สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)
-
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.
45 chapter
53 วิจารณ์
21.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
29) ในห้วงระลึกฝัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จ พวกเราก็มานอนเล่นคุยกันอยู่บนเตียงพักใหญ่ จนแก้ววกมาถึงเรื่องระหว่างฉันกับแม่เลี้ยง
“เมื่อกี้ที่เธอสนทนาวิสาสะกับคุณน้านั่นมีเรื่องอะไรกันเหรอ ฉันเห็นทำหน้าเครียดตึงกันเชียว”
“อืมใช่ๆ เราได้ยินแว่วๆ มันเกี่ยวกับเรื่องจดหมายอะไรสักอย่าง” เอกกล่าวเสริมขึ้นมาอีกคน
ฉันพยักหน้าก่อนจะเล่าถึงต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ตนเองต้องกลับมาที่นี่ให้ทั้งสองฟัง แม้ฉันจะบอกไปว่าแม่เลี้ยงได้กล่าวปฏิเสธในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่แสงพลอยก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ต่างกับชานนท์
“ฉันว่าแม่เลี้ยงของเธอนั่นแหละ เธอก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าเขาน่ะมีท่าทีแปลกๆ แถมยังชอบพูดจาแย่ๆ กับเธออีก”
“บางทีอาจมีใครบางคนต้องการแกล้งริณก็ได้นะ” ข้อสันนิษฐานของเอก ทำให้ฉันต้องนิ่งคิดทบทวนว่าใครพอจะเป็นผู้ต้องสงสัยอื่นได้นอกจาก แม่เลี้ยงวัยสี่สิบกว่าๆ ของฉันอีกมั๊ย
“แต่ว่าเขาจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันนะ?” อดไม่ได้ที่จะนึกสงสัย
คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเลยจริงๆ
จนเวลาสี่ทุ่มล่วงเลยผ่านไป ฉันก็รู้สึกว่าเปลือกตาเริ่มหนักอึ่งจนทนต่อไปไม่ไหวจึงเอ่ยชวนให้ทุกคนพักผ่อน
ฉันเคลื่อนกาย ทิ้งศีรษะลงบนหมอนใบนุ่มโดยมีแสงพลอยนอนอยู่ข้างๆ เราสองคนเบียดเสียดกันอยู่บนเตียงเล็กๆ เธอพลิกตัวไปมาหลายรอบอย่างคนที่พยายามข่มตาให้หลับ ชานนท์เดินไปเป่าดับเทียนเล่มที่อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ เหลือไว้ดวงหนึ่งให้ส่องแสงพอมองเห็นอะไรบ้าง ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนผืนผ้าบางๆ ซึ่งปูยาวบนพื้นที่ว่างข้างๆ เตียง
สี่ทุ่มจะครึ่งแล้ว แก้วซึ่งนอนหันหลังให้ฉันยังคงส่งเสียงคุยงึมงำ ชานนท์หลับทันทีที่หัวตกถึงหมอนราวกับโดนไม้หน้าสามฟาดเปรี้ยงเข้าที่ท้ายทอยจนสลบไปขณะที่ดวงตาของฉันกำลังหรี่ลงทุกทีๆ
“ริณไอ้พระเจ้าอลันๆ อะไรที่เธอว่าน่ะมีจริงเหรอ?” เสียงคำถามของแก้วดังแว่วๆ มา
“อืม...ไว้พรุ่งนี้จะเล่าให้ฟังนะ” ฉันตอบอย่างสติเลื่อนลอยความอ่อนเพลียจู่โจมให้ผล็อยหลับลง
แก้วยังคงพูดเจื้อยแจ้วอยู่ จวบจนฉันจมดิ่งสู่ห้วงนิทราอันแสนเหนื่อยล้าในราตรีกาล
เสียงเมโลดี้เพลงชวนฝันของกล่องดนตรี ดังแว่วมารื่นหู
“แม่คะแม่ทำอะไรอยู่” ฉันถามระหว่างจ้องมองแม่นั่งเขียนอะไรยุกยิกอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ เหมือนความสงสัยของฉันจะทำให้เธอรู้สึกตัว เธอวางปากกาลงปิดสมุดก่อนจะลุกขึ้น เก้าอี้ไม้เล็กๆ แบบมีพนักพิงและมีที่นั่งเป็นแผ่นไม้ขัดมันทรงกลมเคลื่อนถอย
แม่เดินมาหาฉัน ส่งรอยยิ้มละไม เธอโอบกอดฉันไว้บนตัก ชุดนอนสีเลือดหมูผ้ามันยาวลงมาปิดข้อเท้านุ่มลื่นเมื่อสัมผัสถูกเนื้อตัวของฉัน
แม่หอมพวงแก้มน้อยๆ นี้เสียฟอดใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“พรุ่งนี้ลูกจะได้ไปอยู่อยุธยาแล้วนะ”
ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกที่แม่กอดฉันไว้ แต่เมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้ที่เราจะต้องจากกันแล้วก็พลอยเศร้าใจขึ้นมา
“ไม่เห็นจะดีเลยค่ะ ริณอยากอยู่กับแม่มากกว่า”
“ริณไปอยู่กับคุณน้าน่ะดีแล้วนะ น้าลดาเขาเป็นคนใจดี อยู่ที่นู่นเขาจะดูแลลูกอย่างดีเลยล่ะ แม่กำชับคุณน้าเขาไว้แล้ว”
“แล้วแม่กับพ่อจะไปหาริณมั่งมั๊ยคะ?” ฉันถามพลางเงยหน้ามองใบหน้าอันงดงามของแม่ เธอคลี่ยิ้มบางๆ นัยน์ตาโศกทอประกายแห่งความอ่อนโยน
“แน่นอนจ้ะ แม่สัญญา หากทุกอย่างที่นี่จบเรื่องจบราวดีแล้วแม่จะรีบไปหาริณทันทีเลย”
“แล้วคุณแม่จะทำอะไรเหรอคะ?” แม่หอมแก้มฉันอีกฟอดหนึ่งแต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นอีกข้างหนึ่งบ้าง จากนั้นเธอจึงทอดสายตาเลยไปที่โต๊ะซึ่งมีสมุดปกหนาสีคล้ำเข้มปิดอยู่
“แม่กำลังจะทำให้พวกเราได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งหนึ่งไงล่ะจ๊ะ” ท่านบอกไว้ดังนั้นในห้วงความทรงจำที่ฉายย้อนกลับมาให้เห็นเป็นนิมิต
“เมื่อกี้ที่เธอสนทนาวิสาสะกับคุณน้านั่นมีเรื่องอะไรกันเหรอ ฉันเห็นทำหน้าเครียดตึงกันเชียว”
“อืมใช่ๆ เราได้ยินแว่วๆ มันเกี่ยวกับเรื่องจดหมายอะไรสักอย่าง” เอกกล่าวเสริมขึ้นมาอีกคน
ฉันพยักหน้าก่อนจะเล่าถึงต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ตนเองต้องกลับมาที่นี่ให้ทั้งสองฟัง แม้ฉันจะบอกไปว่าแม่เลี้ยงได้กล่าวปฏิเสธในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่แสงพลอยก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ต่างกับชานนท์
“ฉันว่าแม่เลี้ยงของเธอนั่นแหละ เธอก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าเขาน่ะมีท่าทีแปลกๆ แถมยังชอบพูดจาแย่ๆ กับเธออีก”
“บางทีอาจมีใครบางคนต้องการแกล้งริณก็ได้นะ” ข้อสันนิษฐานของเอก ทำให้ฉันต้องนิ่งคิดทบทวนว่าใครพอจะเป็นผู้ต้องสงสัยอื่นได้นอกจาก แม่เลี้ยงวัยสี่สิบกว่าๆ ของฉันอีกมั๊ย
“แต่ว่าเขาจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันนะ?” อดไม่ได้ที่จะนึกสงสัย
คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเลยจริงๆ
จนเวลาสี่ทุ่มล่วงเลยผ่านไป ฉันก็รู้สึกว่าเปลือกตาเริ่มหนักอึ่งจนทนต่อไปไม่ไหวจึงเอ่ยชวนให้ทุกคนพักผ่อน
ฉันเคลื่อนกาย ทิ้งศีรษะลงบนหมอนใบนุ่มโดยมีแสงพลอยนอนอยู่ข้างๆ เราสองคนเบียดเสียดกันอยู่บนเตียงเล็กๆ เธอพลิกตัวไปมาหลายรอบอย่างคนที่พยายามข่มตาให้หลับ ชานนท์เดินไปเป่าดับเทียนเล่มที่อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ เหลือไว้ดวงหนึ่งให้ส่องแสงพอมองเห็นอะไรบ้าง ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนผืนผ้าบางๆ ซึ่งปูยาวบนพื้นที่ว่างข้างๆ เตียง
สี่ทุ่มจะครึ่งแล้ว แก้วซึ่งนอนหันหลังให้ฉันยังคงส่งเสียงคุยงึมงำ ชานนท์หลับทันทีที่หัวตกถึงหมอนราวกับโดนไม้หน้าสามฟาดเปรี้ยงเข้าที่ท้ายทอยจนสลบไปขณะที่ดวงตาของฉันกำลังหรี่ลงทุกทีๆ
“ริณไอ้พระเจ้าอลันๆ อะไรที่เธอว่าน่ะมีจริงเหรอ?” เสียงคำถามของแก้วดังแว่วๆ มา
“อืม...ไว้พรุ่งนี้จะเล่าให้ฟังนะ” ฉันตอบอย่างสติเลื่อนลอยความอ่อนเพลียจู่โจมให้ผล็อยหลับลง
แก้วยังคงพูดเจื้อยแจ้วอยู่ จวบจนฉันจมดิ่งสู่ห้วงนิทราอันแสนเหนื่อยล้าในราตรีกาล
เสียงเมโลดี้เพลงชวนฝันของกล่องดนตรี ดังแว่วมารื่นหู
“แม่คะแม่ทำอะไรอยู่” ฉันถามระหว่างจ้องมองแม่นั่งเขียนอะไรยุกยิกอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ เหมือนความสงสัยของฉันจะทำให้เธอรู้สึกตัว เธอวางปากกาลงปิดสมุดก่อนจะลุกขึ้น เก้าอี้ไม้เล็กๆ แบบมีพนักพิงและมีที่นั่งเป็นแผ่นไม้ขัดมันทรงกลมเคลื่อนถอย
แม่เดินมาหาฉัน ส่งรอยยิ้มละไม เธอโอบกอดฉันไว้บนตัก ชุดนอนสีเลือดหมูผ้ามันยาวลงมาปิดข้อเท้านุ่มลื่นเมื่อสัมผัสถูกเนื้อตัวของฉัน
แม่หอมพวงแก้มน้อยๆ นี้เสียฟอดใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“พรุ่งนี้ลูกจะได้ไปอยู่อยุธยาแล้วนะ”
ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกที่แม่กอดฉันไว้ แต่เมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้ที่เราจะต้องจากกันแล้วก็พลอยเศร้าใจขึ้นมา
“ไม่เห็นจะดีเลยค่ะ ริณอยากอยู่กับแม่มากกว่า”
“ริณไปอยู่กับคุณน้าน่ะดีแล้วนะ น้าลดาเขาเป็นคนใจดี อยู่ที่นู่นเขาจะดูแลลูกอย่างดีเลยล่ะ แม่กำชับคุณน้าเขาไว้แล้ว”
“แล้วแม่กับพ่อจะไปหาริณมั่งมั๊ยคะ?” ฉันถามพลางเงยหน้ามองใบหน้าอันงดงามของแม่ เธอคลี่ยิ้มบางๆ นัยน์ตาโศกทอประกายแห่งความอ่อนโยน
“แน่นอนจ้ะ แม่สัญญา หากทุกอย่างที่นี่จบเรื่องจบราวดีแล้วแม่จะรีบไปหาริณทันทีเลย”
“แล้วคุณแม่จะทำอะไรเหรอคะ?” แม่หอมแก้มฉันอีกฟอดหนึ่งแต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นอีกข้างหนึ่งบ้าง จากนั้นเธอจึงทอดสายตาเลยไปที่โต๊ะซึ่งมีสมุดปกหนาสีคล้ำเข้มปิดอยู่
“แม่กำลังจะทำให้พวกเราได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งหนึ่งไงล่ะจ๊ะ” ท่านบอกไว้ดังนั้นในห้วงความทรงจำที่ฉายย้อนกลับมาให้เห็นเป็นนิมิต
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ