แด่ชีวิตสุดชิลของต้นหลิวจอมเฉื่อย

-

เขียนโดย Taraxacum

วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 21.44 น.

  4 บท
  1 วิจารณ์
  1,731 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) สุดหล่อห้อง 1 (1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
บทที่ 1 - สุดหล่อห้อง 1
 
(1)
 
 
 
โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นหูกวางข้างตึกเรียนเป็นสถานที่ที่ต้นหลิวตัดสินใจจะใช้เป็นที่ประจำในการนั่งทำงานหรือพักผ่อนหย่อนใจ บรรยากาศมันเงียบดีเพราะส่วนใหญ่จะนั่งจับกลุ่มกันอยู่ที่ใต้อาคาร นี่ข้างกันก็เป็นโต๊ะไม้แบบยาวซึ่งมีคนนอนอยู่ เขาเอาหนังสือเกี่ยวกับอะไรสักอย่างปิดหน้าไว้ หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ยึดที่นี่เป็นที่ประจำเหมือนกัน
 
 
 
ซึ่งจำนวนดาวที่ปักอยู่ตรงขอบกระเป๋าเสื้อทำให้รู้ว่าอยู่ระดับชั้นเดียวกัน ต้นหลิวก็เลยเลิกสนใจแล้วหันมาเปิดประเป๋าเป้เพื่อดูว่าแม่เอาอะไรใส่ไว้ให้บ้าง
 
 
 
วันนี้ต้นหลิวมาโรงเรียนเองและจะมาเองแบบนี้ตลอดจนปิดเทอม เพราะโรงเรียนของพวกน้อง ๆ นั้นอยู่คนละทาง จะได้ไม่ต้องวนรถไปวนรถมา เสียเวลาไม่พอยังเปลืองน้ำมัน
 
 
 
"อื้อหือ"
 
 
 
ขนมปังไส้ครีมรสชาติต่าง ๆ เต็มไปหมดเลย ไม่ว่าจะก้อนเล็กก้อนใหญ่ แบบแผ่นทาเนย ราดช็อกโกแลตก็มี สดใหม่จากเตาทุกวันเพราะแม่ไม่เคยเอาของเหลือมาขายต่ออยู่แล้ว แต่ถ้าเหลือจริง ๆ ก็เก็บไว้กินเองหรือไม่ก็แบ่งเพื่อนบ้าน ซึ่งปกติน้อยมากที่จะเหลือ ดูสิยังแถมนมสตรอว์เบอร์รีมาอีกสองขวดจุก ๆ ด้วยความที่แม่กลัวลูกชายคนโตหิวขณะเรียนนั่นเอง
 
 
 
แต่มันเยอะเกินไปไง เดี๋ยวสุรมาต้องแบ่งให้สักหน่อยแล้ว เมื่อวานแม่ก็ห่อขนมให้เอากลับไปแบ่งคนที่บ้านตั้งเยอะ
 
 
 
เสียงแกะซองขนมมันดังมากหรือไรไม่ทราบ คนที่นอนอยู่ถึงได้ขยับตัวผุดลุกขึ้นนั่งพลางหันมามองยังต้นเสียง 
 
 
 
ต้นหลิวไม่สนใจหยิบขนมปังแสนนุ่มนิ่มออกมา ด้านในสอดใส่ครีมสีขาวนวล กัดทีทะลักเปรอะเปื้อนขอบปากไหลย้อยลงคางจนรีบต้องเช็ดออกก่อนที่ท่านจะหยดใส่เสื้อนักเรียน
 
 
 
"นี่"
 
 
 
เสียงเรียกดึงให้ต้นหลิวหันมอง เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังจ้องมาด้วยสายตาคมกริบ และหรี่ลงนิด ๆ คล้ายจับผิด
 
 
 
"อะไรเหรอ" ต้นหลิวจำใจถามออกไปเพราะโดนจ้องแบบนี้ทำให้กินไม่ลง
 
 
 
"ขอบ้างสิ..."
 
 
 
แน่นอนว่าต้นหลิวไม่มีทางให้อยู่แล้ว เป็นใครละเนี่ย แม้แต่ชื่อยังไม่รู้จัก มาขอกันง่าย ๆ ได้ไง
 
 
 
นอกจากไม่พูดอะไรแล้วยังเล่นจ้องตากัน ใครหลบก่อนคนนั้นแพ้ ต้นหลิวมองพลางกัดเนื้อขนมปังพร้อมไส้ครีมเข้าปากคำใหญ่ จงใจยั่วน้ำลายอีกฝ่าย 
 
 
 
อยากกินหนิใช่ไหม
 
 
 
อื้มม หนุบหนับหวานอร่อย
 
 
 
"ขอซื้อก็ได้ถ้างั้น"
 
 
 
ร่างสูงโปร่งลุกจากที่ของตัวเองมายืนข้างโต๊ะของต้นหลิว วางธนบัตรสีแดงไว้ข้างมือ ใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่งแต่สายตาค่อนข้างเว้าวอน
 
 
 
ต้นหลิวถอนหายใจหยิบกระเป๋ามาเปิดเอาขนมปังห่อใหญ่สอดไส้ช็อกโกแลตกับนมสตรอว์เบอร์รี ให้เขาไป เงินที่มันล่อตาล่อใจก็ไม่เอา
 
 
 
"เอาไปสิ ไม่ต้องทอน นายจะได้ไม่เข้าใจผิดว่าถูกเราไถขนม" เสียงทุ้มว่าพลางยัดเงินใส่มือเล็กกว่า
 
 
 
"ไม่เป็นไร" ต้นหลิวตอบเสียงนิ่ง กินขนมต่อจนหมดโดยไม่สนใจเขาอีก ขณะที่อีกฝ่ายเอ่ยขอบคุณ ถึงอย่างนั้นก็ยังวางเงินไว้แล้วกลับโต๊ะแกะขนมกับนมกิน
 
 
 
สุรมาในเวลาต่อมา พูดเป็นต่อยหอยถึงเรื่องเมื่อวานที่ได้ขนมกลับบ้านถุงใหญ่ ทุกคนในบ้านชมไม่ขาดปากเลยว่าอร่อย วันนี้ก็ให้เงินเพื่อแวะซื้อรวมทั้งชวนต้นหลิวไปกินหมูกะทะที่ร้าน
 
 
 
"ไปนะ"
 
 
 
"อือ ได้"
 
 
 
"โอเค เยี่ยมเลย เดี๋ยวส่งไลน์ไปบอกแม่ก่อน"
 
 
 
"หาตั้งนานไอ้เวร ทำไมมาหลบอยู่นี่วะ แล้วข้าวปลาหาแดกหรือยัง"
 
 
 
อยู่ ๆ ก็โผล่มา พรวดพราดพลางพูดเสียงดัง ต้นหลิวสะดุ้งตกใจมองไปที่ร่างสูงโปร่งของผู้มาใหม่ ใบหน้าจัดว่าดูดีแต่ฝีปากแสนจัดจ้าน
 
 
 
"ไป ๆ ไปพูดให้มันเคลียร์ จะได้ไม่ต้องเทียวหลบเทียวซ่อน"
 
 
 
เรื่องอะไรกันหนอ
 
 
 
ต้นหลิวมอง อีกฝ่ายก็หันมามองเช่นกัน คำพูดของเพื่อนดูจะไม่เข้าหูเลยสักนิด 
 
 
 
"มึงฟังที่กูพูดไหมเนี่ยโพลักซ์"
 
 
 
"เออ"
 
 
 
"เออแล้วก็ไปดิ วุ่นวายตั้งแต่เปิดเทอมเลยห่าเอ๊ย"
 
 
 
คนพูดเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเสียงดังเมื่อหันมาเจอคนอื่นนั่งอยู่
 
 
 
"เอ่อ... โทษที"
 
 
 
แล้วก็เดินจากไป ตามด้วยร่างสูงโปร่งอีกคน 
 
 
 
"อะไรของพวกนั้น" สุรบ่น
 
 
 
 
 
 
 
โรงเรียนแห่งนี้มีห้องเรียนพอสำหรับนักเรียนทุกระดับชั้น ทำให้ไม่ต้องลำบากแบกกระเป๋าหนัก ๆ เดินเรียน แต่ถ้าเป็นวิชาเฉพาะแบบมีภาคปฏิบัติควบคู่กับภาคทฤษฎีก็จะมีห้องพิเศษ เช่นวิชาวิทยาศาสตร์ ศิลปะ คอมพิวเตอร์ พละศึกษา เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ก็สบาย นั่งเรียนที่ห้องประจำโดยมีอาจารย์ผลัดเปลี่ยนกันเข้าสอน
 
 
 
อีกเรื่องเลยคือชั้นมัธยมปลายของที่นี่จะมีทั้งหมดแปดห้อง ไม่มีใครเก่งกว่าใครแต่แบ่งตามความถนัด หนึ่งสองจะเน้นวิชาการ 'คณิตวิทย์' สามสี่เน้นภาษาเช่น 'ไทยอังกฤษจีน' แล้วก็มีชมรมเกี่ยวภาษาต่างประเทศอีก เช่น 'ญี่ปุ่นเกาหลีฝรั่งเศส' ห้าหกนี่เน้นกิจกรรมอย่างการถ่ายภาพ การแสดง การตัดต่อทำคลิปวีดีโอ กราฟฟิกดีไซน์ต่าง ๆ และสองห้องสุดท้ายอย่างเจ็ดแปดจะเน้นกีฬา
 
 
 
เรียกได้ว่าโรงเรียนแห่งนี้ใหญ่โตแล้วก็ครบครันสำหรับการเรียนรู้มาก แน่นอนว่าค่าเทอมก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันน้า
 
 
 
ต้นหลิวอยู่ห้องสาม ไทยอังกฤษ และคิดไว้ว่าจะเข้าชมรมวาดการ์ตูน อนาคตอยากอยู่บ้านวาดการ์ตูนขาย
 
 
 
เป็นไง ว่างแผนชีวิตไว้หมดแล้ว เน้นไม่พบเจอผู้คน
 
 
 
 
 
เวลาหน้าเสาธงเป็นอะไรที่ค่อนข้างหน้าเบื่อ ช่วงนี้มีเรื่องให้ต้องพูดกันเยอะหน่อยเพราะเพิ่งเปิดภาคเรียนใหม่ กฏระเบียบอะไรต้องพูดให้ชัดเจน 
 
 
 
"เอาล่ะ เรื่องสุดท้ายที่จะพูดในวันนี้คือช่วงบ่ายจะมีการจัดให้เลือกชมรมสำหรับนักเรียนใหม่ สนใจชมรมไหนก็ขอใบสมัครเอาไว้แล้วค่อยตัดสินใจทีหลังได้ หมดเขตส่งใบสมัครสัปดาห์หน้านะอย่าลืม..."
 
 
 
จากนั้นก็เลิกแถว เหล่านักเรียนทุกระดับชั้นแยกย้ายกันขึ้นห้องเพื่อโฮมรูม 
 
 
 
อาจารย์ที่ปรึกษาของห้องมอสี่ทับสามชื่ออาจารย์ทรงเกียรติ สอนวิชาดนตรี ลูกชายก็เรียนอยู่ห้องนี้ นั่งยิ้มแป้นแล้นอยู่หน้าห้องนั่นไงชื่อทิวสน
 
 
 
"สวัสดีเด็ก ๆ"
 
 
 
"สวัสดีครับ/ค่า"
 
 
 
"เป็นยังไงกันบ้าง วันที่สองของการมาโรงเรียน มีใครยังหลงทางอยู่ไหม"
 
 
 
คำพูดของอาจารย์เรียกเสียงหัวเราะลั่นห้อง ไม่มีใครยกมือก็จริงแต่หลายคนในนี้ประสบปัญหากับเส้นทางมาก นอกจากพื้นที่จะกว้างขวางแล้วยังซับซ้อนด้วยอาคารมากมาย
 
 
 
"เพิ่งวันที่สองเองนี่นะ ไว้ประชุมเมื่อไรอาจารย์จะเสนอทำป้ายบอกทางแล้วกัน เด็กรุ่นต่อไปจะได้ไม่หลงกัน"
 
 
 
ที่ผ่านมาก็อาศัยถามทางกัน ด้วยไม่มีป้ายบอกทางทั้งที่มันค่อนข้างสำคัญ ขนาดตัวอาจารย์เองยังหลงกันเป็นว่าเล่น แปลกที่ไม่อนุมัติทำป้ายเสียที มันติดอะไรกันนะ
 
 
 
"เอาล่ะ มาที่เรื่องเลือกหัวหน้าห้อง มีใครจะเสนอตัวเองไหม หรือใครอยากเสนอใคร ยกมือได้เลยนะ"
 
 
 
ต้นหลิวนั่งเท้าค้างมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่สนใจการเลือกหัวหน้าห้อง ใครจะเป็นก็ได้ทั้งนั้น
 
 
 
เฮ้อ~ เมื่อไหร่จะพักกลางวัน ต้นหลิวอยากกินข้าวแล้ว ขนมปังก็ยังเหลืออยู่ แบ่งสุรไปสองห่อและนมอีกหนึ่งขวด อยากกินไส้กรอกด้วย ได้น้ำโค้กเย็น ๆ คงชื่นใจ
 
 
 
เดี๋ยวตอนเย็นจะได้กินหมูกะทะอีกนะ แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว ชวนพวกน้อง ๆ ไปด้วยจะเป็นอะไรไหมนะ เดี๋ยวขอเงินแม่ไปจ่ายด้วย ไม่ฉวยโอกาสกินฟรีแน่นอน
 
 
 
ต้นหลิวตกอยู่ในห้วงความคิดนานพอที่จะถูกสุรร้องเรียกพร้อมกับเขย่าแขนเพื่อดึงสติ การเลือกหัวหน้าห้องเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย อาจารย์ก็ออกจากห้องไปแล้วด้วย เหลือเวลาอีกนิดหน่อยในการเตรียมตัวเรียนวิชาแรกของวั

 
 
 
"เหม่อเก่ง" สุรว่า
 
 
 
"ใครเป็นหัวหน้าน่ะ" ต้นหลิวเอ่ยถาม
 
 
 
"เกี้ยวเป็นหัวหน้า แบงค์เป็นรอง ลีน่าเป็นเหรัญญิก"
 
 
 
ต้นหลิวพยักหน้ารับรู้ไว้ มองไปที่สามคนนั้นซึ่งกำลังนั่งคุยกัน ท่าทางดูพึ่งพาได้ก็สบายใจ
 
 
 
 
 
 
 
^⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠_⁠^
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา