นิล

-

เขียนโดย anawat

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 23.16 น.

  11 ตอน
  5 วิจารณ์
  2,475 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566 10.51 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) บทที่เจ็ด เพื่อน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

นิล

ปริศนาโรงเรียนอาถรรพ์

บทที่เจ็ด เพื่อน

 

“ถ้าวันนั้น  ชั้นไม่เชื่อคนคนนั้นล่ะก็...”

สองปีก่อน

   ชีวิตของใครบางคน  มันอาจจะเป็นไปตามที่เราทุกคนคิดเสมอไปก็ได้  แม้กระทั่งเรื่องหน้าที่การงาน  ที่ใครหลายๆคนมักคิดว่า  มันดีแล้วมันมั่นคงแล้ว  ก็อาจจะมีการโยกย้ายสายงานเช่นกัน  ทำให้ฝนหลายๆครั้ง  ครอบครัวบางครอบครัว  ก็มักจจะมีปัญหาเช่นนี้เสมอ

   ดังเช่นครอบครัวของเด็กสาววัยสิบสี่คนหนึ่ง  ที่ยามนี้ตัวของเธอนั้น  ต้องเจอกับปัญหาครอบครัวของเธอต้องโยกย้ายสายงาน  ทำให้ตัวของเธอต้องย้ายตามไปด้วย  และอีกปัญหาที่ตามเด็กสาวมาไม่แพ้กัน  ก็คือเรื่องของการย้ายโรงเรียน  จากที่เธอเคยเรียนอยู่แถบชานเมือง  ในตอนนี้เธอต้องตามครอบครัว  และต้องย้ายไปเรียนในใจกลางของกรุงเทพ

                         “พ่อขอโทษด้วยนะเจน  ที่ทำให้ลูกต้องลำบากย้ายโรงเรียนอีกแล้วน่ะ”

   เจนที่ได้ยินดังนั้น  ในใจของเธอไม่พอใจในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก  แต่เมื่อมันบ่อยครั้งเข้า  จากความไม่พอใจ  มันจึงแปรเปลี่ยนเป็นความเคยชิน  และเมื่อเธอยิ่งโตขึ้น  เธอยิ่งเข้าใจในเรื่องการงานของพ่อเธอมากขึ้น  เธอจึงยอมรับในเรื่องนี้ได้

                         “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  หนูเข้าใจ  มันเป็นความเจริญก้าวหน้าในอาชีพพ่อนิค๊ะ”

                         “ขอบใจมากนะลูก” พ่อกล่าวพร้อมรอยยิ้ม  ที่ลูกสาวของเธอเข้าใจ

   ทั้งสามคนต่างช่วยกันจัดของที่บ้านใหม่  ในยามที่พวกเขามาถึง  และในมื้อเย็นนั้น  สามคนพ่อแม่ลูก  ต่างนั่งคุยกันตามภาษาครอบครัวอย่างอบอุ่น

                         “เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อจะพาเจนไปสมัครเรียนที่โรงเรียนใหม่นะ  ช่วงนี้เป็นช่วงพึ่งเปิดเทอมใหม่ๆ  เขายังรับสมัครนักเรียนอยู่  แล้วอีกอย่างพ่อโทรไปคุยกับทางโรงเรียนเอาไว้เรียบร้อยแล้วด้วย”

                         “ได้ค่ะพ่อ”

                         “งั้นกินข้าวเสร็จก็รีบเข้านอนซะนะ  พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า  และรีบไปกัน  เพราะกลางกรุงเทพแบบนี้  เช้าๆรถมันติดน่ะ”

   เจนพยักหน้าตอบรับพ่อของเธอ  ก่อนที่เธอจะรีบกินข้าว  และอาบน้ำเข้านอน

โรงเรียน

   และในเช้านี้ก็เป็นเหมือนทุกวันของเหล่าเด็กนักเรียน  ที่ต้องรีบตื่นแต่เช้า  เพื่อมาโรงเรียนให้ทันเข้าแถว  บ้างก็รีบมาแต่เช้า  เพื่อมานอนต่อที่โรงเรียน  บางก็มานั่งคุยถึงเรื่องราวๆต่างๆสรวลเสเฮฮาตามภาษาเพื่อนฝูง  แต่ยังมีนักเรียนอยู่หนึ่งคน  ที่ในยามนี้เธอแปลกแยกกว่านักเรียนคนอื่น  เพราะเธอเป็นเด็กที่พึ่งย้ายเข้ามาเรียนใหม่  ยังไม่รู้จักใครสักคนในโรงเรียนนี้  บางครั้งก็มีสายตาแปลกๆจับจ้องมาที่เธอ  ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

                         “ไปห้องธุรการกันเถอะลูก”

   พ่อของเจนกล่าวขึ้น  เธอพาลูกสาวของเธอมารายงานตัวที่โรงเรียนแห่งนี้  ที่เป็นดั่งบ้านหลังที่สองหลังใหม่ของเธอ  ถึงเธอจะไม่สบายใจเท่าใดนัก  แต่เธอก็ต้องยอมรับสภาพของมันที่เป็นแบบนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้  พ่อของเธอพาเธอมาหาอาจารย์ฝ่ายปกครอง  จึงได้รู้ว่าเธอได้เรียนอยู่ห้อง ม.2/1 ซึ่งเป็นห้องของเด็กที่เรียนได้คะแนนดี  ซึ่งอาจารย์ฝ่ายปกครองดูจากคะแนนของเธอแล้ว  เห็นว่าควรจะเป็นแบบนั้น  และด้วยประการนี้เอง  เธอจึงได้เป็นนักเรียนของที่นี่อย่างเต็มตัว  และเมื่อรายงานตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว  พ่อของเธอจึงขอตัวไปทำงานต่อ  อาจารย์ฝ่ายปกครองจึงพาเธอไปยังห้องเรียนของเธอ

                         “เดี๋ยวนักเรียนเอาของไปเก็บให้เรียบร้อย  แล้วลงไปเข้าแถวได้เลยนะจ้ะ  แล้วเดี๋ยวอาจารย์จะพานักเรียนไปหาอาจารย์ประจำชั้นอีกที”

                         “ค่ะอาจารย์” เจนตอบพลางยิ้มรับ

   ระหว่างที่เดินคุยกันไป  เธอก็เดินมาถึงห้องเรียนของเธอ  ที่อยู่ที่ชั้นสามของตึกเรียนใหม่พอดี  เธอเอากระเป๋าของเธอไปวางไว้ที่หลังห้อง  เพราะในยามนี้  โต๊ะทุกตัวในห้องต่างมีเจ้าของเป็นที่เรียบร้อย  และด้วยความที่เธอเองเป็นเด็กใหม่  จึงไม่อยากไปนั่งในที่ๆใครบางคนอาจจับจ้องเอาไว้ให้เพื่อนของตนเอง

                         “นักเรียน  วางกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็รีบไปเข้าแถวกันเถอะ”

   อาจารย์ฝ่ายปกครองพาเธอไปเข้าแถวในชั้นเรียนของเธอ  เพื่อนในแถวต่างจับจ้องมาที่เธอ  ทำให้เธอรู้สึกใจเต้นอย่างแปลกประหลาด  เหมือนเธอเป็นตัวประหลาดก็มิปาน  ส่วนอาจารย์ฝ่ายปกครอง  ได้เดินไปบอกกับอาจารย์ประจำชั้น  ถึงเรื่องของเจนที่พึ่งเข้ามาใหม่  เพื่อฝากให้อาจารย์ประจำชั้นช่วยดูแลเธอ

ห้อง2/1

                         “เอาล่ะนักเรียน  วันนี้ที่ห้องของเราจะมีเพื่อนใหม่มาเรียนด้วยนะ  เอาล่ะเธอแนะนำตัวสิ”

   ที่หน้าห้องเรียนในยามนี้  เจนได้ยืนอยู่ที่ห้องเรียน  เพื่อแนะนำตัวในฐานะนักเรียนใหม่ให้เพื่อนได้รู้จัก  สายตามากมายต่างจับจ้องมาที่เธอ  ดั่งกับว่าอยากจะทำความรู้จักเธอ

                         “สวัสดีค่ะ  ชั้นชื่อเจนจิราค่ะ”

                         “เอาล่ะ  อาจารย์ฝากเพื่อนๆทุกคนดูแลเจนจิราด้วยนะ  เจนจิราเธอไปนั่งข้างเค้กนะที่ตรงนั้นนะ”

   อาจารย์ชี้ไปยังโต๊ะที่ว่างตัวหนึ่ง  เจนพยักหน้าตอบรับพร้อมทั้งตอบอาจารย์ไป

                         “ค่ะอาจารย์”

   เธอเดินไปยังโต๊ะที่ว่างตัวนั้น  พร้อมทั้งเห็นรอยยิ้มของเพื่อนที่นั่งข้างเธอ

                         “สวัสดีเราชื่อเค้กนะ” เค้กแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้ม

                         “ยินดีที่ได้รู้จักนะเค้ก”

   เค้กแนะนำเพื่อนที่นั่งติดริมหน้าต่างข้างเธออีกสองคน

                         “ส่วนนั่นสุกัญญากับเอม  เป็นเพื่อนสนิทของเราเอง”

   เจนหันไปหาสุกัญญากับเอม  พร้อมทั้งทำความรู้จักกับทั้งคู่

                         “ยินดีที่ได้รู้จักนะ  สุกัญญาเอม”

                         “ยินดีที่ได้รู้จักนะเจน”

   ทั้งสี่คนต่างทำความรู้จักกัน  จนกระทั่งอาจารย์เห็นทั้งสี่คนคุยกันในคาบเรียน  ทำให้อาจารย์ต้องเตือนทั้งสี่คน  เพราะตอนนี้ยังคงอยู่ในคาบเรียนอยู่  ชีวิตในรั้วโรงเรียนใหม่ของเจนจึงได้เริ่มต้นขึ้นด้วยประการฉะนี้  เมื่อเวลาผ่านไป  เจนต่างเป็นที่สนใจในชั้นเรียนมากขึ้น  เพราะความหน้าตาดีของเธอส่วนหนึ่ง  แต่ตัวของเธอนั้น  นอกจากเพื่อนทั้งสี่คนของเธอแล้ว  คนอื่นที่เข้าหาเธอ  เธอมักจะไม่สนใจใครที่เข้ามาทั้งนั้น

   และอีกส่วนที่เข้าหาเธอ  เพราะตัวของเธอในเรื่องเรียนนั้น  เธอเป็นคนที่ถือว่าหัวดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้  ทุกครั้งในห้องเรียน  เธอมักจะตอบคำถามในห้องเรียนอยู่เสมอ  จนในบางครั้ง  อาจารย์ในห้องต้องห้ามไม่ให้เธอตอบ  และให้คนอื่นตอบคำถามแทนบ้าง  จนกระทั่งวันที่สอบกลางภาคมาถึง  และอีกเช่นเคย  คือเจนสามารถที่จะทำคะแนนเป็นที่หนึ่งของห้องได้

                         “คะแนนของเธอดีมากเลยนะเจน” สุกัญญากล่าว

                         “ก็แค่เรื่องบังเอิญน่ะ”

                         “ถ้าเป็นแบบนี้  เธอต้องติดท็อปอันดับของชั้นปีแน่นอนเลยล่ะ” เค้กกล่าว

                         “ไม่ขนาดนั้นหรอก  คนที่เก่งกว่าชั้นยังมีอีกเยอะ”

   ถึงเพื่อนในกลุ่มของเธอจะกล่าวแสดงความยินดีกับเธอ  แต่ในใจของทั้งสามคน  ต่างมีความอิจฉาในตัวของเจนขึ้นมาเล็กน้อย  เพราะที่ผ่านมา  ทั้งสามคนต่างเรียนได้อันดับต้นๆมาตลอด  แต่เมื่อเจนเข้ามา  มันทำให้อันดับของพวกเธอที่เคยคงเส้นคงวาเอาไว้  มันได้ล่วงลงมา  จากอันดับต้นๆ  มาเหลืออันดับกลางๆ  นั่นจึงเป็นการก่อความไม่พอใจของทั้งสามคนขึ้นมา  พวกเธอจึงต้องหาทางทำอะไรกับเรื่องในครั้งนี้ขึ้นมาสักอย่าง  เพื่อที่ในครั้งต่อไป  เจนจะได้ไม่ทำคะแนนมากกว่าพวกเธอได้อีก

   และเมื่อทั้งสามคนคิดได้ดังนั่น  เวลาผ่านไป  จากเพื่อนที่เคยสนิทสนมกัน  ในยามนี้อะไรหลายๆอย่าง  มันได้เริ่มแปรเปลี่ยนไป  เมื่อในบางครั้ง  เจนมาเรียนในตอนเช้า  ที่โต๊ะเรียนของเธอ  มันจะมีสีช็อคเขียนอยู่ที่โต๊ะเรียนของเธอ

                         ‘คิดว่าตัวเองเก่งมากนักเหรอ  ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ’

   เมื่อจึงเห็นดังนั้น  มันจึงสร้างความตกใจให้เธอไม่น้อย  เธอแอบคิดในใจว่าใครกันที่เป็นคนทำเรื่องแบบนี้  เธอมองไปที่รอบๆห้อง  แต่ทุกคนในห้องตามทำหน้าไม่รับรู้กันทุกคน

                         “ใครกันนะ  ที่เป็นคนเขียนโต๊ะของเธอน่ะเจน” เค้กกล่าว

   เจนส่ายหัวเป็นเชิงไม่รู้  แต่ทั้งสามคนต่างรู้ดี  ว่าเป็นฝีมือของพวกเธอเอง  แต่นี่มันเป็นเพียงการเริ่มต้นของพวกเธอเพียงเท่านั้น  เพราะเมื่อเวลาผ่านไป  เจนยังคงตั้งใจเรียนเช่นเดิม  ไม่ได้สนใจในคำขู่ของทั้งสามคนแม้แต่น้อย  นั่นจึงเป็นการสร้างความขุ่นเคืองให้ทั้งสามคนเพิ่มขึ้นไปอีก  ทั้งสามคนจึงเพิ่มระดับในการกลั่นแกล้งเจนเข้าไปอีก  ด้วยการเอาหนังสือเรียนของเจน  ที่เธอเก็บเอาไว้ในโต๊ะเรียนของเธอออกมา  และฉีกมันจนมันขาดกระจายเต็มห้องไปหมด  พร้อมทั้งเขียนน็ตแปะเอาไว้ที่โต๊ะเรียนของเจน

                         ‘ชั้นเตือนเธอแล้วนะ  เธอไม่ฟังชั้นเอง  และนี่เป็นของขวัญเล็กน้อยๆ’

   ทั้งสามคนต่างช่วยกันเก็บเสร็จกระดาษมากองรวมกันไว้ที่โต๊ะของเจน  และแปะโน็ตที่พวกเธอเขียนเอาไว้ที่เศษกระดาษ  เพื่อให้เจนรับรู้ในสิ่งที่พวกเธอทำ  ในเช้าวันต่อมาที่เจนมาโรงเรียน  เธอได้เห็นกองกระดาษที่โดนฉีก  เธอถึงกับเข่าทรุดลงที่หน้าโต๊ะเรียนของเธอ  และร้องไห้ออกมาอย่างถึงที่สุด  แต่เพื่อนทั้งสามคนยังคงแสดงละครต่อไป  พวกเธอเข้ามาทำเป็นปลอบใจเจน

                         “ใครกันนะที่ทำแบบนี้กับเธอกันเจน” เอมเข้ามาปลอบเธอ  แต่สายตาของทั้งสามคน  ต่างเป็นที่รู้กันถึงสิ่งที่พวกเธอทำ

                         “ชั้นไปทำอะไรให้ไอ้คนนี้กันนะ  มันถึงต้องมาทำแบบนี้กับชั้นกัน”

                         “อาจจะเป็นพวกเธออิจฉาเธอก็ได้  พวกที่เห็นว่าเธฮอรียนดีกว่า  เลยไม่พอใจเธอน่ะ” เค้กกล่าว

                         “แต่เธอไม่ต้องไปสนใจหรอก  เดี๋ยวพวกนี้มันก็หยุดไปเองนั่นแหล่ะ” สุกัญญากล่าว

   เธอได้รับการปลอบใจที่เป็นการแสดงของเพื่อนทั้งสามคนของเธอ  ทำให้เธอเริ่มมีกำลังใจที่จะสู้กลับมาอีกครั้ง  แต่ในใจลึกๆของเธอในตอนนี้  มันแสดงถึงความหวาดระแวงไปหมด  ว่าเธอไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจ  นั่นจึงทำให้การเรียนของเธอ  ไม่ตกลงไปเล็กน้อย  แต่เพื่อนๆในห้องของเธอต่างรู้กันดี  ถึงการชอบแกล้งคนอื่นของสามคนนี้  เพราะในหลายๆครั้ง  พวกเธอเองก็มีโดนสามคนนี้แกล้ง  เพื่อความสนุกเพียงเท่านั้น  นั่นทำให้สามคนนี้จึงไม่อยากมีใครจะยุ่งด้วย  ในทุกๆวัน  เจนต่างโดนคนที่เธอเรียกว่าเพื่อนมั้งสามคนของเธอ  กลั่นแกล้งอยู่แบบนี้ทุกครั้งไป

   จนกระทั้งมาถึงการสอบสิ้นเทอมของภาคเรียนที่หนึ่ง  ที่เจนเองเธอยังคงทำคะแนนเป็นที่หนึ่งของรุ่นอีกเช่นเคย  และเมื่อผลการเรียนออกมา  ทำให้ทั้งสาใคนที่ต่างได้เห็นคะแนนของพวกเธอ  และคะแนนของเจน  มันจึงทำให้เหมือนระเบิดเวลาที่อยู่ในใจของทั้งสามคน  ต่างระเบิดออกมาในยามนี้  เพราะในหลายๆครั้ง  ไม่ใช่แค่เรื่องการเรียน  ทั้งกิจกรรมต่างๆ  และความเป็นที่นิยมของเธอ  ต่างๆก็โดดเด่นทุกด้าน  เธอที่เป็นเด็กใหม่  ที่เข้ามาเรียนเพียงไม่นาน  ต่างแทรงหน้าพวกเธอไปในทุกๆด่าน

   เมื่อพวกเธอคิดได้ดังนั้น  พวกเธอจึงวางแผนกัน  เพื่อที่จะทำให้เจนต้องจดใจพวกเธอ  และไม่กล้าทำอะไรที่เกินหน้าพวกเธออีกเป็นครั้งที่สอง  แต่ในช่วงปิดเทอมนั้น  ก็ได้มีเรื่องเล่าจากเหล่าเด็กที่มาสอบซ่อม  ว่าได้มีคนเห็นเงาประหลาดสีดำในยามเย็น  อยู่ที่ตึกเรียนเก่า  นั่นจึงสร้างความหวาดผวาให้กับเหล่านักเรียนเกือบทั้งโรงเรียน  และไม่มีใครกล้าที่จะย่างกลายเข้าไปที่ตึกเก่าสักคนเดียว  แต่ก็มีบางส่วนที่นึกสนุก  อยากเข้าไปลองดูก็มีเช่นกัน  และเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่  พวกเธอทั้งสามคน  จึงหลอกให้เจนไปที่หลังโรงเรียน  ที่เป็นที่ทิ้งขยะ

                         “ไงเจน  เธอทำคะแนนได้ที่หนึ่งอีกแล้วนะ” สุกัญญากล่าว

                         “อืม  ก็แค่บังเอิญน่ะ”

                         “แต่ชั้นว่าไม่นะ” เอมเดินเข้ามาหาเจน  เจนเองก็ล่นถอยหลังไปเรื่อยๆ  จนหลังเธอไปติดกับกำแพงเข้า  ทำให้เธอไม่มีที่หนีได้อีก “ชั้นว่าเธอน่ะ  จงใจที่จะทำคะแนนให้ได้ที่หนึ่งมากกว่า  พวกเราน่ะเตือนเธอไปแล้วแท้ๆ  ฉีกสมุดเธอก็แล้ว  แต่เธอก็ยังไม่เกรงกลัวเลยสักนิด”

   สิ้นเสียงเอม  เธอตบเข้าไปที่หน้าของเจนเข้าเต็มๆ  จนเจนทรุดลงไปกับพื้น  เจนหันกลับมาถามทั้งสามคนทั้งน้ำตา

                         “ทั้งหมดนั่น  เป็นฝีมือของพวกเธอเหรอ?”

                         “ใช่  ที่ผ่านมาพวกเราเป็นที่จังตามองในโรงเรียนนี้มาตลอด  ไม่ว่าจะเรื่องอะไร  แต่ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในโรงเรียนนี้  เธอก็เด่นเกินหน้าพวกเราไปซะทุกเรื่อง  จนพวกเราหมั่นไส้เธอเอามากๆ  และวันนี้พวกเราจะทำให้เธอไม่กล้าเด่นเกินหน้าพวกเราอีก”

   ซึ่งหลังจากนั้นเจนได้โดนทั้งสามคนทำร้ายร่างกายอย่างหนัก  จนในวันนั้นเจนไม่ได้เข้าเรียนเลยทั้งวัน  เธอไปพักอยู่ที่ห้องพญาบาลจนถึงเวลาเลิกเรียน  หยาดน้ำตาของเธอหลั่งลินออกมาทั้งวัน  จิตใจของเธอตั้งคำถาม  ทิ้งสิ่งที่เรียกว่าเพื่อน  ทำไมถึงได้ทำกับเธอเช่นนี้กัน  และในทุกๆวันเองเธอก็โดนแบบนี้เช่นกันก็เช่นกัน  จนเพื่อนในห้องต่างสงสารเธอ  เข้ามาปลอบใจเธอ  แต่เธอก็ทำได้เพียงรับความหวังดีนั้นเอาไว้  เพราะทั้งสามคนต่างจับจ้องคนที่เข้าให้ความช่วยเหลือเธอทุกคน  ถึงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับอาจารย์  แต่มันก็เป็นได้เพียงแค่การเล่นกันของเด็กๆเพียงเท่านั้น  อาจารย์ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก  และทำให้ผลการเรียนของเจน  จึงค่อยๆตกลงไปอยู่ที่อันดับกลางๆของชั้นเรียน

   ซึ่งในขณะเดียวกัน  เรื่องลึกลับที่ตึกเก่า  ที่มันเริ่มก่อตัวขึ้น  มาก็ได้กระจายไปทั่วโรงเรียน  และสร้างความหวาดผวาให้นักเรียนในโรงเรียนไม่น้อย  จนในวันนึง  ที่เจนได้โดนทั้งสามคนทำร้ายร่างกายที่หน้าตึกเก่า  และเอมก็ได้กล่าวขึ้น

                         “นี่เขาว่ากันว่า  ถ้าใครที่เข้าไปในตึกเก่านี่  จะโดนคำสาปไม่ใช่เหรอ”

                         “ชั้นก็ได้ยินมาแบบนั้นนะ” เค้กกล่าว

                         “งั้นเราพายัยนี่เข้าไปในตึกเก่าหน่อยเป็นไง  มันจะได้โดนคำสาปตายๆไปเลย”

   ทั้งสามคนต่างตกใจในสิ่งที่เอมพูด  เพราะข่าวที่ออกมา  ทำให้ทั้งสามคนเอง  ก็ต่างหวาดกลัวในเรื่องเล่านั้นเช่นกัน

                         “จะดีเหรอเอม” สุกกัญญากล่าว

                         “มาเถอะน่า  ไม่ต้องกลัวไปหรอก”

   เอมกล่าว  พลางอุ้มร่างของเจนที่สะบักสะบอมไปทั้งตัว  เข้าไปในตึกเก่า  และเอมก็ตะโกนไปทั่วตึกเก่า  เพื่อท้าทายสิ่งที่มองไม่เห็นในตึกนี้

                         “ไหนอ่ะ  เรื่องผีที่เขาพูดกัน  ชั้นพาเหยื่อดีๆมาให้แกแล้วไง  ไอ้ผีบ้า”

                         “นี่  ชั้นว่าเราอย่าไปท้าทายเลยน่า” สุกัญญากล่าว

   แต่เอมก็เพียงแค่หัวเราะออกมา  ไม่ได้สนใจในคำเตือนของเพื่อนเขาแม้แต่น้อย  ร่างของเจนทำได้เพียงแค่โดนดึงไปดึงมาตามที่ทั้งสามคนอยากให้ไปเพียงเท่านั้น  เธอไม่มีแรงที่จะขัดขืนแต่อย่างใด  จนกระทั้ง  ทั้งสามคนเดินมาถึงที่ชั้นสาม  แต่ก็ยังไม่เจออะไร

                         “ไม่เห็นจะมีอะไรเลย  ทิ้งมันไว้นี่แหล่ะ  ให้มันกลับไปเอง” เอมกล่าว

                         “ชั้นว่าเรากลับกันเถอะ” เค้กกล่าว

   และทั้งสามคนที่ไม่เจออะไรตามที่พวกเธออยากเจอ  เธอจึงปล่อยร่างของเจนทิ้งไว้ที่ชั้นสาม  และทั้งสามคนก็กลับไป  แต่ในจังหวะที่ทั้งสามคนกลับไปแล้ว  ได้มีร่างลึกลับที่แอบฟังทั้งสามคนคุยกันอยู่  เดินออกมาจากห้องเรียนที่ไม่มีใครใช้แล้ว  และกล่าวกับเจน

                         “เธอคงจะแค้นพวกนั้นมากสินะ”

   เจนค่อยๆเงยหน้ามองชายคนนั้น  แต่แสงแดดในยามเย็นที่สาดส่องเข้ามา  ทำให้เห็นหน้าของชายคนนั้นไม่ชัดเจนนัก  แต่เธอเลือกที่จะพยักหน้าตอบรับชายคนนั้นไป

                         “งั้นชั้นจะช่วยเธอแก้แค้นพวกนั้น  เอาไหมล่ะ”

 

By  hikari…

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา