เพียงเธอคนเดียว ( love only you )

-

เขียนโดย ชินาปักษา

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 21.37 น.

  5 chapter
  3 วิจารณ์
  2,301 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ตอนที่1.คนที่ไม่อยากเจอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 ณ สนามบินนานาชาติ ญี่ปุ่น
สโรชา มิราอิ ลากกระเป๋าเดินทางใบโตไปตามโถงทางเดินผู้โดยสารขาออกของสนามบินอย่างเหนื่อยอ่อนพลางมองหาใบหน้าใครบางคนที่เธอรู้จักซึ่งน้าบุญธรรมของเธอส่งมารับอาจเป็นลุงมิซูโอะคนขับรถส่วนตัวหรือลุงซายะคนสวนที่คฤหาสน์ก็เป็นได้ สนามบินคันไซหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วมุมโลกที่หลั่งใหลมาท่องเที่ยวดินแดนดอกซากุระแห่งนี้ร่างน้อยถูกเบียดเสียดไปมาจากผู้คนที่เร่งรีบไปต่อเครื่อง หญิงสาวถอยห่างออกมาจากความวุ่นวายโกลาหล นี่เป็นการกลับมาญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบห้าปีของเธอหรืออย่างน้อยเอริกะก็น่าจะมารับเธอด้วยตัวเอง
เพียงแต่สโรชาไม่คิดว่าตัวเองจะเดาผิดขนาดนี้
"สโรชา"
เสียงทุ้มห้าวเรียกสโรชาให้หลุดจากภวังค์แล้วมือแข็งแรงคู่นั้นก็โอบเอวบางของเธอหมุนร่างน้อยอรชรเข้าหาร่างบึกบึนของบุรุษเพศ สโรชาไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวเขาอยู่ใกล้เธอมากจนหญิงสาวเห็นใบหน้าเขาเพียงแว้บเดียว ก่อนที่ริมฝีปากบางอิ่มจะถูกประกบแนบลงมาด้วยริมฝีปากร้อนเนิ่นนานหลายวินาทีหรืออาจนานเป็นนาที จูบนั้นทั้งอ้อยอิ่งดูดดื่มและเรียกร้องเอาจากเธอเหมือนโหยหามันมานานแสนนานกว่าที่สโรชาจะทันตั้วตัวประท้วงเขาได้ ลิ้นของเขาละเลียดเเซะชิมความหวานในปากของเธอจนพอใจจึงยอมปล่อยหญิงสาวและถอยออกห่าง
"คุณยังหวานเหมือนเดิมนะสโรชา" เขาพูด คนถูกจูบหน้าซีดเซียวเริ่มแดงปลั่งซับเลือด อับอายสายตาผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาบางคนมองแล้วอมยิ้ม
"นายไม่ควรทำแบบนี้นะโชตะ" สโรชาเอ็ดอย่างโกรธๆ โชตะโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาใกล้และมองเธออย่างขบขันกึ่งเสน่หา สายตาแบบนี้หล่อนเกลียดนักมันเป็นสายตาที่เขามองเธอตั้งแต่เธอเริ่มแตกเนื้อสาวเริ่มมีทรวดทรงอกเอว
"มากกว่านี้ผมก็ทำมาแล้ว คุณจำไม่ได้หรือไง" เขาลากเสียง
"นายอย่ามารื้อฟื้นอดีตนะ ฉันไม่ชอบ"
"ผมก็นึกว่าคุณกับผมต่างก็ชอบมันเสียอีก" เขายังอมยิ้มกวน โชตะเสยผมมองเธอด้วยท่าทางขบขันสโรชาใช้มือดันกระเป๋าใบใหญ่มาด้านหน้าหาเขา
"รีบเข็นกระเป๋าให้ฉันเลย ฉันอยากกลับบ้านเร็วๆ แล้ว" สโรชาพูดเสียงแข็ง
"มีแค่นี้หรือครับ" เขาถามก้มลงจับที่ลากกระเป๋าของเธอ
"หมดแล้ว"
หญิงสาวหมุนตัวเดินนำออกไปเขาจำต้องเดินตามไป รู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อยกับทาท่างของเธอ เธอก็ทำปั้นปึงแบบนี้กับเขามาแต่ไหนแต่ไรแล้วไม่ใช่เขาจะไม่รู้นิสัยของสโรชาตอนนี้หญิงสาวไม่ใช่หลานสาวเจ้านายเขาเช่นในอดีตแต่เธอเป็นเมียของเขา จากนี้ไปสโรชาไม่มีสิทธิ์มาข่มเขา ไม่ใช่ในฐานะเจ้านายเธออาจจะออกคำสั่งกับคนอื่นๆ ให้ทำตามคำสั่งของเธอได้แต่ไม่ใช่เขา โชตะคิดว่าหญิงสาวคงผิดหวังไม่น้อยที่เอมิกะส่งเขามารับเธอทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอเกลียดเขา
โชตะมองร่างเพรียวบางที่ลงส้นเท้าฉับๆ ขณะเดินออกมานอกอาคารขาออกสนามบิน ความรู้สึกมากมายที่กักเก็บไว้ในใจที่มีต่อสโรชานั้นรุนแรงท่วมท้นเขาไม่เห็นเธอมาเกือบห้าปี ครั้งแรกที่เจอเธอทำเขาแทบเสียอาการควบคุมตัวเองไม่อยู่ ทำให้เขาทำในสิ่งที่คิดอยากทำกับเธอตลอดเวลา เขารักสโรชา และคิดถึงเธอมาก ดวงตาคมกล้ามองไปตามช่วงเอวขอดกิ่วเรื่อยต่อลงมาถึงเรียวขางดงามในชุดกระโปรงสั่นเหนือเข่า ขณะที่นึกถึงเรียวขานั้นกำลังโอบตะหวัดเอวเขาอยู่บนเตียงขณะเขาขับเคลื่อนกายเข้าออกในร่างแสนเย้ายวนของเธอ
โชตะถือประเป๋ามาถึงจุดที่หญิงสาวยืนรออยู่ เขาแปลกใจว่าเธอมีกระเป๋าเพียงใบเดียวหรือ ทีแรกเขาคิดว่ามันน่าจะมีมากกว่าหนึ่งใบเสียอีกเขาครางฮึ่มในลำคอ หรือว่าเจ้าหล่อนไม่คิดจะอยู่ญี่ปุ่นนาน
"คุณจะกลับเมืองไทยหรือเปล่า" เขาถาม
"กลับ" เธอตอบน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มองหน้าอีกฝ่าย เธอไม่ต้องการอยู่ที่นี่นานเสร็จจากงานศพลุงทาคากิ เธอจะกลับเมืองไทยทันที ญี่ปุ่นไม่ใช่บ้านของเธอแล้วมันไม่ใช่ตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้วตั้งแต่เทศกาลดอกไม้ไฟตอนเธออายุยี่สิบปี
"คุณคงไม่รู้สิว่าคุณอาจไม่ได้กลับเมืองไทยอีกแล้ว"
"ทำไมฉันถึงจะไม่ได้กลับเมืองไทยละ"
ดวงตากลมโตภายใต้แว่นกันแดดมองเขาเป็นเชิงถาม แต่เขายังไม่คิดจะบอกอะไรเธอเขาถือกระเป๋ามาถึงจุดที่รถจอดอยู่ โชตะเปิดท้ายรถและยัดกระเป๋าใบโตเข้าไปข้างในสโรชาเดือดดาลอยู่กับท่าทางของเขาตอนนี้เธออายุยี่สิบห้าปีแล้วยังมีอะไรที่เป็นความลับสำหรับเธออยู่อีก หญิงสาวทำหน้ามุ่ยและย่นจมูกใส่ สโรชายังยืนอยู่ข้างรถขณะที่เขาเปิดประตูและจับมันไว้ให้เธอเข้าไปนั่งข้างในข้างคนขับ
"ขึ้นรถสิครับ" เขายกมืออีดข้างเท้าสะโพกรอเธอ สโรชาทำเป็นไม่สนใจเท้าบอบบางยืนไขว่ไปข้างหน้าด้วยท่าทีที่ยโสตามธรรมชาติของเธอ
"ว้ายย"
สโรชาหวีดร้องตกใจเมื่อโชตะคว้าเอวบางและยกร่างน้อยเข้าไปข้างในรถอย่างง่ายดายและปิดประตู เขาเดินอ้อมไปนั่งประจำที่คนขับสโรชามองเขาด้วยสีหน้ากรุ่นไม่พอใจ แต่ก็อดมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ของเขาไม่ได้เรือนผมสีดำหนาพวกนั้น โชตะรู้ว่าเจ้าหล่อนแอบมองเขาอยู่ เขาหันไปสบตาเธอสโรชารีบหลบตาเสมองไปทางอื่น
"น้าเอริกะเป็นคนให้นายมารับฉันใช่ไหม" สโรชาถามเสียงเรียบขุ่น คิดแล้วว่าเธอต้องถามประโยคนี้
"คุณลืมไปแล้วหรอว่าผมเป็นอะไรกับคุณ ผมเป็นสามีคุณนะไม่มีใครสั่งให้ผมมารับคุณทั้งนั้น" เขาไม่สนใจตอบคำถามเธอกลับพูดประโยคที่คนฟังฟังแล้วแก้มแดงระเรื่อ
"นายอย่าพูดบ้าไปนะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายซ่ะหน่อย นายลืมไปแล้วหรอฉันเป็นเจ้านายของนาย เป็นทายาทเเท้ๆ เพียงคนเดียวของตระกูลมิราอิผู้ทรงอิทพลที่สุดในเกาะฮิงะชิ"
"ผมอยากทำความเข้าใจกับคุณก่อนกลับไปถึงคฤหาสน์ และตอนนี้เป็นโอกาสที่เหมาะ"
"ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย"
"แต่ผมมี"
เขาพูดเสียงดั่งแต่ไม่ถึงกับตวาด คอของสโรชาแข็งได้แต่นั่งนิ่งเงียบ การที่ถูกเขาขึ้นเสียงใส่เป็นเรื่องแปลกสำหรับเธอ เพราะสโรชาเคยชินกับการออกคำสั่งกับเขามาตั้งแต่เด็กเพราะเขาคือคนของคุณลุงก็เหมือนกับบอดี้การ์ดคนอื่น สโรชานั่งกอดอกพิงเบาะรู้สึกเมื่อยขบตามกล้ามเนื้ออยู่บ้างจากผลที่นั่งเครื่องมาหลายชั่วโมง เพียงไม่กี่นาทีทั้งสองก็ขึ้นมาที่ถนนหลัก โชตะขับรถมุ่งตรงไปทางทิศใต้ของหมู่เกาะฮิงะชิซึ่งเป็นหมู่เกาะขนาดใหญ่หรูหราทันสมัยท่ามกลางบรรยากาศมืดเพราะเริ่มช่วงเข้าสู่ฤดูฝนริมสองข้างทางมีต้นซากุระขึ้นอยู่เรียงรายสโรชายังจำภาพที่ต้นซากุระออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งสุดลูกหูลูกตามันเป็นภาพที่สวยงามมากเมื่อไหร่ที่เธอคิดถึงญี่ปุ่น ในความสุขมักทิ้งความปวดร้าวเอาไว้ให้ เธอรักญี่ปุ่นที่เป็นแผ่นดินแม่ รักคุณลุงทาคากิ แต่ที่เธอต้องเนรเทศตัวเองไปตลอดหลายปีเพียงเพราะใครบางคน
"นายมีเรื่องอะไรก็พูดมาสิ" สโรขาพูดเสียงห้วน พยายามไม่หวั่นไหว
"ทำไมคุณถึงกล้าหนีผมไป" สโรชารู้สึกเหมือนโดนเขาตบหน้า
ทำไมนะหรือ เขาไม่รู้บ้างหรือว่ามันเป็นเพราะอะไร เธอเกลียดเขา สโรชาเมินหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถและหันเหลือบมามองเขา เห็นเขากัดกรามแน่นก่ินหันกลับไปมองด้านข้างเหมือนเดิม
"ทำไมคุณไม่ตอบผม" เขาถาม
"ฉันเกลียดนาย"
"แค่นั้นหรือ"
"ใช่ ไม่มีเหตุผลมากไปกว่านี้"
โชตะยักไหล่
"ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะเลี่ยงได้ ถึงคุณจะเกลียดผมยังไงต่อไปคุณต้องอยู่ที่นี่เลย"
"ไม่" สโรชาพูดเสียงเย็น แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ
"ตระกูลมิราอิไม่มีสายเลือดแท้ๆ ที่จะขึ้นเป็นนายใหญ่ต่อจากท่านทาคากิได้นอกจากคุณ นายน้อยซิโอริกับนายน้อยเอย์จิ ไม่ใช่คนที่นายท่านทาคากิเลือกและทั้งสองคนก็ยังเด็กเกินไป"
"เรคุมะกับเอย์จิไม่ใช่เด็ก เขาคนใดคนหนึ่งเหมาะสมมากกว่าฉัน" สโรชาพูดเสียงแข็ง แม้มันจะทำให้เขาโกรธเมื่อคิดว่าเธอกำลังจะให้เด็กมอปลายอย่างซิโอริหรือเอย์จิขึ้นรับตำแหน่งนายใหญ่แทนเธอ
"ผมคิดว่าคุณเหมาะสม นายน้อยทั้งสองคนไม่มีทางทำได้ คุณก็รู้ว่าสองคนนั้นไม่มีสายเลือดของมิราอิ" เขาหันมามองหน้าเธอตรึงเธอไว้ด้วยดวงตาดุจเหยี่ยวของเขา
"ผมรู้ว่าคุณรักนายน้อยทั้งสองเพราะเป็นน้องของคุณโดยเฉพาะนายน้อยเอยจ์จิ ถึงคุณจะไม่ชอบนายหญิงเอริกะก็เถอะ อีกอย่างหนึ่งถ้าเป็นคุณทุกคนพร้อมจะอยู่ใต้คำสั่ง"
"นายมั่นใจขนาดนั้นหรอ" สโรชาขึ้นเสียง
"หลังจากที่ในอดีตฉันไม่ผ่านบททดสอบของตระกูลมิราอิ ทำไมคิดว่าฉันจะทำได้ละ แล้วทำไมนายไม่ขึ้นเป็นนายใหญ่เสียเองคุณลุงชอบนายมาก" สโรชาพูดถูกเขาเป็นคนโปรดของนายท่านทาคากิ แต่เขาไม่เคยคิดทะเยอทะยานอยากเป็นใหญ่ สโรชามองโชตะอย่างเย้ยหยันไม่เชื่อ
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา