สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)

-

เขียนโดย watcharakarn

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.

  45 chapter
  62 วิจารณ์
  22.11K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

36) อ้อมกอดของคนรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
              “ไม่จริงหรอก สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านนี้ มันเกิดขึ้นจากนักบวชพวกนั้นต่างหากคุณน้าอย่ามากล่าวหาแม่นะ” ฉันเถียงปากคอสั่นระริก รู้สึกถึงอารมณ์เดือดที่แล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย 
 
              “อย่ามาพูดจาสามหาวดูหมิ่นเบื้องสูงนะ แม่แกนั่นแหละที่นำความฉิบหายมาสู่พวกเรา…เพราะแม่ของแกคนเดียว  ทุกๆ คนที่นี่กำลังพากันล้มตายรวมถึงพ่อของแกเองด้วย...แกเองมันก็เป็นตัวกาลกิณีไม่ต่างอะไรกับแม่ของแกนังริณ”  แม่เลี้ยงแผดเสียงสูงขึ้น
 
             ‘กาลกิณีอย่างนั้นหรือ’
 
             ฉันรู้สึกอึ้งและชาวาบ
 
            แม้เราสองคนจะไม่ได้ตะเบ็งเสียง หรือตะโกนต่อล้อต่อเถียงกัน แต่ฉันก็แน่ใจว่าคำพูดของฉันกับแม่เลี้ยงก็ดังพอจะทำให้ ชานนท์วิ่งเข้ามาดูสถานการณ์
 
            “เกิดอะไรกันขึ้นเหรอครับ?” ชานนท์ร้องถามหน้าตาตื่นพร้อมกับแทรกตัวเข้ามาตรงช่องประตู
 
              น้าสายทิพย์ตวัดสายตาอันแข็งกร้าวจิกใส่เอกในทันทีจนเขาออกอาการเหวอด้วยความตกใจ เมื่อทะเล่อทะล่าเข้ามาแบ่งรับความโกรธเกรี้ยวของเธอไปโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่  ฉันเองที่อารมณ์พุ่งปรี๊ดขึ้นมาก็ไม่อาจหยุดยั้งความโกรธนั้นได้เช่นเดียวกัน
 
              ฉันกระแทกด้ามมีดลงบนเขียงไม้ทรงสี่เหลี่ยมอย่างแรง จนเกิดเสียงดังปึก! ก่อนที่จะหันตัววิ่งพรวดพราดออกไปจากห้องครัว ด้วยอาการควันออกหู เอกถึงกับเบี่ยงตัวหลบแทบไม่ทัน
 
รู้สึกโกรธตัวเองที่ต้องมาทนอยู่ที่นี่ เพื่อคอยรองรับความเกลียดชังของผู้หญิงคนนั้น แล้วก็นึกเสียใจว่าหาก ณ วันนี้แม่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้
 
              ฉันวิ่งออกไป วิ่งออกไป อยากจะหนีไปให้ไกลจากทุกสรรพสิ่ง ผ่านบ้านหลายหลังสวนกับผู้คนแปลกหน้ามากมายที่หันมาจับจ้องที่ตัวฉันราวกับว่ามองเห็นตัวประหลาด ก้าวเท้าวิ่งฉับฉับไปตามทางเดิน ตลาดเล็กๆ ที่เงียบเหงา แผงลอยซึ่งมีเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบกันงึมงำตามหลัง  ในหัวตื้อตัน หัวใจเต้นแรงระรัว
 
              แน่ล่ะ…ตอนเด็กๆ ฉันเคยอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ แต่ทว่าในตอนนี้ฉันชักจะสงสัยเสียแล้วสิว่าการที่ผู้คนต่างแสดงท่าทีแปลกๆ แบบนี้ นี่เป็นเพราะฉันหรือว่าพวกเขาที่เปลี่ยนไปกันแน่
 
 
              “ตุบ ตุบ ตุบ” ฉันวิ่งไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมาย จนรู้สึกเหนื่อยและคิดว่าวิ่งมาไกลพอสมควรแล้วจึงค่อยๆ ผ่อนฝีเท้าลง ก่อนจะโผเข้าไปใช้มือข้างขวาท้าวลำต้นของต้นไม้ใหญ่เพื่อพักเหนื่อยพลางหอบแฮ่กๆ จนตัวโยน  เหงื่อแตกตามหน้า ตามเนื้อตัวพลั่กๆ และดูเหมือนว่าการวิ่งออกมาแบบนี้จะช่วยสลัดอารมณ์โกรธขึ้งของฉันให้หลุดร่อนไปได้มากทีเดียว
 
              เมื่อลองคิดดูแล้วหากจะหนีไปจากที่นี่ ในตอนนี้มันก็คงเป็นสิ่งที่ไม่ได้ยากเกินกำลัง แต่ทว่าฉันกลับเป็นห่วงพ่อมากกว่า ถ้าฉันกลับไปแล้วปล่อยให้พ่อซึ่งป่วยหนักต้องทนอยู่กับผู้หญิงแบบนั้นแล้วล่ะก็ ฉันคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเป็นแน่
 
              ขณะที่ยืนหอบเอาอากาศหายใจอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงคนชะลอฝีเท้ามาหยุดอยู่ใกล้ๆ เมื่อได้เงยหน้าขึ้นมาก็รู้ในทันทีว่าบุคคลปริศนาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก
 
              “เอก!” ฉันหลุดปากออกไปเมื่อเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยนั้นฉีกยิ้มให้  ก่อนที่ชานนท์จะดึงตัวฉันเข้าไปสวมกอด สองมือของฉันโอบหลังเขาไว้
 
              ‘นี่เขาวิ่งตามเรามา?’ ฉันนึกแปลกใจแต่ก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูกเช่นเดียวกัน
 
              “ริณเป็นอะไรรึเปล่า? เราเป็นห่วงริณมากเลยนะ” เขากล่าวเสียงเข้ม สีหน้าเครียด บนหน้าขาวเกลี้ยงเกลามีเหงื่อแตกซึม ฉันซบใบหน้าลงที่หัวไหล่อันแข็งแรงด้วยความเหนื่อยอ่อน และโหยหาที่พักพิงใจ
 
              ‘ขอบคุณจริงๆ ที่เขาไม่เคยปล่อยให้ฉันเดียวดาย’
 
             ฉันเปิดตามองทุกสิ่งทุกอย่าง แลเห็นพื้นดินสีโคลน  กิ่งไม้ ใบไม้เขียวขจี นับเป็นวินาทีที่ตนเองได้หยุดการคิดอันวุ่นวาย ในหัวปลอดโปร่ง และเปี่ยมไปด้วยความสุข ลำตัวของเราแนบชิดกันอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ รู้สึกอุ่นใจจริงๆ ที่มีเขาคอยเป็นห่วงเป็นใย
 
             เพียงเท่านั้นฉันก็รู้สึกดีขึ้น
 
             "ฉันโอเคแล้วล่ะ” ฉันบอกพลางดันตัวออกจากอกของเขานิดหนึ่งแล้วจึงเงยหน้าถาม “แล้วยัยแก้วล่ะ?”
 
             “ไม่รู้สิก็คงดูทีวีอยู่ละมั้ง เราเห็นริณวิ่งพรวดพราดออกมาก็เลยวิ่งตาม” เขาลดใบหน้าลงตอบ นัยน์ตาหยีๆ อันแสนมีเสน่ห์ส่งแววซึ้งสบมาชวนใจให้ระทดระทวย
 
             ฉันพยักหน้าก่อนจะคลายกอดแล้วจึงหันตัวไปอีกทางหนึ่ง เพราะขวยเขินจนไม่อาจจะสู้หน้าสบตากับเขาตรงๆ ได้
 
             “เอกเราอยากจะพาพ่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เอกคิดว่าดีมั๊ย?” ฉันถามความคิดเห็นของเขาแม้ว่าที่จริงจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้วก็ตาม เพียงแต่ต้องการใครสักคนที่เห็นพร้องต้องกัน
 
              “เราก็เห็นด้วยนะ ปล่อยให้อยู่ที่นี่ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ว่าเรื่องค่ารักษาล่ะจะทำไงเราว่าคงต้องใช้เงินเยอะแน่ๆ”
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา