ชีวิตใหม่ของผู้กล้าจอมปลอม

-

เขียนโดย GUEST1656840114

วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.39 น.

  33 บท
  5 วิจารณ์
  21.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 16.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) Ep14 อันตรายที่ซ่อนอยู่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

•โนอา แอชคลาส•

 

"คุณหนูตรงนั้น รับขนมหวานซักชิ้นไหมจ๊ะ?"

 

"พี่สาวให้ลองชิมฟรี"

 

"อ่ะ ขอบคุณมากครับพี่สาว"

 

พี่สาวยื่นขนมให้ผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แก้มสองข้างของเธอแดงเรื่อเล็กน้อย

 

"ชิ!"

 

เสียงของภูติตัวน้อยที่นั่งอยู่บนไหล่ดังขึ้น แก้มสองข้างพองขึ้นใกล้จะระเบิดเต็มที ไม่ว่าคนที่ยื่นของกินให้ผมนั้นจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เธอก็ยังแสดงท่าทีไม่พอใจอยู่ดี

 

"มีอะไรหรอครับ?"

 

"ไม่มีอะไรค่ะ!"

 

เธอยังคงเบือนหน้าหนี พร้อมกับปฎิเสธเสียงแข็ง ผมถอนหายใจเฮือก ช่างเป็นภูติน้อยที่เอาใจอยากจริงๆ

 

"คิกๆ"

 

แต่เหมือนว่าเธอจะคิดอะไรแปลกๆ ใบหน้าน้อยๆขึ้นสีแดงเรื่อ เผลอหลุดเสียงหัวเราะแสนเจ้าเล่ห์ออกมาเบาๆ

 

"ฟลอร่า เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?"

 

"มะ..ไม่มีอะไรค่ะ! นายท่าน"

 

เธอปฎิเสธทันควัน ทำตัวเลิ่กลักดูมีลับลมคมใน ถึงตอนนี้ผมจะสามารถรับรู้ความรู้สึกของเธอได้ แต่ก็ไม่สามารถรับรู้ความคิดเธอได้ เอาเถอะขอแค่เธออารมณ์ดีก็พอแล้ว เหล่าภูติก็มีนิสัยซุกซนอยู่แล้ว

 

ผมเดินถือขนมที่ได้รับม,าและถือเข้าไปในเขตสลัม

 

และตามที่ผมคาดการณ์เอาไว้ เหล่าลูกแกะผู้หิวโซ ได้พุ่งตัวออกมาจากที่ซ่อนแล้วล้อมรอบตัวผมไว้

 

"ส่งอาหารและของมีค่ามาซะ!"

 

"แล้วแกก็ไสหัวออกไป!"

 

เด็กชายที่มีอายุมากสุดพูดข่มขู่ แต่เนื้อตัวกลับสั่นเทาเหมือนจะล้มลงไปได้ทุกที

 

"คิดว่าผมจะให้มันง่ายๆเหมือนครั้งก่อนหรือ?"

 

ผมพูดหยั่งเชิง พร้อมกับปล่อยจิตสังหารออกมาเล็กน้อย

 

เด็กคนชายที่มีอายุมากสุดร่างกายโคลงเคลงแต่ยังสามารถพยุงตัวได้อยู่ แต่เด็กคนอื่นๆกลับเข่าทรุดลงไปกับพื้น อย่างนี้นี่เอง 'ระดับผู้ฝึกหัดระยะกลาง' สูงกว่าผมอีกนะเนี่ย ผมยิ้มเยาะอย่างพอใจ

 

"ข้าไม่มีทางเลือก พวกข้าไม่ได้ทานอาหารมามากกว่า 3 วันแล้ว ยังไงไม่ช้าก็ต้องอดตายอยู่ดี"

 

เด็กชายยังคงฝืนร่างกายที่โคลงเคลง และตอบคำถามของผม

 

"แล้วเหล่าเด็กชายหญิง ที่นายพยายามปกป้องอยู่ละนายคิดจะให้พวกเขาตายไปกับนายด้วยหรือ"

 

"ข้าไม่รู้ แต่ข้ามีความรู้สึกว่าเจ้าจะไม่ทำร้ายพวกเราจนถึงแก่ชีวิต"

 

เด็กชายยังคงฝืนตอบ สายตาที่จ้องมองมาไม่มีความโกหกแม้แต่น้อย ชิ! เบื่อพวกเซ้นส์ดีจริง เหมือนจะมีเสียงหัวเราะของฟลอร่าดังขึ้นมาในหัว ผมถอนหายใจเฮือก ก่อนจะยื่นของกินที่ได้รับฟรีมาให้พวกเด็กๆ

 

ตามเคย เด็กชายที่มีอายุมากสุดรับอาหารจากผมไปก่อนจะแบ่งและยื่นให้เด็กหญิงที่ดูอ่อนแรงข้างหลัง

 

เหล่าลูกแกะผู้หิวโซยัดอาหารเข้าปากอย่างตะกละตะกลาม

 

"ครั้งนี้ไม่ให้ฟรีนะ จ่ายมา 4 เหรียญเงิน"

 

เสียงเอ่ยเรียกๆของผม ถึงกับทำให้

 

เหล่าเด็กๆที่กำลังกินอาหารอยู่ถึงกลับสำลักออกมาเมื่อได้ยิน

 

"หระ...เหรียญเงินขนาดนั้น ต่อให้เอาพวกข้าทั้งหมดไปขาย ยังไม่สามารถหาได้ถึง 4 เหรียญเงินเลยนะ!"

 

เสียงตอบอย่างลนลานของเด็กชายที่มีอายุมากสุด ทำให้ผมแอบหัวเราะในใจ

 

"ไม่มีก็ต้องทำงานชดใช้สิ!"

 

ผมยิ้มเยาะอย่างพอใจ เอ่ยคำพูดราวกับมันเป็นเรื่องปกติ แต่เด็กพวกนี้เนื้อตัวถึงกับกระตุก ใบหน้าหม่นหมองลง ผมที่สังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติจึงเอ่ยถาม

 

"มีอะไรหรอ?"

 

"พวกข้าเคยลองทำงานแล้ว แต่กลับถูกนายจ้างด่าทอถูกทำร้ายทุบตี และที่สำคัญพวกข้าไม่ได้รับค่าแรงแม้แต่แดงเดียว"

 

"เป็นงั้นหรอกหรือ"

 

"ผมมีแผนจะปรับเปลี่ยนที่แห่งนี้ ถ้าแผนนี้สำเร็จ ผมขอรับรอง ว่าชีวิตที่เป็นอยู่ของพวกนายจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน"

 

"ถึงจะไม่ถึงขั้นสุขสบายแต่คงไม่ต้องอดยากขนาดนี้ พวกนายจะช่วยให้ความร่วมมือได้หรือเปล่า"

 

เด็กที่ได้ยินถึงกับตัวแข็งทื่อ อ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ บ้างก็พึมพำว่าไม่ต้องอดยาก ไปมาไม่หยุด

 

"เจ้าทำได้จริงหรือ"

 

เด็กหญิงตัวเล็กสุดเอ่ยถามขึ้นครั้งแรก เด็กคนอื่นไปถึงกับตกตะลึง เมื่อได้ยินเสียงของเธอ

 

"ไม่รู้สิ"

 

แต่ผมกลับปฎิเสธความคาดหวังของเหล่าเด็กๆ

 

"เอ๋!...."

 

เสียงตกใจดังเซ็งแซ่ แววตาที่มีประกายกลับหม่นหมองลงอีกครั้ง

 

"แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ใช่ไหมละ?"

 

ผมเติมเชื้อไฟแห่งความหวังให้พวกเขาอีกครั้ง

 

"นั้นสินะ ยังไงก็ยังดีกว่าอดตาย"

 

แววตาที่หม่นหมองกลับมามีประกายความหวังอีกครั้ง

 

"แล้วเจ้าจะให้พวกข้าทำอะไรละ"

 

เด็กชายที่มีอายุมากสุดเอ่ยถาม แววตาเป็นประกายโอ๊ะโอ้! เหมือนจะเติมเชื้อไฟลุกไหม้ไปแล้วสินะ

 

"นั้นสินะ ขั้นแรกผมอยากได้ข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับที่แห่งนี้"

 

"ถ้าพวกนายให้คำตอบที่น่าพอใจ ผมจะให้พวกนายได้กินมากกว่านี้"

 

เมื่อเหล่าเด็กๆได้ฟังสิ่งที่ผมพูด แววตาของพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความโลภ รีบแย่งกันเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสลัม หืม!ความอดอยากช่างน่ากลัว

 

ผมฟังสิ่งที่พวกเขาเล่า แล้วสรุปใจความคร่าวๆ พ่อแม่ของพวกเขาต่างก็ไม่มีแล้ว บ้างก็ทิ้งลูกแล้วหนีไป บ้างก็ขายตัวเป็นทาส บ้างก็เสียชีวิตแล้ว พวกเขาได้เด็กชายที่มีอายุมากสุดรับมาดูแล และคอยหาอาหารประทังชีวิตไปวันๆ ในสลัมนี้เปรียบเสมือนที่ซ่อนตัวของเหล่าผู้ก็การร้าย มีกลุ่มโจรที่คอยสร้างความเดือดร้อนอยู่เป็นประจำ และใช้กฎปลาใหญ่กินปลาเล็กคอยข่มขู่ผู้คนให้เชื่อฟัง

 

ส่วนเด็กพวกนี้ เป็นเพียงพวกล่างสุดที่ต้องจำใจกระทำความผิด เพื่อความอยู่รอดของพวกตน

 

"แบบนี้คงต้องเริ่มจากการทำความสะอาดเลยสินะ"

 

ผมเข้าใจถึงความยากลำบากในการเปลี่ยนแปลงที่แห่งนี้แล้ว ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

 

"แล้วพวกข้าจะได้ของกินเพิ่มหรือไม่?"

 

ผมยิ้มแล้วพยักหน้ารับ พวกเด็กจ้องมองมาด้วยแววตาเป็นประกาย แต่สิ่งที่ผมจะทำต่อไปกับทำให้เด็กพวกนี้ตัวแข็งทื่อ

 

"ผมจะพาพวกนายเข้าไปหาในป่า"

 

ผมชี้ไปทางป่านอกกำแพงเมือง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าป่าแห่งนี้เป็นกันชนระหว่างจักรวรรดิมิสลูน่ากับจักรวรรดิอินเนสซา ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่โบราณ

 

ป่าที่มีขนาดกว้างใหญ่มากกว่าประเทศเล็กๆบางแห่ง

 

โลกส่วนเกินหรือป่าไอน์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของมอนสเตอร์และสัตว์อสูร มีเรื่องเล่าว่าตรงกลางของป่าเป็นที่อยู่อาศัยของมังกรโบราณตนหนึ่ง มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทนงตน มองสิ่งมีชีวิตอื่นราวกับมดแมลง ถ้าไม่เข้าไปในบริเวณอาณาเขตของมัน มันก็จะไม่จู่โจมทำร้าย

 

นักพจญภัยส่วนใหญ่จึงจะหลบเลี่ยงบริเวณตรงกลางของป่าอยู่เสมอ การที่ผมทำแบบนี้คงจะทำให้หลายคนมองว่าโง่เง่า ก็คงจะไม่แปลก

 

"ละละ..ล้อเล่นใช่ไหม?"

 

เด็กชายที่มีอายุมากสุดเอ่ยถาม ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

"ใช่แล้วล่ะ ผมจะพาพวกนายไปหาของป่า"

 

ผมไม่อธิบายอะไรมากความเดินนำหน้าไปยังบริเวณกำแพงเมืองที่ไม่มีหน่วยลาดตระเวน สิ่งนี้ทำให้พวกเด็กๆงุนงง แต่ก็ยังคงตั้งสติได้และเดินตามมา

 

"นี่ทหารยามจะยอมให้ออกไปหรือ?"

 

พวกเด็กๆยังคงสับสนกับการของผม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจและอธิบายอะไรให้ฟังมากมาย

 

"ไม่ต้องขออนุญาตซักหน่อย"

 

ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เท้าสองขายังคงขยับต่อไป

 

"....!"

 

"เจ้ามาผิดทางหรือป่าว?"

 

ตรงหน้าพวกผมมีกำแพงสูงตระหง่าน ไม่มีประตู ไม่มีหน่วยลาดตระเวน

 

"ไม่หรอก ตรงนี้แหละถูกแล้ว"

 

ผมมองไปยังกำแพงและบริเวณรอบๆ แล้วจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

 

"ผมมีกฎให้ 3 ข้อ"

 

พวกเด็กๆต่างทำสีน่าฉงน แต่ผมไม่สนใจและยังคงอธิบายต่อไป

 

"ข้อ 1 ห้ามเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาด"

 

"ข้อ 2 อยู่ในป่าต้องเชื่อฟังผม"

 

"และที่สำคัญ ข้อ 3 พวกนายห้ามต่อสู้หรือหยิบจับสิ่งใดโดยที่ผมไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด!"

 

"เข้าใจหรือไม่? นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของพวกนาย"

 

พวกเด็กๆ ต่างพยักหน้าตอบรับท่าทางจริงจัง ดีมาก! ผมจึงเริ่มปล่อยเวทย์มนต์ออกมา จากนั้นแปรเปลี่ยนเป็นเชือกยาวคล้ายเถาวัลย์ นี้เป็นสิ่งที่เรียนรู้เพิ่มเติมมาจากอาจารย์เมวิส

 

การแปรเปลี่ยนพลังเวทย์ให้เป็นสิ่งของต้องใช้การควบคุมที่แม่นยำอย่างมาก แต่นั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับผมที่ครอบครอง [ทักษะเนตรสวรรค์] แม้แต่น้อย

 

เด็กๆต่างจ้องมองเชือกในมือด้วยแววตาเป็นประกาย

 

"พวกนายผูกสิ่งนี้ไว้ทุกคนห้ามปล่อยเด็ดขาด"

 

ผมยื่นเชือกยาวให้พวกเด็กๆคนละเส้น ก่อนพวกเขาจะพากันมัดข้อมือของตน ผมตรวจสอบความเรียบร้อย จากนั้นนัยน์ตาสีฟ้าก็แปรเปลี่ยนเป็นสีทองอำพัน มีลวดลายดอกไม้6กลีบ

 

ออร่าที่เก็บซ้อนไว้ ก็ถูกปลดปล่อยออกมาปกคลุมร่างของผมและเด็กๆอย่างเบาบาง การที่ผมจะสามารถใช้ [ผู้บงการมิติ] ได้ในตอนนี้นั้นออร่าหรือร่างกายของผมต้องสัมผัสกับวัตถุเสียก่อน จึงจะสามารถทะลุผ่านได้สิ่งของได้ ยกเว้นฟลอร่าที่ทำพันธสัญญากับและได้รับนามจาก ทำให้เธอได้รับทักษะนี้ไปด้วย

 

ทำให้ผมสามารถใช้กับเธอได้โดยไม่ต้องใช้ออร่าปกคลุมหรือสัมผัสกับตัวเธอ แต่สิ่งนี้กับทำให้เธอไม่พอใจ เธอให้เหตุผลว่าดูห่างเหินเกินไปต้องสัมผัสเนื้อตัวของเธอก่อนสิ ผมถอนหายใจเฮือกไล่ความคิดออกจากหัว

 

"สะสะ...สุดยอด"

 

"อบอุ่นจัง"

 

"โอ้ ท่านเทพธิดา"

 

เมื่อออร่าปกคลุมร่างกายของพวกเด็กๆหมดทุกส่วนแล้ว ปฎิกริยาของพวกเขาก็ต่างออกไป ผมไม่ได้สนใจ และเดินนำทะลุออกไปข้างนอกกำแพง

 

พวกเด็กๆต่างอ้าปากค้าง ดวงตาแทบถลนออกมา เมื่อเห็นสิ่งที่ผมทำ

 

"ช้าอยู่ทำไมละ ตามผมมาสิ!"

 

พวกเด็กๆลังเลยอยู่สักครู่เดียว ก่อนจะเดินทะลุกำแพงตามผมมา

 

"ผ่านมาได้จริงๆด้วย"

 

พวกเด็กๆ ต่างแสดงอาการตื่นเต้นและส่งเสียงด้วยความประหลาดใจ

 

สายตาผมยังคงจดจ้องไปยังป่าเพื่อตรวจสอบอันตรายตรงหน้า ประสาทสัมผัสถูกใช้งานถึงขีดสุด ไม่แสดงความประมาทออกมาแม้แต่น้อย

 

"เอาล่ะรีบไปกันเถอะ! ผมมีเวลาแค่ถึงเที่ยงเท่านั้น"

 

ผมเดินนำเข้าไปในป่า ก่อนที่พวกเด็กๆจะรีบเดินตามไปอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป

 

****

 

ถ้ำลึกส่วนกลางของป่าไอน์ มังกรสไตล์ยุโรปสีมรกตตนหนึ่ง จำศีลอยู่ข้างในมาเป็นเวลาหลายปี ดวงตาที่เคยปิดสนิทของมันก็ได้เริ่มเปิดออกอย่างช้าๆ

 

ร่างกายของมันมีขนาดเท่าคฤหาสน์หรูหนึ่งหลัง ลำตัวของมันปกคลุมไปด้วยขนสีเขียวยาวและแข็งคล้ายกับเกร็ด ส่วนปีกคู่สีเขียวมีขนาดยาวกว่าลำตัว

 

"สัมผัสนี้ เนตรสรรค์หรือ ของผู้ใดกัน"

 

ร่างของมันค่อยๆลดขนาดลงก่อนจะกลายเป็นหญิงสาวงดงาม ผมสีเขียวมรกตยาวสลวยถึงสะโพก ดวงตาคู่สีทองคล้ายสัตว์นักล่า หางตาชี้ขึ้นดูมีเสน่ห์ยิ่ง เธอสวมชุดเกราะอ่อนสีเขียวกับผิวพรรณสีขาวนวลของเธอ ริมฝีปากสีแดงอ่อนเอ่ยพึมพำเบาๆ

 

"ของเชียหรือ? คงไม่ใช่เหมือนนัยน์ตาจะยังมีกลีบดอกน้อยกว่าของนาง"

 

"ข้าคงต้องออกไปตรวจสอบซักหน่อยแล้วสิ"

 

เธอถอนหายใจเฮือก เดินออกตรงไปยังปากถ้ำอย่างเกียจคร้าน

 

ก่อนจะกลับร่างเป็นมังกรอีกครั้ง มังกรขนาดมหึมาเดินตรงไปยังทิศทางของจักวรรดิมิสลูน่า ร่างกายใหญ่โตค่อยๆพรางตัวเข้ากับธรรมชาติ ก่อนจะหายไปในป่า ไม่มีแม้แต่เสียงกระเพื่อมของใบไม้ใบหญ้า

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา