Tales of Holython (ดินแดนวิปลาส)
-
เขียนโดย หมดไฟ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 01.02 น.
3 chapter
1 วิจารณ์
1,058 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 01.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) Blackridge
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 3 — Blackridge
เวลาผ่านไปไม่นานในหมู่บ้านประมง บากาธมาหาสกานแล้วบอกว่าพวกเขาได้เรือแล้ว แต่ปัญหาคือ ไม่สามารถเดินทางออกไปนอกเขตหมอกได้ ที่ดินแดนแห่งนี้ ถูกรอบล้อมไปด้วยทะเลและหมอกหนาทึบ ผู้ใดที่ออกไปไม่มีทางกลับมา ชาวบ้านแถวนั้นต่างเล่าขานว่า มีสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์จะโผล่มาตอนเดินเรือกลางทะเล จะไม่มีลม หรือฝน แต่จะเป็นเมฆหมอกมาปกคลุม มันมิใช่คราเคน หรือสัตว์ทะเลทั่วไป แต่ตำนานกล่าวไว้ว่า มันคือสมุนที่เทพองค์ได้ทอดทิ้งมัน สกานนึกได้ว่ามันอาจเป็น 1 ในเจ้าแห่งท้องทะเล ที่กัปตันเคยเล่าไว้ ทว่าชาวบ้านบอกว่ามันมิใช่เจ้าทะเล เจ้าทะเลที่แท้จริงนั้นอยู่ลึกลงไปมากนัก และหลับไหลมานานนับตั้งแต่สิันสุดสงครามแร็กนาร็อก จากนั้นก็มิเคยตื่นขึ้นมาอีกเลย ทางด้านสกานที่ไม่มีทางเลือกจึงต้องปักหลักที่หมู่บ้านประมงแห่งนี้ก่อน เมื่อค่ำคืนนี้ได้ผ่านไป สกานกับบากาธและบรันก็พากันเดินทางออกนอกหมู่บ้านผ่านการเดินเรือตามแม่น้ำ เมื่อเดินเรือมาได้ระยะหนึ่ง ก็เกิดเหตุการณ์ฝูงนกบินกระจัดกระจายกันหนีบางสิ่ง
คนพายเรือ “ข้าว่า… ข้ามาส่งพวกเจ้าได้เพียงเท่านี้ล่ะ หากพวกเจ้าต้องการเดินทางไปเมืองแบล็กริดจ์ละก็ เลาะตามแม่น้ำไปเลย แต่ระวังตัวไว้เสีย เจ้าป่าเจ้าเขาที่นี่นั้น ดุร้ายนัก”
บากาธ “เจ้าป่าเจ้าเขา?”
คนพายเรือ “ข้าไม่รู้หรอก มันเป็นตำนานของดินแดนแห่งนี้น่ะ…”
แล้วคนพายเรือก็พายเรือจากไป ปล่อยให้ทั้งสามคนเดินเท้าอยู่กลางป่า
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ก็มีลูกศรโลหะพุ่งมาใส่เกราะไหล่ของบรันทั้งสามคนมองไปรอบๆ เห็นเป็นเงาของมนุษย์ล้อมรอบพวกเขาไว้ พวกโจรป่าทำการยิงธนูใส่สกาน แต่สกานได้ใช้ดาบปัดหลบ ทันใดนั้นเองก็มีโจรป่าคนนึง ถือมีดมาพร้อมกระโจนใส่หลังของบากาธ และด้วยความไหวพริบดี และความว่องไวของบรัน ทำให้เขาปกป้องเพื่อนของเขาได้ เขาใช้ดาบฟาดใส่โจรที่กำลังกระโดดใส่หลังของบากาธ ดาบเฉือนไปที่ราวรักแร้ทำให้ตัวมันขาดเป็น 2 ท่อนแล้วมันก็ตาย แต่ถึงจะตายไปแล้วตัวนึง จำนวนพวกมันที่เหลือก็เยอะอยู่ดี พวกมันยิงธนูใส่พวกสกานทั้งรอบทิศ ไม่มีช่องว่างให้หลบได้เลย แต่โชคดีที่มันยิงไม่เข้าเกราะเหล็กของพวกเขา
สกาน “บากาธ! ข้าจะวิ่งไปจัดการฝั่งนั้น ส่วนเจ้าอีกฝั่งนึง บรัน! เจ้าคอยเก็บพวกที่หลบได้! ตามนั้นนะ!!!”
ทุกคนตกลงเพราะในสถานการณ์นี้ก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่ะรอดออกไปได้ ทั้งสามคนต่อสู้กันอย่างดุเดือด ภาพที่เห็นคือ พวกมันรุมกันสู้ สามคนรุมหนึ่งคน ผ่านไปไม่นาน ทุกคนก็ชนะการโจมตีนี้ ไม่ได้มีบาดแผลหนักมากมาย อาจมีเพียงรอยขีดข่วนเท่านั้น แล้วทั้งสามคนก็เดินทางต่อ
มาถึงแบล็กริดจ์ เมืองที่มีความสวยงามแต่แฝงไปด้วยความอันตราย
การ์ด “หยุด! เจ้าเป็นใคร!”
สกาน “ข้าเอพิเธียส จากทวีปโครเอเทีย”
การ์ด “โครเอเทีย? เจ้าคนนอกรึ?”
สกาน “ใช่”
การ์ด “เจ้าพวกนั้นด้วย?”
บากาธ “พวกข้ามาด้วยกัน”
การ์ด “… ตามข้ามา”
หลังจากนั้นการ์ดก็พาพวกเขาเดินเข้าเมืองไป ภายในนั้นดูยิ่งใหญ่ สวยงาม ผู้คนทั้งหน้าตาดีและ ดูเป็นมิตร จนมาถึงศาลาของกิลด์ การ์ดไปที่เคาน์เตอร์และคุยกับพนักงานกิลด์ เมื่อผ่านไปซักพักการ์ดก็บอกให้ทั้งสามคนรอตรงนี้ก่อนแล้วก็ขึ้นไปที่ชั้นบน ผ่านไปไม่นานการ์ดคนนั้นก็ลงมาพร้อมกับชายชรา หนวดยาว ดูท่าทางเหมือนเป็นบรรณารักษ์ของที่นี่
ชายแก่ “สวัสดี! นักผจญภัย พวกเจ้ามาจากต่างแดนรึ?”
สกาน “ใช่ พวกข้ามาจาก โครเอเทีย”
ชายแก่ “ยินดีต้อนรับๆ ข้ามิได้เจอนักผจญภัยจากที่อื่นมานานแล้ว ยินดีต้อนรับสู่ โฮลีธอน”
บากาธ “ดินแดนแห่งนี้คือโฮลีธอนงั้นรึ? อันที่จริงพวกข้าต้องการไปที่ไซกัสน่ะ”
ชายแก่ “ฮ่าๆ ข้าไม่รู้เรื่องดินแดนอื่นหรอก คนที่อยู่ที่นี่ไม่สามารถออกไปสู่ดินแดนภายนอกได้น่ะ”
บรัน, สกาน, บากาธ “!?!”
ชายแก่ “จะว่ายังไงดีล่ะ คือ… พวกเราออกไปไม่ได้น่ะ”
บรัน “แล้วท่านมาอยู่ที่ได้อย่างไร?”
ชายแก่ “ข้าเกิดที่นี่น่ะ เกิดมาได้ 20 ล้านกว่าปีแล้ว”
บรัน, สกาน, บากาธ “!!!”
ทั้งสามคนตกใจ เพราะไม่เคยได้ยินว่ามีเผ่าพันธุ์ไหนอายุเกิน 10ล้านปีด้วยซ้ำ นอกจากพวกเทพและปีศาจ แต่สิ่งที่มีอายุถึง 20ล้านปีกลับเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่จะธรรมดาแน่หรือ…
ชายแก่ “ข้ามีตำนานจะเล่าให้พวกเจ้าฟัง ตามข้ามา อาจจะไกลหน่อยนะ”
ทั้งสามคนเดินตามชายแก่ไปที่ป่าแห่งหนึ่ง ก็ไปเจอกับพวกเอลฟ์เข้า พวกเอล์ฟและชายแก่สนิทกันเลยเดินผ่านกำแพงเอลฟ์มาได้ และหลังกำดพงนั้นก็ พบว่ามีต้นไม้ต้นหนึ่ง หน้าตาและขนาดเหมือนกับต้นไม้ธรรมดา แต่ถูกพวกเอลฟ์คอยห้อมล้อมไม่ให้มีคนเข้าไปใกล้ได้
ชายแก่ “ต้นไม้ต้นนี้คือ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ประจำถิ่น ในแต่ละถิ่นจะมีต้นไม้ต้นนี้ 1 ต้น และใครก็ตามที่ตัดต้นไม้ต้นนี้หรือทำลายต้นไม้ ก็จะถูกต้นไม้สาป…”
ทั้งสามคน “…”
ชายแก่ “… เมื่อนานมาแล้ว มีมนุษย์คนหนึ่งนามว่า เนธัน เป็นวีรบุรุษในตำนานที่ถูกเล่าขานไปทั่วดินแดนแห่งนี้ วีรกรรมของเขาคือ ผู้ที่ปราบยักษ์, มังกร, ปีศาจ แล้วสร้างปราการ เอรันเธลขึ้นมา ด้วยปรากฎการนี้ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป เนธัน ก็ได้ตายลง แล้ววิญญาณของเขาก็กระจายไปอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างในดินแดนแห่งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีอายุยืนยาวขึ้น และเมื่อวิญญาณของเนธัน กระจายออกไป ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ได้เติบโตขึ้นทั่วดินแดน เพื่อปกปักรักษาดินแดนแห่งนี้จากความชั่ว… เวลาผ่านไปนับหลายร้อย หลายพัน หลายหมื่น หลายล้านปี ก็มีผู้พลัดถิ่นเข้ามา ทำให้ก่อเกิดความชั่วร้ายและแผ่กระจายไปทั่งดินแดนโฮลีธอน…”
บากาธ “… ผู้พลัดถิ่น?”
ชายแก่ “พวกเจ้านั่นแหละ… แต่ว่าใช่จะมีแต่พวกชั่วร้ายนะ… เมื่อหมื่นปีก่อนมีชายพลัดถิ่นนามว่า **ดารุสกัส** เข้ามา เขาปราบสัตว์ร้าย และปีศาจที่หลุดเข้ามายังดินแดนแห่งนี้นับไม่ถ้วน แต่สุดท้ายก็ถูก ปีศาจพวกนั้นฆ่าตาย พวกนอกรีตนั่นแหละคือคนที่ทำให้ปีศาจพวกนี้เข้ามาดินแดนแห่งนี้ได้”
สกาน “พวกนอกรีต… ข้าว่าแล้วทำไมถึงมีพวกนอกรีตในดินแดนต่างถิ่นเช่นนี้ได้…”
บรัน “ใจเย็นน่า สกาน เดี๋ยวพวกเราก็กำจัดพวกมันได้อยู่ดี”
บากาธ “แล้วเจ้าป่าเจ้าเขาที่ชาวบ้านหมายถึงคืออะไรรึท่าน?”
ชายแก่ “อ้อ เป็นตำนานน่ะ เดี๋ยวข้าเล่าให้ฟังทีหลัง”
ชายแก่ “อืม… พวกเจ้าจะเข้าเมืองใช่รึไม่?”
ทั้งสามคน “ครับ”
ชายแก่ “ข้าว่าพวกเจ้าต้องการสรรพาวุธที่ดีกว่านี้นะ ข้าแนะนำว่า ให้ทำเควสแล้วมาแลกกับเงินไปซื้อของพวกนั้นจะดีกว่า…”
ทั้งสามคนเดินออกมาจากปรการเอลฟ์พร้อมกับชายแก่แล้วเดินกลับไปยังเมือง เพื่อไปติดต่อที่ศาลากิลด์ แล้วหาเควสที่จะทำ แล้วบากาธก็ไปเห็นเควสนึง ที่บอกว่า “ทำลายค่ายของพวกนอกรีต 3 ค่ายแลกกับเงิน 3k” เงินจำนวนนั้นมากพอที่จะซื้อชุดเกราะและอาวุธให้ทั้งสามคนได้ พวกเขาจึงนำเควสนี้ไปที่พนักงานกิลด์
พนง. “สวัสดีนักผจญภัย! ให้ข้าช่วยอะไรพวกท่านรึ?”
สกาน “ข้ามาติดต่อทำเควสที่นี่น่ะ”
พนง. “มีเอกสารยืนยันเป็นนักผจญภัยมั้ย?”
สกาน “อ่า… พวกข้าไม่มีน่ะ ติดต่อทำที่ไหนรึ?”
พนง. “พวกท่านจะต้องไป ที่ศาลากลางของเมืองน่ะ”
บากาธ “แล้วเควสนี่…”
พนง. “ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากพวกท่านไม่ใช่นักผจญภัยอย่างเป็นทางการ”
ทั้งสามคนเดินทางไปที่ศาลากลาง ระหว่างทางก็เจอร้านค้ามากมาย ทันใดนั้นจู่ๆ ก็มีการชุลมุนวุ่นวายที่หอจดหมาย พบว่ามีโจรวิ่งโขมยจดหมายจากหอจดหมาย โจรนั้นวิ่งมาทางทั้งสามคน แล้ววิ่งชนกับบากาธเข้า โจรบอกให้บากาธหลีกทางแต่บากาธไม่หลีกแถมจับโจรนั่นไว้ พนักงานจากหอจดหมายวิ่งมาแล้วบอกขอบคุณทั้งสามคน พร้อมกับพาการ์ดมาจับไว้ การ์ดคนนึงถามว่า
การ์ด “พวกท่านเป็นนักผจญภัยรึ?”
ทั้งสามคนงงก่อนที่สกานจะถามว่า “รู้ได้ไง?”
การ์ดบอกว่า “มองออกง่ายนิดเดียวเองงง ชุดเกราะสกปรกๆที่ใกล้พัง กับดาบบนหลังน่ะ คนอื่นๆเขาก็รู้ แล้วนี่จะไปไหนกันรึ?”
บรัน “ว่าจะไปที่ศาลากลางน่ะ” เมื่อมาถึงการ์ดคนนั้นเล่าให้พนักงานฟัง แล้วจึงได้รับการเป็นนักผจญภัยอย่างเป็นทางการ พร้อมกับสรรพาวุธใหม่ๆ เมื่อกลับมาถึงศาลากิลด์ ทั้งสามคนก็เริ่มภารกิจอย่างจริงจังๆ และนี่เป็นเพีงแค่จุดเริ่มต้น...
เวลาผ่านไปไม่นานในหมู่บ้านประมง บากาธมาหาสกานแล้วบอกว่าพวกเขาได้เรือแล้ว แต่ปัญหาคือ ไม่สามารถเดินทางออกไปนอกเขตหมอกได้ ที่ดินแดนแห่งนี้ ถูกรอบล้อมไปด้วยทะเลและหมอกหนาทึบ ผู้ใดที่ออกไปไม่มีทางกลับมา ชาวบ้านแถวนั้นต่างเล่าขานว่า มีสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์จะโผล่มาตอนเดินเรือกลางทะเล จะไม่มีลม หรือฝน แต่จะเป็นเมฆหมอกมาปกคลุม มันมิใช่คราเคน หรือสัตว์ทะเลทั่วไป แต่ตำนานกล่าวไว้ว่า มันคือสมุนที่เทพองค์ได้ทอดทิ้งมัน สกานนึกได้ว่ามันอาจเป็น 1 ในเจ้าแห่งท้องทะเล ที่กัปตันเคยเล่าไว้ ทว่าชาวบ้านบอกว่ามันมิใช่เจ้าทะเล เจ้าทะเลที่แท้จริงนั้นอยู่ลึกลงไปมากนัก และหลับไหลมานานนับตั้งแต่สิันสุดสงครามแร็กนาร็อก จากนั้นก็มิเคยตื่นขึ้นมาอีกเลย ทางด้านสกานที่ไม่มีทางเลือกจึงต้องปักหลักที่หมู่บ้านประมงแห่งนี้ก่อน เมื่อค่ำคืนนี้ได้ผ่านไป สกานกับบากาธและบรันก็พากันเดินทางออกนอกหมู่บ้านผ่านการเดินเรือตามแม่น้ำ เมื่อเดินเรือมาได้ระยะหนึ่ง ก็เกิดเหตุการณ์ฝูงนกบินกระจัดกระจายกันหนีบางสิ่ง
คนพายเรือ “ข้าว่า… ข้ามาส่งพวกเจ้าได้เพียงเท่านี้ล่ะ หากพวกเจ้าต้องการเดินทางไปเมืองแบล็กริดจ์ละก็ เลาะตามแม่น้ำไปเลย แต่ระวังตัวไว้เสีย เจ้าป่าเจ้าเขาที่นี่นั้น ดุร้ายนัก”
บากาธ “เจ้าป่าเจ้าเขา?”
คนพายเรือ “ข้าไม่รู้หรอก มันเป็นตำนานของดินแดนแห่งนี้น่ะ…”
แล้วคนพายเรือก็พายเรือจากไป ปล่อยให้ทั้งสามคนเดินเท้าอยู่กลางป่า
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ก็มีลูกศรโลหะพุ่งมาใส่เกราะไหล่ของบรันทั้งสามคนมองไปรอบๆ เห็นเป็นเงาของมนุษย์ล้อมรอบพวกเขาไว้ พวกโจรป่าทำการยิงธนูใส่สกาน แต่สกานได้ใช้ดาบปัดหลบ ทันใดนั้นเองก็มีโจรป่าคนนึง ถือมีดมาพร้อมกระโจนใส่หลังของบากาธ และด้วยความไหวพริบดี และความว่องไวของบรัน ทำให้เขาปกป้องเพื่อนของเขาได้ เขาใช้ดาบฟาดใส่โจรที่กำลังกระโดดใส่หลังของบากาธ ดาบเฉือนไปที่ราวรักแร้ทำให้ตัวมันขาดเป็น 2 ท่อนแล้วมันก็ตาย แต่ถึงจะตายไปแล้วตัวนึง จำนวนพวกมันที่เหลือก็เยอะอยู่ดี พวกมันยิงธนูใส่พวกสกานทั้งรอบทิศ ไม่มีช่องว่างให้หลบได้เลย แต่โชคดีที่มันยิงไม่เข้าเกราะเหล็กของพวกเขา
สกาน “บากาธ! ข้าจะวิ่งไปจัดการฝั่งนั้น ส่วนเจ้าอีกฝั่งนึง บรัน! เจ้าคอยเก็บพวกที่หลบได้! ตามนั้นนะ!!!”
ทุกคนตกลงเพราะในสถานการณ์นี้ก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่ะรอดออกไปได้ ทั้งสามคนต่อสู้กันอย่างดุเดือด ภาพที่เห็นคือ พวกมันรุมกันสู้ สามคนรุมหนึ่งคน ผ่านไปไม่นาน ทุกคนก็ชนะการโจมตีนี้ ไม่ได้มีบาดแผลหนักมากมาย อาจมีเพียงรอยขีดข่วนเท่านั้น แล้วทั้งสามคนก็เดินทางต่อ
มาถึงแบล็กริดจ์ เมืองที่มีความสวยงามแต่แฝงไปด้วยความอันตราย
การ์ด “หยุด! เจ้าเป็นใคร!”
สกาน “ข้าเอพิเธียส จากทวีปโครเอเทีย”
การ์ด “โครเอเทีย? เจ้าคนนอกรึ?”
สกาน “ใช่”
การ์ด “เจ้าพวกนั้นด้วย?”
บากาธ “พวกข้ามาด้วยกัน”
การ์ด “… ตามข้ามา”
หลังจากนั้นการ์ดก็พาพวกเขาเดินเข้าเมืองไป ภายในนั้นดูยิ่งใหญ่ สวยงาม ผู้คนทั้งหน้าตาดีและ ดูเป็นมิตร จนมาถึงศาลาของกิลด์ การ์ดไปที่เคาน์เตอร์และคุยกับพนักงานกิลด์ เมื่อผ่านไปซักพักการ์ดก็บอกให้ทั้งสามคนรอตรงนี้ก่อนแล้วก็ขึ้นไปที่ชั้นบน ผ่านไปไม่นานการ์ดคนนั้นก็ลงมาพร้อมกับชายชรา หนวดยาว ดูท่าทางเหมือนเป็นบรรณารักษ์ของที่นี่
ชายแก่ “สวัสดี! นักผจญภัย พวกเจ้ามาจากต่างแดนรึ?”
สกาน “ใช่ พวกข้ามาจาก โครเอเทีย”
ชายแก่ “ยินดีต้อนรับๆ ข้ามิได้เจอนักผจญภัยจากที่อื่นมานานแล้ว ยินดีต้อนรับสู่ โฮลีธอน”
บากาธ “ดินแดนแห่งนี้คือโฮลีธอนงั้นรึ? อันที่จริงพวกข้าต้องการไปที่ไซกัสน่ะ”
ชายแก่ “ฮ่าๆ ข้าไม่รู้เรื่องดินแดนอื่นหรอก คนที่อยู่ที่นี่ไม่สามารถออกไปสู่ดินแดนภายนอกได้น่ะ”
บรัน, สกาน, บากาธ “!?!”
ชายแก่ “จะว่ายังไงดีล่ะ คือ… พวกเราออกไปไม่ได้น่ะ”
บรัน “แล้วท่านมาอยู่ที่ได้อย่างไร?”
ชายแก่ “ข้าเกิดที่นี่น่ะ เกิดมาได้ 20 ล้านกว่าปีแล้ว”
บรัน, สกาน, บากาธ “!!!”
ทั้งสามคนตกใจ เพราะไม่เคยได้ยินว่ามีเผ่าพันธุ์ไหนอายุเกิน 10ล้านปีด้วยซ้ำ นอกจากพวกเทพและปีศาจ แต่สิ่งที่มีอายุถึง 20ล้านปีกลับเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่จะธรรมดาแน่หรือ…
ชายแก่ “ข้ามีตำนานจะเล่าให้พวกเจ้าฟัง ตามข้ามา อาจจะไกลหน่อยนะ”
ทั้งสามคนเดินตามชายแก่ไปที่ป่าแห่งหนึ่ง ก็ไปเจอกับพวกเอลฟ์เข้า พวกเอล์ฟและชายแก่สนิทกันเลยเดินผ่านกำแพงเอลฟ์มาได้ และหลังกำดพงนั้นก็ พบว่ามีต้นไม้ต้นหนึ่ง หน้าตาและขนาดเหมือนกับต้นไม้ธรรมดา แต่ถูกพวกเอลฟ์คอยห้อมล้อมไม่ให้มีคนเข้าไปใกล้ได้
ชายแก่ “ต้นไม้ต้นนี้คือ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ประจำถิ่น ในแต่ละถิ่นจะมีต้นไม้ต้นนี้ 1 ต้น และใครก็ตามที่ตัดต้นไม้ต้นนี้หรือทำลายต้นไม้ ก็จะถูกต้นไม้สาป…”
ทั้งสามคน “…”
ชายแก่ “… เมื่อนานมาแล้ว มีมนุษย์คนหนึ่งนามว่า เนธัน เป็นวีรบุรุษในตำนานที่ถูกเล่าขานไปทั่วดินแดนแห่งนี้ วีรกรรมของเขาคือ ผู้ที่ปราบยักษ์, มังกร, ปีศาจ แล้วสร้างปราการ เอรันเธลขึ้นมา ด้วยปรากฎการนี้ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป เนธัน ก็ได้ตายลง แล้ววิญญาณของเขาก็กระจายไปอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างในดินแดนแห่งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีอายุยืนยาวขึ้น และเมื่อวิญญาณของเนธัน กระจายออกไป ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ได้เติบโตขึ้นทั่วดินแดน เพื่อปกปักรักษาดินแดนแห่งนี้จากความชั่ว… เวลาผ่านไปนับหลายร้อย หลายพัน หลายหมื่น หลายล้านปี ก็มีผู้พลัดถิ่นเข้ามา ทำให้ก่อเกิดความชั่วร้ายและแผ่กระจายไปทั่งดินแดนโฮลีธอน…”
บากาธ “… ผู้พลัดถิ่น?”
ชายแก่ “พวกเจ้านั่นแหละ… แต่ว่าใช่จะมีแต่พวกชั่วร้ายนะ… เมื่อหมื่นปีก่อนมีชายพลัดถิ่นนามว่า **ดารุสกัส** เข้ามา เขาปราบสัตว์ร้าย และปีศาจที่หลุดเข้ามายังดินแดนแห่งนี้นับไม่ถ้วน แต่สุดท้ายก็ถูก ปีศาจพวกนั้นฆ่าตาย พวกนอกรีตนั่นแหละคือคนที่ทำให้ปีศาจพวกนี้เข้ามาดินแดนแห่งนี้ได้”
สกาน “พวกนอกรีต… ข้าว่าแล้วทำไมถึงมีพวกนอกรีตในดินแดนต่างถิ่นเช่นนี้ได้…”
บรัน “ใจเย็นน่า สกาน เดี๋ยวพวกเราก็กำจัดพวกมันได้อยู่ดี”
บากาธ “แล้วเจ้าป่าเจ้าเขาที่ชาวบ้านหมายถึงคืออะไรรึท่าน?”
ชายแก่ “อ้อ เป็นตำนานน่ะ เดี๋ยวข้าเล่าให้ฟังทีหลัง”
ชายแก่ “อืม… พวกเจ้าจะเข้าเมืองใช่รึไม่?”
ทั้งสามคน “ครับ”
ชายแก่ “ข้าว่าพวกเจ้าต้องการสรรพาวุธที่ดีกว่านี้นะ ข้าแนะนำว่า ให้ทำเควสแล้วมาแลกกับเงินไปซื้อของพวกนั้นจะดีกว่า…”
ทั้งสามคนเดินออกมาจากปรการเอลฟ์พร้อมกับชายแก่แล้วเดินกลับไปยังเมือง เพื่อไปติดต่อที่ศาลากิลด์ แล้วหาเควสที่จะทำ แล้วบากาธก็ไปเห็นเควสนึง ที่บอกว่า “ทำลายค่ายของพวกนอกรีต 3 ค่ายแลกกับเงิน 3k” เงินจำนวนนั้นมากพอที่จะซื้อชุดเกราะและอาวุธให้ทั้งสามคนได้ พวกเขาจึงนำเควสนี้ไปที่พนักงานกิลด์
พนง. “สวัสดีนักผจญภัย! ให้ข้าช่วยอะไรพวกท่านรึ?”
สกาน “ข้ามาติดต่อทำเควสที่นี่น่ะ”
พนง. “มีเอกสารยืนยันเป็นนักผจญภัยมั้ย?”
สกาน “อ่า… พวกข้าไม่มีน่ะ ติดต่อทำที่ไหนรึ?”
พนง. “พวกท่านจะต้องไป ที่ศาลากลางของเมืองน่ะ”
บากาธ “แล้วเควสนี่…”
พนง. “ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากพวกท่านไม่ใช่นักผจญภัยอย่างเป็นทางการ”
ทั้งสามคนเดินทางไปที่ศาลากลาง ระหว่างทางก็เจอร้านค้ามากมาย ทันใดนั้นจู่ๆ ก็มีการชุลมุนวุ่นวายที่หอจดหมาย พบว่ามีโจรวิ่งโขมยจดหมายจากหอจดหมาย โจรนั้นวิ่งมาทางทั้งสามคน แล้ววิ่งชนกับบากาธเข้า โจรบอกให้บากาธหลีกทางแต่บากาธไม่หลีกแถมจับโจรนั่นไว้ พนักงานจากหอจดหมายวิ่งมาแล้วบอกขอบคุณทั้งสามคน พร้อมกับพาการ์ดมาจับไว้ การ์ดคนนึงถามว่า
การ์ด “พวกท่านเป็นนักผจญภัยรึ?”
ทั้งสามคนงงก่อนที่สกานจะถามว่า “รู้ได้ไง?”
การ์ดบอกว่า “มองออกง่ายนิดเดียวเองงง ชุดเกราะสกปรกๆที่ใกล้พัง กับดาบบนหลังน่ะ คนอื่นๆเขาก็รู้ แล้วนี่จะไปไหนกันรึ?”
บรัน “ว่าจะไปที่ศาลากลางน่ะ” เมื่อมาถึงการ์ดคนนั้นเล่าให้พนักงานฟัง แล้วจึงได้รับการเป็นนักผจญภัยอย่างเป็นทางการ พร้อมกับสรรพาวุธใหม่ๆ เมื่อกลับมาถึงศาลากิลด์ ทั้งสามคนก็เริ่มภารกิจอย่างจริงจังๆ และนี่เป็นเพีงแค่จุดเริ่มต้น...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ