หัวใจรักเร้นวิญญาณ

-

เขียนโดย ไอรินรดาดาว

วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 14.36 น.

  13 ตอน
  3 วิจารณ์
  7,403 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2565 19.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) บทที่ 10 ตระการกุล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ชาลิสาค่อยๆ ลืมตาขึ้น กลิ่นของที่นอนวันนี้ไม่เหมือนที่ผ่านๆ มา นั่นก็เป็นเพราะเธอไม่ได้นอนที่เดิมที่เธอเคยตื่นขึ้นมาทุกครั้งนั่นเอง เธอตกใจลุกขึ้นพรืด ก่อนที่จะกระโดดตัวโยนจากที่นอน เธอทำเหมือนเดิมทุกอย่างราวกับตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่

 

“เขาไม่อยู่…ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้วนะ?”

ชาลิสาเดินออกจากห้องนอนไปยังห้องนั่งเล่น ซึ่งตอนนี้ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานกระจกที่ไม่มีผ้าม่านกั้น ทำให้เห็นสิ่งของต่างๆ ภายในที่พ่ักอาศัยของชินกฤตได้ชัดเจนกว่าเมื่อคืน เธอหันรีหันขวาง มองหานาฬิกาหรืออะไรก็ตามที่บอกวันเวลาแก่เธอได้ ในใจของเธอพาลนึกอย่าให้หลับไปสามวันเหมือนที่แล้วมา เพราะมันทำให้เธอต้องพลาดอะไรที่สำคัญไปหลายเรื่อง

 

ภายในห้องนั่งเล่นของชายหนุ่มเป็นห้องเรียบๆ มีเค้าเตอร์ทานอาหารติดกับห้องครัว ผนังด้านหนึ่งวางโทรทัศน์โดยมีโซฟายาววางติดอีกด้านของผนัง หากดูดีๆ แล้วเป็นห้องที่น่าอยู่ไม่น้อยเลยสำหรับคนโสดอย่างเขา

 

“ใช่สิ…เรามารบกวนแบบนี้ แล้วแฟนหรือคนรักของเขาล่ะ?”

หญิงสาวลืมไปว่าตนเองได้ตาย กลายเป็นวิญญาณเรียบร้อยแล้ว ขณะที่เธอกำลังเวิ่นเว้อไปเรื่อยเปื่อย สายตาของเธอก็หาสิ่งที่ต้องการเจอ

 

“บ่ายโมง วันที่ 6 กุมภาพันธ์!!! ฉันนอนสามวันอีกแล้วเหรอเนี่ย… เอาอีกแล้วชาลิสา!!!”

นาฬิกาดิจิตอลบอกวันที่และเวลาวางอยู่บนโต๊ะทำงานตรงมุมห้องนั่งเล่น ทำให้หญิงสาวตกใจและใจเสีย เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ทำไมชินกฤตไม่ปลุกเธอ และทำไมนอนครั้งหนึ่งต้องผ่านไปถึงสามวัน คำถามต่างๆ ประเดประดังเข้ามาในหัวของเธอไม่ขาดสาย ทันใดนั้นเองเสียงประตูก็เปิดขึ้น

 

“อ้าว…ตื่นแล้วเหรอ นึกว่าจะสิงอยู่ห้องนอนผมตลอดไปซะอีก”

ชินกฤตกลับมาจากข้างนอก ในมือของเขาถือถุงหมี่เกี๊ยวหมูแดงที่เธอชอบมาด้วย

 

“ผมไม่รู้ว่าคุณต้องกินหรือเปล่า ผมซื้อมาเผื่อด้วย”

“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันคิดว่าฉันคงไม่ต้องกินหรอก”

ชาลิสามองถุงบะหมี่ น่าแปลกที่กลิ่นเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เธอหายจากความหิวได้

 

“เดี๋ยวผมจะไปบ้านคุณจักร คุณจะไปกับผมหรือเปล่า?”

“ไปค่ะ คือ…งานเผาศพของฉันเป็นยังไงบ้างคะ คุณได้ไปร่วมงานหรือเปล่า”

“เปล่า…คุณจักรให้ผมคอยอยู่ดูงานบริษัท แต่จนถึงวันนี้เขายังไม่เข้าออฟฟิศ ผมว่าผมจะไปหาเขาสักหน่อย”

 

วันนี้เธอกับชินกฤตคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น และดูเหมือนเขาจะเริ่มยอมให้ความช่วยเหลือ ทำให้วิญญาณสาวดีใจมาก

ทั้งสองมาถึงคฤหาสน์รัตนบดินทร์ ทุกอย่างยังดูเรียบร้อย และเงียบเหงาเช่นเคย สาวรับใช้คนเดิมวิ่งออกมาต้อนรับ

 

“สวัสดีค่ะ คุณผู้ชายกำลังจะกลับมาถึงแล้วค่ะ ท่านบอกว่าให้คุณชินกฤตรอที่ห้องรับแขกได้เลยค่ะ”

สาวใช้เดินนำชินกฤตไปยังห้องรับแขกที่ใช้รับรองเขาทุกครั้ง โดยมีวิญญาณของชาลิสาเดินตามมาติดๆ แต่ละมุมของคฤหาสน์ช่างดูหม่นหมอง ชาลิสาแอบคิดว่าจะมีเพียงเธอคนเดียวหรือเปล่าที่สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ปกติของบ้านหลังนี้

 

“คุณเข้ามาที่นี่ แล้วไม่รู้สึกแปลกๆ เลยเหรอคะ”

ชาลิสานั่งลงข้างชินกฤตที่กำลังนั่งพักดื่มน้ำเย็นๆ

 

“ไม่นะ มีอะไรแปลกอย่างนั้นเหรอ”

“หรือว่าคุณเห็นไม่เหมือนที่ฉันเห็นรึเปล่า”

 

ชินกฤตมองชาลิสาด้วยความงุนงง เพราะสิ่งผิดปกติเดียวที่เขามองเห็นก็คือร่างวิญญาณของหญิงสาวผู้นี้เท่านั้น แต่สิ่งที่วิญญาณสาวผู้นี้มองเห็น กลับเป็นบรรยากาศคล้ายหมอกควันปกคลุมบ้านหลังนี้อยู่ ไร้ซึ่งแสงที่สดใสของแดดยามกลางวันส่องเข้ามาในห้องต่างๆ ของคฤหาสน์หรู และชาลิสายังสัมผัสได้ถึงใครอีกคนที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา

 

“ฉันขอไปเดินดูรอบๆ ก่อนนะคะ”

สิ้นเสียงของวิญญาณสาว เธอก็ผละเดินออกไปจากห้องรับแขกทันทีด้วยความอยากรู้อยากเห็น ชินกฤตมองตามแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

 

…เขาสนใจสิ่งที่เขากำลังถืออยู่ในมือ ที่ตั้งใจนำมาให้กับจักรวาล เจ้านายของเขามากกว่า….

เอกสารสำคัญปึกใหญ่ เป็นรายงานถึงสถานะของบริษัทที่ผ่านช่วงวิกฤตไปได้อย่างเฉียดฉิว ชินกฤตมองเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะด้วยความคิดบางอย่าง เขารีบสลัดความคิดต่างๆ ออกไป พยายามคิดอะไรให้น้อยที่สุดเพื่อหยุดความสับสน

 

“คุณผู้ชายคะ แขกมารอแล้วค่ะ”

เสียงเด็กสาวรับใช้ดังแว่วมาจากบันไดทางเข้า พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่น่าจะมากกว่าคนหนึ่งคนกำลังเดินเข้ามา

 

“เอ้า…รอนานหรือเปล่า”

จักรวาลเดินเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินตามหลัง เขาคือ “ตระการกุล” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เคยมาปรากฏในงานแต่งของจักรวาลนั่นเอง ชินกฤตลุกขึ้นยืนพร้อมมอบเอกสารปึกใหญ่ให้กับจักรวาล

 

“ขึ้นไปรอผมบนห้องนะ ผมขอคุยงานกับลูกน้องแป้ปนึง”

จักรวาลแตะที่แขนของตระการกุลเบาๆ พร้อมส่งยิ้ม ตระการกุลพยักหน้ารับและเดินขึ้นบันได ชินกฤตสังเกตทุกการเคลื่อนไหวของคนทั้งคู่ เขาพยายามห้ามความคิดตัวเองอย่างหนักว่าชายหนุ่มทั้งสองจะมีความสัมพันธ์เป็นอื่นอย่างที่เขาคิดหรือไม่ ด้วยใจที่นึกสงสารอดีตภรรยาอย่างชาลิสาเป็นอย่างมาก

 

“จัดการเรียบร้อยดีใช่ไหม?”

 

“ครับ เราจ่ายทุกอย่างครบถ้วนก่อนธนาคารฟ้องล้มละลายสำเร็จ ส่วนชุดนี้เป็นเอกสารยืนยันการชำระหนี้ทั้งหมดที่เราติดค้างไว้ครับ”

จักรวาลทำหน้าเรียบเฉย เปิดดูเอกสารทีละหน้า

 

“ส่วนคู่ค้าที่มีปัญหาผมสั่งจ่ายทุกอย่างเรียบร้อย เขายืนยันว่าจะไม่เอาเรื่องกับเรา แต่เขาขอติดแบล็กลิสบริษัทเราไว้ ต่อไปนี้เรากับเขาก็จะทำธุรกิจร่วมกันไม่ได้อีกแล้วครับ”

 

“โอเค ตามนี้เลย นายจัดการตามที่เห็นสมควรเถอะ”

จักรวาลหยุดอ่านและปิดหน้าเอกสารทุกอย่างคืนให้ชินกฤต ดูเขาโล่งใจและไม่สนใจกับงานเหล่านี้แม้แต่น้อย ชินกฤตรับรู้ได้ว่าเจ้านายของเขาเปลี่ยนไปมาก หลังจากงานศพของชาลิสาภรรยาที่เพิ่งแต่งงานไม่ถึงหนึ่งเดือน

 

ชินกฤตนึกขึ้นได้ ว่าเขามีชาลิสาที่ต้องดูแลในสภาพวิญญาณมาด้วย เขามองหาไปรอบๆ จนจักรวาลจับสังเกตได้

“อะไรของนาย นายมองหาอะไรอยู่เหรอ?”

 

“เอ่อ เปล่าครับ คือ…ผมขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะครับ”

ชินกฤตใช้ไหวพริบในการตอบคำถามเจ้านาย เขาคิดจะใช้โอกาสนี้ในการตามหาวิญญาณสาวที่เขาพามาด้วย

 

“อ่อ…เดี๋ยวอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อน หรือนายจะกลับเลยก็ได้ตามสะดวกนะ ขอบใจมาก”

จักรวาลกล่าวทิ้งท้ายก่อนที่จะเข้าไปสั่งงานกับป้าหัวหน้าแม่บ้าน ชินกฤตรีบเดินเพื่อมองหาชาลิสาทันที

 

…………………………..

 

จ๊ะเอ๋!! ตระการกุลที่หายไปตั้งแต่ตอนที่ 1 เขากลับมาแล้วจ้าตัวเอง




 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา