาวทั้งสามคนรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเธอหาที่ยึดเกาะ เด็กสาวผมยาวประบ่าพูดตะโกนหวังห้ามไม่ให้เด็กสาวทำอะไรบางอย่าง
“มึงจะทำอะไรยัยตัวประหลาด!!” เด็กหนุ่มกับนักเรียนคนอื่น ๆ เริ่มแตกตื่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาหาที่ยึดเกาะตัวเองไว้ไม่ให้ปลิวไปกับสายลม
“มึงอยากเห็นกูใช้พลังไม่ใช่เหรอ ดูซะสิ!” เด็กสาวตัวแข็งทื่อราวกับว่าสภาพอากาศอาเพศแบบนี้ไม่ส่งผลอะไรกับตัวเธอเลยแม้แต่น้อย
 
     เด็กชายเริ่มกลัวสุดขีดท่าทางลนลานและต้องการความช่วยเหลือ แต่มันสายเกินไป เด็กสาวโบกมือซ้ายไปด้านข้างเกิดลมกระชากรุนแรงเฉพาะบริเวณเด็กหนุ่มจนเขาเสียการทรงตัวลอยออกนอกอาคารด้วยความหวาดเสียว เกิดเสียงกรีดร้องของนักเรียนคนอื่น ๆ แต่แขนซ้ายของหญิงสาวคว้าแขนขวาของเด็กหนุ่มไว้ได้ทัน กระแสลมรุนแรงต่อเนื่องจนร่างของเขาปลิวแกว่งไปมาบนอากาศคล้ายกับว่าวที่ถูกชักจนลอยอยู่บนท้องฟ้า เพียงแต่ผู้ชักกลับเป็นหญิงสาวที่เกลียดเขาที่สุดในตอนนี้
 
“มึงอย่าปล่อยแขนกูนะเว้ย กูขอโทษ!” วินาทีสุดท้ายเด็กหนุ่มกลับสำนึกผิดในสิ่งที่ทำ ความรู้สึกกลัวตายแล่นเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็ว
“นี่ยังไม่ครบสูตรเลย กูจะปล่อยมึงได้ไง วิชาภูมิศาสตร์และสภาพอากาศ 101 หลังจากเกิดพายุปรากฏการณ์อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้?” แววตาอำมหิตไร้ซึ่งความเวทนาของเด็กสาวมองไปที่สีหน้าสุดท้ายของเด็กหนุ่ม เธอถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“สายฟ้าไงล่ะ” สิ้นเสียงของสาวตาเฉี่ยว ดวงตาของเธอเปล่งประกายสีฟ้าก่อนที่เกิดปฏิกิริยากระแสไฟฟ้ามหาศาลช็อตและดูดเด็กชายหายเข้าไปในพายุอันน่าสะพรึงกลัว เพียงไม่กี่วินาทีทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แดดออกสว่างจ้าพร้อมกับร่างหญิงสาวที่ยืนยิ้มด้วยความสะใจ
 
07 เมษายน 2553
บันทึกของพิกเล็ท
 
     หนึ่งเดือนกับอีกหลายวันต่อมาเด็กสาวตาเฉี่ยว ผมยาวไว้หน้าม้าถูกศาลตัดสินให้เข้าสู่โครงการวิลเลจจากการสังหารเด็กนักเรียนชายร่วมรุ่นที่โรงเรียน พ่อของเธอใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อให้เธอได้พักที่วิลเลจ 1 สถานที่ที่ดีที่สุดในโครงการ บ่ายแก่ใกล้ค่ำ เด็กสาวถูกคุมตัวพร้อมกับเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเดินทางมาถึงวิลเลจด้วยรถสีดำของทางตำรวจ มันจอดเทียบถนนข้างหน้ากำแพงสูงใหญ่ ที่มีถูกสลักในแผ่นปูนด้วยหมายเลขหนึ่ง เธอหยิบกระเป๋าสองสามใบก่อนที่จะลงจากรถมุ่งหน้าเข้าไปข้างในกำแพง
 
     ประตูขนาดใหญ่และสูงราวตึก 10 ชั้นเปิดออกให้เด็กสาวก้าวเดินเข้าไป จากถนนสี่เลนกว้างขวางเหลือเพียงแค่สองเลนขนาดพอให้รถสวน สภาพโดยรอบไม่ได้แย่แบบที่เธอคิด มันคือหมู่บ้านคนในรูปทรงกลม ที่ขอบทรงกลมจะเป็นบ้านสามเหลี่ยมหน้าจั่วสองชั้นเรียงรายกันหลายสิบหลัง พื้นด้านในทรงกลมตรงกลางเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่เขียวขจี เธอเดินเลี้ยวซ้ายไปตามทางจนมาหยุดที่หน้าบ้านสีเขียวอ่อน ประตูรั้วสีเขียวเข้ม
 
“มาใหม่เหรอ?” สุ้มเสียงของวัยรุ่นสาวหน้าคมแขก ผมยาวหยิกสีดำ รูปร่างอวบอิ่ม ผิวสีเข้ม กล่าวทักทาย เธอยืนอยู่ด้านหน้าประตูรั้วสีน้ำเงินเข้มหลังถัดไป
“ค่ะ” ร่างผมยาวไว้หน้าม้าหันไปยิ้มตอบรับอย่างเป็นมิตร
“ฉันชื่อเก๋นะ เราเป็นเพื่อนบ้านกัน” หญิงสาวยิ้มให้และแนะนำตัว
“เราชื่อพิกเล็ทนะ” เด็กสาวแนะนำตัวกลับ
“ชื่อน่ารักดี รีบเข้าไปเก็บของสิ เย็นนี้พวกฉันทำกับข้าวกินกัน มากินด้วยนะพิกเล็ท” เก๋พูดเชิญชวนให้สมาชิกใหม่มากินข้าวที่บ้าน
“ขอบคุณนะ” ดวงตาเฉี่ยวและริมฝีปากกระจับยิ้มออกมาอย่างสบายใจ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

ให้คะแนนกันหน่อย เมตตาฉันด้วย

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา