อาจารย์สุดที่รัก
เขียนโดย เฉินน้อย
วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 01.07 น.
แก้ไขเมื่อ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 03.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) เกี๊ยวน้ำรสหวาน กับ ลางร้ายกลางค่ำคืน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ที่ตอนเหนือของเมืองถง ค่ำคืนที่เงียบสงัดกับสถานการณ์สุดตึงเครียดของเหวินเจี๋ยและชายปริศนา
“หึหึ…ข้าคิดไว้อยู่แล้วเชียวต้องเป็นท่าน”
“รู้จักข้าก็คงรู้ดีว่าอีกไม่กี่วินาทีคอเจ้าจะหลุดออกจากบ่าได้”
ฟุบบบ ชายปริศนาพุ่งหลบและออกห่างเหวินเจี๋ยได้อย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
“ขอชื่นชมความโอหังนี้ คุณเทพสงคราม”
“เหตุใดเจ้าถึงอยากลอบสังหารตระกูลหลิน” เหวินเจี๋ยถามพร้อมสีหน้าที่ประหลาดใจจากการหลบหนีไปอย่างรวดเร็วของชายปริศนา
“เรื่องคุมถุงชน ข้าไม่ยักจะรู้ว่าท่านสนใจด้วย”
“หากไม่ยอมพูด ข้าจะเปิดปากเจ้าเอง!“
เหวินเจี๋ยไม่รอช้าพุ่งเข้าโจมตีชายปริศนาสุดกําลัง ชายปริศนาหยิบดาบของเขามาป้องกันการโจมตีของเหวินเจี๋ยได้อย่างไม่ยากนัก การต่อสู้ของทั้งคู่สูสีและดุเดือด เหวินเจี๋ยเริ่มหงุดหงิด
“อาคมพันกระบี่พิพากษา!” กระบี่นับพันเล่มพุ่งโจมตีใส่ชายปริศนา แต่ก็ถูกชายปริศนาปัดการโจมตีพร้อมกับหลบการโจมตีได้อย่างไม่ยากเย็น
“ไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านก็มีอาคมเก่งกล้าเช่นนี้”
“เจ้าเป็นใครกันแน่!”
“คนคนเดียวที่จะปลิดชีพท่าน ท่านเทพสงคราม”
ชายปริศนาฟาดดาบผ่าอากาศอย่างรุนแรงจนเกิดคลื่นพลังดาบโจมตีเหวินเจี๋ยอย่างรวดเร็ว
ตู้มม!! เหวินเจี๋ยโดนการโจมตีของชายปริศนาเข้าไปเต็มๆ สภาพของเหวินเจี๋ยเริ่มสะบักสะบอมขึ้น ดูเหมือนฝีมือจะยังห่างไกลชายปริศนาผู้นี้ ชายปริศนารีบพุ่งเข้าหวังปิดชีพเหวินเจี๋ยโดยทันที
“เสี้ยวจันทราอาสัญ…” คลื่นพลังรูปทรงเหมือนเสี้ยวพระจันทร์สีม่วงพุ่งโจมตีใส่ชายปริศนา
อั้กก! ชายปริศนากันเอาไว้ได้แต่ก็กระเด็นมาไกลอย่างมากทําเอาเขาเหงื่อตก เหงยหน้ามาดูจึงพบ เสี่ยวรุ่ย
“คนมีฝีมือเช่นเจ้า ทําไมถึงยังรับใช้เจ้าชายกระจอกนี่อยู่ล่ะ“
”หุบปากไปสะ! ทําร้ายนายท่านของข้า รอดูวิธีการตายของเจ้าเถอะ“
การเปลี่ยนตัวสู้ระหว่างเหวินเจี๋ยและเสี่ยวรุ่ย ด้วยความโกรธเสี่ยวรุ่ยโจมตีชายปริศนาอย่างหนักหน่วงทุกกระบวนท่า อะไรกันไม่รู้มาก่อนว่าเจ้านี้ฝีมือร้ายกาจขนาดนี้ไม่ได้การแล้ว การต่อสู้ยังคงความสูสี แต่ดูเหมือนว่าเสี่ยวรุ่ยจะดูเหนือกว่าอยู่หน่อย
“ไม่คิดว่าจะมากฝีมือขนาดนี้ เงาของเทพสงคราม”
“ก็บอกว่าให้หุบปาก”
“ฮ่าฮ่า ข้ามาคิดบัญชีแน่นอน จงเปิด..ประตูสู่แดนมายา“
”อาคมเคลื่อนย้ายงั้นหรอ ไม่ได้การแล้ว จันทราเฉือนนภา!! “
ชายปริศนาใช้อาคมสุดยิ่งใหญ่เพื่อหลบหนี ส่วน เสี่ยวรุ่ยรีบสาดการโจมตีสุดท้ายอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดยั้ง แต่ก็กลับช้าไปก้าวเดียว ชายปริศนาได้หลบหนีไปได้สําเร็จ
“ชิ้! โถ่เว้ย”
เขตหยิน หมู่บ้านเซียมซี ณ บ้านหลังเล็กๆริมแม่น้ำ
“ข้าจะชดใช้หนี้ที่มากขนาดนี้ยังไงดีนะ“ หลินหลินพูดกับตัวเองน้ำเสียงแผ่วเบาไร้หนทาง
“นี่ยัยเพี้ยน พวกเราไปตลาดหาของกินกันอีกรอบเถอะ”
“จะบ้าหรือไงพวกเราไม่มีเงิน ตลาดไม่มีทางให้เจ้าไปเหยียบอีกแน่นอน”
”เงินบ้าเงินบออะไรของเจ้า แต่ก่อนขอเพียงข้าเอ่ยว่าอยากกิน ก็มีนับร้อยอย่างมาวางอยู่หน้าข้า“
”เห้ออ…“ หลินหลินถอนหายใจจากนั้นก็ลุกเดินไปที่ครัว ”
ที่ครัวมีของอยู่นิดหน่อยแหะ พอจะทําอาหารได้“ หลินหลินเริ่มลงมือทําอาหารบ้างอย่างจากของที่มีเหลืออยู่ในครัว กลิ่นเริ่มหอมกรุ่น จนไปเตะจมูกเฉินยวิ้นเข้า
“กลิ่นนี่ เจ้าทําอะไร”
“เกี๊ยวน้ำ”
“คืออะไร” เฉินยวิ้นสีหน้ามึนงง
“นี่เจ้าไม่รู้…เห้อไม่แปลก ชั่งเถอะเจ้ารอกินเถอะ” จากนั้นทั้งสองก็จ้องมองเกี๊ยวน้ำหนึ่งถ้วยเล็กๆที่มีเกี๋ยวอยู่ประมาณ 3 ชิ้นในถ้วย
“นี่เจ้าลองชิมดูสิ” หลินหลินรีบนําเสนอเกี๊ยวน้ำฝีมือตัวเองอย่างตื่นเต้น
“หน้าตาแปลกประหลาดแต่กลิ่นหอมเจ้านี้กินได้จริงหรือ”
“ได้สิเร็วเข้า นี่!” หลินหลินตอบพร้อมคีบเกี๊ยวหนึ่งชิ้นยื่นไปที่ปากของเฉินยวิ้นเหมือนจะป้อน
“……” เฉินยวิ้นอึ้งกับการกระทําของหลินหลิน
“จ้องข้าทําไม อ่ะนี่!” ไม่ทันไรหลินหลินก็ยัดเกี๊ยวเข้าปากเฉินยวิ้นเข้าไป เฉินยวิ้นค่อยๆเคี้ยวอย่างช้าๆพร้อมกับหน้าแดงไปโดยไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใด หลังจากกลืนลงไปเฉินยวิ้นมองหน้าหลินหลินอย่างเป็นประกาย
“ไอสิ่งนี้รสชาติล่ำเลิศมากๆ ข้าไม่เคยได้สัมผัสรสชาติแบบนี้มาก่อน”
“ฮ่าฮ่า เจ้าเว่อเกินไปแล้ว ขอบคุณนะ” หลินหลินยิ้มออกมาอย่างสดใสและดีใจ พร้อมกับคีบเกี๊ยวอีกหนึ่งชิ้นกิน เกี๊ยวเหลือชิ้นสุดท้าย ทั้งสองคนนั่งจ้องอย่างใจจดใจจ่อ
“เหลือเกี๊ยว…แค่หนึ่งชิ้น” หลินหลินพูดพร้อมกลืนน้ำลายดังเอื้อก “เจ้านี่สุดยอดจริงๆข้าอยากกินอีกสักพันชิ้นเลย” เฉินยวิ้นพูดจบ หลินหลินมองมาที่เฉินยวิ้นเผยเห็นหน้าตาที่ดูมีความสุขสุดๆ
“เจ้ากินมันเถอะ” หลังสิ้นประโยคหลินหลิน เฉินยวิ้นมองหลินหลินอย่างตั้งใจ พร้อมกับคีบเกี๊ยวชิ้นสุดท้าย ค่อยๆยกมันอย่างช้าๆและยื่นไปที่หลินหลิน พร้อมหลบหน้าหลินหลิน
“เจ้า…เจ้านั้นแหละกินสะ จะได้มีแรงทําให้ข้ากินอีกเยอะๆ” หลินหลินอึ้งกับสิ่งที่เฉินยวิ้นทํา
“อื้ม! ได้สิ” หลินหลินยิ้มออกมาอย่างสดใสพร้อมกินเกี๊ยวที่เฉินยวิ้นยื่นให้ เฉินยวิ้นที่เหลือบตามาดูหลินหลินยิ้มออกมา จะว่าไปตอนยัยนี้ยิ้ม ก็ดูดีใช่ได้เลย
“ข้าคิดออกแล้ว เกี๊ยวน้ำ!!”
“อะไรของเจ้าตกใจหมด”
“ไปกันเถอะ!!”
“ห้ะ…” พูดจบหลินหลินก็จับแขนเฉินยวิ้นพาออกไปทันที
ตอนเหนือของเมืองถง หลังจากการหลบหนีของชายปริศนาไปได้สักพักใหญ่
“นายท่านเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” เสี่ยวรุ่ยร้อนรนรีบถามไถ่อาการของเหวินเจี๋ย
“ข้าไม่เป็นไร เจ้าเก่งขึ้นนําหน้าข้าไปอีกแล้วนะ”
“ไม่หรอกขอรับ หากนายท่านรู้และเอาจริงแต่แรกข้าคิดว่าเจ้านั่นไม่รอดแน่ขอรับ”
“บ้าเอ้ย! เจ็บใจชะมัด”
“ตอนนี้รีบกลับแคว้นก่อนเถอะขอรับ” เสี่ยวรุ่ยพยุงเหวินเจี๋ยที่บาดเจ็บเตรียมกลับไปยังต้าโต่ว
หน้าเรือนของผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านเซียมซี
“นี่เจ้ามาทําอะไรที่นี้”
“ข้าจะมีหนี้เพิ่ม”
“ทําไมเล่าเจ้าไม่อยากมีหนี้หนิ”
“เดี๋ยวเจ้าก็รู้น่า รอข้าอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนะ เชื่อฟังนะเจ้าบ้องตื้น” หลังจากสิ้นคําว่าเชื่อฟังของหลินหลินและเดินเข้าไปยังเรือน ก็เกิดปฏิกิริยาบางอย่างขึ้นกับเฉินยวิ้น เฉินยวิ้นทําสีหน้าตกใจกับปฏิกิริยาบางอย่าง
“นี่มันอะไรเกิดอะไรขึ้น ข้า…ขยับตัวไม่ได้” เฉินยวิ้น ยืนแข็งทื่อไม่สามารถขยับร่างกายได้ทุกส่วน นี่มันเกิดบ้าอะไรเนี่ย รถเกวียนคันหนึ่งกําลังจะขับผ่านไปแต่ก็ติดที่เฉินยวิ้นยืนขว้างอยู่
“นี่ เจ้าหนุ่มผมยาว หลบทางหน่อยได้หรือไม่”
“ข้า..ข้าหลบไม่ได้”
“อะไรกันนี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง” คนขับเกวียนหงุดหงิดจึงลงมาผลักเฉิ้นยวิ้นให้หลบจนนอนกองกับพื้นอยู่หน้าเรือนผู้ใหญ่บ้าน
“บ้าเอ้ย ข้าลุกไม่ได้นะ ข้าไม่เคยอับอายขนาดนี้ อ้ากกกก!!“ เฉินยวิ้นนอนหน้าแนบพื้นไม่สามารถลุกขึ้นได้ ด้วยความอับอายและโกรธจึงตะโกนลั่น อยู่อย่างนั้นเป็นพักใหญ่หลินหลินก็กลับออกมา
“เจ้าบ้องตื้น เจ้าง่วงนอนหรือ” หลินหลินถามด้วยความสงสัย พร้อมกับหัวเราะคิกคักกับท่าท่างของเฉินยวิ้นไปด้วย
“นี่ยัยเพี้ยน เจ้าทําอะไรลงไปกับข้า!”
“อะไรของเจ้ามาโทษข้าได้ยังไง ไปกันเถอะ” หลินหลินเดินออกมาแล้วหันหลังกลับไปมองอีกรอบ
“นี่พอได้แล้วน่า ไปนอนตรงนั้นทําไม ได้เวลาซื้อของแล้วเร็วเข้า”
“ร่าง..ร่างกายขยับได้แล้ว นี่มันบ้าอะไรเนี่ย” หลังจากขยับได้แล้วก็รีบลุกไปหาหลินหลินทันที หลินหลินเดินตลาดด้วยท่าทีตื่นเต้นสุดๆ
“นี่เจ้ายิ้มอะไรอยู่พักใหญ่แล้ว”
“ฮ่าฮ่า เพราะข้ากําลังจะได้ทําในสิ่งที่เคยอยากทําหนะ”
“สิ่งนั้นคืออะไร”
“แม่ค้ายังไงล่ะ“ หลินหลินหันมายิ้มแฉ่งตอบ
ทั้งสองเดินตลาดซื้อของกันพักใหญ่หลังจากนั้นก็กลับไปที่บ้านริมน้ำ
”เอาล่ะข้าจะเตรียมของเพื่อไปเปิดขายรุ่งเช้า ส่วนเจ้าไปจับปลามาสะ”
“จับปลาจับอย่างไร” หลินหลินไม่ได้ตอบรีบมุ่งหน้าไปยังครัว ปล่อยเฉินยวิ้นให้ยืนงง งวย เฉินยวิ้นเดินออกไปยังแม่น้ำทําท่าทีเตรียมจะจับปลา
”ปลาพวกนี้ว่ายช้านัก ข้าคงจับได้เป็นพันตัวแน่ ฮึบ!!“ เฉินยวิ้นรีบก้มลงจับปลาอย่างรวดเร็วแต่กลับได้แต่น้ำในมือ
บ้าเอ้ย ฮึบ ฮึบ ฮึบ จับเป็นนับสิบๆรอบก็ไม่ได้ปลามาเลยสักตัวเดียว
”อ้ากก บ้าเอ้ย ข้าเป็นเทพผู้ไร้ที่ตินะ กะอีแค่จับปลากระจ้อยร่อย อย่ามาดูถูกข้า” เฉินยวิ้นลงมือจับปลาอย่างตั้งใจและบ้าคลั่ง หลินหลินที่แอบดูอยู่ก็อดยิ้มอย่างเอนดูไม่ได้ จนพลบค่ำ จับปลามาได้เพียงสี่ตัวเท่านั้น
“เหนื่อยเป็นบ้าเลย ข้าไม่รู้ว่าข้าหลับมากี่พันปี แต่เจ้าคือศัตรูตัวฉกาจที่สุดของข้า เจ้าปลา”
ทั้งคู่ก่อไฟย่างปลากันอยู่ริมน้ำ
“ไหนบอกว่าเป็นเทพเจ้าจับปลาได้สี่ตัวเอง” หลินหลินยิ้มเจ้าเล่ห์พูดกับเฉินยวิ้น
“ข้า..ข้าแค่ไม่เคยจับเฉยๆครั้งหน้าทั้งมหาสมุทรข้าจะล่ามาให้หมดเจ้าคอยดู”
“ฮ่าฮ่า แบบนั้นก็กินไม่หมดพอดีหนะสิ โอ๋ๆไม่ต้องขนาดนั้นหรอกนะ เจ้าบ้องตื้น”
“นี่หยุดเรียกข้าแบบนั้นนะ” หลินหลินกินอย่างมีความสุขพร้อมสนทนาอย่างเป็นกันเองกับเฉินยวิ้น ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเริ่มสนิทกันมากขึ้น
ค่ำคืนที่ลมหนาวเหน็บ ในบ้านที่ทั้งสองอยู่ไม่มีเตียงทั้งคู่จึงต้องนอนที่พื้น เฉินยวิ้นที่ยังไม่หลับเดินมาดูหลินหลิน ที่หลับสนิทแต่ก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายตัวพร้อมกับตัวสั่นเพราะความหนาว
“หงฮวาเอ๋อร์” เฉินยวิ้นแบมือขึ้นมาเอ่ยเรียก ปรากฎเป็นเพลิงจิ๋วที่พูดได้
“เจ้าไปหาฟางดีๆมาทําเป็นที่นอนที”
“รับทราบขอรับ” เสียงเล็กจิ๋วตอบรับของไฟตัวน้อย
หลังจากทําที่นอนที่ทําจากฟางเสร็จ เฉินยวิ้นก็อุ้มหลินหลินมานอน พร้อมกลับถอดเสื้อคุมของตัวเองมาห่มให้เธอ พร้อมมองหน้าด้วยสายตาที่อบอุ่น
“แค่นี้..ก็ตัวสั่นแล้วหรือไงเจ้า” แล้วเฉินยวิ้นก็ลุกเดินออกมาหน้าบ้าน พร้อมฉุกคิดเรื่องที่ตัวเองขยับไม่ได้ในตอนนั้นอย่างเคร่งเครียด เพราะนางงั้นหรอ นางสั่งข้า ปวดหัวชะมัดเรื่องบ้านี่ ไม่ทันไรสีหน้าของเฉินยวิ้นก็เปลี่ยนไป เป็นสีหน้าที่ดุดัน
“ยังไม่ออกมาอีกหรอ หรือจะให้ข้าเผาตาคู่ที่เจ้าภูมิใจนักหนา” เฉินยวิ้นเรียกใครบางคนให้ออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด
“ข้าว่าแล้วไม่พ้นสายตาท่านจริงๆด้วย สมกับเป็นท่าน”
ชายปริศนา การแต่งตัวราวกับเทพเซียนเหมือนกับเฉินยวิ้น ก็ปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าของเฉินยวิ้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ