สามี
8.0
เขียนโดย พลอยแก้ว
วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07.13 น.
46 ตอน
2 วิจารณ์
16.30K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 09.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
38) คบกันไหม?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสามี(38)
"แนนยังไม่บอกพี่เลยนะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?" ชายหนุ่มเอ่ยถามขณะขับรถมาส่งหญิงสาวหลังเลิกงาน เพราะลูกสาวนั้นเร้าหรือจนเขาจำต้องทำตามและอีกอย่างมันก็เป็นความต้องการของเขาเช่นกัน
"ใครเหรอคะ?" หญิงสาวย้อนถามแม้จะรู้แก่ใจว่าเขาหมายถึงใคร แกล้งถามตาใสอย่างยอกย้อน
"ใครเหรอคะคูมพ่อน้องไอติมก็อยากรู้ค่ะ อยากรู้เป็นเพื่อนคูมพ่อ..." เด็กหญิงที่นั่งเบาะหลังเอ่ยถามซ้ำด้วยความอยากรู้ที่แสนจะน่ารัก
"มีอยากรู้เป็นเพื่อนคุณพ่อด้วย....น่ารักจังเลย" เสียงหวานของหญิงสาวเอ่ยขึ้น คำพูดคำจาที่น่ารักทำให้หญิงสาวอดไม่ไหวที่จะหยิกเบาๆ ลงพวงแก้มกลม ๆ ของเด็กหญิง
"น้องไอติมกลัวคูมพ่อเหงาค่ะพี่แนน" เด็กหญิงพูดบอกและมองหน้าหญิงสาวตาใส
"ไอติมเดี๋ยวหนูตกนะลูก...มานั่งขวางแบบนี้พ่อจะใส่เกียร์รถยังไงล่ะคะ" ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นเมื่อเด็กหญิงนั้นปีนป่ายมานั่งตรงกลางอเนกประสงค์ที่อยู่กลางระหว่างเบาะคนขับ
"น้องไอติมอยากคุยด้วยค่ะ นั่งข้างหลังคุยไม่ถนัดไม่เห็นหน้าพี่แนน" เด็กหญิงให้เหตุผลดั่งที่เธอคิด พรางหันหน้ามาส่งยิ้มจนตาหยีเป็นสระอิอย่างเอาใจหญิงสาวที่นั่งยิ้มตอบกลับ ความน่ารัก คำพูดที่ชอบเอาใจผู้ใหญ่ที่แสนจะไร้เดียงสามันคือเสน่ห์ของเด็กหญิงไอติม หากใครอยู่ใกล้เป็นต้องหลงรักและเอ็นดูเธอ
"แหม๋....เอาใจพี่แนนจังเลยนะ ไม่พาไปอยู่บ้านด้วยเลยล่ะ" และนี่เป็นเสียงของผู้เป็นพ่อที่แซวลูกสาว แต่คำพูดบอกเล่านั้นทำเอาหญิงที่นั่งเคียงเบาะนั้นถึงกับจ้องตาเขม็ง ทั้งเกร็งและก็เขินอายในเวลาเดียวกันกับคำพูดที่มันทำใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าว
"ได้เหรอคะคูมพ่อ เย้ ๆ ๆ .... ไปค่ะพี่แนนไปอยู่บ้านน้องไอติม มีของกินมีขนมเยอะแยะเลยนะคะ คูมพ่อก็ใจดีไม่ตีพี่แนนแน่นอนเชื่อน้องไอติม" เด็กหญิงแสดงความดีใจ ยกสองมือสองไม้ชูสูงเหนือหัวแล้วพูดยาวเหยียดอย่างแตกฉานไม่มีติดขัด คำพูดน่ารักทำให้หญิงสาวที่ได้ฟังนั้นอมยิ้ม และก็ตะลึงกับประโยคของผู้เป็นพ่อเด็กหญิงก่อนหน้า แม้จะรู้ว่าเขาพูดแหย่ลูกสาวตัวน้อยมันก็ทำให้เธอนั้นหน้าแดงได้เช่นกัน
"ได้สิคะ อยู่ที่ว่าพี่แนนจะไปหรือเปล่า" ผู้เป็นพ่อพูดพรางบังคับพวงมาลัยไปตามถนน หางตาแอบชำเลืองมองปฏิกิริยาของหญิงสาวอย่างสังเกต คำพูดที่เป็นนัยด้วยความตั้งใจจะพูดหากเธอตอบรับเขาก็ยินดีที่สุด
"พี่แนนไปนะคะ...." เด็กหญิงนั่งชันขาเท้าเล็ก ๆ เหยียบตรงริมเบาะนั่งสองฝั่ง สองมือน้อย ๆ ค้ำคางจ้องมองหน้าหญิงสาวอย่างรอคำตอบ ดวงตากลมกะพริบปริบ ๆ น่ารักน่าเอ็นดู
"เอ่อ.....พี่แนนมีบ้านของตัวเองถ้าพี่แนนไปอยู่บ้านน้องไอติม บ้านพี่แนนเหงาแย่เลย" แนนที่เหมือนจะตันซึ่งคำตอบเมื่อทั้งพ่อและลูกนั้นทำเอาเธอไปแทบไม่เป็น ไม่รู้จะสรรหาคำตอบไหนตอบให้เด็กหญิงไม่เสียใจ สิ่งที่คิดได้มีเพียงคำตอบเท่านี้
"คูมพ่อพาบ้านเราเดินไปใกล้บ้านพี่แนนได้ไหมคะ....เอ.....น้องไอติมว่าคงไม่ได้บ้านคูมพ่อไม่มีขา" เด็กหญิงหันไปถามความเห็นของผู้เป็นพ่อ ก่อนจะนึกได้ตามจินตนาการของเธอว่าสิ่งที่จะพาไปนั้นไม่สามารถขยับเดินได้ด้วยขาดอวัยวะเบื้องล่าง
"ฮ่าฮ่า ไอติมทำไมหนูคิดได้" ผู้เป็นพ่อถึงกับขำลั่นรถเมื่อสิ่งที่ลูกสาวพูดออกมานั้นเธอสรรหาคำพูดเหล่านี้มาจากไหน
"น้องไอติมพี่แนนว่าเรามาดูการ์ตูนกันดีกว่าเนอะ ปล่อยให้คุณพ่อขับรถจะได้ถึงบ้านไว ๆ" หญิงสาวที่นั่งยิ้มเมื่อฟังคำพูดที่แสนจะจินตนาการของเด็กหญิงเอ่ยชวนอย่างต้องการหลีกเลี่ยงหากพ่อและลูกสรรหาแรงกดดันมาใส่เธออีกคงจะไร้ซึ่งคำตอบให้เด็กขี้สงสัย
"ดูการ์ตูนค่ะ...ดูจีฟรอร์ชน้องไอติมชอบดูหลายรอบไม่เบื่อเลย" เด็กหญิงหันมาสนใจในสิ่งที่หญิงสาวเสนอ
"มานั่งตักพี่แนนไหม?"
"นั่งค่ะ....ว๊าย!!! ตุบ!" เด็กหญิงที่กำลังจะขยับตัวลุกไปหาหญิงสาว กลับเสียท่าหงายหลังหล่นไปยังเบาะด้านหลัง
((ไอติม!!)) ผู้ใหญ่ทั้งสองถึงกับร้องเสียงหลงอย่างตกใจพร้อมกัน เมื่อร่างของเด็กหญิงนั้นกระดอนร่วงหล่น
"เจ็บไหมคะ/เจ็บไหมลูก" ทั้งเขาและเธอพูดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย สายตาสองคู่เผลอสบจ้องมองกันก่อนจะเลี่ยงสายตาและหันไปสนใจเด็กหญิงที่นั่งแหมะหน้ายู่ย่น แต่ชายหนุ่มนั้นไม่สามารถที่จะประคับประคองช่วยเหลือลูกสาวได้เพราะต้องบังคับพวงมาลัย
"อ่า เจ็บตูกจังเลย...คูมพ่อขับรถเร็วน้องไอติมหัวทิ่ม" เด็กหญิงพูดขึ้นพร้อมกับหยัดตัวลุกมือป้อมเล็กลูบก้นตัวเองก่อนจะหันไปต่อว่าผู้เป็นพ่ออย่างน่าเอ็นดู
"หนูซนเองหรือเปล่า...ตรงนี้ไม่ใช่ที่นั่งสักหน่อย" ผู้เป็นพ่อมองผ่านกระจกหลังแล้วพูดขึ้นอย่างย้ำเตือนกับสิ่งที่ลูกสาวแสนซนนั้นทำ
"มาค่ะพี่แนนรับ" หญิงสาวยื่นสองแขนไปรับเด็กหญิงที่ทำหน้าง้ำงอ แสดงถึงอาการเจ็บก้นที่เป็นก่อนจะนั่งลงตักของหญิงสาวในถัดมาโดยไม่ได้สนใจกับคำพูดของผู้เป็นพ่อ นอกจากเธอจ้องมองหน้าพ่อของเธอพร้อมปากเล็ก ๆ ที่ยู่ย่นจนแทบชนกับปลายจมูกเหมือนงอนพ่อที่คิดว่าเป็นสาเหตุของการร่วงหล่นของเธอ
"น้องไอติมจะไม่รักคูมพ่อแล้วนะคะ....จะรักพี่แนนมากกว่า" เด็กหญิงพูดขึ้นเสียงใสที่เหมือนเง้างอน จนทำให้ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวนั้นอมยิ้มในความใสซื่อและเดียงสา
"ไม่เอาค่ะ...พูดแบบนี้ไม่น่ารักเลย เดี๋ยวคุณพ่อน้อยใจนะคะ" หญิงสาวที่ได้ฟังแม้จะขำขันกับคำพูดของเด็กหญิง แต่สิ่งที่พูดออกมาอย่างใสซื่อก็ต้องเตือนเมื่อสิ่งที่เด็กหญิงพูดนั้นแสดงถึงความไม่เหมาะสม
"ไม่เอาค่ะน้องไอติมอยากน่ารัก...."
"งั้นน้องไอติมขอโทษคุณพ่อนะคะ....เพราะคุณพ่อรักน้องไอติมที่สุด หนูจะไม่พูดว่าไม่รักคุณพ่ออีก" หญิงสาวชี้แนะแก่เด็กหญิงที่ยังไม่สามารถที่จะคิดเองเออเองได้เป็น....เธอตั้งใจฟังและมองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาที่เดียงสาใสซื่อ ไม่โต้เถียงแม้หญิงสาวนั้นจะสั่งสอน
"คูมพ่อขา...น้องไอติมขอโทษค่ะ น้องไอติมรักคูมพ่อเท่าฟ้า...จุ๊บ!" เด็กหญิงพูดขึ้นตามใจต้องการพร้อมค่อย ๆ คลานเข้าไปใกล้ผู้เป็นพ่อ โดยมีหญิงสาวคอยจับประคองกันตกให้เธอ
การกระทำที่เด็กหญิงแสดงออกมา คำพูดที่แสนน่ารักเดียงสาตามวัยทำให้หญิงสาวที่ได้เห็นนั้นยิ้มอย่างปริ่มใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายเพียงคนเดียวที่เลี้ยงลูกมาลำพัง จะสามารถสั่งสอนและเลี้ยงลูกได้น่ารักขนาดนี้ หญิงสาวมองการแสดงความรักของพ่อและลูกอย่างไม่วางตา อยู่ ๆ น้ำสีใสในตาของเธอก็เอ่อคลอโดยไม่รู้ตัว......
"พี่แนนเป็นอะไรคะ?" เด็กหญิงย้อนถามเมื่อเธอนั้นกลับมานั่งตักของหญิงสาวอีกครั้ง คำถามที่ทำให้ชายหนุ่มนั้นหันมามอง
"เปล่าค่ะ...สงสัยลมจากแอร์เข้าตาพี่แนนแน่เลย" หญิงสาวอ้างเหตุผล
"โอ๋ ๆ ไม่เจ็บนะคะ มาค่ะน้องไอติมจะเป่ามนต์วิเศษให้ ฟู่วววว" เด็กหญิงจับประคองใบหน้าสวยของหญิงสาวแล้วเป่าลมในปากเบา ๆ ให้แก่หญิงสาวที่ตอนนี้หลับตาให้เด็กหญิงได้ทำให้สิ่งที่ตั้งใจ
"หายเจ็บตาเลย...วิเศษมาก ๆ" หญิงสาวลืมตาแล้วพูดขึ้นอย่างเอาใจ
การกระทำของหญิงทั้งสองชายหนุ่มมองภาพเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม เขาดีใจที่มีคนรักและเอ็นดูลูกสาวของเขา และยินดีมากหากเธอนั้นจะตอบรับในความรักของเขาที่มีต่อเธอ
"คบกันไหม?".............................
"แนนยังไม่บอกพี่เลยนะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?" ชายหนุ่มเอ่ยถามขณะขับรถมาส่งหญิงสาวหลังเลิกงาน เพราะลูกสาวนั้นเร้าหรือจนเขาจำต้องทำตามและอีกอย่างมันก็เป็นความต้องการของเขาเช่นกัน
"ใครเหรอคะ?" หญิงสาวย้อนถามแม้จะรู้แก่ใจว่าเขาหมายถึงใคร แกล้งถามตาใสอย่างยอกย้อน
"ใครเหรอคะคูมพ่อน้องไอติมก็อยากรู้ค่ะ อยากรู้เป็นเพื่อนคูมพ่อ..." เด็กหญิงที่นั่งเบาะหลังเอ่ยถามซ้ำด้วยความอยากรู้ที่แสนจะน่ารัก
"มีอยากรู้เป็นเพื่อนคุณพ่อด้วย....น่ารักจังเลย" เสียงหวานของหญิงสาวเอ่ยขึ้น คำพูดคำจาที่น่ารักทำให้หญิงสาวอดไม่ไหวที่จะหยิกเบาๆ ลงพวงแก้มกลม ๆ ของเด็กหญิง
"น้องไอติมกลัวคูมพ่อเหงาค่ะพี่แนน" เด็กหญิงพูดบอกและมองหน้าหญิงสาวตาใส
"ไอติมเดี๋ยวหนูตกนะลูก...มานั่งขวางแบบนี้พ่อจะใส่เกียร์รถยังไงล่ะคะ" ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นเมื่อเด็กหญิงนั้นปีนป่ายมานั่งตรงกลางอเนกประสงค์ที่อยู่กลางระหว่างเบาะคนขับ
"น้องไอติมอยากคุยด้วยค่ะ นั่งข้างหลังคุยไม่ถนัดไม่เห็นหน้าพี่แนน" เด็กหญิงให้เหตุผลดั่งที่เธอคิด พรางหันหน้ามาส่งยิ้มจนตาหยีเป็นสระอิอย่างเอาใจหญิงสาวที่นั่งยิ้มตอบกลับ ความน่ารัก คำพูดที่ชอบเอาใจผู้ใหญ่ที่แสนจะไร้เดียงสามันคือเสน่ห์ของเด็กหญิงไอติม หากใครอยู่ใกล้เป็นต้องหลงรักและเอ็นดูเธอ
"แหม๋....เอาใจพี่แนนจังเลยนะ ไม่พาไปอยู่บ้านด้วยเลยล่ะ" และนี่เป็นเสียงของผู้เป็นพ่อที่แซวลูกสาว แต่คำพูดบอกเล่านั้นทำเอาหญิงที่นั่งเคียงเบาะนั้นถึงกับจ้องตาเขม็ง ทั้งเกร็งและก็เขินอายในเวลาเดียวกันกับคำพูดที่มันทำใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าว
"ได้เหรอคะคูมพ่อ เย้ ๆ ๆ .... ไปค่ะพี่แนนไปอยู่บ้านน้องไอติม มีของกินมีขนมเยอะแยะเลยนะคะ คูมพ่อก็ใจดีไม่ตีพี่แนนแน่นอนเชื่อน้องไอติม" เด็กหญิงแสดงความดีใจ ยกสองมือสองไม้ชูสูงเหนือหัวแล้วพูดยาวเหยียดอย่างแตกฉานไม่มีติดขัด คำพูดน่ารักทำให้หญิงสาวที่ได้ฟังนั้นอมยิ้ม และก็ตะลึงกับประโยคของผู้เป็นพ่อเด็กหญิงก่อนหน้า แม้จะรู้ว่าเขาพูดแหย่ลูกสาวตัวน้อยมันก็ทำให้เธอนั้นหน้าแดงได้เช่นกัน
"ได้สิคะ อยู่ที่ว่าพี่แนนจะไปหรือเปล่า" ผู้เป็นพ่อพูดพรางบังคับพวงมาลัยไปตามถนน หางตาแอบชำเลืองมองปฏิกิริยาของหญิงสาวอย่างสังเกต คำพูดที่เป็นนัยด้วยความตั้งใจจะพูดหากเธอตอบรับเขาก็ยินดีที่สุด
"พี่แนนไปนะคะ...." เด็กหญิงนั่งชันขาเท้าเล็ก ๆ เหยียบตรงริมเบาะนั่งสองฝั่ง สองมือน้อย ๆ ค้ำคางจ้องมองหน้าหญิงสาวอย่างรอคำตอบ ดวงตากลมกะพริบปริบ ๆ น่ารักน่าเอ็นดู
"เอ่อ.....พี่แนนมีบ้านของตัวเองถ้าพี่แนนไปอยู่บ้านน้องไอติม บ้านพี่แนนเหงาแย่เลย" แนนที่เหมือนจะตันซึ่งคำตอบเมื่อทั้งพ่อและลูกนั้นทำเอาเธอไปแทบไม่เป็น ไม่รู้จะสรรหาคำตอบไหนตอบให้เด็กหญิงไม่เสียใจ สิ่งที่คิดได้มีเพียงคำตอบเท่านี้
"คูมพ่อพาบ้านเราเดินไปใกล้บ้านพี่แนนได้ไหมคะ....เอ.....น้องไอติมว่าคงไม่ได้บ้านคูมพ่อไม่มีขา" เด็กหญิงหันไปถามความเห็นของผู้เป็นพ่อ ก่อนจะนึกได้ตามจินตนาการของเธอว่าสิ่งที่จะพาไปนั้นไม่สามารถขยับเดินได้ด้วยขาดอวัยวะเบื้องล่าง
"ฮ่าฮ่า ไอติมทำไมหนูคิดได้" ผู้เป็นพ่อถึงกับขำลั่นรถเมื่อสิ่งที่ลูกสาวพูดออกมานั้นเธอสรรหาคำพูดเหล่านี้มาจากไหน
"น้องไอติมพี่แนนว่าเรามาดูการ์ตูนกันดีกว่าเนอะ ปล่อยให้คุณพ่อขับรถจะได้ถึงบ้านไว ๆ" หญิงสาวที่นั่งยิ้มเมื่อฟังคำพูดที่แสนจะจินตนาการของเด็กหญิงเอ่ยชวนอย่างต้องการหลีกเลี่ยงหากพ่อและลูกสรรหาแรงกดดันมาใส่เธออีกคงจะไร้ซึ่งคำตอบให้เด็กขี้สงสัย
"ดูการ์ตูนค่ะ...ดูจีฟรอร์ชน้องไอติมชอบดูหลายรอบไม่เบื่อเลย" เด็กหญิงหันมาสนใจในสิ่งที่หญิงสาวเสนอ
"มานั่งตักพี่แนนไหม?"
"นั่งค่ะ....ว๊าย!!! ตุบ!" เด็กหญิงที่กำลังจะขยับตัวลุกไปหาหญิงสาว กลับเสียท่าหงายหลังหล่นไปยังเบาะด้านหลัง
((ไอติม!!)) ผู้ใหญ่ทั้งสองถึงกับร้องเสียงหลงอย่างตกใจพร้อมกัน เมื่อร่างของเด็กหญิงนั้นกระดอนร่วงหล่น
"เจ็บไหมคะ/เจ็บไหมลูก" ทั้งเขาและเธอพูดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย สายตาสองคู่เผลอสบจ้องมองกันก่อนจะเลี่ยงสายตาและหันไปสนใจเด็กหญิงที่นั่งแหมะหน้ายู่ย่น แต่ชายหนุ่มนั้นไม่สามารถที่จะประคับประคองช่วยเหลือลูกสาวได้เพราะต้องบังคับพวงมาลัย
"อ่า เจ็บตูกจังเลย...คูมพ่อขับรถเร็วน้องไอติมหัวทิ่ม" เด็กหญิงพูดขึ้นพร้อมกับหยัดตัวลุกมือป้อมเล็กลูบก้นตัวเองก่อนจะหันไปต่อว่าผู้เป็นพ่ออย่างน่าเอ็นดู
"หนูซนเองหรือเปล่า...ตรงนี้ไม่ใช่ที่นั่งสักหน่อย" ผู้เป็นพ่อมองผ่านกระจกหลังแล้วพูดขึ้นอย่างย้ำเตือนกับสิ่งที่ลูกสาวแสนซนนั้นทำ
"มาค่ะพี่แนนรับ" หญิงสาวยื่นสองแขนไปรับเด็กหญิงที่ทำหน้าง้ำงอ แสดงถึงอาการเจ็บก้นที่เป็นก่อนจะนั่งลงตักของหญิงสาวในถัดมาโดยไม่ได้สนใจกับคำพูดของผู้เป็นพ่อ นอกจากเธอจ้องมองหน้าพ่อของเธอพร้อมปากเล็ก ๆ ที่ยู่ย่นจนแทบชนกับปลายจมูกเหมือนงอนพ่อที่คิดว่าเป็นสาเหตุของการร่วงหล่นของเธอ
"น้องไอติมจะไม่รักคูมพ่อแล้วนะคะ....จะรักพี่แนนมากกว่า" เด็กหญิงพูดขึ้นเสียงใสที่เหมือนเง้างอน จนทำให้ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวนั้นอมยิ้มในความใสซื่อและเดียงสา
"ไม่เอาค่ะ...พูดแบบนี้ไม่น่ารักเลย เดี๋ยวคุณพ่อน้อยใจนะคะ" หญิงสาวที่ได้ฟังแม้จะขำขันกับคำพูดของเด็กหญิง แต่สิ่งที่พูดออกมาอย่างใสซื่อก็ต้องเตือนเมื่อสิ่งที่เด็กหญิงพูดนั้นแสดงถึงความไม่เหมาะสม
"ไม่เอาค่ะน้องไอติมอยากน่ารัก...."
"งั้นน้องไอติมขอโทษคุณพ่อนะคะ....เพราะคุณพ่อรักน้องไอติมที่สุด หนูจะไม่พูดว่าไม่รักคุณพ่ออีก" หญิงสาวชี้แนะแก่เด็กหญิงที่ยังไม่สามารถที่จะคิดเองเออเองได้เป็น....เธอตั้งใจฟังและมองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาที่เดียงสาใสซื่อ ไม่โต้เถียงแม้หญิงสาวนั้นจะสั่งสอน
"คูมพ่อขา...น้องไอติมขอโทษค่ะ น้องไอติมรักคูมพ่อเท่าฟ้า...จุ๊บ!" เด็กหญิงพูดขึ้นตามใจต้องการพร้อมค่อย ๆ คลานเข้าไปใกล้ผู้เป็นพ่อ โดยมีหญิงสาวคอยจับประคองกันตกให้เธอ
การกระทำที่เด็กหญิงแสดงออกมา คำพูดที่แสนน่ารักเดียงสาตามวัยทำให้หญิงสาวที่ได้เห็นนั้นยิ้มอย่างปริ่มใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายเพียงคนเดียวที่เลี้ยงลูกมาลำพัง จะสามารถสั่งสอนและเลี้ยงลูกได้น่ารักขนาดนี้ หญิงสาวมองการแสดงความรักของพ่อและลูกอย่างไม่วางตา อยู่ ๆ น้ำสีใสในตาของเธอก็เอ่อคลอโดยไม่รู้ตัว......
"พี่แนนเป็นอะไรคะ?" เด็กหญิงย้อนถามเมื่อเธอนั้นกลับมานั่งตักของหญิงสาวอีกครั้ง คำถามที่ทำให้ชายหนุ่มนั้นหันมามอง
"เปล่าค่ะ...สงสัยลมจากแอร์เข้าตาพี่แนนแน่เลย" หญิงสาวอ้างเหตุผล
"โอ๋ ๆ ไม่เจ็บนะคะ มาค่ะน้องไอติมจะเป่ามนต์วิเศษให้ ฟู่วววว" เด็กหญิงจับประคองใบหน้าสวยของหญิงสาวแล้วเป่าลมในปากเบา ๆ ให้แก่หญิงสาวที่ตอนนี้หลับตาให้เด็กหญิงได้ทำให้สิ่งที่ตั้งใจ
"หายเจ็บตาเลย...วิเศษมาก ๆ" หญิงสาวลืมตาแล้วพูดขึ้นอย่างเอาใจ
การกระทำของหญิงทั้งสองชายหนุ่มมองภาพเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม เขาดีใจที่มีคนรักและเอ็นดูลูกสาวของเขา และยินดีมากหากเธอนั้นจะตอบรับในความรักของเขาที่มีต่อเธอ
"คบกันไหม?".............................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ