เจ้าหญิงของฉัน
เขียนโดย POPENGL
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 04.39 น.
แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 04.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) I’d Have You Anytime
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเวลาผ่านล่วงเลยไปจนถึงสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน
@@Bewpetch@@ : พี่ป๊อป ว่างป่ะ :
ข้อความจากแอพพลิเคชั่นสีเขียวเด้งขึ้นบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องหรู ป๊อปเห็นดังนั้นจึงละสายตาลงจากหน้าจอไอแม็คคู่กาย หยิบขึ้นมาอ่านข้อความที่โปรดิวเซอร์รุ่นน้องส่งม
@@POPENGL@@ : มีอะไรเหรอบิวตี้ :
@@Bewpetch@@ : พี่ป๊อป มีงานด่วน งานโฆษณาสุขภัณฑ์น่ะพี่ป๊อป ทำสิบเจ็ดรูป ที่จริงสเกลงานมันต้องหนึ่งเดือน แต่ลูกค้าจะเอาให้ได้ในอาทิตย์นี้อ่ะ และลูกค้าเจาะจงด้วยว่าให้พี่ทำเท่านั้น :
“เฮ้ย” เขาสบถขึ้นมาหลังจากอ่านข้อความจบ นิ้วมือหนารีบพิมพ์ตอบกลับไปอย่างร้อนรน
@@POPENGL@@ : เดี๋ยวบิวตี้ งานสเกลหนึ่งเดือนแต่ต้องทำให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์เนี่ยนะ คุยกับลูกค้าดีหรือยังถึงส่งมาให้พี่เนี่ย :
@@Bewpetch@@ : หนูคุยจนไม่รู้จะคุยยังไงแล้วพี่ป๊อป ลูกค้ายืนยันคำเดียวเลยว่าต้องเสร็จภายในอาทิตย์นี้เท่านั้น เนี่ยเดี๋ยวหนูส่งงานให้พี่เลยนะ ลูกค้าท่าทางงี่เง่าด้วยล่ะ :
@@POPENGL@@ : เฮ้ย ลองต่อรองลูกค้าใหม่ดิ๊ เชี่ย งานสเกลหนึ่งเดือนแต่จะเอาให้เสร็จภายในอาทิตย์เดียว ต่อให้สองคนช่วยกันทำยังไงก็ไม่ทัน และพี่ทำคนเดียวด้วย งานหลุดอย่ามาว่ากันนะเว้ย กำหนดเวลามาแบบนี้อ่ะ :
@@Bewpetch@@ : ถือว่าช่วยหนูละกันนะพี่ป๊อป บอสก็โยนงานมาให้หนูอย่างเดียวเลย แค่นี้หนูก็เครียดจะแย่แล้วพี่ แต่ยังไงเดี๋ยวหนูจะลองต่อรองกับลูกค้าให้อีกทีนะพี่ป๊อป เอ้านี่งาน :
ไฟล์งานถูกส่งเข้ามายังอีเมล์ส่วนตัวของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว เจ้าตัวรีบเปิดหน้างานดูทันทีที่ไฟล์งานมาถึง แต่แล้วเขาก็แทบช็อกเมื่อเห็นรูปโฆษณาทั้งสิบเจ็ดรูปตรงหน้า กับระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
ป๊อปถึงกับกุมขมับ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ อาการเครียดเริ่มแล่นปราดเข้ามาในหัวสมองของเขา ยิ่งย้อนนึกถึงข้อความที่โปรดิวเซอร์ประจำตัวเขาส่งมาเมื่อสักครู่ในไลน์ก็ยิ่งทำให้เขาหน้ามืด คิดอะไรไม่ออกแล้วในตอนนี้ และด้วยความเกรงใจเอเจนซีที่เขารับงานอยู่ทำให้เขาต้องยอมรับงานมาทำ ทั้งที่รู้ว่ามันอาจจะทำให้เขาไม่ได้นอนไปอีกหลายคืนในสัปดาห์นี้
“เฮ้อ งานสเกลใหญ่ตั้งเดือน แต่ให้ทำแค่อาทิตย์เดียว เชี่ยเอ๊ย ยังไงก็ต้องทำให้ทันล่ะวะ” ป๊อปพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ตอนนี้เขาคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงต่อ ในเมื่อโปรดิวเซอร์ออกปากขอร้องถึงขนาดนี้ ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ทักท้วงอะไรเลย มีเพียงแค่ว่าโปรดิวเซอร์จะช่วยต่อรองเรื่องเวลาให้เท่านั้นที่พอทำให้เขาใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง แต่เมื่อได้รับงานมาแล้ว เขาตัดสินใจเริ่มลงมือทำงานชิ้นนี้ทันที แต่เมื่อได้เห็นบรีฟงานเท่านั้น…
“เชี่ย นี่มันอะไรวะเนี่ย คอนเซปต์แม่งแปลกๆ สีก็ไม่ได้กำหนดมาให้ ดีเทลก็ไม่เคลียร์ โวะ แล้วจะทำยังไงดีวะเนี่ย”
เขาสบถออกมาเมื่อได้เห็นหน้างานทั้งหมด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกค้าถึงอยากให้เขาทำให้เพียงผู้เดียว ทั้งๆ ที่ยังมีมือรีทัชเชอร์ที่ฝีมือดีกว่าเขาตั้งเยอะแต่ลูกค้ากลับไม่ให้คนอื่นทำเลย และเขาเพิ่งได้พักหลังจากจบโปรเจกต์ที่แล้วได้เพียงแค่สองวันเท่านั้น
ป๊อปเริ่มลงมือทำงานทันทีหลังจากอ่านบรีฟงานจบ นัยน์ตาสองชั้นหลบภายใต้แว่นกรองแสงจ้องเขม็งไปที่ตัวงานบนหน้าจอ มือซ้ายจับเมาส์ปากกาลากไปบนแป้นออกคำสั่งในโปรแกรมรีทัชที่เขาใช้งานเป็นประจำลงมือรีทัชภาพแรกของงานนี้อย่างคล่องแคล่ว แต่สมองของเขาตอนนี้กำลังปรับจูนอยู่หลังจากเกิดอาการเครียดมาก่อนหน้านี้
เวลาผ่านไปเกือบๆ สองชั่วโมง ป๊อปยิ่งเคร่งเครียดกับงานตรงหน้ามากขึ้นเพราะต้องไล่แก้ปัญหาทีละจุดกับคิดไอเดียสดใส่เข้าไปเพราะบรีฟที่ให้มานั้นไม่ละเอียดละออหรืออ่านแทบไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย ยิ่งทำยิ่งเจอปัญหามากขึ้นเพราะมิติของภาพที่ให้มาค่อนข้างรีทัชยากถึงยากมาก และยิ่งระยะเวลาในการทำงานอันแสนสั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ยิ่งทำให้เขารู้สึกกดดันมากขึ้นกว่าเดิม
“นี่มึงจะฆ่ากูให้ได้เลยใช่ไหม สัส” เขาสบถขึ้นมาอีกครั้งหลังพบปัญหาในงานที่ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
เขายังคงคร่ำเคร่งกับงานตรงหน้า สมาธิทั้งหมดโฟกัสไปกับงานจนแทบจะไม่รับรู้สิ่งรอบข้างอื่นใด เสียงประตูห้องที่เปิดก็ไม่ได้ยิน ขณะเดียวกัน ร่างสูงระหงในชุดทำงานสุภาพก้มลงถอดรองเท้าผ้าใบราคาแพงวางบนชั้น ก่อนพาตัวเองเดินเข้าไปหาคนที่กำลังนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดอยู่
“<<พี่ป๊อปทำอิหยัง?>>”
เสียงใสน่าฟังแล่นกระทบโสตประสาทของชายหนุ่ม และนั่นทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ในการทำงานได้ ใบหน้าคร้ามสวมแว่นกรองแสงหันมาให้คำตอบกับคนที่เพิ่งถามเขาไปเมื่อสักครู่
“<<พี่ทำงานอยู่สิคะใบหม่อน>>” ป๊อปตอบด้วยเสียงที่เรียบเฉยก่อนหันกลับไปให้ความสนใจกับงานตรงหน้าต่อ “<<ใบหม่อน คืนนี้พี่อาจจะไม่ได้นอนนะ งานเร่งมากเลยเนี่ย มีอย่างเหรอ งานสเกลใหญ่แต่ให้เสร็จภายในอาทิตย์เดียว พี่ต้องรีบทำแล้วล่ะ>>”
ถึงหญิงสาวจะไม่เข้าใจลักษณะงานที่พี่ชายตัวเองทำมากนัก แต่ก็รู้ได้ว่าตอนนี้พี่ชายกำลังเครียดเป็นอย่างมาก ได้แต่ให้กำลังใจเท่านั้นเพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะช่วยอะไรพี่ชายคนนี้ได้
“<<จ้าพี่ป๊อป อย่าหักโหมน้า>>” ใบหม่อนเว้นหายใจเล็กน้อย “<<หนูไปอาบน้ำก่อนนะพี่ป๊อป เดี๋ยวทำกับข้าวให้กิน พี่ป๊อปกินข้าวฝีมือหนูด้วยนะ ถ้าไม่กินหนูงอนไม่พูดกับพี่น้า>>”
ร่างสูงระหงเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง ปล่อยให้คนเป็นพี่ชายคร่ำเคร่งกับงานต่อไป
ปากหยักได้รูปยิ้มออกมาได้เป็นครั้งแรกหลังจากได้ยินกำลังใจดีๆ จากน้องสาวสุดที่รัก ยังไงเขาก็ไม่พลาดที่จะกินกับข้าวฝีมือของน้องสาวคนนี้อยู่แล้วถึงแม้งานตรงหน้าจะถาโถมมามากแค่ไหนก็ตาม
เวลาผ่านเลยไปจนถึงตอนหัวค่ำ
ป๊อปลงมือกินกับข้าวที่มีทั้งไข่เจียวหมูสับ ผัดกะหล่ำปลีและแกงจืดเต้าหู้หมูสับที่ใบหม่อนตั้งใจลงมือทำเอาใจพี่ชายคนนี้เป็นพิเศษ แต่ครั้งนี้แตกต่างจากทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาเมื่อชายหนุ่มเอาแต่ก้มหน้าก้มตากิน ไม่แม้แต่จะพูดคุยและสบสายตากับคนเป็นน้องสาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม ในใจของเขาตอนนี้คิดอย่างเดียว ต้องรีบกินจะได้กลับไปสะสางงานที่ทำค้างไว้ต่อ
ใบหม่อนนั่งดูปฏิกิริยาของคนเป็นพี่ชายอย่างอิดหนาระอาใจเล็กๆ ไม่คิดเลยว่าพี่ชายของตัวเองจะกลายเป็นคนบ้างานได้ถึงขนาดนี้
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นหลังจัดการข้าวในจานของตัวเองเสร็จ เดินถือจานไปล้างที่อ่างซิงค์ด้านหลังโต๊ะกินข้าวและคว่ำบนชั้นวางเสร็จ รีบกลับมานั่งประจำที่โต๊ะทำงานต่อ เข้าสู่โหมดทำงานอีกครั้ง ปล่อยให้ใบหม่อนมองตามอย่างระอาในใจระคนเป็นห่วง
“<<เดี๋ยวนี้พี่ป๊อปบ้างานจังเลยอ่ะ>>” ใบหม่อนตัดสินใจพูดออกมาตรงๆ
ป๊อปถึงกับหยุดชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนหันมาหาคนเป็นน้องสาว เห็นใบหน้าสวยหวานที่ดูเศร้าๆ ดวงตากลมโตคู่สวยเปล่งประกายแสดงความห่วงใยให้เห็น
“<<พี่รู้ว่าเราเป็นห่วงพี่นะใบหม่อน แต่ตอนนี้พี่กำลังเครียดมาก เพราะงานนี้มันเร่งจริง ลูกค้าเขาจะเอาให้ได้ในอาทิตย์นี้เลย ถ้าพี่ไม่ทำส่งนี่พี่เสียเครดิตเลยนะ ไม่งั้นพี่ไม่มีงานยาวจะแย่เอา พี่ก็ต้องหาเงินมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซัพพอร์ตเราด้วยน่ะ>>”
ป๊อปพยายามอธิบายให้น้องสาวฟัง น้ำเสียงเริ่มหดหู่ลงเรื่อยๆ
ใบหม่อนพยักหน้ารับฟังอย่างเข้าใจ แอบรู้สึกเห็นใจพี่ชายคนนี้อยู่ไม่น้อย เข้าใจว่าเพราะอะไรพี่ชายคนนี้ถึงมีเงินเก็บจนซื้อคอนโดฯ อยู่ได้ ใจหนึ่งไม่อยากให้พี่ชายหักโหมงานมากเกินไปจนไม่ดูแลตัวเอง แต่อีกใจหนึ่งอยากเอาใจช่วยให้ทำงานเสร็จไวๆ เผื่อพี่ชายคนนี้จะมีเวลาให้กับตัวเองบ้าง
“<<ที่จริงหนูก็ดีใจนะที่เห็นพี่ป๊อปมีความรับผิดชอบงานมากขึ้นน่ะ พี่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเยอะเลยนะ แต่หนูไม่ชอบที่พี่จะกลายเป็นคนบ้างานไปวันๆ ไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนไม่มีเวลาให้กับน้อง ให้กับคนอื่นเลย หนูไม่ชอบนะพี่ป๊อป>>”
“<<พี่เข้าใจนะใบหม่อน>>” ป๊อปว่าพร้อมกับยื่นมือเข้าไปบีบมือเล็กของน้องสาวที่ตอนนี้ยกเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ แล้ว “<<พี่ถึงต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จเพื่อที่จะมีเวลาให้เราไงล่ะ เราก็รู้นิสัยพี่ไม่ใช่เหรอว่าพี่ไม่ชอบปล่อยให้อะไรมันค้างคา>>”
“<<เพราะรู้นิสัยพี่นี่แหละหนูถึงต้องเตือนอ่ะ>>” ใบหม่อนย้อนให้ “<<พี่ป๊อปรู้ไหม ก่อนหนูมา แม่คุณกับพ่อแม่บอกหนูเลยนะว่าให้หนูมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ ให้ช่วยดูแลพี่ทุกอย่าง เพราะอะไรรู้ไหม ทุกคนเป็นห่วงพี่มากเลยนะ ไม่อยากให้พี่หักโหมกับงานจนมากเกินไปจนไม่ดูแลตัวเอง ไม่มีเวลาให้กับครอบครัวเลย หนูบอกพี่ตรงๆ นะ หนูน้อยใจมากที่พี่ชายของหนูไม่ยอมกลับบ้านมาหาหนูเลย นานๆ จะมาสักที ต้องให้หนูลงมาหาพี่เนี่ย ที่หนูต้องมาคอยบอกคอยเตือนนี่เพราะหนูรักพี่นะพี่ป๊อป>>”
เสียงใสเริ่มสั่นเครือเหมือนกับจะร้องไห้ ป๊อปได้ยินดังนั้นเริ่มรู้สึกหวิวๆ ในหัวใจ ความรู้สึกผิดเริ่มประเดประดังเข้ามาเรื่อยๆ เขายอมรับเลยว่าสิ่งที่น้องสาวของเขาพูดเป็นความจริงทุกอย่าง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาน้อยครั้งมากที่เขาจะกลับไปบ้าน น้อยครั้งมากที่จะได้เจอกับครอบครัว และตอนนี้ เขากำลังทำให้น้องสาวต้องร้องไห้ซะเอง
“<<พี่ก็รักเราเหมือนกันนะใบหม่อน>>” เสียงเข้มแผ่วเบาจนแทบจะกระซิบ นิ้วมือหนาเอื้อมไปเกลี่ยน้ำตาที่ล้นเอ่อรอบดวงตาคู่สวยอย่างเบามือ “<<พี่ขอโทษนะใบหม่อนที่พี่ไม่มีเวลาให้เราเลย จนเราต้องมาอยู่ด้วยกันกับพี่ตอนนี้ ยังไงสำหรับพี่แล้ว น้องสาวของพี่คนนี้เป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับพี่นะ>>”
“<<ไม่ต้องมาปากหวานเลยนะพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนย้อนให้อีกครั้ง “<<หนูขอร้องนะพี่ป๊อป พี่ป๊อปทำงานได้ แต่อย่าหักโหมจนเกินไป เข้าใจไหม>>” นิ้วมือเรียวสวยยกขึ้นชี้ไปที่ใบหน้าคร้ามจนแทบจะจิ้มอยู่แล้ว ดวงตากลมโตฉายแววดุใส่
“<<เข้าใจครับ น้องสาวหน้ากลมของพี่ ขิๆ>>”
ป๊อปตอบรับเสียงหนักแน่น ไม่ลืมที่จะล้อเลียนคนที่กำลังทำตัวเป็นแม่ และผลที่ได้ก็คือ…
“<<พี่ป๊อป!!! ทำไมชอบว่าหนูหน้ากลมอ่ะ หน้ากลมหมายความว่าอ้วนนะพี่ป๊อป>>”
ใบหม่อนว่าให้แบบไม่จริงจังนัก ยังไงก็โกรธพี่ชายคนนี้ไม่ลงอยู่แล้วถึงยอมปล่อยให้ล้อมาได้เป็นเวลานานเกือบยี่สิบปีถึงวันนี้ ลุกเดินหนีคนกวนประสาทกลับไปที่โต๊ะกินข้าว เก็บจานที่เหลือทั้งหมดไปล้างที่อ่างซิงค์ด้านหลัง
ป๊อบชำเลืองมองตามร่างสูงระหงของคนเป็นน้องสาวที่เดินจากไป พร้อมกับระบายยิ้มบางๆ แต่ยังแฝงความกังวลใจไว้ข้างใน เขานึกในใจขึ้นมา ‘ใบหม่อน เดี๋ยวพี่จะรีบเคลียร์งานให้เสร็จนะ พี่จะได้มีเวลาให้กับเราบ้าง’
..............................................................................................
ใบหม่อนยึดพื้นที่โซฟาใหญ่หน้าทีวีในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเล่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสลับกับดูละครอยู่เป็นเพื่อนกับป๊อปที่กำลังเคร่งเครียดกับการทำงานอยู่ตั้งแต่กินข้าวเสร็จช่วงหัวค่ำ จนเวลาล่วงเลยมาได้ราวๆ สองชั่วโมงเศษพร้อมกับละครหลังข่าวจบลงพอดี
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยหลังจากเกิดอาการล้าจากการนั่งทำงานอยู่เป็นเวลานาน เห็นเจ้าของร่างสูงระหงนอนเล่นสมาร์ทโฟนในมืออยู่
“<<ใบหม่อน ยังไม่นอนเหรอ นี่สี่ทุ่มกว่าแล้วนะ พรุ่งนี้ตื่นไปทำงานสายพี่ไม่รู้ด้วยนะ>>”
“<<หึ หนูยังไม่ง่วงอ่ะพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม “<<ว่าแต่พี่ป๊อปเหอะ ไม่ง่วงนอนเหรอไง มาไล่หนูให้ไปนอนเนี่ย>>”
“<<พี่บอกแล้วไงคะว่าพี่ไม่ได้นอนคืนนี้น่ะ>>” ป๊อปเอ่ยด้วยเสียงที่นุ่มลึกลงกว่าเดิม “<<คืนนี้พี่คงต้องยอมอดนอนน่ะ เพราะงานมันจ่อคอหอยขนาดนี้แล้ว ขืนทำเสร็จไม่ทัน ลูกค้าด่าตาย มันเสียถึงเอเจนซีที่พี่ร่วมงานด้วย และพี่เองก็เสียเครดิตด้วยน่ะ เผลอๆ ต้องเปลี่ยนงานใหม่เลยด้วยซ้ำ>>”
ใบหม่อนเงียบไปสักพักหลังจากฟังเหตุผลของคนเป็นพี่ชาย ในใจแอบเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แต่ก็ต้องยอมจำนนตามเพราะรู้ว่าถ้าพี่ชายตัวเองทำงานไม่เสร็จตามกำหนด อาจส่งผลทำให้ตกงานยาวเลยก็เป็นได้
“<<งืมๆ ตามใจพี่ป๊อปละกัน หนูยังไม่ง่วงอ่ะ เดี๋ยวหนูอยู่เป็นเพื่อนพี่ป๊อปละกันน้า>>” พูดจบสาวเจ้าหันกลับไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมือต่อ เพิ่มเติมเพียงเสียบพาวเวอร์แบงก์เท่านั้น
ป๊อปหันกลับไปทำงานอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเห็นหน้างานที่ตอนนี้เขาเพิ่งรีทัชเสร็จไปสองรูปเท่านั้น กับอีกสิบห้ารูปที่เหลือและปัญหาอีกมากมายที่เขาต้องแก้ ยิ่งทำให้รู้สึกท้อใจอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อกำลังใจดีๆ อย่างน้องสาวที่ยอมนอนดึกเพื่ออยู่เป็นเพื่อนแล้ว ทำให้ไม่ลังเลที่จะลุยงานต่อ ถึงแม้ว่ารูปหนึ่งจะใช้เวลารีทัชยาวนานแค่ไหนก็ตาม จนเวลาผ่านล่วงเลยไปอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ
“<<ใบหม่อน ไปนอนเถอะ ไม่ต้องห่วงพี่หรอก>>”
ป๊อปพาตัวเองเดินไปบอกกับคนเป็นน้องสาวถึงที่ มือหนาเอื้อมไปโยกมวยผมเหนือศีรษะสวยได้รูปของอีกฝ่ายไปมา
“<<พี่ป๊อป อย่าเล่นผมหนูสิ>>” ใบหม่อนว่าเสียงสะบัด ทำหน้าบูดบึ้งใส่ “<<งั้นหนูเข้านอนก่อนนะพี่ป๊อป พรุ่งนี้เจอกันน้า ไม่ไหวอย่าฝืนล่ะพี่ป๊อป หนูเป็นห่วงพี่น้า>>”
พูดจบร่างสูงระหงโผเข้ากอดคนตัวใหญ่ให้กำลังใจก่อนหนึ่งทีก่อนผละออกในเวลาต่อมา พาตัวเองเดินไปยังห้องนอนด้านหลังโต๊ะทำงานในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก ปล่อยให้คนที่โดนกอดยืนยิ้มอยู่คนเดียว
‘ขอบคุณมากนะใบหม่อน ที่ทนอยู่เป็นเพื่อนพี่ถึงตอนนี้ พี่ขอโทษนะที่พี่เอาแต่ทำงานน่ะ’
ป๊อปนึกในใจระหว่างหันไปมองประตูห้องนอนของน้องสาว พาตัวเองเดินกลับไปสะสางงานบนหน้าจอไอแม็คต่อหลังจากได้รับกำลังใจดีๆ ผ่านอ้อมกอดอันอบอุ่น ฝากกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดเรือนกายไว้ มือข้างซ้ายหยิบเมาส์ปากกาขึ้นมาลากไปบนแป้นออกคำสั่งให้แก้ไขรีทัชหน้างานบนหน้าจอไปเรื่อยๆ อย่างคล่องแคล่ว ตอนนี้หัวสมองของเขารู้สึกปลอดโปร่งขึ้นกว่าตอนแรก เริ่มคิดไอเดียใหม่ๆ ที่พอจะเข้ากับหน้างานตรงนี้ได้ จวบจนผ่านไปได้สักพักเมื่อเขาทำงานไปได้แล้วครึ่งหนึ่งของรูปที่สาม เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นสีเขียวดังขึ้นมา มือหนาวางเมาส์ปากกาลง เอื้อมไปหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของตัวเองขึ้นมาดูหน้าจอ
@@Bewpetch@@ : พี่ป๊อป หนูมีข่าวดีมาบอกพี่ด้วยแหละ :
@@POPENGL@@ : ว่าไงเหรอบิวตี้ อย่าบอกนะว่ากำหนดส่งร่นมาเร็วขึ้นน่ะ พี่ตายนะเว้ย:
นิ้วมือหนาพิมพ์โต้ตอบกลับไป และด้วยความคิดมากของเขาทำให้ตัดสินใจพิมพ์ตอบกลับไปแบบนั้น
@@Bewpetch@@ : ไม่ใช่แล้วๆ พี่ป๊อป คือหนูต่อรองกับลูกค้าได้แล้วนะ พี่นุ่นเขาก็ช่วยคุยกับลูกค้าให้ด้วย :
@@POPENGL@@ : ยังไงล่ะบิวตี้ :
เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยหลังจากอ่านข้อความปลายทางจบ พิมพ์โต้ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว อยากรู้ว่าโปรดิวเซอร์คู่ใจจะบอกอะไรกับเขาต่อ
@@Bewpetch@@ : เขายอมขยายเวลาให้ได้แค่สองวันอ่ะพี่ นี่คือรวมเวลาแก้แล้วนะ ลูกค้าเจ้านี้เขี้ยวมากๆ :
@@POPENGL@@ : เฮ้ย อาทิตย์กับสองวัน ต่อให้ระดมมือรีทัชเชอร์อันดับต้นๆ ในวงการมาช่วยกันยังไงก็ไม่ทันนะเว้ย เชี่ย แล้วพี่จะทำทันไหมวะ :
@@Bewpetch@@ : หนูก็ช่วยพี่ได้เท่านี้แหละ ยังไงพี่ป๊อปอดทนหน่อยนะ พี่ป๊อปเคยสอนหนูไม่ใช่เหรอเรื่องความรับผิดชอบในงานอ่ะ :
@@POPENGL@@ : ก็ใช่ไง แต่นี่มันเกินไปเปล่าวะ มีเวลาแค่เก้าวันกับงานสเกลใหญ่ขนาดนี้ เอาน่ะ ถ้าเละ หลุดยังไง พี่ยอมเสียเครดิตนะเว้ย แต่อย่าให้เรากับเอเจนซีเสียเครดิตไปกับพี่ก็พอแล้ว :
@@Bewpetch@@ : หรือมีอีกวิธีนึง เอางี้ไหมล่ะ พี่ส่งงานอีกครึ่งให้เพื่อนหนูอีกคนช่วยทำไหม คนนี้ฝีมือใกล้ๆ พี่เลยนะ :
@@POPENGL@@ : จะดีเหรอวะบิวตี้ ลูกค้าเขาเจาะจงพี่แบบนี้ ถ้าให้คนอื่นทำยังไงมันก็จับได้ เอาน่า พี่จัดการเอง นี่เสร็จไปสองรูปแล้ว พี่อดนอนสักสองสามคืนน่าจะทัน :
@@Bewpetch@@ : งั้นก็ตามใจพี่ป๊อปละกัน ถ้าไม่ทันหรือต้องแก้ยังไงเดี๋ยวหนูไฟต์ให้ แค่นี้นะพี่ป๊อป ทำงานต่อเถอะ บาย :
บทสนทนาในแชตจบลง ป๊อปไม่มีเวลาให้คิดมากอีกแล้วหลังจากได้แชตกับโปรดิวเซอร์คู่ใจ ในสมองของเขาคิดเพียงอย่างเดียว ต้องเคลียร์งานให้เสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้นแม้คืนนี้เขาจะต้องยอมอดหลับอดนอนก็ตาม ดวงตาสองชั้นหลบภายใต้แว่นกรองแสงยังจ้องเขม็งไปที่หน้าจออย่างมุ่งมั่น มือซ้ายจับเมาส์ปากกาลากไปบนแป้นออกคำสั่งรีทัชภาพอย่างคล่องแคล่ว ค่อยๆ ตรวจทานไปเรื่อยๆ จนแน่ใจว่างานออกมาดีแล้วก็เปิดรูปใหม่ขึ้นมาทำต่อไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งคืน...
…………………………………………………………
รุ่งเช้าวันต่อมา
ใบหม่อนเดินออกจากห้องนอนเตรียมตัวไปทำงานตามปกติ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นพี่ชายตัวเองนอนฟุบคาโต๊ะทำงานทั้งที่คอมพ์ยังเปิดอยู่ ร่างสูงระหงเดินเข้าไปหา มือเล็กยื่นไปเขย่าร่างใหญ่เต็มแรง
“<<ตายแล้วพี่ป๊อป มาหลับคาคอมพ์แบบนี้ได้ไงอ่า>>”
ป๊อปค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้นตามแรงเขย่า หูได้ยินเสียงใสแว่วๆ ดวงตาสองชั้นหลบค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างยากลำบากด้วยอาการงัวเงีย
“<<อือ... อะไรเนี่ยใบหม่อน มาปลุกพี่ทำไมเนี่ย…>>”
“<<เมื่อคืนพี่ป๊อปไม่ได้นอนใช่ไหม>>” ใบหม่อนไม่ตอบ แถมยังย้อนถามกลับมาด้วยเสียงแข็งกว่าเดิม
สติของป๊อปเริ่มกลับมาหลังจากได้ยินคำถาม เห็นน้องสาวกำลังถลึงตาดุใส่ราวกับแม่เสือรอขย้ำเหยื่อ นึกทบทวนเมื่อคืนว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง จำได้ลางๆ แค่ว่าทำงานเสร็จไปแล้วห้ารูป แล้วจู่ๆ ภาพก็ตัดไป
“<<นี่พี่เผลอหลับไปเหรอเนี่ย>>” ยัง... ยังไม่ตอบคำถามอีก และยังย้อนถามคนที่กำลังมองตาเขียวใส่อีก
“<<หนูบอกพี่ป๊อปแล้วใช่ไหมว่าไม่ไหวอย่าฝืน>>”
ใบหม่อนว่าให้พี่ชายตัวดีไปหนึ่งที รู้สึกเป็นห่วงจนตัวเองใกล้จะเครียดแทนแล้ว “<<แล้วพี่ป๊อปอดนอนแบบนี้อีก เดี๋ยวเหอะ แอดมิดขึ้นมาหนูไม่ไปเฝ้านะ ปล่อยให้นอนไปคนเดียวเลย ชิ>>”
“<<ฮืมๆ พี่ขอโทษนะใบหม่อน>>”
ป๊อปออกปากขอโทษน้องสาวด้วยเสียงแผ่วเบา แขนทั้งสองข้างยกขึ้นเหนือศีรษะยืดตัวขับไล่อาการง่วงให้หมดไป
“<<จะไปทำงานแล้วเหรอใบหม่อน ขับรถดีๆ ล่ะ>>”
“<<จ้าพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนตอบทั้งที่หน้ายังหงิกอยู่ “<<พี่ป๊อปอย่าบ้างานจนไม่ได้นอนแบบเมื่อคืนอีกนะ หนูเป็นห่วงนะรู้ไหม ไปล่ะพี่ป๊อป บาย>>”
ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มบางๆ ดวงตาสองชั้นหลบภายใต้แว่นกรองแสงเหลือบต่ำไม่กล้าสบตากับน้องสาว แอบรู้สึกผิดในใจลึกๆ แอบลอบมองร่างสูงระหงในชุดเสื้อโปโลสีกรมท่ากับกางเกงขาห้าส่วนที่กำลังเดินจากไปจนลับตา พลางถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เฮ้อ...พี่ขอโทษจริงๆ นะใบหม่อน แต่พี่ต้องรีบทำงานให้เสร็จว่ะ” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนพาตัวเองเดินกลับไปอาบน้ำที่ห้องน้ำในห้องนอนของตัวเอง...
ร่างสูงเดินกลับออกมาจากห้องนอนด้วยอาการปลอดโปร่งหลังจากได้อาบน้ำ รู้สึกสดชื่นจนไม่อยากจะนอนต่อแล้วแต่กลับรู้สึกหิวขึ้นมาแทน รีบเดินไปที่ตู้เย็นเปิดดูว่ามีอะไรให้กินบ้าง แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นนมจืดวางอยู่ที่ฝาตู้
มือหนาเปิดฝาขวดก่อนกระดกดื่มช็อตเดียวจนหมดเพื่อขับไล่อาการหิวให้หมดไป ยืนคิดอยู่สักพักว่าจะเอายังไงต่อเพราะงานยังคงจ่อคอหอยอยู่ถึงแม้จะเคลียร์ไปแล้วห้ารูปก็ตาม เห็นรูปที่หกยังคงค้างเติ่งบนหน้าจอทั้งที่เริ่มทำไปได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น
ป๊อปไม่รอช้ารีบกลับเข้าประจำที่โต๊ะทำงานต่อ รีบจัดการรูปที่หกให้เสร็จ เหลืออีกเพียงเก้ารูปเท่านั้น แต่แล้วกลับต้องเจอปัญหาใหม่อีกครั้งเมื่อเจอภาพแตกเบลอจนเก็บรายละเอียดไม่ได้
มือหนาคว้าสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมาเปิดโซเชียลมีเดียสีเขียวเข้าไปที่กล่องแชตของโปรดิวเซอร์คู่ใจ
@@POPENGL@@ : บิวตี้ ช่วยส่งรูปที่หกมาให้พี่ใหม่หน่อย รูปที่พี่ได้มาแตกว่ะ :
ข้อความถูกอ่านหลังจากนั้นไม่นานนัก ก่อนพิมพ์ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
@@Bewpetch@@ : ตอนหนูได้มามันเบลอๆ เหมือนกันอ่ะพี่ พี่ป๊อปทำรูปอื่นก่อนนะ เดี๋ยวหนูขอไฟล์ใหม่กับลูกค้าให้ :
@@POPENGL@@ : อืมได้ แม่ง วางยานี่หว่า งานสเกลใหญ่เอาเร็ว แถมเอารูปไฟล์แตกๆ มาให้อีก :
@@Bewpetch@@ : ใจเย็นๆ น่าพี่ป๊อป เดี๋ยวหนูเคลียร์ให้ หนูขอตัวก่อนนะพี่ป๊อป :
ป๊อปถอนหายใจเฮือกยาวหลังจบแชตกับโปรดิวเซอร์คู่ใจ ไม่มีเวลาให้เขาคิดมากอีก เริ่มลงมือรีทัชรูปที่เจ็ดของงานนี้ต่อ แต่ตอนนี้ความง่วงเริ่มเข้ามาทำลายสมาธิในการทำงาน ดวงตาสองชั้นหลบภายใต้แว่นกรองแสงทำท่าจะปิดแหล่มิปิดแหล่ มือซ้ายเริ่มเคลื่อนไหวช้าลงเรื่อยๆ เขาพยายามดึงสติให้กลับมาตื่นตัวต่อ แต่เพราะเมื่อคืนไม่ได้นอนจนเผลอหลับไปรอบหนึ่งและยังไม่เต็มอิ่มดี ทำไปได้เพียงครึ่งทางก็ต้องยอมแพ้ให้กับอาการง่วงของตัวเอง รีบกดเซฟงานและชัตดาวน์ไอแม็คคู่ใจ
((“<<งั้นหนูเข้านอนก่อนนะพี่ป๊อป พรุ่งนี้เจอกันน้า ไม่ไหวอย่าฝืนล่ะพี่ป๊อป หนูเป็นห่วงพี่น้า>>”))
เสียงใสที่คุ้นหูดังแว่วขึ้นมาในห้วงสำนึก ป๊อปตัดสินใจพาตัวเองไปนอนที่โซฟาใหญ่กลางห้อง ภาพที่เห็นตรงหน้าตัดหายไปเมื่อดวงตาของเขาปิดสนิทในที่สุด
เวลาผ่านเลยไปจนถึงตอนบ่าย
ป๊อปตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสมองหลังจากได้นอนพักผ่อนเต็มที่ ร่างสูงพาตัวเองไปที่ห้องน้ำของน้องสาวที่เข้าได้จากห้องครัวเข้าไปล้างหน้าเพิ่มความสดชื่นอีกสักหน่อย พร้อมลงมือทำงานต่อ แต่ก่อนเริ่มลงมือทำงาน มือหนาหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาดูว่ามีอะไรใหม่บ้าง เห็นกล่องแชตจากแอพพลิเคชั่นสีเขียวจากโปรดิวเซอร์คู่ใจและน้องสาวโชว์อยู่ เขาตัดสินใจที่จะเปิดอ่านข้อความของน้องสาวก่อน
@@Baimon@@ : พี่ป๊อปนอนยัง อย่าบ้างานให้มากนะพี่ป๊อป :
ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มขึ้นมาหลังจากได้อ่านข้อความของน้องสาว หัวใจเริ่มเต้นรัวด้วยความดีใจและตื้นตันใจอยู่ไม่น้อย นิ้วมือหนาพิมพ์ตอบกลับไป
@@POPENGL@@ : พี่ได้นอนแล้วค่ะใบหม่อน ไม่ต้องห่วงนะ พี่กำลังจะทำงานต่อ คืนนี้พี่คงต้องอดนอนอีกคืนแล้วล่ะ :
นิ้วมือหนาเลื่อนไปเปิดกล่องแชตของโปรดิวเซอร์คู่ใจ เริ่มใจชื้นขึ้นมาไม่น้อยเมื่อได้เห็นข้อความ
@@Bewpetch@@ : พี่ป๊อป รูปงานลูกค้าหนูส่งให้แล้วนะ ลงมือทำได้เลยนะพี่ป๊อป :
เขาละสายตาจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูกลับไปที่หน้าจอไอแม็คอีกครั้งพร้อมกับเปิดอีเมล์ของตัวเอง กดเซฟไฟล์รูปที่โปรดิวเซอร์คู่ใจส่งมาให้ใหม่ ก่อนเริ่มลงมือรีทัชรูปที่ทำค้างอยู่อีกครึ่งหนึ่งต่อ
ตอนนี้ป๊อปรู้สึกสมองปลอดโปร่งเป็นพิเศษบวกกับได้กำลังใจดีๆ จากน้องสาวสุดที่รัก ทำให้งานตรงหน้ายิ่งเดินไปอย่างรวดเร็วขึ้น รู้ตัวอีกทีงานตรงหน้าเดินเลยครึ่งทางมาแล้ว เหลืออีกเพียงไม่กี่รูปเท่านั้นก็จะเสร็จ แถมยังมีเวลาเผื่อไว้ให้แก้ได้อีก แต่ครั้งนี้เขาไม่ประมาทเมื่อส่งรูปที่รีทัชเสร็จแล้วไปให้โปรดิวเซอร์ตรวจก่อนกันพลาด
@@Bewpetch@@ : พี่ป๊อป รีบส่งมาให้หนูทำไมเนี่ย ไว้ค่อยส่งทีเดียวก็ได้นะ :
@@POPENGL@@ : เฮ้ยพี่รีบๆ มีเวลาแค่เก้าวัน เผื่อแก้อีก ดูทรงแล้วลูกค้าเจ้านี้แม่งของแรงแน่เลยว่ะ :
@@Bewpetch@@ : งืมๆ เดี๋ยวหนูจะให้ลูกค้าดูให้อีกที พี่ป๊อปเหลืออีกกี่รูปล่ะ :
@@POPENGL@@ : 8 รูป แป๊ปเดียวๆ เผลอๆ เสร็จพรุ่งนี้เช้าด้วย :
@@Bewpetch@@ : เร็วมากเลยนะเนี่ย ได้ๆ งั้นหนูทำงานก่อนนะพี่ป๊อป :
ไฟในการทำงานเริ่มกลับมาลุกโชนอีกครั้งหนึ่งหลังจากส่งงานที่ทำเสร็จให้โปรดิวเซอร์ไปแล้ว เหลืออีกเพียงไม่กี่รูปเท่านั้นก็จะปิดโปรเจกต์นี้ได้ถึงแม้จะทำให้เขาต้องอดนอนอีกคืนหนึ่งก็ตาม
ตกกลางคืน
“<<พี่ป๊อป คืนนี้พี่จะได้นอนไหมเนี่ย หนูเห็นพี่นั่งทำงานตั้งแต่หนูกลับมาแล้วน้า บ้างานนะเราอ่ะ>>”
ใบหม่อนเอ่ยถามคนเป็นพี่ชายที่ตอนนี้กำลังนั่งหมกอยู่หน้าคอมพ์ นับตั้งแต่เจ้าตัวกลับมาก็เห็นนั่งทำงานอยู่อย่างนี้เว้นแต่ตอนเรียกมากินข้าวด้วยกันแค่นั้น
ป๊อปหันมาหาใบหม่อนที่ตอนนี้ลากเก้าอี้จากโต๊ะกินข้าวมานั่งอยู่ข้างๆ เห็นก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมืออยู่
“<<คืนนี้พี่ขออดนอนอีกคืนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่ปิดงานแล้ว ทำไปเรื่อยๆ ก็เสร็จไปเยอะเหมือนกันนะ ดูสิ>>”
ไม่พูดเปล่ายังชี้ชวนให้คนเป็นน้องสาวเงยหน้าขึ้นมาดูหน้าจอคอมพ์ที่โชว์ผลงานที่ยังทำค้างไว้อยู่ในตอนนี้ ใบหม่อนเพียงแค่เหลือบตาขึ้นมามองแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมือต่อ ไม่แม้แต่จะมองหน้าคนบ้างานเลยแม้แต่แวบเดียว
“<<พี่ป๊อปนี่น้า อายุก็สามสิบแล้วยังจะอดนอนอีก คอยดูนะพี่ป๊อปร่วงเมื่อไหร่หนูไม่ไปนั่งเฝ้าจริงๆ ด้วย>>” ใบหม่อนว่าให้กับพี่ชายไม่จริงจังนัก “<<เดี๋ยวหนูโทร.ฟ้องแม่คุณ ให้แม่คุณจัดการพี่ป๊อปซะเลยดีไหม เอาแต่ทำงานไม่สนใจน้องสนใจนุ่งเลย>>”
“<<ขี้ฟ้องนะเราอ่ะ>>” ป๊อปว่าให้กับน้องสาว มือหนาวางเมาส์ปากกาลงเอื้อมมาโยกผมยาวสลวยที่ถูกเกล้ามวยสูงเหนือศีรษะคนขี้ฟ้องเล่น
“<<พี่ป๊อปอย่าเล่นผมหนูสิ ไปๆ ทำงาน>>” ใบหม่อนทำเสียงดุใส่ มือเล็กแกะมือหนาที่กำลังโยกมวยผมตัวเองออก
คนบ้างานหัวเราะร่วนกับกิริยาท่าทางของน้องสาวก่อนหันกลับไปลงมือทำงานตรงหน้าต่อ ขณะที่หญิงสาวแอบมองค้อนใส่อย่างขัดใจ ‘พี่ป๊อปนี่น้า บ้างานไม่พอยังกวนประสาทอีก ชิ’ ต่อว่าให้ในใจลึกๆ แต่ยังคงนั่งเป็นกำลังใจให้พี่ชายคนนี้ต่อเพราะอดห่วงไม่ได้ เผื่ออีกฝ่ายเผลอหลับกลางอากาศจะได้ปลุกให้เข้านอนได้
เวลาล่วงเลยไปจนเกือบเที่ยงคืน
ตอนนี้ป๊อปเคลียร์งานไปจนเหลืออีกสามรูปสุดท้ายก็จะปิดจ๊อบได้ ทำให้เขาถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ถือโอกาสตอนนี้พักสายตาด้วยการมองไปรอบๆ ห้อง แต่แล้วก็แทบสะดุ้งเมื่อเห็นร่างสูงระหงฟุบหลับไปบนพนักเก้าอี้ สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินถูกย้ายมาวางบนต้นขาอ่อนของเจ้าตัว
“ฮื้ม ไปซะแล้วน้องสาวหน้ากลมของพี่” เขาบ่นพึมพำเบาๆ ก่อนหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูบนหน้าตักของหญิงสาวย้ายมาวางบนโต๊ะทำงาน
ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องนอนของน้องสาวด้านหลังโต๊ะทำงาน เดินกลับมาช้อนร่างระหงที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราบนเก้าอี้ขึ้นมาอยู่ในท่านอนบนอ้อมแขนทั้งสองข้างถึงแม้ตอนนี้จะหนักอึ้งแค่ไหนก็ตาม พาเดินไปส่งถึงเตียงนอนใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยตุ๊กตา ค่อยๆ วางร่างระหงลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลเบามือที่สุด มือซ้ายเอื้อมไปเกลี่ยปอยผมที่ปรกใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับใหลพ่นลมหายใจสม่ำเสมอออก ไม่ให้สาวเจ้ารู้สึกรำคาญผมที่ปรกหน้า ผ้านวมสีชมพูสดใสถูกคลี่ขึ้นมาคลุมร่างสูงระหงจนมิดตัวเหลือเพียงแต่ใบหน้าสวยหวานเท่านั้น
ป๊อปก้มหน้าลงมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับตาพริ้มของน้องสาวอยู่สักพัก ก่อนโน้มตัวลงกระซิบข้างใบหูเล็กของคนที่กำลังนอนอย่างแผ่วเบา
“<<นอนหลับฝันดีนะคะใบหม่อน>>”
หลังจากทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีเสร็จ ป๊อปเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานเพื่อเตรียมตัวทำงานต่อ แต่แล้วเสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นสีเขียวดังขึ้นพร้อมกับกล่องข้อความปรากฎขึ้นบนหน้าจอ
@@Bewpetch@@ : พี่ป๊อป หนูมีอะไรจะบอกพี่ :
ป๊อปเลิกคิ้วขึ้นหลังจากอ่านข้อความ นิ้วมือหนาสไลด์ปลดล็อกหน้าจอก่อนพิมพ์ตอบกลับไป รู้สึกได้ว่าไม่น่าจะใช่เรื่องที่ดี
@@POPENGL@@ : มีอะไรเหรอบิวตี้ :
@@Bewpetch@@ : คืองานที่พี่ส่งมาให้หนูตรวจน่ะ หนูให้ลูกค้าดูแล้วนะพี่ :
@@POPENGL@@ : แล้วลูกค้าว่าไงล่ะ ให้แก้เยอะไหม หรือให้เริ่มทำใหม่หมด บอกพี่มาเลย แก้ตอนนี้ยังทันนะบิวตี้ :
@@Bewpetch@@ : พี่ป๊อปใจเย็นๆ ลูกค้าไม่ได้ตีกลับมาให้แก้หรือทำใหม่อะไรหรอกนะพี่ แต่ที่หนูจะบอกก็คือ ลูกค้าจะให้พี่ทำเพิ่มอีกห้ารูปอ่ะ หนูส่งให้ในเมล์พี่แล้วนะ :
@@POPENGL@@ : เฮ้ย อะไรวะ มีเพิ่มอีกเหรอ แล้วไม่ยืดเวลาด้วยเนี่ยนะ :
@@Bewpetch@@ : ใช่น่ะสิพี่ป๊อป พี่ป๊อปต้องอดนอนอีกคืนแล้วล่ะ :
@@POPENGL@@ : อืมๆ เรารับปากเขาไปแล้วว่าจะทำให้ทันก็ต้องทันสิ ที่จริงถ้าไม่มีเพิ่ม งานเสร็จพรุ่งนี้เช้าเลยนะ เผื่อเวลาแก้ด้วย :
@@Bewpetch@@ : เอาน่าพี่ป๊อป อดทนหน่อยนะ งานนี้บัดเจ็ตแรงถึงสี่แสน ถ้างานผ่านหมด พี่ป๊อปได้เต็มๆ แสนห้าเลยนะ :
@@POPENGL@@ : เยอะเวอร์ขนาดนั้นเลย เอาน่า ยังไงก็ต้องทำได้สิ อืมงั้นพี่ปั่นงานก่อนนะ เดี๋ยวไม่ทัน :
@@Bewpetch@@ : จ้าพี่ป๊อป เสร็จงานนี้หนูให้พี่พักสามวันค่อยส่งงานใหม่ให้ งานใหม่สเกลไม่ใหญ่มาก พี่ป๊อปจะได้มีเวลาพักผ่อนเยอะๆ ไง :
ป๊อปคลี่ยิ้มน้อยๆ หลังอ่านข้อความในกล่องแชตจบก่อนวางสมาร์ทโฟนเครื่องหรูลง แต่เหลือบไปเห็นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินของน้องสาววางอยู่ข้างๆ ทำให้นึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมไว้ มือหนาคว้าสมาร์ทโฟนสีน้ำเงินพร้อมกับลุกเดินกลับไปที่ห้องนอนของน้องสาวอีกรอบ แต่คราวนี้เขาต้องเดินอย่างเงียบเชียบและไม่เปิดไฟห้อง ใช้เพียงแสงสว่างจากหน้าจอเท่านั้น ค่อยๆ วางสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินบนโต๊ะเครื่องแป้งข้างหัวเตียงและเดินกลับออกมาอย่างเงียบเชียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลับมานั่งประจำที่หน้าคอมพ์อีกครั้งหนึ่ง เริ่มลงมือทำงานต่อ เป้าหมายในค่ำคืนนี้คือต้องเคลียร์งานที่ยังทำค้างอยู่ให้เสร็จจะได้มีเวลาทำงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาได้ในวันพรุ่งนี้
เวลาผ่านเลยไปจนถึงตีสาม อาการง่วงเริ่มคืบคลานเข้ามารบกวนสมาธิในการทำงานของชายหนุ่มจนเจ้าตัวต้องวางเมาส์ปากกาลง ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย เดินไปที่อ่างซิงค์หลังครัวเพื่อล้างหน้าขับไล่อาการง่วงให้หมดไป เดินกลับมานั่งทำงานต่อในตอนนี้เดินทางมาจนถึงรูปรองสุดท้ายแล้ว เหลือส่วนที่ต้องรีทัชอีกเพียงไม่มากนัก มือหนาหยิบเมาส์ปากกาขึ้นมาจรดบนแป้นลงมือรีทัชรูปที่อยู่ตรงหน้าอย่างคล่องแคล่ว นัยน์ตาสองชั้นหลบภายใต้แว่นกรองสองเพ่งมองรูปตรงหน้าอย่างประเมิน ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีหลุดไม่มีพลาดแน่นอนแล้วก่อนเริ่มลงมือรีทัชรูปสุดท้ายในค่ำคืนนี้...
......................................................................................
เช้าวันรุ่งขึ้น
ใบหม่อนเดินออกมาจากห้องเตรียมตัวไปทำงานเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แต่วันนี้เจ้าตัวกลับเห็นคนบ้างานยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวเดิม เพียงแต่วันนี้ไม่ได้ฟุบหลับไปเหมือนเมื่อวานเท่านั้น ด้วยความเป็นห่วงจึงรีบเดินเข้าไปหา
“<<พี่ป๊อป เมื่อคืนได้นอนไหมเนี่ย>>”
สมาธิในการทำงานของป๊อปถูกตัดไปชั่วขณะเมื่อได้ยินเสียงใสน่าฟังที่คุ้นเคย ใบหน้าคร้ามที่เต็มไปด้วยร่องรอยบ่งบอกอาการไม่ได้นอนหลับหันมาหาคนออกปากถาม และนั่นทำให้หญิงสาวออกอาการตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเห็นขอบตาโหลคล้ำและใบหน้าดูซีดเซียวลงไปเยอะ
“<<ตายแล้วพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนร้องเสียงหลง “<<พี่ป๊อปไม่ได้นอนเลยเหรอเนี่ยเมื่อคืน>>”
“<<อืม>>” ป๊อปครางในลำคอเบาๆ พร้อมกับพยักหน้าตอบรับ “<<งานพี่ยังไม่เสร็จเลยใบหม่อน และพี่ต้องทำต่ออีกเยอะเลยล่ะเนี่ย>>”
ใบหม่อนย่นจมูกโด่งเชิดรั้นขึ้นอย่างอิดหนาระอาใจเมื่อได้ยินคำตอบของคนเป็นพี่ชาย “<<พี่ป๊อปนี่จริงๆ เลยน้า ชอบทำให้หนูเป็นห่วงอยู่เรื่อยๆ เลย หนูก็บอกแล้วว่าให้นอนๆ พี่ก็ไม่เชื่อ หนูไม่รู้จะพูดยังไงแล้วเนี่ย>>”
ป๊อปถึงกับเกิดอาการหวิวขึ้นมาในใจเมื่อถูกน้องสาวว่าให้ ยอมรับตรงๆ เลยว่าตัวเองเอาแต่ทำงานจนไม่สนใจคำเตือนของคนเป็นน้องสาวคนนี้เลย
“<<อืม พี่ขอโทษ แต่ตอนนี้งานมันเร่งจริงๆ จะให้พี่ทำยังไงล่ะหืม>>”
“<<ไม่รู้ล่ะพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนว่าเสียงสะบัดใส่ “<<หนูขอให้พี่ป๊อปหยุดทำงานเดี๋ยวนี้ แล้วไปนอนซะ ถ้าพี่ยังดื้ออีก หนูโกรธพี่จริงๆ แล้วนะ!!!>>”
ป๊อปถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อได้ยินคำประกาศิตจากปากของน้องสาวสุดที่รัก มือหนาทั้งสองข้างกดแป้นออกคำสั่งให้เซฟงานก่อนชัตดาวน์ในเวลาต่อมา ใบหน้าคร้ามที่เต็มไปด้วยอาการอิดโรยเงยขึ้นมองหน้าของคนที่เพิ่งออกคำสั่งให้เขาเข้านอนอีกรอบด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกว่าตัวเองยังรู้สึกผิดอยู่
“<<หนูไปทำงานล่ะพี่ป๊อป เย็นนี้เจอกันนะ>>”
ใบหม่อนยกมือไหว้คนเป็นพี่ชายก่อนเดินหันหลังผละออกไป แต่กลับถูกคนเป็นพี่ชายรั้งตัวไว้
“<<พี่ขอโทษนะใบหม่อน>>” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด
“<<พี่ป๊อปไม่ต้องคิดมาก ไปนอนซะเชื่อหนู>>” ใบหม่อนพูดเชิงปลอบใจก่อนแกะมือหนาที่รั้งท่อนแขนตัวเองไว้ออก “<<หนูไปล่ะพี่ป๊อป>>”
ร่างสูงระหงก้มลงสวมรองเท้าก่อนเปิดประตูห้องเดินจากไป ปล่อยให้คนตัวใหญ่ยืนสะโหลสะเหลอยู่สักพักก่อนเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเองไป...
ป๊อปทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มทันทีหลังจากอดนอนมาตลอดทั้งคืน แต่ลึกๆ แล้วยังแอบกังวลใจเรื่องงานกลัวทำเสร็จไม่ทันตามกำหนดจนทำให้เขาตาค้างอยู่สักพักใหญ่ก่อนผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย...
เวลาผ่านเลยไปถึงช่วงเที่ยง
ใบหม่อนออกมานั่งทานข้าวร่วมกับเพื่อนข้าราชการตามปกติเหมือนกับทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ขณะที่กำลังละเลียดอาหารจานโปรดที่อยู่ตรงหน้าท่ามกลางเสียงสนทนาของเพื่อนๆ สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินส่งเสียงร้องเรียกให้ผู้เป็นเจ้าของกดรับ
ดวงตากลมโตคู่สวยเหลือบมองหน้าจอ เห็นรูปถ่ายและเบอร์โทร.ของผู้เป็นแม่โชว์อยู่ มือเล็กรีบรวบช้อนวางขอบจานก่อนคว้าสมาร์ทโฟนเครื่องหรูขึ้นมาสไลด์รับสาย
ใบหม่อน : [[<<สวัสดีจ้าแม่>>]]
แม่ : [[<<ตอนนี้คุยได้ไหมลูก แม่โทร.มารบกวนหนูรึเปล่า>>]]
ใบหม่อน : [[<<คุยได้จ้า มีอะไรเหรอจ๊ะแม่>>]]
แม่ : [[<<แม่คิดถึงลูกสาวคนเล็กของแม่นี่นาเลยอยากโทร.หา สบายดีนะลูก>>]]
ใบหม่อน : [[<<สบายดีจ้าแม่ แม่ไม่ต้องห่วงน้า หนูอยู่กับพี่ป๊อปสบายดีจ้า แล้วแม่เป็นไงบ้างล่ะจ๊ะ>>]]
แม่ : [[<<แม่ก็สบายดีจ้าหนู ช่วงนี้งานยุ่งๆ หน่อยน่ะลูก ว่าแต่หนูเถอะ ทำงานเป็นไงบ้างลูก>>]]
ใบหม่อน : [[<<ก็ดีอ่ะแม่ จัดประชุม จัดสัมมนา ติดตามผู้ใหญ่ให้วุ่นเลยจ้าแม่ เนี่ยหนูพ้นทดลองงานเมื่อไหร่หนูจะเขียนย้ายแล้ว หนูเบื่อที่จะเจอคนบ้าๆ บอๆ แล้วอ่ะแม่>>]]
แม่ : [[<<ฮื้ม มันต้องเจอทุกที่ไหมล่ะหนู ยังไงแม่เชื่อว่าหนูผ่านไปได้แหละนะ>>]]
ใบหม่อน : [[<<จ้าแม่>>]]
แม่ : [[<<แล้วไอ้หมามันเป็นไงบ้างล่ะหนู ดูซิหายหัวไปเลย ไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่อง ไม่คิดจะโทร.หาพ่อแม่บ้างเลย>>]]
ใบหม่อน : [[<<พี่ป๊อปอ่ะเหรอ หนูพูดตรงๆ เลยนะคะแม่>>]] เริ่มปรับน้ำเสียงให้จริงจังขึ้น [[<<เดี๋ยวนี้พี่ป๊อปเอาแต่บ้างาน ทำแต่งานทั้งวัน วันๆ นั่งอยู่แต่หน้าจอคอมพ์ เมื่อคืนพี่ป๊อปถึงกับอดนอนเลยล่ะจ้าแม่ หนูเตือนจนเหนื่อยแล้วจ้า>>]]
แม่ : [[<<ตายแล้วลูก แม่ก็ไม่คิดเลยนะว่าไอ้หมาจะบ้างานได้ขนาดนี้>>]] ปลายสายถึงกับออกอาการตกใจเมื่อได้ยินคำตอบ
ใบหม่อน : [[<<ตอนนี้หนูเริ่มเครียดเพราะเป็นห่วงพี่ป๊อปแล้วจ้ะแม่ กลัวพี่ป๊อปจะน็อกเหลือเกิน คืนก่อนพี่ป๊อปเผลอหลับคาคอมพ์ไปทีนึงแล้ว แถมเมื่อคืนอดนอนอีก หนูเลยไล่ให้พี่ป๊อปไปนอนก่อนมาทำงานเนี่ย>>]]
แม่ : [[<<โธ่ไอ้หมาลูกแม่ อายุก็สามสิบแล้วนะยังจะมาอดนอนเป็นเด็กๆ อีก>>]] ปลายสายเว้นหายใจเล็กน้อย [[<<เอางี้ เดี๋ยวแม่ช่วยเตือนให้อีกแรงดีไหมลูก>>]]
ใบหม่อน : [[<<ดีเลยจ้าแม่ หนูพูดจนปากจะฉีกแล้วพี่ป๊อปยังดื้ออีก เอะอะก็บอกงานเร่งๆ หนูก็เป็นห่วงเลยอยู่เป็นเพื่อนจนนอนดึกมาสองคืนติดแล้วจ้า>>]]
แม่ : [[<<หนูก็ดูแลตัวเองด้วยนะลูก>>]]
ใบหม่อน : [[<<จ้า แม่ไม่ต้องห่วงหนูหรอก หนูดูแลตัวเองได้จ้า หนูว่าห่วงพี่ป๊อปเถอะแม่>>]]
แม่ : [[(ถอนหายใจ) <<ไม่ต้องคิดมากนะลูก ไอ้หมามันคงไม่ดื้อกับแม่หรอก แค่นี้ก่อนนะลูก แม่เป็นห่วงลูกๆ ทั้งสองเสมอนะ มีอะไรก็โทร.หาแม่ได้ตลอดนะลูก>>]]
ใบหม่อน : [[<<จ้าแม่ สวัสดีค่ะ>>]]
กลีบปากเรียวเล็กคลี่ยิ้มบางๆ หลังจากวางสายจากผู้เป็นแม่เสร็จ หันกลับมาลงมือกินข้าวต่อท่ามกลางสายตาของเพื่อนข้าราชการที่จับจ้องมาที่เจ้าตัวเป็นตาเดียวกันจนสาวเจ้าอดสงสัยไม่ได้
“พี่บี้ พี่หมูหยอง เมย์ พี่กิ๊ก พี่โบ๊ท ทำไมมองหนูแบบนี้อ่า”
“นี่อินังใบหม่อน มัวแต่คุยโทรศัพท์จนคนอื่นเขากินกันหมดแล้วเนี่ย” ผู้อาวุโสที่สุดในกลุ่มอย่างบี้ตอบกลับมา
“อ้าวเหรอ”
[[เออ...]] เพื่อนข้าราชการทั้งห้าพร้อมใจกันตอบเสียงดังกระหึ่มลั่นโต๊ะ
หญิงสาวถึงกับหน้าแดง จะลงมือกินต่อก็ใช่ที่เมื่อเห็นว่าทุกคนกินเสร็จกันหมดแล้ว ดวงตาคู่สวยก้มลงมองจานข้าวของตัวเองที่ยังเหลืออยู่อีกครึ่ง มือเล็กรวบช้อนวางข้างจานก่อนหันไปออกปากเรียกให้พนักงานเก็บตังค์ในที่สุด...
.......................................................................................
ตกบ่าย ป๊อปยังคงนั่งขลุกอยู่กับโต๊ะคอมพ์ ลงมือสะสางงานที่ทำค้างไว้ตั้งแต่ตอนเช้าหลังจากถูกน้องสาวสุดที่รักไล่ให้ไปนอนพร้อมกับยื่นคำขาดใส่ หลังจากที่ได้นอนพักผ่อนไปตลอดช่วงเช้าจนตื่นขึ้นมาด้วยอาการสดชื่นกะปรี้กะเปร่าอยู่ไม่น้อย มาถึงตอนนี้งานที่ทำอยู่เดินไปจนถึงครึ่งทางแล้ว เหลือเพียงแต่ห้ารูปที่เพิ่มมาใหม่เท่านั้นที่ยังคงค้างอยู่ ในใจตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียวว่าต้องรีบทำให้เสร็จเพื่อจะได้มีเวลาให้กับน้องสาวของตัวเองบ้าง
สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีดำส่งเสียงขึ้นมาพร้อมกับสั่นระรัวถี่ๆ ทำให้ป๊อปต้องละสายตาจากงานตรงหน้ามามองหน้าจอที่กำลังโชว์รูปของคนที่กำลังโทร.มา มือหนาคว้าขึ้นมาพร้อมกดสไลด์รับสาย
ป๊อป : [[<<สวัสดีครับแม่>>]]
แม่ : [[<<ไอ้หมาลูกแม่ เป็นไงบ้าง หายเงียบไปเลยนะลูก แม่คิดถึงนะ>>]]
ปากหยักได้รูปผุดยิ้มขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงจากปลายสายที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้ยิน
ป๊อป : [[<<ผมก็คิดถึงแม่เหมือนกันครับ>>]]
แม่ : [[<<คิดถึงแล้วทำไมไม่กลับบ้านกลับช่องมาหาพ่อแม่บ้างลูก เนี่ยพ่อก็บ่นคิดถึง แม่คุณก็บ่นคิดถึงให้แม่ได้ยินทุกวัน ทุกคนที่บ้านเป็นห่วงนะไอ้หมา>>]]
ป๊อป : [[<<โธ่แม่ ก็งานผมยุ่งนี่ครับ ยิ่งตอนนี้ผมเป็นฟรีแลนซ์ด้วยยิ่งต้องรับงานเยอะกว่าเดิมอีกแม่ ไม่งั้นว่างยาวไม่มีงานทำไม่มีเงินใช้เลยนะครับ>>]]
แม่ : [[<<ไอ้หมาก็โตแล้วนะ อายุจะสามสิบเอ็ดแล้วนะลูก แบ่งเวลาบ้างสิลูก ไม่ใช่เอาแต่ทำงานๆ อย่างเดียว>>]]
ป๊อป : [[<<ครับแม่>>]]
ชายหนุ่มได้แต่ยอมรับอย่างเดียวเพราะสิ่งที่แม่พูดนั้นจริงทุกอย่าง ตลอดช่วงหลังที่ลาออกมาทำฟรีแลนซ์เต็มตัวแทบไม่ได้กลับไปบ้านเลยแม้แต่ตอนสงกรานต์หรือปีใหม่ เพราะมัวแต่รับงานจนคิวในปฏิทินแน่นไปหมด มาซาลงก่อนใบหม่อนลงมาอยู่ด้วยไม่นาน
แม่ : [[<<ใบหม่อนลงมาอยู่ด้วยเป็นไงบ้างลูก เห็นเอ็งเคยบ่นให้แม่ฟังว่าคิดถึงนักคิดถึงหนาไม่ใช่เหรอ ตอนนี้อยู่ด้วยกันแล้วนี่>>]]
ปากหยักคลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำถามจากผู้เป็นแม่ ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่พูดถึงน้องสาวคนนี้
ป๊อป : [[<<ผมก็ดีใจสิครับแม่ ใบหม่อนยังเหมือนเดิมกับผมไม่เปลี่ยนเลยนะครับ บางครั้งก็เป็นน้องที่น่ารักน่าถนอม แต่บางครั้งก็ทำตัวเหมือนแม่กับผมเลยเนี่ย>>]]
แม่ : [[((หัวเราะเบาๆ)) <<ที่น้องคอยบอกคอยเตือนน่ะเพราะเขาเป็นห่วงลูกเหมือนกันนะไอ้หมา เนี่ยเมื่อเที่ยงแม่โทร.หาน้อง น้องก็บอกแม่เลยว่าลูกเอาแต่ทำงานจนอดนอนมาสองคืนแล้วไม่ใช่เหรอลูกหืม>>]]
ป๊อป : [[<<นี่ใบหม่อนฟ้องแม่หมดเลยเหรอครับเนี่ย>>]]
แม่ : [[<<ไอ้หมาอย่าไปว่าน้องเขาแบบนั้นสิ น้องไม่ได้ฟ้องแม่หรอก ไอ้หมารู้ไหมว่าน้องเป็นห่วงเอ็งขนาดไหน น้องเขาบอกเขาเตือนแล้วทำไมไม่ยอมฟังล่ะจ๊ะลูก>>]]
ป๊อป : [[<<โธ่แม่>>]] ป๊อปคลี่ยิ้มอ่อนๆ น้ำเสียงบ่งบอกถึงความรู้สึกผิดในตอนนี้ [[<<ไม่ใช่ผมไม่เชื่อน้องนะครับ งานนี้มันเร่งจริงๆ อ่ะครับแม่ จะเอาให้ได้ในอาทิตย์นี้ รับปากลูกค้าไปแล้วด้วย ผมเลยต้องยอมอดหลับอดนอนทำงานน่ะครับแม่>>]]
แม่ : [[<<ไอ้หมาลูกแม่ แม่ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่แม่อยากจะบอกว่าอย่าหักโหมกับงานหนักเกินไปนะไอ้หมา มันไม่ดีนะลูก พักผ่อนบ้างนะลูกแม่เป็นห่วง>>]]
ป๊อป : [[<<ครับแม่>>]]
แม่ : [[<<อื้มลูก แค่นี้แหละที่แม่จะบอก อย่าลืมดูแลตัวเอง อย่าลืมดูแลน้อง น้องเขาบอกเขาเตือนอะไรก็เชื่อน้องบ้างนะไอ้หมา>>]]
ปลายสายถูกตัดไปหลังจากนั้นไม่นาน ปล่อยให้ป๊อปนั่งยิ้มอยู่คนเดียวด้วยความรู้สึกใจชื้นขึ้นมาไม่น้อยหลังจากได้คุยกับผู้เป็นแม่ถึงแม้จะเป็นเพียงทางโทรศัพท์ก็ตาม แต่ก็แอบรู้สึกผิดอยู่ในใจไม่น้อยที่คนเป็นแม่ต้องโทร.มาเตือนเองเพราะตัวเองไม่ยอมเชื่อคำเตือนของน้องสาวเลยแม้แต่นิดเดียว เอาแต่คร่ำเคร่งกับงานจนต้องอดหลับอดนอนมาแล้วถึงสองคืนติด...
‘พี่ขอโทษนะใบหม่อน’
ป๊อปนึกขอโทษในใจเมื่อละสายตาจากหน้าจอคอมพ์หันไปมองรูปถ่ายของน้องสาวในวันรับปริญญาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน
ป๊อปตัดสินใจลงมือสะสางงานที่ยังทำค้างอยู่ต่อ แต่ด้วยอาการหิวเริ่มรบกวนสมาธิในการทำงานของเขามากขึ้น ร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้นบิดตัวไปมายืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนเดินไปหาอะไรกินแก้หิวที่ตู้เย็นหลังครัว ขณะเดียวกัน ประตูห้องถูกเปิดขึ้นโดยคนที่เพิ่งกลับมาจากทำงาน ร่างสูงระหงในชุดเสื้อชีฟองสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำก้มลงถอดรองเท้าผ้าใบราคาแพงอยู่ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงรีบเดินจากตู้เย็นเข้าไปหาอย่างเงียบเชียบ กะจะแกล้งให้ตกใจสักหน่อย แต่ใบหน้าสวยหวานบนโครงหน้าค่อนข้างกลมกลับเงยขึ้นมาส่งสายตาค้อนใส่
“<<ไม่ต้องมาแกล้งหนูเลยนะพี่ป๊อป>>”
ใบหม่อนคาดโทษคนขี้แกล้งผ่านน้ำเสียงเย็นเยียบ ทำเอาคนขี้แกล้งถึงกับชะงักไปต่อไม่เป็นกันเลยทีเดียว แต่อีกฝ่ายแก้ไขสถานการณ์ด้วยการหัวเราะกลบเกลื่อน
“<<ฮิๆ กลับมาแล้วเหรอน้องสาวหน้ากลมของพี่>>”
“<<ย่ะ!!!>>” ใบหม่อนว่าเสียงสะบัดใส่ก่อนเดินหนีกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง ปล่อยให้ป๊อปส่ายศีรษะทุยไปมาพร้อมคลี่ยิ้มอ่อนๆ มองตามร่างสูงระหงที่เดินจากไป ‘เกือบไปแล้วไหมล่ะกู’ ป๊อปนึกในใจ
ป๊อปส่ายศีรษะทุยไปมาขับไล่ความคิดที่จะแกล้งน้องสาวให้หมดไปก่อนเดินกลับมานั่งประจำที่โต๊ะทำงาน ลงมือทำงานต่อจากที่ตัวเองทำค้างไว้รอเวลาไปเรื่อยๆ
ใบหม่อนพาตัวเองออกมาจากห้องนอนในชุดเสื้อผ้าอยู่บ้านสบายๆ ผมยาวสลวยยังคงเปียกอยู่ หลังจากใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไปเกือบชั่วโมง มือเล็กถือสมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินที่ยังเสียบกับพาวเวอร์แบงก์ เดินไปยังโต๊ะทำงานที่พี่ชายนั่งอยู่ตรงหน้า รู้สึกเอือมในใจอยู่ไม่น้อยเมื่อได้เห็นคนเป็นพี่ชายเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับงานจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลย
“<<พี่ป๊อปนี่บ้างานจริงๆ เลยน้า>>” ใบหม่อนว่าให้พี่ชายไม่จริงจังนัก
“<<ฮื้ม พี่ทำงานรอกินข้าวฝีมือใบหม่อนไงล่ะ>>” ป๊อปเอ่ยตอบกลับไป นัยน์ตาสองชั้นหลบใต้แว่นกรองแสงไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าน้องสาว ยังคงจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพ์ตรงหน้า
ใบหม่อนย่นจมูกขึ้นอย่างอิดหนาระอาใจในตัวพี่ชายคนนี้อยู่ไม่น้อย ส่ายศีรษะไปมาก่อนเดินหลีกไปยังหลังครัว เตรียมตัวทำอาหารมื้อเย็นให้ตัวเองและคนบ้างานกิน
กลิ่นกับข้าวฝีมือหญิงสาวส่งกลิ่นหอมลอยมาเตะจมูกของคนบ้างานอย่างจัง จนเวลาผ่านเลยไปไม่นานนักหลังจากกับข้าวจานสุดท้ายถูกวางบนโต๊ะ
“<<พี่ป๊อป มากินข้าว>>”
ชายหนุ่มกดเซฟงานก่อนลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะกินข้าวหลังจากได้ยินเสียงใสของคนเป็นน้องสาวเรียก เห็นอาหารมื้อเย็นวันนี้ที่มีทั้งผัดกะเพราพร้อมไข่ดาวคนละฟอง หมูแดดเดียวทอดส่งกลิ่นหอมฉุยพร้อมข้าวสวยร้อนๆ วางไว้พร้อม แก้วน้ำและเหยือกน้ำเย็นวางไว้พร้อมด้วยฝีมือของคนที่ลงมือทำอาหารมื้อเย็นเมื่อสักครู่ สองพี่น้องเริ่มลงมือรับประทานอาหารเย็นในเวลาต่อมา
“<<พี่ป๊อปตื่นตั้งแต่กี่โมงเนี่ย>>” เป็นใบหม่อนที่เริ่มชวนคุยขึ้นมาก่อน
“<<สิบโมงกว่าพี่ก็ตื่นแล้วครับ ฮิๆ>>” ป๊อปเว้นหัวเราะสั้นๆ “<<ตื่นมาก็รีบทำงานเลย เผื่องานเสร็จทันไม่ต้องอดนอนอีก>>”
หญิงสาวย่นจมูกขึ้นอย่างอิดหนาระอาใจในความบ้างานของคนเป็นพี่ชาย ขนาดออกปากกำชับให้นอนแล้วก็ตาม “<<พี่ป๊อปนี่ดื้อจริงๆ หนูเหนื่อยที่จะเตือนพี่แล้วน้า>>” ใบหม่อนเริ่มตัดพ้อ
“<<เลยโทร.ไปฟ้องแม่เลยเหรอ ขิๆ ตอนบ่ายพี่กำลังทำงานเพลินๆ แม่โทร.มาบ่นใหญ่เลย>>”
ป๊อปสบโอกาสแกล้งถาม ขณะที่ใบหน้าสวยหวานบนโครงหน้ากลมเริ่มเกิดอาการร้อนวูบเมื่อถูกจับได้ ดวงตากลมโตคู่สวยมองบนกลอกไปมา ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับอีกฝ่าย
ยิ่งเห็นอากัปกิริยาของน้องสาวที่พยายามจะทำเฉไฉด้วยการหลบสายตาก็ยิ่งทำให้ป๊อปกลั้นขำแทบไม่อยู่ ยังไงไม่แกล้งให้เสียอาการไปมากกว่านี้อยู่แล้วเพราะยังไงก็ต้องยอมให้น้องสาวคนนี้อยู่แล้ว
“<<ก็…>>” ใบหม่อนพูดติดอ่าง ดวงตากลมโตมองต่ำลงไม่กล้าสบตาคนที่กำลังจ้องเขม็งอยู่ ยิ่งพูดยิ่งติดขัดเพราะจู่ๆ เกิดหายใจแรงมากกว่าเดิม “<<ก็หนูบอกหนูเตือนจนปากเปียกปากแฉะแล้ว พี่ป๊อปก็ดื้ออ่ะ พอดีแม่โทร.มาหนูเลยบอกแม่เรื่องพี่ไปหมดเลยไง>>”
คนตัวใหญ่แทบกลั้นขำไม่อยู่จนสุดท้ายทนไม่ไหว ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเต็มที่เมื่อเห็นท่าทางลนๆ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงก็ยิ่งขำมากกว่าเดิม ยังไงก็โกรธน้องสาวคนนี้ไม่ลงอยู่แล้วเพราะรู้ว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะเป็นห่วงเขาจริงๆ
“<<พี่ไม่ได้จะว่าอะไรนี่ใบหม่อน>>” คราวนี้ป๊อปปรับโทนเสียงให้นุ่มนวลลงกว่าเดิม ดวงตาสองชั้นหลบส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดในใจระคนกับความรู้สึกขอบคุณอีกฝ่าย “<<พี่เองก็ผิดด้วยที่พี่เอาแต่บ้างาน เอาแต่ทำงานจนไม่สนใจความรู้สึกเราเลย จนเราต้องบอกให้แม่โทร.มาเตือนพี่แบบนี้ พี่ขอโทษนะคะ>>”
“<<พี่ป๊อปอย่าคิดมากสิ>>” เสียงใสเว้นหายใจเล็กน้อย “<<พี่ป๊อปไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย หนูพูดตรงๆ เลยนะว่าหนูยังดีใจเลยที่เห็นพี่ป๊อปเป็นคนรับผิดชอบงานมากขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่พี่เอาแต่ขี้เกียจ ไม่ยอมทำอะไรเลยจนหนูต้องมาตามเก็บตามเช็ดให้พี่อีก...อุ้บ>>”
ข้าวผัดกะเพราคำโตถูกยัดเข้าปากเรียวเล็กอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของคนที่กำลังโดนแฉเพื่อปิดปากก่อนที่จะถูกแฉไปมากกว่านี้ สิ่งที่หญิงสาวพูดนั้นเป็นความจริงทุกอย่าง เพราะเมื่อก่อนเขาเป็นคนขี้เกียจอย่างมากและไม่เอาไหนเลย ย้อนไปวัยเด็ก ห้องนอนของเขาไม่มีวันไหนที่ไม่รกจนโดนแม่กับแม่คุณบ่นเอาบ่อยๆ ร้อนถึงใบหม่อนที่ต้องมาคอยตามเก็บห้องให้แถมยังบ่นให้อีก
“<<กินข้าวเถอะใบหม่อน เดี๋ยวหิวกลางดึก>>”
ป๊อปเอ่ยกับน้องสาวด้วยท่าทางขี้เล่น แต่คนโดนเอาข้าวยัดปากไม่ยอมเล่นด้วย ดวงตากลมโตคู่สวยมองจิกใส่อย่างขุ่นเคือง
“<<พี่ป๊อปอ่ะชอบแกล้งหนู>>” ใบหม่อนว่าให้ทั้งที่ยังเคี้ยวข้าวไม่หมดปาก ยังคงมองจิกใส่คนขี้แกล้งอยู่เหมือนเดิม
นัยน์ตาสองชั้นหลบเสมองไปทางอื่นเมื่อเห็นดวงตากลมโตมองจิกใส่ แอบนึกขำในใจ ‘ฮิๆ อยากจะเผาพี่ทำไมล่ะหืม…’
…………………………………………………………
ในที่สุดอาหารมื้อเย็นวันนี้จบลงอย่างเรียบร้อย สองพี่น้องต่างช่วยกันเก็บจานออกจากโต๊ะไปยังอ่างซิงค์หลังครัวไม่ไกลจากโต๊ะ ก่อนที่ป๊อปจะหันไปบอกอีกฝ่าย
“<<ใบหม่อนเช็ดโต๊ะเถอะ เดี๋ยวจานพี่ล้างเอง>>”
ใบหม่อนพยักหน้ารับคำก่อนเดินไปหยิบผ้าที่ราวแขวนใกล้อ่างซิงค์มาจัดการเช็ดโต๊ะจนสะอาดภายในเวลาไม่นานนัก ก่อนหันกลับมาช่วยพี่ชายคว่ำจานบนชั้นเหนืออ่างซิงค์จนเสร็จ
ป๊อปขอปลีกตัวไปอาบน้ำก่อนหลังจากเหนียวตัวมาตลอดทั้งวัน ปล่อยให้ใบหม่อนได้ยึดพื้นที่ในห้องเต็มที่ ร่างสูงระหงหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาใหญ่กลางห้อง มือเล็กคว้ารีโมตขึ้นมากดเปิดทีวีจอติดผนังจอใหญ่ตรงหน้าดูละครเรื่องโปรดก่อนหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูคู่กายขึ้นมาพิมพ์แชตกับเพื่อนๆ และแฟนหนุ่มไปเรื่อยๆ
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นชุดใหม่ของเจ้าของห้องเดินออกมายังห้องโถงกลาง เห็นน้องสาวนั่งเล่นสมาร์ทโฟนอยู่ เกิดนึกสนุกอยากแกล้งขึ้นมา ค่อยๆ เดินย่องไปที่โซฟาใหญ่อย่างเงียบเชียบก่อนเอื้อมมือไปโยกศีรษะสวยได้รูปของหญิงสาวเบาๆ เป็นเชิงหยอกล้อ
ใบหม่อนหันมาส่งค้อนวงใหญ่ให้คนขี้แกล้งหนึ่งทีก่อนออกปากไล่ “<<พี่ป๊อป ไปทำงานไป>>”
“<<เฮ้ย จะเอายังไงกับพี่เนี่ย พอพี่ทำงานเราก็บ่น พอพี่จะพักก็ไล่พี่ไปทำงาน พี่เอาใจเราไม่ถูกแล้วนะ>>”
ป๊อปแกล้งว่าให้ไม่จริงจังนัก ก่อนเดินอ้อมมานั่งข้างๆ เจ้าของร่างสูงระหงที่กำลังถลึงตาดุใส่ ไม่นั่งเปล่ายังแกล้งกระเถิบตัวเองเบียดอีกจนหญิงสาวต้องกระเถิบตัวเองหนี
“<<เลิกแกล้งหนูซะทีได้ปะพี่ป๊อป ไปทำงานไป เดี๋ยวส่งงานไม่ทันหนูไม่รู้ด้วยนะ>>” ใบหม่อนออกปากไล่อีกครั้งพร้อมกับชี้มือไปที่โต๊ะทำงาน ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะไม่อยากให้คนเป็นพี่ชายเห็นข้อความแชตคุยกับแฟนหนุ่มอยู่ ขืนอีกฝ่ายรู้เข้าต้องโดนล้ออีกแน่ๆ
“<<ฮื้ม>>” ป๊อปส่งเสียงขึ้นจมูกใส่ ดวงตาสองชั้นหลบปรายตามองใบหน้าสวยหวานที่กำลังหงิกงอ “<<พี่ขอพักสายตาแป๊ปนึงน่า เดี๋ยวไปทำงานแน่ ทำไมๆ กลัวพี่อ่านไลน์เราเหรอ ฮิๆ>>”
ใบหม่อนทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจเมื่อพี่ชายตัวดีไม่ยอมลุกออกไปสักที จะให้ลุกหนีไปเองก็ใช่ที่ จึงได้แต่ส่งสายตาค้อนใส่อีกรอบก่อนหันกลับมาให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูในมือพิมพ์แชตกับแฟนหนุ่มต่อ ทำเหมือนกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นอากาศธาตุไป
คนตัวใหญ่นั่งพักสายตาอยู่สักพักจนเริ่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอยากทำงานอีกครั้ง แอบชำเลืองมองหญิงสาวที่กำลังเขี่ยหน้าจอสมาร์ทโฟนเคริ่องหรูอยู่ก่อนเดินหลีกไปยังโต๊ะทำงานเพื่อเตรียมตัวทำงานที่ค้างไว้ กะว่าถ้างานยังไม่เสร็จก็ไม่ต้องนอน ไม่ลืมที่จะแอบหันไปมองร่างสูงระหงของหญิงสาวอีกรอบก่อนเปิดคอมพ์เข้าโปรแกรมรีทัชคู่ใจลงมือทำงานต่อ
จากชั่วโมงไปจนถึงเกือบสองชั่วโมงถึงสามชั่วโมงเศษ ป๊อปยังคงคร่ำเคร่งกับงานตรงหน้าอยู่ คราวนี้ต้องเสียเวลากับการคิดเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อรูปที่ส่งให้มารีทัชเพิ่มอีกห้ารูปนั้นค่อนข้างทำยากกว่าปกติพอสมควร เขาพยายามตั้งสติไล่แก้ปัญหาที่เจอทีละจุด แต่ก็ยิ่งทำให้เครียดมากกว่าเดิมเมื่อแก้ปัญหาบางอย่างไม่ได้สักที ดวงตาสองชั้นหลบภายใต้แว่นกรองแสงกวาดไปรอบๆ รูปเพื่อหาจุดที่มีปัญหา คิ้วเรียวหนาเริ่มขมวดเข้าหากันบ่งบอกถึงความเคร่งเครียดที่เริ่มคืบคลานเข้ามา ระหว่างนั้นเขาเริ่มพิมพ์แชตถามบรีฟงานกับโปรดิวเซอร์คู่ใจเพื่อหาวิธีแก้ไปเรื่อยๆ
ทางด้านใบหม่อนเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาจนตาแทบจะปิดไปดื้อๆ หลังจากละครเริ่องโปรดจบ ร่างสูงระหงลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายสักเล็กน้อยหลังจากอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเป็นเวลานาน อาการง่วงเริ่มรบกวนมากขึ้นจนหาวหวอดๆ ไม่หยุด มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากตอนหาวเพิ่อไม่ให้เสียกิริยา แอบชำเลืองมองคนเป็นพี่ชายที่กำลังนั่งเครียดกับงานอยู่ เห็นมือซ้ายของอีกฝ่ายลากเมาส์ปากกาไปบนแป้นอย่างคล่องแคล่ว
“<<พี่ป๊อปยังไม่นอนเหรอ นี่สี่ทุ่มแล้วนา>>”
ใบหม่อนเดินเข้าไปหาคนที่กำลังบ้างานพร้อมกับออกปากถาม รู้สึกเป็นห่วงพี่ชายคนนี้ขึ้นมาในใจ
“<<ยังหรอก ใบหม่อนง่วงก็เข้านอนเถอะ ไม่ต้องห่วงพี่ พี่ว่าถ้าคืนนี้งานไม่เสร็จพี่จะไม่นอนน่ะ>>”
หญิงสาวย่นจมูกขึ้นอีกครั้งอย่างระอาในตัวคนเป็นพี่ชาย ขนาดตัวเองบอกปากเปียกปากแฉะและบอกให้แม่โทร.เตือนแล้วก็ตาม ก็ยังสู้กับความดื้อรั้นของพี่ชายคนนี้ไม่ได้สักที อีกใจนึงก็รู้สึกเป็นห่วงอย่างมากเพราะอีกฝ่ายทำงานข้ามคืนมาสองคืนแล้ว กลัวจะอดนอนอีก
“<<พี่ป๊อปนี่ดื้อจริงๆ เลย>>” ใบหม่อนว่าให้พลางยกมือขึ้นปิดปากที่กำลังหาวหวอดๆ ก่อนเดินเข้าห้องนอนไปเพราะทนอาการง่วงไม่ไหว
ป๊อปหันมามองตามคนที่เพิ่งออกปากต่อว่าไปหยกๆ จนลับตาไป เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ รับรู้ได้ว่าน้องสาวเป็นห่วงตัวเองขนาดไหน
‘พี่ขอโทษนะใบหม่อน เดี๋ยวพี่จะรีบเคลียร์งานให้เสร็จ พี่จะได้มีเวลาให้กับน้องสาวของพี่ไง’
นึกขอโทษในใจก่อนหันกลับมาโฟกัสกับงานตรงหน้าต่อ เห็นว่างานตอนนี้เสร็จไปแล้วสองรูปหลังจากนั่งแก้ปัญหาและคิดวางแผนในการรีทัชอยู่นาน เหลืออีกเพียงสามรูปเท่านั้น เริ่มรู้สึกมีพลังในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม รีบเร่งมือเคลียร์อีกสามรูปที่เหลือกะให้เสร็จให้ได้ในค่ำคืนนี้
ราวๆ เที่ยงคืน
ป๊อปยังคงนั่งหน้าคอมพ์ทำงานต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงัดในยามดึก มีเพียงเสียงเพลงร็อกจากวงดนตรีสัญชาติอเมริกันวงโปรดของเจ้าตัวบรรเลงขับกล่อมเพิ่มฟีลลิ่งในการทำงานและแก้ง่วงไปด้วย หลังจากนั่งทำงานตั้งแต่หัวค่ำจนถึงตอนนี้เริ่มรู้สึกปวดกระบอกตาจากการจ้องหน้าจอคอมพ์เป็นเวลานาน ใบหน้าคร้ามเริ่มเสมองไปทางอื่นกะพักสายตาสักหน่อย แต่แล้ว เสียงเปิดประตูห้องนอนด้านหลังดังขึ้นจนต้องหันไปมอง เห็นร่างสูงระหงเดินออกมาด้วยท่าทางงัวเงียอยู่ไม่น้อย ผมยาวสลวยตอนนี้ฟูฟ่องละล่องลมยุ่งเหยิงกำลังเดินมาหา
“<<อ้าวใบหม่อน ตื่นมาทำไมเนี่ย>>” ป๊อปเอ่ยถามด้วยอาการแปลกใจ นัยน์ตาสองชั้นหลบภายใต้แว่นกรองแสงสำรวจสารรูปของหญิงสาวอย่างประเมิน
“<<ก็หนูเป็นห่วงพี่ป๊อปนี่นา>>” ใบหม่อนตอบเสียงอ้อมแอ้ม มือทั้งสองข้างยกขึ้นรวบผมยาวสลวยเกล้ามวยขึ้นแก้รำคาญ “<<หนูเป็นห่วงพี่จนนอนไม่หลับ เลยลุกมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ป๊อปดีกว่า>>” พูดจบสาวเจ้ายกเก้าอี้จากโต๊ะกินข้าวมานั่งข้างๆ
ปากหยักได้รูปภายใต้หนวดเครารกครึ้มคลี่ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะรู้ว่าวันพรุ่งนี้หญิงสาวต้องขับรถไปทำงานแต่เช้า กลัวจะหลับในจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
“<<พรุ่งนี้ต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอใบหม่อน ขับรถไม่ไหวขึ้นมาพี่ไม่รู้ด้วยนะ>>” ป๊อปย้อนถามกลับไป สายตาของเขายังคงมองใบหน้าสวยหวานที่ออกอาการสะลึมสะลือของน้องสาวอย่างห่วงๆ
“<<ไม่เป็นไรหรอกพี่ป๊อป หนูไหวน่า>>” เสียงใสตอบกลับมา ริมฝีปากเรียวบางคลี่ยิ้มจนสุดเผยให้เห็นฟันครบทุกซี่ภายใต้เหล็กดัดฟัน “<<พี่ป๊อปเอานมอุ่นหน่อยไหม เดี๋ยวหนูไปชงให้>>”
“<<เอาสิใบหม่อน เผื่อทำให้พี่ตาสว่างบ้าง>>”
ใบหม่อนทำท่าตะเบ๊ะตอบกลับคนเป็นพี่ ร่างระหงลุกขึ้นเดินไปยังตู้เย็นใหญ่มุมหลังครัว เปิดฝาออกหยิบขวดนมที่แช่อยู่ข้างในออกมาเทใส่แก้วที่เตรียมไว้ รอเวลากระติกน้ำร้อนไฟฟ้าทำงานอยู่สักพักจนไฟเตือนน้ำเดือด มือเล็กกดให้น้ำร้อนเทลงบนนมในแก้วจนได้ปริมาณที่ต้องการ หยิบช้อนกาแฟคันเล็กมาคนให้เข้ากันจนอุ่นได้ที่ก่อนเดินไปเสิร์ฟให้กับคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่
“<<อ่ะพี่ป๊อป กินซะจะได้มีแรงทำงาน>>” ใบหม่อนเอ่ยขึ้นพร้อมกับเสิร์ฟแก้วนมอุ่นถึงมือคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“<<ขอบคุณมากนะใบหม่อนหน้ากลม ฮิๆ>>” ป๊อปเอ่ยขอบคุณแถมด้วยการแซวเล็กน้อย มือหนารับแก้วนมอุ่นจากหญิงสาว แอบสังเกตใบหน้าหงิกงอหลังจากโดนล้อไปกลั้นขำไป
“<<พี่ป๊อปอ่ะ ว่าหนูหน้ากลมอีกแล้วน้า หน้ากลมหมายความว่าอ้วนนะพี่ป๊อป>>” ใบหม่อนว่าให้ไม่จริงจังนัก ดวงตากลมโตคู่สวยมองจิกใส่ก่อนเดินกลับไปที่ตู้เย็นอีกครั้งหนึ่ง ปล่อยให้คนที่ออกปากล้อมองตามก่อนหันกลับมาทำงานต่อ
ร่างสูงระหงเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับผ้าเย็นในมือ กลีบอวบอิ่มได้รูปออกปากเรียกคนเป็นพี่ชายอีกครั้ง
“<<พี่ป๊อปถอดแว่นก่อน มาๆ หนูเช็ดหน้าให้>>”
ป๊อปถอดแว่นกรองแสงออกอย่างว่าง่าย เปิดโอกาสให้น้องสาวจัดการเช็ดหน้าด้วยผ้าเย็นหอมๆ จนทั่วใบหน้าคร้าม ไอเย็นจากผ้าปะทะบนผิวหน้าอย่างจังทำให้เจ้าตัวรู้สึกสดชื่นจนตาสว่างกว่าเดิม
“<<ขอบคุณมากนะใบหม่อน>>”
ไม่ใช่แค่เอ่ยขอบคุณอย่างเดียว ยังเอื้อมมือหนาขึ้นไปทำท่าจะโยกมวยผมเหนือศีรษะของหญิงสาวเล่น แต่ว่า
“<<พี่ป๊อปอย่าเล่นผมหนูสิ>>” ใบหม่อนว่าให้พร้อมกับโยกศีรษะหลบ มือเล็กปัดมือหนาของอีกฝ่ายออกไป
ป๊อปหัวเราะในลำคอเบาๆ เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของน้องสาว ยังไงก็ต้องขอบคุณน้องสาวคนนี้ที่อุตส่าห์ออกมาอยู่เป็นกำลังใจให้ ก่อนหันกลับไปโฟกัสกับงานตรงหน้าต่อ ปล่อยให้คนเป็นน้องสาวทำหน้ามู่ทู่อย่างขัดใจหลังจากเกือบโดนเขาแกล้ง
แต่เวลาผ่านล่วงเลยไปราวๆ เกือบตีสอง ใบหม่อนเริ่มทนอาการง่วงไม่ไหว “<<พี่ป๊อป หนูไปนอนก่อนน้า>>”
ป๊อปวางเมาส์ปากกาลงหลังจากได้ยินเสียงใสๆ ของอีกฝ่ายที่เริ่มพูดช้าลง ร่างสูงลุกขึ้นเอื้อมมือคว้าข้อมือน้อยของอีกฝ่าย
“<<ใบหม่อนไปนอนเหอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง>>”
หญิงสาวลุกขึ้นเดินตามแรงดึงข้อมือเล็กของคนเป็นพี่ชายเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง แต่คราวนี้อีกฝ่ายไม่ได้ช้อนตัวอุ้มให้อยู่ในท่านอนเหมือนครั้งก่อน เพียงแต่พาไปส่งถึงเตียงนอนเท่านั้น
ร่างสูงระหงหย่อนตัวลงบนเตียงนุ่มที่รายล้อมไปด้วยตุ๊กตาก่อนทิ้งตัวลงนอน ตุ๊กตากระต่ายตัวหนึ่งถูกสอดใต้ข้อพับขาด้วยฝีมือของคนที่มาส่ง ท่อนแขนเรียวบางยกขึ้นรอตุ๊กตา Asimo สอดเข้ามาอยู่ใต้อ้อมแขน ดวงตากลมโตคู่สวยส่งประกายบ่งบอกความรู้สึกขอบคุณ กลีบปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ภายใต้เหล็กดัดฟันส่งไปให้คนเป็นพี่ชายที่อุตส่าห์มาส่งเข้านอนทั้งที่ยังทำงานค้างอยู่ ผ้าห่มนวมสีขาวถูกคลี่ออกคลุมทับร่างสูงระหงเป็นขั้นตอนสุดท้ายพร้อมกับดวงตากลมโตคู่สวยปิดสนิทพร้อมกับเสียงหายใจสม่ำเสมอเป็นคำตอบว่าตอนนี้เข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว...
“<<ฝันดีนะคะใบหม่อน>>”
เสียงเข้มเอ่ยกับหญิงสาวอย่างแผ่วเบา มือหนาเอื้อมขึ้นไปลูบเรือนผมสลวยที่ยังเกล้ามวยอยู่ ปากหยักได้รูปคลี่ยิ้มกว้างก่อนพาตัวเองเดินกลับไปทำงานต่อ แต่ไม่ลืมที่จะปิดไฟให้...
............................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ