Love At First Sight ปิ๊งรักยัยสวยเวอร์
-
เขียนโดย พลอยแก้ว
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 เวลา 10.13 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
6,235 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 10.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) รักไม่ได้มีแฟนแล้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ#รักไม่ได้มีแฟนแล้ว
"ฉันดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" น้ำส้มเอ่ยขึ้นพลางมองไปที่นาฬิกาข้อมือเพื่อดูเวลา ตอนนี้เกือบจะถึงเวลาที่ลูกสาวต้วน้อยของเธอเลิกเรียน และเธอต้องรีบไปรับให้ทัน ไม่อยากให้ลูกสาวต้องเป็นฝ่ายรอ
สองมือสาระวนเก็บของใส่กระเป๋า ข้อเท้าที่มีอาการเจ็บก็เริ่มทุเลาแต่ก็ยังขยับมากไม่ได้ เธอวุ่นวายกับการจัดเก็บสิ่งของจนนักรบต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออีกครั้ง ล้วนทำด้วยความเต็มใจ
"แล้วคุณจะรีบไปไหน" เขาถามพลางเอื้อมมือหยิบของยื่นให้น้ำส้มใส่กระเป๋า
"ต้องรีบไปรับน้องมะนาวที่โรงเรียนค่ะ ฉันไม่อยากให้เธอรอนาน" เธอให้คำตอบแก่เขา
"ผมขับรถให้ขาคุณเจ็บคงขับเองไม่ไหวหรอก" นักรบอาสาพร้อมกับถือวิสาสะสะพายกระเป๋าของเธอ ก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้แล้วเอื้อมมือไปโอบไหล่น้ำส้มพยุง
"วันนี้ฉันรบกวนคุณนักรบเกินไปแล้วค่ะ ฉันเกรงใจคุณจริง ๆ นะคะ" น้ำส้มพูดขึ้นเธอส่งสายตามองผู้ขายที่ยืนอยู่ด้านข้าง พยายามขยับตัวออกห่าง แต่ด้วยแรงขาที่มีไม่มากพอจึงไม่สามารถทำได้ และทุกครั้งที่น้ำส้มออกแรงผลักไส เขาก็จะเพิ่มแรงรั้งไว้พร้อมสายตาจับจ้องข่มขู่เชิงคำสั่ง และนั่นทำให้เธอต้องเชื่อฟังอย่างกับโดนสะกดเพียงแค่สายคู่นี้จ้องมอง "ก็ได้ค่ะ"
"พูดง่าย ๆ แบบนี้น่ารักมากค่ะ" เขาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวของเธอเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มกริ่ม กระตุ้นจังหวะการเต้นของหัวใจเธอให้ทำงานหนักกว่าเดิมอีก มันทำเอาน้ำส้มถึงกับไปต่อไม่เป็นจนต้องชะงักและจ้องมองหน้าเขาด้วยความอึ้ง การรุกจีบที่ทำเธอเก็บทรงไม่อยู่ ใบหน้าเห่อร้อนเมื่อได้ใกล้ชิด
เธอถูกเขาพยุงมายังรถยนต์ ทุกอย่างเขาปรนนิบัติเธอเหมือนกับคนเป็นแฟน จนทำให้หัวใจคุณแม่ลูกติดเต้นไม่เป็นจังหวะ ความชิดใกล้และคำพูดหวานสร้างความหวั่นไหวแก่เธอ ตอนนี้ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อเพราะเกร็งอยู่ในรถเท่านั้น ไม่กล้าแม้กระทั่งจะหายใจออกแรง ๆ ด้วยซ้ำไป ประหม่าไปเสียหมดเพียงใกล้เขา ผู้ชายที่กำลังหลอมละลายเธอด้วยสายตาและคำพูดเสนาะหู
"ผมทำให้คุณอึดอัดหรือเปล่า" เขาเอ่ยถามเมื่อขับรถยนต์ออกมามุ่งหน้าสู่โรงเรียนอนุบาล
"ปะ เปล่านี่คะ" น้ำส้มตอบปฏิเสธแบบติดขัด นั่นยิ่งทำให้นักรบจับพิรุธได้อย่างไม่มีข้อกังขา
"แต่สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้คุณดูเกร็งมากเลยนะ" เขาทักท้วงสายตามองตรงไปยังท้องถนนที่อยู่เบื้องหน้า ทว่ากลับมีรอยยิ้มอ่อน เมื่อเห็นอาการของคนที่นั่งเคียงข้าง
"ฉันเป็นแบบนั้นเหรอคะ" เธอย้อนถามอย่างเอียงอายเปล่งเสียงออกมาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้แต่ก้มหน้าพูดบิดกระโปรงที่สวมใส่แก้เคอะเขิน
"ไม่มั้งครับ" นักรบตอบแบบติดตลก
"คุณนักรบอะ...ก็คุณทำฉันเขิน"
"น่ารักดีนะครับ"
น้ำส้มตอบกลับพลางเบือนหน้าหนีและหลับตาพริ้ม ระบายยิ้มอย่างหลบซ่อนสายตา ยิ่งคำพูดชมเหมือนวัยรุ่นในประโยคสุดท้ายยิ่งทำให้เธอเขินอายจนแทบอยากจะเอาหัวโขกกับประตูรถให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมเขาถึงหยอดเก่งจนเธอเสียการทรงตัวได้แบบนี้...ทั้งที่ก็ไม่ใช่วัยรุ่นแรกแย้ม
"คุณแม่ขามารับน้องแล้ว" เด็กหญิงตัวกลมที่เห็นผู้เป็นแม่เดินมารับตรงสนามเด็กเล่น สร้างความดีใจจนรีบวิ่งเข้ามากอดเอว เธอนั่งรออยู่หลายนาทีจนใจห่อเหี่ยวเพราะเลยเวลาที่แม่ต้องมารับ ปกติเธอจะเห็นผู้เป็นแม่ก่อนเสมอ
"แม่ขอโทษนะคะที่ทำให้หนูต้องรอ...น้องไม่โกรธแม่ใช่ไหม" เธอกอดตอบลูกสาวต้วน้อย
"น้องไม่โกรธเลยค่ะ น้องรอคุณแม่ขาได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าน้องใจหล่นตุ๊บ กลัวคุณแม่ลืมน้อง" เด็กหญิงกอดเอวของแม่ แล้วเงยหน้าพูดออกมาอย่างเดียงสาตามสิ่งที่เธอคิด
"แม่จะลืมลูกสาวคนสวยได้ยังไงกันล่ะคะ...สวัสดีคุณครูแล้วกลับบ้านกันค่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณครูเรย์"
"สวัสดีค่ะน้องมะนาว...อย่าลืมการบ้านนะคะ"
"ค่ะ"
ผู้เป็นแม่บอกกล่าว แล้วลูกสาวตัวน้อยก็ทำตามอย่างเชื่อฟัง เธอหันไปยกมือไหว้ทำความเคารพอย่างมีมารยาท จากนั้นจึงเดินจับมือของผู้เป็นแม่ออกมา โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าแม่เดินไม่ปกติ เพราะเธอดีใจที่เห็นแม่มารับ
"โอ๊ะ!" สายตาของเด็กหญิงมองไปที่รถยนต์ของแม่จึงทักท้วง เมื่อเห็นผู้ชายที่คุ้นหน้ายืนมือกอดอกพิงรถโบกมือและส่งยิ้มหวานให้
"สวัสดีครับคนสวยเวอร์ ๆ" นักรบทักทายเด็กหญิงด้วยคำพูดเลียนแบบที่น้องมะนาวชอบพูดจนชินปาก
"สวัสดีค่ะคุณอาขา คุณอาสุดหล่อก็มารับน้องเหรอด้วยคะ...ดีจังเหมือนเป็นคุณพ่อเลยค่ะ"
"มะนาว!!"
เด็กหญิงยกมือไหว้สวยงาม ตามด้วยคำทักทายพูดคุยอย่างน่ารัก และตบท้ายด้วยความพูดตามความรู้สึกที่ไร้เดียงสา ทว่ากลับทำให้ผู้เป็นแม่ที่ยืนจับมือเคียงข้างนั้นแก้มแดงระเรื่อ จนเธอต้องเรียกชื่อลูกสาวเสียงดังอย่างห้ามปราม พลางปรายสายตามองผู้ชายตัวสูงหน้าตาดีอย่างเคอะเขิน
เธอเขินแต่เขากลับยิ้มเยาะอย่างชอบใจ
"ขึ้นรถกันเถอะครับ" เมื่อเห็นกิริยาของน้ำส้ม นักรบจึงหาทางหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เธอประหม่าและเขินไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้ความน่ารักของคุณแม่ลูกติดก็ทำให้หัวใจของเขาทำงานหนักมากแล้ว
ระหว่างการเดินทางผู้ใหญ่สองคนมีเพียงความเงียบระหว่างกันเท่านั้น ยกเว้นก็แต่เด็กหญิงมะนาวที่เอาแต่พูดพร่ำเพียงคนเดียว สิ่งใดที่สงสัยอะไรที่ผ่านสายตา เธอก็เอาแต่ถามตามประสา จนนักรบและน้ำส้มผลัดกันให้คำตอบแก่เด็กหญิงตัวกลมที่ช่างเจรจา
"แวะปั๊มได้ไหมคะพอดีว่าฉันอยากเข้าห้องน้ำ" น้ำส้มที่ปวดท้องเบาเธอเอ่ยขึ้น เพราะมันสุดจะกลั้นจนทนไม่ไหว
"ได้ครับข้างหน้ามีปั๊มพอดี" ทันทีที่เธอเอ่ยขอ เขาก็สนองให้ตามที่เธอต้องการอย่างไม่อิดออด และเลี้ยวรถเข้าไปจอดยังหน้าห้องน้ำของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง นั่นจึงทำให้น้ำส้มรีบลงจากรถเพื่อปลดทุกข์ที่มี บนรถยนต์จึงเหลือเพียงนักรบและน้องมะนาว ชายหญิงต่างวัยเท่านั้น
"เซียวจ้านก็หล่อดีนะคะคุณอาสุดหล่อเวอร์ ๆ" น้องมะนาวที่นั่งปัดหน้าจอมือถือไปมาอยู่เบาะหลัง จู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นทำให้นักรบต้องหันหลังกลับไปมอง
"น้องมะนาวชอบหรอคะ" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น จนเด็กหญิงนั้นเงยหน้ามองและส่งยิ้มกว้างอย่างน่ารัก
"เปรี้ยวจี๊ด(ส์)ค่ะคุณอา...ต้องออกเสียงแบบนี้ตามน้องด้วยนะคะ" และเธอก็ย้ำในสรรพนามแทนตัวเองพร้อมออกเสียงเป็นตัวอย่างจนน้ำลายกระเซ็นลอดไรฟันออกมา ให้เหมือนกับเพื่อนที่โรงเรียนชอบเรียก เธอชอบให้ผู้คนเรียกเธอแบบนี้มากกว่าชื่อจริง ทำเอานักรบกระโจนหน้าหลบแทบไม่ทัน
"อะ ๆ ๆ เปรี้ยวจี๊ด(ส์)" เขาส่ายหัวและยิ้มในความเดียงสาของเด็กน้อย และพูดตามในสิ่งที่เธอบอกกล่าว
"จี๊ด(ส์)ไม่ค่อยชอบหรอกค่ะแต่ว่าคุณส้มโอชอบเวอร์ ๆ" เธอบอกเล่าอย่างฉะฉาน และสรรพนามเรียกผู้เป็นแม่ใหม่ตามจินตนาการของเธอที่มีเหลือเฟือ ตามประสาเด็กน้อยช่างพูด
"ทำไมเป็นจี๊ด(ส์)แล้วล่ะ เปรี้ยวหายไปไหน" เขาย้อนถามเด็กหญิง
"วันนี้เป็นจี๊ด(ส์)พอค่ะ ไม่อยากพูดสองคำน้องเมื่อยปาก" และเธอก็ตอบนักรบด้วยความฉะฉานไม่มีติดขัดในคำพูดแม้แต่วรรคเดียว
"เฮ้อ อาเริ่มจะปวดหัวกับเปรี้ยวจี๊ด(ส์)แล้วค่ะ" ทำเอานักรบถึงกับกุมขมับทันทีเมื่อได้ฟังการโต้ตอบของเด็กหญิงมะนาวผู้น่ารัก
"คุณอาสุดหล่อจะพูดค่ะไม่ได้นะคะ เพราะนั่นน่ะเขาให้ผู้หญิงพูด ครูเรย์บอกน้องมาแบบนี้ ผู้หญิงพูดค่ะผู้ชายต้องพูดครับ" เด็กหญิงตัวกลมอธิบายตามสิ่งที่เธอรับรู้มา สร้างรอยยิ้มให้กับนักรบอีกครา ทุกครั้งที่มีน้องมะนาวกับแม่เขารู้สึกมีความสุขและยิ้มได้เสมอ เหมือนเป็นเชื้อไฟที่เปล่งแสงสว่างสร้างความเปรมปรีดิ์ได้ทุกเวลานาที
"ครับคนสวยเวอร์ ๆ"
"แบบนั้นแหละค่ะคุณอาสุดหล่อเวอร์ ๆ"
"พูดเก่งจริงเลย"
"น้องน่ารักใช่ไหมล่ะคะ?"
"ครับผม...น่ารักจนอาหลงรักแล้วเนี่ย"
การตอบโต้ของคนต่างวัย ทำให้นักรบต้องเอื้อมมือไปหยิบพวงแก้มกลมที่เต่งตึงเหมือนจะแตกของน้องมะนาวด้วยความเอ็นดู มันเขี้ยวจนกัดฟันแน่นพลางส่ายพวงแก้มสองข้างของเด็กน้อยไปมา
"Oh No...รักไม่ได้ค่ะเพราะน้องมีคนมารักแล้วที่โรงเรียน คุณอารักน้องไม่ได้หรอกค่ะน้องน่ะมีแฟนแล้ว น้องไม่อยากหลายใจ"
"หา?"
เด็กหญิงตัวน้อยรีบปฏิเสธทันที เป็นความหมายที่แปลไปคนละทิศละทาง สร้างความเข้าใจผิดให้กับน้องมะนาว และทำเอานักรบถึงกับหน้าเหวอทันทีเมื่อเด็กหญิงตอบกลับ...เขายอมในการเจรจาของเด็กคนนี้แล้วจริง ๆ สร้างสรรค์จนเขาตามไม่ทันเลยทีเดียว แต่ก็น่ารักสมวัยที่กำลังฉอเลาะกล้าแสดงออก ยิ่งทำให้เขาหลงและเอ็นดูมากขึ้นเป็นทวี
"ฉันดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" น้ำส้มเอ่ยขึ้นพลางมองไปที่นาฬิกาข้อมือเพื่อดูเวลา ตอนนี้เกือบจะถึงเวลาที่ลูกสาวต้วน้อยของเธอเลิกเรียน และเธอต้องรีบไปรับให้ทัน ไม่อยากให้ลูกสาวต้องเป็นฝ่ายรอ
สองมือสาระวนเก็บของใส่กระเป๋า ข้อเท้าที่มีอาการเจ็บก็เริ่มทุเลาแต่ก็ยังขยับมากไม่ได้ เธอวุ่นวายกับการจัดเก็บสิ่งของจนนักรบต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออีกครั้ง ล้วนทำด้วยความเต็มใจ
"แล้วคุณจะรีบไปไหน" เขาถามพลางเอื้อมมือหยิบของยื่นให้น้ำส้มใส่กระเป๋า
"ต้องรีบไปรับน้องมะนาวที่โรงเรียนค่ะ ฉันไม่อยากให้เธอรอนาน" เธอให้คำตอบแก่เขา
"ผมขับรถให้ขาคุณเจ็บคงขับเองไม่ไหวหรอก" นักรบอาสาพร้อมกับถือวิสาสะสะพายกระเป๋าของเธอ ก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้แล้วเอื้อมมือไปโอบไหล่น้ำส้มพยุง
"วันนี้ฉันรบกวนคุณนักรบเกินไปแล้วค่ะ ฉันเกรงใจคุณจริง ๆ นะคะ" น้ำส้มพูดขึ้นเธอส่งสายตามองผู้ขายที่ยืนอยู่ด้านข้าง พยายามขยับตัวออกห่าง แต่ด้วยแรงขาที่มีไม่มากพอจึงไม่สามารถทำได้ และทุกครั้งที่น้ำส้มออกแรงผลักไส เขาก็จะเพิ่มแรงรั้งไว้พร้อมสายตาจับจ้องข่มขู่เชิงคำสั่ง และนั่นทำให้เธอต้องเชื่อฟังอย่างกับโดนสะกดเพียงแค่สายคู่นี้จ้องมอง "ก็ได้ค่ะ"
"พูดง่าย ๆ แบบนี้น่ารักมากค่ะ" เขาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวของเธอเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มกริ่ม กระตุ้นจังหวะการเต้นของหัวใจเธอให้ทำงานหนักกว่าเดิมอีก มันทำเอาน้ำส้มถึงกับไปต่อไม่เป็นจนต้องชะงักและจ้องมองหน้าเขาด้วยความอึ้ง การรุกจีบที่ทำเธอเก็บทรงไม่อยู่ ใบหน้าเห่อร้อนเมื่อได้ใกล้ชิด
เธอถูกเขาพยุงมายังรถยนต์ ทุกอย่างเขาปรนนิบัติเธอเหมือนกับคนเป็นแฟน จนทำให้หัวใจคุณแม่ลูกติดเต้นไม่เป็นจังหวะ ความชิดใกล้และคำพูดหวานสร้างความหวั่นไหวแก่เธอ ตอนนี้ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อเพราะเกร็งอยู่ในรถเท่านั้น ไม่กล้าแม้กระทั่งจะหายใจออกแรง ๆ ด้วยซ้ำไป ประหม่าไปเสียหมดเพียงใกล้เขา ผู้ชายที่กำลังหลอมละลายเธอด้วยสายตาและคำพูดเสนาะหู
"ผมทำให้คุณอึดอัดหรือเปล่า" เขาเอ่ยถามเมื่อขับรถยนต์ออกมามุ่งหน้าสู่โรงเรียนอนุบาล
"ปะ เปล่านี่คะ" น้ำส้มตอบปฏิเสธแบบติดขัด นั่นยิ่งทำให้นักรบจับพิรุธได้อย่างไม่มีข้อกังขา
"แต่สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้คุณดูเกร็งมากเลยนะ" เขาทักท้วงสายตามองตรงไปยังท้องถนนที่อยู่เบื้องหน้า ทว่ากลับมีรอยยิ้มอ่อน เมื่อเห็นอาการของคนที่นั่งเคียงข้าง
"ฉันเป็นแบบนั้นเหรอคะ" เธอย้อนถามอย่างเอียงอายเปล่งเสียงออกมาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้แต่ก้มหน้าพูดบิดกระโปรงที่สวมใส่แก้เคอะเขิน
"ไม่มั้งครับ" นักรบตอบแบบติดตลก
"คุณนักรบอะ...ก็คุณทำฉันเขิน"
"น่ารักดีนะครับ"
น้ำส้มตอบกลับพลางเบือนหน้าหนีและหลับตาพริ้ม ระบายยิ้มอย่างหลบซ่อนสายตา ยิ่งคำพูดชมเหมือนวัยรุ่นในประโยคสุดท้ายยิ่งทำให้เธอเขินอายจนแทบอยากจะเอาหัวโขกกับประตูรถให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมเขาถึงหยอดเก่งจนเธอเสียการทรงตัวได้แบบนี้...ทั้งที่ก็ไม่ใช่วัยรุ่นแรกแย้ม
"คุณแม่ขามารับน้องแล้ว" เด็กหญิงตัวกลมที่เห็นผู้เป็นแม่เดินมารับตรงสนามเด็กเล่น สร้างความดีใจจนรีบวิ่งเข้ามากอดเอว เธอนั่งรออยู่หลายนาทีจนใจห่อเหี่ยวเพราะเลยเวลาที่แม่ต้องมารับ ปกติเธอจะเห็นผู้เป็นแม่ก่อนเสมอ
"แม่ขอโทษนะคะที่ทำให้หนูต้องรอ...น้องไม่โกรธแม่ใช่ไหม" เธอกอดตอบลูกสาวต้วน้อย
"น้องไม่โกรธเลยค่ะ น้องรอคุณแม่ขาได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าน้องใจหล่นตุ๊บ กลัวคุณแม่ลืมน้อง" เด็กหญิงกอดเอวของแม่ แล้วเงยหน้าพูดออกมาอย่างเดียงสาตามสิ่งที่เธอคิด
"แม่จะลืมลูกสาวคนสวยได้ยังไงกันล่ะคะ...สวัสดีคุณครูแล้วกลับบ้านกันค่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณครูเรย์"
"สวัสดีค่ะน้องมะนาว...อย่าลืมการบ้านนะคะ"
"ค่ะ"
ผู้เป็นแม่บอกกล่าว แล้วลูกสาวตัวน้อยก็ทำตามอย่างเชื่อฟัง เธอหันไปยกมือไหว้ทำความเคารพอย่างมีมารยาท จากนั้นจึงเดินจับมือของผู้เป็นแม่ออกมา โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าแม่เดินไม่ปกติ เพราะเธอดีใจที่เห็นแม่มารับ
"โอ๊ะ!" สายตาของเด็กหญิงมองไปที่รถยนต์ของแม่จึงทักท้วง เมื่อเห็นผู้ชายที่คุ้นหน้ายืนมือกอดอกพิงรถโบกมือและส่งยิ้มหวานให้
"สวัสดีครับคนสวยเวอร์ ๆ" นักรบทักทายเด็กหญิงด้วยคำพูดเลียนแบบที่น้องมะนาวชอบพูดจนชินปาก
"สวัสดีค่ะคุณอาขา คุณอาสุดหล่อก็มารับน้องเหรอด้วยคะ...ดีจังเหมือนเป็นคุณพ่อเลยค่ะ"
"มะนาว!!"
เด็กหญิงยกมือไหว้สวยงาม ตามด้วยคำทักทายพูดคุยอย่างน่ารัก และตบท้ายด้วยความพูดตามความรู้สึกที่ไร้เดียงสา ทว่ากลับทำให้ผู้เป็นแม่ที่ยืนจับมือเคียงข้างนั้นแก้มแดงระเรื่อ จนเธอต้องเรียกชื่อลูกสาวเสียงดังอย่างห้ามปราม พลางปรายสายตามองผู้ชายตัวสูงหน้าตาดีอย่างเคอะเขิน
เธอเขินแต่เขากลับยิ้มเยาะอย่างชอบใจ
"ขึ้นรถกันเถอะครับ" เมื่อเห็นกิริยาของน้ำส้ม นักรบจึงหาทางหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เธอประหม่าและเขินไปมากกว่านี้ เพราะแค่นี้ความน่ารักของคุณแม่ลูกติดก็ทำให้หัวใจของเขาทำงานหนักมากแล้ว
ระหว่างการเดินทางผู้ใหญ่สองคนมีเพียงความเงียบระหว่างกันเท่านั้น ยกเว้นก็แต่เด็กหญิงมะนาวที่เอาแต่พูดพร่ำเพียงคนเดียว สิ่งใดที่สงสัยอะไรที่ผ่านสายตา เธอก็เอาแต่ถามตามประสา จนนักรบและน้ำส้มผลัดกันให้คำตอบแก่เด็กหญิงตัวกลมที่ช่างเจรจา
"แวะปั๊มได้ไหมคะพอดีว่าฉันอยากเข้าห้องน้ำ" น้ำส้มที่ปวดท้องเบาเธอเอ่ยขึ้น เพราะมันสุดจะกลั้นจนทนไม่ไหว
"ได้ครับข้างหน้ามีปั๊มพอดี" ทันทีที่เธอเอ่ยขอ เขาก็สนองให้ตามที่เธอต้องการอย่างไม่อิดออด และเลี้ยวรถเข้าไปจอดยังหน้าห้องน้ำของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง นั่นจึงทำให้น้ำส้มรีบลงจากรถเพื่อปลดทุกข์ที่มี บนรถยนต์จึงเหลือเพียงนักรบและน้องมะนาว ชายหญิงต่างวัยเท่านั้น
"เซียวจ้านก็หล่อดีนะคะคุณอาสุดหล่อเวอร์ ๆ" น้องมะนาวที่นั่งปัดหน้าจอมือถือไปมาอยู่เบาะหลัง จู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นทำให้นักรบต้องหันหลังกลับไปมอง
"น้องมะนาวชอบหรอคะ" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น จนเด็กหญิงนั้นเงยหน้ามองและส่งยิ้มกว้างอย่างน่ารัก
"เปรี้ยวจี๊ด(ส์)ค่ะคุณอา...ต้องออกเสียงแบบนี้ตามน้องด้วยนะคะ" และเธอก็ย้ำในสรรพนามแทนตัวเองพร้อมออกเสียงเป็นตัวอย่างจนน้ำลายกระเซ็นลอดไรฟันออกมา ให้เหมือนกับเพื่อนที่โรงเรียนชอบเรียก เธอชอบให้ผู้คนเรียกเธอแบบนี้มากกว่าชื่อจริง ทำเอานักรบกระโจนหน้าหลบแทบไม่ทัน
"อะ ๆ ๆ เปรี้ยวจี๊ด(ส์)" เขาส่ายหัวและยิ้มในความเดียงสาของเด็กน้อย และพูดตามในสิ่งที่เธอบอกกล่าว
"จี๊ด(ส์)ไม่ค่อยชอบหรอกค่ะแต่ว่าคุณส้มโอชอบเวอร์ ๆ" เธอบอกเล่าอย่างฉะฉาน และสรรพนามเรียกผู้เป็นแม่ใหม่ตามจินตนาการของเธอที่มีเหลือเฟือ ตามประสาเด็กน้อยช่างพูด
"ทำไมเป็นจี๊ด(ส์)แล้วล่ะ เปรี้ยวหายไปไหน" เขาย้อนถามเด็กหญิง
"วันนี้เป็นจี๊ด(ส์)พอค่ะ ไม่อยากพูดสองคำน้องเมื่อยปาก" และเธอก็ตอบนักรบด้วยความฉะฉานไม่มีติดขัดในคำพูดแม้แต่วรรคเดียว
"เฮ้อ อาเริ่มจะปวดหัวกับเปรี้ยวจี๊ด(ส์)แล้วค่ะ" ทำเอานักรบถึงกับกุมขมับทันทีเมื่อได้ฟังการโต้ตอบของเด็กหญิงมะนาวผู้น่ารัก
"คุณอาสุดหล่อจะพูดค่ะไม่ได้นะคะ เพราะนั่นน่ะเขาให้ผู้หญิงพูด ครูเรย์บอกน้องมาแบบนี้ ผู้หญิงพูดค่ะผู้ชายต้องพูดครับ" เด็กหญิงตัวกลมอธิบายตามสิ่งที่เธอรับรู้มา สร้างรอยยิ้มให้กับนักรบอีกครา ทุกครั้งที่มีน้องมะนาวกับแม่เขารู้สึกมีความสุขและยิ้มได้เสมอ เหมือนเป็นเชื้อไฟที่เปล่งแสงสว่างสร้างความเปรมปรีดิ์ได้ทุกเวลานาที
"ครับคนสวยเวอร์ ๆ"
"แบบนั้นแหละค่ะคุณอาสุดหล่อเวอร์ ๆ"
"พูดเก่งจริงเลย"
"น้องน่ารักใช่ไหมล่ะคะ?"
"ครับผม...น่ารักจนอาหลงรักแล้วเนี่ย"
การตอบโต้ของคนต่างวัย ทำให้นักรบต้องเอื้อมมือไปหยิบพวงแก้มกลมที่เต่งตึงเหมือนจะแตกของน้องมะนาวด้วยความเอ็นดู มันเขี้ยวจนกัดฟันแน่นพลางส่ายพวงแก้มสองข้างของเด็กน้อยไปมา
"Oh No...รักไม่ได้ค่ะเพราะน้องมีคนมารักแล้วที่โรงเรียน คุณอารักน้องไม่ได้หรอกค่ะน้องน่ะมีแฟนแล้ว น้องไม่อยากหลายใจ"
"หา?"
เด็กหญิงตัวน้อยรีบปฏิเสธทันที เป็นความหมายที่แปลไปคนละทิศละทาง สร้างความเข้าใจผิดให้กับน้องมะนาว และทำเอานักรบถึงกับหน้าเหวอทันทีเมื่อเด็กหญิงตอบกลับ...เขายอมในการเจรจาของเด็กคนนี้แล้วจริง ๆ สร้างสรรค์จนเขาตามไม่ทันเลยทีเดียว แต่ก็น่ารักสมวัยที่กำลังฉอเลาะกล้าแสดงออก ยิ่งทำให้เขาหลงและเอ็นดูมากขึ้นเป็นทวี
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ