ชีวิตใหม่ของผู้กล้าจอมปลอม

-

เขียนโดย GUEST1656840114

วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.39 น.

  33 บท
  5 วิจารณ์
  14.95K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 16.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

31) Ep31 ปะทะหมอผี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

•โนอา แอชคลาส•

 

ร่างของคนกลุ่มหนึ่ง กำลังวิ่งผ่านต้นไม้น้อยใหญ่ มุ่งสู่ป่าลึกอย่างเร่งรีบ เท้าหลายคู่ย่ำบนพื้นป่าแต่กลับไม่มีเสียงแม้แต่น้อย ต่างคนต่างระวังตัวมาดเพราะนี่เป็นการหนีเอาชีวิตรอด

 

นักผจญภัยถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งคอยนำทาง โดยมีผม เรนและแอนนาอยู่ตรงกลาง ส่วนอีกกลุ่มคอยคุ้มกันจากข้างหลัง

 

“อาจารย์ลิเลียนจะเป็นอะไรไหมนะ?”

 

เรนพึมพำเสียงเบา ใบหน้าเด็กชายเศร้าหมอง ในแววตาดูมีความกังวลอยู่

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงท่านนักปราชญ์หรอกครับ ที่พวกนั้นทำได้ก็แค่ถ่วงเวลาเท่านั้นแหละ”

 

เดิมทีมนุษย์มารก็แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ธรรมดาอยู่แล้ว

 

และการที่จะสังหารระดับ [ผู้เชี่ยวชาญระยะกลาง] อย่างน้อยก็ต้องมีผู้บรรลุระดับเดียวกันถึง 3 คน ยิ่งเป็นมนุษย์มารที่เชี่ยวชาญด้านเวทย์มนตร์ยิ่งเป็นไปได้ยาก ต่อให้ชนะไม่ได้ก็สามารถหลบหนีได้

 

ดังนั้นโจรสามพี่น้องก็คงจะทำได้เพียงถ่วงเวลาแค่นั้น ส่วนเป้าหมายที่แท้จริงก็คือ ลอบสังหารเรน!

 

“อย่างงั้นหรือครับ”

 

เรนมีสีหน้าผ่อนคลายลงบ้าง เท้าคู่ยังคงก้าวต่อไป

 

พวกเราหลบหนีเข้ามาในป่าลึกเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้ว ถึงจะโดนมอนสเตอร์เข้าจู่โจมอยู่บ้างแต่ก็สามารถทะลุผ่านมาได้โดยไม่ต้องต่อสู้ด้วยสายเลือดผู้บงการมิติ ของผม

 

สาเหตุที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อใช้ถ่วงเวลา ให้ศัตรูที่ไล่ตามมาต้องเสียเวลาต่อสู้กับมอนสเตอร์ ขอเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

 

พวกเรายังคงก้าวต่อไปโดยไม่หยุดพัก

 

แต่ทว่า ร่างโครงกระดูกมนุษย์ยักษ์สวมมงกุฎสีทองสูงประมาณ 7 เมตรก็ปรากฏตัวและยืนสูงตระหง่านขวางหน้าพวกเรา

 

นักรบโครงกระดูก [สเกลเลตัน!] แถมในอดีตยังเคยเป็นเผ่าคนยักษ์อีกด้วย

 

ภายใต้ความตกตะลึงของพวกเรา สเกลเลตันคนยักษ์ก็ปล่อยหมัดโครงกระดูกออกมาอย่างรุนแรง

 

“ระวัง!”

 

เสียงร้องเตือนของกลุ่มนักผจญภัยที่นำหน้า ทำให้ผมตัดสินใจปลดปล่อยออร่าไปตามเถาวัลย์ที่สร้างเตรียมไว้ตั้งแต่แรกทันที

 

ตู้ม!

 

หมัดโครงกระดูกยักษ์กระแทกเข้ากับพื้นป่าอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงดังสนั่นและฝุ่นควันตลบไปทั่วบริเวณพื้นป่า

 

ต้นไม้และพื้นดินในระยะ100เมตรถูกทำลายในทันที!

 

ฝุ่นควันเริ่มบางลง เผยให้เห็นร่างของคน 9 คน ต่างมีใบหน้าซีดเผือด ขาไร้เรี่ยวแรงต้องทรุดลงไปนั่งกับพื้น

 

“กะ...กะ...เกือบไปแล้ว!”

 

ต่างคนต่างพึมพำด้วยความตกใจ ดวงตาจ้องมองร่างโครงกระดูกยักษ์ตรงหน้า

 

“น่าเบื่อจริงๆ ยังมีชีวิตรอดอยู่อีกหรือเนี่ย?”

 

ร่างของชายชุดคลุมยาวสีดำปรากฏตัวบนไหลของโครงกระดูกยักษ์ ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาสีแดงก่ำ ท่าทางเกียจคร้าน แต่ออร่าที่ปลดปล่อยออกมานั้นทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาล

 

ทำให้สัมผัสได้ทันที ว่าเป็นผู้ที่บรรลุระดับ [ผู้เชี่ยวชาญระยะกลาง] เช่นเดียวกับท่านนักปราชญ์หญิงลิเลียน

 

“แย่แล้วสิ ดันเจอพวกน่ารำคาญอย่าง เนโครแมนเซอร์ซะแล้วสิครับ”

 

ผมเอ่ยเตือนพวกพ้องและใช้ [เนตรสวรรค์] ประเมินศัตรูเงียบๆ

 

“พวกแกนะสิน่ารำคาญ ทำไมถึงยังมีชีวิตอยู่อีก!”

 

“รีบๆ ตายไปซะสิ!”

 

คำพูดโอหังหลุดออกจากปากชายในชุดคลุมสีดำ ท่าทางเกียจคร้าน แววตาไร้อารมณ์ราวกับไม่มีพวกผมอยู่ในสายตา

 

“ฆ่ามันให้หมด แกรนด์คิง”

 

หลังจากได้รับคำสั่ง ร่างโครงกระดูกยักษ์ ก็ปล่อยหมัดรุ่นแรงอีกครั้ง หมัดโครงกระดูกกระแทกกับพื้นป่า

 

เกิดการทำลายล้างวงกว้าง พื้นป่าภายในระยะถูกทำลายจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่

 

แต่ทว่า ด้วยพลังสายเลือดผู้บงการมิติของผมจึงทำให้ทุกคนยังคงปลอดภัยอยู่ แต่ด้วยภาระที่ต้องใช้งานอย่างหนัก ทำให้ผมเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย

 

“โถเว้ย! ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ได้ตายจริงๆ แน่”

 

ผมกัดฟันกรอด สบดออกมาด้วยความไม่พอใจ

 

“จะ...จะทำยังไงกันดีครับ?”

 

เรนเอ่ยถามน้ำเสียงเป็นกังวล แต่ในแววตาแฝงไปด้วยความรู้สึกเจ็บใจไม่แพ้กัน

 

“ถ้าจะให้รอดกันทั้งหมดก็คงมีแต่ตั้งสู้แหล่ะครับ”

 

ผมตอบเด็กชายที่ดูเป็นกังวลน้ำเสียงเรียบนิ่ง ถึงภายนอกตัวผมจะยังดูสงบอยู่ แต่ในใจกลับรู้สึกเป็นกังวลไม่แพ้กัน

 

“ถ้าอย่างงั้นพวกข้าจะซื้อเวลาให้ พวกท่านโปรดหนีไปเถอะครับ”

 

นักผจญภัยเอ่ยขึ้นอย่างกล้าหาญ แต่ผมต้องส่ายหน้าปฎิเสธความหวังดีของพวกเขา

 

“ถ้าทำแบบนั้นสุดท้ายก็คงต้องตายกันหมดแน่ครับ”

 

ภายในใจของพวกเขาก็คงจะคิดว่าคำพูดของผมนั้นถูกต้อง จึงทำได้แต่กัดฟันกรอดกล้ำกลืนคำพูดเอาไว้

 

“แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีวิธีชนะ ถึงโอกาสจะมีไม่มากก็เถอะครับ”

 

“นายน้อยมีวิธีหรือครับ?”

 

ผมพยักหน้าตอบรับ ทำให้นักผจญภัยตกตลึงเล็กน้อย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้พวกเขาเองก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรับฟังความคิดของเด็กอายุเพียง 6 ขวบ

 

ผมจึงไม่รอช้า รีบอธิบายแผนการในทันที

 

ผู้ใช้ศาสตร์แห่งความตาย หรือ เนโครแมนเซอร์ เป็นศาสตร์ที่ใช้สำหรับกระทำการเพื่อบรรลุสิ่ง 3 อย่างหลักๆ คือ ควบคุม มายา ปัญญา

 

ควบคุมจิตใจและเจตจำนงของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ สัตว์หรือแม้กระทั่งภูติ ผี

 

สร้างภาพหลอน คืนชีวิตให้ผู้ตายปรากฏออกมาชั่วคราว หรือสร้างภาพในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงให้หลงคิดไปว่าดำรงอยู่จริง

 

รับรู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้ จากผู้มีความรู้เหนือกว่ามนุษย์ สิ่งนั้นก็คือ ปีศาจ นั้นเอง

 

“เจ้าโครงกระดูกยักษ์นั้นเป็นอันเดรต ซึ่งการจะต่อกรด้วยนั้นต้องใช้สิ่งที่มีคุณสมบัติศักดิ์สิทธิ์”

 

“แต่ว่า สิ่งที่ผมต้องการก็คือเศษเสี้ยวของโครงกระดูกนั้น ขอแค่เพียงได้มันมาพวกเราก็จะชนะ”

 

ผมกล่าวด้วยความมั่นใจ ทำให้ทุกคนต่างตกตลึง

 

คงไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะสามารถเอาชีวิตผู้ที่บรรลุระดับ [ผู้เชี่ยวชาญระยะกลาง] ได้จริงๆ หรอก

 

เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องสังหารขอแค่เพียงพวกเรารอดชีวิตก็นับว่าเป็น ชัยชนะแล้ว

 

“เข้าใจแล้วค่ะ! นายน้อยได้โปรดออกคำสั่งมาได้เลยค่ะ”

 

เมดสาวแอนนาที่เงียบอยู่ตลอด ก็เอ่ยน้ำเสียงจริงจัง ส่วนเหล่านักผจญภัยต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเธอ

 

“เข้าใจแล้วครับ”

 

“ใช้วิธีใดก็ได้ ขอแค่นำเศษเสี้ยวของโครงกระดูกยักษ์นั้นกลับมาให้ได้”

 

ผมชี้ไปที่ โครงกระดูกยักษ์ที่ยืนสูงตระหง่าน และออกคำสั่งทันที

 

เมื่อได้รับคำสั่ง แอนนา และเหล่านักผจญภัยก็พุ่งตัวขึ้นจากหลุมยักษ์ทันที

 

“ยังไม่ยอมไปสบายอีกหรือไง?”

 

ชายในชุดคลุมสีดำเอ่ยเสียงเรียบ ท่าทางเอื่อยเฉื่อยแววตาดูเฉยเมย ไม่ได้ตกใจอะไร

 

“ไอ้เวร แกนะสิต้องไปสบาย!”

 

แอนนาสบดด่าสวนทันที เรื่องฝีปากแอนนาคงไม่เป็นรองใครแน่นอน ส่วนฝีมือก็ไม่ได้ด้อยเช่นกัน

 

“ [คมดาบไร้เงา] ”

 

แอนนา เธอปรากฏตัวด้านหลังของชายชุดคลุม และใช้ดาบสั้นชิรายาสะ ฟันเล็งบริเวณลำคอของศัตรู

 

แต่ทว่า ก่อนจะถึงตัวศัตรู วงเวทย์สีม่วงก็ปรากฏใต้เท้าของชายในชุดคลุมสีดำ

 

นักรบโครงกระดูก [สเกลเลตัน ไนท์] สูงประมาณ2เมตร ก็ปรากฎตัวและใช้ดาบบิ่นๆ ในมือ รับการโจมตีของแอนนาแทน

 

แอนนาถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว วงเวทย์สีม่วงก็ปรากฏอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นนักรบโครงกระดูกถือธนู [สเกลเลตัน อาเชอร์] ปรากฏตัวและยิงธนูใส่แอนนาทันที

 

ลูกดอกธนูพุ่งใส่กลางอกแอนนา แต่ทว่า แทนที่ลูกดอกจะปักกลางอกหญิงสาว กลับกลายเป็นท่อนไม้สวมชุดเมดแทน

 

“ [จักจั่นลอกคราบ] ”

 

หญิงสาวปรากฏตัวห่างจากเดิมประมาณ10 เมตร ผมยาวสีน้ำตาลถูกรวบไว้เป็นหางม้า นัยน์ตาสีดำไร้ความรู้สึกประดับใบหน้างามหญิงสาวทำให้ดูเย็นชา

 

สวมชุดเกราะและกางเกงขาสั้นรัดรูปเผยให้ทรวดทรงงดงาม

 

แอนนา สาวรับใช้ส่วนตัวที่ปกติแล้วมักจะทำงานขยันขันแข็งและมีนิสัยร่าเริง แต่ตอนนี้ราวกับนักฆ่าที่ไร้ความรู้สึก

 

“นะ...นะ...นินจาละครับ”

 

เรนที่เฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ ต่างต้องตกตะลึง

 

ส่วนกลุ่มนักผจญภัยก็เข้าประชิดโครงกระดูกยักษ์

 

“ [อาชูร่า] ”

 

เหมือนในกลุ่มนั้นจะมี ม้อง อยู่ด้วย พลังหมัดที่รุนแรงปะทะเข้ากับหมัดโครงกระดูกยักษ์ แรงปะทะทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง

 

แต่ทว่า ร่างของนักผจญภัยกลับกระเด็นออกไปกองกับพื้นป่า ได้รับบาดเจ็บที่แขนอย่างสาหัส ส่วนโครงกระดูกยักษ์กลับไร้รอยขีดข่วน

 

“ชิ เจ้านี่ดื่มนมมากไปหรือเนี่ย!”

 

นักผจญภัยตะเกียกตะกายลุกขึ้น นักผจญภัยหญิงในกลุ่มต้องเข้ามาคอยพยุงออกไปให้ห่างจากการต่อสู้

 

แต่ศัตรูไม่ยอมให้ทำแบบนั้นได้ง่ายๆ โครงกระดูกยักษ์ปล่อยหมัดตรงเข้าไปยังนักผจญภัยทั้งสอง

 

พวกพ้องที่เหลือต้องเข้ามารับแทน นักผจญภัยที่เหลืออีก 4 เข้า แต่ก็ต้านไว้ได้เพียงชั่วคราว ร่างของคนทั้ง 6 ถูกซัดเข้ากับหมัดโครงกระดูก

 

ผมจึง ใช้พลังสายเลือด [ผู้บงการมิติ] เพื่อช่วยเหลือทุกคนทันที

 

“หือ... มีคนน่าสนใจอยู่ด้วยหรือเนี่ย?”

 

ชายชุดคลุมสีดำตกตะลึงที่ ทั้ง 6 คนยังมีชีวิตอยู่ จึงเบนสายตามายังตัวผม ที่ไม่เคยจะอยู่ในสายตาตั้งแต่แรก

 

“ข้าสนใจในพลังของเจ้า เอามันมาให้ข้า”

 

ร่างสเกลเลตันคนยักษ์เปลี่ยนเป้าหมายมายังฝั่งผมแทน

 

มือโครงกระดูกยื่นออกมาพยายามจะคว้าตัวผมไว้ แต่ทว่ามือนั้นกับทะลุผ่านร่างไปโดยไม่ได้สัมผัสแม้แต่เส้นผม

 

“ฮ่าๆๆ เจอศพดีๆ เข้าให้แล้ว!”

 

“เจ้าหนู รีบตายๆ ไปเสีย”

 

ชายในชุดคลุมสีดำหัวเราะเยาะเสียงดัง นัยน์ตาแดงก่ำ แววตาเต็มไปด้วยไฟแห่งความโลภ

 

“นี่เล่นสั่งให้ผมรีบๆ ตาย คิดว่าตัวนายเป็นใครหรือ?”

 

ผมยังคงสงบเยือกเย็น เอ่ยวาจายั่วโมโหศัตรู มือหยิบหลอดยาฟื้นฟูขึ้นมาดื่มหนึ่งขวดและโยนไปให้กลุ่มนักผจญภัยอีกขวดเพื่อใช้รักษาพวกพ้อง

 

“ข้าไม่จำเป็นต้องบอกชื่อของตัวเองให้คนที่กำลังจะตายฟังหรอก เจ้าหนู”

 

“อย่างงั้นหรือ ผมเองก็ไม่อยากจะรู้ชื่อของคนที่ใกล้ตายเหมือนกัน”

 

ผมปะทะฝีปากกับศัตรู ภายใต้ความตกตะลึงของเรน แววตาของเด็กชายราวกับมองคนโง่ที่ทำอะไม่เข้าเรื่อง

 

แต่ผมไม่ได้สนใจ ชักคาตานะฟันไปที่ส่วนแขนของโครงกระดูกทันที

 

แต่ทว่า ดาบคาตานะที่คลุมด้วยออร่าจิตต่อสู้ กลับไม่สามารถทำลอยขีดข่วนให้สเกลเลตันคนยักษ์ได้เลย

 

“ชิ! แกนี่ดื่มนมเยอะเกินไปหรือเปล่า”

 

ผมสบถด้วยความไม่พอใจ

 

“ฮาฮ่าๆ แกนี่เก่งแต่...”

 

ชายในชุดคลุมหัวเราะเยาะ กำลังจะเอ่ยอะไรแต่กลับต้องหยุดชะงัก

 

“มีช่องโหว่!”

 

ในจังหวะที่ศัตรูกำลังประมาท แอนนาก็หลบประสาทสัมผัสของศัตรูเข้าไปประชิดร่าง ดาบสั้นชิรายาสะฟันไปที่คอของศัตรูหวังให้ขาดเป็นสองท่อน

 

แต่ศัตรูก็ไม่ธรรมดา ใช้มือปัดป้องการโจมตีของแอนนาหวังเลี่ยงจุดสำคัญและทำได้สำเร็จ แต่ทว่าต้องเสียมือไปข้างหนึ่ง

 

“โถ้เว้ย ยัยเวรนี่!”

 

ชายในชุดดำก่นด่าแอนนาน้ำเสียงโกรธแค้น แต่ทว่าแอนนากลับทำเพียงยิ้มหวานให้เป็นการตอบแทน ทำให้ศัตรูโมโหแทบจะกระอักเลือดตาย

 

“สุสานหมอก [เซนเมนเทอรี] ”

 

พลังงานฟ้าดินถูกศัตรูช่วงชิงเพื่อใช้สร้างเขตแดนมายาสำหรับตนเองขึ้นมา

 

วงเวทย์มหึมาครอบคลุมไปทั่วพื้นที่ ทำให้แสงสว่างบริเวณหายไป ท้องฟ้ามืดมิดราวกับคืนเดือนดับ ต้นไม้เหี่ยวเฉา ม่านหมอกควันหนาแน่นทำให้การมองเห็นติดขัด ป้ายศิลาจารึกชื่อคนตายมากมายปรากฏให้เห็น

 

 

 

บรรยากาศน่าขนลุกราวกับอยู่ในป่าช้า

 

นี่คือพลังของระดับ [ผู้เชี่ยวชาญ] ช่วงชิงฟ้าดินและเปลี่ยนเป็นอาณาเขตของตน

 

แต่ทว่า ราชสีห์ล่ากระต่ายยังต้องทุ่มสุดกำลัง เพียงแค่ระดับ [ผู้เชี่ยวชาญ] ทำให้ศัตรูมั่นอกมั่นใจมากเกินไป จึงทำให้เกิดความประมาท

 

ทันใดที่แขนศัตรูถูกฟันจนขาด มือโครงกระดูกยักษ์ก็ถูกฟันขาดไปด้วย ทำให้ในตอนนี้แผนของผมสำเร็จถึง 70% แล้วล่ะ

 

“เรน ที่เหลือผมฝากด้วยนะครับ”

 

ผมเอ่ยเสียงเบา ร่างกายที่รับภาระมากเกินไปเหมือนจะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ก็ที่สติของผมจะดับลง เด็กชายก็ตอบรับอย่างมั่นใจ

 

“ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเถอะครับ”

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา