สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)

-

เขียนโดย watcharakarn

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.

  45 chapter
  53 วิจารณ์
  21.39K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) แม่เลี้ยง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“เอ้ารีบๆ เข้ามาสิเด็กๆ” เธอเชื้อเชิญ “หรือพวกเธอจะอยากสานสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ปีกใสพวกนั้นต่อก็ตามใจนะ”

 

เอกประคองฉันให้เข้าไปในบ้าน ส่วนแก้วที่ตั้งสติได้ก็รีบจ้ำเท้าตามมาติดๆ

 

ประตูบ้านปิดลง พร้อมกับเสียงบ่นของอาสุบรรณที่ดังขึ้นมา

 

“คุณนี่...ทำไมมาช้าจังพวกเด็กๆ เขากลัวกันหมดแล้ว” 

 

“ถอดรองเท้าไว้ตรงหน้าประตูนี่ก่อนนะ” ฉันกระซิบบอกเพื่อนๆ ขณะที่คุณอาเองก็ปลดสายเชือกรองเท้าหนังสีน้ำตาลหุ้มข้อออก

 

“โทษทีค่ะ พอดีฉันกำลังจัดการอบอาหารไว้ต้อนรับลูกสาวอยู่ในครัวจู่ๆ ไฟก็เกิดดับขึ้นมา”  เธอชี้แจงน้ำเสียงเรียบเฉยดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลย “ไอ้ไฟบ้าบอนี่ก็ดับอยู่บ่อยๆ น่าเบื่อมากเลยนะคะดูสิเนี่ยทำให้พวกเด็กๆ ตกอกตกใจไปกันใหญ่”

 

แก้วดูจะขยะแขยงเจ้าปลวกบินได้พวกนั้นมากถึงขนาดต้องถอดรองเท้าบูทหนังยับๆ สีน้ำตาลสุดหวงของเธอวางแอบไว้ชิดผนังข้างในบ้าน

 

พวกเราเดินตามคุณน้าเข้ามาสู่ห้องนั่งเล่น  แสงสว่างรำไรจากเทียนไขสีขาวขนาดป้อมๆ บนจานรองกระเบื้องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะรับแขกไม้สักทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าเตี้ยๆ โลมไล้ลวดลายผ้าปักรูปเถาและพวงองุ่นอันอ่อนช้อยของชุดโซฟาซึ่งประกอบไปด้วยโซฟายาวและเก้าอี้นั่งอีกสองตัวที่เข้าชุดกัน ส่วนด้านหลังของโซฟายาวนั้นเป็นตู้ไม้ติดกระจกทรงสูงที่มีไว้ใส่ของสวยๆ งามๆ น่ารัก กระจุกกระจิกที่แม่ชอบ จำพวกเครื่องเบญจรงค์ลายไทยวิจิตร และงานหัตถกรรมย่อขนาดชุดเล็กๆ เช่น ชุดขนมไทย การละเล่นเด็กไทย รวมไปถึงงานถักไหมพรม โครเชต์  ฝีมือของท่าน เช่นตุ๊กตากระต่ายตัวน้อยๆ สีขาว ตุ๊กตาหมีแพนด้า หมวกไหมพรม กล่องกระดาษทิชชูสีสันสดใส ฯลฯ และถัดจากตู้โชว์มาหน่อยก็คือชั้นไม้วางหนังสืออ่านเล่นซึ่งมีหนังสือจำพวกนิยายประโลมโลก และ พวกหนังสืองานหัตถกรรม รวมไปถึงสารคดีท่องเที่ยว หนังสือวิพากษ์วิจารณ์การเมือง สังคม ที่พ่อชอบอ่านวางเสียบสันเรียงกันเป็นตับจนแน่นเต็มทั้งสามชั้น

 

“พวกเธอนั่งกันอยู่ที่นี่ก่อน”

 

“ให้ผมไปช่วยมั๊ยครับ” คุณอาสุบรรณขันอาสา “เดี๋ยวผมไปดูคัทเอาท์ให้”

 

“อุ๊ยไม่ต้องหรอกค่ะ…เดียวฉันไปจัดการเองจะดีกว่า คุณผู้ใหญ่บ้านก็นั่งคุยกับพวกเด็กๆ ไปเถอะ”  น้าสายทิพย์พูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก

 

“ไม่เป็นไรครับไม่ต้องเกรงใจผมยินดีรับใช้ทุกที่ทุกสถานการณ์” คุณอาขันอาสาอย่างเป็นกันเอง ดูท่าทั้งสองจะสนิทสนมกันดีทีเดียว

 

“แหม….งั้นเชิญทางนี้ค่ะ” เธอกล่าวก่อนจะหันมาพูดกับพวกเราด้วยโทนเสียงแหบห้าว “โทษทีนะจ้ะ...พอดีน้าไม่รู้ว่าริณจะพาเพื่อนมาด้วยเลยไม่ทันเตรียมอะไรไว้ให้ แต่เดี๋ยวน้าจะไปลองค้นดูว่ายังมีอะไรที่พวกเธอพอจะทานกันได้บ้าง ขอตัวไปจัดการเรื่องฟืนเรื่องไฟประเดี๋ยวนึงนะ” แม่เลี้ยงยืนประสานมืออยู่ทางด้านหลังชุดรับแขกด้วยท่าทีงามสง่า ชุดนอนสีขาวเนื้อบางเบาตัดกับเส้นผมตรงสลวยสีดำขลับ ดูลึกลับและมีเสน่ห์อย่างประหลาด

 

“ทนร้อนหน่อยนะ แต่พวกเธอคงไม่คิดจะเปิดหน้าต่างกันหรอกใช่ไหม”  เธอหันมาพูดกับพวกเราที่มานั่งรวมกันอยู่บนโซฟายาว ก่อนจะเลยมาถึงฉัน

 

“ริณถ้าเธอยังคงจำได้ว่าอะไรมันอยู่ตรงไหน ก็หาน้ำหาท่าให้เพื่อนๆ ทานสักหน่อยก็จะดีนะ คงจะเหนื่อยกันมามากสิเดินทางมาไกลน่าดู”

 

“ค่ะคุณน้า”  ฉันตอบ พลางมองภาพอันบิดเบี้ยวของตัวเองที่สะท้อนกลับมาจากจอแก้วโทรทัศน์รุ่นโบราณขนาด 21 นิ้ว แบบมีเสาอากาศ และปุ่มหมุนปรับตรงแผงข้างจอ ซึ่งตั้งอยู่บนตู้วางด้านตรงข้ามกับโซฟายาวที่ฉันนั่งอยู่

 

คุณน้าพูดจากรีดฉันเสร็จก็เดินนำอาสุบรรณตรงเข้าไปทางห้องครัวด้านหลัง ผมตรงยาวที่ระจนถึงกลางหลังของเธอ คลี่ไหวน้อยๆ

 

“แม่เลี้ยงของเธอนี่ร้ายนะยะ” แก้วโพล่งขึ้นมาทันทีเหมือนกับเก็บงำคำพูดมานาน หลังจากผู้ใหญ่สองคนนั้นเดินออกไป

 

“แล้วริณเป็นอะไรมากรึเปล่า?” ชานนท์เอ่ยถามฉันอย่างห่วงใย

 

“ก็...” 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา