สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
42) พวกเราสามคน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเผลอแผล็บเดียวเพื่อนสาวตัวดีของฉันก็ทำอะไรพิเรนๆ ด้วยความก๋ากั่นขึ้นมาอีกแล้วสิเนี่ย
“ยากไปมั๊ยอ่ะนั่น” เอกซึ่งยืนยกแขนข้างหนึ่งเท้าสะเอวเปรยออกมา แลดูมีความเวทนาเจือปนอยู่ในสีหน้าอย่างไรไม่รู้
นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันสำนึกได้ว่า ช่างโชคดีจริงๆ ที่พ่อไม่ได้ส่งให้ฉันไปเรียนบัลเล่ต์ตั้งแต่ตอนเด็กๆ มิเช่นนั้นมีหวังได้เข้าร่วมสมาคมสะพานโค้งกับเธอเป็นแน่ คิดแล้วก็ปวดกระดูกสันหลังแทนจริงๆ
“เป็นงายเจ๋งมั๊ย อึ้งล่ะสิ ฉันจะเอาไปลงอินสตาร์แกรม ฮิฮิฮิ” เพื่อนสาวอวดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะทำหน้าเบี้ยวๆ แลบลิ้นพองตา ทำแก้มป่องๆ อย่างสุขใจ ดูเธอมีความมุ่งมั่นมากทีเดียวกับการที่จะมีรูปถ่ายเก๋ๆ เก็บไว้สักใบหนึ่ง
“ริณมาสิ เร็ว เดี๋ยวฉันถ่ายให้”
“มะมะไม่เป็นไรจ้ะ ไม่เป็นไร” ฉันรีบโบกไม้โบกมือหย็อยๆ เป็นเชิงปฏิเสธก่อนจะเปล่งเสียงตอบออกไปด้วยความเกรงใจว่า
“เชิญเลยจ้ะแก้ว เดี๋ยวฉันกับเอกนั่งรอละกันนะ เชิญตามสบายเลย”
“เฮ้อ…สะพานโค้งที่ทุ่งดอกไม้เนี่ยนะ” เอกปรารภออกมาเบาๆ ใบหน้าดูยิ้มๆ ขณะมองเด็กหญิงแสงพลอย โชติตณมนตรีเล่นท่าประหลาดๆ พร้อมกับชูมือถือขึ้นสูงแล้วกดปุ่มถ่ายรูปตัวเองระรัว
“ปล่อยเขาเถอะ” ฉันซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เอกกระซิบบอกก่อนจะยกมือขวาขึ้นป้องปากแล้วร้องเตือนแก้วด้วยความห่วงใยว่า
“ระวังเปื้อนนะยัยบ๊องส์!...นี่เดี๋ยวฉันถ่ายให้เอามั๊ย” อดไม่ได้ที่จะเสนอตัวช่วยเหลือเพราะเห็นท่าทางยงโย่ยงหยกแอ่นอกแอ่นตัวนั่นแล้ว ก็กลัวว่าหลังเธอจะเดาะขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่เป็นไรย่ะ…เดี๋ยวไม่อารต์” เพื่อนสาวตะโกนตอบกลับมา ก่อนจะหัวเราะคิกคักเสียงใส
ฉันจึงได้วางใจว่าเธอคงจะมีความสุขดี
“ริณเราไปนั่งคอยตรงนั้นกันเหอะ แถวนี้มันแดดร้อน นู่น ต้นไม้นั่นพอมีร่มเงาอยู่บ้าง” ชานนท์แนะพร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปทางคันดินยาวฝั่งซ้ายมือที่มีต้นไม้สูงชะลูดขึ้นเป็นกลุ่มๆ
“อืม…ก็ดีนะ” ฉันเห็นด้วย เพราะดูรูปการณ์แล้วกว่าเพื่อนสาวจะเริงร่าเสร็จคงอีกสักพักหนึ่ง และฉันก็อยากจะรอเธอใต้เงาร่มไม้ใบไม้มากกว่าคอยยืนเป็นหุ่นไล่กาท้าแสงอาทิตย์อัสดงอยู่อย่างนี้
เอกยื่นมือมาให้ฉันจับเราสองเดินจูงมือกันไปแหวกทิวแถวของดอกไม้งามที่ขึ้นแน่นหนาแข่งขันเบ่งบานกันสล้างสลอนชวนให้หลงใหล ยามมีลมแรงพัดโบยมาทีหนึ่งมวลผกาสีขาวสะอ้านก็ไหวโอนเอนให้เห็นเป็นริ้วๆ ราวระลอกคลื่น ดูงดงามราวกับผืนแพรพรรณอันพิสุทธิ์ที่ถักทอจากธรรมชาติกำลังคลี่ไสว
พวกเราย่างเท้าระไปเรื่อยๆ ก่อนจะปีนขึ้นคันดินเตี้ยๆ ใต้ต้นหูกระจงสูงใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านใบครึ้มเขียวเป็นชั้นๆ สวยงามร่มรื่นพอให้เราได้พักพิง
“ค่อยยังชั่วหน่อยอย่างน้อยก็พอมีที่หลบแดด” ฉันพูดแล้วจึงหย่อนก้นนั่งลงชันเข่าอยู่ใต้ต้นไม้ “หูกระจงนี่สวยดีนะใบเป็นชั้นๆ แปลกตาดี แถวนี้ก็มีขึ้นอยู่หลายต้นเหมือนกันนะเนี่ย”
“อืม…” เอกตอบพลางทอดสายตามองยัยแก้วแล้วยิ้มออกมา
“ยิ้มอะไรเหรอ?” ฉันถามด้วยความสงสัย
“ก็มีความสุขไงเลยยิ้ม” เขาตอบกวนๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายถามกลับมาบ้าง “แล้วริณล่ะสบายใจขึ้นบ้างรึยัง?”
“ฉัน…ไม่รู้สิ” ฉันกล่าว ยังคงรู้สึกเป็นทุกข์และหนักอึ้งในใจ “ก็คงจนกว่าพ่อจะหายดีละมั้ง”
พอมองไปที่ก้านดอกขาวที่ชูไสวล้อสายลมไปทางซ้ายทีขวาทีอยู่นั่น ก็คิดถึงพ่อขึ้นมา ถ้า ณ ตอนนี้พ่อได้มายืนอยู่ที่นี่เคียงข้างฉันเหมือนในวันเก่าๆ ก็คงจะดีไม่น้อย
“อยากให้พ่อได้เห็นจัง” ฉันเปรยออกมาด้วยความเศร้าสร้อย ความปรารถนานั้นแจ่มกระจ่างอยู่ในใจแม้ว่าไม่รู้เมื่อไหร่จะเป็นจริงก็ตาม
“ริณ…”
เสียงของเอกดังแว่วมา ฉันผินไปมองใบหน้าของเขาที่หันมามองฉันด้วยเช่นกัน
“เราจะเป็นกำลังใจให้ริณนะ…”
“เอ๋!?” ฉันรู้สึกประหลาดใจจนถึงกับอุทานออกมาเบาๆ ก็ปกติเขาไม่ค่อยพูดคำหวานๆ แบบนี้กับฉันสักเท่าไหร่นี่นา เมื่อได้ฟังแล้วก็รู้สึกเขินๆ อย่างไรก็ไม่รู้สิ
“ตลอดไปเลย” เขากล่าวเสริม เลื่อนมือขวามากุมมือซ้ายของฉันไว้ ขณะที่เราทั้งสองต่างนั่งอยู่เคียงชิดกัน
คำพูดของเขาทำให้ฉันปลื้มใจอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่สามารถพิสูจน์อะไรได้ในตอนนี้ก็ตาม
“ฉันเองก็อยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไปเหมือนกันนะ แต่ถ้าเอกได้ไปเรียนมหา’ลัย ก็คงจะได้เจอสาวๆ ที่น่ารักๆ สักวันนายอาจไม่อยากเป็นกำลังใจให้ฉันอีกต่อไปแล้วก็ได้”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ