Love At First Sight ปิ๊งรักยัยสวยเวอร์
-
เขียนโดย พลอยแก้ว
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 เวลา 10.13 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
6,227 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 10.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ความรู้สึกที่เริ่มถลำลึก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ#ความรู้สึกที่เริ่มถลำลึก
"คุณไม่เป็นไรนะน้ำส้ม" นักรบเอ่ยถามด้วยความห่วงใย หลังจากที่แอนนาเดินไปจนพ้นสายตาแล้ว
"ไม่เป็นไรมากค่ะ" น้ำส้มที่ยืนขากะเผกทรงตัว รีบตอบโต้เมื่อนักรบถามไถ่ แม้จะเจ็บแปล๊บที่ข้อเท้า ก็ตอบเพื่อให้เขาสบายใจเธอไม่อยากสร้างความกลัดกลุ้มให้ใครจนวุ่นวาย
"แต่เหมือนข้อเท้าคุณจะบาดเจ็บนะครับ" เขาสังเกตการยืนของน้ำส้มจึงที่ดูไม่ปกติจึงเอ่ยขึ้น ล้วนเกิดจากความห่วงใยที่มีต่อเธอทั้งสิ้น
"ประคบน้ำแข็งสักหน่อยก็คงดีขึ้นค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้" เธอพูดพลางพยายามเดินไปนั่งพักยังเก้าอี้ใกล้ตัว และมีนักรบที่ช่วยเหลือประคอง
"เดี๋ยวจ๋าไปเอาน้ำแข็งกับผ้ามาให้นะคะ" จ๋าที่ยืนดูอยู่ไม่ไกล เธอรีบอาสาเมื่อเห็นว่าน้ำส้มได้รับบาดเจ็บ ทุกคนเห็นเหตุการณ์ทว่าไม่กล้าเข้าไปห้าม เพราะรู้ฤทธิ์เดชของแอนนาเป็นอย่างดี เธอมีนิสัยอย่างไรจนทีมงานไม่อยากจะเข้าใกล้ ภายนอกที่สวยงามแต่เบื้องหลังนั้นร้ายกาจต่างจากเบื้องหน้าโดยสิ้นเชิง
"ทำไมชอบตัดพ้อผมอยู่เรื่อยเลยนะ..." แต่คำพูดของน้ำส้มนั้นกลับทำให้นักรบรู้สึกใจเหี่ยว เมื่อมันเหมือนกับว่าเธอปิดกั้นไม่ให้เข้าใกล้ จนอดไม่ได้ที่ต้องพูดออกไปอย่างกับคนน้อยใจ
"เปล่านะคะ ฉันก็แค่ไม่อยากให้คุณเสียงานก็เท่านั้นเอง" จนทำให้น้ำส้มรีบปฏิเสธพัลวัน เธอไม่ได้คิดแบบนั้นสักนิดเดียว
"แต่คุณก็พูดแบบนี้มากกว่าหนึ่งรอบ ผมคงดูไม่น่าไว้ใจสำหรับคุณ" นักรบยังคงพร่ำต่อ สายตาก้มต่ำมองพื้นในขณะที่นั่งเคียงข้างเธอที่เป็นเป้าหมายหัวใจ
"ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นจริง ๆ ค่ะ...แค่คิดว่าฉันควรมีระยะห่างกับเจ้านายบ้าง ฉันไม่อยากทำให้คนมองคุณในทางเสียหาย" เธอพูดมันออกมาด้วยความจริงใจ ตามสิ่งที่คิดในหัวอย่างไม่บิดพลิ้ว
"เอาล่ะ ผมแค่แหย่เล่นอย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิ...ผมไม่ค่อยชอบสีหน้าของคุณแบบนี้สักเท่าไหร่?" เขาว่าขึ้นเมื่อสีหน้าของเธอดูเศร้าสร้อยห่อเหี่ยว แม้จะมองเพียงเสี้ยวสายตาเขาก็รู้ได้ว่าเธอมีปฏิกิริยาอย่างไร และมันก็ขัดใจเขาเหลือเกินที่ต้องพบเห็นใบหน้าสวยกลายเป็นหม่นหมองเช่นนี้ "ยิ้มหน่อยสิครับ"
"คะ?" ประโยคหลังที่ถูกเว้นห่างไว้ เมื่อได้ยินทำให้น้ำส้มต้องเงยหน้ามองอย่างมีคำถาม เธอเข้าไม่ถึงเลยว่าเขาพูดออกมาด้วยความรู้สึกอย่างไร แต่ได้ฟังแล้วมันกลับทำให้เธอใจเต้นแรงซะอย่างนั้น ยิ่งได้สบตามองหน้าก็ยิ่งทำให้ใจของเธอสั่นไหว อย่างกับโดนสะกดด้วยเสน่หาที่สื่อผ่านออกมาด้วยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ของนักรบที่จับจ้อง
แต่เขากลับมองผ่านไม่สนใจ เลือกที่จะไปสั่งการกับเหล่าบริวารเรื่องงานแทน
"วันนี้พอแค่นี้ก่อน รอให้คุณน้ำส้มขาหายดีค่อยเริ่มถ่ายกันอีกครั้ง" นักรบเห็นท่าไม่ค่อยดี หากถ่ายงานต่อมีหวังผู้หญิงที่เขาหมายปองได้รับบาดเจ็บซ้ำอีกรอบ จึงได้ออกคำสั่งหยุดงานกะทันหัน นั่นเพราะเขาห่วงเธอที่นั่งอยู่เคียงข้าง ความรู้สึกที่เริ่มถลำลึกทำให้เขาหวงแหนจนไม่อยากเห็นเธอเจ็บตัว แม้จะชั่วเวลาที่เจอกันไม่นานก็รู้สึกได้ว่าเขาชอบเธอ แม้เธอจะไม่ได้ชอบเขากลับก็ตาม เวลาที่ให้ความรู้สึกกับใครมันต่างกันและเขาจะไม่คะยั้นคะยอกดดันเธอ อยากให้ค่อยเป็นค่อยไปแม้จะเป็นเขาที่เข้าหาเพียงฝ่ายเดียวก็ตามที
(ค่ะ/ครับ)
"คุณนักรบคะฉันโอเคค่ะถ่ายต่อได้แค่นี้เอง" เมื่อได้ยินเช่นนั้นน้ำส้มจึงเอ่ยขึ้น เผลอจับที่มือของนักรบโดยไม่รู้ตัว เพียงแค่คิดว่าอยากจะยับยั้งคำสั่ง เพราะไม่อยากให้งานล่าช้าเสียเวลาเพราะเธอคือต้นเหตุ
"ผมสั่งให้หยุดคือหยุด" นักรบหันไปจ้องหน้าน้ำส้มด้วยสีหน้านิ่งเรียบ น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นดุดัน จนทำให้น้ำส้มไม่กล้าสบตามอง
"ค่ะ" ได้แต่พยักหน้ายอมรับพร้อมกับถอนลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
"มาค่ะน้องน้ำส้มพี่ช่วยประคบเย็นให้" จ๋าที่ถืออุปกรณ์วิ่งหน้าตั้งเข้ามา เธอกังวลใจอย่างมากที่เห็นนางแบบคนโปรดเจอกับเรื่องร้ายแรงแบบนี้ ก็เธอเอ็นดูน้ำส้มที่จิตใจดีและรู้หน้าที่มีความนอบน้อมต่อทีมงาน ไม่ถือตัวว่าเป็นใครระดับไหน จึงทำให้คนที่ร่วมงานด้วยรักและชื่นชมเธอ
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวส้มทำเองแค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ" น้ำส้มรีบชักเท้ากลับเมื่อจ๋านั้นกำลังประคบน้ำแข็งให้ เท้าที่อยู่ต่ำทำให้เธอเกรงใจอย่างมาก
"จ๋าไปเก็บของเถอะเดี๋ยวผมจัดการเอง" นักรบที่เห็นแบบนั้นเขาจึงยื่นมือของอุปกรณ์ประคบเย็น พร้อมกับใช้สายตามองข่มน้ำส้มจนเธอเริ่มหวั่น ตั้งแต่ที่ปะทะกับแอนนาสายตาของนักรบดูแข็งกร้าวทุกครั้งที่เธอปฏิเสธเขาในทุกด้าน
"ค่ะ" เพียงสิ้นคำสั่งเจ้านายจ๋าก็เดินจากไปเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง
มีเพียงนักรบและน้ำส้มที่อยู่กันตามลำพังในจุดหนึ่งที่เป็นส่วนตัว เขาขยับมาอยู่ตรงหน้าของเธอ แล้วนั่งย่อตัวลงก่อนจะยกเท้าของน้ำส้มวางลงหน้าขา
"ฉันทำเองค่ะ" ทว่าน้ำส้มกลับรั้งขาไว้ นี่มันเริ่มจะมากเกินไปหากต้องเหยียบลงบนขาคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนายจ้าง แต่แล้วเธอต้องนิ่งอย่างจำยอมเพียงสายตาดุของนักรบจดจ้องมองหน้าเธอ สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอมันสร้างความเกร็งและอาการเขิน จนน้ำส้มแทบหยุดหายใจ
"ผมอยากจะทำให้ และไม่อยากให้คุณปฏิเสธการกระทำของผมนะ" มือประคบน้ำแข็งลงข้อเท้า ปากก็พร่ำพูดไปพลาง สร้างความหวั่นไหวให้คนที่ได้ฟัง
"ขะ ขอบคุณค่ะ" เธอตอบเขาด้วยน้ำเสียงติดขัดที่มาจากความเกร็ง ยิ่งให้มองหน้าเขาในระยะใกล้ ใบหน้าคมคายหล่อเหล่าอย่างชายชาตรี ทำหัวใจของน้ำส้มเต้มโครมครามแทบหลุดออกมาจากอก...เหมือนเธอตกอยู่ในภวังค์ที่เขากำลังปั่นหัวใจเธอให้สั่นไหวอีกครั้งจากที่ปิดตายมานานตั้งแต่ที่สามีจากไป
"คุณไม่เป็นไรนะน้ำส้ม" นักรบเอ่ยถามด้วยความห่วงใย หลังจากที่แอนนาเดินไปจนพ้นสายตาแล้ว
"ไม่เป็นไรมากค่ะ" น้ำส้มที่ยืนขากะเผกทรงตัว รีบตอบโต้เมื่อนักรบถามไถ่ แม้จะเจ็บแปล๊บที่ข้อเท้า ก็ตอบเพื่อให้เขาสบายใจเธอไม่อยากสร้างความกลัดกลุ้มให้ใครจนวุ่นวาย
"แต่เหมือนข้อเท้าคุณจะบาดเจ็บนะครับ" เขาสังเกตการยืนของน้ำส้มจึงที่ดูไม่ปกติจึงเอ่ยขึ้น ล้วนเกิดจากความห่วงใยที่มีต่อเธอทั้งสิ้น
"ประคบน้ำแข็งสักหน่อยก็คงดีขึ้นค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้" เธอพูดพลางพยายามเดินไปนั่งพักยังเก้าอี้ใกล้ตัว และมีนักรบที่ช่วยเหลือประคอง
"เดี๋ยวจ๋าไปเอาน้ำแข็งกับผ้ามาให้นะคะ" จ๋าที่ยืนดูอยู่ไม่ไกล เธอรีบอาสาเมื่อเห็นว่าน้ำส้มได้รับบาดเจ็บ ทุกคนเห็นเหตุการณ์ทว่าไม่กล้าเข้าไปห้าม เพราะรู้ฤทธิ์เดชของแอนนาเป็นอย่างดี เธอมีนิสัยอย่างไรจนทีมงานไม่อยากจะเข้าใกล้ ภายนอกที่สวยงามแต่เบื้องหลังนั้นร้ายกาจต่างจากเบื้องหน้าโดยสิ้นเชิง
"ทำไมชอบตัดพ้อผมอยู่เรื่อยเลยนะ..." แต่คำพูดของน้ำส้มนั้นกลับทำให้นักรบรู้สึกใจเหี่ยว เมื่อมันเหมือนกับว่าเธอปิดกั้นไม่ให้เข้าใกล้ จนอดไม่ได้ที่ต้องพูดออกไปอย่างกับคนน้อยใจ
"เปล่านะคะ ฉันก็แค่ไม่อยากให้คุณเสียงานก็เท่านั้นเอง" จนทำให้น้ำส้มรีบปฏิเสธพัลวัน เธอไม่ได้คิดแบบนั้นสักนิดเดียว
"แต่คุณก็พูดแบบนี้มากกว่าหนึ่งรอบ ผมคงดูไม่น่าไว้ใจสำหรับคุณ" นักรบยังคงพร่ำต่อ สายตาก้มต่ำมองพื้นในขณะที่นั่งเคียงข้างเธอที่เป็นเป้าหมายหัวใจ
"ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นจริง ๆ ค่ะ...แค่คิดว่าฉันควรมีระยะห่างกับเจ้านายบ้าง ฉันไม่อยากทำให้คนมองคุณในทางเสียหาย" เธอพูดมันออกมาด้วยความจริงใจ ตามสิ่งที่คิดในหัวอย่างไม่บิดพลิ้ว
"เอาล่ะ ผมแค่แหย่เล่นอย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิ...ผมไม่ค่อยชอบสีหน้าของคุณแบบนี้สักเท่าไหร่?" เขาว่าขึ้นเมื่อสีหน้าของเธอดูเศร้าสร้อยห่อเหี่ยว แม้จะมองเพียงเสี้ยวสายตาเขาก็รู้ได้ว่าเธอมีปฏิกิริยาอย่างไร และมันก็ขัดใจเขาเหลือเกินที่ต้องพบเห็นใบหน้าสวยกลายเป็นหม่นหมองเช่นนี้ "ยิ้มหน่อยสิครับ"
"คะ?" ประโยคหลังที่ถูกเว้นห่างไว้ เมื่อได้ยินทำให้น้ำส้มต้องเงยหน้ามองอย่างมีคำถาม เธอเข้าไม่ถึงเลยว่าเขาพูดออกมาด้วยความรู้สึกอย่างไร แต่ได้ฟังแล้วมันกลับทำให้เธอใจเต้นแรงซะอย่างนั้น ยิ่งได้สบตามองหน้าก็ยิ่งทำให้ใจของเธอสั่นไหว อย่างกับโดนสะกดด้วยเสน่หาที่สื่อผ่านออกมาด้วยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ของนักรบที่จับจ้อง
แต่เขากลับมองผ่านไม่สนใจ เลือกที่จะไปสั่งการกับเหล่าบริวารเรื่องงานแทน
"วันนี้พอแค่นี้ก่อน รอให้คุณน้ำส้มขาหายดีค่อยเริ่มถ่ายกันอีกครั้ง" นักรบเห็นท่าไม่ค่อยดี หากถ่ายงานต่อมีหวังผู้หญิงที่เขาหมายปองได้รับบาดเจ็บซ้ำอีกรอบ จึงได้ออกคำสั่งหยุดงานกะทันหัน นั่นเพราะเขาห่วงเธอที่นั่งอยู่เคียงข้าง ความรู้สึกที่เริ่มถลำลึกทำให้เขาหวงแหนจนไม่อยากเห็นเธอเจ็บตัว แม้จะชั่วเวลาที่เจอกันไม่นานก็รู้สึกได้ว่าเขาชอบเธอ แม้เธอจะไม่ได้ชอบเขากลับก็ตาม เวลาที่ให้ความรู้สึกกับใครมันต่างกันและเขาจะไม่คะยั้นคะยอกดดันเธอ อยากให้ค่อยเป็นค่อยไปแม้จะเป็นเขาที่เข้าหาเพียงฝ่ายเดียวก็ตามที
(ค่ะ/ครับ)
"คุณนักรบคะฉันโอเคค่ะถ่ายต่อได้แค่นี้เอง" เมื่อได้ยินเช่นนั้นน้ำส้มจึงเอ่ยขึ้น เผลอจับที่มือของนักรบโดยไม่รู้ตัว เพียงแค่คิดว่าอยากจะยับยั้งคำสั่ง เพราะไม่อยากให้งานล่าช้าเสียเวลาเพราะเธอคือต้นเหตุ
"ผมสั่งให้หยุดคือหยุด" นักรบหันไปจ้องหน้าน้ำส้มด้วยสีหน้านิ่งเรียบ น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นดุดัน จนทำให้น้ำส้มไม่กล้าสบตามอง
"ค่ะ" ได้แต่พยักหน้ายอมรับพร้อมกับถอนลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
"มาค่ะน้องน้ำส้มพี่ช่วยประคบเย็นให้" จ๋าที่ถืออุปกรณ์วิ่งหน้าตั้งเข้ามา เธอกังวลใจอย่างมากที่เห็นนางแบบคนโปรดเจอกับเรื่องร้ายแรงแบบนี้ ก็เธอเอ็นดูน้ำส้มที่จิตใจดีและรู้หน้าที่มีความนอบน้อมต่อทีมงาน ไม่ถือตัวว่าเป็นใครระดับไหน จึงทำให้คนที่ร่วมงานด้วยรักและชื่นชมเธอ
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวส้มทำเองแค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ" น้ำส้มรีบชักเท้ากลับเมื่อจ๋านั้นกำลังประคบน้ำแข็งให้ เท้าที่อยู่ต่ำทำให้เธอเกรงใจอย่างมาก
"จ๋าไปเก็บของเถอะเดี๋ยวผมจัดการเอง" นักรบที่เห็นแบบนั้นเขาจึงยื่นมือของอุปกรณ์ประคบเย็น พร้อมกับใช้สายตามองข่มน้ำส้มจนเธอเริ่มหวั่น ตั้งแต่ที่ปะทะกับแอนนาสายตาของนักรบดูแข็งกร้าวทุกครั้งที่เธอปฏิเสธเขาในทุกด้าน
"ค่ะ" เพียงสิ้นคำสั่งเจ้านายจ๋าก็เดินจากไปเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง
มีเพียงนักรบและน้ำส้มที่อยู่กันตามลำพังในจุดหนึ่งที่เป็นส่วนตัว เขาขยับมาอยู่ตรงหน้าของเธอ แล้วนั่งย่อตัวลงก่อนจะยกเท้าของน้ำส้มวางลงหน้าขา
"ฉันทำเองค่ะ" ทว่าน้ำส้มกลับรั้งขาไว้ นี่มันเริ่มจะมากเกินไปหากต้องเหยียบลงบนขาคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนายจ้าง แต่แล้วเธอต้องนิ่งอย่างจำยอมเพียงสายตาดุของนักรบจดจ้องมองหน้าเธอ สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอมันสร้างความเกร็งและอาการเขิน จนน้ำส้มแทบหยุดหายใจ
"ผมอยากจะทำให้ และไม่อยากให้คุณปฏิเสธการกระทำของผมนะ" มือประคบน้ำแข็งลงข้อเท้า ปากก็พร่ำพูดไปพลาง สร้างความหวั่นไหวให้คนที่ได้ฟัง
"ขะ ขอบคุณค่ะ" เธอตอบเขาด้วยน้ำเสียงติดขัดที่มาจากความเกร็ง ยิ่งให้มองหน้าเขาในระยะใกล้ ใบหน้าคมคายหล่อเหล่าอย่างชายชาตรี ทำหัวใจของน้ำส้มเต้มโครมครามแทบหลุดออกมาจากอก...เหมือนเธอตกอยู่ในภวังค์ที่เขากำลังปั่นหัวใจเธอให้สั่นไหวอีกครั้งจากที่ปิดตายมานานตั้งแต่ที่สามีจากไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ