สามี
8.0
เขียนโดย พลอยแก้ว
วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07.13 น.
46 ตอน
2 วิจารณ์
17.07K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 09.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
30) การกลับมาของอีกคน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสามี(30)
...หลังจากส่งลูกสาวขายาวของคุณพ่อก็เหยียบคันเร่งรถยนต์ มุ่งตรงสู่บริษัทเพื่อทำงานที่คั่งค้าง....ลานจอดรถที่เหล่าพนักงานกำลังทะยอยมา เพราะจวนได้เวลาเข้างาน
...ชายหนุ่มลงจากรถยนต์และกำลังเข้าสู่ตัวอาคาร แต่สายกลับกำลังมองเห็นคนที่คุ้นตา แม้จะอยู่ห่างออกไปแต่มั่นใจแน่นอนว่าต้องใช่เธอ เพราะชุดที่ใส่มันเเตกต่างจากพนักงานประจำ
"ยืนทำอะไรตรงนั้น" ชายหนุ่มยืนมองอย่างช่างใจจะเข้าไปทักดีไหม แต่อีกนัยเหมือนเธอกำลังคุยอยู่กับใครซึ่งตัวอาคารบังทำให้ไม่เห็นอีกคน
...ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้แต่ต้องชะงักขาเดินเร็วพลัน เมื่อเห็นใครคนหนึ่งโผเข้ากอดร่างหญิงสาวซึ่งเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอ้อมกอดนั้น...จนต้องยืนหลบหลังพุ่มไม้สูงที่ปลูกไว้ประดับ
(บอลคิดถึงแนนมากเลยรู้ไหม?) เสียงสุขุมของผู้ชายที่โอบกอดพูดขึ้น...ชายหนุ่มที่ยืนหลบหลังพุ่มไม้ได้ยินชัดเจน
(บอลกลับมาแล้วนะ...บอลเรียนจบแล้ว) เสียงสุขุมนี้ดังขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มที่ยืนฟังนั้นเริ่มใจฝ่อ เมื่อผู้หญิงที่แอบมีใจนั้นมีชายในครอบครองเสียแล้ว
"อืม...แนนดีใจด้วยนะ" เสียงหวานที่เขาได้ยินทุกวันเอื้อนเอ่ยแบบขอทีไปที ฟังแล้วนิ่งเฉยและเย็นชา ต่างกับอีกเสียงที่เสวนารับรู้ได้ถึงความดีใจ
(ขอบคุณครับ...เย็นนี้มีเลี้ยงฉลองที่บอลกลับมา แนนไปด้วยกันนะ)
"คิดดูก่อน ช่วงนี้แนนยุ่ง ๆ...." เสียงหวานเอ่ยบอกเรียบ ๆ
(ได้สิ...แนน?)
"หื้ม?" หญิงสาวเค่นเสียงตอบรับในลำคอ
(บอลขอโทษนะที่หายไปโดยไม่บอกแนนก่อน...ต่อไปนี้บอลจะดูแลแนนให้ดีที่สุด บอลรักแนนนะ เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมได้ไหม?)
"..............."
น้ำเสียงดีใจที่ได้ยินสิ่งยินมันทำให้ชายวัยสามสิบเอ็ดนั้นผิดหวัง...เหมือนทุกอย่างภายในใจดำดิ่งลงสู่ปลายเท้า ขาที่ยืนแทบก้าวไม่ออก ทุกอย่างที่ได้ยินมันชัดเจนแจ่มแจ้งว่าเธอนั้นไม่ได้ตัวเปล่าอย่างที่เขาคิดมาตลอดหลายสัปดาห์ที่ร่วมงานกัน จำต้องเดินออกมาพร้อมกับหัวใจที่ห่อเหี่ยวและผิดหวัง เมื่อคนที่แอบรักได้ไม่นานนั้นมีคนในใจเสียแล้ว
"แจงวันนี้พี่มีนัดที่ไหนไหม?" ทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้ามา เขาเอ่ยถามถึงงานการที่ต้องทำกับเลขาสาว คำตอบที่ได้รับรายงานเป็นสิ่งที่พอใจ เมื่อตอนนี้เขาไม่อยากจะพบปะกับใครเลยตั้งแต่ที่ได้ยินเรื่องราวที่ทำให้ผิดหวัง
"วันนี้พี่เจคิวว่างค่ะ....ไม่มีนัดที่ไหน?" เลขาสาวกล่าวรายงาน พรางจ้องมองหน้าผู้เป็นนายอย่างจับสังเกตเมื่อเธอเห็นความผิดปกติที่ใบหน้าเขานั้นแสดงออกมา
"อืม...ขอบใจนะ อ่อ แล้วพี่ไฟได้บอกแจงหรือเปล่าว่าวันนี้มันไม่เข้าบริษัท"
"ไม่ค่ะ...มีเอกสารให้พี่ไฟดูแจงวางไว้ที่โต๊ะทำงานให้เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"โอเค"
ชายหนุ่มตอบรับก่อนจะเดินเข้าห้องทำงาน โต๊ะทำงานที่เคียงคู่เลขา ตอนนี้ว่างเปล่าไร้เงาของหญิงสาวที่มีใจ มันย้ำชัดเจนแล้วว่าเขานั้นควรหลีกห่างกับความรักนี้
"เป็นอะไรนะ...เศร้าเชียวเจ้านายฉัน" เลขาสาวพึมพำตามหลังเมื่อผู้เป็นนายนั้นเดินลับเข้าไปในห้องทำงาน
"สวัสดีค่ะพี่แจง...วันนี้มีอะไรให้แนนช่วยไหมคะ?" หญิงสาวเดินเข้ามาพร้อมส่งยิ้มและยกมือไหว้ทักทาย วางกระเป๋าสะพายเก็บเข้าที่ประจำ เอ่ยขึ้นอย่างเสนอตัว
"มีจ้าพี่วานแนนหน่อยนะ...เอาเอกสารนี้เข้าไปให้พี่เจทีเป็นเอกสารายละเอียดงานที่ฝ่ายขายส่งมา" แจงบอกเล่าเกี่ยวกับงานที่ฝากฝังไว้วาน
"เอ่อ..." หญิงสาวเลิกลั่กที่จะตอบ เมื่อหวนนึกถึงการปะทะเรียวปากกันในวันวานที่ผ่านมา แค่นึกภาพก็ทำให้ใบหน้าของเธอเห่อร้อนทันที
"ติดขัดอะไรเปล่าจ๊ะน้องแนน" แจงย้อนถามเมื่อเเนนนั้นดูกระอักกระอวล
"ได้ค่ะแนนไม่ติดอะไรค่ะ...ไม่ต้องรอเอกสารใช่ไหมคะ?" หญิงสาวถามย้ำเพราะเธอกลัวจะทำงานพลาด และอีกอย่างตอนนี้เธอแทบไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำเพราะเขินอาย
"ไม่ต้องรอจ้ะ" แจงตอบรับด้วยรอยยิ้ม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก แนนเคาะประตูอย่างเป็นการขออนุญาต ก่อนจะผลักประตูเข้าห้องทำงานของผู้เป็นนาย คู่สายตาเข้มเงยมองด้วยสีหน้านิ่งเรียบเพียงชั่วครู่ ดูให้รู้ว่าคนมาใหม่นั้นเป็นใคร ก่อนจะก้มหน้าสนใจงานต่อ
ร่างระหงที่มีใบหน้าสวยที่เปื้อนยิ้มกำลังเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเอกสารในมือ ก่อนที่เธอจะหยุดยืนและวางทันลงตรงหน้าเขา
"เอกสารจากฝ่ายขาย พี่แจงให้เอามาให้พี่เจค่ะ" หญิงสาวบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใส ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างเช่นปกติทุกวัน...
"อืม" เจตอบรับสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบและก้มหน้าก้มตาดูเอกสารในมือต่ออย่างเพิกเฉยต่อหญิงสาวตรงหน้า การกระทำที่เขาเป็นแววตาที่นิ่งเฉย คำพูดที่เปรยออกมาเพียงสั้นให้คนฟังรับรู้เท่านั้น ...
จนทำให้หญิงสาวค่อย ๆ หุบยิ้มคืนทันที เมื่อเธอยิ้มให้แต่เขากลับไม่แสดงกิริยาอย่างที่เคยเป็นในแบบที่ผ่านมา ดูเย็นชาและนิ่งเฉยต่อเธอซึ่งต่างจากวันอื่น ๆ ที่เขาชอบแสดงกิริยาอบอุ่น แต่มาวันนี้มันแตกต่างไปมากซึ่งหญิงสาวสัมผัสได้
...เธอเดินออกมาหลังจากที่จัดการตามที่แจงบอก แม้ภายในใจจะแอบครุ่นคิดถึงกิริยาผู้เป็นนายก็ตามทีจนแทบกระวนกระวาย
เวลางานผ่านพ้นไปเลยมานานหลายชั่วโมงบรรจบมาถึงเวลาพักกลางวัน เป็นเวลาที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนนั้นรอคอย
"น้องแนนไปกินข้าวกัน...หิวมาก กอไก่สิบล้านตัว ท้องพี่ร้องตั้งแต่สิบเอ็ดโมง ไป ๆ เร็ว ๆ" แจงเอ่ยชวนเมื่อได้เวลาหาอะไรใส่ท้องประทังความหิว
"ไปค่ะ..." แนนเงยหน้าจากงานแล้วยิ้มให้แจง พร้อมกับหยิบกระเป๋าสตางค์ติดมือไปด้วย
"อ้าว พี่เจไปทานข้าวเหรอคะ?" แจงที่กำลังลุกยืนเห็นเจ้านายเปิดประตูออกมา จึงเอ่ยทักทันที
"ใช่...มีอะไรเปล่า" ปากพูดกับเลขาแต่สายตานั้นลอบมองไปยังอีกคนที่ยืนหน้านิ่งอยู่ด้านหลัง
"แจงกับน้องแนนก็กำลังจะไปเหมือนกันค่ะ ร้านอาหารเปิดใหม่ข้างออฟฟิศ สนใจไปด้วยกันไหมคะ?" แจงเอ่ยชวน
"แจงเลี้ยง?"
"โธ่พี่เจ แค่ลำพังตัวแจงยังเลี้ยงไม่รอดแล้ว..." แจงพูดขึ้นอย่างติดตลก จนผู้เป็นนายนั้นหลุดยิ้มออกมา
"ไปสิพี่เลี้ยง" ผู้เป็นนายออกตัวเสนอ
"ไปกันน้องแนนวันนี้เรารอดไปอีกมื้อ ด้วยเจ้ามือสุดหล่อ" แจงรีบคว้าแขนของแนนด้วยความดีใจที่เจ้านายนั้นอาสาเลี้ยงข้าว แนนมองหน้าคนตัวสูงพร้อมรอยยิ้มแต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นคือใบหน้าเข้มเรียบเฉย
แตกต่างจากที่เขานั้นพูดคุยกับเลขาโดยสิ้นเชิง ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็ไม่คิดถามด้วยสิทธิ์นั้นไม่มีและเจียมตนอยู่เสมอแม้จะคับข้องอยู่ในใจ
...หลังจากส่งลูกสาวขายาวของคุณพ่อก็เหยียบคันเร่งรถยนต์ มุ่งตรงสู่บริษัทเพื่อทำงานที่คั่งค้าง....ลานจอดรถที่เหล่าพนักงานกำลังทะยอยมา เพราะจวนได้เวลาเข้างาน
...ชายหนุ่มลงจากรถยนต์และกำลังเข้าสู่ตัวอาคาร แต่สายกลับกำลังมองเห็นคนที่คุ้นตา แม้จะอยู่ห่างออกไปแต่มั่นใจแน่นอนว่าต้องใช่เธอ เพราะชุดที่ใส่มันเเตกต่างจากพนักงานประจำ
"ยืนทำอะไรตรงนั้น" ชายหนุ่มยืนมองอย่างช่างใจจะเข้าไปทักดีไหม แต่อีกนัยเหมือนเธอกำลังคุยอยู่กับใครซึ่งตัวอาคารบังทำให้ไม่เห็นอีกคน
...ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้แต่ต้องชะงักขาเดินเร็วพลัน เมื่อเห็นใครคนหนึ่งโผเข้ากอดร่างหญิงสาวซึ่งเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอ้อมกอดนั้น...จนต้องยืนหลบหลังพุ่มไม้สูงที่ปลูกไว้ประดับ
(บอลคิดถึงแนนมากเลยรู้ไหม?) เสียงสุขุมของผู้ชายที่โอบกอดพูดขึ้น...ชายหนุ่มที่ยืนหลบหลังพุ่มไม้ได้ยินชัดเจน
(บอลกลับมาแล้วนะ...บอลเรียนจบแล้ว) เสียงสุขุมนี้ดังขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มที่ยืนฟังนั้นเริ่มใจฝ่อ เมื่อผู้หญิงที่แอบมีใจนั้นมีชายในครอบครองเสียแล้ว
"อืม...แนนดีใจด้วยนะ" เสียงหวานที่เขาได้ยินทุกวันเอื้อนเอ่ยแบบขอทีไปที ฟังแล้วนิ่งเฉยและเย็นชา ต่างกับอีกเสียงที่เสวนารับรู้ได้ถึงความดีใจ
(ขอบคุณครับ...เย็นนี้มีเลี้ยงฉลองที่บอลกลับมา แนนไปด้วยกันนะ)
"คิดดูก่อน ช่วงนี้แนนยุ่ง ๆ...." เสียงหวานเอ่ยบอกเรียบ ๆ
(ได้สิ...แนน?)
"หื้ม?" หญิงสาวเค่นเสียงตอบรับในลำคอ
(บอลขอโทษนะที่หายไปโดยไม่บอกแนนก่อน...ต่อไปนี้บอลจะดูแลแนนให้ดีที่สุด บอลรักแนนนะ เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมได้ไหม?)
"..............."
น้ำเสียงดีใจที่ได้ยินสิ่งยินมันทำให้ชายวัยสามสิบเอ็ดนั้นผิดหวัง...เหมือนทุกอย่างภายในใจดำดิ่งลงสู่ปลายเท้า ขาที่ยืนแทบก้าวไม่ออก ทุกอย่างที่ได้ยินมันชัดเจนแจ่มแจ้งว่าเธอนั้นไม่ได้ตัวเปล่าอย่างที่เขาคิดมาตลอดหลายสัปดาห์ที่ร่วมงานกัน จำต้องเดินออกมาพร้อมกับหัวใจที่ห่อเหี่ยวและผิดหวัง เมื่อคนที่แอบรักได้ไม่นานนั้นมีคนในใจเสียแล้ว
"แจงวันนี้พี่มีนัดที่ไหนไหม?" ทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้ามา เขาเอ่ยถามถึงงานการที่ต้องทำกับเลขาสาว คำตอบที่ได้รับรายงานเป็นสิ่งที่พอใจ เมื่อตอนนี้เขาไม่อยากจะพบปะกับใครเลยตั้งแต่ที่ได้ยินเรื่องราวที่ทำให้ผิดหวัง
"วันนี้พี่เจคิวว่างค่ะ....ไม่มีนัดที่ไหน?" เลขาสาวกล่าวรายงาน พรางจ้องมองหน้าผู้เป็นนายอย่างจับสังเกตเมื่อเธอเห็นความผิดปกติที่ใบหน้าเขานั้นแสดงออกมา
"อืม...ขอบใจนะ อ่อ แล้วพี่ไฟได้บอกแจงหรือเปล่าว่าวันนี้มันไม่เข้าบริษัท"
"ไม่ค่ะ...มีเอกสารให้พี่ไฟดูแจงวางไว้ที่โต๊ะทำงานให้เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"โอเค"
ชายหนุ่มตอบรับก่อนจะเดินเข้าห้องทำงาน โต๊ะทำงานที่เคียงคู่เลขา ตอนนี้ว่างเปล่าไร้เงาของหญิงสาวที่มีใจ มันย้ำชัดเจนแล้วว่าเขานั้นควรหลีกห่างกับความรักนี้
"เป็นอะไรนะ...เศร้าเชียวเจ้านายฉัน" เลขาสาวพึมพำตามหลังเมื่อผู้เป็นนายนั้นเดินลับเข้าไปในห้องทำงาน
"สวัสดีค่ะพี่แจง...วันนี้มีอะไรให้แนนช่วยไหมคะ?" หญิงสาวเดินเข้ามาพร้อมส่งยิ้มและยกมือไหว้ทักทาย วางกระเป๋าสะพายเก็บเข้าที่ประจำ เอ่ยขึ้นอย่างเสนอตัว
"มีจ้าพี่วานแนนหน่อยนะ...เอาเอกสารนี้เข้าไปให้พี่เจทีเป็นเอกสารายละเอียดงานที่ฝ่ายขายส่งมา" แจงบอกเล่าเกี่ยวกับงานที่ฝากฝังไว้วาน
"เอ่อ..." หญิงสาวเลิกลั่กที่จะตอบ เมื่อหวนนึกถึงการปะทะเรียวปากกันในวันวานที่ผ่านมา แค่นึกภาพก็ทำให้ใบหน้าของเธอเห่อร้อนทันที
"ติดขัดอะไรเปล่าจ๊ะน้องแนน" แจงย้อนถามเมื่อเเนนนั้นดูกระอักกระอวล
"ได้ค่ะแนนไม่ติดอะไรค่ะ...ไม่ต้องรอเอกสารใช่ไหมคะ?" หญิงสาวถามย้ำเพราะเธอกลัวจะทำงานพลาด และอีกอย่างตอนนี้เธอแทบไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำเพราะเขินอาย
"ไม่ต้องรอจ้ะ" แจงตอบรับด้วยรอยยิ้ม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก แนนเคาะประตูอย่างเป็นการขออนุญาต ก่อนจะผลักประตูเข้าห้องทำงานของผู้เป็นนาย คู่สายตาเข้มเงยมองด้วยสีหน้านิ่งเรียบเพียงชั่วครู่ ดูให้รู้ว่าคนมาใหม่นั้นเป็นใคร ก่อนจะก้มหน้าสนใจงานต่อ
ร่างระหงที่มีใบหน้าสวยที่เปื้อนยิ้มกำลังเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเอกสารในมือ ก่อนที่เธอจะหยุดยืนและวางทันลงตรงหน้าเขา
"เอกสารจากฝ่ายขาย พี่แจงให้เอามาให้พี่เจค่ะ" หญิงสาวบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใส ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างเช่นปกติทุกวัน...
"อืม" เจตอบรับสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบและก้มหน้าก้มตาดูเอกสารในมือต่ออย่างเพิกเฉยต่อหญิงสาวตรงหน้า การกระทำที่เขาเป็นแววตาที่นิ่งเฉย คำพูดที่เปรยออกมาเพียงสั้นให้คนฟังรับรู้เท่านั้น ...
จนทำให้หญิงสาวค่อย ๆ หุบยิ้มคืนทันที เมื่อเธอยิ้มให้แต่เขากลับไม่แสดงกิริยาอย่างที่เคยเป็นในแบบที่ผ่านมา ดูเย็นชาและนิ่งเฉยต่อเธอซึ่งต่างจากวันอื่น ๆ ที่เขาชอบแสดงกิริยาอบอุ่น แต่มาวันนี้มันแตกต่างไปมากซึ่งหญิงสาวสัมผัสได้
...เธอเดินออกมาหลังจากที่จัดการตามที่แจงบอก แม้ภายในใจจะแอบครุ่นคิดถึงกิริยาผู้เป็นนายก็ตามทีจนแทบกระวนกระวาย
เวลางานผ่านพ้นไปเลยมานานหลายชั่วโมงบรรจบมาถึงเวลาพักกลางวัน เป็นเวลาที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนนั้นรอคอย
"น้องแนนไปกินข้าวกัน...หิวมาก กอไก่สิบล้านตัว ท้องพี่ร้องตั้งแต่สิบเอ็ดโมง ไป ๆ เร็ว ๆ" แจงเอ่ยชวนเมื่อได้เวลาหาอะไรใส่ท้องประทังความหิว
"ไปค่ะ..." แนนเงยหน้าจากงานแล้วยิ้มให้แจง พร้อมกับหยิบกระเป๋าสตางค์ติดมือไปด้วย
"อ้าว พี่เจไปทานข้าวเหรอคะ?" แจงที่กำลังลุกยืนเห็นเจ้านายเปิดประตูออกมา จึงเอ่ยทักทันที
"ใช่...มีอะไรเปล่า" ปากพูดกับเลขาแต่สายตานั้นลอบมองไปยังอีกคนที่ยืนหน้านิ่งอยู่ด้านหลัง
"แจงกับน้องแนนก็กำลังจะไปเหมือนกันค่ะ ร้านอาหารเปิดใหม่ข้างออฟฟิศ สนใจไปด้วยกันไหมคะ?" แจงเอ่ยชวน
"แจงเลี้ยง?"
"โธ่พี่เจ แค่ลำพังตัวแจงยังเลี้ยงไม่รอดแล้ว..." แจงพูดขึ้นอย่างติดตลก จนผู้เป็นนายนั้นหลุดยิ้มออกมา
"ไปสิพี่เลี้ยง" ผู้เป็นนายออกตัวเสนอ
"ไปกันน้องแนนวันนี้เรารอดไปอีกมื้อ ด้วยเจ้ามือสุดหล่อ" แจงรีบคว้าแขนของแนนด้วยความดีใจที่เจ้านายนั้นอาสาเลี้ยงข้าว แนนมองหน้าคนตัวสูงพร้อมรอยยิ้มแต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นคือใบหน้าเข้มเรียบเฉย
แตกต่างจากที่เขานั้นพูดคุยกับเลขาโดยสิ้นเชิง ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็ไม่คิดถามด้วยสิทธิ์นั้นไม่มีและเจียมตนอยู่เสมอแม้จะคับข้องอยู่ในใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ