สาปสายฝน (เดอะซีรีย์)

-

เขียนโดย watcharakarn

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.55 น.

  45 chapter
  62 วิจารณ์
  22.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 00.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) คำเตือน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“เอี๊ยยยยด!” แรงเบรกปลุกฉันให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงร้องอุทานของแก้วเสียดแทงเข้ามาในโสตประสาทของฉัน ตามด้วยเสียงบ่นพึมของผู้โดยสารในรถ ฉันมองหันซ้ายแลขวา เพ่งมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ยามเย็นกำลังลาลับขอบฟ้าแล้ว โดยมีความมืดของรัตติกาลเริ่มโปรยคลุมลงมาแทนที่

 

 ทันใดนั้นเอง

 

 “ฟันปลอมคุณยายหล่น!”  แสงพลอยก็ร้องโพล่งออกมา ฉันจึงรีบลุกจากเก้าอี้และก้มลงมองใต้เบาะ

 

“เกิดอะไรขึ้นเหรอแก้ว?”  ชานนท์เอ่ยถาม

 

“ก็เมื่อกี๊ตอนรถเบรกน่ะสิ หัวของคุณยายแกกระแทกเบาะฟันปลอมหล่นไปไหนก็ไม่รู้”

 

เราสามคนรวมทั้งตัวคุณยายช่วยกันก้มหาไปทั่ว ก่อนที่พนักงานต้อนรับสาวจะเดินนวยนาดมาบอกพวกเราว่า

 

“ถึงแล้วนะคะน้อง ที่ที่น้องบอกไว้น่ะ”

 

‘เอ๋....ถึงหมู่บ้านแล้วหรือนี่’ ฉันคิด

 

“ค่ะๆ เดี๋ยวพวกเราไปนะคะ” แสงพลอยเงยหน้าตอบ “แต่เดี๋ยวหนูขอหาฟันปลอมให้คุณยายแกก่อนนะคะ เดี๋ยวแกจะกินส้มไม่ได้เอา”

 

ฉันมองมุดลงไปใต้เบาะที่ยายนั่ง แลเห็นปลายเท้าซีดๆ สองข้างของคนนั่งข้างหลังค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปช้าๆ    

 

“เดี๋ยวพี่ช่วยคุณยายหาแทนก็ได้ค่ะน้อง พี่ว่าน้องๆ รีบลงไปกันก่อนเถอะนะคะ” เธอแนะนำก่อนจะหันไปบอกคนขับให้เปิดไฟบริเวณทางเดิน

 

 ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น บางสิ่งบางอย่างก็ขว้าหมับเข้าที่ท่อนแขนของฉัน พลันหัวใจหล่นวูบรีบหันไปมองในทันที และเห็นใบหน้าของคุณยายคนนั้นอย่างถนัดชัดเจน เครื่องหน้าเหี่ยวย่นเกรียมแดด จู่ๆ ก็ขึงขังขึ้นมาจนฉันตกใจ

 

“อย่าไปเลยหนู” มือหยาบกร้านและเหี่ยวย่นของคุณยายยังคงรั้งแขนของฉันไว้พร้อมกับกดน้ำหนักลงมา

 

“มันอันตราย” เสียงเตือนของแกดังแผ่วเบา แต่ดวงตาขุ่นสีจางที่จ้องมองมานั่นสิกลับดูจริงจังราวกับจะสะกดฉัน

 

“หนูไม่รู้เหรอว่าที่นี่น่ะ มันเป็นหมู่บ้านร้าง” ถึงแม้ว่าคุณยายจะไม่ได้เคี้ยวหมากสีแดงสดเหมือนในมโนภาพอันหลอกหลอน แต่ปากที่อ้าขยับขึ้นลงโดยไม่มีฟันก็ทำให้ฉันอกสั่นขวัญแขวนได้อย่างไม่ยากเย็น

 

“พ่อหนูป่วยหนัก หนูจะมาหาพ่อค่ะ ปล่อยหนูเถอะนะคะคุณยาย” ฉันพูดพลางแกะมือที่บีบแน่นอยู่ที่ท่อนแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุมของหญิงชรา

 

“พรึ่บ”

 

แนวหลอดไฟสีขาวนวลที่ติดอยู่ตรงเพดานพลันสว่างจ้า

 

“รีบไปกันเถอะพวกเรา จะมืดแล้ว” ฉันร้องบอกแล้วจึงเก็บข้าวของและเดินตามหลังของเอกไปติดๆ ก่อนลงจากรถฉันแอบมองมาทางคุณยายแวบหนึ่ง

 

ภาพของคุณยายที่อ้าปากสวมฟันปลอมและขยับปากขึ้นลงหยับๆ โดยที่สายตายังคงจับจ้องมาที่ฉันทำให้รู้สึกขนพองสยองเกล้า จนต้องรีบเบือนหน้าหนี

 

ชานนท์ก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือดิจิตอลสีดำทรงเครื่องบินสเตลท์ หลังจากที่เราทั้งสามลงจากรถทัวร์เรียบร้อยแล้ว

 

“หกโมงยี่สิบแล้วล่ะ” เขาบอก

 

ฉันรู้สึกตกใจยิ่ง ที่ได้ยินเช่นนั้นเพราะเรามาถึงเลทกว่าเวลาที่ฉันได้นัดแนะกับอาสุบรรณไว้เกือบเป็นชั่วโมง 

                                

‘ถ้าอาสุบรรณไม่รอแล้วเราจะทำยังไงกันดี’ ฉันหวั่นวิตกพลางกลืนน้ำลายลงลำคอดังเอื้อก รู้สึกได้ถึงความเยียบเย็นของมวลอากาศที่ลอยวนอยู่รอบตัวเรา ขณะที่เราสามคนกำลังยืนอยู่ด้านหน้าของปากทางเข้าหมู่บ้าน

 

“หมู่บ้านสีหกรณ์” แสงพลอยเงยหน้าอ่านชื่อที่ปรากฏตรงซุ้มประตูเหล็กดัดสีดำสูงตระหง่านขนาดรถบรรทุกลอดผ่านเข้าไปได้อย่างชัดถ้อยชัดคำราวกับจะตอกย้ำว่าพวกเรากำลังก้าวเข้าสู่เขตแดนบ้านเกิดของฉัน

 

 และเมื่อมองเลยไปทางด้านหลังนั้นก็จะเห็นเป็นต้นไม้สูงชะลูดเปลือกบางสีออกเทาๆ ซึ่งถูกปลูกขึ้นเรียงรายเต็มสองข้างทาง แผ่กิ่งก้านสล้างสีเขียวครึ้มมาบรรจบกันอย่างประหลาด มองเผินๆ ราวกับปากทางเข้าถ้ำขนาดใหญ่ โดยมีทางดินลูกรังกว้างพอให้รถคันเล็กๆ สองคันวิ่งสวนเข้าออกกันได้ปูทอดยาวเข้าไปสู่ความมืดที่กำลังรอเราอยู่ ณ เบื้องหน้า

 

“อากาศเย็นจังเลยเนอะ” แก้วเอ่ย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบไล้ท่อนแขนเบาๆ “คุณอาของเธอมารึยังริณ?”

 

คำถามของแก้วทำให้ฉันรู้สึกใจคอไม่ดี

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา