เจ้าหญิงของฉัน
เขียนโดย POPENGL
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 04.39 น.
แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 04.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) ท้องเสีย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความราวๆ หกโมงเช้ากว่าๆ
“ป๊อป เอากาแฟไหม เดี๋ยวเค้าชงให้” เสียงหวานเอ่ยขึ้น เรียกสติคนที่กำลังจมดิ่งกับงานบนหน้าจอไอแม็คตรงหน้าให้เงยขึ้นมา ถึงแม้วันนี้เป็นวันอาทิตย์ แต่ทั้งสองเลือกที่จะตื่นมาแต่เช้าเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ และคนเป็นเจ้าของห้องถือโอกาสลงมือทำงานต่อด้วย
ใบหน้าคร้ามหันไปมองตามเจ้าของเสียงหวานน่าฟังที่ตอนนี้กำลังยืนกดน้ำร้อนใส่แก้วกาแฟทั้งสองใบที่มุมทำครัวหลังเคาน์เตอร์ มือข้างซ้ายละออกจากเมาส์ปากกาก่อนพาตัวเองลุกเดินไปด้านหลังร่างบางที่กำลังจะหันมาหา
“เสร็จแล้วจ้ะ… ป๊อปอ่ะ มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย เค้าตกใจนะป๊อป” เสียงหวานว่าให้ มือเล็กข้างหนึ่งส่งแก้วกาแฟให้กับคนขี้แกล้ง “นี่ แก้วของป๊อป เอาไปด้วย เค้าร้อนมือจะแย่แล้ว”
มือหนายื่นมารับแก้วกาแฟอย่างว่าง่าย ก่อนออกปากชวนให้คนรักออกไปนอกระเบียงด้วยกัน “ไปกินกันที่ระเบียงดีกว่า”
พัชรเดินตามหลังคนตัวใหญ่ไปอย่างว่าง่าย ประตูกระจกบานเลื่อนถูกเปิดโดยคนที่เพิ่งออกปากชวน พาตัวเองออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าวันนี้ที่กำลังเย็นสบายด้วยลมหนาวเริ่มพัดมาปะทะร่างของทั้งสอง กับท้องฟ้าครึ้มๆ และหมอกจางๆ ที่ลอยอยู่ สร้างบรรยากาศให้น่าจิบกาแฟมากขึ้น
“ป๊อปรู้ไหม เมื่อคืนป๊อปน่ารักมากเลยนะ น้องใบหม่อนหลับไปแล้วป๊อปยังอุตส่าห์อุ้มไปส่งถึงที่นอนอีก เค้าเห็นแล้วเค้ายังอิจฉาเลยอ่ะ” พัชรเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมา แต่สายตาของเจ้าตัวตอนนี้มองไปยังทิวทัศน์ตรงหน้า
“เราทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เราก็เล่าให้พัชรฟังแล้วนี่” ป๊อปเว้นจังหวะซดกาแฟในมือบ้าง “ตอนใบหม่อนเกิดใหม่ๆ เราเห่อมาก จำได้เลยว่าทุกวันแม่จะให้เราอุ้มใบหม่อนเข้านอนทุกครั้ง พอโตมาหน่อยกว่าใบหม่อนจะยอมเข้านอนได้ เราก็ต้องอุ้มไปส่งทุกครั้งแหละ พอโตขึ้นก็ห่างๆ กันไปบ้าง แต่วันไหนที่เรากลับบ้านหรือวันที่ใบหม่อนลงมาหาเรา ใบหม่อนจะให้เราอุ้มส่งเข้านอนทุกครั้งแหละ” พูดจบปากหยักได้รูปภายใต้หนวดเคราคลี่ยิ้มขึ้นอย่างมีความสุขเมื่อพูดถึงเรื่องราวตอนเด็ก นัยน์ตาสองชั้นหลบชำเลืองมองมาทางใบหน้าสวยหวานของคนรักที่ตอนนี้เห็นเพียงด้านข้าง
“เมื่อคืนเค้าสังเกตนะ ตอนน้องใบหม่อนคุยกับเค้าอยู่ น้องใบหม่อนมองมาทางป๊อปตลอดเลย” พัชรเริ่มเล่าเรื่องเมื่อคืนบ้าง “เค้าเห็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ น้องใบหม่อนยังติดป๊อปไม่เปลี่ยนเลย”
ปากหยักได้รูปผุดยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำๆ นี้ จริงอย่างที่คนรักของเขาพูดทุกอย่าง ก็ตัวเองกับน้องสาวมักไปไหนมาไหน ทำอะไรด้วยกันตลอดจนตัวแทบจะติดกันในตอนเด็ก แม้ตอนโตจะเริ่มห่างๆ กันไปบ้างตามระยะเวลาและช่วงวัย แต่เมื่อกลับมาอยู่ด้วยกัน ความรู้สึกเดิมๆ เมิ่อวัยเด็กก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
“จริงอย่างที่พัชรว่าแหละ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น พูดจบปากหยักได้รูปยิ่งยิ้มกว้างขึ้น “ถึงโตขึ้นมันจะห่างกันบ้างตามวัย แต่ยังไงพี่น้องกัน ยังไงๆ ก็ตัดกันไม่ขาดหรอก เราก็ไม่ได้เป็นพี่ชายที่แสนดีอะไรขนาดนั้น มีทะเลาะกันบ้าง ตีกันบ้าง เราก็ทำตัวเป็นภาระให้น้องเราเยอะเลย ตอนนี้ยังละอายใจไม่หายเลยล่ะ”
“คิดไปเองรึเปล่าป๊อป” พัชรว่าพร้อมกับหันกลับมาหาใบหน้าคร้ามของคนรัก ขณะที่อีกฝ่ายยกแก้วกาแฟขึ้นซดอีกโฮกใหญ่จนหมด “เค้าก็ไม่รู้หรอกนะว่าจริงๆ แล้วป๊อปจะห่วยหรือทำตัวเป็นภาระแค่ไหน แต่ที่เค้าเห็นและจำได้ มีแต่ป๊อปที่คอยอยู่เป็นเพื่อน คอยปกป้องดูแลน้องใบหม่อนอยู่ตลอดนะ” พูดจบสาวเจ้ายกแก้วกาแฟขึ้นซดโฮกใหญ่จนหมดเช่นกัน
“เอาน่าๆ กินกาแฟหมดยังล่ะ จะได้เอาแก้วไปล้าง” คราวนี้ป๊อปรีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนเอื้อมมือคว้าข้อมือเล็กของแฟนสาวกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง แก้วกาแฟทั้งสองใบถูกล้างโดยคนเป็นเจ้าของห้อง ขณะที่ผู้มาเยือนอย่างพัชรขอปลีกตัวไปนั่งเล่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูอัพเดตโซเชียลมีเดียของตัวเองไปเรื่อยๆ บนโซฟาใหญ่กลางห้อง จนเวลาล่วงเลยไปสักพัก
“พัชร เดี๋ยวเราไปดูใบหม่อนก่อนนะ ไม่รู้ตื่นหรือยัง นี่เจ็ดโมงครึ่งแล้วนะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับพาตัวเองเดินเข้ามาใกล้ร่างบางที่ทอดตัวอยู่บนโซฟา
“จ้า ป๊อปไปดูน้องใบหม่อนเถอะ” เสียงหวานตอบรักพร้อมกับส่งยิ้มหวานเป็นกำลังใจให้คนรักหนึ่งที
คนตัวใหญ่เดินไปยังประตูห้องนอนของน้องสาวที่ยังคงปิดสนิทอยู่ มือหนาเคาะประตูเบาๆ ตามมารยาท
“<<ใบหม่อน ตื่นยัง>>”
เงียบ...ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น มือหนาใหญ่ยังคงเคาะประตูย้ำอีกเป็นครั้งที่สองพร้อมกับออกปากเรียก
“<<ใบหม่อนได้ยินพี่ไหม รีบๆ ตื่นนะ เช้านี้พี่พัชรจะทำกับข้าวให้กินนะ ถ้าตื่นสายกับข้าวหมดพี่ไม่รู้ด้วยนะ>>”
แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ จากคนในห้อง ประตูห้องยังคงปิดสนิทและล็อกไว้เหมือนเดิม และนั่น ทำให้คนเป็นพี่ชายอย่างป๊อปเริ่มกระวนกระวายใจเล็กๆ เพราะรู้อยู่ว่าปกติแล้ว น้องสาวของเขาแค่เรียกเบาๆ ก็ตื่นแล้ว ผิดกับครั้งนี้ที่เงียบไปแปลกๆ
“น้องใบหม่อนยังไม่ตื่นเหรอป๊อป” เสียงหวานน่าฟังเอ่ยถามขึ้น ร่างบางลุกขึ้นจากโซฟาเข้ามายืนใกล้ๆ
“ไม่รู้เหมือนกันน่ะพัชร” ป๊อปพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด แต่ในใจของเขาเริ่มกังวลมากขึ้น “ปกติแค่เรียกก็ตื่นแล้วนะ”
“อย่าคิดมากน่าป๊อป” พัชรเอ่ยปลอบใจพร้อมกับบีบข้อมือคนรักเบาๆ “บางทีน้องใบหม่อนอาจจะหลับเพลินก็ได้นะป๊อป อากาศยิ่งน่านอนอยู่ด้วย”
ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับถอนหายใจเบาๆ นัยน์ตาสองชั้นหลบหันมามองใบหน้าสวยหวานที่กำลังส่งยิ้มให้ พอทำให้เขาคลายความกังวลไปได้ แต่ทันใดนั้น หูของเขาแอบได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำจากข้างใน เวลาผ่านไปไม่นานนัก บานประตูไม้สีครีมถูกเปิดออกโดยคนที่กำลังถูกพูดถึงอยู่
((“ใบหม่อน/น้องใบหม่อน”)) ทั้งสองร้องเรียกชื่อคนที่เดินออกมาด้วยท่าทางตกใจเมื่อได้เห็นสภาพ
“<<พี่ป๊อป หนูท้องเสียอ่า>>” เสียงใสสั่นเครือเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา มือเล็กทั้งสองข้างกุมหน้าท้องแบนราบที่ห่อหุ้มด้วยเสิ้อยืดตัวเดียวกับเมื่อคืน ดวงตากลมโตที่เคยเปล่งประกายสดใสกลับหรี่ลง บ่งบอกถึงอาการอิดโรยอยู่ไม่น้อย
คนเป็นพี่ชายอย่างป๊อปยิ่งทวีความกระวนกระวายใจมากขึ้น เขาคาดไว้ไม่ผิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับน้องสาวของเขาแน่ๆ ยิ่งได้เห็นท่าทางอิดโรยของคนตรงหน้าแล้วก็ยิ่งใจคอไม่ดี
“พัชร รบกวนพาใบหม่อนกลับเข้าห้องไปก่อนนะ เดี๋ยวเราไปเอายาแป๊ปนึง”
พูดจบร่างสูงใหญ่รีบเดินแยกออกมา เป้าหมายคือกล่องยาบนชั้นวางหนังสือริมผนังข้างโซฟาตัวใหญ่ รีบเปิดฝากล่องยาควานหายาแก้ท้องเสียที่ตัวคิดว่าจะมีไว้ แต่ก็ต้องหงุดหงิดใจมากขึ้นเมื่อยาที่กำลังค้นหาอยู่หมดไปเสียก่อน
ป๊อปยิ่งหัวเสียมากกว่าเดิม นึกถึงสภาพของน้องสาวในตอนนี้ยิ่งทำให้เขากังวลใจมากขึ้นจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว แต่แล้วนึกขึ้นได้ว่าในตู้เย็นมีสไปร์ทขวดเล็กที่ซื้อติดไว้อยู่ ว่าแล้วเขารีบพาตัวเองไปที่ตู้เย็นหลังครัว หยิบขวดสไปร์ทออกมาเปิดฝา คว้ากระปุกเกลือใบย่อมที่มีติดไว้ออกมา หยิบช้อนเล็กตักเกลือออกมาจนพูนใส่ลงไปในขวดสไปร์ท รีบเดินจ้ำไปที่ห้องนอนของน้องสาว ทว่าเห็นเพียงแต่คนรักนั่งจับเจ่าอยู่บนเตียงของคนเป็นน้องสาวเท่านั้น
“พัชร ใบหม่อนล่ะ” เขาเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงแสดงอาการตื่นเต้นกระวนกระวายใจอยู่
“น้องใบหม่อนเพิ่งเข้าห้องน้ำไปเมื่อกี้น่ะป๊อป” พัชรตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง พอจะช่วยลดความกระวนกระวายใจของอีกฝ่ายได้ “ใจเย็นๆ นะป๊อป”
คนตัวใหญ่เดินเข้าไปหาคนรัก พร้อมกับยื่นขวดสไปร์ทใส่เกลือให้ “พัชร ถ้าใบหม่อนออกมา ให้ใบหม่อนกินสไปร์ทก่อนนะ”
พัชรพยักหน้ารับคำก่อนรับขวดสไปร์ทจากมือของคนรัก ก่อนจะออกปากเบรกความคิดของคนรักก่อน
“เค้าว่าอย่าให้น้องใบหม่อนกินสไปร์ทตอนท้องว่างเลย ไปหาอะไรให้น้องกินรองท้องก่อนดีกว่าน้า”
“อืมๆ เดี๋ยวเราลงไปซื้อข้าวต้มกับยาแก้ท้องเสียก่อนนะ พอดียาหมดน่ะ ยังไงเรารบกวนพัชรหน่อยนะ” พูดจบป๊อปรีบเดินออกมาหยิบกระเป๋าตังค์และคีย์การ์ด พาตัวเองออกจากห้องลงไปยังชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
...............................................................................
ร่างระหงเดินออกจากห้องน้ำด้วยท่าทางอิดโรยหลังจากขับถ่ายไปอีกหนึ่งชุดใหญ่ พัชรเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปประคองให้มานั่งที่เตียงก่อน เห็นแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาในใจอยู่ไม่น้อย
“พี่ป๊อปล่ะพี่พัชร” ใบหม่อนออกปากถามหาคนเป็นพี่ชายอย่างยากลำบาก
“พี่ป๊อปลงไปซื้อข้าวต้มกับยามาให้น้องใบหม่อนจ้า รอพี่เขาแป๊ปนะ นี่พี่ป๊อปเอาสไปร์ทใส่เกลือมาให้ด้วย แต่น้องใบหม่อนไปรอพี่ป๊อปที่โซฟากับพี่ก่อน กินสไปร์ทตอนท้องว่างยิ่งปวดท้องนะจ๊ะ” พัชรเอ่ยตอบพร้อมกับชูขวดสไปร์ทให้อีกฝ่ายดู “มา เดี๋ยวพี่พาไปจ้า น้องใบหม่อนค่อยๆ เดินน้า”
ใบหม่อนเดินตามว่าที่พี่สะใภ้อย่างว่าง่าย ถึงแม้จะแทบไม่มีแรงเลยก็ตาม ในที่สุดทั้งสองสาวพาตัวเองมาถึงโซฟาใหญ่กลางห้อง รอคนเป็นเจ้าของห้องที่ลงไปได้สักพักหนึ่งแล้ว อาการปวดท้องของใบหม่อนยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ท้องไส้ของหญิงสาวในตอนนี้ยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นจนเจ้าตัวแสดงอาการเจ็บปวดผ่านทางสีหน้า ทำเอาว่าที่พี่สะใภ้อย่างพัชรรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้นกว่าเดิม
“ใบหม่อนรอพี่ป๊อปแป๊ปนึงนะ เดี๋ยวพี่เขาก็ขึ้นมาแล้ว”
พูดไม่ทันขาดคำ ประตูห้องถูกเปิดโดยคนเป็นเจ้าของห้อง มือข้างหนึ่งถือถุงข้าวต้มหมูสับสามถุง ยาแก้ท้องเสียชนิดน้ำ ยาธาตุน้ำขาว และผงเกลือแร่อีกหนึ่งแพ็กใหญ่ เดินมายังโซฟาใหญ่กลางห้องอย่างรวดเร็ว
“<<ใบหม่อนรอพี่แป๊ปนะ นี่พี่ซื้อข้าวต้มมา กินรองท้องก่อนนะ>>” พูดจบคนตัวใหญ่รีบเดินไปยังเคาน์เตอร์
อาการปวดท้องของใบหม่อนเริ่มหนักขึ้นพร้อมกับสัญญาณเตือนว่าจะต้องปล่อยอีกครั้ง พัชรเห็นท่าไม่ดีรีบประคองร่างสูงระหงของว่าที่น้องสะใภ้ไปส่งยังห้องน้ำ ยืนรออย่างกระวนกระวายใจไม่ต่างไปจากคนรักของตัวเองในตอนนี้
ป๊อปรีบแกะถุงข้าวต้มเทใส่ชามแก้วใบใหญ่ก่อนนำไปเสิร์ฟบนโต๊ะกินข้าวอย่างรวดเร็ว เดินเลยไปหยิบสไปร์ทใส่เกลือที่เตรียมไว้จากโต๊ะกระจกหน้าโซฟามาวางไว้ข้างชามข้าวต้มใบใหญ่ รอเวลาน้องสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ และแล้ว ร่างสูงระหงเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางอิดโรยหนักกว่าเดิมหลังจากถ่ายท้องไปชุดใหญ่จนไม่มีอะไรจะให้ถ่ายอีก ขณะที่พัชรคอยประคองว่าที่น้องสะใภ้จนมาถึงโต๊ะกินข้าวในที่สุด
ร่างระหงหย่อนตัวลงนั่งอย่างช้าๆ เห็นข้าวต้มหมูร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมฉุยอยู่ตรงหน้า ดวงตากลมโตคู่สวยค่อยๆ เงยมองหน้าคนเป็นพี่ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ
“<<ใบหม่อนกินข้าวต้มรองท้องก่อนเถอะ นี่ยาแก้ท้องเสีย พี่ซื้อมาให้แล้ว>>” ป๊อปว่าพร้อมกับผายมือมายังชามข้าวต้มตรงหน้าและชุดยาแก้ท้องเสียที่วางไว้ใกล้กับขวดสไปร์ทใส่เกลือ “<<ปรุงเอาเลยนะใบหม่อน นี่เครื่องปรุง>>”
ใบหม่อนไม่พูดอะไรนอกจากส่งสายตาไปหาคนเป็นพี่ชายแทนคำขอบคุณ ก่อนลงมือละเลียดข้าวต้มหมูร้อนๆ ในชามตรงหน้า อาการปวดท้องยิ่งหนักขึ้นจนตัวเองไม่มีกะจิตกะใจจะเล่นมือถือแล้วในตอนนี้ ยังเห็นพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ยืนคุมเชิงอยู่ รู้อยู่ว่าสองคนนี้เป็นห่วงตัวเองขนาดไหน แต่ตอนนี้ความเกรงใจมีมากกว่า
“<<พี่ป๊อป พี่พัชร ไปทำอะไรของพวกพี่เหอะ ไม่ต้องห่วงหนูหรอก>>”
ทั้งสองเดินหลีกออกมาตามคำของคนป่วย แต่อดที่จะหันไปมองอย่างห่วงๆ ไม่ได้ ชามอีกสองใบถูกหยิบออกจากชั้นวางโดยเจ้าของห้อง ขณะที่พัชรแกะข้าวต้มอีกสองถุงรอท่าไว้แล้ว
“ไปนั่งกินเป็นเพื่อนน้องใบหม่อนกันเถอะป๊อป” พัชรกระซิบข้างใบหูใหญ่ของคนรัก ก่อนถือถาดที่วางข้าวต้มสองชามไปวางที่โต๊ะกินข้าวตัวเดิม ฝั่งตรงข้ามกับคนป่วยในตอนนี้ ทั้งสองต่างหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ เริ่มลงมือรับประทานข้าวต้มมื้อเช้าแล้ว
“<<พี่ป๊อป หนูไม่รู้ว่าหนูกินอะไรเข้าไปอ่ะ เลยท้องเสียขนาดนี้>>” ใบหม่อนเอ่ยถามคนเป็นพี่ชายพร้อมกับละเลียดข้าวต้มในชามตรงหน้า
“<<เมื่อคืนพี่จำได้นะ ว่าเรากินส้มตำมะเขือกับซุปหน่อไม้ไปเยอะเลย>>” ป๊อปเว้นสักพักพร้อมกับตักข้าวต้มเข้าปาก “<<หรือว่าเป็นซุปหน่อไม้ที่แฟนพี่ซื้อมา>>”
พัชรถึงกับหน้าเสียเมื่อได้ยินแฟนหนุ่มเอ่ยขึ้น ไม่คิดว่าซุปหน่อไม้ร้านประจำจะทำให้ว่าที่น้องสะใภ้ท้องเสียได้ “จริงเหรอป๊อป เมื่อคืนเค้าไม่ได้กินเลยอ่ะ น้องใบหม่อนกินหมดเลย”
“ใช่แล้วล่ะพัชร” ป๊อปตอบด้วยท่าทางจริงจังกว่าเดิม “ซุปหน่อไม้ของพัชรมีกลิ่นแปลกๆ ด้วย”
“<<ฮือ ตายแล้ว เมื่อคืนหนูกินซุปหน่อไม้หมดด้วยอ่ะ>>” ใบหม่อนถึงกับใจเสียเมื่อได้ยินคำตอบจากปากคนเป็นพี่ชาย
“<<เอาน่าใบหม่อน กินข้าวต้มแล้วก็กินยา กินสไปร์ทใส่เกลือ เดี๋ยวก็ดีขึ้น>>”
เมื่อได้ยินคำตอบจากปากของพี่ชาย ยิ่งทำให้เจ้าตัวรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม มีกำลังใจที่จะจัดการข้าวต้มชามใหญ่ตรงหน้าให้หมด จะได้กินยาและนอนพักสักที
เวลาล่วงเลยไปสักพัก ข้าวต้มในชามของใบหม่อนหมดลง มือเล็กเอื้อมไปหยิบขวดสไปร์ทใส่เกลือมาดูดรวดเดียวจนหมดแบบไม่กลัวสำลักจนคนเป็นพี่ชายต้องปราม
“<<ค่อยๆ ดูดก็ได้ใบหม่อน เดี๋ยวสำลักเอาหรอก>>”
“<<หึ หนูดูดไปหมดละพี่ป๊อป>>” เสียงใสว่าขึ้น มือเล็กเอื้อมมาหยิบขวดยาธาตุก่อนเปิดฝาและหยิบช้อนเล็กขึ้นมารอง ตบท้ายด้วยยาแก้ท้องเสียอีกสองเม็ด เริ่มรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นบ้างเล็กน้อย ร่างสูงระหงลุกขึ้นเดินแยกไปนั่งที่โซฟาใหญ่กลางห้อง ไม่ลืมที่จะหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูติดมือไปด้วย ปล่อยให้พี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้นั่งทานข้าวต้มด้วยกันสองต่อสอง จนกระทั่งกินเสร็จในเวลาผ่านไปอีกไม่นานนัก
“มา พัชรล้างชามให้ ป๊อปไปดูน้องใบหม่อนเถอะ” พัชรตั้งท่าจะเก็บชามข้าวต้มทั้งสามใบ แต่สิ่งที่เห็นกลับกลายเป็นมือหนายื่นมาแย่งชามข้าวต้มอีกสองใบตรงหน้า
“ไม่เป็นไรหรอกพัชร เดี๋ยวเราล้างเอง” พูดจบชามข้าวต้มทั้งสองใบถูกนำไปยังอ่างซิงค์ด้านหลัง ขณะที่คนเสนอตัวล้างชามถืออีกใบตามไปติดๆ สุดท้ายแล้ว ทั้งสองต่างช่วยกันล้างชามข้าวต้มทั้งสามใบจนเสร็จ
………………………………………………………………
ตลอดครึ่งวันเช้าจนมาถึงช่วงบ่าย ใบหม่อนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนพักสลับกับเข้าห้องน้ำเป็นระยะๆ ด้วยอาการท้องเสียที่ทำท่าว่าจะทุเลาลงกลับกำเริบขึ้นอีกครั้งถึงแม้จะกินยาแก้ท้องเสียไปแล้วก็ตาม ทำเอาคนเป็นพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ยิ่งเป็นห่วงมากกว่าเดิมจนไม่เป็นอันทำอะไรอย่างอื่น โดยเฉพาะป๊อปที่เริ่มกระวนกระวายใจมากขึ้นกว่าเดิม
ใบหม่อนเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพอิดโรยกว่าเดิม ทำเอาคนเป็นพี่ชายอย่างป๊อปทนไม่ไหวรีบเข้าไปประคองด้วยเกรงว่าจะหมดแรงล้มเสียก่อน เขาพาร่างสูงระหงของน้องสาวมาถึงโซฟาในสภาพทุลักทุเลพอสมควร ทางด้านพัชรรีบไปชงน้ำเกลือแร่ที่เคาน์เตอร์หลังครัวเตรียมไว้ให้ว่าที่น้องสะใภ้คนนี้ดื่ม
“<<ไหวไหมใบหม่อน>> ป๊อปเอ่ยถามขึ้นมา น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงอาการใจคอไม่ดีอยู่ในตอนนี้
ใบหม่อนสื่อสารกับคนเป็นพี่ชายผ่านทางสายตา ภายในดวงตาสีน้ำตาลเข้มดุจอำพันกำลังจะบอกพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองว่าตอนนี้ยังไหวอยู่ ขณะเดียวกัน พัชรเดินถือแก้วน้ำเกลือแร่มาให้กับคนรัก
“ป๊อป เอาน้ำเกลือแร่ให้น้องใบหม่อนกินก่อนไหม”
มือใหญ่รับแก้วน้ำเกลือแร่จากเจ้าของร่างบางที่ยื่นมา และคอยยืนเป็นกำลังใจอยู่ใกล้ๆ เขาหันไปยิ้มให้กับคนที่เป็นกำลังใจก่อนจะหันกลับมาหาคนป่วยที่ตอนนี้อยู่ในอิริยาบถกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่
“<<แข็งใจหน่อยนะใบหม่อน เดี๋ยวก็หายแล้ว>>” เสียงแผ่วเบากึ่งกระซิบจากปากหยักส่งไปถึงคนป่วยที่อยู่ตรงหน้า แก้วน้ำเกลือแร่ถูกส่งให้มือบางของหญิงสาว
ใบหม่อนยกแก้วน้ำเกลือแร่ขึ้นดื่มอย่างช้าๆ รู้สึกเบามือขึ้นเพราะมีมือหนาของคนเป็นพี่ชายช่วยประคองอยู่ รู้สึกปลอดโปร่งมีเรี่ยวมีแรงมากขึ้นกว่าเดิมอยู่ไม่น้อย แต่ยังมีอาการปวดท้องอยู่
“<<พี่ป๊อป…>>” เสียงใสเอ่ยเรียกชื่อคนที่คอยดูแลอย่างแผ่วเบา “<<หนูยังปวดท้องอยู่เลยอ่ะ>>”
“<<แข็งใจอีกนิดนึงนะคะ กินหมดแล้วจะได้นอนไง>>” ป๊อปย้ำอีกครั้ง มือหนายังช่วยประคองแก้วในมือของน้องสาวจนดื่มหมดในเวลาต่อมา
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ด้วยฤทธิ์ของน้ำเกลือแร่ทำให้อาการของใบหม่อนเริ่มดีขึ้น อาการปวดท้องค่อยๆ ทุเลาลง และยิ่งได้สัมผัสไออุ่นจากอ้อมกอดของพี่ชายตัวเองที่เปรียบเสมือนยาชูกำลังใจให้ต่อสู้กับอาการท้องเสียในวันนี้ได้
ศีรษะกลมสวยได้รูปของหญิงสาวยังคงหนุนบนหน้าตักของป๊อปอยู่จนผล็อยหลับไป ทำให้ป๊อปไม่กล้าขยับตัวมากเพราะกลัวคนที่นอนหนุนตักอยู่ตื่น นัยน์ตาสองชั้นหลบลอบมองใบหน้าสวยหวานในยามหลับใหลของคนเป็นน้องสาวที่ดูยังไงก็น่ารักน่าเอ็นดูเสมอ และแล้วภาพตรงหน้าค่อยๆ เลือนรางลงไปจนมืดสนิทในที่สุด
ด้านคนที่อยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้อย่างพัชรนั่งมองสองพี่น้องที่เผลอหลับไปด้วยกันทั้งคู่ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมในใจไม่น้อยเมื่อเห็นคนรักที่คบกันมานานเกือบสิบสองปีทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีต่อน้องสาวคนเดียวของเขาอย่างเต็มใจเท่าที่เขาจะทำได้ เมื่อเห็นภาพประทับใจตรงหน้าในวันนี้ ยิ่งทำให้เจ้าตัวมั่นใจมากขึ้นว่าผู้ชายคนนี้จะดูแลตัวเธอในฐานะคนรักได้ตลอดไปอีกนานเท่านาน กลีบปากเรียวสวยผุดยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นคนรักเผลอหลับไปทั้งที่น้องสาวของเขานอนหนุนตักอยู่ในตอนนี้
ป๊อปค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาหลังจากเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ยังมีอาการเบลอนิดๆ นัยน์ตาสองชั้นหลบเงยขึ้นมองคว้างๆ ไปที่เพดานก่อนหันไปสบตากับคนรักที่กำลังส่งยิ้มหวานมาให้
“ตื่นแล้วเหรอป๊อป” เสียงหวานจากหญิงสาวที่อยู่เคียงข้างเอ่ยถามขึ้นมา
ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ ก่อนก้มลงไปมองที่หน้าตักที่ยังรู้สึกหนักๆ เพราะน้องสาวคนเดียวของเขายังคงนอนหนุนตักตัวเองอยู่ มือหนาเอื้อมไปลูบผมยาวสลวยบนโครงหน้ากลมกึ่งรูปไข่สวยได้รูปของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูอยู่ไม่น้อยพร้อมกับภาวนาในใจขอให้น้องสาวของเขาหายจากอาการท้องเสียไวๆ ยิ่งเห็นดวงตากลมโตคู่สวยหลับพริ้ม รอยยิ้มน้อยๆ บนกลีบปากเรียวเล็ก จมูกโด่งเชิดรั้นกำลังพ้นลมหายใจสม่ำเสมอก็ยิ่งทำให้เขาไม่กล้าขยับตัวมากเพราะกลัวจะทำให้ตื่น ถึงแม้จะรู้สึกอึดอัดแค่ไหน แต่เขาก็เต็มใจที่จะทำให้ผู้หญิงคนที่ชื่อใบหม่อน น้องสาวคนเดียวที่เขารักมากที่สุดได้นอนหนุนบนหน้าตักของเขาให้นานที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
เวลาผ่านเลยไปราวๆ เกือบสี่โมงเย็น
ใบหม่อนลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นใบหน้ารกครึ้มด้วยหนวดเคราของคนเป็นพี่ชายลางๆ ก่อนยกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆ อีกครั้งเพื่อให้เห็นชัดขึ้น พร้อมกับอาการท้องเสียที่ตัวเองเผชิญมาเกือบตลอดทั้งวันดีขึ้นจนหายเป็นปลิดทิ้งในที่สุด
“<<พี่ป๊อป>>” เสียงใสเรียกชื่อคนเป็นพี่ชาย
“<<ตื่นแล้วเหรอใบหม่อน>>” ป๊อปออกอาการดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อเห็นน้องสาวลืมตาขึ้น
คำตอบที่ได้คือรอยยิ้มจากกลีบปากอวบอิ่มที่ผุดขึ้นจนเห็นฟันครบทุกซี่ภายใต้เหล็กดัดฟัน ดวงตากลมโตคู่สวยหยีลงจนเป็นรูปสระอิ ทำเอาป๊อปใจชื้นขึ้นมาไม่น้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มของน้องสาวคนนี้ มือหนาทั้งสองข้างประคองร่างสูงระหงของหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่งอย่างทะนุถนอมที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกด้านหนึ่ง พัชรลุกจากโซฟาตัวเล็กข้างๆ ไปที่ตู้เย็นหลังครัว หยิบเหยือกน้ำเทใส่แก้วเดินมาเสิร์ฟให้ถึงที่
“น้องใบหม่อนกินน้ำก่อนนะจ๊ะ ท่าทางจะหิวน้ำแย่เลย” พัชรว่ากับว่าที่น้องสะใภ้ด้วยอาการดีใจไม่ต่างจากพี่ชายแท้ๆ อย่างคนรักของเจ้าตัว มือเล็กยื่นแก้วน้ำให้ถึงมือของอีกฝ่าย
ใบหม่อนคว้าแก้วน้ำจากมือว่าที่พี่สะใภ้ขึ้นมาดื่มจนรู้สึกสดชื่นมากกว่าเดิม หันกลับมามองใบหน้าคร้ามของพี่ชายที่กำลังส่งยิ้มมาให้
“<<หายแล้วใช่ไหม น้องสาวหน้ากลมของพี่>>”
“<<พี่ป๊อป!!!>>” ใบหม่อนแหวและถลึงตาใส่คนที่เพิ่งล้อเลียนไป มือน้อยตีที่ท่อนแขนของอีกฝ่ายเบาๆ “<<ว่าหนูหน้ากลมเหรอ เดี๋ยวเหอะ ไม่ต้องมาแกล้งหนูเลยนะ พี่ป๊อปไปติดเครื่องหมายชุดกากีให้หนูด้วย พรุ่งนี้หนูต้องใส่ไปทำงานนะ>>”
ใบหม่อนได้ทีออกคำสั่งกับคนเป็นพี่ชาย แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะขัดคำสั่งเมื่อเขาพยักหน้าประหลกๆ เชิงยอมรับ ยังไงก็จะทำให้น้องสาวคนนี้ด้วยความเต็มใจอยู่แล้ว
“<<ได้ๆ เดี๋ยวพี่ทำให้>>”
...........................................................................................
ตกกลางคืนหลังจากอาบน้ำเสร็จ
ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิกับพื้น มือทั้งสองข้างติดเคริ่องหมายบนเครื่องแบบข้าราชการสีกากีแขนยาวของคนเป็นน้องสาวตามตัวอย่างที่เปิดอยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในตอนนี้ นัยน์ตาสองชั้นหลบเหลือบดูตัวอย่างการติดเครื่องหมายที่ถูกต้องบนหน้าจอก่อนเงยหน้ากลับไปมองเครื่องแบบตรงหน้า เมื่อติดครบ ร่างสูงผุดลุกผุดนั่งดูเครื่องแบบของน้องสาวว่าติดเครื่องหมายครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ มีอะไรขาดหายไปหรือไม่
ป้ายชื่อตัวอักษรสีทองบนพื้นสีดำปรากฎชื่อนามสกุลจริงของน้องสาวถูกติดเหนือกระเป๋าเสื้อด้านขวามืออย่างเรียบร้อยไม่มีเอียงหรือเบี้ยวแต่อย่างใด แต่นั่นทำให้นิ้วมือหนาได้แผลไปมากพอสมควรหลังจากโดนเข็มด้านหลังทิ่มเข้าให้หลายครั้ง แต่ว่าแพรแถบเหนือกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายยังเอียงและต่ำกว่ารูปแบบที่ถูกต้องอยู่ ส่วนเครื่องหมายสังกัดที่ปกเสื้อทั้งสองข้างยังบิดเบี้ยวไปคนละทิศคนละทางอยู่ ที่เรียบร้อยมีเพียงแต่ป้ายชื่อกับอินทรธนูเครื่องหมายยศบนบ่าทั้งสองข้างเท่านั้น
ใบหม่อนเดินเข้ามาดูพี่ชายนั่งติดเครื่องหมายบนเสื้อเชิ้ตสีกากีแขนยาวของตัวเองเงียบๆ แอบอมยิ้มไปหลายครั้งด้วยความปลื้มใจในตัวพี่ชายคนนี้ที่กำลังแสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อเจ้าตัวจริงๆ
“<<พี่ป๊อปทำอิหยัง>>” ใบหม่อนแกล้งถามคนที่นั่งติดเครื่องหมายอยู่ตรงหน้า ทั้งที่รู้อยู่แล้วเพราะเจ้าตัวเป็นคนวานให้อีกฝ่ายทำเอง
“<<อ้าวลืมไปแล้วเหรอใบหม่อน ใช้พี่ติดเคริ่องหมายบนเสื้อกากีเองนะ>>” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น ใบหน้าคร้ามยังจดจ้องอยู่กับเสื้อเชิ้ตสีกากีแขนยาวตรงหน้า ก่อนลุกขึ่นยืนถอยมาอยู่ข้างร่างสูงระหงของเจ้าของเครื่องแบบ ให้เห็นได้ถนัดขึ้น
หญิงสาวกวาดสายตามองเครื่องแบบสีกากีแขนยาวของตัวเองที่ตอนนี้ประดับประดาไปด้วยเครื่องหมายต่างๆ ตามระเบียบของข้าราชการด้วยฝีมือของคนเป็นพี่ชายอย่างประเมิน เครื่องหมายยศตำแหน่งบนบ่าทั้งสองข้าง เครื่องหมายสังกัดบนปกเสื้อทั้งสองที่ถูกแกะออกแล้วติดใหม่จนเข้าที่ ป้ายชื่อเหนือกระเป๋าเสื้อด้านขวาและเข็มที่ระลึกเหนือป้ายชื่อติดครบถ้วน มีเพียงแต่แพรแถบเหนือกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายที่ยังบิดเบี้ยวอยู่
“<<พี่ป๊อปติดแพรแถบเบี้ยวอ่ะ>>” ใบหม่อนท้วงขึ้น พร้อมกับเอื้อมมือเล็กไปถอดแพรแถบที่ติดเบี้ยวๆ ออกแล้วติดใหม่ด้วยตัวเองก่อนถอยออกมาดูอีกรอบหนึ่ง จนเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเป็นที่พอใจแล้ว
“<<ขอบคุณมากนะคะพี่ป๊อป>>” หญิงสาวหันไปยกมือไหว้ขอบคุณคนเป็นพี่ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนตวัดท่อนแขนเล็กโอบกอดคนตัวใหญ่กว่า
ป๊อปไม่ลังเลที่จะสวมกอดร่างระหงของน้องสาวที่ตัวเองรักมากที่สุด ต่างฝ่ายต่างรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มีให้กันและกันในแบบของพี่น้องร่วมสายเลือด เมื่อต่างคนต่างซึมซับไออุ่นของกันและกันแล้ว ชายหนุ่มค่อยๆ ดันร่างระหงของอีกฝ่ายออกห่างเล็กน้อย อยู่ในระยะที่สบตากันได้ถนัด ฝ่ายหญิงสาวส่งยิ้มจริงใจให้กับคนเป็นพี่ชายแทนคำขอบคุณทั้งหมดที่มีอยู่ในใจ
“<<ใบหม่อนง่วงนอนรึยัง รีบนอนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปทำงานไม่ทันพี่ไม่รู้ด้วยนะ>>”
เขาออกปากถามคนตรงหน้า ทิ้งท้ายด้วยคำเตือนที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงกลัวน้องสาวจะตื่นไปทำงานไม่ทัน
“<<หนูจะนอนแล้วจ้า พี่ชายส่งหนูนอนสิ>>” ใบหม่อนได้ทีอ้อนคนเป็นพี่ชายใหญ่ มีหรือที่คนเป็นพี่ชายอย่างป๊อปจะขัดใจน้องสาวคนนี้
ป๊อปย่อตัวลงช้อนร่างสูงระหงของคนขี้อ้อนให้อยู่ในท่านอน ลุกขึ้นเดินไปส่งถึงเตียงนอนใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยตุ๊กตาตรงหน้า ค่อยๆ วางร่างระหงลงบนเตียงอย่างทะนุถนอมที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ลืมที่จะทำตามขั้นตอนที่เคยทำทุกครั้งเมื่อส่งน้องสาวคนนี้เข้านอน
“<<หลับฝันดีนะคะใบหม่อน>>” ป๊อปเอ่ยกับน้องสาวด้วยเสียงแผ่วเบานิ่มนวล
“<<จ้าพี่ชาย>>”
เขาโน้มใบหน้าคร้ามลงหอมพวงแก้มป่องๆ ของน้องสาวหนึ่งที สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มน่าสัมผัสเจือด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ จากครีมบำรุงผิว ก่อนผละออกมา เห็นดวงตากลมโตคู่สวยของอีกฝ่ายปิดสนิทพร้อมกับพ่นลมหายใจสม่ำเสมอ ก่อนเดินออกไปเขาหันกลับมามองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยอีกรอบ ไม่ลืมที่จะปิดไฟในห้องให้ด้วยเหมือนกับทุกครั้ง
“ป๊อป น้องใบหม่อนนอนแล้วเหรอ” พัชรหันมาถามเมื่อเห็นคนรักเดินกลับมาที่ห้องนอนตัวเองอีกครั้ง
“น้องเรานอนแล้วพัชร” ป๊อปตอบคำถามของคนรัก ก่อนหย่อนตัวลงบนเตียงนอนนุ่มๆ ที่มีร่างบางนอนอยู่ เป็นอีกหนึ่งคืนที่เขาได้นอนเคียงข้างคนพิเศษที่สุดในชีวิตของเขา พูดจบใบหน้าคร้ามโน้มเข้าไปจุ๊บแก้มนุ่มขาวละเอียดแดงระเรื่อไปด้วยเลือดฝาดของคนรักหนึ่งที ขณะที่คนโดนจุ๊บแก้มหลับตาพริ้มรับรสจูบอันแสนพิเศษที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกวาบหวามหวั่นไหวทุกครั้งที่ได้สัมผัส
“อีตาบ้า ฉวยโอกาสขโมยจุ๊บแก้มเค้าเหรอ” พัชรว่าให้แบบไม่จริงจังนัก ลึกๆ แล้วกำลังโหยหาความรู้สึกนี้อยู่ตลอด “เค้าไม่ยอมนะป๊อป ให้เค้าจูบคืนเดี๋ยวนี้เลย”
ว่าแล้วฝ่ายสาวเจ้าจะขอเอาคืนจากคนรักบ้าง แต่กลับกลายเป็นว่าต้องเสียเปรียบเป็นครั้งที่สองเมื่อชายหนุ่มจัดการรวบรัดร่างบางไว้แน่น ไม่ยอมให้ขัดขืนง่ายๆ จนคนที่คิดจะเอาคืนต้องเป็นฝ่ายยอมเสียเองเพราะสู้แรงของคนพิเศษคนนี้ไม่ได้ ใบหน้าคร้ามที่เต็มไปด้วยหนวดเคราค่อยๆ โน้มเข้าหาใบหน้าสวยหวานที่มองยังไงก็ไม่เคยเบื่อแม้จะเห็นกันมานานเกือบสิบสองปีแล้ว ริมฝีปากหยักได้รูปค่อยๆ ประกบกับริมฝีปากเรียวบางที่ฉาบทาด้วยลิปกลอสใสๆ ฝากรสจูบอันแสนหวานส่งท้ายก่อนเข้าสู่ห้วงนิทราในค่ำคืนนี้
..........................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ