นิล

-

เขียนโดย anawat

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 23.16 น.

  11 ตอน
  5 วิจารณ์
  2,479 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566 10.51 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) บทที่ห้า  หลักฐานชิ้นสุดท้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

นิล

ปริศนาโรงเรียนอาถรรพ์

บทที่ห้า  หลักฐานชิ้นสุดท้าย

 

   สายฝนในยามเช้า  ยังคงซัดสาดมาไม่หยุดหย่อน  เหล่าหนุ่มสาวที่วิ่งเข้ามาในโรงเรียน  บ้างคนร่างกายเปียกปอนไปทั้งตัว  บางคนกางร่มวิ่งเข้ามา  จึงทำให้ไม่เปียกเท่าไหร่  บางคนแม้ไม่มีร่ม  แต่ยังคงแทรกตัวเข้าไปในร่มของเพื่อน  เพื่อกันไม่ให้ตนเองต้องเปียก

โรงเรียน(ชั้นห้า)

   นิลวิ่งขึ้นไปที่ชั้นห้าของตึกเรียนในยามเช้า  โดยท่าทีของเธอดูรีบร้อนมาก  เธอวิ่งไปยังห้องห้องหนึ่ง  ที่หน้าห้องเขียนว่า ‘ชมรมวิจัยหุ่นยนตร์’ นิลยิ้มตอบรับให้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ  เธอค่อยๆเปิดประตูห้องชมรมออก  และแอบเดินเข้าไปข้างใน  จนกระทั้งเธอไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าหุ้นตัวนึง  และหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปหุ่นตัวนั้น  แต่ในขณะที่เธอถ่ายรูปอยู่นั้น  ก็มีเสียงของนักเรียนคนอื่นดังขึ้นมาที่โถงทางเดิน  จนกระทั่งนักเรียนเหล่านั้นเปิดห้องมา  และเห็นนิลยืนอยู่ในห้อง  ในท่าทางที่สงบเสงี่ยม

                         “เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ?”

                         “พอดีชั้นเป็นเด็กใหม่น่ะค่ะ  ก็เดินดูอะไรในโรงเรียนไปเรื่อยเปื่อย  จนมาอยู่ที่ห้องนี้นั่นแหล่ะค่ะ”

   คนในชมรมหุ่นยนตร์มองหน้ากันครู่หนึ่ง

                         “งั้นเชิญตามสบายเลยนะ  พวกเราไม่ได้ว่าอะไรหรอก  แต่อย่าพยายามไปจับอะไรมั่วๆก็แล้วกัน”

   และคนเหล่านั้นก็ทำตัวกันตามปกติ  นิลจึงเดินดูอะไรอีกครู่หนึ่ง  ก่อนที่เธอจะขอตัวกลับลงมา  และมุ่งหน้าไปที่ห้องเรียนของเธอในทันที  เมื่อถึงห้องเรียน  เค้กกับเจนจึงเอ่ยถามเธอด้วยท่าทางประหลาดใจ

                         “อ้าวนิล  เธอไปไหนมาเห็นมายด์บอกว่า  เธอขอตัวไปทำธุระ”

                         “ชั้นก็เดินเล่น  ดูอะไรไปทั่วในโรงเรียนนั่นแหล่ะ  ยังแปลกตากับโรงเรียนใหม่อยู่นิดหน่อยน่ะ”

   เจนกับเค้กมองหน้ากัน  พวกเธอเกือบจะลืมไปแล้ว  ว่านิลคือนักสืบที่ปลอมตัวเข้ามาเพื่อทำคดี  ด้วยความที่นิลทำตัวให้กลมกลืนไปกับเหล่านักเรียน  ในฐานะนักเรียนใหม่  ทำให้คนในโรงเรียนต่างไม่ได้สงสัยถึงภูมิหลังของเธอแม้แต่น้อย  เค้กจึงเอ่ยถามนิลไป

                         “แล้วได้เจออะไรใหม่ๆไหมล่ะ”

   นิลทำท่านึกอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนที่เธอจะตอบเค้กกลับไป

                         “ก็ยังไม่ขนาดนั้นนะ  แต่จะว่าไป  โรงเรียนนี้ติดแอร์ให้นักเรียนทุกห้องเลยนะ”

   เค้กกับเจนมองหน้ากัน  และขำออกมาเบาๆ

                         “มันก็ติดมาตั้งนานแล้วนะ”

                         “งั้นหรอกเหรอ” นิลยังคงทำสีหน้าประหลาดใจ

   และนั่นก็กลายเป็นเรื่องขำขันกันไป  ระหว่างสามสาว  ในยามนี้ฝนที่เทลงมา  ทำให้กิจกรรมหน้าเสาธงอย่างการเคารพธงชาติ  ต้องถูกยกเลิกไป  และมาจัดที่หน้าห้องเรียน  ทุกอย่างต่างผ่านไปได้ด้วยดี  เมื่ออาจารย์พูดจบ  นักเรียนทั้งหมดต่างก็แยกย้ายกันเข้าไปยังห้องเรียนของตนเอง  แต่ในวันนี้มีคาบเรียนหนึ่ง  ที่เหล่านักเรียนต้องเลือกในสิ่งที่ตนถนัด  นั่นคือคาบเรียนชมรม  มายด์ที่เห็นดังนั้นจึงเดินมาถามย่าของเขา

                         “คิดไว้รึยัง  ว่าจะเข้าชมรมอะไร”

   นิลทำสีหน้าครุ่นคิดอีกครั้ง

                         “ก็พอจะมีที่คิดๆเอาไว้บ้างอยู่นะ”

                         “ชมรมนักสืบอะไรแบบนั้นไหม”

   นิลส่ายหัว  มายด์ทำสีหน้าประหลาดใจ  ที่ย่าของเขาไม่ได้เลือกในสิ่งที่เธอถนัด

                         “งั้นชมรมอะไรล่ะ”

                         “เอาไว้ถึงคาบเรียนก่อนดีกว่า  แล้วเดี๋ยวจะไปบอกอีกทีนะ”

   มายด์เดินกลับไปด้วยสีหน้าประหลาดใจอีกครั้ง  แล้วอาจารย์ที่สอนคาบเรียนแรกจึงเดินเข้ามา  หลังจากนั้นเธอจึงเริ่มสอน  และในช่วงเช้าคาบเรียนต่างๆจึงผ่านไปได้ด้วยดี  หยาดฝนยังคงซัดสาดกระหน่ำทั้งวัน  เหล่านักเรียนที่จะออกไปเล่นกีฬาในยามพัก  พวกเขาก็ต้องยกเลิกกิจกรรมนี้ไปโดยปริยาย  ส่วนเหล่าสามสาว  พวกเธอยังคงมีเรื่องให้คุยกันได้ตลอดทั้งวัน  เรียกว่าในยามนี้  พวกเธอทั้งสามตัวติดกัน  เหมือนเพื่อนที่ได้พบพานรู้จักกันมาเนิ่นนานก็มิปาน  จนกระทั่งคาบเรียนในตอนบ่ายเริ่มขึ้น  มันเป็นคาบเรียนชมรม  และเค้กได้เอ่ยถามนิลอีกครั้ง

                         “นิล  นี่เธอจะเข้าชมรมอะไรน่ะ”

   นิลทำท่าคิดอยู่พักนึง  แล้วหันไปตอบกับเค้ก

                         “อยากเข้าชมรมอะไรที่เกี่ยวกับพวกหุ่นยนตร์นะ”

   เค้กนึกอยู่ครู่หนึ่ง  เธอจึงเสนอชมรมหนึ่งมา  โยชมรมนั้นมีชื่อชมรมว่า ‘ชมรมวิจัยหุ่นยนตร์’ นิลได้ยินดังนั้นจึงหูผึ่ง  มันคือชมรมที่เธอหมายตาเอาไว้  เธอจึงเสนอให้ทั้งเค้กและเจน  ไปเข้าชมรมนั้นด้วยกัน  แต่ดูเหมือนว่าเค้กกับเจน  จะมีชมรมของพวกเธออยู่แล้ว

                         “งั้นเหรอ  พวกเธอมีชมรมที่อยากเข้าอยู่แล้วเหรอ”

   เค้กพยักหน้าให้นิล  พร้อมตอบนิลกลับไป

                         “อืม  พวกเราว่าจะไปเข้าชมรมศิลป์ปะน่ะ  แต่ถ้าเธอจะไปชมรมที่ชั้นบอก  ก็ขึ้นไปที่ชั้นห้าได้เลยนะ  ขึ้นไปแล้วจะเจอห้องชมรมเลย”

   นิลยิ้มตอบรับ

                         “ขอบใจมากนะเค้ก”

                         “งั้นพวกเราไปก่อนนะ” สิ้นเสียงเค้ก  ทั้งเจนและเค้ก  ต่างแยกตัวกันไปยังชมรมที่พวกเธอ  แต่ในจังหวะที่เจนกำลังเดินไป  เธอได้เหลียวกลับมามองนิลด้วยหางตาเล็กน้อย  โดยในสายตาคู่นั้น  มันดูมีอะไรที่อยากจะบอกนิลอยู่  แล้วเธอก็เดินไป  ส่วนนิลเอง  เธอก็เตรียมตัวไปยังชมรมที่เธอตั้งใจไว้  แต่ในจังหวะที่ลุกออกจากเก้าอี้  มายด์หลานชายของเธอได้เดินเข้ามาหาเธอ  โดยที่ในห้องเรียนตอนนั้น  ไม่มีใครอยู่แล้ว

                         “ทำไมย่าถึงอยากไปเข้าชมรมนั้นล่ะ?”

   นิลเอาหลังพิงผนักเก้าอี้ก่อนที่เธอจะตอบมายด์กลับไป

                         “ก็บอกไปแล้วนี่  ว่าที่เข้ามาที่นี่เพราะอะไร”

                         “หาหลักฐานเหรอ  ในชมรมหุ่นยนตร์นี่นะ?”

   นิลเอามือประสานกันไว้ที่หน้าตัก  ก่อนที่จะตอบมายด์กลับไป  ด้วยใบหน้าที่สุขุม

                         “คำว่าหลักฐานน่ะ  มันมีอยู่ทุกที่แหล่ะ  แค่เราจะมองมันออกไหมก็เท่านั้น  วิธีการวางแผนของคนร้าย  อุปกรณ์ที่ใช้ในการฆ่า  ทุกอย่างล้วนแล้วแต่การสร้างสรรค์ทั้งนั้น  และนั้นก็คือหน้าที่ของนักสืบอย่างพวกเราไง”

                         “คำพูดดูดีนะ” มายด์ตอบพร้อมพยักหน้าอย่างกวนๆ

                         “แล้วไม่รีบไปชมรมเหมือนคนอื่นเขาหรือไง?”

                         “ก็กำลังจะไปนี่แหล่ะ  งั้นผมขอตัวเลยแล้วกัน”

   สิ้นเสียงมายด์  เจ้าตัวเดินออกจากห้องไป  เหลือเพียงนิลที่ยังคงอยู่ในห้องเรียนเพียงคนเดียว  แต่เมื่อเพื่อนๆในห้องออกไปกันจนหมดแล้ว  นิลจึงค่อยๆลุกเดินออกจากห้อง  และมุ่งหน้าสู่ชั้นห้า  ไปยังห้องชมรมที่เธอหมายปอง

ชมรมวิจัยหุ่นยนตร์

   นิลหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องชมรม  เธอเอามือจับที่ปลายคาง  พลางทำท่าคิดอะไรไปต่างๆนาๆ  จนกระทั่งมีใครบางคนในชมรม  เปิดประตูออกมา  ทำให้หน้าของเธอ  กับคนที่เปิดประตูออกมา  ประจันหน้ากันเข้าอย่างจัง

                         “เอ้าเธอ-สาวน้อยคนเมื่อเช้านี่หน่า?”

   นิลยิ้มเล็กน้อย  ก่อนจะตอบชายหนุ่มที่เปิดประตูออกมา

                         “สวัสดีค่ะ  พอดีชั้นสนใจเข้าชมรมน่ะค่ะ”

                         “งั้นเข้ามาก่อนสิ”

   ชายหนุ่มพานิลเข้ามาในชมรมของเขา  โดยในชมรมตอนนี้  มีคนอยู่ทั้งหมดสามคน  โดยมีผ๔หญิงอยู่คนเดียว  ชายหนุ่มไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่งที่หลังห้อง  เขาได้เริ่มกล่าวกับนิล

                         “เรื่องเข้าชมรมเราไม่ติดอะไรหรอกนะ  แต่เราอยากได้คนที่ชอบในวิทยาศาตร์  และชอบในหุ่นยนตร์จริงๆน่ะ  ซึ่งที่ผ่านมา  ไม่มีใครที่ผ่านในข้อนี้สักคน  ชมรมเราถึงได้มีคนแค่นี้น่ะ”

   สิ้นเสียงชายหนุ่ม  นิลยิ้มรับอย่างพึงพอใจ  โดยที่เธอนึกถึงมายด์ในสมัยที่ยังเป็นเด็ก  เขาชอบที่จะเล่นต่อหุ่นยนตร์ต่างๆมากมาย  ทำให้นิลที่เป็นย่า  ต้องพลอยเล่นกับหลานไปด้วย

                         “ตอนเด็กๆชั้นชอบต่อหุ่นยนตร์อย่างมากเลยค่ะ  ที่บ้านตุ๊กตาหรืออะไรที่เป็นผู้หญิง  ชั้นแทบไม่ได้เล่นกับเขาเลย  ส่วนใหญ่จะชอบอะไรที่เป็นการต่อหรือประกอบกันเสียมากกว่า  แบบนี้พอจะรับชั้นเข้าชมรมได้ไหมค๊ะ”

                         “หมายความว่า  ความฝันของเธอ  คือการสร้างหุ่นยนตร์  แบบนี้ใช่ไหม?”

                         “ก็เป็นอะไรประมาณนั้นแหล่ะค่ะ  ชั้นถึงอยากที่จะเรียนรู้จากชมรมนี้  ตอนที่ชั้นเดินเข้ามาในชมรมนี้ครั้งแรก  ชั้นก็แอบคิดว่า  เป็นชมรมที่น่าสนใจดีแบบที่ชั้นต้องการเลย  แล้วพอถึงคาบเรียนชมรม  ชั้นก็อดใจไม่ไหว  ที่จะรีบขึ้นมาที่ชมรมนี้น่ะค่ะ”

   ชายหนุ่มหัวหน้าชมรม  แอบยิ้มให้กับคำตอบของนิล

                         “งั้นชั้นก็ยินดีรับเธอเข้าชมรมนะ  แต่วันแรกเธอก็ลองเดินดูอะไรในชมรมไปก่อน  แล้วถ้ามีอะไรที่สงสัยก็เชิญถามมาได้เลยนะ”

                         “ค่ะ”

   หลังจากนั้นทั้งคู่จึงต่างแยกย้ายกันไป  นิลเดินดูหุ่นยนตร์ต่างๆในชมรม  จนเธอดูไปหยุดอยู่ที่หุ่นไม้ตัวหนึ่ง  โดยที่หุ่นไม้ตัวนั้น  มีดวงตาสีแดงกลมตา

                         “สนใจหุ่นตัวนี้เหรอ”

   เสียงของหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในชมรมกล่าวถามนิล  นิลหันไปตอบเธอด้วยรอยยิ้ม

                         “ค่ะ  ชั้นว่ามันแปลกกว่าหุ่นตัวอื่นๆในชมรม  ที่ทำมาจากไม้  และมันยังขยับได้อีก”

                         “มองออกด้วยเหรอ  ว่ามันขยับได้น่ะ”

                         “ค่ะ  ด้วยข้อต่อของมัน  และกลไกต่างๆ  ที่แค่มองภายนอก  ก็รู้ได้ทันที  ว่ามันคงจะขยับได้ด้วยการที่เราบังคับมันน่ะค่ะ”

                         “ช่างสังเกตจริงนะ  แต่ที่บอกว่ามันเป็นไม้น่ะ  เธอคิดผิดถนัดเลยนะ” นิลหันมามองหญิงสาว “จริงๆแล้วหุ่นตัวนี้น่ะ  ภายนอกมันอาจจะห่อหุ้มไปด้วยไม้นะ  แต่ข้างในของมันน่ะ  เต็มไปด้วยโครงเหล็กมากมาย  ที่ทำให้มันสามารถขยับได้อย่างอิสระเลยล่ะ  เพียงแค่เราเปิดใช้งานมัน  ส่วนที่ต้องหุ่มไม้เอาไว้  นั่นก็เพราะว่าเราอยากจะให้คนภายนอกเห็นหุ่นตัวนี้ไม่มีพิษภัยอะไรน่ะ”

                         “งั้นเหรอค๊ะ” นิลตอบพลางมองไปรอบๆหุ่น  แต่สายตาของนิลดันไปสะดุดกับตำแหน่งหนึ่งในหุ่นยนตร์เข้า  มันคือน็อตที่ข้อต่อแขนของหุ่น

                         “รุ่นพี่ค๊ะ” นิลเอ่ยเรียนหญิงสาว  พลางเอามือล้วงกระเป๋าไปหยิบน็อตออกมา “นี่คือน็อตของหุ่นตัวนี้ใช่ไหมค๊ะ?”

   รุ่นพี่ได้เห็นน็อตตัวนั้น  เธอจึงทำสีหน้าประหลาดใจ  และหยิบน็อตจากมือของนิลมา  และสอดส่องสายตาไปที่น็อตตัวนั้นอย่างละเอียด  เพราะน็อตที่ใช้ขันข้อต่อหุ่นตัวนี้นั้น  มันเป็นน็อตขนาดพิเศษ  ที่คนในชมรมนี้ทำขึ้นมาเท่านั้น

                         “น็อตตัวนี้” หญิงสาวหันไปหานิล “เธอมีมันได้ยังไง?”

                         “เมื่อวานชั้นได้ยินเรื่องเล่าที่ตึกเก่ามาน่ะค่ะ  ตอนเย็นเลยลองขึ้นไปที่นั่นดู  แล้วก็ได้เจอน็อตตัวนี้ตกอยู่น่ะค่ะ”

                         “ที่ตึกเก่าเหรอ” หญิงสาวทำท่าเหมือนนึกอะไรออก “นั้นหมายความว่า  หุ่นอีกตัวที่หายไป  ไปอยู่ที่ตึกเก่าเหรอ”

                         “หุ่นอีกตัวเหรอค๊ะ?”

                         “อ้อ  ลืมไปเธอพึ่งมาใหม่วันนี้นี่นะ  คือที่จริงแล้ว  แต่ก่อนน่ะ  ที่นี่มีหุ่นแบบนี้อยู่สองตัวน่ะนะ” หญิงสาวชี้ไปที่หุ่นไม้ตาสีแดง  ที่วางอยู่ตรงหน้าเธอ “แต่เมื่อตอนที่ชั้นเข้าชมรมนี้ใหม่ๆ  ตอนม.สี่น่ะ  มันก็เมื่อสองปีก่อนนั่นแหล่ะ  มีอยู่วันหนึ่ง  ตอนเช้าได้ล่ะมั้ง  ตอนที่ชั้นเดินมาที่ชมรม  ก็เกิดความวุ่นวายขึ้น  หัวหน้าชมรมของเรา  ทะเลาะกับคนในชมรมเสียยกใหญ่  ชั้นเลยถามคนในชมรมไป  ก็ได้ความมาว่า  หุ่นยนตร์ของชมรมเราหายไปตัวนึงน่ะ  พวกเราเลยลองไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดดู  แล้วเธอรู้ไหมเกิดอะไรขึ้น” นิลส่ายหน้า “กล้องวงจรปิด  ที่ติดตั้งอยู่ทั้งในห้องและหน้า  เสียหมดเลย  ทำให้เป็นที่ถกเถียงกันว่า  มันอาจจะเป็นฝีมือของคนที่อิจฉาชมรมเราน่ะนะ”

   นิลพยักหน้าตอบรับ

                         “แล้วหลังจากนั้นไม่นาน  ก็เกิดเรื่องเกี่ยวกับตึกเก่าขึ้นใช่ไหมค๊ะ”

                         “เธอรู้ได้ยังไงกัน” หญิงสาวหันมาถามด้วยความประหลาดใจ

   นิลยิ้มตอบรับ  พร้อมกับตอบหญิงสาวกลับไป

                         “ชั้นก็พูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ  ไม่ต้องใส่ใจหรอก” นิลกล่าวพลางเดินออกไปจากห้อง “งั้นชั้นขอตัวสักครู่นะค๊ะ”

                         “เดี๋ยวสิ  แล้วชมรมล่ะ”

                         “เดี๋ยวชั้นกลับมาค่ะ”

   สิ้นเสียงนิล  เธอเร่งรีบเดินออกไปจากห้อง  เหมือนเธอกำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่

                         “ที่เหลือก็แค่  อะไรสักอย่าง  ที่ทำให้มันเป็นเงาสีดำทมึฬได้”

   นิลเดินไปในโถงทางเดินของชั้นเรียน  พร้อมกับสอดส่องสายตาไปรอบๆ  เพื่อหาอะไรบางอย่าง  ที่ทำให้เธอจะหาคำตอบทั้งหมดได้  จนกระทั่งเธอเดินไปที่หลังโรงเรียน  และได้พบกับนักเรียนสองคน  ที่ถือถุงดำใส่ขยะ  เพื่อเอามาทิ้ง  นิลลองเพ็งมองและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง  แค่เพียงครู่เดียว  มันเหมือนมีอะไรพุ่งเข้ามาในหัวของเธอ  แต่ในจังหวะนั้นเอง  ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังเธอ

                         “นิล  เธอมาทำอะไรที่นี่น่ะ”

   นิลหันไปมองตามเสียงที่เรียกเธอ  มันคือร่างของเจน  ที่ถือขยะในชมรมมาทิ้งเช่นกัน

                         “ไม่ได้ทำกิจกรรมอยู่ที่ชมรมเหรอ?”

                         “พอดีเป็นวันแรกน่ะ  พี่ๆที่ชมรมเขาเลยปล่อยให้ทำอะไรก็ได้น่ะจ้ะ”

                         “เหรอ  แล้วเธอเดินมาทำอะไรที่นี่น่ะ”

                         “เดินเล่นดูโรงเรียนไปเรื่อยเปื่อยน่ะ  เพื่อเวลาที่ไปไหนมาไหน  จะได้ไม่หลงไง”

   เจนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้  หลังจากนั้นเธอจึงขอตัวกลับไปที่ชมรม  แต่ก่อนไปเป็นอีกครั้งที่เธอหันมามองนิลด้วยหางตา  ส่วนนิลก็กลับไปที่ชมรม  ก่อนที่จะถึงเวลาเลิกเรียน  นิลกลับมาที่ห้อง  และได้ล่ำลากับพวกเค้ก  เพื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน  มายด์ที่พึงเลิกจากชมรมเดินมาหานิล  เพื่อชวนกลับบ้าน  แต่นิลได้ปฏิเสธเด็กหนุ่มไป

                         “กลับบ้านรึยังย่า”

                         “หลานกลับไปก่อนเลย  ย่ามีเรื่องที่ต้องทำต่อน่ะ”

                         “เรื่องที่ต้องทำต่อเหรอ”

   สิ้นเสียงมายด์  เมื่อย่าของเขาไม่กลับบ้านด้วย  ชายหนุ่มจึงขอตัวกลับก่อน  ส่วนนิลเธอรอเวลาจนค่ำ  และมุ่งหน้าไปที่ตึกเก่า  เธอเข้าไปแอบอยู่ห้องเรียนในจุดที่เกิดเหตุของชั้นสาม  เฝ้ารอเวลาอยู่เนิ่นนาน  จนกระทั้งมีเงาหนึ่ง  เข้ามาทำอะไรบางอย่างที่ห้องนี้  พร้อมทั้งบ่นพึมพำอยู่คนเดียว  ก่อนที่เงาเงานั้น  จะออกจากห้องไป  และหายลับไปจากสายตานิล  นิลจึงตัดสินใจ  ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา

                         “ถึงเวลาแล้วนะ  พรุ่งนี้เตรียมปิดคดีนี้ได้เลย”

By  hikari…

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา