ChewaChamin #เชวาชามีน [MPREG]
เขียนโดย Pam18
วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19.33 น.
แก้ไขเมื่อ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567 19.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ภารกิจที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ก๊อก ก๊อก...
"ขออนุญาตครับคุณหนู กระผมสิงห์หัวหน้าพ่อบ้าน"
ขณะกำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่ที่ระเบียง...ประตูห้องก็ถูกเคาะโดยหัวหน้าพ่อบ้านคนสนิทของผู้นำตระกูล
ชามีนพยักหน้าให้ชมพู่เดินไปเปิด มาหาในเวลานี้คิดได้อย่างเดียวเลยคือมันเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะการทำภารกิจน่ะ...
ร่างสูงใหญ่ใบหน้าดุดันเดินตรงเข้ามาหยุดยืนตรงหน้า วางท่ากว่าก่อนหน้านี้และไม่มีความนอบน้อมซึ่งก็เข้าใจได้เพราะไม่จำเป็นต้องเคารพคนนอกอะไรมากนักหรืออีกนัยหนึ่งคือไม่คิดให้เกียรติกันตั้งแต่แรก
"เรื่องภารกิจเหรอครับ" ชามีนเลื่อนถ้วยข้าวต้มออกหลังจากทานไปได้แค่สองคำ เอ่ยถามอย่างตรงประเด็นเพื่อไม่ให้เสียเวลา
"นายท่านให้มาเรียนว่าภารกิจแรกที่คุณหนูต้องทำคือการไปพบกับท่านผู้นำตระกูลคนก่อนพร้อมกับเอาโฉนดที่ดินย่านบัลลังก์ทองกลับมา กำหนดระยะเวลาคือสามสัปดาห์ หากทำสำเร็จจะได้รับรางวัลพิเศษครับ"
ชามีนฟังแล้วถึงกับถอนหายใจ มันคือภารกิจที่แม้ท่านผู้นำตระกูลยังทำไม่สำเร็จ นับประสาอะไรกับเด็กหน้าอัปลักษณ์อย่างเขา
เพราะท่านผู้นำคนเก่าขึ้นชื่อเรื่องความดุแล้วก็ใจแข็ง เป็นคนซื่อตรงต่อความรู้สึก ไม่ชอบคือไม่ชอบ ไม่ให้ก็คือไม่ให้ ...ที่ดินย่านนั้นราคาแพงมากราวกับสร้างด้วยทองคำเพราะความเจริญเข้าถึงแบบสุดขีด ถ้าได้มาพัฒนาเป็นแลนด์มาร์กคงทำรายได้มหาศาล
ที่ดินสำคัญขนาดนั้นทำไมท่านผู้นำคนเก่าถึงไม่ยกให้ลูกชายกันล่ะ ต้องมีเหตุผลที่ให้ไม่ได้อยู่แน่นอน ภารกิจแรกก็ยากเลย... หรือจะไม่ทำดีนะ ให้ตะวันฉายลุยเดี่ยวจะได้เป็นที่ถูกใจของทุกคน
"ครับ ขอบคุณที่มาแจ้งให้ทราบ"
ชามีนยกยิ้มเล็กน้อยก่อนลุกขึ้นเดินออกจากห้องเพื่อไปมหาวิทยาลัย ชมพู่รีบถือกระเป๋าเดินตามเช่นเคย วันนี้คุณหนูก็ทานอาหารได้น้อยอักแล้ว
"คุณหนูคะ" ปกติคุยกันนับคำได้
"หืม?" ชามีนขานรับ
"ตอนกลางวันได้รับประทานอาหารไหมคะ ทานเยอะหรือเปล่า"
ขณะกำลังจะก้าวลงบันไดขั้นแรกชั่วครู่หนึ่งชามีนรู้สึกดีที่มีคนถามคล้ายกับว่าเป็นห่วงเป็นใย จะว่าไปช่วงนี้เขาเองก็ทานอาหารได้น้อยแบบน้อยจริง ๆ
"ถ้าเป็นตอนกลางวันผมเลือกทานพวกขนมหวานมากกว่าน่ะครับ รู้สึกว่ามันสดชื่นดี"
"ไม่ได้สิคะ เดี๋ยวก็ป่วยเอาหรอก"
ชามีนหันไปยิ้มให้คนรับใช้ส่วนตัวที่เริ่มมีปฏิสัมพันธ์ ปกติเห็นแต่ยืนเงียบทำหน้านิ่งรอรับคำสั่งอย่างเดียว
เดินลงบันไดโดยไม่ตอบอะไร ตอนนี้เขาประสบกับความเครียดจนทานอะไรไม่ลง ยังดีที่ไม่ถึงขั้นนอนไม่หลับร่วมด้วยเพราะถ้าเป็นแบบนั้นต้องรีบพบแพทย์ด่วนเลย ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองแย่ลงกว่านี้เด็ดขาด
ยังไม่ได้เริ่มทำความฝันเลย
ถ้าป่วยก็แย่น่ะสิ
"เอ่อ..."
แต่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งกัน ตอนขึ้นไม่ได้สังเกตพอเข้ามานั่งถึงได้เห็นว่ามีอีกคนนั่งอยู่ก่อน จะหนีลงก็ไม่ทันเพราะรถขับออกมาแล้ว
ชามีนขยับตัวชิดติดประตูแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากอยู่ใกล้ กลายเป็นว่านั่งรถไปมหาวิทยาลัยด้วยกันเสียอย่างนั้น ขณะเดียวกันเชวาหาได้สนใจกระต่ายหูตั้งจอมตื่นตูม เพียงแค่กำลังทำทุกอย่างให้ดูเท่าเทียมตามที่พ่อสั่ง
"คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะครับ ต่างคนต่างอยู่สบายใจกว่า"
"ฉันก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน"
เชวาปลายตามองมา พอเห็นแบบนั้นชามีนยิ่งเบียดชิดแทบหลอมรวมกับประตูรถ ระแวดระวังกับการร่วมทางไปด้วยกันสุด ๆ เพราะรู้สึกไม่สบายใจ
"ถึงอย่างนั้นก็ต้องทำ ...ตอนกลางวันฉันจะมารับไปทานข้าว ออกมายืนรอหน้าคณะแล้วกัน"
"อย่าดีกว่าครับ ผมหาทานเองได้"
"ฉันไม่ชอบคนหัวรั้น บอกให้ทำอะไรก็ทำ" เชวาว่าเสียงดุ คิ้วได้รูปขมวดเล็กน้อย
ชามีนเลือกที่จะไม่ตอบโต้ หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่สบอารมณ์ พอไม่อยากไปกลายเป็นคนหัวรั้นซะงั้น เกิดมาเพื่อผิดเสมอโดยแท้
กระทั่งรถยนต์คันหรูแล่นมาจอดยังหน้าคณะมนุษยศาสตร์ ไม่ต้องรอบอดี้การ์ดเปิดประตูชามีนรีบเปิดลงไปเองทันที เดินดุ่ม ๆ เข้ามาด้านในหาได้สนใจบอดี้การ์ดที่เดินตาม
"ทางนี้ชามีน!" รุ่งอรุณยืนโบกมืออยู่ที่โต๊ะตรงกลาง ข้างกายมีชายหนุ่มหน้าดีนั่งอยู่แล้วก็อีกคนที่ไม่คุ้นหน้า พอเห็นแบบนั้นจึงสาวเท้าเดินไปหา
"สวัสดีครับพี่ธารา" ยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มที่รุ่งอรุณเคยตามจีบซึ่งตอนนี้เปลี่ยนมาตามจีบรุ่งอรุณแทน
"สวัสดีครับน้องชามีน" คนหล่อประจำคณะวิศวะเอ่ยทักทายกลับมา
"ชามีนมานั่งนี่สิ" ปรางทองขยับให้เพื่อนนั่งด้วย
นอกจากธาราแล้วยังมีอีกคนนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย เป็นเพื่อนสนิทของเจ้าตัวนั่นแหละ จับจ้องมองชามีนไม่่วางตาเชียว
"ชามีนนี่เพื่อนของพี่ธาราชื่อว่าพี่ป๋า" รุ่งอรุณแนะนำให้เพื่อนรักรู้จักกับเพื่อนของว่าที่แฟน
"หวัดดีครับน้องชามีน" ป๋าหรือปานธนเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มกระชากใจ ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องกร้าวใจสุด ๆ
"อ่อ สวัสดีครับพี่ป๋า" ชามันยกมือไหว้พร้อมสบตากับอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง
"พี่ถามได้ไหมว่าหน้าเราไปโดนอะไรมา ทำไมมันถึงด่างเยอะขนาดนี้"
"เฮ้ย! ไอ้ป๋ามารยาทมึงหายไปไหนหมด ทำไมถึงถามคนที่เพิ่งรู้จักกันแบบนั้น" ธารารีบปรามเพื่อนทันที รู้สึกไม่ดีจนหน้าเสีย
"เอ้า! กูเป็นประเภทที่ว่าอยากรู้อะไรให้ถามเลยไง น้องชามีนลำบากใจที่จะตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้นะครับ"
ดูแล้วน่าจะเป็นพวกไม่แคร์สังคม โผงผางเปิดเผยโดยลืมนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นหรือไม่ก็สนแค่ความพอใจของตัวเอง
"ที่บ้านไม่สอนมารยาทมาจริง ๆ ด้วย" ปรางทองออกโรงปกป้องเพื่อน ใครจะทนก็ทนแต่เธอไม่ทน
"ฮ่า ๆ ๆ สอนครับสอน แต่พี่ไม่สนเรื่องพรรค์นั้นหรอก"
"ขอโทษนะครับ พี่ไม่ชอบอะไรผมหรือเปล่า จำได้ว่าเราเพิ่งจะทำความรู้จักกันเมื่อกี้นี้เอง อดใจสอดรู้เรื่องของคนอื่นไม่ไหวขนาดนั้นเลยเหรอ"
ชามีนจับมือเพื่อนสาวเอาไว้เพื่อห้ามไม่ให้เธอพูดอะไรเพราะเขาจะพูดเอง ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงทำหน้าแหยตัวลีบเล็กด้วยความกลัวแล้วบอกเสียงสั่นว่าหน้าไปโดนอะไรมา
ปานธรมองหน้าคนอายุน้อยกว่าแล้วฉีกยิ้มถูกใจสุด ๆ ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นจนคนทั่วทั้งบริเวณหันมองกันเป็นตาเดียว
"ได้ข่าวว่าเราเป็นผู้เข้าแข่งขันชิงตำแหน่งภรรยาของเจ้าหมอนั่นเหรอ ถอนตัวแล้วมาแต่งงานกับพี่ให้มันจบ ๆ ดีกว่า บอกตามตรงว่าพี่ถูกใจเรามากทีเดียว เรื่องรอยแผลเป็นพี่ไม่ติดสักนิด พี่ไม่ใช่คนมองคนแค่ภายนอก"
คดีพลิก! ชามีนมองชายหนุ่มตรงหน้าพลางอ้าปากค้าง โดนว่าขนาดนั้นคิดว่าจะไม่พอใจที่ไหนได้ดันชอบสุด ๆ ตานี่วาววับราวกับเจอของชอบ
"พี่พูดจริงนะ เดี๋ยวไปคุยกับเจ้านั่นเอง โอเคป่ะ?"
ไปกันใหญ่เลยทีนี้ ชามีนหันมองหน้าเพื่อนทั้งสองเพื่อขอความช่วยเหลือ ไม่มีใครตั้งตัวทันสักคนเพราะกำลังงงอยู่
>>>>>>>>>>>>
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ