ชีวิตใหม่ของผู้กล้าจอมปลอม

-

เขียนโดย GUEST1656840114

วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.39 น.

  33 บท
  5 วิจารณ์
  21.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 16.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) Ep16 การล่อลวงของเด็กชาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

•เรน รูอิส•

 

 

 

"อ๊าก...!"

 

"ลูกพี่ วันนี้ท่านโนอาเป็นอะไรไปหรือ"

 

เสียงโหยหวน ของหนึ่งคนหนึ่งภูติ ดังก้องไปทั่วลานฝึกของคฤหาสน์ตระกูลแอชคลาส 

 

 

 

"วางใจเถอะ ผมยั้งมือไว้อยู่"

 

น้ำเสียงเย็นชา ของเด็กชายผมยาวปะบ่าสีดำดังขึ้นราวกลับว่ามันเป็นเรื่องปกติ 

 

 

 

ผมสีดำพลิ้วไสว ใบหน้างามประดับด้วยรอยยิ้มเย็น เนตรสวรรค์แผ่จิตสังหารท่วมท้น ร่างบางราวกับดาบเลื่องชื่อที่ซ้อนคมในฝัก ใครที่โดนรูปลักษณ์เจ้าบ้านี่หลอกเอาคงจะขำไม่ออก 

 

 

 

"ค่อยรู้สึกดีหน่อย"

 

เด็กชายพึมพำเบาๆ สีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย 

 

"อย่ามาลงกับพวกผมสิครับ"

 

ผมผยุงร่างขึ้นจากพื้น สภาพสะบักสะบอม น้ำเสียงเหนื่อยล้า 

 

 

 

เท้าความกันสักนิด เมื่ออาจารย์โนอากลับมาถึงคฤหาสน์ ก็ถูกพี่สาวและอาจารย์เมวิสแต่ด้วยนิสัยกะล่อนปลิ้นปล้อน ช่ำชองการหลบหลีกปัญหายุ่งยาก ทำให้บทลงโทษลดลงเหลือแค่กักบริเวณ เป็นเวลา2อาทิตย์

 

 

 

ถึงเจ้านี่จะค่อนข้างรักอิสระและทำอะไรตามใจชอบ แต่อย่างน้อยก็เป็นคนรักษาคำพูด ซึ่งพี่สาวเจ้านี่ก็รู้ดี เธอจึงใช้สิ่งที่เรียกว่า มารยาหญิง แสดงท่าทางเศร้าเสียใจ ถึงการแสดงจะค่อนข้างดูออกง่าย แต่อาจารย์โนอากลับต้องยอมแพ้เธอ อย่างช่วยไม่ได้

 

 

 

"ช่วยไม่ได้ ก็ท่านพี่อลิชทำท่าทางจะร้องไห้"

 

เจ้านี้คงจะเป็นบราค่อนสินะ อาจารย์บราค่อน ผมถอนหายใจเฮือก ลุกขึ้นยืนตั้งท่าเตรียมตั้งรับต่อ 

 

 

 

"เรนเนี้ยแข็งแกร่งขึ้นเยอะนะเนี่ย"

 

แน่นอนอยู่แล้ว ผมใช้เวลาฝึกฝนถึง 10 ปี ตั้งแต่ยังไม่ถูกอัญเชิญมาต่างโลกเชียวเลยนะ ทั้งถูกฝึกโดยอาจารย์ในราชวัง อย่ามาดูถูกความพยายามของผมเชียว 

 

 

 

แต่เมื่อผมเหลือบไปมองเด็กชายผมสีดำยาวตรงหน้า ก็รู้สึกว่าตัวเองมันช่างอ่อนแอเสียเหลือเกิน ผมไม่สามารถแตะได้แม้แต่เส้นผมสักเส้น ผมถอนหายใจเฮือก ตั้งสติอีกครั้ง

 

 

 

"ผมยังเทียบกับนายไม่ได้ซักนิด"

 

"อืม...ค่าประสบการณ์มันต่างกัน"

 

อาจารย์บราค่อน ทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ อะไรกัน รู้สึกถึงลางไม่ดี

 

 

 

"ผมมีคำแนะนำ!"

 

เด็กชายผมดำเอ่ยเบาๆ น้ำเสียงซุกซน แววตาดูเจ้าเล่ห์ชอบกล 

 

"ผะ...ผมต้องทำยังไงหรอครับ"

 

ผมถามอย่างลังเล แต่ก็อยากรู้ว่าอาจารย์บราค่อน วางแผนคิดจะทำอะไรอีกกันแน่

 

 

 

"ต้องออกไปเก็บค่าประสบการณ์สิ"

 

เด็กชายตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจริงจัง

 

ถ้าเป็นเกมส์แนว RPG ในโลกเดิมของผม การจะทำให้ตัวละครเก่งขึ้น วิธีพื้นฐานเลยก็ต้อง

 

เก็บค่าประสบการณ์เพิ่มเลเวล 

 

 

 

แต่ก็มีผู้เล่นที่ใช้เงินแก่ปัญหาอยู่ คอยเติมเงินซื้อ

 

ไอเทมที่ต้องการ เรียกว่าเทพทรู ถ้าเปรียบเทียบชีวิตผมกับเกมส์ ตัวผมก็คงจะเป็นประเภทเทพทรู มีทรัพย์สินราชวงศ์คอยซัพพอร์ต

 

 

 

ส่วนอาจารย์บราค่อนก็คงจะเป็น... ลูกGM ละมั้ง

 

 

 

"เรนยังไม่เคยลองสู้จริงใช่ไหมละครับ"

 

"ส่วนผมออกไปเก็บค่าประสบการณ์ข้างนอกตลอด ผมถึงได้บอกไงว่าค่าประสบการณ์มันต่างกัน"

 

อาจารย์บราค่อนเริ่มใช้คำพูดล่อลวง เหมือนปีศาจที่กำลังชักจูงไปทางที่ไม่ดี

 

 

 

"นายอยากแข็งแกร่งขึ้นไม่ใช่หรือ มาทางนี้สิ"

 

ภาพตัวผมอีกคนผุดขึ้นในหัว ที่แตกต่างกันก็คงจะเป็นเขาสองข้างที่งอกออกมาบนหัว เหมือนกำลังจูงมือผมให้ผมตอบรับคำล่อลวงของเด็กชายผมสีดำ

 

 

 

"ไม่ได้นะครับ ตอนนี้มันยังอันตรายเกินไป คนอื่นจะเป็นห่วงเอานะครับ"

 

ภาพผมอีกคนผุดขึ้นในหัวอีกครั้ง แตกต่างกันก็คงจะเป็นวงแหวนบนหัวที่ส่องสว่างราวกับดวงจันทร์ กำลังยื่นมือมารั้งผมไว้ไม่ให้ผมตอบรับคำล่อลวง

 

 

 

"ของแค่นั้น ก้าวข้ามขีดจำกัดไปซะ"

 

ผมที่มีเขาสองข้างเอ่ยขึ้น น้ำเสียงแข็งกร้าว

 

"ไม่ได้นะครับ"

 

ผมที่มีวงแหวนบนหัวยังคงห้ามผมไว้ 

 

 

 

"ฮาฮ่า ถ้าเป็นเรน แค่ไปขออนุญาตน่าจะไม่เป็นไรแล้ว"

 

อาจารย์บราค่อนยังคงล่อลวงผมอีก ถึงจะดูออกก็เถอะ แต่ก็เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเหมือนกัน ตั้งแต่กลับชาติมาเกิดบนโลกนี้ผมยังไม่เคยออกไปพจญภัยแบบในมังงะหรือนวนิยายเลยซักครั้ง 

 

 

 

"เข้าใจแล้วครับ"

 

ถึงจะยังคงได้ยินเสียงห้ามปรามของตัวผมที่มีวงแหวนอยู่บนหัว แต่ผมก็ถูกล่อลวงจนสำเร็จ

 

อาจารย์บราค่อนยิ้มแย้มอย่างพึงพอใจ ปากเล็กพึมพำคำว่า สำเร็จ เบาๆ

 

 

 

เฮ้อ ถ้าเจ้าตัวอยู่เฉยๆก็คงจะน่ารักอยู่หรอก แต่พอวางแผนแล้วยิ้มชั่วร้ายชะมัด เสียของหมด

 

ผมถอนหายใจเฮือก พลางคิดข้ออ้างไปพลาง 

 

 

 

"ยัยเอลฟ์โลลิ"

 

"ยัยแว่นโรคจิต"

 

ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกของผู้หญิงสองคนดังมาจากทางประตูคฤหาสน์ตระกูลแอชคลาส ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังสนั่นตามมา

 

 

 

"กะ...เกิดอะไรขึ้น?"

 

ผมถามออกมาด้วยความตกใจ พลางหันไปมองยังทางเกิดเหตุ

 

"หึม! แก่นพลังเวทย์มหาศาลมาก มนุษย์มารหรือ? แล้วระดับพลังนั้น [ระดับผู้เชี่ยวชาญระยะปลาย] สูงกว่าของอาจารย์เมวิสอีก"

 

เด็กชายผมสีดำขมวดคิ้ว ใบหน้าดูเคร่งขรึม พูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง 

 

 

 

"แต่คงไม่เป็นอะไรหรอก ผมสัมผัสไม่ได้ถึงจิตสังหารเลยสักนิด"

 

บรรยากาศเคร่งเครียด ผ่อนคลายลงด้วยคำพูดของเด็กชายผมสีดำ แต่จะปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีมั้ง

 

 

 

"เอ่อ..ลูกพี่ พลังเวทย์แบบนี้มันคุ้นๆอยู่นะ"

 

หมาไฟที่สลบไปจากการฝึกซ้อม เอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางลำบากใจ แต่จะว่าไปเสียงก็คุ้นๆอยู่หรอก

 

 

 

"ยัยเอลฟ์โลลิกับยัยแว่นโรคจิตหรอ?"

 

ยัยเอลฟ์โลลิน่าจะหมายถึงอาจารย์เมวิสสินะ ส่วนยัยแว่นโรคจิตนี้ก็... จากคำบรรยายของอาจารย์บราค่อน ความคิดหนึ่งก็แว่บเข้ามาในหัว สาวสวยผมสวยสีชมพูอ่อนพาสเทล สวมแว่นสายตาสีน้ำเงิน แต่ไม่อาจปกปิดความงามของดวงตาสีฟ้าอ่อนเธอได้เลย

 

 

 

"อาจารย์ลิเลียน!"

 

อาจารย์สอนพิเศษที่ได้รับความไว้วางใจจากทางราชวงศ์ คอยฝึกสอนผมก่อนที่จะมาที่นี่ แย่แล้วๆ ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี้ 

 

 

 

"โอ้..! เป็นแขกของเรนเองหรอกหรือเนี่ย"

 

เด็กหนุ่มทำท่าเหมือนโล่งอก ใบหน้ากับมายิ้มแย้มอีกครั้ง พร้อมกับรีบเดินตรงไปยังหน้าคฤหาสน์

 

 

 

นายยังไม่รู้จักความหน้ากลัวของอาจารย์ลิเลียน ฉายายัยแว่นโรคจิตไม่ได้มีไว้แค่ประดับหรอกนะ

 

 

 

***

 

 

 

•โนอา แอชคลาส•

 

 

 

เสียงต่อสู้ เสียงด่าทอระเบ็งเซ็งแซ่ของหญิงสาวทั้งสองยังคงดังต่อไป โดยไม่มีท่าทีว่าจะสงบลง 

 

 

 

ไม่มีใครห้ามปรามเลยหรือไงกัน ทำไมถึงยังปล่อยพวกเธอต่อสู้กันหน้าทางเข้าคฤหาสน์ ถึงผมจะบ่นในใจแต่ก็คงไม่มีคนโง่ที่ไหนเข้าไปขวางระหว่างการต่อสู้ของ[ระดับผู้เชียวชาญ]หรอก ตัวผมซึ่งตอนนี้ไม่มีฟลอร่าอยู่ด้วยนั้นยิ่งแล้วใหญ่ 

 

 

 

หลังจากที่กลับมาจากป่าไอน์ ฟลอร่าดูไม่ร่าเริงเลย เธอคงจะมีความรู้สึกไม่สบายใจอยู่เป็นแน่ ถึงผมจะถามเธอ แต่เธอคงจะไม่อยากเล่าให้ฟัง ผมจึงไม่ได้ซักไซ้อะไรมากมาย

 

 

 

ถึงเธอจะไม่ยอมอธิบาย แต่ผมก็พอจะเดาได้อยู่ ภูตินั้นมีสายตาและสัญชาตญาณที่เฉียบแหลม คงจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่เธอจะไม่รู้ว่าผมนั้นเผชิญหน้ากับผู้ยิ่งใหญ่ เพราะตัวผมในตอนนั้นมีเหงื่อเย็นเปียกโชกร่าง

 

 

 

เธอคงจะโทษตัวเองที่ด้อยพลังเป็นแน่ ก็เพราะตัวเธอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เหมือนก่อนแล้ว กลัวว่าตัวผมนั้นจะทิ้งเธอไปเพราะตัวเองอ่อนแอ จึงได้พยายามอย่างหนัก แม้ผมจะไม่มีความคิดแบบนั้นเลยก็ตามแต่

 

 

 

ผมจึงให้กลีบดอกแมนดาลาที่ได้รับมาจาก เทพมังกรพฤกษาวัลเทียแก่เธอ แม้ว่าของวิเศษนี้จะสามารถทำให้ผมบรรลุระดับพลัง[ระดับนักรบ]ก็ตาม แต่ถ้าเทียบกันแล้วมันมีประโยชน์ต่อเธอมากกว่า 

 

 

 

ตัวผมรู้ดีว่า เธอไม่อาจปฎิเสธสิ่งนี้ได้ ถ้าเธอต้องการจะแข็งแกร่งขึ้น จึงยอมรับกลีบแมนดาลาแต่โดยดี 

 

ด้วยสิ่งนี้พลังของเธอคงจะแซงหน้าผมไป แต่พอเธอดูดซับพลังเข้าไปแล้วกลับต้องอยู่ในภาวะจำศีล จึงแปลงกายเป็นเถาวัลย์สีน้ำตาลอ่อนลวดลายโบราณขนาดเล็กเท่าเส้นผม คอยซ้อนอยู่ในปลายผมด้านหลังศีรษะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา