ราคีกามกามา
-
เขียนโดย Domewriter
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565 เวลา 17.19 น.
5 บท
0 วิจารณ์
2,958 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2566 14.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) แผนการทำลายแคว้นโง้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังการเสร็จการประชุมแม่ทัพขุนนางแคว้นอ้วกในการวางแผนบริหารบ้านเมือง อ๋องเกาเจี้ยนลุกจากบัลลังค์ออกจากห้องโถงไปทรงงานยังห้องอักษร ในห้องทรงอักษรมีเพียงอ๋องเกาเจี้ยน บุ้นเจ้งและฮ่วมลี้สองที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน ทั้งสองที่คอยช่วยเกาอ๋องตรวจม้วนราชสาสน์เรื่องร้องทุกข์และวางแผนงานบริหารบ้านเมือง อ๋องเกาเจี้ยนกล่าวถึงความอัปยศขณะต้องเป็นเชลยอยู่ที่แคว้นโง้ว ทุกวันนี้ต้องนอนแข็งกระด้าง เลียดรีขมฝาด เพื่อให้จิตใจเข้มแข็งพอคิดต่อสู้ล้างแค้นต่อเจ้าฮูซาแคว้นโง้ว ฮ่วมลี้กล่าวปลุกปลอบกำลังขวัญว่า เมื่อมีความมุ่งมั่นย่อมได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน บุ้นเจ้งเสนอแผนอกุศลโยบาย เพื่อเป็นการทำลายแคว้นโง้วจากภายใน โดยให้อ๋องเกาเจี้ยนอ้างว่าแคว้นอ้วกหลายปีนี้ไม่สามารถปลูกพืชพันธ์ธัญพืชได้ดี สัตว์เลี้ยงออกลูกยาก เพื่อขอยืมเสบียงพืชพันธ์ธัญหารและสัตว์เลี้ยงจากแคว้นโง้วมาช่วยราษฏรในแคว้นอ้วก โดยเก็บธัญพืชและสัตว์เลี้ยงไว้ในคลังเสบียงของแคว้นอ้วก ทำให้ได้เสบียงจากแคว้นโง้วมาเก็บไว้ในเสบียงของแคว้นอ้วกไว้ใช้ในการรบกับแคว้นโง้วในภายหน้า ทั้งทำใหัแคว้นโง้ขาดแคลนเสบียงอาหารโดยไม่ทันรู้ตัว และจ่ายคืนเป็นเงินทองทดแทนให้แก่เแคว้นโง้ว ตี้เกาเจี้ยนกล่าวว่า "หากทำเช่นนั้นก็เสมือนใช้เงินซื้อเสบียงจากแคว้นโง้ว เงินคลังของแคว้นเราก็ลดลง ยามลำบากกลับไม่มีเงินคลังใช้จ่าย หากเราทำเช่นนั้นเห็นทีต้องขึ้นภาษีให้ราษฏรเดือดร้อน" บุ้นเจ้งกล่าวว่า "ฝ่าบาทมิต้องขึ้นภาษี หากราษฏรประสบภัยแล้งและน้ำท่วม เรากลับมีเสบียงอาหารแจกจ่ายราษฏรอย่างพอเพียง ในทางกลับกันแคว้นโง้วจะขาดแคลนอาหาร และหากส่งเงินทองทดแทนให้แคว้นโง้ว เมื่อร่วมกับเครื่องบรรณาการณ์ที่ส่งให้แคว้นโง้วแล้วตี้ฮูซาจะมีแต่เงินในพระคลังมากมายให้ใช้จ่าย แต่เมื่อต้องทำสงครามเป็นระยะเวลานานหรือประสบภัยธรรมชาติ เสบียงอาหารย่อมมีความสำคัญเป็นอย่างแรก ทุกแคว้นเพียงคิดช่วยเหลือตัวเองก่อน เงินทองมากมายจะมีความใด" อ๋องเกาเจี้ยนกล่าวว่า "ท่านเสนาธิการบุ้นเจ้ง แผนการของท่านยอดเยี่ยมยิ่ง ฮ่วมลี้ ท่านมีแผนการจัดการกับแคว้นโง้วอย่างไร?" ฮ่วมลี้กล่าวว่า "ข้าพเจ้าเห็นว่าแผนของท่านเสนาธิการบุ้นเจ้งนั้นดียิ่ง เพียงแต่ข้าพเจ้าคิดหาวิธีให้ตี้ฮูซาจับจ่ายใช้เงินฟุ่มเฟือยจนหมดเงินในพระคลังด้วยอีกอย่าง เมื่อแคว้นโง้วไม่มีทั้งเสบียงและเงินคลัง เมื่อกองทัพแคว้นอ้วกเรายกกองทัพบุกโจมตีแคว้นโง้ว ตี้ฮูซาขาดทั้งเสบียงทั้งเงินย่อมพ่ายแพ้แก่แคว้นอ้วก" อ๋องเกาเจี้ยน กล่าวว่า "เช่นนั้นยิ่งดียิ่ง แคว้นโง้วเมื่อไม่มีทั้งเงินทั้งเสบียง แคว้นอ้วกเราย่อมสามารถพิชิตกคว้นโง้วได้แล้ว ฮ่วมลี้ท่านบอกรายละเอียดแผนการของท่านให้เรารับฟัง" ฮ่วมลี้กล่าวว่า "จากข่าวในราชสำนักแคว้นโง้วที่ข้าพเจ้าได้สืบทราบมา ขณะนี้ซุนวูแนะนำตี้ฮูซาให้แต่งตั้งฮองเฮาและองค์รัชทายาท แต่ยังมิมีนางสนมคนใดมีโอรสชายให้แก่ตี้ฮูซา ข้าพเจ้าคิดว่าเราควรสรรหาหญิงสาวที่มีความงามมากๆ สองนางส่งไปมอมเมาตี้ฮูซาให้ตกอยู่ในราคะไม่สนใจราชการบ้านเมือง และยุยงให้สร้างศาลเจ้าบูชาส่งเสริมความเชื่อให้ราษฏรในแคว้นโง้วเทิดฟ้าบูชาหวังพึ่งพาทั้งเทพและปีศาจ ทั้งสร้างตำหนักวังหลวงหอสูงที่ใช้งบประมาณกับคนจำนวนมากอย่างไม่สิ้นสุด เพียงเท่านี้ตี้ฮูซาต้องใช้จ่ายเงินทองอย่างจ่ายฟุ่มเฟือยไม่ระวังจนเงินหมดพระคลัง" อ๋องเกาเจี้ยนรับฟังแล้วกล่าวฮ่วมลี้ ว่า "แผนการจัดการแคว้นโง้วที่ยอดเยี้ยม " บุ้นเจ้งกล่าวว่า " ฮ่วมลี้ ข้าพเจ้ามีคำถาม หากหญิงสาวงามทั้งสองนางที่เราส่งไปเป็นเครื่องบรรณาการณ์มีบุตรให้ตี้ฮูซาก็จะได้เป็นฮองเฮา และโอรสได้เป็นองค์รัชทายาท หญิงงามทั้งสองอาจทรยศมิทำตามแผนหญิงงามล่มเมืองของท่านก็เป็นได้" ฮ่วมลี้กล่าวว่า "เรื่องนี้มิยากเย็น แพทย์หลวงสามารถจัดการกับหญิงงามทั้งสองให้ไม่อาจตั้งครรภ์มีทารกได้" อ๋องเกาเจี้ยนกล่าวว่า "คราก่อน ท่านเสนาธิการฮ่วมลี้ให้เราใช้เงินทองติดสินบนแป๊ะพี่เสนาธิการของแคว้นโง้วจนเรสามารถรอดชีวิตจากสงครามในครั้งนั้นมาได้ เราคิดว่าหากให้พ่อค้าใหญ่ในแคว้นอ้วกเดินทางไปติดต่อค้าขายกับแคว้นโง้วและใช้เงินติดสินบนขุนนางกังฉินให้ชาวบ้านชั้นล่างที่เป็นเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อเดือดร้อนคับแค้น ต้องลุกขึ้นสู้ต่อต้านข้าหลวงขุนนาง สร้างความวุ่นวายในแคว้นโง้ว ขุนนางตงฉินย่อมต้องทะเลอะกับขุนนางกังฉินสร้างความแตกแยก เพาะความแค้นในกลุ่มขุนนางราชสำนักของแคว้นโง้ว ทำให้แคว้นโง้วของตี้ฮูซาอ่อนแอลงมากขึ้นอีก ท่านเสนาธิการทั้งสองมีความคิดเห็นกับแผนการของเช่นไร" ฮ่วมลี้และบุ้นเจ้งกล่าวชื่นชมในแผนการของอ๋องเกาเจี้ยน อ๋องเกาเจี้ยนก็เห็นว่าหากใช้แผนการทั้งสามอย่างนี้ แคว้นอ้วกสามารถล้มล้างแคว้นโง้วลงได้อย่างแน่นอน อ๋องเกาเจี้ยน กล่าวว่า"ฮ่วมลี้ ท่านเป็นคนเสนอแผนหญิงงามล่มเมือง เราให้ท่านเป็นคนจัดหาหญิงงามทั้งสองนางไปเป็นเครื่องบรรณาการณ์แก่เจ้าฮูซา" ฮ่วมลี้น้อมคารวะ กล่าวว่า "พะยะค่ะ ฝ่าบาท ยังมีอีกอย่างที่ข้าพเจ้าเห็นว่าเรามิควรประมาท คือ ซุนวูที่เป็นผู้ฝึกกองทัพทหารให้กับแคว้นโง้ว ซุนวูผู้นี้มีความสามารถในการวางกลยุทธและฝึกใช้ไพร่พลทหารอย่างมิอาจประมาทได้แม้แต่น้อย ดังนั้นข้าพเจ้าเห็นว่าควรจัดการประลองระหว่างทหารของแคว้นโง้วกับแคว้นอ้วกของเราทั้งสองแคว้น เพื่อเปรียบเทียบความสามารถของทหารของแคว้นโง้วกับทหารของแคว้นอ้วกเรา เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขในการฝึกฝนไพร่พลทหารให้สามารถพิชิตกองทัพทหารของซุนวู แผนการทั้งสี่นี้แม้ใช้เวลานาน แต่รอจนแผนการทุกอย่างสมบูรณ์แคว้นอ้วกเราค่อยยกทัพไปตีแคว้นโง้ว ย่อมพิชิตชัยอย่างแน่นอน" อ๋องเกาเจี้ยนเห็นด้วยกับฮ่วมลี้ กล่าวว่า "ทำการอย่างช้าๆ รอบคอบรัดกุมไว้ก่อนย่อมดี" ฮ่วมลี้กล่าวว่า "การส่งเครื่องบรรณาการณ์ให้แคว้นโง้วในปีนี้ ต้องขอให้พระองค์เดินทางไปยังแคว้นโง้วด้วย เพื่อให้ตี้ฮูซาอนุญาตจัดงานประลองทหารของสองแคว้นทุกๆ ปี โดยอ้างว่าเป็นการกระชับสัมพันธ์ของแคว้นโง้วและแคว้นอ้วกเรา" อ๋องโกวเจี้ยนว่า "เราจะไปส่งครื่องบรรณาการณ์ด้วยตัวเองตามที่ท่านเสนาธิการฮ่วมลี้ต้องการ เสนอให้ตี้ฮูซาจัดงานประลองทหารของทั้งสองแคว้นทุกปี เพื่อเป็นการสานสัมพันธไมตรีทั้งสองฝ่าย ท่านเสนาธิการทั้งสองไปเตรียมแผนการทั้งหมดได้" ฮ่วมลี้กับบุ้นเจ้งน้อมคารวะอ๋องเกาเจี้ยนแล้ว ฮ่วมลี้ร้องตะโกนสั่งทหารเฝ้าหน้าประตูห้องอักษรเรียกขันทีและนางกำนัลรับใช้พระองค์เข้ามา ฮ่วมลี้และบุ้นเจ้งยืนก้มนอบน้อมส่งอ๋องเกาเจี้ยนกลับไปตำหนักโดยมีทหารองค์รักษ์ ขันที และนางกำนัลรับใช้ติดตาม .....จบบทที่ห้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ