เอกภพคู่ขนาน
-
เขียนโดย หยาดน้ำหวาน
วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 11.16 น.
5 ตอน
45 วิจารณ์
3,376 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 11.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ใครคนนั้น .............. มีจริงหรือแค่คิดไปเอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความร่างสูงเข้ามาภายในร้าน สายตาสอดส่องมองหาบุคคลที่เขานัดเจอ พลั้นเจอเข้ากับใบหน้าสดใสถึงจะเห็นแค่ด้านข้าง เขาตรงดิ่งเข้าไปหากลุ่มคนที่อยู่โซนนั้นทันที ทักทายกับเพื่อนสนิท
“ มานานยังรักษ์ หวัดดีครับน้องๆ ” เอกภพทักทายเพื่อน และหันไปทักทายสองหนุ่มหน้าใส
“ เอ้า มาๆ นั่งก่อน ” เอกภพนั่งลงข้างๆ คนตัวโปร่ง “ เอ้อ นี่ ขนาน คนที่รับโปรเจคไปทำ เห็นว่าร่างแบบเสร็จแล้วรอดูได้เลย ” ก่อนสุธิรักษ์จะหันไปทางอีกคน ผายมือไปยังวศิฑา “ แล้วนี้ก็ น้องมู่เป็นเพื่อนกับหนาน ละก็ทำงานที่บริษัทด้วย ”
“ ยินดีที่ได้รู้จักอย่าทางการนะครับ พี่ชื่อภพ เป็นเพื่อนสมัยเรียนประถมรักษ์มัน ”
“ อะ รู้จักกันแล้วนะทุกคน เริ่มเลยมั้ยภพ หรือจะนั่งชิวไปก่อน ” สุธิรักษ์เอ่ยขึ้น จับสังเกตบรรยากาศรอบตัวเงียบผิดปกติ
มือชื้นเหงื่อ หน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างไม่ทราบสาเหตุ ใจเต้นแทบจับจังหวะไม่ได้ ขนานผุดลุกขึ้นก่อนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เพื่อนตัวเล็กเห็นดังนั้นก็ลุกตามไปทันควัน
“ ทำไมต้องเป็นคนนี้ด้วยวะ ” ขนานสถบออกมาเบาๆ ขณะล้างมืออยู่ที่อ่าง จนเพื่อนตัวเล็กเดินเข้ามายืนข้างๆ ก่อนจะเอ่ย
“ โอเคมั้ยหนาน ”
“ หึยย ดีเลยแบบ มากๆ แค่ไม่คิดว่าจะเป็นเขา ” ขนานพูดเสียงเคลือ เพื่อนตัวเล็กเห็นดังนั้นก็โผกอดเขาเอาไว้ คนมันชอบมาตั้งนานความรู้สึกที่กลับเข้ามานั้นเหมือนอยู่กลางแดงที่ร้อนอยู่ดีๆ แต่ไม่ถึงกี่วินาทีก็มีพายุลูกโตสาดซัดเข้ามา
“ เค งั้นกลับโต๊ะกัน หนานต้องคุยงานอีกหนิ ” ขนานพยักหน้ารับ ทั้งสองเดินกลับมายังโต๊ะที่นั่ง ร่างโปร่งสบตาเข้ากับดวงตาคมก่อนจะรีบเดินเข้าไปที่นั่ง
สุธิรักษ์เห็นว่ามาครบแล้ว ก่อนที่จะเริ่มเข้าเรื่องงานทั้งสี่คนคุยกันเล็กน้อยและทานของว่างไปพลาง ขณะที่คุยสัปเพเหระอยู่นั่นหญิงสาวสะสวยหน้าคมสวมชุดเดรสรัดติ้วเดินเข้ามายังโต๊ะที่พวกเขานั่ง ก่อนจะเอ่ยทักทาย
“ ทำไมภพไม่รอนิชาเลยละคะ ” สาวสวยเชิดหน้าขึ้นหลังถามคนตรงหน้าจบ เธอไม่สนใจรอบข้างตัวด้วยซ้ำว่ามีใครอยู่บ้าง
“ นิชามาทำไม ” สาวสวยหน้าเจื่อนเมื่อได้ยินประโยคที่ชายหนุ่มพูดออกมา
“ เอ่อ คุณผู้หญิงเชิญนั่งก่อนดีกว่าครับ ” สุธิรักษ์พูดก่อนจะหันไปบอกขนานขยับเก้าอี้ เจ้าตัวลุกขึ้นให้หญิงสาว ขาเรียวยาวบนส้นสูงก้าวเข้าไปแทนที่ร่างโปร่งทันควัน
ขนานเลือกที่จะยกเก้าอี้ที่อยู่แถวนั่นมาเสริมเพื่อให้ตัวเองนั่ง บรรยากาศน่าอึดอัดก่อตัวขึ้นก่อนจะถูกทำลายด้วยสุธิรักษ์
“ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนาะ หนานพร้อมนะ ไหนขอดูที่เราออกแบบหน่อย ”
“ ครับ สำหรับหัวข้อที่คุณเอกภพให้ทางเรามา จะเกี่ยวกับความโชคดี ผมเลยคิดว่าแค่ใส่สัญลักษณ์ของความโชคดีเข้าไปมันก็คงจบแต่มันจะไม่มีลูกเล่นอะไรเลย ” ร่างโปร่งร่ายราวออกไปโดยไม่ได้สนใจสายตาของอีกคนที่มองมา
“ ผมเลย นำใบโคลเวอร์เข้ามาเป็นตัวแทนของความโชคดี ซึ่งโคลเวอร์สี่แฉกนั่น ก็มีความหมายแต่ละกลีบในตัวของมันเองอย่าง กลีบแรก แสดงถึงความหวัง กลีบที่สอง แสดงถึงความศรัทธา กลีบที่สาม แสดงถึงความรัก กลีบที่สี่ แสดงถึงความโชคดี ส่วนดอกคัตเตอร์นั้น ความจริงเป็นสัญลักษณ์ของการแอบรักแต่ผมคิดว่ามันเหมาะที่จะใส่เข้าไปด้วย เพราะดอกคัตเตอร์นั่นเวลาอยู่กับดอกไม้อื่นมันกลับส่งให้เขาเด่นกว่าตัวเอง มันก็เหมือนกับการที่เรารักใครซักคนอยู่ในมุมของเรา ถึงแม้เขาจะไปไกลแค่ไหนแต่เราก็จะอยู่ตรงนี้ข้างๆเขาเสมอ ” ขนานกางแบบที่เขียน นั่นคือเป็นสร้อยข้อมือที่ตรงกลางเป็นรูปใบโวลเวอร์สี่แฉกตัวสร้อยข้อต่อเป็นดอกคัตเตอร์เล็กๆตัดกับสีสันที่เติมลงไปทำให้ทุกอย่างลงตัวในแบบ พร้อมกับอธิบายความหมายไปด้วยยิ่งทำให้ส่งเสริมงานเข้าไปอีก
ร่างโปร่งพรู่ลมหายใจยาวหลังเสร็จจากการนำเสนอ ปล่อยตัวลู่สบาย ทุกท่วงท่ามันตกอยู่ในสายตาของเอกภพทั้งหมด ร่างสูงแทบจะไม่ได้ฟังคำพูด
“ สวยด้วยตัวมันและความหมายมากๆเลยครับ ผมชอบนะ ” เอกภพเอ่ยขึ้น
“ แต่นิชาว่า... ”
“ นิชาครับ ผมไม่ได้ทำให้คุณฉะนั้นอย่าเอาความคิดคุณมาบังคับผม ” ร่างสูงพูดกับสาวสวยด้วยท่าทีเคร่งขรึม
หญิงสาวเมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ตึงตังผุดลุขึ้นจากที่นั่ง ก่อนพูดทิ้งท้ายกับชายหนุ่ม
“ ยังไงมันก็ต้องเป็นของนิชาอยู่ดี ในเมื่อยังไงเราก็จะแต่งงานกันตามที่ผู้ใหญ่บอกไว้ ” สาวสวยพูดจบแค่นั่นก็เดินสับออกจากร้านไป
ร่างสูงหน้าทะมึนตึงใช้สองนิ้วนวดหัวคิ้วให้คลายความเครียด ก่อนจะปรับสีหน้าให้มาเป็นปกติ
“ เอ่อ คุณภพโอเคมั้ยครับ ” วศิฑาเอ่ยถามร่างสูงออกไปด้วยความเป็นห่วง
“ ผมโอเคครับ แต่ก็ขอโทษแทนนิชาด้วยนะครับที่เธอเข้ามารบกวนพวกเรา ”
“ เฮ้ย ไม่เป็นไรๆ ยังไงแกก็ชอบผลงานอยู่แล้วหนิ ” สุธิรักษ์กล่าว
“ ว่าแต่คนนี้หรอที่แกบอกว่าแม่แกจะให้มาเป็นเมีย แซ่บใช้ได้หนิ โอ้ยย ” เสียงดังป้าบเข้าที่ลำแขนของสุธิรักษ์ วศิฑาหวดเข้าให้ที่แขนของร่างหนา สุธิรักษ์ทำหน้าออดอ้อนคนน้องก่อนจะถูกมองอย่างเอือมๆ
ขนานที่รับรู้เรื่องราวนั้นได้แต่นิ่งเงียบก่อนจับสังเกตเห็นสายตาที่มองมาของคนที่ชอบได้ เขาได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อนกลับไป
“ เดี๋ยวยังไงผมก็ขอตามแบบที่คุณขนานเขียนมาเลยนะครับ ไม่ต้องปรับแก้อะไรแล้ว ”
“ ครับ ถ้ายังไงทางเราจะให้ช่างขึ้นรูปตัวอย่างขึ้นให้ดูนะครับ ” ขนานตอบกลับร่างสูง
“ เอ่อ คุณขนานยังจำวันที่มานั่งที่ร้านวันก่อนได้มั้ยครับ ” ร่างโปร่งพยักหน้ารับด้วยใบหน้างงงวย
“ พอดีผมเก็บเหมือนจะเป็นเครื่องเล่นเพลงได้ คิดว่าน่าจะเป็นของคุณ ” ร่างสูงหยิบเครื่องเล่นเพลงดังกล่าวออกมายื่นให้คนตรงหน้า สีหน้าที่ดูตกใจปนดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ ดีใจที่เจอมันและตกใจที่ร่างสูงนั้นได้เห็นรูปที่ติดอยู่ข้างหลังเครื่อง รูปที่มีแค่อันเดียวได้กลับคืนมาหาเจ้าของมันแล้ว และคนที่เก็บมันได้คือคนที่อยู่ในรูปช่างเป็นอะไรที่เหมาะเจาะมาก มากเกินไป
“ ขะ ขอบคุณนะครับ ไม่คิดว่ามันจะตกอยู่ที่ร้าน ” ขนานรับเอามาไว้ในมือพร้อมกล่าวขอบคุณและส่งยิ้มให้คนตัวสูง
“ ยินดีครับ ” เอกภพยิ้มรับให้อีกคน
ร่างโปร่งรีบเก็บเครื่องเล่นเพลงเข้ากระเป๋าตัวเอง แล้วกล่าวขอบคุณเบาๆอีกครั้ง อย่างน้อยๆ ร่างสูงก็ไม่ถามถึงเรื่องรูปหรือเขาอาจจะไม่เห็นมันนะ ได้แต่คิดแต่ก็ดีแล้วแหละ ขนานลุกขึ้นเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเฉาก๊วยกลับมากินที่โต๊ะ
“ ชอบเฉาก๊วยเหมือนกันหรอครับ วันนั้นก็เห็นสั่ง ” ร่างสูงถามด้วยความสงสัย
“ ครับ ” “ หนานมันชอบจริงๆ หรือกินตามใครจนชินก็ไม่รู้ ” วศิฑาเอ่ยขึ้นหลังขนานพูดจบ เจ้าตัวที่ถูกกล่าวถึงแทบสำลักเฉาก๊วย ก่อนหันขวับไปมองเพื่อนรักที่ทำหน้าตาน่าหยิก มือไวๆของเขาบิดเบาๆเข้ากับต้นขาเล็กเพื่อนรัก
“ หรอครับ ว่าแต่คนนั้นเขาเป็นคนยังไงหรอครับ ” ร่างสูงทำหน้าตาอยากรู้ ขนานล่กอยู่สักพักก่อนจะตอบ
“ เขาเป็นคนที่เพอร์เฟคในทุกด้าน รอบตัวเขาก็มีแต่คนเก่งๆ ” ขนานพูดด้วยใบหน้าชื่นชมอย่างปิดไม่มิด จนคนที่มองยิ้มตามอย่างอดไม่ได้
“ ชอบเขามากขนาดนั้นเลยหรอครับ ”
“ ก็ได้แต่ชอบอยู่ในมุมของเราละครับแค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว ”
“ ไม่คิดจะบอกเขาหรอครับเผื่อเขาจะรอฟังอยู่ก็ได้นะ ” ร่างโปร่งได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปก่อนจะตอบกลับอย่างเบาๆ
“ ไม่ละครับ แค่ตอนนี้ได้คุยด้วยมันก็ปลดล็อคทุกอย่างแล้ว ” เขาพูดออกไปอย่างใจจริง
พอร่างโปร่งพูดจบบรรยากาศก็กลับมาเงียบอีกครั้ง ขนานนั่งกินเฉาก๊วยจนหมดพอดีกับสุธิรักษ์เดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับขนมสองสามอย่าง เพื่อนตัวเล็กของเขาเห็นเป็นไม่ได้เป็นหยับเข้าปากคำโตก่อนโดนเจ้านายดุเอา
“ ค่อยๆ หน่อยเดี๋ยวได้ติดคอพอดี พี่ไม่อยากเป็นหม้ายนะ ” สุธิรักษ์พูดเชิงหยอกเอิ้นคนตัวเล็กทำให้โดนสายตาพิฆาต
“ เลิกเจ้าชู้ให้ได้ก่อนเถอะ ” วศิฑาพูดแนมอีกคน ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาอย่ากับเป็นเรื่องตลก
เอกภพนั่งมองคนสองคนง้องอนกันอยู่ซักพักจึงขอตัวกลับเข้าไปเคลียเอกสารหลังร้านทำให้ตอนนี้เหลือแค่สามคนตามเดิม พวกเขานั่งทานขนมไม่นานก็พากันออกจากร้านเพื่อกลับบริษัท โดยสุธิรักษ์ได้เข้าไปลาเพื่อนคนเดียวปล่อยให้ทั้งสองนั่งอยู่ในรถรอ
“ เออ พี่เอาไลน์หนานให้ภพมันนะ เผื่อมันมีอะไรอยากให้หนานเพิ่มมันจะทักมา ”
“ ห้ะ อ่อครับ เข้าใจแล้ว ” ร่างโปร่งเอ่ยออกไป ขณะที่รถคันงามกำลังเคลื่อนตัวออกจากที่จอด เครื่องมือสื่อสารของเขาก็สั่นเคลือ
ขนานล้วงโทรศัพท์ออกมาดูก็เห็นเข้ากับรายชื่อผู้ติดต่อใหม่เด้งขึ้นมา เขากดรับเพื่อเพิ่มเพื่อนทันที จากนั้นสติกเกอร์ก็รัวกระหน่ำเข้ามาทันควัน เจ้าหมียืนโบกมือให้เขาหยอยๆ ขนานยิ้มรับกับรูปที่เห็น จึงส่งกลับคืนด้วยหมีสีน้ำตาลมีเครื่องหมายคำถามบนหัว จากนั้นสงครามสาดสติกเกอร์ก็เริ่มขึ้นจนเขาย้อมแพ้ไปแค่ไม่อ่านทุกอย่างก็จบ
ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง เสียงข้อความดังขึ้นหลายครั้งติดทำให้ที่ขดตัวอยู่ในผ้าห่มต้องลุกขึ้นมาคว้ามันไปดูอย่าหัวเสีย ถ้าไม่มีอะไรด่วนนะจะด่าให้ ได้แต่คิดอยู่ในใจก่อนจะเปิดข้อความเหล่านั้นดู
ภพเจอ : ผมเอกภพนะครับ
ภพเจอ : แบบตัวอย่างใกล้เสร็จยังครับ
ภพเจอ : สติกเกอร์สงสัย
ภพเจอ : อิโมจิยิ้มๆ
คุณขนาน : สวัสดัครับคุณภพ พอดีผมไม่คิดว่าเป็นคุณขอโทษด้วยนะครับ เรื่องแบบตัวอย่างทางช่างกำลังขึ้นรูปให้อยู่ครับน่าจะเสร็จในพรุ่งนี้เดี๋ยวยังไงผมจะทักมาบอกอีกครั้งนะครับ ไว้ใจทางเราได้เลย
ร่างโปร่งร่ายยาวตามช่องแชทออกไปแล้วเก็บวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะย้ายตัวเองเข้าห้องน้ำต่อไป เสร็จธุระส่วนตัวในห้องน้ำและแต่งตัวแล้วขนานรีบลงไปหาของกินแล้วตรงไปยังบริษัททันทีเพื่อตรวจสอบงานที่ช่างทำ ก็พอเป็นเรื่องของอีกคนขนานผู้นี้ก็รีบทุกที
การรอคอยมันทรมาน........รอของกินนานๆมันโมโหหิว
“ มานานยังรักษ์ หวัดดีครับน้องๆ ” เอกภพทักทายเพื่อน และหันไปทักทายสองหนุ่มหน้าใส
“ เอ้า มาๆ นั่งก่อน ” เอกภพนั่งลงข้างๆ คนตัวโปร่ง “ เอ้อ นี่ ขนาน คนที่รับโปรเจคไปทำ เห็นว่าร่างแบบเสร็จแล้วรอดูได้เลย ” ก่อนสุธิรักษ์จะหันไปทางอีกคน ผายมือไปยังวศิฑา “ แล้วนี้ก็ น้องมู่เป็นเพื่อนกับหนาน ละก็ทำงานที่บริษัทด้วย ”
“ ยินดีที่ได้รู้จักอย่าทางการนะครับ พี่ชื่อภพ เป็นเพื่อนสมัยเรียนประถมรักษ์มัน ”
“ อะ รู้จักกันแล้วนะทุกคน เริ่มเลยมั้ยภพ หรือจะนั่งชิวไปก่อน ” สุธิรักษ์เอ่ยขึ้น จับสังเกตบรรยากาศรอบตัวเงียบผิดปกติ
มือชื้นเหงื่อ หน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างไม่ทราบสาเหตุ ใจเต้นแทบจับจังหวะไม่ได้ ขนานผุดลุกขึ้นก่อนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เพื่อนตัวเล็กเห็นดังนั้นก็ลุกตามไปทันควัน
“ ทำไมต้องเป็นคนนี้ด้วยวะ ” ขนานสถบออกมาเบาๆ ขณะล้างมืออยู่ที่อ่าง จนเพื่อนตัวเล็กเดินเข้ามายืนข้างๆ ก่อนจะเอ่ย
“ โอเคมั้ยหนาน ”
“ หึยย ดีเลยแบบ มากๆ แค่ไม่คิดว่าจะเป็นเขา ” ขนานพูดเสียงเคลือ เพื่อนตัวเล็กเห็นดังนั้นก็โผกอดเขาเอาไว้ คนมันชอบมาตั้งนานความรู้สึกที่กลับเข้ามานั้นเหมือนอยู่กลางแดงที่ร้อนอยู่ดีๆ แต่ไม่ถึงกี่วินาทีก็มีพายุลูกโตสาดซัดเข้ามา
“ เค งั้นกลับโต๊ะกัน หนานต้องคุยงานอีกหนิ ” ขนานพยักหน้ารับ ทั้งสองเดินกลับมายังโต๊ะที่นั่ง ร่างโปร่งสบตาเข้ากับดวงตาคมก่อนจะรีบเดินเข้าไปที่นั่ง
สุธิรักษ์เห็นว่ามาครบแล้ว ก่อนที่จะเริ่มเข้าเรื่องงานทั้งสี่คนคุยกันเล็กน้อยและทานของว่างไปพลาง ขณะที่คุยสัปเพเหระอยู่นั่นหญิงสาวสะสวยหน้าคมสวมชุดเดรสรัดติ้วเดินเข้ามายังโต๊ะที่พวกเขานั่ง ก่อนจะเอ่ยทักทาย
“ ทำไมภพไม่รอนิชาเลยละคะ ” สาวสวยเชิดหน้าขึ้นหลังถามคนตรงหน้าจบ เธอไม่สนใจรอบข้างตัวด้วยซ้ำว่ามีใครอยู่บ้าง
“ นิชามาทำไม ” สาวสวยหน้าเจื่อนเมื่อได้ยินประโยคที่ชายหนุ่มพูดออกมา
“ เอ่อ คุณผู้หญิงเชิญนั่งก่อนดีกว่าครับ ” สุธิรักษ์พูดก่อนจะหันไปบอกขนานขยับเก้าอี้ เจ้าตัวลุกขึ้นให้หญิงสาว ขาเรียวยาวบนส้นสูงก้าวเข้าไปแทนที่ร่างโปร่งทันควัน
ขนานเลือกที่จะยกเก้าอี้ที่อยู่แถวนั่นมาเสริมเพื่อให้ตัวเองนั่ง บรรยากาศน่าอึดอัดก่อตัวขึ้นก่อนจะถูกทำลายด้วยสุธิรักษ์
“ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนาะ หนานพร้อมนะ ไหนขอดูที่เราออกแบบหน่อย ”
“ ครับ สำหรับหัวข้อที่คุณเอกภพให้ทางเรามา จะเกี่ยวกับความโชคดี ผมเลยคิดว่าแค่ใส่สัญลักษณ์ของความโชคดีเข้าไปมันก็คงจบแต่มันจะไม่มีลูกเล่นอะไรเลย ” ร่างโปร่งร่ายราวออกไปโดยไม่ได้สนใจสายตาของอีกคนที่มองมา
“ ผมเลย นำใบโคลเวอร์เข้ามาเป็นตัวแทนของความโชคดี ซึ่งโคลเวอร์สี่แฉกนั่น ก็มีความหมายแต่ละกลีบในตัวของมันเองอย่าง กลีบแรก แสดงถึงความหวัง กลีบที่สอง แสดงถึงความศรัทธา กลีบที่สาม แสดงถึงความรัก กลีบที่สี่ แสดงถึงความโชคดี ส่วนดอกคัตเตอร์นั้น ความจริงเป็นสัญลักษณ์ของการแอบรักแต่ผมคิดว่ามันเหมาะที่จะใส่เข้าไปด้วย เพราะดอกคัตเตอร์นั่นเวลาอยู่กับดอกไม้อื่นมันกลับส่งให้เขาเด่นกว่าตัวเอง มันก็เหมือนกับการที่เรารักใครซักคนอยู่ในมุมของเรา ถึงแม้เขาจะไปไกลแค่ไหนแต่เราก็จะอยู่ตรงนี้ข้างๆเขาเสมอ ” ขนานกางแบบที่เขียน นั่นคือเป็นสร้อยข้อมือที่ตรงกลางเป็นรูปใบโวลเวอร์สี่แฉกตัวสร้อยข้อต่อเป็นดอกคัตเตอร์เล็กๆตัดกับสีสันที่เติมลงไปทำให้ทุกอย่างลงตัวในแบบ พร้อมกับอธิบายความหมายไปด้วยยิ่งทำให้ส่งเสริมงานเข้าไปอีก
ร่างโปร่งพรู่ลมหายใจยาวหลังเสร็จจากการนำเสนอ ปล่อยตัวลู่สบาย ทุกท่วงท่ามันตกอยู่ในสายตาของเอกภพทั้งหมด ร่างสูงแทบจะไม่ได้ฟังคำพูด
“ สวยด้วยตัวมันและความหมายมากๆเลยครับ ผมชอบนะ ” เอกภพเอ่ยขึ้น
“ แต่นิชาว่า... ”
“ นิชาครับ ผมไม่ได้ทำให้คุณฉะนั้นอย่าเอาความคิดคุณมาบังคับผม ” ร่างสูงพูดกับสาวสวยด้วยท่าทีเคร่งขรึม
หญิงสาวเมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ตึงตังผุดลุขึ้นจากที่นั่ง ก่อนพูดทิ้งท้ายกับชายหนุ่ม
“ ยังไงมันก็ต้องเป็นของนิชาอยู่ดี ในเมื่อยังไงเราก็จะแต่งงานกันตามที่ผู้ใหญ่บอกไว้ ” สาวสวยพูดจบแค่นั่นก็เดินสับออกจากร้านไป
ร่างสูงหน้าทะมึนตึงใช้สองนิ้วนวดหัวคิ้วให้คลายความเครียด ก่อนจะปรับสีหน้าให้มาเป็นปกติ
“ เอ่อ คุณภพโอเคมั้ยครับ ” วศิฑาเอ่ยถามร่างสูงออกไปด้วยความเป็นห่วง
“ ผมโอเคครับ แต่ก็ขอโทษแทนนิชาด้วยนะครับที่เธอเข้ามารบกวนพวกเรา ”
“ เฮ้ย ไม่เป็นไรๆ ยังไงแกก็ชอบผลงานอยู่แล้วหนิ ” สุธิรักษ์กล่าว
“ ว่าแต่คนนี้หรอที่แกบอกว่าแม่แกจะให้มาเป็นเมีย แซ่บใช้ได้หนิ โอ้ยย ” เสียงดังป้าบเข้าที่ลำแขนของสุธิรักษ์ วศิฑาหวดเข้าให้ที่แขนของร่างหนา สุธิรักษ์ทำหน้าออดอ้อนคนน้องก่อนจะถูกมองอย่างเอือมๆ
ขนานที่รับรู้เรื่องราวนั้นได้แต่นิ่งเงียบก่อนจับสังเกตเห็นสายตาที่มองมาของคนที่ชอบได้ เขาได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อนกลับไป
“ เดี๋ยวยังไงผมก็ขอตามแบบที่คุณขนานเขียนมาเลยนะครับ ไม่ต้องปรับแก้อะไรแล้ว ”
“ ครับ ถ้ายังไงทางเราจะให้ช่างขึ้นรูปตัวอย่างขึ้นให้ดูนะครับ ” ขนานตอบกลับร่างสูง
“ เอ่อ คุณขนานยังจำวันที่มานั่งที่ร้านวันก่อนได้มั้ยครับ ” ร่างโปร่งพยักหน้ารับด้วยใบหน้างงงวย
“ พอดีผมเก็บเหมือนจะเป็นเครื่องเล่นเพลงได้ คิดว่าน่าจะเป็นของคุณ ” ร่างสูงหยิบเครื่องเล่นเพลงดังกล่าวออกมายื่นให้คนตรงหน้า สีหน้าที่ดูตกใจปนดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ ดีใจที่เจอมันและตกใจที่ร่างสูงนั้นได้เห็นรูปที่ติดอยู่ข้างหลังเครื่อง รูปที่มีแค่อันเดียวได้กลับคืนมาหาเจ้าของมันแล้ว และคนที่เก็บมันได้คือคนที่อยู่ในรูปช่างเป็นอะไรที่เหมาะเจาะมาก มากเกินไป
“ ขะ ขอบคุณนะครับ ไม่คิดว่ามันจะตกอยู่ที่ร้าน ” ขนานรับเอามาไว้ในมือพร้อมกล่าวขอบคุณและส่งยิ้มให้คนตัวสูง
“ ยินดีครับ ” เอกภพยิ้มรับให้อีกคน
ร่างโปร่งรีบเก็บเครื่องเล่นเพลงเข้ากระเป๋าตัวเอง แล้วกล่าวขอบคุณเบาๆอีกครั้ง อย่างน้อยๆ ร่างสูงก็ไม่ถามถึงเรื่องรูปหรือเขาอาจจะไม่เห็นมันนะ ได้แต่คิดแต่ก็ดีแล้วแหละ ขนานลุกขึ้นเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเฉาก๊วยกลับมากินที่โต๊ะ
“ ชอบเฉาก๊วยเหมือนกันหรอครับ วันนั้นก็เห็นสั่ง ” ร่างสูงถามด้วยความสงสัย
“ ครับ ” “ หนานมันชอบจริงๆ หรือกินตามใครจนชินก็ไม่รู้ ” วศิฑาเอ่ยขึ้นหลังขนานพูดจบ เจ้าตัวที่ถูกกล่าวถึงแทบสำลักเฉาก๊วย ก่อนหันขวับไปมองเพื่อนรักที่ทำหน้าตาน่าหยิก มือไวๆของเขาบิดเบาๆเข้ากับต้นขาเล็กเพื่อนรัก
“ หรอครับ ว่าแต่คนนั้นเขาเป็นคนยังไงหรอครับ ” ร่างสูงทำหน้าตาอยากรู้ ขนานล่กอยู่สักพักก่อนจะตอบ
“ เขาเป็นคนที่เพอร์เฟคในทุกด้าน รอบตัวเขาก็มีแต่คนเก่งๆ ” ขนานพูดด้วยใบหน้าชื่นชมอย่างปิดไม่มิด จนคนที่มองยิ้มตามอย่างอดไม่ได้
“ ชอบเขามากขนาดนั้นเลยหรอครับ ”
“ ก็ได้แต่ชอบอยู่ในมุมของเราละครับแค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว ”
“ ไม่คิดจะบอกเขาหรอครับเผื่อเขาจะรอฟังอยู่ก็ได้นะ ” ร่างโปร่งได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปก่อนจะตอบกลับอย่างเบาๆ
“ ไม่ละครับ แค่ตอนนี้ได้คุยด้วยมันก็ปลดล็อคทุกอย่างแล้ว ” เขาพูดออกไปอย่างใจจริง
พอร่างโปร่งพูดจบบรรยากาศก็กลับมาเงียบอีกครั้ง ขนานนั่งกินเฉาก๊วยจนหมดพอดีกับสุธิรักษ์เดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับขนมสองสามอย่าง เพื่อนตัวเล็กของเขาเห็นเป็นไม่ได้เป็นหยับเข้าปากคำโตก่อนโดนเจ้านายดุเอา
“ ค่อยๆ หน่อยเดี๋ยวได้ติดคอพอดี พี่ไม่อยากเป็นหม้ายนะ ” สุธิรักษ์พูดเชิงหยอกเอิ้นคนตัวเล็กทำให้โดนสายตาพิฆาต
“ เลิกเจ้าชู้ให้ได้ก่อนเถอะ ” วศิฑาพูดแนมอีกคน ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาอย่ากับเป็นเรื่องตลก
เอกภพนั่งมองคนสองคนง้องอนกันอยู่ซักพักจึงขอตัวกลับเข้าไปเคลียเอกสารหลังร้านทำให้ตอนนี้เหลือแค่สามคนตามเดิม พวกเขานั่งทานขนมไม่นานก็พากันออกจากร้านเพื่อกลับบริษัท โดยสุธิรักษ์ได้เข้าไปลาเพื่อนคนเดียวปล่อยให้ทั้งสองนั่งอยู่ในรถรอ
“ เออ พี่เอาไลน์หนานให้ภพมันนะ เผื่อมันมีอะไรอยากให้หนานเพิ่มมันจะทักมา ”
“ ห้ะ อ่อครับ เข้าใจแล้ว ” ร่างโปร่งเอ่ยออกไป ขณะที่รถคันงามกำลังเคลื่อนตัวออกจากที่จอด เครื่องมือสื่อสารของเขาก็สั่นเคลือ
ขนานล้วงโทรศัพท์ออกมาดูก็เห็นเข้ากับรายชื่อผู้ติดต่อใหม่เด้งขึ้นมา เขากดรับเพื่อเพิ่มเพื่อนทันที จากนั้นสติกเกอร์ก็รัวกระหน่ำเข้ามาทันควัน เจ้าหมียืนโบกมือให้เขาหยอยๆ ขนานยิ้มรับกับรูปที่เห็น จึงส่งกลับคืนด้วยหมีสีน้ำตาลมีเครื่องหมายคำถามบนหัว จากนั้นสงครามสาดสติกเกอร์ก็เริ่มขึ้นจนเขาย้อมแพ้ไปแค่ไม่อ่านทุกอย่างก็จบ
ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง เสียงข้อความดังขึ้นหลายครั้งติดทำให้ที่ขดตัวอยู่ในผ้าห่มต้องลุกขึ้นมาคว้ามันไปดูอย่าหัวเสีย ถ้าไม่มีอะไรด่วนนะจะด่าให้ ได้แต่คิดอยู่ในใจก่อนจะเปิดข้อความเหล่านั้นดู
ภพเจอ : ผมเอกภพนะครับ
ภพเจอ : แบบตัวอย่างใกล้เสร็จยังครับ
ภพเจอ : สติกเกอร์สงสัย
ภพเจอ : อิโมจิยิ้มๆ
คุณขนาน : สวัสดัครับคุณภพ พอดีผมไม่คิดว่าเป็นคุณขอโทษด้วยนะครับ เรื่องแบบตัวอย่างทางช่างกำลังขึ้นรูปให้อยู่ครับน่าจะเสร็จในพรุ่งนี้เดี๋ยวยังไงผมจะทักมาบอกอีกครั้งนะครับ ไว้ใจทางเราได้เลย
ร่างโปร่งร่ายยาวตามช่องแชทออกไปแล้วเก็บวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะย้ายตัวเองเข้าห้องน้ำต่อไป เสร็จธุระส่วนตัวในห้องน้ำและแต่งตัวแล้วขนานรีบลงไปหาของกินแล้วตรงไปยังบริษัททันทีเพื่อตรวจสอบงานที่ช่างทำ ก็พอเป็นเรื่องของอีกคนขนานผู้นี้ก็รีบทุกที
การรอคอยมันทรมาน........รอของกินนานๆมันโมโหหิว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ