เจ้าหญิงของฉัน

-

เขียนโดย POPENGL

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 04.39 น.

  27 ตอน
  35 วิจารณ์
  11.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 04.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) วันเกิดของไอ้หมา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ป๊อปใช้เวลาตลอดเกือบทั้งวันในวันเกิดตัวเองหมดไปกับการสะสางงานที่ทำค้างอยู่สลับกับคอยตอบรับคำอวยพรวันเกิดจากเพื่อนๆ ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวที่ทะยอยส่งมาเรื่อยๆ หลังจากตอนเช้าได้ทำบุญตักบาตรร่วมกับน้องสาวไปแล้ว แต่ด้วยงานที่ค้างอยู่ทำให้เขาไม่กล้าพัก แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าถึงบ่ายสามเมื่อไหร่จะหยุดพักงานทันที อยากใช้เวลาหลังจากนี้ฉลองวันเกิดตัวเองร่วมกับน้องสาวและคนรัก...

แต่กลับไม่เป็นไปตามแผนเมื่อจู่ๆ เกิดอาการไอเดียตีบตันขึ้นมาในระหว่างทำงานขึ้นมาซะงั้น ขืนจะฝืนทำต่อเดี๋ยวจะกลายเป็นทำให้เสียเวลาต้องกลับมาแก้อีก มือซ้ายลากเมาส์ปากกาปิดโปรแกรมหลังจากกดเซฟงานเสร็จ ชัตดาวน์ไอแม็คคู่ใจก่อนพาตัวเองไปนั่งพักสายตาที่โซฟาใหญ่กลางห้อง มีเพียงหนังสือหนึ่งเล่มกับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีดำติดมือไปด้วยเท่านั้น

สมาร์ทโฟนเครื่องหรูส่งเสียงเรียกเข้าพร้อมกับไฟแฟลชกระพริบวับวาบจนชายหนุ่มต้องรีบวางหนังสือและคว้าขึ้นมาดู ปรากฎภาพผู้อาวุโสที่เขาและน้องสาวเคารพรักมากที่สุด นิ้วโป้งหนารีบสไลด์กดรับอย่างรวดเร็ว

ป๊อป : [[<<สวัสดีครับแม่คุณ>>]]

แม่คุณ : [[<<สวัสดีจ้าไอ้หมา สุขสันต์วันเกิดนะหลานรักของแม่คุณ ขอให้ไอ้หมาเจริญๆ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนาทุกประการนะลูก ไม่เจ็บ ไม่จน ไม่อดไม่อยาก ไม่ลำบากขัดสนเงินทอง อายุมั่นขวัญยืน เฮงๆ ร่ำรวยๆๆ แม่คุณทั้งรักและเป็นห่วงเอ็งเสมอนะไอ้หมา มีเหลนให้แม่คุณอุ้มได้แล้วนะไอ้หมา สามสิบเอ็ดแล้วใช่ไหมลูกปีนี้>>]]

ป๊อปนั่งนิ่งพนมมือรับพรจากแม่คุณผ่านทางสายโทรศัพท์ รู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่ได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย แม้ห่างไกลกันแค่ไหนก็รู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้ๆ กัน

ป๊อป : [[<<ขอบคุณมากครับแม่คุณ>>]] เสียงเข้มแฝงอาการดีใจเอ่ยขึ้น [[<<แม่คุณสบายดีนะครับ>>]]

 แม่คุณ : [[<<สบายดีตามประสาคนแก่แหละไอ้หมาเอ๊ย ว่าแต่เอ็งเถอะ เมื่อไหร่จะกลับบ้านกลับช่องมาหาแม่คุณ มาหาพ่อแม่เอ็งบ้างล่ะ ทุกคนที่บ้านเขาคิดถึงเอ็งจะแย่แล้วนะไอ้หมา>>]]

ป๊อป : [[<<ไว้ตอนที่ผมกับใบหม่อนสะดวกๆ ก่อนละกันครับแม่คุณ ตอนนี้งานผมก็ยุ่งๆ อยู่ครับ ตอนนี้ใบหม่อนยังทดลองงานอยู่ รออีกห้าเดือนแน่ะครับกว่าน้องเขาจะพ้นทดลองงาน>>]]

แม่คุณ : [[<<เออ เอ็งนี่ก็บ้างานจริงๆ นะ ผัดวันประกันพรุ่งกับแม่คุณมาเป็นปีๆ แล้วนะไอ้หลานรัก นี่ถ้าพ่อแม่เอ็งไม่ลงไปหานี่เอ็งก็ไม่คิดจะกลับมาเลยใช่ไหม>>]]

ป๊อป : [[<<มันไม่ใช่อย่างงั้นครับแม่คุณ ตอนนั้นผมทำฟรีแลนซ์ใหม่ๆ ตารางงานแน่นเอี๊ยดจนผมต้องอดนอนติดกันหลายคืนเลยครับ ตอนนี้ผมก็เริ่มเพลาๆ เรื่องงานเยอะแล้วนะแม่คุณ>>]]

แม่คุณ : [[<<นี่ขนาดเพลาเรื่องงานนะ ใบหม่อนยังฟ้องแม่คุณอยู่เลยว่าเอ็งเอาแต่บ้างานไม่ยอมสนใจน้องเลย>>]]

ป๊อป : [[<<ก็ตอนนี้ผมรับงานน้อยลงจริงๆ ครับ งานสเกลใหญ่ผมไม่ค่อยรับแล้ว รับแต่งานสเกลเล็กๆ แบบที่ทำเสร็จไวๆ จนผมโดนโปรดิวเซอร์ว่าเอาเลยครับว่าทำไมเดี๋ยวนี้เลือกงาน>>]]

แม่คุณ : [[<<เอาเถอะไอ้หมา แม่คุณไม่ได้ว่าอะไรเอ็งหรอก เอ็งอยากทำงานสเกลเล็กใหญ่อะไรก็เรื่องของเอ็งนะไอ้หมา แต่ที่แม่คุณกับใบหม่อนเป็นห่วงคืออยากให้เอ็งพักผ่อนบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ทำงานๆ จนอดหลับอดนอนอีก เอ็งอายุเลยสามสิบแล้วนะ จะมาอดนอนเป็นเด็กๆ แบบนี้ไม่ได้แล้วนะหลานรัก>>]]

ป๊อป : [[<<ผมขอโทษจริงๆ ครับแม่คุณ เอาเป็นว่า วันนี้ผมเบรกงานแล้วครับ วันนี้อยากฉลองวันเกิดกับใบหม่อนกับแฟนผมบ้าง แหะๆ>>]]

แม่คุณ : [[<<ฮ่าๆ ให้มันจริงนะไอ้หมา ไม่ใช่ใบหม่อนโทร.มาฟ้องแม่คุณอีกนะว่าเอ็งเอาแต่ทำงานอีกน่ะ>>]]

ป๊อป : [[<<จริงสิครับแม่คุณ เนี่ยตอนนี้ผมรอน้องกลับมาอย่างเดียวแล้วครับ>>]]

แม่คุณ : [[<<เออดีแล้วไอ้หลานรัก ยังไงแม่คุณขออย่างนึงนะ น้องเขาบอกเขาเตือนอะไรน่ะ เอ็งก็อย่าไปดื้อกับน้องเลยนะ น้องเขาก็รักและเป็นห่วงเอ็งมากเหมือนกัน ก่อนลงมาน้องเขาบอกกับแม่คุณว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนคอยดูแลเอ็งนะ เรามีกันสองคนพี่น้องนะลูก รักกันให้มากๆ นะ ดูแลกันไปนะลูกนะ แม่คุณคิดถึงเอ็งเสมอนะไอ้หมา ว่างๆ ก็กลับมาหาแม่คุณบ้างนะลูก>>]]

ป๊อป : [[<<ครับแม่คุณ ผมก็คิดถึงแม่คุณเหมือนกันครับ>>]]

แม่คุณ : [[<<อ้อแม่คุณลืมบอกอีกอย่าง อายุเอ็งสามสิบเอ็ดแล้วใช่ไหม รีบๆ ขอนังหนูพัชรแต่งงานได้แล้วนะลูก พวกเอ็งสองคนคบกันมาเป็นสิบๆ ปีแล้วนี่>>]]

ป๊อป : [[<<ใช่ครับแม่คุณ ตอนนี้ผมยังไม่มั่นใจว่าตัวเองจะดูแลพัชรเขาได้ไหม เลยยังไม่กล้าขอพัชรแต่งงานครับ แต่ยังไงไม่นานเกินรอครับ แม่คุณได้เห็นหน้าหลานสะใภ้แน่ๆ ครับ>>]]

แม่คุณ : [[<<เออ ยังปากเก่งไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้หมา เอาน่า แม่คุณรอได้เสมอแหละ ยังไงก็แค่นี้ก่อนนะลูก ขอให้หลานรักของแม่คุณเจริญๆ ยิ่งๆ ขึ้นไปนะ แม่คุณฝากดูแลใบหม่อน น้องเอ็งด้วยล่ะไอ้หมา>>]]

ป๊อป : [[<<ขอบคุณมากครับแม่คุณ สวัสดีครับ>>]]

ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มบางๆ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังจากวางสายจากผู้อาวุโสที่ตัวเองและน้องสาวรักมากที่สุด ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจยังคงมีอยู่ตลอดถึงแม้จะห่างไกลกันแค่ไหน เพียงแค่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ก็เหมือนได้อยู่ใกล้กันแล้ว แต่แล้วในห้วงหนึ่งของความคิดแอบรู้สึกผิดกับน้องสาวตัวเองที่ต้องมาคอยบอกคอยเตือนจนปากเปียกปากแฉะ แถมตัวเองยังดื้อไม่ยอมฟังจนต้องร้อนถึงแม่และแม่คุณต้องโทร.มาเตือนเขาแบบนี้ ระหว่างที่กำลังคิดอยู่ นิ้วมือหนาจิ้มลงไปบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องหรูเปิดไอจีส่วนตัวน้องสาวดู ไล่ดูรูปที่เจ้าของไอจีลงไปเรื่อยๆ จนเผลอจิ้มรูปที่มีแคปชั่นประกอบว่า

: เป็นกุลสตรี หรือสตรีที่เป็นกุน :

นัยน์ตาสองชั้นหลบจ้องมองภาพน้องสาวในชุดเสื้อแขนพองสีเทากับผ้าซิ่นสีน้ำเงินประกายเหลือบม่วงยืนเอียงคอน่ารัก ใบหน้าสวยหวานอมยิ้มน้อยๆ ดวงตากลมโตคู่สวยฉายแววอ่อนโยนมองตรงมาเหมือนกับกำลังมองมาที่เขาในตอนนี้

‘พี่ขอโทษนะคะใบหม่อน ที่พี่ดื้อกับเรา เราบอกเราเตือนอะไรพี่ก็ไม่เชื่อเราเลย คราวหลังพี่จะไม่ดื้อกับเราแล้วนะคะ’

                                                ………….…………………………………………………..

รถเก๋งคันเล็กสีดำเลี้ยวเข้าตามทางเข้าในบริเวณคอนโดฯ ที่พัก กำลังมุ่งหน้าไปยังชั้นจอดรถใต้อาคาร เมื่อขับรถเข้ามาถึงบังเอิญเหลือบไปเห็นร่างบอบบางในชุดเสื้อเบลาส์สีหวานกับกางเกงยีนขาม้าที่คุ้นตากำลังเดินถือของพะรุงพะรัง สัญชาตญาณส่วนตัวสั่งให้มือเล็กเคาะแตรบนพวงมาลัยเบาๆ พร้อมกับหยุดรถ

{{ปิ๊น!}}

เสียงแตรดังกระทบโสตประสาทของหญิงสาวจนแทบสะดุ้งด้วยอาการตกใจ หันมามองต้นเสียงที่จอดนิ่งอยู่ใกล้ๆ กระจกบานประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับค่อยๆ เปิดลง เผยให้เห็นใบหน้ากลมกึ่งรูปไข่ภายใต้เรือนผมยาวประบ่าถูกดัดเป็นลอนและเกล้าจุกเล็กๆ เหนือกระหม่อมกำลังส่งยิ้มหวานมาให้พร้อมกับพุ่มมือไหว้อยู่

“พี่พัชรสวัสดีค่ะ” เสียงใสของคนในรถออกปากทักทายว่าที่พี่สะใภ้

“น้องใบหม่อน” พัชรเอ่ยปากเรียกชื่อคนที่อยู่ในรถ แอบตกใจเล็กๆ นึกว่าใครที่ไหน

“พี่พัชรขา ขึ้นมานั่งรถหนูก่อนค่ะ”

พัชรไม่ปฏิเสธคำเชิญของว่าที่น้องสะใภ้ รีบพาตัวเองเดินไปยังรถเก๋งคันเล็กที่จอดรออยู่ ใช้มือข้างที่ว่างเปิดประตูก่อนพาตัวเองเข้าไปนั่งบนเบาะหนังสลับอัลคันทาราสีดำตัดด้ายสีแดงข้างคนขับ สัมภาระพะรุงพะรังที่มีทั้งกระเป๋าโน้ตบุ๊ก กระเป๋าเสื้อผ้า กับข้าวที่ซื้อเตรียมมาสำหรับเย็นวันนี้และของในถุงใหญ่ และที่หนักสุดคือกล่องกีตาร์สีดำที่วางพาดระหว่างขาอยู่

“หูยพี่พัชร หอบอะไรมาตั้งเยอะตั้งแยะเลยเนี่ย”

พัชรหันไปส่งยิ้มหวานให้กับคนถามที่กำลังขับรถตรงไปยังช่องจอดรถของตัวเองเคียงข้างรถเจ็ดที่นั่งสีดำคันใหญ่ตรงหน้า ก่อนให้คำตอบ “วันนี้พี่จะมาค้างด้วยจ้าน้องใบหม่อน พี่ซื้อกับข้าวมาเยอะแยะเลยดูสิ และของขวัญวันเกิดของพี่ชายน้องใบหม่อนไงจ๊ะ”

ใบหม่อนนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตรงกับวันเกิดของพี่ชายตัวเองหลังจากลืมไปเสียสนิทเพราะงานยุ่งมาตลอดทั้งวัน ‘ว่าแล้วทำไมเมื่อเช้าพี่ป๊อปชวนให้ใส่บาตร บ้าบอนะเรา’ หญิงสาวคิดในใจ มือเล็กทั้งสองข้างสาวพวงมาลัยพาให้รถตัวเองถอยเข้าช่องจอดอย่างช้าๆ นัยน์ตาคู่สวยมองภาพจากกล้องมองหลังที่จอกลางสลับกับกระจกมองข้างทั้งสองฝั่งคอยกะระยะไปเรื่อยๆ จนจอดรถเสร็จ เครื่องยนต์สามสูบใต้ฝากระโปรงดับลงเพียงปลายนิ้วมือเล็กสัมผัสก่อนที่ทั้งสองเดินลงจากรถ คราวนี้สาวเจ้ารีบกุลีกุจอช่วยว่าที่พี่สะใภ้ถือของเดินไปที่ลิฟต์ด้วยกัน

“น้องใบหม่อนลืมล่ะสิ คริๆ” พัชรแกล้งแหย่ว่าที่น้องสะใภ้ ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ด้วยความรู้สึกเอ็นดูอยู่ไม่น้อย

“หนูลืมจริงๆ พี่พัชร ก็ว่าอยู่ทำไมเมื่อเช้าพี่ป๊อปชวนใส่บาตร ดีน้าที่หนูแอบสั่งพาวเวอร์แบงก์ไว้ จะให้เป็นของขวัญวันเกิดพี่ป๊อปซะหน่อย” เสียงใสแฝงความกังวลให้คำตอบกับว่าที่พี่สะใภ้

รู้ตัวอีกทีสองสาวเดินทางมาถึงลิฟต์ทิ่อยู่ตรงหน้า และก็เป็นหน้าที่ของใบหม่อนที่ต้องกดเลขชั้นสั่งให้ลิฟต์พาทั้งสองขึ้นไปยังชั้นที่ตั้งของห้องพัก จนเวลาผ่านเลยไปไม่นานนัก ทั้งสองขึ้นมาถึงชั้นที่ 23 แล้วในตอนนี้

“พี่พัชรซื้อกีตาร์ให้พี่ป๊อปด้วยเหรอเนี่ย” ใบหม่อนอดไม่ได้ที่จะถามถึงกล่องกีตาร์ในมือของว่าที่พี่สะใภ้

“ใช่แล้วจ้า พี่ว่าพี่ชายของน้องใบหม่อนต้องชอบแน่เลย” พัชรเอียงคอคลี่ยิ้มหวานให้คนถาม

ใบหม่อนก้มลงหยิบคีย์การ์ดออกจากกระเป๋าแบรนด์เนมหรูที่ว่าที่พี่สะใภ้ซื้อให้ออกมาทาบบนเซ็นเซอร์จนเสียงประตูปลดล็อกดังขึ้น มือข้างที่ถือคีย์การ์ดค่อยๆ ผลักประตูเข้าไปข้างใน เห็นเจ้าของห้องนั่งเค้เก้เล่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูบนโซฟาใหญ่กลางห้องอยู่

“<<พี่ป๊อปทำอิหยัง>>”

เจ้าของใบหน้ารกครึ้มด้วยหนวดเคราเงยหน้าขึ้นหันมาหาเจ้าของเสียงใสที่กระทบหูเขาเมื่อสักครู่ เห็นกำลังก้มลงวางสัมภาระอยู่กับคนรักที่ตามมาด้วย

“อ้าวใบหม่อน พัชร มาพร้อมกันเลยนะ”

ร่างสูงใหญ่ลุกจากโซฟามาหาทั้งสองสาว ก่อนทักทายน้องสาวของตัวเองด้วยวิธียื่นมือไปโยกจุกเล็กๆ เหนือศีรษะสวยได้รูปเบาๆ เชิงหยอกล้อ “<<รับพี่พัชรมาด้วยเหรอเรา ฮิๆ>>”

“<<พี่ป๊อปเลิกเล่นผมหนูก่อนสิ>>” ใบหม่อนออกคำสั่ง แล้วก็ได้ผลเมื่อมือหนายอมปล่อยออก “<<พอดีหนูขี่รถกลับมาเห็นพี่พัชรเดินถือของเต็มมือ หนูเลยรับพี่พัชรมาด้วยเลย งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนน้า>>”

นัยน์ตาสองชั้นหลบหันไปมองตามร่างสูงระหงที่เดินจากไป ก่อนหันกลับมาหาคนรักที่กำลังก้มหน้าก้มตาถอดรองเท้าบูทอยู่ ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นมาสบตากับคนรักหลังจากถอดรองเท้าวางบนชั้นวางเสร็จ

“โหพัชร หอบอะไรมาตั้งเยอะตั้งแยะเลยเนี่ย อ้าว มีกีตาร์ด้วยเหรอ”

ป๊อปออกปากทักทายคนรัก สอดส่ายสายตาสำรวจของที่วางกองอยู่ใกล้ๆ คราวนี้หญิงสาวถือโอกาสใช้คนรักซะเลย

“งั้นป๊อปช่วยเค้ายกของก่อนสิ กับข้าวไปไว้ที่เคาน์เตอร์เลยน้า เดี๋ยวที่เหลือเค้าจัดการเอง อ้อ เอาเนื้อหมูเอาผักแช่ตู้เย็นด้วยล่ะ”

ป๊อปไม่พูดอะไรอีกนอกจากทำตามคำสั่งแต่โดยดี เมื่อคนตัวใหญ่เดินจากไป หญิงสาวรีบจัดเตรียมของที่จะให้กับคนรักไว้บนโซฟาใหญ่กลางห้อง ส่วนชุดสัมภาระส่วนตัวถือวิสาสะเอาเข้าไปเก็บในห้องนอนเล็กก่อนเดินกลับออกมา ประจวบเหมาะกับชายหนุ่มเพิ่งเก็บของและล้างมือเสร็จพอดี

“สุขสันต์วันเกิดนะป๊อป” พัชรกล่าวอวยพรวันเกิดให้กับคนรักทันทีที่สบตากัน

“ขอบคุณมากเลยพัชร นึกว่าพัชรจะลืมวันเกิดเราแล้วนะเนี่ย”

ป๊อปเอ่ยตอบคนรักด้วยน้ำเสียงโทนอบอุ่น มือหนาคว้าร่างบางของคนตรงหน้าเข้ามาโอบกอดแนบแน่น ปากหยักได้รูปภาพใต้หนวดเครารกครึ้มค่อยๆ ประทับลงบนหน้าผากโค้งมนได้รูปส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ อย่างนุ่มนวล

ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มรับรสจูบอันแสนหวานที่ฝากไว้บนหน้าผากของเจ้าตัว รู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก มือเรียวเล็กขาวราวงาช้างค่อยๆ ผลักอกของคนรักให้ออกห่างในระยะพอให้หายใจได้ ต่างฝ่ายต่างส่งสายตาให้กันและกัน ยิ่งเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นจากคนตรงหน้ายิ่งทำให้รู้สึกเขินจนใบหน้าของเจ้าตัวรอนวูบวาบไปหมดแล้วในตอนนี้

“พอได้แล้วป๊อป เค้าเขินแย่แล้วเนี่ย” มือเรียวเล็กตีที่ท่อนแขนของคนจูบเบาๆ หนึ่งที

“เขินทำไมล่ะ” ป๊อปแกล้งย้อนถาม พร้อมกับยื่นใบหน้าคร้ามเข้าไปใกล้ๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย “ก็คนมันเคยๆ กันอยู่แล้วนี่”

พูดจบแล้วก็เริ่มจู่โจมทันที ริมฝีปากหยักภายใต้หนวดเครารกครึ้มประกบกลีบปากเรียวสวยฉาบทาด้วยลิปกลอสสีนู้ดของคนรักอย่างจังแบบไม่เปิดโอกาสให้หายใจหายคอกันเลยทีเดียว

พัชรรู้สึกวาบหวามในใจแปลกๆ เริ่มหายใจไม่ออกเมื่อถูกจู่โจมเข้าอย่างจังแบบไม่ทันได้ตั้งตัว รู้ตัวอีกทีลิ้นของตัวเองสอดเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นใหญ่ของคนขโมยจูบแล้ว ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มรับรสจูบอันแสนหวานที่คนรักมอบให้ พอสติเริ่มกลับมา มือเล็กขาวสะอาดทั้งสองข้างค่อยๆ ผลักร่างหนาใหญ่ของอีกฝ่ายออกในระยะที่เว้นให้หายใจหายคอได้บ้าง ดวงตาคู่สวยเงยขึ้นสบตากับนัยน์ตาสองชั้นหลบสีน้ำตาลเข้มที่กำลังส่งสายตาบอกรักมาให้...

“ป๊อปนี่น้า ขี้หื่นจริงๆ เลย” แกล้งว่าให้แบบไม่จริงจังนัก “เดี๋ยวน้องใบหม่อนมาเห็นเข้า อายน้องเขาแย่เลย”

พูดจบหญิงสาวพาตัวเองเดินหลีกไปนั่งโซฟาใหญ่กลางห้อง พักหายใจหายคอสักหน่อยหลังจากถูกแฟนหนุ่มจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว ขณะที่คนขี้หื่นเดินตามมานั่งข้างๆ ไหนๆ แล้ว สาวเจ้าเลยให้ของขวัญวันเกิดกับคนขี้หื่นคนนี้เสียเลย

“อ่ะนี่ป๊อป ของขวัญวันเกิดปีนี้”

สิ้นเสียงหวานน่าฟัง ถุงพลาสติกใบย่อมถูกส่งให้กับป๊อปแล้ว มือหนาล้วงเข้าไปในถุงหยิบของขวัญที่ว่านี้ออกมา คิ้วเรียวหนาเลิกขึ้นเมื่อได้เห็นสิ่งของที่อยู่ในมือ เสื้อเชิ้ตแบรนด์เนมสีขาวสลับลายทางสีฟ้า รู้สึกแปลกใจเล็กๆ ว่าทำไมปีนี้ได้เสื้อเชิ้ตเป็นของขวัญวันเกิด นัยน์ตาสองชั้นหลบมองเสื้อเชิ้ตในมืออย่างประเมินสลับกับเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนรักที่กำลังเอียงคอส่งยิ้มหวานมาให้

“ขอบคุณมากนะพัชร ทำไมปีนี้ให้เสื้อเชิ้ตเราล่ะ”

คนถูกถามคลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนยื่นมือเรียวสวยมากุมมือหนาใหญ่ที่คล้ำกว่าของคนรักเบาๆ ดวงตาคู่สวยจับจ้องไปที่ใบหน้าคร้ามตรงหน้าส่งสายตาที่บ่งบอกความรู้สึกบางอย่างให้อีกฝ่ายได้รับรู้

“ที่เค้าให้เสื้อเชิ้ตป๊อปน่ะ เพราะเค้าอยากเห็นป๊อปแต่งตัวดีๆ บ้าง ที่จริงถ้าป๊อปแต่งตัวดีๆ นะ ป๊อปดูหล่อมากเลยล่ะ”

เสียงหวานที่แฝงไปด้วยความรักความห่วงใยที่เอื้อนเอ่ยออกมาทำให้ป๊อปคิดได้เมื่อได้ฟัง มือหนาทั้งสองข้างคลี่เสื้อเชิ้ตออก สอดส่ายสายตาสำรวจรอบๆ อย่างประเมินก่อนลองทาบกับตัวดู แต่ทันใดนั้น มือเรียวเล็กขาวราวงาช้างยื่นมาช่วยลองทาบให้

“ถ้าป๊อปใส่ตัวนี้เค้าว่าป๊อปดูหล่อมากเลยน้า ว่าไหม”

พัชรทำท่าเอียงคอย้อนถามกลับมา ส่งสายตาจับจ้องรอคำตอบอยู่ ขณะที่ป๊อปคลี่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับส่งสายตาแทนคำตอบไปยังคนรอคำตอบตรงหน้า กลับมามองเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ที่ยังถืออยู่ในมือ

“ไว้เราซักก่อน เดี๋ยวได้ใส่ให้พัชรกับน้องเราดูเป็นคนแรกเลย”

พูดจบแล้วมือหนาทั้งสองข้างพับเสื้อเชิ้ตตัวใหม่เก็บลงถุงแบบลวกๆ จนพัชรเห็นแล้วรู้สึกรำคาญแทน มือเล็กตีเข้าที่หลังมือหนาหนึ่งทีก่อนแย่งเสื้อกลับมา

“ป๊อปนี่พับเสื้อยังไงเนี่ย ห๊า! มา เค้าพับให้” พัชรว่าให้กับแฟนหนุ่มแบบไม่จริงจังนัก คิ้วเรียวสวยเริ่มขมวดมุ่นเข้าหากัน มือเล็กทั้งสองข้างพับเสื้อเชิ้ตใหม่ให้เรียบร้อยก่อนเก็บใส่ถุงเหมือนเดิม ร่างบางเอี้ยวตัวหันไปหยิบของขวัญอีกชิ้นหนึ่งที่เตรียมมาด้วย กล่องกีตาร์สีดำประทับโลโก้ของกีตาร์ที่อยู่ข้างในกล่อง เจ้าตัวแอบสั่งซื้อมาเงียบๆ เพื่อจะเอามาเซอร์ไพรส์ในวันนี้

“อ่ะ เค้าว่าป๊อปต้องชอบแน่เลย”

ป๊อปแอบตื่นเต้นระคนแปลกใจ ไม่คิดว่าแฟนสาวจะลงทุนซื้อกีตาร์มาเซอร์ไพรส์ในวันเกิดปีนี้ ถึงแม้จะไม่ได้จับกีตาร์มานานมากแล้วก็ตามตั้งแต่เริ่มทำงานฟรีแลนซ์ เห็นแล้วก็อดคันไม้คันมืออยากจะกลับมาเล่นอีกครั้งหนึ่ง มือหนาค่อยๆ ปลดตัวล็อกรอบๆ กล่องก่อนเปิดฝากล่องขึ้นเพื่อยลโฉมของขวัญวันเกิดสุดพิเศษจากแฟนสาว

กีตาร์ Fender Stratocaster ปี 1994 สีดำรุ่นสำหรับคนถนัดมือซ้ายสภาพสวยงามแม้กาลเวลาผ่านไปนานนอนอวดโฉมอยู่ข้างใน และนั่นทำให้ป๊อปรู้สึกดีใจสุดๆ ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มือหนารีบคว้ากีตาร์ตัวนี้ขึ้นมาสำรวจด้วยอาการเห่อเป็นอย่างมากจนทำให้พัชรต้องอดขำกับกิริยาท่าทางเหมือนเด็กน้อยได้ของเล่นใหม่ของคนตรงหน้าไม่ได้

ป๊อปลองเล่นกีตาร์ตัวใหม่ด้วยอาการเห่ออยู่สักพักหนึ่ง สารพัดสารพันท่อนริฟฟ์และลูกเล่นต่างๆ เริ่มพร่างพรูออกมาผ่านมือทั้งสองข้าง โดยเฉพาะมือขวาที่เคลื่อนไหวไปมาทั่วคออย่างพริ้วไหวถึงแม้จะไม่ได้เล่นมานานมากแล้วก็ตาม

“ขอบคุณมากนะพัชร ชอบมากเลย” ป๊อปเอ่ยขอบคุณกับแฟนสาวจากใจจริง พลางยกกีตาร์ขึ้นสำรวจอีกครั้ง “พัชรเลือกได้ตรงใจเรามากเลย กีตาร์ตัวนี้อายุเท่าใบหม่อนเลยนะ” พูดจบนิ้วมือหนาชี้ไปที่ Serial Number หลังคอกีตาร์ให้แฟนสาวดู

“อ้าวจริงเหรอป๊อป” พัชรถามกลับมาด้วยอาการแปลกใจเล็กๆ “เค้าไม่รู้เลยนะเนี่ย เรื่องกีตาร์เค้าไม่รู้เรื่องหรอกป๊อป”

จังหวะนั้นใบหม่อนเดินออกมาจากห้องนอนหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ได้ยินบทสนทนาระหว่างพี่ชายตัวเองกับว่าที่พี่สะใภ้เรื่องกีตาร์ตัวนี้โดยบังเอิญ ด้วยความอยากรู้ตามประสาผู้หญิงจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย

“<<พี่ป๊อปเมื่อกี้ว่าไงนะ อะไรอายุเท่าหนูอ่ะ>>”

ป๊อปหันไปหาเจ้าของเสียงใสที่เอ่ยถามเมื่อสักครู่ก่อนเรียกให้มานั่งด้วยกัน ถือโอกาสอวดกีตาร์ตัวใหม่ของตัวเองให้น้องสาวดูด้วย

“<<นี่ พี่พัชรซื้อกีตาร์ให้พี่เป็นของขวัญวันเกิด ดูสิ กีตาร์ตัวนี้เกิดปีเดียวกับใบหม่อนเลย>>”

ใบหม่อนมองกีตาร์ตัวใหม่ในมือของพี่ชายอย่างประเมินทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกีตาร์เลย รู้อย่างเดียวว่าพี่ชายตัวเองเล่นกีตาร์เป็นและเคยตั้งวงดนตรีกับเพื่อนๆ ไปประกวดตามเวทีต่างๆ สมัยยังเรียนอยู่สุพรรณฯ แค่นั้น

“<<จริงเหรอพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนย้อนถามเสียงอ้อมแอ้ม ดวงตากลมโตคู่สวยเงยขึ้นมาสบตากับคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

“<<จริงสิ>>” พูดจบมือหนาพลิกหลังคอชี้ไปที่ Serial Number ให้ดูอีกครั้งหนึ่ง

ใบหม่อนดูแวบหนึ่งก่อนละสายตาขึ้นมาสบตากับพี่ชายอีกครั้ง “<<งืมๆ หนูไม่รู้เรื่องกีตาร์หรอก แล้วพี่ป๊อปชอบไหมล่ะที่พี่พัชรซื้อกีตาร์ให้พี่อ่ะ>>”

“<<ชอบสิ ก็แฟนทั้งคนซื้อให้นี่นา แถมยังซื้อตัวที่ผลิตปีที่ใบหม่อนเกิดด้วย ไม่รักก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว>> เนาะ” ป๊อปให้คำตอบกับน้องสาวก่อนหันไปย้ำกับคนรักอีกที รีบเปลี่ยนสำเนียงเป็นกรุงเทพฯ อย่างรวดเร็ว

“ถ้าป๊อปชอบเค้าก็ดีใจแล้วล่ะ ตัวนี้เค้าซื้อมาเท่าไอโฟนเครื่องของป๊อปเลย” พัชรคลี่ยิ้มหวานก่อนเฉลยราคาให้คนรักฟัง และนั่น ทำให้สองพี่น้องพร้อมใจกันอุทานราวกับนัดหมายกันมา

{{จริงเหรอ}}

พัชรคลี่ยิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้วเรียวสวยขึ้น “จริงสิป๊อป รวมภาษีรวมค่าส่งก็เท่าไอโฟนแล้วล่ะ”

ปากหยักได้รูประบายยิ้มบางๆ หลังจากรู้ราคาของขวัญวันเกิดที่อยู่ในมือ ว่าแล้วมือทั้งสองข้างเริ่มบรรเลงกีตาร์ในมืออีกครั้งเท่าที่ตัวเองนึกได้ ถือว่าเป็นการลองไปด้วย ขาดเพียงแต่สายแจ็คกับแอมป์เท่านั้น

ใบหม่อนนั่งดูพี่ชายเล่นกีตาร์ไปยิ้มไปอย่างมีความสุข ย้อนนึกถึงภาพความทรงจำในวัยเด็กที่เคยเห็นพี่ชายนั่งเล่นกีตาร์เวลากลับจากโรงเรียน และตัวเองเคยดูพี่ชายเล่นบนเวทีประกวดที่โรงเรียนมาแล้วหลายครั้งก่อนที่จะห่างหายไปเมื่อพี่ชายเรียนจบมัธยมปลายและลงมาเรียนที่กรุงเทพฯ

ลองกีตาร์ไปได้สักพักจนพอให้หายคิดถึงแล้ว เขาค่อยๆ เก็บกีตาร์ลงในกล่องอย่างทะนุถนอม ปิดฝากล่องอย่างเรียบร้อย ไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณคนรักอีกครั้ง

“ขอบคุณพัชรมากเลยสำหรับของขวัญวันเกิดปีนี้ ถ้ามีเวลาว่างๆ เราคงได้กลับมาเล่นกีตาร์อีกครั้งแล้วล่ะ”

“จ้า เค้าดีใจนะที่ป๊อปชอบ”

ป๊อปให้รางวัลกับคนรักทันทีแบบไม่ทันให้ตั้งตัวเมื่อใบหน้าคร้ามโน้มเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้ารูปไข่เรียวยาวจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ประทับรอยจูบบนพวงแก้มขาวราวงาช้างอย่างนุ่มนวล และนั่นทำให้พัชรถึงกับเขินหน้าแดงอีกครั้งหนึ่ง

“พอได้แล้วป๊อป อายน้องใบหม่อนเขา” พัชรเอ่ยปรามก่อนดันร่างหนาออกห่าง

คราวนี้ใบหม่อนไม่พลาดเมื่อหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินขึ้นมาเก็บภาพพี่ชายจูบว่าที่พี่สะใภ้ไว้ได้ แอบส่งภาพนี้ให้คนในครอบครัวดูผ่านทางแอพพลิเคชั่นสีเขียวโดยไม่ให้ทั้งสองรู้ตัว ‘หนูส่งรูปพี่ป๊อปจูบพี่พัชรไปให้พ่อแม่ดูแล้วน้า คริๆ’ รีบเก็บสมาร์ทโฟนเครื่องหรูลงอย่างแนบเนียนเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลุกขึ้นเดินไปหยิบของขวัญวันเกิดที่ลืมไว้ในห้องนอนตัวเองก่อนเดินกลับออกมาอีกครั้ง

“<<พี่ป๊อป หนูมีของขวัญให้พี่เหมือนกันน้า>>”  เสียงใสเรียกพี่ชายที่ตอนนี้กำลังเติมความหวานกับว่าที่พี่สะใภ้อยู่

ป๊อปหันกลับมาหาน้องสาวที่ตอนนี้กลับมานั่งข้างๆ ตัวเองอีกครั้ง ลอบมองถุงผ้าสีดำในมือเล็กก่อนคลี่ยิ้มบางๆ ขณะที่ใบหม่อนยื่นถุงผ้าสีดำบรรจุวัตถุสี่เหลี่ยมขนาดเขื่องให้ มือหนายื่นมารับอย่างช้าๆ ก่อนลงมือแกะถุงผ้าสีดำออก เห็นพาวเวอร์แบงก์แบรนด์เดียวกับที่น้องสาวใช้อยู่ในมือ คิ้วเรียวหนาเลิกขึ้นอย่างแปลกใจไม่น้อย

“<<อื้ม ขอบคุณมากนะใบหม่อน น้องสาวหน้ากลมของพี่>>” ป๊อปคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนออกปากขอบคุณน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง แต่ว่า....

“<<ล้อหนูหน้ากลมอีกแล้วน้าพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนว่าให้อีกครั้งหลังจากโดนล้อ “<<หัดใช้พาวเวอร์แบงก์ได้แล้วน้าพี่ป๊อป หนูซื้อให้ อย่าให้หายน้า>>”

“<<ครับ น้องสาวสุดที่รักของพี่ มาๆ กอดหน่อย>>”

พูดจบแล้วร่างสูงใหญ่โผเข้าสวมกอดกับร่างสูงระหงของน้องสาวทันทิ ขณะที่ใบหม่อนกอดตอบแบบไม่ลังเล ใบหน้าสวยหวานซุกลงแนบกับไหล่กว้างของคนตรงหน้า ซึมซับความอบอุ่นที่พี่ชายคนนี้มีให้ ยามใดที่ได้กอดผู้ชายคนนี้ เจ้าตัวก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและปลอดภัยทุกครั้ง

“<<ที่จริงใบหม่อนให้ของขวัญพี่แล้วล่ะค่ะ ไม่ต้องลำบากซื้ออะไรมาให้พี่ก็ได้นะ>>” ป๊อปพูดทั้งที่ยังสวมกอดกับน้องสาวอยู่ มือหนาลูบไปบนแผ่นหลังบางอย่างเบามือ

ใบหม่อนค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดของคนตรงหน้า เงยหน้าขึ้นมองหน้าที่รกครึ้มไปด้วยหนวดเคราของพี่ชายตัวเองพร้อมกับส่งสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

“<<ทำไมอ่ะพี่ป๊อป>>” เริ่มมีอาการน้อยใจเล็กๆ เพราะคิดว่าทำไมพี่ชายถึงปฏิเสธ

ป๊อปพอจะเดาความรู้สึกของน้องสาวออก รีบให้คำตอบ ปากหยักได้รูประบายยิ้มบางๆ ให้คำตอบก่อนที่คนขี้น้อยใจจะเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านี้

“<<ก็ใบหม่อนมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ไงล่ะ นี่แหละคือของขวัญวันเกิดที่ล้ำค่าที่สุดของพี่แล้ว>>”

พูดจบปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มจนสุด ท่อนแขนใหญ่ตวัดร่างระหงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้งหนึ่ง ทางด้านใบหม่อนเมื่อได้ฟังคำตอบแล้ว รู้สึกซาบซึ้ง ตื้นตันใจเป็นอย่างมากจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ รีบซุกหน้าตัวเองแนบกับช่วงไหล่กว้าง มือเล็กตวัดโอบรัดแผ่นหลังหนา หยาดน้ำตาใสๆ ไหลคลอรอบหน่วยตาอาบลงบนพวงแก้มนุ่มไม่หยุด

“<<ฮึกๆ น้องก็ดีใจนะคะที่ได้ลงมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ป๊อป น้องดีใจจริงๆ ฮึก>>”

ป๊อปไม่พูดอะไรเพราะยังรู้สึกตื้นตันใจอยู่ ยิ่งเห็นน้องสาวสุดที่รักปล่อยโฮออกมาแบบนี้ก็พลอยทำให้ตัวเองแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน ได้แต่ลูบๆ บนแผ่นหลังเชิงปลอบใจเท่านั้น

พัชรเห็นภาพตรงหน้าแล้วยังอดที่จะน้ำตาไหลตามไม่ได้เมื่อเห็นคนรักสวมกอดกับว่าที่น้องสะใภ้อย่างแนบแน่น รู้สึกซาบซึ้งตามไปด้วย อีกใจหนึ่งหวนนึกถึงพี่น้องของตัวเองที่ตอนนี้อยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลกในตอนนี้

ใบหม่อนยังคงร้องไห้ไม่หยุด ไม่ใช่เพราะเสียใจ แต่เป็นเพราะดีใจที่ได้มาอยู่กับพี่ชายร่วมสายเลือดตัวเองอีกครั้งหลังจากห่างกันเป็นเวลายาวนานมากตั้งแต่พี่ชายเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และนานๆ ครั้งที่พี่ชายจะกลับไปบ้าน ทำให้โอกาสเจอกันน้อยลงไปอีก นึกขอบคุณตัวเองที่สอบบรรจุเป็นข้าราชการที่กรุงเทพฯ ได้ ถ้าเป็นไปได้อยากจะอยู่ดูแลพี่ชายคนนี้ไปนานๆ ตอบแทนที่อีกฝ่ายคอยดูแลอยู่เคียงข้างมาตลอดตั้งแต่จำความได้

“<<โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะใบหม่อน พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะคะ>>”

คำปลอบเดิมๆ ที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กทำให้สาวเจ้าหยุดร้องไห้ได้ในที่สุด ใบหน้ากลมกึ่งรูปไข่ค่อยๆ เงยขึ้นมองหน้าของพี่ชายสุดที่รัก พยายามสกัดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีก แต่น้ำตายังคงไหลรื้นคลอหน่วยตาคู่สวยอยู่

ป๊อปค่อยๆ ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยๆ รอบขอบตากลมโตของน้องสาวอย่างทะนุถนอมจนน้ำตาค่อยๆ แห้งลงไป ปากหยักได้รูปส่งยิ้มอันละมุนบ่งบอกความรู้สึกในใจให้น้องสาวได้รับรู้ “<<นี่แหละของขวัญวันเกิดปีนี้ของพี่ล่ะ ใบหม่อนมาอยู่กับพี่ไง ฮึๆ>>”

ใบหม่อนคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ภายใต้เหล็กดัดฟัน ดวงตากลมโตที่ยังแดงก่ำหลังจากร้องไห้ออกมาอย่างหนักเมื่อก่อนหน้านี้หรี่ลงจนเป็นรูปสระอิแสดงอาการดีใจให้พี่ชายตัวเองได้รับรู้ ยิ่งเจ้าตัวยิ้มกว้างมากเท่าไหร่ยิ่งดูน่ารักมากขึ้นเท่านั้น

“<<จ้าพี่ชาย สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่ชายสุดที่รักของหนู>>”

                                                                ..........................................................................

สองสาวช่วยกันปรุงอาหารมื้อพิเศษสำหรับค่ำคืนนี้อย่างขะมักเขม้นส่งกลิ่นหอมฉุยไปทั่วห้อง ต่างคนต่างแบ่งหน้าที่กันว่าจะทำอะไร ครั้งนี้ใบหม่อนถือโอกาสเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งในการเตรียมวัตถุดิบต่างๆ ปล่อยให้ว่าที่พี่สะใภ้เป็นคนลงมือทำอาหารทุกเมนูเองทั้งหมด

ทางด้านป๊อปใช้เวลาว่างระหว่างรออาหารมื้อเย็นหมดไปกับการเล่นกีตาร์ตัวใหม่สลับกับเช็คหน้างานกับไอแม็คคู่ใจไปเรื่อยๆ  กับอ่านคำอวยพรวันเกิดที่บรรดาเพื่อนๆ รุ่นพี่รุ่นน้องส่งเข้ามาในโซเชียลมีเดียส่วนตัวเป็นจำนวนมากจนไล่ตอบแทบไม่ทัน แม้แต่ในเฟซบุ๊คยังไม่ได้ตอบไปอีกครึ่งหนึ่ง แต่ทันใดนั้นข้อความจากเออีรุ่นพี่ที่สนิทตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียวเด้งขึ้นบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องหรู รีบคว้าขึ้นมาอ่านและพิมพ์ตอบอย่างรวดเร็ว

@@Watcharaporn@@ : แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะจ๊ะป๊อป มีความสุขมากๆ นะ :

@@POPENGL@@ : ขอบคุณมากครับพี่นุ่น :

@@Watcharaporn@@ : นี่ป๊อป ทำไมเดี๋ยวนี้เลือกรับงานล่ะ เมื่อก่อนพี่ไม่เคยเห็นป๊อปเป็นแบบนี้นะ :

@@POPENGL@@ : พูดตรงๆ นะพี่ เดี๋ยวนี้น้องสาวผมลงมาอยู่ด้วยแล้วครับ ผมเลยอยากให้เวลากับน้องผมบ้าง แค่นั้นเองพี่ บิวตี้ไม่ได้เล่าให้พี่ฟังเลยเหรอ :

@@Watcharaporn@@ : เล่าให้ฟังจ้ะป๊อป พี่ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แค่พี่แปลกใจเฉยๆ นี่ป๊อป สักประมาณปีหน้ามีโปรเจกต์ใหญ่ให้ป๊อปทำด้วย แต่ป๊อปไม่ได้ทำคนเดียวนะ จะมีทีมรีทัชเชอร์ช่วยด้วยอีก สเกลงานประมาณสองเดือน งานนี้ขึ้นบิลบอร์ดที่ญี่ปุ่นเลยนะ :

@@POPENGL@@ : จริงเหรอพี่ :

@@Watcharaporn@@ : จริงสิป๊อป พี่จะโกหกทำไมล่ะ โปรเจกต์นี้โกอินเตอร์เลยนะ บัดเจ็ตหลักล้านเลยนะป๊อป ทางนั้นเขาเจาะจงมาที่เอเจนซีที่นี่เลย และระบุด้วยว่าจะให้ใครทำบ้าง ป๊อปก็มีชื่ออยู่ในนั้นด้วยนะ :

@@POPENGL@@ : ได้ครับพี่ ยังไงขอไม่เร่งมากนะครับ :

@@Watcharaporn@@ : พี่ว่าไม่เร่งหรอกป๊อป สเกลงานสองเดือน ทางนั้นเขาไม่ได้ซีเรียสมาก เขาบอกบอสแล้วว่างานนี้ส่งกลางปีหน้า มีเวลาให้ทำสองเดือน เผื่อเวลาให้แก้อีกหนึ่งเดือนเต็มๆ :

@@POENGL@@ : โอเค.ครับพี่ ตามนี้ครับ   :

@@Watcharaporn@@ : จ้า ขอให้ป๊อปมีความสุขมากๆ นะ อายุสามสิบเอ็ดแล้ว ดูแลตัวเองด้วย อย่าอดหลับอดนอนมากล่ะ งานน่ะขยันทำน่ะดี แต่ต้องดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองด้วยนะ บายจ้า :

จบบทสนทนาระหว่างตัวเขากับรุ่นพี่ที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ย้อนนึกถึงวันที่ตัวเองเรียนจบใหม่ๆ ก็ได้รุ่นพี่คนนี้ที่นำพาให้เขาได้งานแรก และเมื่อเขาออกมาทำฟรีแลนซ์เต็มตัว ก็ได้รุ่นพี่คนนี้ที่คอยประคับประคองป้อนงานให้ทำอยู่ตลอดจนถึงวันนี้... ยังไม่ทันที่จะได้วางโทรศัพท์ บังเอิญอีกข้อความเด้งขึ้นมา

@@Bewpetch@@ : แฮปปี้เบิร์ธเดย์ สุขสันต์วันเกิดน้าพี่ป๊อป :

@@POPENGL@@ : ขอบคุณมากบิวตี้ ที่ไม่ลืมวันเกิดพี่ :

@@Bewpetch@@ : จ้า หนูไม่ลืมหรอก นี่พี่นุ่นบอกเรื่องงานกับพี่ป๊อปแล้วใช่ปะ :

@@POPENGL@@ : บอกแล้วๆ ทำไมเหรอ :

@@Bewpetch@@ : ก็ไม่มีอะไรหรอก หนูแค่จะบอกว่าหลังปีใหม่เดี๋ยวส่งงานให้นะ งานนี้งานใหญ่ไปถึงญี่ปุ่นเลยนะพี่ พี่ป๊อปไม่ต้องห่วงนะงานนี้มีคนช่วยทำเพียบ :

@@POPENGL@@ : เออพี่รู้แล้ว แหมไม่ต้องย้ำหรอกน่า :

@@Bewpetch@@ : จ้า นี่หนูจะบอกให้ งานนี้พี่ป๊อปต้องทำสุดฝีมือ ห้ามหลุด ห้ามพลาดเลยนะ ลูกค้าเจ้านี้เขี้ยวมากด้วย ถ้าพี่ทำงานเสียขึ้นมาเสียไปถึงบริษัทเลยนะพี่ :

@@POPENGL@@ : เออไม่ต้องย้ำ พี่ทำได้อยู่แล้วน่า :

ร่างสูงใหญ่ลุกจากโต๊ะทำงาน ยืดเส้นยืดสายสักเล็กน้อยก่อนเดินไปหาคนรักที่กำลังง่วนอยู่กับการปรุงอาหารตรงหน้า ท่อนแขนใหญ่ค่อยๆ ตวัดโอบรัดเอวคอด พร้อมกับยื่นใบหน้าคร้ามเข้าไปใกล้ๆ เรือนผมยาวสลวยสีดำสนิท ซึมซับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกายปนกับกลิ่นหอมฉุยของสเต็กที่อยู่ในกระทะตรงหน้า

“ป๊อปอย่าทำแบบนี้สิ เค้าทำกับข้าวอยู่” พัชรออกปากว่าให้เมื่อถูกโอบกอดจากด้านหลัง

ได้ผลมือป๊อปยอมปล่อยมือออกจากเอวคอดแม้ไม่อยากจะปล่อยก็ตาม แต่ก็ต้องอดใจรอเพราะตอนนี้คนรักของเขายังทำอาหารไม่เสร็จ

“<<ใบหม่อนวันทำอะไรให้พี่กินเนี่ย>>” ป๊อปหันไปถามน้องสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาหั่นผักอยู่ใกล้ๆ

“<<ไม่บอก แบร่>>” ใบหม่อนตอบปฏิเสธทันควันก่อนแลบลิ้นหลอกใส่ “<<พี่ป๊อปรอก่อนน้า เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวหนูเรียก>>”

ได้ยินคำตอบดังนั้นทำให้ป๊อปไม่อยากจะเซ้าซี้อะไรอีก ยอมกลับไปนั่งรอแต่โดยดี แต่ตอนนี้ร่างสูงใหญ่เดินหลีกไปนั่งเล่นที่โซฟาใหญ่กลางห้อง หยิบกีตาร์ตัวใหม่ที่คนรักซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดไปเล่นแก้เหงาระหว่างรอ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้กำลังเห่อกีตาร์ตัวใหม่อยู่

ด้านใบหม่อนแอบชำเลืองมองคนนั่งเล่นกีตาร์ที่โซฟาอย่างเพลิดเพลินก่อนละสายตากลับมาที่เขียงหั่นผักตรงหน้า ต้นหอมผักชีที่ตัวเองหั่นจนละเอียดถูกส่งไปให้กับว่าที่พี่สะใภ้เตรียมลงมือทำสเต็กสูตรพิเศษเมนูเดียวกับวันเกิดของหญิงสาวเมื่อห้าวันก่อน แอบยิ้มน้อยๆ จนแม่ครัวรับเชิญในวันนี้จับสังเกตได้

“ฮั่นแน่ะๆ ยิ้มอะไรน้องใบหม่อน” พัชรแกล้งถามหญิงสาวขึ้นมา

“หนูไม่ได้เห็นพี่ป๊อปเล่นกีตาร์นานแล้วค่ะพี่พัชร” เสียงใสตอบกลับไปตรงๆ กลีบปากอวบอิ่มได้รูปยังระบายยิ้มไม่หยุด

“พี่ก็ไม่ได้เห็นป๊อปเล่นกีตาร์นานแล้วเหมือนกันแหละจ้า” พัชรเริ่มเปิดประเด็นต่อ มือข้างหนึ่งยังจับตะหลิวพลิกเนื้อหมูในกระทะอยู่ “ตั้งแต่ป๊อปลาออกมาทำฟรีแลนซ์เมื่อสองปีที่แล้วเขาก็แทบไม่ได้เล่นกีตาร์เลย น้องใบหม่อนเห็นในห้องพี่ป๊อปแล้วใช่ไหม กีตาร์แขวนฝุ่นเกาะเต็มไปหมดเลย”

“หนูเห็นแล้วค่ะพี่พัชร” ใบหม่อนให้คำตอบกับว่าที่พี่สะใภ้ ย้อนนึกถึงตอนที่ตัวเองเข้าไปทำความสะอาดห้องนอนของพี่ชายเมื่อตอนที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันใหม่ๆ “หนูเห็นแล้วนึกถึงตอนเด็กๆ เลยค่ะ เมื่อก่อนพี่ป๊อปเล่นกีตาร์แทบจะทุกวันเลย”

พัชรคลี่ยิ้มบางๆ แต่ตอนนี้ต้องรวบรวมสมาธิกับการพลิกเนื้อหมูในกระทะให้สุกเท่าๆ กันก่อนตักใส่จานที่ใบหม่อนเตรียมผักเครื่องเคียงไว้พร้อม หลังจากทำสเต็กเสร็จทั้งสามจาน หญิงสาวหันกลับไปทำน้ำตกหมูสูตรของตัวเองต่อหลังจากที่ลูกมือเตรียมวัตถุดิบรอไว้หมดแล้ว รอบนี้สาวเจ้าปรุงรสให้จัดเพื่อเอาใจคนรักอย่างเต็มที่ รู้อยู่ว่าคนรักชอบน้ำตกหมูรสจัดๆ แต่ก็แอบเกรงใจลูกมือ กลัวว่าจะทำให้ท้องเสียอีก แต่ไม่ทันแล้วเมื่อพริกขี้หนูเม็ดโตๆ ถูกใส่ลงไปในหม้อจนแดงฉานไปหมด แต่เกิดพลาดที่ทำพริกหกลงไปเกือบทั้งกระปุก แอบคิดในใจ ‘ตายแล้ว พริกหกแบบนี้ พรุ่งนี้ท้องเสียแน่เลย เค้าขอโทษน้าป๊อป’

เวลาผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมงเศษ

“<<พี่ป๊อปมากินข้าว>>”

ป๊อปรีบวางกีตาร์ทิ้งไว้บนโซฟาก่อนรีบลุกเดินมายังโต๊ะกินข้าวหลังจากได้ยินเสียงใสที่คุ้นหูออกปากเรียกให้ไปกินข้าวด้วยกัน เมื่อเดินมาถึงโต๊ะกินข้าวที่ตอนนี้ละลานตาไปด้วยเมนูต่างๆ วางเรียงไว้จนแทบจะเต็มโต๊ะแล้ว ร่างสูงใหญ่เดินตรงรี่ไปหาคนรักที่ตอนนี้กำลังถอดผ้ากันเปื้อนอยู่ ท่อนแขนแกร่งโอบเอวคอดไว้หลวมๆ

“โห พัชรทำอะไรให้เรากินบ้างเนี่ย เต็มโต๊ะเลย”

พัชรคลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนหันกลับมาหาใบหน้าคร้ามที่ตอนนี้โน้มเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย “วันนี้เค้าทำของโปรดป๊อปทั้งนั้นเลยน้า ปล่อยเค้าก่อนเค้าจะถอดผ้ากันเปื้อน”

ป๊อปยอมปล่อยให้พัชรได้เป็นอิสระแต่โดยดี ร่างสูงเดินไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าว มือเล็กถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวก่อนนำไปแขวนเก็บยังที่เดิม เหงื่อกาฬยังเปียกชุ่มโชกหลังจากต้องทนร้อนอยู่หน้าเตานานเป็นชั่วโมง ร่างบางเดินไปล้างหน้าที่อ่างซิงค์ใกล้ๆ หลังจากนั้นไม่นานร่างบางเดินไปนั่งโต๊ะฝั่งตรงข้ามกับคนรักและว่าที่น้องสะใภ้ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“มาป๊อป กินกันเถอะ เค้ารู้ว่าป๊อปหิว คริๆ”

“<<พี่ป๊อปกินเยอะๆ น้า พี่พัชรอุตส่าห์ทำของโปรดให้พี่กินทั้งนั้นเลย>>” ใบหม่อนเอ่ยปากกำชับพี่ชายก่อนเริ่มลงมือทานอาหารตรงหน้า

“<<ครับแม่>>” ป๊อปแกล้งผงกหัวตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เอื้อมมือขึ้นไปจับจุกเล็กๆ เหนือกระหม่อมของคนออกปากกำชับโยกไปโยกมาเชิงหยอกล้อเล็กน้อยก่อนรีบปล่อยมือออกเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...

“<<อย่าเล่นผมหนูสิพี่ป๊อป ไป! กินข้าว>>” ใบหม่อนแหวใส่พี่ชาย มือเล็กตีท่อนแขนหนาเบาๆ หนึ่งที

พัชรคลี่ยิ้มบางๆ และส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นพี่น้องคู่นี้ตีกัน ยังทำใจให้ชินไม่ได้สักทีถึงแม้จะเห็นมาตลอดเกือบสิบสองปีที่คบกันมาแล้วก็ตาม มือเล็กคว้าช้อนส้อมลงมือทานอาหารมื้อพิเศษที่อยู่ตรงหน้า

ป๊อปเริ่มลงมือทานน้ำตกหมูของโปรดก่อนอันดับแรก แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อรสชาติอันจัดจ้านสัมผัสเข้าที่ปลายลิ้นของเขา “ฮื้ม รสจัดนะเนี่ย ใครทำล่ะอร่อยมากเลย แต่มันเผ็ดแบบแปลกๆ แฮะ” เขาพูดทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก

“เค้าทำเองแหละป๊อป ชอบรสจัดไม่ใช่เหรอ” เสียงหวานของคนตรงข้ามตอบกลับมา แอบซู้ดปากไปหนึ่งทีเพราะน้ำตกหมูฝีมือตัวเองช่างรสจัดจ้านเหลือเกิน

ใบหม่อนรู้สึกไม่ต่างไปจากพี่ชายตัวเองเมื่อได้ลิ้มรสหมูน้ำตกฝีมือว่าที่พี่สะใภ้ที่พี่ชายเคยชมว่าอร่อยนักอร่อยหนาจนตัวเองเริ่มน้อยใจ รสเผ็ดจัดจ้านคลุกเคล้ากับกลิ่นหอมข้าวคั่วแบบนี้ถูกใจเจ้าตัวยิ่งนัก คราวนี้เข้าใจพี่ชายแล้วว่าเพราะอะไรถึงชมว่าสูตรนี้อร่อยนัก เจ้าตัวแอบจดจำสูตรของว่าที่พี่สะใภ้คนนี้ไว้หมดแล้ว ไว้ครั้งหน้าจะได้ทำให้พี่ชายที่แสนดีคนนี้ได้ลิ้มรสบ้าง

ทั้งสามต่างหน้าแดงน้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุดเมื่อได้ลิ้มรสน้ำตกหมูสูตรพิเศษสีแดงฉานไปด้วยพริกจำนวนมาก น้ำดื่มเริ่มพร่องลงอย่างรวดเร็วเมื่อต่างคนต่างรินน้ำใส่แก้วตัวเองแล้วซดโฮกแบบไม่ยั้งขับไล่อาการเผ็ดให้ทุเลาเบาบางลง ยังมีสเต็กหมูพริกไทยดำราดน้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษที่แซบถึงทรวงคอยเสริมความเผ็ดร้อนขึ้นไปอีก และยังมีตำมะเขือสูตรพิเศษแถมท้ายอีก มีเพียงข้าวเหนียวกับไข่เจียวหมูสับเท่านั้นที่ช่วยลดดีกรีความเผ็ดจัดจ้านลงไปได้

“พัชรทำพริกหกเปล่าเนี่ย เผ็ดเวอร์ๆ เลย” ป๊อปแกล้งถามคนปรุงอาหาร ตอนนี้ลิ้นของเขาชาไปหมดแล้ว

“เค้าทำตามสูตรของเค้าไง ทำไมล่ะ หรือไม่อร่อยแล้ว” พัชรแกล้งย้อนให้ไม่จริงจังนัก พยายามฝืนยิ้มทั้งๆ ที่ตอนนี้เผ็ดร้อนไปทั่วทั้งหน้าแล้ว ‘เค้าขอโทษน้า เขาเผลอทำพริกหกจริงๆ แหละ คริๆ’

“เมื่อก่อนไม่ได้เผ็ดเวอร์ขนาดนี้นะ ทำพริกหกแน่เลย” ป๊อปเริ่มแซวตามปกตินิสัย จับได้ตั้งแต่คำแรกแล้วว่าคนรักทำพริกหกใส่แน่นอน

“นั่นสิคะพี่พัชร หนูว่าหนูกินรสจัดแล้วน้า ทำไมมันเผ็ดจัดแบบนี้อ่ะ หนูเริ่มแสบปากแล้วนะเนี่ย” ไม่ใช่แค่ป๊อปที่รู้สึก ใบหม่อนยังรู้สึกไม่ต่างจากพี่ชายของตัวเองเหมือนกัน

พัชรยิ้มแหยๆ เมื่อเห็นหน้าของสองพี่น้องแดงฉานน้ำหูน้ำตาไหลไปหมด และตอนนี้สองพี่น้องตรงหน้าเริ่มกรอกน้ำเย็นดับอาการเผ็ดร้อนแบบรัวๆ นึกกลัวว่าจะสำลักขึ้นมาเสียก่อน สักพักน้ำเย็นในเหยือกหมดลงในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก

เจ้าของวันเกิดรีบลุกไปหยิบเหยือกน้ำในตู้เย็นพร้อมกับกระบะน้ำแข็งนำมาวางไว้ที่โต๊ะเสียเลยจะได้รินได้ทันใจ ตอนนี้เริ่มทนไม่ไหวกับอาการเผ็ดร้อนราวกับไฟกำลังพวยพุ่งอยู่ในปากของเขาแล้ว

“เค้าขอโทษน้าป๊อป น้องใบหม่อน คือเค้าทำพริกที่น้องใบหม่อนตำหกไปเกือบทั้งกระปุกเลยอ่ะ”

ในที่สุดพัชรก็ต้องยอมรับเมื่อเห็นสภาพของสองพี่น้องตรงหน้า ย้อนกลับมาดูตัวเองที่เผ็ดจนลิ้นชา น้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุดแล้วในตอนนี้

สองพี่น้องพร้อมใจกันมองมาที่ใบหน้าสวยหวานของแม่ครัวรับเชิญราวกับนัดหมายกันมา สายตาที่จับจ้องมาทำเอาพัชรเดาอารมณ์ไม่ถูกว่าคนรักของตัวเองกับว่าที่น้องสะใภ้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่พอเดาได้ว่าสองพี่น้องคู่นี้คิดอะไรอยู่ ยิ่งเห็นหน้าแดงก่ำในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนของคนรักก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจลึกๆ ยิ่งเห็นดวงตากลมโตคู่สวยของว่าที่น้องสะใภ้มองจิกเข้ามาอีก

ป๊อปไม่ได้นึกโกรธคนรักเลยแม้แต่นิดเดียว รู้ว่ามันผิดพลาดกันได้ แต่ครั้งนี้รสอาหารมันเผ็ดเกินกว่าที่จะทนไหวจริงๆ แอบนึกห่วงคนที่นั่งข้างๆ ด้วยเพราะรู้ว่าหญิงสาวเป็นคนธาตุอ่อน ผิดสำแดงนิดเดียวท้องเสียได้ง่ายๆ ทันที

“ช่างเหอะๆ กินกัน เดี๋ยวก็หมด” ป๊อปเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลลงกว่าเดิม รีบจัดการน้ำตกหมูสูตรพิเศษในจานตรงหน้าจนพร่องลงไปเยอะในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก

ทางด้านใบหม่อนต้องยอมแพ้กับน้ำตกหมูสูตรพริกหกเกือบทั้งกระปุกด้วยการหันไปละเลียดไข่เจียวหมูสับกับข้าวเหนียวแทน ถึงแม้ตัวเองจะกินจุขนาดไหน แต่ครั้งนี้ขอยอมแพ้เพราะแต่ละเมนูช่างเผ็ดจัดเกินกว่าที่ตัวเองจะรับไหวแล้วในตอนนี้

เวลาผ่านไปราวๆ ชั่วโมงเศษ อาหารจานหลักเริ่มพร่องลงเรื่อยๆ จนหมดลงในเวลาไม่นานนัก โดยเฉพาะไข่เจียวหมูสับที่ใบหม่อนจัดการละเลียดอยู่คนเดียวแบบไม่แบ่งให้พี่ๆ ทั้งสองจนหมดก่อนจานอื่นๆ อาการเผ็ดร้อนของทั้งสามชีวิตเริ่มเบาบางลงเรื่อยๆ เมื่อได้ทานเมนูดับเผ็ดที่เหลืออย่างข้าวเหนียว ส่วนส้มตำมะเขือของโปรดของใบหม่อนยังเหลืออยู่ถึงครึ่งจาน

ช่วงเวลาสำคัญของวันนี้ก็มาถึงเมื่อพัชรหยิบเค้กวันเกิดออกมาจากตู้เย็นหลังจากแช่ไว้นาน ขณะที่ผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างใบหม่อนเริ่มทำหน้าที่น้องสาวที่ดีด้วยการอ้อนและแกล้งพี่ชายคอยถ่วงเวลาไว้ไม่ให้ป๊อปรู้ว่ามีเค้กให้เขาเป่าในวันนี้ด้วย

เทียนรูปตัวเลข 31 ปักเหนือเค้กหน้านิ่มที่ประดับประดาด้วยวิปครีมสีขาวอย่างเรียบง่าย มีเพียงข้อความ ‘Happy Birthday POP’ ที่โรยด้วยวิปครีมสีแดงเท่านั้น ไม่มีรูปอื่นมาประดับประดาให้รกหน้าเค้กมากนัก พัชรหยิบไฟแช็กจากเคาน์เตอร์เหนือเตาไฟฟ้าลงมาจุดเทียนให้ติด ก่อนยกเค้กมายังโต๊ะกินข้าว

ตอนนี้ใบหม่อนเริ่มแกล้งพี่ชายหนักขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าเป็นการเอาคืนเล็กๆ หลังจากถูกพี่ชายแกล้งมาตลอด อาศัยความไวแกล้งเอามือเล็กปิดตาทั้งสองข้างของคนตัวใหญ่ ยิ่งอีกฝ่ายขัดขืนมากเท่าไหร่ เจ้าตัวยิ่งกดมือลงหนักขึ้นเรื่อยๆ

“<<ใบหม่อน ปิดตาพี่ทำไมเนี่ย พี่อึดอัดนะเว้ย>>”

ใบหม่อนแกล้งทำเป็นไม่สนใจคำต่อว่าของพี่ชาย หันไปสบตากับว่าที่พี่สะใภ้ที่ตอนนี้วางเค้กวันเกิดพร้อมจุดเทียนรอไว้ตรงหน้า คราวนี้หญิงสาวค่อยๆ ปล่อยมือออกให้พี่ชายได้เห็นภาพตรงหน้า

                                                ...........................................................................................

{{“Happy Birthday To You Happy Birthday To You Happy Birthday Happy Birthday Happy Birthday To You…}}

เสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์จากทั้งสองสาวดังกระหึ่มขึ้นหลังจากนั้นไม่นานนัก ทำเอาคนเป็นเจ้าของวันเกิดรู้สึกเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อย และยิ่งเซอร์ไพรส์มากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเสียงน้องสาวของเขาร้องเพลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี เพราะรู้ว่าสาวเจ้าเคยโดนเพื่อนล้อเรื่องร้องเพลงเพี้ยนทำให้ไม่กล้าร้องเพลงเดี่ยวๆ ให้เขาได้ยินอีกเลย แม้แต่วันที่เขาอยากจะเล่นกีตาร์ให้อีกฝ่ายร้องเพลงมากแค่ไหนก็ตาม แต่ในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกพิเศษมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเสียงใสๆ น่าฟังขับขานไปตามท่วงทำนองเพลงพร้อมกับเสียงปรบมือให้จังหวะไปเรื่อยๆ จนเพลงจบลง

“<<สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่ป๊อป พี่ชายสุดที่รักของหนู>>” ใบหม่อนกล่าวอวยพรวันเกิดพี่ชายเป็นคนแรก

“แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะจ๊ะที่รัก เค้าขอให้ป๊อปมีความสุขมากๆ รีบๆ มาขอเค้าแต่งงานได้แล้ว สามสิบเอ็ดแล้วน้า” พัชรกล่าวคำอวยพรเป็นลำดับถัดมา ไม่ลืมที่จะแอบแซะด้วยเล็กน้อย

ป๊อปรู้สึกตื่นตันใจอย่างบอกไม่ถูกที่คนรักทั้งสองทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ โดยเฉพาะน้องสาวสุดที่รักที่มอบสิ่งพิเศษที่สุดให้กับเขาในวันนี้ด้วยการร้องเพลงให้ฟัง ที่จริงแล้ว ของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่ที่สุดสำหรับเขาได้รับมันแล้วตั้งแต่เดือนที่แล้ว ในวันที่ใบหม่อนลงมาอยู่เป็นเพื่อนจนถึงวันนี้...

นัยน์ตาสองชั้นหลบปิดลงพร้อมกับอธิษฐานในใจอยู่พักใหญ่ ก่อนค่อยๆ ลืมตาขึ้นพร้อมกับเป่าเทียนรูปตัวเลข 31 จนดับลง ท่ามกลางเสียงปรบมือโห่ร้องดีใจของทั้งสองสาวที่อยู่ร่วมเป็นสักขีพยานในวันนี้

“<<พี่ป๊อป สามสิบเอ็ดแล้วน้า รีบขอพี่พัชรแต่งงานได้แล้ว หนูอยากอุ้มหลานแล้วเนี่ย>>” ใบหม่อนได้ทีหยอกคนเป็นพี่ชายขึ้นมา ขณะที่เจ้าของวันเกิดได้แต่ตวัดยิ้มบางๆ พร้อมกับเอื้อมมือขึ้นไปจับจุกเล็กๆ เหนือศีรษะสวยของน้องสาวโยกไปมาด้วยความรู้สึกเอ็นดูอยู่ในใจ แต่คนโดนโยกจุกกลับรู้สึกรำคาญเพราะเหมือนผมถูกดึงอยู่ตลอดเวลา

“<<อย่าเล่นผมหนูสิพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนปรามพร้อมกับแกะมือของอีกฝ่ายออก “<<ถ่ายรูปก่อนพี่ป๊อปค่อยตัดเค้ก>>”

สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินในมือของใบหม่อนถูกยกขึ้นเปิดโหมดกล้องหน้ารอไว้พร้อม หันหน้ากล้องเข้าหาเจ้าของวันเกิดกับว่าที่พี่สะใภ้ที่ตอนนี้ทั้งสองต่างยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ กัน โดยมีเค้กวันเกิดที่ยังไม่ได้ตัดวางอยู่ด้านหน้าของเจ้าของวันเกิดวันนี้

“<<พี่ป๊อปยิ้มหน่อยสิ>>” เสียงใสหันไปกำชับพี่ชายที่ตอนนี้ยังหุบยิ้มอยู่

ป๊อปยอมทำตามคำขอของน้องสาวด้วยการคลี่ยิ้มกว้างจนสุดปากเห็นฟันครบทุกซี่ นัยน์ตาสองชั้นหลบเพ่งมองไปที่กล้องหน้าสมาร์ทโฟนในมือของน้องสาว นิ้วโป้งเรียวสวยกดปุ่มชัตเตอร์เก็บภาพประทับใจในครั้งนี้ไว้

“<<ใบหม่อนส่งไลน์ให้พี่ด้วยล่ะ>> ป๊อปออกปากขอรูปทันทีหลังจากดูรูปที่เพิ่งถ่ายเสร็จ

“<<จ้า พี่ป๊อป ตัดเค้กได้แล้ว>>” ใบหม่อนออกปากขอให้พี่ชายตัดเค้กทันที ตอนนี้อยากกินเค้กจะแย่แล้ว

ป๊อปเริ่มลงมือตัดเค้กวันเกิดด้วยตัวเองแบบเบี้ยวๆ จนพัชรกับใบหม่อนยังต้องแอบขำไม่หยุด แบ่งส่วนอย่างง่ายๆ ให้พอกินทั้งสามคน และแล้ว เวลาดับรสเผ็ดก็มาถึงเมื่อต่างฝ่ายต่างลงมือละเลียดเค้กหน้านิ่มในจานเล็กตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะใบหม่อนที่ตั้งใจละเลียดเค้กวันเกิดของพี่ชายคนนี้เป็นพิเศษ

“ขอบคุณมากนะพัชรที่ทำทุกอย่างให้เราในวันนี้” ป๊อปไม่ลืมที่จะเอ่ยปากขอบคุณแฟนสาว นัยน์ตาสองชั้นหลบมองใบหน้าสวยหวานบนโครงหน้ารูปไข่เรียวยาวแบบไม่วางตา ปากหยักได้รูปภายใต้หนวดเครารกครึ้มคลี่ยิ้มแบบไม่ยอมหุบแม้แต่วินาทีเดียว นัยน์ตาสองชั้นหลบเปล่งประกายพราวบ่งบอกความรู้สึก

พัชรเงยหน้าขึ้นสบตากับคนรักตรงหน้า ก่อนจะยิ้มด้วยตาให้หนึ่งที “ถ้าป๊อปชอบเค้าก็ดีใจแล้วล่ะ เค้าอวยพรวันเกิดป๊อปมาสิบกว่าปีแล้วนะ ทุกครั้งเค้าเต็มใจทำให้ป๊อปแหละ ก็เค้ารักป๊อปนี่นา”

“เราก็รักพัชรนะ” ป๊อปเอ่ยปากบอกรักกับแฟนสาว นับครั้งไม่ถ้วนแล้วที่เขาบอกรักกับคนรักเป็นเวลานานถึงสิบสองปีนับตั้งแต่วันแรกที่คบกัน

คนตัวใหญ่ลุกจากที่นั่งตัวเองเดินมาอยู่ข้างๆ ร่างบาง ก้มตัวลงโน้มใบหน้าคร้ามเข้าไปใกล้ๆ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกาย ค่อยๆ ประทับรอยรักลงบนพวงแก้มนุ่มขาวละเอียด

ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มรับรสจูบอันแสนหวานที่คนรักฝากไว้บนพวงแก้มนุ่มของตัวเอง อาการร้อนวูบวาบที่เคยเป็นในครั้งนี้กลับไม่มี มีแต่ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเท่านั้น หลังจากอีกฝ่ายถอนจูบเสร็จเจ้าตัวหันไปประทับกลีบปากเรียวสวยบนแก้มหนาของคนรักบ้างเป็นการตอบแทน

ใบหม่อนอาศัยจังหวะที่พี่ๆ ทั้งสองกำลังจูบกันรีบหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมาเก็บภาพประทับใจนี้ไว้ก่อนแอบส่งให้พ่อแม่ดูผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียว กลีบปากเรียวเล็กคลี่ยิ้มร้าย ‘พ่อจ๋า แม่จ๋า แม่คุณจ๋า เตรียมตัวอุ้มหลานได้เลยนะคะ หนูพร้อมเป็นอาคนแล้วค่ะ คริๆ’ หญิงสาวคิดในใจ

ยังไม่ทันที่เค้กจะหมด สมาร์ทโฟนสีดำส่งเสียงกรีดร้องขึ้นพร้อมกับแสงไฟแฟลชวับวาบ หน้าจอโชว์รูปคนที่กำลังโทร.หาในโหมดวีดีโอคอล ด้านเจ้าของวันเกิดต้องรีบกดรับทันทีเมื่อรู้ว่าใครโทร.มา หันไปสะกิดน้องสาวที่กำลังละเลียดเค้กอยู่เพลินๆ ให้มาคุยด้วย

“<<ใบหม่อนๆ แม่โทร.มา>>”

หญิงสาวถึงกับตาลุกวาวด้วยอาการดีใจเมื่อได้ยินพี่ชายเรียก “<<จริงเหรอพี่ป๊อป รับเลยๆ>>”

ป๊อป/ใบหม่อน : [[<<สวัสดีครับ/จ้า แม่>>]]

แม่ : [[<<สวัสดีจ้าไอ้หมา ใบหม่อน อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะลูก>>]]

สองพี่น้องต่างทักทายผู้เป็นแม่ด้วยอาการดีใจสุดๆ ถึงแม้จะเป็นเพียงวีดีโอคอลก็ตาม ไม่ใช่มีแค่แม่คนเดียวเท่านั้น ทั้งพ่อและแม่คุณต่างอยู่ในสายด้วย

พ่อ : [[<<วันนี้วันเกิดไอ้หมาใช่ไหม สุขสันต์วันเกิดนะลูก แหมกำลังกินเค้กอยู่เหรอ>>]]

ป๊อป : [[<<ขอบคุณมากครับพ่อ>>]] เขายกมือไหว้ขอบคุณหลังจากได้รับคำอวยพรวันเกิดจากผู้เป็นพ่อ รู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก

แม่ : [[<<สุขสันต์วันเกิดนะไอ้หมาลูกแม่ แม่ขอให้ไอ้หมาประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนานะลูกนะ แม่รู้ว่าลูกแม่คนนี้เก่งอยู่แล้ว>>]]

ป๊อป : [[<<ขอบคุณครับแม่>>]]

แม่คุณ : [[<<วันนี้วันดีนะได้คุยกันพร้อมหน้าเลยนะลูก ไอ้หมา ใบหม่อน โตขึ้นอีกปีแล้วนะหลานรักของแม่คุณ>>]]

ใบหม่อน : [[<<แม่คุณจ๋า หนูคิดถึงแม่คุณจังเลย เสียดายไม่ได้กอดแม่คุณเลยอ่า>>]]

แม่คุณ : [[<<แม่คุณก็คิดถึงหนูเหมือนกันแหละจ้าหนู คิดถึงหลานๆ ทั้งสองคนมากเลย กลับมาหาแม่คุณบ้างนะไอ้หมา แม่คุณอยากกอดเอ็งกับนังหนูจะแย่แล้วเนี่ย>>]]

ป๊อป : [[<<ไว้ผมกับน้องว่างตรงกันเมื่อไหร่เดี๋ยวกลับไปหาแน่ๆ ครับ>>]]

แม่ : [[<<ให้มันจริงนะไอ้หมา เดี๋ยวก็ไม่ว่าง ติดงาน ติดนั่นติดนี่อีก แม่รอจนรากจะงอกแล้วนะลูก>>]]

ป๊อป : [[<<โธ่แม่ ไว้ว่างผมกลับแน่ครับ>>]]

ใบหม่อน : [[<<แม่จ๋า อย่าเชื่อพี่ป๊อปมาก พี่ป๊อปขี้โม้ เดี๋ยวก็ติดงานอีก>>]]

พ่อ : [[<<นี่ไอ้หมา ไม่ชวนลูกสะใภ้ของพ่อมาคุยหน่อยเหรอ เห็นว่าอยู่กันพร้อมหน้านี่>>]]

ป๊อปนึกขึ้นได้ รีบละสายตาจากหน้าจอมือถือ เงยหน้าขึ้นมาเรียกแฟนสาวที่กำลังละเลียดเค้กอย่างเอร็ดอร่อย “พัชรๆ พ่อแม่เราอยากคุยด้วย”

พัชรเงยหน้าขึ้นสบตากับคนรัก กลีบปากเรียวเล็กยังเลอะเค้กอยู่ มือเล็กเอื้อมไปหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปากให้เรียบร้อยก่อนลุกเดินมาอยู่ข้างๆ แฟนหนุ่ม ยกมือไหว้คนที่อยู่ปลายสายด้วยกิริยาเรียบร้อยตามปกตินิสัย

พัชร : [[สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่ คุณยาย]]

แม่คุณ : [[<<ไหว้พระเถอะลูก>>]]

แม่ : [[<<สวัสดีจ้าพัชร สบายดีนะลูก>>]]

พัชร : [[สบายดีค่ะคุณแม่ เนี่ยหนูเองก็อยากไปเจอคุณพ่อคุณแม่เหมือนกันนะคะ แต่ป๊อปยังไม่พาหนูไปหาสักที]]

แม่ : [[(ยิ้ม) <<งั้นหนูพัชรต้องช่วยแม่หน่อยนะลูก ช่วยพาให้ไอ้หมากลับบ้านมาหาแม่ทีนะลูก>>]]

สองสาวพร้อมใจกันหันมายิ้มและหัวเราะใส่เจ้าของวันเกิดราวกับนัดหมายกันมาหลังจากปลายสายพูดจบ ทำเอาชายหนุ่มถึงกับหน้าเสีย รีบพูดตัดบทก่อนที่จะลุกลามไปมากกว่านี้

ป๊อป : [[<<แม่อย่าพูดกับพัชรแบบนี้สิครับ ผมรู้สึกผิดแล้วนะครับเนี่ย>>]]

แม่ : [[<<ก็ลูกชายแท้ๆ ของแม่ไม่ยอมกลับบ้านสักที นี่แม่ส่งนังหนูใบหม่อนไปดูแลและลากเอ็งกลับก็แล้วเอ็งก็ไม่ยอมมา แม่เลยต้องยืมมือลูกสะใภ้นี่แหละ ฮึ>>]]

พ่อ : [[<<ฮ่าๆ นี่แม่อย่าไปแกล้งไอ้หมามันมาก สงสารมัน ดูสิ หน้าเสียหมดแล้ว ฮ่าๆ>>]]

ปลายสายพร้อมใจกันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าห่อเหี่ยวของลูกชายคนโต ด้านผู้เป็นพ่อเริ่มเปิดฉากแหย่ลูกชายคนโตต่อโดยมีลูกสาวคนเล็กเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย

พ่อ : [[<<เดี๋ยวนี้ไอ้หมามีฉากเลิฟซีนแล้วเหรอลูก ฮ่าๆ จูบกับหนูพัชรอย่างดูดดื่มเลยนะ>>]]

คราวนี้ป๊อปหันไปมองหน้าคนรักที่กำลังหันมาพอดี ต่างฝ่ายต่างส่งสายตาบ่งบอกความรู้สึกของกันและกัน นึกสงสัยว่าพ่อรู้ได้ยังไงเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน

แม่ : [[<<แน่ะๆๆๆๆ ไอ้หมาเดี๋ยวนี้จูบหนูพัชรออกสื่อเลยเหรอลูก จะแต่งเมื่อไหร่บอกแม่นะลูก แม่จะได้เตรียมสินสอดให้ทัน ฮิๆ>>]]

ป๊อป : [[<<พ่อแม่ใจเย็นๆ ก่อนครับ ผมยังไม่รีบครับตอนนี้>>]]

ด้านใบหม่อนยิ้มร้าย แอบเหล่ตามองพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ที่กำลังแก้ข้อกล่าวหากับพ่อแม่อยู่ นึกย้อนไปถึงวันแรกก่อนมาอยู่ด้วยกัน คำสั่งของแม่ยังคงก้องอยู่ในหู และตอนนี้เจ้าตัวเริ่มดำเนินการตามแผนขั้นแรกแล้ว

แม่คุณ : [[<<ไอ้หมาเอ๊ย รู้จักให้เกียรติผู้หญิงหน่อยสิลูก ไปละลาบละล้วงเขาแบบนี้ระวังเขาจะเสียหายนะลูก รีบตกรีบแต่งซะจะได้ถูกต้องตามประเพณี>>]]

นัยน์ตาสองชั้นหลบชำเลืองมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังแดงก่ำด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ลอบถอนหายใจเบาๆ ตอนนี้ตัวเองยังไม่พร้อมกับการใช้ชีวิตคู่แบบจริงจังสักที ไม่กล้าแม้แต่จะขอคนรักแต่งงานเลยแม้แต่ครั้งเดียว รู้ตัวอยู่ว่าตัวเองยังไม่มีหลักฐานมั่นคงพอที่จะดูแลคนรักได้

พัชร : [[คุณยายขา หนูรอได้ค่ะ ไว้ป๊อปเขาพร้อมจริงๆ คุณยายเตรียมมาเป็นเถ้าแก่สู่ขอหนูได้เลยค่า]] พัชรรีบแก้สถานการณ์หลังจากหันไปสบตากับคนรัก เห็นร่องรอยของความไม่มั่นใจอยู่

แม่ : [[<<ไอ้หมาไม่ต้องคิดมากนะลูก แม่ใจคอไม่ดีเลยที่เห็นเอ็งเป็นแบบนี้ แม่คุณเขาพูดไปงั้นแหละลูก แม่คุณเขาเป็นห่วงเอ็งนะลูก>>]]

ป๊อป : (หันไปมองหน้าคนรักก่อนกุมมือของอีกฝ่ายไว้) [[<<เอาน่าครับ พ่อ แม่ แม่คุณ ไม่นานเกินรอครับ ยังไงผมต้องให้แม่คุณไปสู่ขอพัชรให้ผมอยู่แล้วครับ>>]] พูดจบปากหยักคลี่ยิ้มบางๆ อย่างน้อยพอให้ปลายสายเห็นแล้วรู้สึกสบายใจบ้าง

ใบหม่อน : [[<<พ่อจ๋า แม่จ๋า แม่คุณจ๋า สงสัยโบ้ได้มาขอหนูก่อนพี่ป๊อปไปขอพี่พัชรแล้วมั้ง คริๆ>>]]

แม่ : [[<<นี่ใบหม่อนลูก ถ้าน้องแต่งก่อนพี่นี่พี่ขึ้นคานเลยนะลูก โบราณเขาถือ ใบหม่อนอยากเห็นไอ้หมามันขึ้นคานเหรอไงจ๊ะลูกหืม>>]]

ใบหม่อน : [[<<ไม่ใช่จ้าแม่ ก็พี่ป๊อปมัวแต่รอๆๆ อยู่นั่น หนูก็อยากอุ้มหลานเหมือนกันนะคะแม่ขา>>]]

ทันใดนั้นสาวเจ้ารู้สึกจิกๆ เหนือศีรษะตัวเอง ดวงตากลมโตเงยขึ้นมองเห็นมือใหญ่ที่คุ้นเคยกำลังจับจุกที่เกล้าไว้เหนือศีรษะโยกไปโยกมาอยู่ “<<พี่ป๊อป ไม่ต้องมาเล่นผมหนูเลยนะ>>” ใบหม่อนหันไปมองจิกใส่คนทำหน้าทะเล้น มือเล็กเอื้อมไปตีแขนของอีกฝ่ายเบาๆ เป็นเชิงปราม

พ่อ : [[<<ไอ้หมาเอ๊ยอย่าไปแกล้งน้องเขาสิลูก อายุสามสิบกว่าแล้วนะ แกล้งน้องเป็นเด็กๆ ไปได้>>]] ผู้เป็นพ่อต้องเอ่ยปรามด้วยอีกแรงหนึ่ง

ใบหม่อน : [[<<จัดการเลยค่ะพ่อ พี่ป๊อปชอบแกล้งหนู>>]] พูดจบดวงตากลมโตคู่สวยส่งค้อนวงใหญ่ให้คนขี้แกล้งอีกหนึ่งที

แม่ : [[<<ไอ้หมา ใบหม่อนลูกแม่ ตอนนี้เราสองคนโตๆ กันแล้วนะลูกไม่ใช่เด็กๆ ที่จะเอาแต่เล่นสนุกแกล้งกันไปแกล้งกันมา ไอ้หมา เอ็งเป็นพี่ก็ต้องปกป้องดูแลน้องสิลูกไม่ใช่เอาแต่แกล้งน้องแบบนี้ ใบหม่อนก็เหมือนกัน หนูเป็นน้องก็มีอะไรช่วยบอกช่วยเตือนช่วยแบ่งเบาพี่เขาได้ก็ช่วยเขาหน่อยนะลูก เรามีกันสองคนพี่น้องนะ รักกันให้มากๆ นะลูก>>]]

ป๊อป/ใบหม่อน : [[<<ครับ/ค่ะ แม่>>]]

แม่ : [[<<หนูพัชร แม่ฝากดูแลลูกชายของแม่ด้วยนะลูก>>]]

พัชร : [[<<ได้เลยค่ะคุณแม่>>]]

สองพี่น้องหันไปมองหญิงสาวเป็นตาเดียวกันด้วยอาการแปลกใจระคนตกใจของทั้งคู่ที่ได้ยินคำตอบเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา และก็เป็นเจ้าของวันเกิดที่เริ่มแซวขึ้นมาก่อน

“ง่อว... พัชรพูดเหน่อเป็นแล้ว ฮิๆๆๆ”

แม่ : [[<<นี่สิว่าที่ลูกสะใภ้คนสุพรรณฯ ต้องพูดเหน่อแบบนี้แหละลูก ฮิๆ>>]]

พัชรถึงกับรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าเมื่อโดนทั้งคนรักและว่าที่แม่สามีออกปากแซวที่ตัวเองหลุดพูดเหน่อออกไป ตอนนี้ใบหน้าสวยหวานเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับลูกตำลึงสุกไปแล้ว หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวไม่หยุดด้วยอาการตื่นเต้น และแล้วมือเล็กยื่นมาตีที่ท่อนแขนหนาของคนรักเบาๆ หนึ่งที

“นี่ป๊อป แซวเค้าเหรอ” พัชรว่าให้ไม่จริงจังนัก ตอนนี้เจ้าตัวเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว

“<<พี่พัชรพูดเหน่อเพราะจังเลยค่า>>” ใบหม่อนเอ่ยขึ้น กลีบปากอวบอิ่มฉีกยิ้มหวานหลังจากพูดจบ

แม่ : [[<<ไอ้หมา ใบหม่อน หนูพัชร แค่นี้ก่อนนะลูก แม่ขอให้ลูกๆ ทั้งสามมีความสุขมากๆ นะ ว่างๆ โทร.หาพ่อ แม่กับแม่คุณบ้างนะลูก ที่บ้านคิดถึงลูกๆ กันหมดแล้วนะ ไอ้หมาดูแลน้องด้วยนะลูก>>]]

ป๊อป : [[<<ครับแม่ พวกผมก็คิดถึงพ่อแม่กับแม่คุณเหมือนกันครับ>>]]

สายถูกตัดไปหลังจากร่ำลากันเสร็จเรียบร้อย เหลือไว้แต่เพียงความประทับใจที่ได้เห็นทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้งถึงแม้จะเป็นเพียงผ่านการวีดีโอคอลก็ตาม ชายหนุ่มเจ้าของวันเกิดแอบชำเลืองมองน้องสาวตัวเองที่หันกลับไปละเลียดเค้กที่เหลืออีกครั้ง ปากหยักคลี่ยิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุข ย้อนนึกไปยังช่วงเวลาที่แม่วีดีโอคอลมาหา เห็นน้องสาวร่าเริงเป็นพิเศษ ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกคิดถึงบ้านให้มากขึ้นไปอีก เขาละสายตาจากคนข้างๆ หันกลับไปหาคนรักที่นั่งอยู่ตรงข้ามพร้อมกับคลี่ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก สังเกตเห็นใบหน้าขาวกระจ่างใสยังมีร่องรอยของอาการเขินอายอยู่ เห็นคิ้วเรียวสวยเริ่มขมวดมุ่นพร้อมกับส่งสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามมาหา

“ป๊อปมองหน้าเค้าแบบนี้หมายความว่ายังไงอ่ะ ตลกเค้าเหรอ”

“เหอะเปล่าเลย” ป๊อปรีบทำไขสือ นัยน์ตาสองชั้นหลบเริ่มฉายแววกรุ้มกริ่ม “ก็แฟนเราสวยขนาดนี้จะไม่ให้มองได้ไงล่ะ”

“อีตาบ้า ไม่ต้องเลย” เสียงหวานแหวใส่ “กินเค้กไป จะได้รีบเก็บจานล้าง ชิ”

ป๊อปก้มหน้าก้มตาลงกินเค้กแต่โดยดี ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดอีก รู้อยู่แล้วว่าที่คนรักแกล้งตวาดใส่เพราะกลบเกลื่อนอาการเขินอายที่มีอยู่ในตอนนี้ ทางด้านใบหม่อนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าว่าที่พี่สะใภ้สลับกับพี่ชายตัวเอง พยายามกลั้นขำไว้ แต่สุดท้ายก็เอาไม่อยู่จนต้องส่งเสียงหัวเราะออกมา

“<<พี่พัชรเขินจริงด้วยอ่ะพี่ป๊อป>>” เสียงใสเอ่ยกับพี่ชายพร้อมกับส่งยิ้มให้

ป๊อปคลี่ยิ้มน้อยๆ เชิงตอบรับ เห็นกลีบปากเรียวสวยกำลังฉีกยิ้มฟันขาวเลอะเค้กอยู่ มือหนาเอื้อมไปปาดคราบเค้กที่เลอะออก

“<<เค้กเลอะปากหมดแล้วใบหม่อน>>”

“<<พี่ป๊อปก็ด้วย กินยังไงเนี่ยเค้กเลอะหนวดหมดแล้ว>>” ใบหม่อนไม่ยอมแพ้เมื่อเห็นหนวดรกครึ้มเลอะเค้กจนเป็นสีขาวโพลนเห็นได้ชัด

มือเล็กหยิบทิชชู่กลางโต๊ะขึ้นมาขยุ้มๆ และเอาไปเช็ดบนหนวดของพี่ชาย รู้สึกจั๊กจี้ที่มือเล็กๆ เมื่อถูกหนวดตำเข้าอย่างจัง สาวเจ้าอดนึกถึงความรู้สึกของว่าที่พี่สะใภ้ตอนโดนหอมแก้มหรือโดนขโมยจูบไม่ได้ ขนาดตัวเองยังรู้สึกรำคาญขนาดนี้ แล้วว่าที่พี่สะใภ้จะไม่รู้สึกรำคาญหนวดเคราของพี่ชายตัวเองบ้างเลยเหรอ

พัชรก้มหน้าก้มตาละเลียดเค้กในจานจนหมดเกลี้ยงพร้อมกับอาการเขินอายที่หายไปพร้อมกับกินเค้กคำสุดท้ายเสร็จ ดวงตาคู่หวานเงยขึ้นชำเลืองมองสองพี่น้องที่นั่งอยู่ตรงหน้ากำลังละเลียดเค้กไปหยอกล้อกันไปตามประสา เห็นแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้

ทั้งสามช่วยกันเก็บจานหลังจากมื้อเย็นสุดพิเศษจบลง ด้านเจ้าของวันเกิดอย่างป๊อปหันไปช่วยแฟนสาวล้างจานตรงอ่างซิงค์หลังครัว ปล่อยให้ใบหม่อนเช็ดโต๊ะไป หลังจากสาวเจ้าเช็ดโต๊ะเสร็จ

“<<พี่ป๊อป หนูไปอาบน้ำก่อนน้า>>”

“<<อืมๆ เดี๋ยวที่เหลือพี่จัดการเอง ใบหม่อนไปอาบน้ำเถอะ>>”

ป๊อปแอบชำเลืองมองตามร่างสูงระหงที่เดินจากไปอย่างห่วงๆ ก่อนหันกลับมาช่วยแฟนสาวล้างจานต่อจนเสร็จในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก มือหนาหยิบจานที่เพิ่งล้างเสร็จใหม่ๆ ขึ้นไปจัดเรียงบนชั้นวางให้เหมือนเดิม

                                                                ................................................................................

สายลมหนาวพัดแผ่วๆ มาปะทะร่างบางของหญิงสาวที่ในตอนนี้มายืนดูวิวรอบๆ คอนโดฯ ในยามค่ำคืนที่ระยิบระยับไปด้วยแสงไฟอย่างเพลิดเพลินระหว่างรอเจ้าของวันเกิดอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ

ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินออกจากห้องนอนของตัวเองหลังจากอาบน้ำเสร็จ มองไปรอบๆ เห็นเพียงแต่ความว่างเปล่า ไร้เงาร่างบางระหงของแฟนสาว เขาสอดส่ายสายตามองหาอยู่สักพักหนึ่งแต่ก็หาไม่เจอ หันไปมองประตูห้องนอนของน้องสาวปิดเงียบอยู่  มือหนาเอื้อมมือไปเปิดประตูที่ยังไม่ได้ล็อกเพื่อจะดูว่าน้องสาวของเขาหลับแล้วหรือยัง ไม่ลืมที่จะเคาะประตูถามก่อนตามมารยาท

“<<ใบหม่อน พี่เข้าไปได้ไหม>>”                                                             

“<<เข้ามาสิพี่ป๊อป>>” เสียงใสเอ่ยอนุญาตดังแว่วมาเบาๆ

ไฟในห้องนอนยังเปิดอยู่ เห็นร่างสูงระหงนอนชันขาอยู่บนเตียงใหญ่กลางห้อง คนตัวใหญ่พาตัวเองเดินเข้าไปใกล้ๆ หญิงสาวที่กำลังเพลิดเพลินกับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมืออยู่ ทางด้านใบหม่อนเงยหน้าขึ้นมองหน้าผู้มาเยือนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามปนแปลกใจเล็กๆ ก่อนหันกลับไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนในมือต่อ

“<<พี่ป๊อปมีอิหยัง>>”

ป๊อปค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่งบนเตียง ยื่นมือเข้าไปเขย่าๆ ที่ไหล่บาง “<<ยังไม่นอนเหรอใบหม่อน>>”

“<<หึ>>” ใบหม่อนส่งเสียงปฏิเสธในลำคอ “<<หนูยังไม่ง่วงนี่พี่ป๊อป ไม่รู้จะทำอะไรเล่นมือถือหน่อยดีกว่า>>”

ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มบางๆ ส่งสายตามองดวงหน้ากลมกึ่งรูปไข่ของน้องสาวอย่างรู้ทัน “<<คุยกับโบ้อยู่เหรอ ฮิๆ>>”

ดวงตากลมโตคู่สวยปรายตามองหน้าคนถาม ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจ รู้เลยว่าต้องโดนพี่ชายล้ออีกแน่ๆ

“<<ไม่ต้องมายุ่งเลยพี่ป๊อป ไปหาพี่พัชรโน่นไป>>”

ป๊อปหัวเราะร่วนเมื่อถูกออกปากไล่ “<<นี่ใบหม่อน พี่ไม่อ่านแชตเรากับโบ้หรอกน่า>>”

“<<จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก พี่ป๊อปชอบล้อหนูกับโบ้อ่ะ>>” ใบหม่อนว่าเสียงสะบัดใส่ “<<ไปเลยพี่ป๊อป>>”

“<<ไม่ต้องไล่เดี๋ยวพี่ก็ไปแล้ว>>” ป๊อปพูดเสียงยานคาง คลี่ยิ้มน้อยๆ ให้กับคนทำท่าหงุดหงิดใส่ “<<พี่ไม่ล้อหรอกน่า ไม่อ่านด้วย พี่แค่แวะมาดูเฉยๆ ว่าน้องสาวพี่หลับแล้วหรือยังแค่นั้นเอง>>”

“<<จ้าพี่ชายสุดที่รัก>>” ใบหม่อนทำเสียงล้อเลียน ทำแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกใส่ “<<หนูคุยกับโบ้แป๊ปนึงก็นอนแล้ว ว่าแต่พี่ป๊อปเถอะ จะนั่งทำงานอดหลับอดนอนไหมเนี่ย หนูเป็นห่วงนะ>>”

ใบหม่อนปรับเข้าสู่โหมดจริงจังอย่างรวดเร็วจนป๊อปแทบตามไม่ทัน เมื่อกี้ยังเถียงกันอยู่เลย เห็นสีหน้าพี่ชายออกอาการเด๋อๆ แล้วรู้สึกตลกขึ้นมาจนสาวเจ้ากลั้นขำไว้ไม่อยู่แล้วในตอนนี้

“<<ใครว่าคืนนี้พี่จะทำงานล่ะ งานรอบนี้ส่งอาทิตย์หน้า เวลาทำเหลือๆ>>” ป๊อปปรับโทนเสียงตัวเองให้ราบเรียบที่สุดหลังจากเก็บทรงไม่อยู่ไปแล้วรอบหนึ่ง “<<เดี๋ยวพี่จะรีบเคลียร์งานให้เสร็จเลย พี่จะได้มีเวลาให้เราไงล่ะใบหม่อน>>”

“<<จริงอ่ะพี่ป๊อป>>” เสียงใสย้อนถามกลับมา “<<ไม่ใช่พี่ป๊อปรับงานต่ออีกล่ะ อย่าลืมนะศุกร์หน้าพี่ป๊อปจะพาหนูไปเที่ยวแม่กำปองน่ะ>>” คราวนี้ใบหม่อนวางสมาร์ทโฟนไว้ที่หัวเตียง หันมาย้ำกับคนเป็นพี่ชาย

“<<พี่ไม่ลืมหรอกค่ะ>>” ป๊อปให้คำมั่นกับหญิงสาว

“<<จ้า พี่ป๊อปไปหาพี่พัชรเถอะ หนูง่วงแล้วอ่ะ ฮ้าว…>>” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากเมื่อมีอาการหาวหวอดๆ

ป๊อปมองกิริยาท่าทางของหญิงสาวไปคลี่ยิ้มไปอย่างเอ็นดู ไม่ลืมที่จะทำหน้าที่เหมือนกับครั้งก่อนถ้าวันไหนที่เขาส่งน้องสาวเข้านอน ร่างสูงลุกขึ้นหยิบตุ๊กตาตัวหนึ่งสอดใต้ข้อพับขาเรียวสวย หันไปหยิบตุ๊กตา Asimo มาสอดไว้ใต้อ้อมแขนเรียวเล็ก ชำเลืองมองดวงตากลมโตคู่สวยที่กำลังปิดลงเป็นสัญลักษณ์บอกว่าขณะนี้หญิงสาวได้เข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว...

“<<นอนหลับฝันดีนะคะใบหม่อน>>”

ชายหนุ่มก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กของหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบากึ่งกระซิบเหมือนกับทุกครั้งก่อนเดินจากไป ไม่ลืมที่จะหันกลับมาปิดไฟห้องจนมืดสนิท...

คนตัวใหญ่เดินออกมาจากห้องนอนของน้องสาวพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ที่ผุดบนใบหน้ารกครึ้มด้วยหนวดเครา นัยน์ตาสองชั้นหลบมองไปข้างหน้า เห็นร่างบางของคนรักยืนพิงประตูกระจกเล่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูอยู่ รู้ในทันทีว่าสาวเจ้ากำลังรอเขาอยู่นั่นเอง ค่อยๆ เดินไปอย่างเงียบๆ กระทั่งมือหนาเลื่อนประตูกระจกเปิดให้ตัวเองออกไปที่ระเบียง ใบหน้าเรียวสวยหันมาเมื่อได้ยินเสียงประตูกระจกเลื่อนออก ดวงตาคู่สวยส่งสายตาบ่งบอกความรู้สึกบางอย่างให้ชายหนุ่มรับรู้

“รอเรานานไหมพัชร”

ป๊อปออกปากถามทันทีที่สบตากัน แอบรู้สึกผิดในใจที่ปล่อยให้คนรักของตัวเองรอนาน

“ไม่เป็นไรหรอกป๊อป คิดมากน่า” เสียงหวานเอ่ยตอบก่อนคลี่ยิ้มน้อยๆ เหมือนกับจะบอกคนรักว่าไม่ต้องคิดมาก “น้องใบหม่อนนอนแล้วเหรอป๊อป”

“น้องเรานอนแล้วล่ะพัชร” ป๊อปตอบด้วยเสียงแผ่วเบานิ่มนวล นัยน์ตาคมลอบมองใบหน้าสวยหวานที่มองยังไงก็ไม่เบื่อ ปากหยักได้รูปกยกยิ้มขึ้น ลอบมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มราวอำพันของคนรัก

เขาอดใจไม่ไหว มือทั้งสองข้างค่อยๆ โอบเอวคอดของหญิงสาวอย่างช้าๆ กระเถิบตัวเองแนบชิดกับร่างบาง ซึมซับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากครีมบำรุงผิวและโรลออนที่ฉาบทาไปทั่วเรือนกาย ขณะที่หญิงสาวค่อยๆ หลับตาพริ้มซึมซับความรู้สึกอบอุ่นจากอ้อมกอดของคนรักก่อนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา หันไปสบตากับคนรักหนึ่งที ค่อยๆ แกะท่อนแขนของคนรักออกก่อนที่จะหลอมละลายไปมากกว่านี้

ป๊อปไม่อยากจะขัดใจคนรักอีกจึงยอมคลายกอดแต่โดยดี แต่ยังคงกุมมือเล็กนุ่มลื่นพาให้หญิงสาวเดินไปที่ขอบระเบียงด้วยกัน

ต่างคนต่างแหงนหน้ามองดูพระจันทร์ครึ่งดวงในค่ำคืนนี้สลับกับมองบรรยากาศยามค่ำคืนที่ระยิบระยับไปด้วยแสงไฟทาง แสงไฟจากรถยนต์ที่แล่นผ่านไปมา แสงไฟจากคอนโดมิเนียมและตึกอีกหลายๆ หลังโดยรอบ ลมหนาวยิ่งทวีความรุนแรงพัดผ่านปะทะเรือนกายของทั้งสอง ยังคงกุมมือไว้แน่นราวกับกลัวว่าใครคนใดคนหนึ่งจะหายไป

“ขอบคุณพัชรมากเลยนะที่มาร่วมฉลองวันเกิดเราวันนี้ ขอบคุณจริงๆ”

ป๊อปเอ่ยขอบคุณคนรักขึ้นมา สายตาของเขายังจับจ้องไปยังวิวข้างหน้าก่อนหันกลับมามองใบหน้าขาวกระจ่างใสที่กำลังส่งยิ้มหวานให้เขาอยู่ในตอนนี้

“พัชรก็ขอบคุณป๊อปเหมือนกันนะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ป๊อปทำให้เค้า เค้าเองยินดีที่จะทำให้ป๊อปเหมือนกันแหละ”

เสียงหวานเอื้อนเอ่ยยืดยาว บอกความรู้สึกในใจทั้งหมดให้คนรักของเจ้าตัวได้รับรู้ ดวงตาคู่สวยมองใบหน้าที่ดูธรรมดา ไม่ได้มีความหล่อเหลาสะดุดตาแม้แต่น้อยแถมยังรกครึ้มด้วยหนวดเคราอีก แต่มองยังไงก็ดูมีเสน่ห์เสมอในความคิดของเจ้าตัว

“วันเกิดเราปีนี้เรารู้สึกพิเศษมากเลยนะพัชร นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้ฉลองวันเกิดในแบบที่อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้”

“เห็นป๊อปมีความสุขแบบนี้เค้าก็ดีใจแล้วล่ะป๊อป” เสียงหวานเว้นหายใจเล็กน้อย อดใจไม่ไหวหันไปจุ๊บแก้มสากของคนรักเบาๆ หนึ่งที “เค้าดีใจมากเลยที่ป๊อปเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอดตั้งแต่เริ่มคบกับเค้า สิ่งที่ป๊อปทำตอนนี้เค้ารู้แล้วว่าป๊อปรักเค้ามากขนาดไหน ถึงป๊อปจะดูบ้างานมากไปหน่อยก็เถอะ คริๆ”

“เราขอโทษนะพัชรที่บางครั้งเราแทบไม่มีเวลาให้พัชรเลย”

ป๊อปออกปากขอโทษกับหญิงสาว เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาในใจอีกครั้ง มือหนายิ่งกุมมือเล็กนุ่มนิ่มให้แน่นกว่าเดิม

“ไม่ต้องคิดมากนะคะที่รัก เค้ารู้ว่าเพราะอะไรที่ป๊อปต้องทำงานหนักแบบนี้ เค้ารอได้เสมอแหละ”

เมื่อได้ฟังคำตอบจากแฟนสาว ตอนนี้หัวใจของเขาพองโตขึ้นอย่างบอกไม่ถูก อดไม่ได้แล้วที่จะแสดงความรักให้หญิงสาวได้เห็น ทั้งสองต่างโน้มหน้าเข้าหากันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย ริมฝีปากหยักค่อยๆ ประทับลงบนกลีบปากเรียวบางที่ฉาบทาด้วยลิปกลอสก่อนสอดลิ้นเข้าไปในช่องปากเล็กตวัดเกี่ยวกับลิ้นเล็กของหญิงสาวที่ตวัดเข้ามาสอดหากัน ซึมซับรสจูบอันแสนหวานโดยมีสายลมหนาวที่พัดผ่านเป็นพยานแห่งความรักในค่ำคืนนี้...

‘ขอบคุณพัชรมากเลยนะ ขอบคุณจริงๆ ที่พัชรอยู่เคียงข้างเรามาตลอด เราสัญญานะ เราจะรีบเก็บเงินขอพัชรแต่งงาน เราสัญญาว่าเราจะดูแลพัชรตลอดไปเท่าที่เราจะทำได้นะ’

‘ป๊อป เค้าดีใจมากเลยนะที่ได้คบกับป๊อป ถึงป๊อปจะเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เพอร์เฟกต์อะไรเลย แต่เค้าก็รู้ว่าป๊อปจริงใจกับเค้ามากขนาดไหน ถึงจะนานแค่ไหนเค้ารอป๊อปมาขอเค้าแต่งงานนะ เค้าสัญญาว่าเค้าจะดูแลป๊อปให้เหมือนกับที่ป๊อปดูแลเค้ามาตลอดนะ รักนะคะ’

เสียงในหัวใจของทั้งคู่เริ่มเอื้อนเอ่ยความรู้สึกของกันและกัน แต่ไม่ได้พูดออกมา เพราะรสจูบอันแสนหวานที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้กันทำหน้าที่พูดแทนทั้งคู่ไปแล้ว...

                                                          ………………………………………………..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา