จอห์นนี่ เจ้าสมรภูมิบุฟเฟ่ต์
เขียนโดย Loshantia
วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.59 น.
แก้ไขเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565 16.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) สมรภูมิอันไม่มีที่สิ้นสุด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโลกที่กว้างใหญ่นี้มีผู้คนมากหน้าหลายตา ทุกคนต่างต่อสู้ไม่ว่ากับผู้อื่นหรือตนเองเพื่อดิ้นรนมีชีวิตต่อไป บางคนอาจโชคดีไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไรมากในขณะที่บางคนต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างไม่จบสิ้น เรื่องราวนี้จะกล่าวถึงเด็กหนุ่มผู้ดิ้นรนบนโลกแห่งการต่อสู้ โลกที่ศัตรูมีมากมายจนยากจะรับมือไหว
.
.
.
“โอย…………..ไม่ไหวแล้ว……………”
เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นท่ามกลางสมรภูมิ เด็กหนุ่มผู้หนึ่งพยายามฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ก็ไม่อาจทำได้ เขาทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรก
“มาได้แค่นี้เองเหรอ……”
เด็กหนุ่มคนนั้นตัดพ้ออย่างหมดหวัง ก่อนที่เขาจะโดนเด็กหนุ่มที่เตี้ยกว่าอีกคนกระชากคอเสื้อขึ้นมา
“อย่าเพิ่มยอมแพ้สิเจ้าบ้า พวกเรายังมีภารกิจที่ต้องทำอยู่ไม่ใช่รึไง ความฝันที่จะได้รับทุนเข้าโรงเรียนนั่นมันไม่มีความหมายสำหรับนายอย่างงั้นเหรอ?”
เด็กหนุ่มที่ถูกกระชากคอเสื้อกัดฟันแล้วตะโกนตอบกลับไป
“การได้เข้าโรงเรียนนั่นคือความฝันของพวกเรา แต่ฉันไม่ไหวแล้ว มันเกินความสามารถของฉันมากเกินไป นายไปต่อเถอะ ฉันคงมาได้แค่นี้”
ทันทีที่พูดจบเด็กหนุ่มก็ถูกต่อยล้มลงไปทันที เขาเกิดอาการคลื่นไส้แต่พยายามที่จะปิดปากไม่ให้สิ่งที่อยู่ในคอพุ่งออกมา
“อย่ายอมแพ้ง่ายๆ สิ นายเหลือเนื้อที่ต้องกินอีกแค่ 4 ถาดเล็กก็จะผ่านการทดสอบไปได้แล้ว อย่าให้รอบที่ผ่านๆ มาเสียเปล่าสิฟะ”
เด็กหนุ่มที่เพิ่งต่อยเพื่อนของเขาพยายามให้กำลังใจในแบบของเขา เด็กที่ถูกต่อยจนล้มพยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบากแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ เขาหยิบตะเกียบแล้วคีบเนื้อลงหม้อสุกี้อย่างช้าๆ
“นั่นแหละ อีกนิดเดียวเท่านั้น ฉันจะกลับไปกินของตัวเองแล้ว อย่าเพิ่งยอมแพ้ไปก่อนนะ”
พูดจบเด็กหนุ่มก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตนแล้วเริ่มลงมือกินเนื้อในส่วนของตนเองต่อ
“เหลือเวลาอีก 1 นาที”
เด็กหนุ่มตกใจทันทีที่เสียงประกาศดังขึ้น เนื้อของเขาที่เหลืออยู่มีแค่ในหม้อ 4 ชิ้นเท่านั้น แต่ของเพื่อนเขาที่ทำท่าจะกินไม่ไหวอยู่นั้นตอนนี้เหลือ 2 ถาดเล็ก หากใช้เวลาต้มพร้อมกับทานอาจจะไม่ทันเวลาถ้าเขายังกินในระดับความเร็วนี้ ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้อีกแล้วเพราะโดนเตือนจากกรรมการเพราะเข้าไปต่อยเพื่อนเมื่อกี้ ตอนนี้เขาได้แต่กินเนื้อของตัวเองให้หมดแล้วลุ้นให้เพื่อนของเขาทำได้เช่นเดียวกัน
“นายทำได้ไอ้เก่ง อย่าให้เสียชื่อตัวเองนะ”
เด็กหนุ่มเรียกชื่อเพื่อนของตนพร้อมภาวนาให้เพื่อนของเขาทำสำเร็จ ตอนนี้เหลือเวลา 30 วินาทีแล้วหากหมดเวลาแล้วยังมีเนื้อเหลืออยู่หรือยังเคี้ยวอยู่จะถือว่าไม่ผ่านการทดสอบทันที เก่งที่ต้มเนื้อถาดสุดท้ายคีบพวกมันขึ้นมาพร้อมจะจุ่มลงไปในน้ำจิ้ม
เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อน้ำจิ้มในถ้วยของเขาหมดเรียบร้อยแล้ว การจะเรียกเติมน้ำจิ้มเวลานี้อาจทำให้เขาไม่ผ่านการทดสอบได้ แม้จะสามารถกินเนื้อโดยไม่ต้องใช้น้ำจิ้มได้แต่เนื่องจากการฝืนกินเนื้อมาโดยตลอดโดยไม่ได้เหลือผักไว้ตัดเลี่ยนนั้นกลายเป็นการทำร้ายตัวเองในยามคับขันเช่นนี้ เก่งทำได้แค่ฝืนคีบเนื้อติดมันเข้าปากอย่างไม่มีทางเลือก
1 ชิ้น……..
2 ชิ้น……….
3 ชิ้น…………
4 ชิ้น…………….
เขาฝืนทนกินจนเหลือชิ้นสุดท้ายแต่ร่างกายของเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว ความอิ่มและความเลี่ยนทำให้เขาอยากอ้วกมันออกมาแต่หากทำเช่นนั้นไปเขาจะถูกคัดออกทันที การอ้วกสิ่งที่กินไปถือเป็นความผิดร้ายแรงมากสำหรับการทดสอบและสำหรับโลกใบนี้ เขาต้องฝืนกลืนสิ่งที่พยายามจะออกมาจากคอเขากลับไปพร้อมกับยัดเนื้อชิ้นสุดท้ายเข้าไป
“10……………”
“9…………….”
เสียงนับเวลาดังขึ้น เก่งเหลือเพียงแค่เคี้ยวแล้วกลืนเนื้อลงไปเท่านั้น เขาเคี้ยวมันอย่างยากลำบาก หน้าเขาซีดลงพร้อมกับท้องที่เริ่มปวดจากการทานอาหารมากเกินไป
“5……………”
“4……………”
“3…………..”
เก่งกลืนมันลงคอได้สำเร็จ แต่ทว่าสิ่งที่อยู่ในคอเริ่มดันออกมาทำให้เขาต้องรีบปิดปากแล้วพยายามดันมันกลับลงไป หากยังมีอะไรเหลือค้างในปากนั้นก็เท่ากับว่าที่เขาพยายามมานั้นสูญเปล่า
“2…………..”
“1……………”
เขากลืนมันลงคอได้สำเร็จเป็นเวลาเดียวกับที่เสียงนกหวีดบอกหมดเวลาดังขึ้น ทุกคนหยุดการกระทำใดๆ ทั้งหมดพร้อมอ้าปากให้กรรมการตรวจสอบทันที กรรมการเดินตรวจสอบแต่ละคนจนกระทั่งไปถึงคราวของเก่ง เก่งอ้าปากให้กรรมการตรวจสอบพลางโล่งใจ แต่ยังไม่ทันไรเก่งก็เริ่มหน้าซีดอีกครั้งพร้อมกับคิดในใจ
[ไอ้จ้อย……….ขอโทษด้วย ฉันทำได้ดีที่สุดแล้วแต่เหมือนว่าร่างกายมันจะรับไม่ไหว……..]
สิ่งที่เก่งกินเข้าไปนั้นพุ่งทะลักออกมาจากปากของเขาเข้าหน้ากรรมการเต็มๆ เกิดความโกลาหลขึ้นทันใด มีเจ้าหน้าที่เข้ามาทำความสะอาดพื้นที่ทันทันทีแล้วพาตัวกรรมการผู้โชคร้ายไปล้างคราบออก เก่งที่เพิ่งปล่อยของออกมาทรุดตัวลงพร้อมกับมีเจ้าหน้าที่อีกชุดเดินมาลากตัวไป เด็กหนุ่มที่ต่อยเก่งไปนั้นรีบวิ่งไปดูอาการเพื่อนทันทีพร้อมบอกให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูแลเพื่อนให้ดีกว่านี้
“ไอ้จ้อย…… ยินดีด้วยที่ผ่านการทดสอบนะ ฉันรู้ดี…………แกพยายามมาโดยตลอด ขอให้โชคดีกับเส้นทางที่แกเลือกนะ ฉัน……..จะคอยให้กำลังใจ……..อยู่ที่นี่เอง……….”
“ไอ้เก่ง…………………………………..”
จ้อยตะโกนเรียกชื่อเพื่อนของเขาพร้อมกับกำหมัดอย่างแน่นไว้ ก่อนที่จะตะโกนประโยคต่อไปที่ทำให้ผู้คนที่ดูอยู่จากซึ้งกลายเป็นกุมขมับแทน
“ฉันบอกว่าอย่าเรียกชื่อนั้น ฉันชื่อจอห์นนี่โว้ยยยยยยยยยยยยยย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ