เจ้าหญิงของฉัน

-

เขียนโดย POPENGL

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 04.39 น.

  27 ตอน
  35 วิจารณ์
  11.50K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 04.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) น้องสาวคนนี้ชื่อใบหม่อน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ช่วงสายวันพุธที่แสนวุ่นวายในเมืองหลวง กับการจราจรติดขัดหนาแน่นเป็นเวลายาวนาน รถแวนเจ็ดเที่นั่งสัญชาติอเมริกันสีดำที่ขับโดยป๊อปยังคงจอดนิ่งไม่มีทีท่าว่าจะขยับสักที เสียงเพลงป๊อปร็อกตามสมัยนิยมจากเครื่องเสียงติดรถบรรเลงขับกล่อมไม่ให้คนขับรู้สึกหงุดหงิดไปมากกว่านี้ แต่ชายหนุ่มเริ่มมีอาการกระวนกระวายเพราะใกล้เวลานัดกับโปรดิวเซอร์และลูกค้าเพื่อส่งงานสำคัญในวันนี้
“จะไปทันไหมวะเนี่ย” เขาสบถขึ้นมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดกระวนกระวายใจ นัยน์ตาคมเรียวเพ่งมองไปข้างหน้าราวกับจะสะกดจิตบังคับให้การจราจรเบื้องหน้าเคลื่อนตัวไปได้
แต่แล้ว การจราจรเบื้องหน้าเริ่มเคลื่อนตัวหลังจากสัญญาณไฟเขียว เท้าขวาของชายหนุ่มกดคันเร่งปลุกให้เครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ใต้ฝากระโปรงทำหน้าที่พาตัวถังที่หนักเกือบสองตันเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็ว หลบรถที่ขับช้าต้วมเตี้ยมไปยังเลนขวาสุดที่เคลื่อนตัวได้ไวกว่า เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงที่นัดหมาย
ป๊อบถอยรถแวนเจ็ดที่นั่งเข้าช่องจอดอย่างคล่องแคล่วจนเข้าที่ หลังจากบิดกุญแจดับเครื่องเสร็จ มือหนาเอื้อมไปหยิบแม็คบุ๊คพร้อมตัวอย่างงานที่ปรินท์จากเบาะข้างคนขับ ก่อนรีบลงจากรถโดยไม่ลืมกดรีโมตล็อกรถเหมือันกับทุกครั้งที่ผ่านมา ร่างสูงใหญ่รีบเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว แข่งกับเวลาที่งวดเข้ามาเรื่อยๆ จนไปถึงห้องที่นัดหมายกับลูกค้าไว้
ระหว่างนั้น โปรดิวเซอร์สาวที่มีฐานะเป็นเพื่อนรุ่นน้องกำลังพูดคุยกับลูกค้าอยู่ เมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปถึง ทั้งสองต่างหันมามองหน้าคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่อย่างพร้อมเพรียง
“พี่ป๊อป สวัสดีค่ะ มาๆ นั่งก่อนพี่” บิว โปรดิวเซอร์สาวคู่ใจพ่วงด้วยฐานะเพื่อนรุ่นน้องหันมาทักทาย มือเล็กเลื่อนเก้าอี้ให้คนที่มาใหม่เข้าไปนั่ง
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนพาตัวเองเข้าไปนั่งข้างๆ ยกมือไหว้สวัสดีลูกค้าอีกรอบหนึ่ง แม็คบุ๊คถูกเปิดขึ้นเพื่อพรีเซนต์งานที่เตรียมให้ลูกค้าตรวจรับ
“นี่ครับ งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีอะไรต้องปรับแก้เพิ่มเติมอีกไหมครับ”
หญิงสาววัยสามสิบต้นๆ ผู้เป็นลูกค้าเลื่อนแม็คบุ๊คของชายหนุ่มเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูเนื้องานอย่างละเอียด ขณะที่ชายหนุ่มกับโปรดิวเซอร์คู่ใจนั่งรออย่างสงบ ในใจแอบลุ้นว่าจะถูกตีกลับหรือไม่ แต่แล้วรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าสวยเฉี่ยวของคนตรงหน้าผุดขึ้นบ่งบอกถึงความพึงพอใจเมื่อเห็นงานที่ชายหนุ่มนำมาพรีเซนต์ตรงกับสเปกที่กำหนดทุกอย่าง
“โห คุณธนเดช งานคุณดูแพงมากเลยนะคะเนี่ย แถมยังดูเรียบร้อยอีกต่างหาก แพมชอบมากเลยค่ะ สมแล้วที่เอเจนซีหลายๆ คนร่ำลือกันว่าคุณธนเดชเป็นมืออันดับต้นๆ ในวงการเลยนะคะ”
ชายหนุ่มรู้สึกเขินเล็กๆ เมื่อได้รับคำชม ระคนกับความรู้สึกละอายใจเล็กๆ เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝีมือดีเด่ขนาดนั้น “คุณแพมก็พูดเกินไปครับ ฝีมือผมยังธรรมดามากๆ ถ้าเทียบกับคนอื่น แหะๆ”
“คุณธนเดชอย่าถ่อมตัวสิคะ งานของแพมเป็นงานสเกลใหญ่ขนาดนี้ แพมก็ต้องเลือกรีทัชเชอร์ฝีมือดีๆ ที่คู่ควรกับงานของแพมสิคะ ขอบคุณคุณธนเดชกับคุณณัฏฐินันท์มากเลยนะคะที่ทำให้งานของแพมสำเร็จได้ขนาดนี้”
คนเป็นลูกค้ากล่าวขอบคุณทั้งสองพร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างจริงใจ ฝ่ายคนรับคำขอบคุณทั้งสองรีบยกมือรับไหว้และยิ้มตอบด้วยความรู้สึกยินดีอยู่ไม่น้อย หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างลุกขึ้นยืนจับมือกันตามธรรมเนียม ก่อนที่ลูกค้าจะพูดทิ้งท้าย
“เดี๋ยวแพมโอนเงินค่างานให้นะคะ อ้อ คุณธนเดช ถ้าเลิกเป็นฟรีแลนซ์เมื่อไหร่บอกแพมนะคะ แพมมีตำแหน่งงานให้คุณธนเดชแน่นอนค่า”
ป๊อปหันไปมองหน้ากับโปรดิวเซอร์สาวคู่ใจ ส่งสายตาบ่งบอกความรู้สึกปฏิเสธไปก่อนหันกลับมายิ้มกระตุกๆ ให้กับลูกค้า “ขอบคุณมากครับคุณแพม แต่ผมคงเลิกเป็นฟรีแลนซ์ไม่ได้จริงๆ ครับ ยังไงขอตัวก่อนนะครับ”
พูดจบชายหนุ่มรีบเก็บแม็คบุ๊คและรีบเดินกลับออกมา ขณะที่บิวเดินแบกกระเป๋าเป้ใบใหญ่คู่กายเดินตามมาติดๆ ก่อนออกปากชวนให้อีกฝ่ายไปทานข้าวด้วยกัน
“พี่ป๊อปๆ ไปร้านประจำของเรากันป่ะ”
“ไว้ครั้งหน้านะบิว” ป๊อปรีบปฏิเสธ “วันนี้น้องสาวพี่ลงมาน่ะ พี่ต้องรีบกลับห้องก่อน ไม่งั้นน้องสาวพี่เอาพี่ตายแน่”
ใบหน้าคมสวยทำหน้ามู่ทู่ลงบ่งบอกถึงอาการผิดหวัง “น้องใบหม่อนใช่ป่ะพี่ป๊อป”
“อืม” ป๊อปพยักหน้ารับ “ไว้เจอกันนะบิว วันนี้พี่รีบจริงๆ เอ้อ ถ้ามีงานส่งพี่ก็สกรีนให้พี่แบบเดิมนะ ครั้งนี้ขอสเกลงานสั้นหน่อย งานสเกลใหญ่ๆ ให้คนอื่นทำบ้าง”
“จ้าพี่ป๊อป ขับรถดีๆ น้า อ้อ อย่าลืมอีกงานของกรมศิลป์ที่ค้างอยู่ล่ะพี่ป๊อป กำหนดส่งคืนนี้ตอนสามทุ่มนะ ลูกค้านัดเจอสิบโมง ส่วนโรงพิมพ์มีคิวบ่าย เดี๋ยวหนูไปคุมเอง อย่าเลทล่ะพี่ป๊อป” บิวหันมาย้ำอีกครั้ง
“ครับๆ ไม่ลืมๆ เหลืออีกไม่กี่รูปก็เสร็จแล้ว”
                                                ..................................................................................
เสียงสตาร์ตเครื่องยนต์ดีเซลดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ ลากตัวถังของรถแวนเจ็ดที่นั่งออกจากช่องจอดรถหน้าอาคารออกสู่ถนนใหญ่ตรงหน้า เผชิญกับการจราจรอันคับคั่งอีกครั้งหนึ่ง แต่แล้ว สมาร์ทโฟนเครื่องหรูค่ายแอปเปิ้ลส่งเสียงเรียกเข้า นิ้วมือหนาใหญ่กดปุ่มรับสายบนพวงมาลัยอย่างรวดเร็วหลังจากเห็นชื่อคนที่โทร.หาบนจอกลาง
ป๊อป : [[<<ฮัลโหลครับใบหม่อน พี่ขับรถอยู่>>]]\
ใบหม่อน : [[<<พี่ป๊อป ตอนนี้หนูขี่รถมาถึงไทรน้อยแล้วนะ แล้วพี่ป๊อปอยู่ไหนเนี่ย>>]]
ป๊อป : [[<<ตอนนี้อยู่อโศกน่ะ เพิ่งส่งงานเสร็จ รถอย่างติดเลยล่ะ>>]]
ใบหม่อน : [[<<ไม่รู้ล่ะพี่ป๊อป หนูเข้ากรุงเทพฯ เมื่อไหร่ต้องเจอพี่อ่ะ ถ้าไม่เจอนะ พี่ป๊อปโดนแน่ๆ>>]]
ป๊อป : [[<<จ้าแม่>>]] ชายหนุ่มทำเสียงล้อเลียน [[<<เดี๋ยวพี่จะรีบกลับให้เร็วที่สุดเลยนะคะ ใบหม่อนหน้ากลม>>]]
ใบหม่อน : [[<<ย่ะ!!!>>]]
ปลายสายกดวางไป ปล่อยให้ป๊อปลอบยิ้มและหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึงหน้าของน้องสาวตอนโกรธ นัยน์ตาสองชั้นหลบของเจ้าตัวยังคงมองทางข้างหน้าที่เต็มไปด้วยยวดยานพาหนะมากมายแต่พอเคลื่อนตัวได้ จนเวลาผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ รู้ตัวอีกที ยานพาหนะคู่ใจแล่นมาถึงทางด่วนแล้ว
เวลาผ่านไป
“เฮ้อ กว่าจะหลุดมาได้” ชายหนุ่มถอนหายใจยาว หลังจากพายานพาหนะคู่ใจหลุดจากการจราจรติดขัดอันแสนยาวนานมาได้ถึงแม้จะเป็นทางด่วนก็ตาม แต่แล้วเขาก็ต้องหงุดหงิดอีกครั้งเมื่อข้างหน้ามีอุบัติเหตุ ทำให้การจราจรยิ่งเคลื่อนตัวช้ากว่าเดิมอีก
“นี่มันวันอะไรวะเนี่ย โวะ แล้วกูจะกลับไปรับน้องทันไหมวะ” เขาเริ่มสบถขึ้นมา
ไม่ทันขาดคำ เสียงแจ้งเตือนข้อความจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูดังขึ้น แต่ด้วยอารมณ์หงุดหงิดของชายหนุ่มบวกกับยังเพ่งสมาธิไปกับการขับรถจึงไม่ได้หยิบขึ้นมาดู จนเมื่อการจราจรข้างหน้านิ่งสนิท มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบออกมาดู เจอข้อความจากแอพพลิเคชั่นสีเขียวของน้องสาวเด้งขึ้นมา
@@ Baimon @@: พี่ป๊อป หนูจะถึงกรุงเทพฯ แล้วนะ ถ้าไม่เจอนะ ฮึ่ม!!! (อิโมจิคอนหน้าโกรธ) :
“ซวยแล้วไงกู” เสียงเข้มสบถขึ้นอีกครั้ง คราวนี้หัวใจเต้นระรัวราวกับกระเดื่องคู่ เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้น กระทั่งการจราจรข้างหน้าเริ่มเคลื่อนตัวได้และเห็นถนนข้างหน้าเริ่มโล่ง มือหนารีบหักพวงมาลัยออกไปยังเลนขวาสุดที่ว่างอยู่ เท้าขวากดคันเร่งสั่งให้เครื่องยนต์ดีเซลใต้ฝากระโปรงส่งเสียงคำรามพาตัวถังหนักเกือบสองตันพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ต้องเจอรถประเภทขับช้าแช่เลนขวาเป็นระยะ นัยน์ตาคมลอบมองกระจกมองข้างก่อนหักรถออกเลนซ้ายแซงหน้ารถที่กำลังคลานต้วมเตี้ยมอยู่ หักกลับเลนขวาและพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกที มาถึงคอนโดมิเนียมที่ซุกหัวนอนของตัวเองแล้ว
“เฮ้อ ถึงสักที” เขาถอนหายใจหลังจากจอดรถเสร็จ มือหนาบิดกุญแจดับเครื่องยนต์ เก็บแม็คบุ๊คและกระเป๋าลงจากรถ เดินดูความเรียบร้อยรอบคันอีกครั้งหนึ่ง มองไปยังช่องจอดว่างด้านซ้ายมือของรถตัวเองที่จองไว้กับนิติบุคคลอาคารให้เป็นที่จอดรถของผู้ที่จะมาอยู่อาศัยด้วยในวันนี้
ป๊อปเดินออกจากลิฟต์กลับไปยังห้องของตัวเองที่อยู่โซนริมอาคารชั้น 23 ที่ตัวเองซื้อด้วยเงินจากทางบ้านส่วนหนึ่ง ผลกำไรจากหุ้นที่ตัวเองถือและรายได้จากที่ทำงานเก่า ประตูห้องถูกเปิดหลังจากแตะคีย์การ์ด สัมภาระต่างๆ ถูกวางที่โซฟาใหญ่กลางห้อง แต่แล้ว สมาร์ทโฟนเครื่องหรูส่งเสียงเรียกคนเป็นเจ้าของ มือหนารีบคว้าขึ้นมาดูหน้าจอที่กำลังปรากฎภาพของคนที่จะมาอยู่ด้วย นิ้วมือหนารีบสไลด์กดรับ
ป๊อป : [[<<ฮัลโหลครับ ใบหม่อนหน้ากลม มาถึงยัง>>]]
ใบหม่อน : [[<<หนูไม่เล่นนะพี่ป๊อป>>]] ปลายสายต่อว่าเสียงเขียว [[<<ตอนนี้พี่อยู่ไหนแล้ว>>]]
ป๊อป : [[<<พี่กลับคอนโดแล้วค่ะแม่ ฮื้ม ดุจังเลย>>]]
ใบหม่อน : [[<<ช่วยจริงจังสักครั้งได้ไหมพี่ป๊อป ห๊า คอนโดฯ พี่อยู่ไหน เนี่ยหนูขี่รถเข้ามาแถวๆ เตาปูนแล้วนะ>>]]
ป๊อป : [[<<อืมๆ เลยแยกมายังล่ะ>>]]
ใบหม่อน : [[<<เลยมาแล้วอ่ะพี่ แต่หนูจำไม่ได้แล้วอ่ะว่าคอนโดฯ พี่อยู่ตรงไหน>>]]
ป๊อป : [[<<งั้นขับรถตรงมาเลย ข้างหน้ามีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ เดี๋ยวพี่ลงไปรับนะ>>]]
ใบหม่อน : [[<<พี่ป๊อปอย่าเพิ่งวางสายนะ ตอนนี้หนูเลยเซเว่นแล้ว เจอวินมอเตอร์ไซค์ข้างหน้า ใช่ปะพี่>>]]
ป๊อป : [[<<ขับเลยมาอีกวินนึง แถวนี้มีสองวินนะ ตอนนี้พี่กำลังลงลิฟต์อยู่ถ้าสายตัดไปเดี๋ยวพี่โทร.กลับนะ>>]]
พูดจบปลายสายถูกตัดไปหลังจากคนตัวใหญ่เข้ามาในลิฟต์ ไม่กี่อึดใจ ลิฟต์พาตัวเขามาถึงโถงล็อบบี้ชั้นล่างสุด เขารีบเดินออกมาข้างนอกอย่างร้อนรนกลัวว่าคนที่จะมาอยู่ด้วยไม่เจอ รู้ตัวอีกทีมายืนรอแถวป้อมยามหน้าทางเข้าแล้ว มือหนาหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา กดโทร.หาอีกครั้ง
ใบหม่อน : [[<<ฮัลโหลพี่ป๊อป ตอนนี้หนูจอดรออยู่ตรงวินมอ’ไซค์อีกวินที่พี่บอกแล้ว ข้างหน้าใช่คอนโดฯ พี่เปล่า ตึกสีดำๆ อ่ะ>>]]
ป๊อป : [[<<ใช่แล้ว ขับเข้ามาเลยใบหม่อน พี่รออยู่ตรงป้อมยาม>>]]
ใบหม่อน : [[<<จ้าพี่ป๊อป หนูขี่รถก่อนน้า>>]]
รถเก๋งคันย่อมสีดำป้ายแดงขับโดยใบหม่อนเลี้ยวเข้ามาแวะจอดที่ป้อมยาม ตรงหน้าปรากฎภาพชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้ารกครึ้มด้วยหนวดเคราที่คุ้นเคยถึงแม้จะไม่ได้เจอกันมานานยืนอยู่ข้างๆ  นิ้วเรียวสวยกดเปิดกระจกฝั่งคนนั่งพร้อมกับเรียกชื่อคนที่ยืนรออยู่
“<<พี่ป๊อป สวัสดีค่ะ>>”
เสียงใสที่คุ้นหูดังแว่วกระทบโสตประสาทของชายหนุ่ม ร่างสูงโน้มตัวลงมองผ่านประตูฝั่งคนนั่ง เห็นภาพหญิงสาวร่างสูงระหงในชุดเสื้อยืดสีขาว ผิวคล้ำ เรือนผมยาวสลวยเกล้ามวยขึ้นเผยให้เห็นใบหน้ากลมกึ่งรูปไข่ ประดับประดาไปด้วยเครื่องหน้าสวยหวานหยาดเยิ้ม ดวงตากลมโตคู่สวยหยีลงจนเป็นรูปสระอิเผยให้เห็นอาการดีอกดีใจ ริมฝีปากอวบอิ่มสวยได้รูปคลี่ยิ้มสุดจนเห็นฟันครบ 32 ซี่ภายใต้เหล็กดัดฟันเผยให้เห็นลักยิ้มที่บุ๋มลงไปชัดเจนทั้งสองข้าง และฟันด้านข้างฟันหน้าขวาห่างออกไปเล็กน้อย ดูสวยขึ้นผิดหูผิดตาจากที่เจอกันครั้งก่อนกำลังยกมือไหว้มาที่เขา ใช่แล้ว น้องสาวแท้ๆ ของเขานี่เอง
“<<ใบหม่อน>>” ป๊อปเอ่ยชื่อน้องสาวของเขาด้วยน้ำเสียงที่แสดงอาการดีใจ
“<<ขึ้นรถก่อนพี่ป๊อป>>” เสียงใสออกปากชวนให้พี่ชายขึ้นมานั่ง มือเรียวกดปุ่มปลดล็อกประตู
คนตัวใหญ่พาตัวเองขึ่นมานั่งบนเบาะข้างคนขับก่อนหันไปบอกกับยามที่ยืนอยู่ “คันนี้รถน้องสาวผมนะครับพี่”
“ครับผม เดี๋ยวสติ๊กเกอร์จอดรถคุณธนเดชไปเอาที่สำนักงานได้เลยนะครับ”
“<<ใบหม่อน ขับรถเข้าไปเลย พี่จอดรถไว้ใต้ตึก จำรถพี่ได้นะ>>”
ใบหม่อนไม่พูดอะไรเพียงแต่พยักหน้าตอบ เท้าขวากดคันเร่งสั่งให้เครื่องยนต์สามสูบใต้ฝากระโปรงพาตัวถังย่อมๆ ไปยังลานจอดรถใต้อาคาร ดวงตากลมโตมองไปยังทางข้างหน้า มองเห็นรถแวนเจ็ดที่นั่งสีดำแบรนด์อเมริกันที่ดูยังไงก็จำได้ว่าเป็นรถของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับช่องจอดข้างๆ ที่ว่างอยู่
“<<คันนี้ใช่ไหมพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนออกปากถามคนนั่งข้างๆ พร้อมกับหยุดรถ
“<<ใช่แล้วใบหม่อน เดี๋ยวพี่ลงก่อน เราก็จอดช่องนี้เลย>>” ป๊อปเอ่ยตอบพร้อมกับเปิดประตูลงไปช่วยดูข้างหลัง
รถเก๋งสีดำเคลื่อนตัวเฉียงออกไปข้างหน้าเล็กน้อย ค่อยๆ ถอยหลังเข้าช่องจอดช้าๆ นัยน์ตาคู่สวยเหลือบมองกระจกมองข้างทั้งสองฝั่งสลับกับภาพจากกล้องมองหลังที่จอกลาง มือเล็กยังประคองพวงมาลัยนิ่ง เสียงเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลังเตือนเป็นระยะๆ กระทั่งคนตัวใหญ่ที่ลงไปยืนดูด้านหลังยกมือเป็นสัญญาณบอกให้หยุด
เครื่องยนต์สามสูบใต้ฝากระโปรงหยุดทำงานด้วยปลายนิ้วเรียวเล็กของคนเป็นเจ้าของ ก่อนเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดฝากระโปรงหลัง ร่างสูงระหงลุกจากฝั่งคนขับเดินอ้อมมาด้านหลัง มือเล็กเอื้อมไปเปิดประตูด้านหลังหยิบกระเป๋าเดินทางใบเขื่องและกระเป๋าสะพายใบเล็กออกมา
“<<พี่ป๊อป เอาไปเลยสองกระเป๋าที่ฝากระโปรงท้าย>>” ใบหม่อนถือโอกาสออกคำสั่งกับคนเป็นพี่
เหมือนต้องมนต์สะกดเมื่อป๊อปก้มลงไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบเขื่องทั้งสองใบลงจากด้านหลังรถเก๋งสีดำของคนเป็นน้อง ไม่ลืมที่จะปิดฝาท้ายให้ ฝ่ายเจ้าของรถเดินกลับไปยังประตูคนขับอีกรอบ นิ้วโป้งเล็กกดลงบนมือจับจนเสียงเตือนดังขึ้น
“<<ไปขึ้นลิฟต์ก่อน เดี๋ยวไปเก็บของแล้วพี่จะพาลงมาทำคีย์การ์ด>>”
ใบหม่อนเลือกที่จะเงียบและเดินถือกระเป๋าเดินทางใบเขื่องตามคนเป็นพี่ชายที่เดินนำหน้าพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อีกสองใบในมือไปยังลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกลนัก เวลาผ่านไปไม่นาน ลิฟต์พาทั้งสองขึ้นไปยังชั้น 23 สองพี่น้องเดินลากกระเป๋าเดินทางไปตามทางเรื่อยๆ
“<<ใบหม่อน นี่กะย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ถาวรเลยใช่ไหมเนี่ย ขนมาซะเยอะเลย>>” ป๊อปหันไปถามน้องสาว ท่าทางทีเล่นทีจริง
“<<ใช่แล้วพี่ป๊อป ก็หนูมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ไง>>” ใบหม่อนตอบไปตรงๆ แต่น้ำเสียงใสแฝงความขี้เล่นเล็กๆ
ทั้งสองพากันเดินมาจนถึงห้องริมสุดอันเป็นที่หมาย ร่างสูงหยุดชะงักหน้าประตูที่ระบุหมายเลข 2322 พร้อมกับวางกระเป๋าเดินทางของน้องสาวลง มือหนาก้มลงหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาแนบกับเซ็นเซอร์จนประตูปลดล็อก มือข้างเดียวกันหมุนลูกบิดเปิดประตูพร้อมกับหันไปบอกกับคนที่เดินตามมา
“<<ถึงแล้วค่ะ ใบหม่อน>>”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา