สะ-กด-รัก

-

เขียนโดย LaVieRosy

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.23 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,343 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) Game on!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
สายตาชายหนุ่มทั้งสองที่มองกันถ้าจะเรียกว่าทันเกมกันก็คงไม่ผิด คงมีพียงหญิงสาวคนเดียวตรงนั้นที่ไม่ได้เอะใจใดๆ
 
“คุณปฐวีรอสักครู่นะคะ ฉันกำลังดูแบบชื่อโรงเรียนอยู่ค่ะ”
 
“เรียกผมแดนเถอะครับ ปราง ชื่อโรงเรียน? ตัวอักษรแบบที่คุณคุยกับแพทวันก่อนเหรอครับ สนใจเหล็กกันสนิมของโรงงานผมไหม ผมก็ใช้เอง ทนดี สวยไม่มีคราบ ผมสั่งทำสีคัสต้อมให้ได้นะ”
 
เขาลากเก้าอี้มานั่งข้างเธออีกฝั่ง หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดแบบให้ดู เปรมาตาเป็นประกายเมื่อเห็น ตัวอักษรทำจากเหล็กสีดำเหลือบสีสนิมแบบที่เธออยากได้
 
“ปรางอยากได้แบบนี้เป๊ะเลยค่ะ”
 
ปฐวีแอบยิ้มกับสรรพนามแทนตัวที่เปลี่ยนไปของคนที่กำลังตื่นเต้น
 
“เราคัสต้อมฟ้อนท์ตัวอักษรได้นะ เอาแบบที่ปรางชอบแลยครับ เดี๋ยวผมสั่งแบบพิเศษเคลือบกันสนิมเพิ่มเป็นพิเศษเลย”
 
“ปรางแอบชอบแบบที่เห็นอยู่นี่เลยค่ะ ตัวหนังสือดูหนักแน่นดี แล้วก็ไม่หวือหวาอยู่ได้นาน โรงเรียนจะได้มั่นคงอยู่ได้นาน”
 
“คิดเหมือนผมเลย”
 
ถ้าปฐวีมองเขาออก ชานัทที่เป็นผู้ชายเหมือนกันก็มองออกว่าคนที่พยายามเอาใจหญิงสาวอยู่นี้รู้สึกอย่างไรและพยายามที่จะเอาชนะเขา
 
“งั้นคงต้องรบกวนทางทีมพี่นัทคุยกับคุณแดนเรื่องวัสดุกับแบบแล้วค่ะ ปรางเลือกอันนี้เลยค่ะ”
 
“ไม่ต้องรบกวนคุณชานัทหรอกครับ บริษัทผมมีทีมช่าง ทางทีมคุณนัทพร้อมเมื่อไหร่ ก็เข้ามาได้เลย ติดวันเดียวเรียบร้อย ทางผมรอได้ นานแค่ไหนไม่ใช่ปัญหา”
 
คำพูดปฐวีอาจจะดูธรรมดาแต่สายตาและน้ำเสียงโดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่หันมาทางเขาสื่อความกินนัยยะว่า ‘รอได้’ นั้นคือรออะไร
 
“ขอบคุณค่ะ คุณแดน ค่าใช้จ่ายแจ้งปรางได้เลยนะคะ”
 
“เรื่องนั้นค่อยว่ากัน ว่าแต่นี่ผมมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่าครับ”
 
“เราคุยกันเรียบร้อยพอดีค่ะ เหลือเรื่องนี้ที่พี่นัทใจดีอาสาจะช่วย”
“งั้นดีเลยครับ ผมมาคุยกับปรางเรื่องเรียนของแพท”
 
“คุณแดนเป็นสามีที่น่ารักมากเลยนะครับ ดูแลลูกสาวใกล้ชิดมาก ภรรยาโชคดีจริงๆ”
 
ชานัทรู้มาเหมือนคนอื่นในแวดวงว่าปฐวีที่ค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัวเป็นคนเปิดเผยเสมอเมื่อกล่าวถึงเรื่องบุตรสาวคนเดียว
 
“แพทเป็นลูกสาวที่ผมกับน้องชายเลี้ยงมากับมือตั้งแต่เขาเกิด จริงๆหลายคนไม่รู้แต่ไม่เป็นไรครับ ผมไม่คิดปิดบังอะไร ที่นี่ก็มีแต่คนกันเอง”
 
ประโยคหลังเขาหันไปทางหญิงสาวที่ตั้งใจฟังอยู่
 
“แพทเป็นลูกของเพื่อนนักเรียนไทยของแดนกับผู้หญิงลูกครึ่งอเมริกันคนนึง เธอกำลังจะได้เป็นนางแบบก็มาท้องก่อน พอคลอดแพทได้ เธอก็หายไปจากโรงพยาบาลเลย เพื่อนของแดนออกไปตามหาแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย”
 
“ตอนนั้นเรากำลังทำธีสิสกันทั้งคู่ ก็เลยพอมีเวลาช่วงแรกเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นกัน ไม่รู้ทำไมเราหลงรักเด็กน้อยคนนั้นตั้งแต่สบตา แพทก็เหมือนจะรู้ เลี้ยงง่ายมาก ไม่งอแงเลย กินนม นอน กินนม นอน ตื่น แล้วหัวเราะกับยิ้ม พ่อแม่เราสองคนบินไปหาตอนนั้น ก็อยู่นานเป็นเดือนเลย”
 
“แพทเขาก็รู้ก่อนเขาเรียน ม.1 ตอนตรวจเลือด ตรวจสุขภาพก่อนเข้าเรียน”
 
“น้องเป็นยังไงบ้างคะ”
 
ปริมาถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยจริงจัง ที่ทำให้ปฐวีใจสั่นไหวอีกครา
 
“ไม่เป็นไรเลยครับ เราส่งคนของเราประกบทั้งที่บ้านที่โรงเรียน ทุกอย่างปกติจนเราคุยกับเขากันทั้งบ้าน ให้เขารู้ว่าพวกเรารักเขาจากใจจริงและเขาคือครอบครัวเรา เขาก็บอกเราว่าเขาไม่รู้สึกว่าเขาขาดอะไร มีแต่คนรักเขาเต็มไปหมด เขามีพ่อกับแด้ดดี้แล้วก็ปู่กับย่าตั้งสี่คน”
 
“โธ่ สาวน้อย”
 
“มีอยู่ครั้งนึงที่ผมป่วยมาก ไข้เลือดออกน่ะครับ แพทก็ไปคอยเฝ้า เขาเจอหมอผู้หญิงที่รักษาผม เขาถามทุกวันอย่างละเอียดเลย จนหมอบอกว่าเก่งแบบนี้ น่าจะมาเป็นหมอจะได้ช่วยคนให้หายเจ็บเยอะๆ. แพทจำคำนั้นมาจนวันนี้ เขาก็เลยตั้งใจเรียนมากๆอย่างที่ปรางเห็น”
 
“ไม่ว่าเขาจะเกิดมายังไงเขาก็เป็นลูกที่ผมรักเท่าชีวิต ใครจะมองผมแบบไหน ผมไม่แคร์นะ แคร์คนที่ควรแคร์ก็พอ”
 
ปฐวีหันไปทางปริมาที่ยิ้มกว้างให้
 
“จริงค่ะ ชีวิตเราไม่มีใครรู้ดีเท่าเรา ทุกข์สุขเราเลือกเอง แพทโชคดีมากๆที่มาเจอคุณค่ะ”
 
“ผมกับครอบครัวก็โชคดีมากครับ วันนี้ที่มาก็เพราะเขาโทรมาขอผมนี่แหละ ปกติไม่เคยขออะไรเลยนอกจากเรื่องเรียน”
 
น้ำเสียงที่เอ่ยถึงลูกสาวอ่อนโยนเปี่ยมด้วยวามภูมิใจและความรักล้นจากดวงตาคมโตจนคนฟังรู้สึกได้ ชานัทเริ่มรู้สึกว่าเขาได้รับสัญญาณว่าเป็นส่วนเกินและเสร็จธุระแล้ว จึงเอ่ยขอตัว
 
“ถ้าอย่างนั้น พี่กลับก่อนนะครับปราง แล้วเราค่อยคุยกันนะ
 
“ขอบคุณมากค่ะ พี่นัท ปรางไปส่...”
 
“ไม่เป็นไรครับ จะได้คุยเรื่องน้องแพทต่อ ขอตัวก่อนนะครับคุณแดน”
 
“ครับ คุณนัท”
 
ชายหนุ่มทั้งสองทำเพียงยิ้มพยักหน้าให้กันแต่สายตานั้นเหมือนจะส่งสารท้าทายกันอยู่ในที ชานัทได้ยินปฐวีพูดตอนเดินผ่านประตูออกมา
 
“เย็นพอดี ผมรู้จักร้านอาหารญี่ปุ่นอร่อยอยู่ร้านนึงไม่ไกล เรากินไปด้วยคุยกันไปด้วยได้ไหมครับ ไปรถผมแล้วเดี๋ยวผมวนมาส่ง วันนี้งานผมยุ่งมากกลางวันกินแต่กาแฟ”
 
“ตายจริง ปรางก็ลืมถามคุณเลย ไปค่ะ ขอโทษนะคะคุณหิวแย่เลย ขอปรางเก็บของแป๊บเดียวค่ะ”
 
ขณะขับรถกลับคืนนั้นชานัทแน่ใจว่าเขากำลังเจอคู่แข่งที่น่ากลัวมาที่ชื่อ ปฐวี
 
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ปฐวีพามานั้นอยู่ในซอยเล็กๆบนถนนหน้าโครงการที่ดินจัดสรรหรูหราที่ปริมาได้รู้ทีหลังว่าที่เป็นที่ตั้งบ้านของเขา ตัวร้านสร้างเลียนแบบบ้านญี่ปุ่นโบราณซ่อนตัวอยู่ในป่าไผ่สูงทึบ ภายในแบ่งเป็นส่วนที่เป็นห้องอาหารปกติและมีห้องส่วนตัวที่ด้านข้างฝั่งรอบนอกเป็นกระจกใสตีกรอบสีไม้เป็นตารางใหญ่เปิดให้เห็นต้นไผ่เขียวอ่อนมีโคมไฟตั้งพื้นแบบญี่ปุ่นเป็นระยะและที่ปริมาชอบมาคือลำธารน้ำใสเล็กๆที่จัดเอาไว้อย่าประณีตล้อมรอบตัวร้าน
 
ปฐวีเลือกห้องเล็กนั่งบนเสื้อทาทามิ สั่งชุดซาชิมิรวมและหม้อไฟนาเบะ ส่วนปริมาสั่งไก่ย่างเสียบไม้กับอิคุระมาเป็นของกินเล่นเพิ่ม ระหว่างรออาหารหญิงสาวขยับเข้าใกล้กระจก ถ่ายภาพลำธารน้อยกับโคมไฟและป่าไผ่ได้หลายมุม จนปฐวีเอ่ยปาก
 
 
“ปราง หันมายิ้มนะครับ มุมนี้สวย หนึ่ง สอง สาม”
 
เขากดหน้าจอไปหลายรูป
 
“เดี๋ยวผมไลน์ส่งให้นะครับ”
 
“ขอบคุณค่ะ”
 
อาหารมาเสิร์ฟพอดี ทุกอย่างอร่อยมากอย่างน่าประทับใจ
 
“คุณแดนหาร้านนี้เจอได้ยังไงคะ ปรางบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามไม่เคยรู้เลยว่ามีร้านดีๆแบบนี้อยู่”
 
เธอเอ่ยถาม ใช้ที่ตักไม้ตักของในหม้อนาเบะใส่ถ้วยให้เขา
 
“การมีร้านอาหารดีๆเป็นอีกหนึ่งงานที่คนแบบผมต้องรู้นะ คนเราจะตกลงกันง่ายขึ้นตอนได้กินอะไรอร่อยๆ อย่าได้คุยตอนลูกค้าหิวเด็ดขาด อากงผมสอนมา”
 
ปริมาหัวเราะ
 
“คุณก็เลยชวนปรางมากินข้าวใช่ไหมคะ โอเคค่ะ ดีลของคุณวันนี้คืออะไรคะ”
 
            ปฐวียิ้ม ชอบความตรงไปตรงมาของคนตรงหน้า
 
            “แพทอยากขอเรียนพิเศษแบบเดี่ยวกับคุณจนกว่าจะสอบเข้ามหาลัยครับ”
 
            ปริมาไม่แปลกใจนักเรื่องเรียนแต่นิ่งไปเหมือนคิดหนักเมื่อเขากล่าวต่อ
 
            “ผมเลยอยากเชิญคุณมาสอนแพทที่บ้าน อยู่บ้านผมเลยในช่วงปีนี้ เพราะแพทเรียนพิเศษเลข เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ สังคม ภาษาไทยแล้วก็ความถนัดแพทย์ตารางเต็มทุกวัน อยากเรียนในเวลาที่เรียนวิชาพวกนี้เรียบร้อยแล้ว อาจจะเป็นวันละชั่วโมงหรือชั่วโมงครึ่ง เขาบอกว่า วิชานี้เขาไม่มั่นใจที่สุดและชอบการสอนของคุณมากๆ ผมเกรงว่าจะดึกก็ไม่อยากให้ครูที่มาสอนต้องเดินทางและบ้านเราก็ค่อนข้างสะดวก”
 
            ปริมาพยักหน้าคิดตาม
 
            “อันที่จริงแพทเขามีแผนในใจสองแผน ถ้าสอบไม่ได้แพทย์อย่างที่เขาหวัง เขาจะขอให้ผมส่งเขาไปอังกฤษ ไปเรียนหมอที่นู่น แพทหาข้อมูล เริ่มเตรียมตัวมานานแล้วครับ เขาอยากเป็นหมอมากๆจริงๆ”
 
            ข้อนี้หญิงสาวเห็นด้วยมากๆ ปริยาภัทรมีแววตาที่แน่วแน่จริงจังเมื่อพูดถึงความฝันของเธอ
 
            “ค่าตอบแทนผมให้เป็นเงินเดือนเทียบเท่าอาจารย์มหาวิทยาลัยไม่รวมค่าสอนรายชั่วโมงเรทเดียวกับที่คุณได้จากการเป็นอาจารย์พิเศษที่มหาลัยเท่าที่สอนตามจริง สวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาล อาหารทุกมื้อ น้ำไฟฟรี เหมือนมาพักบ้านญาติ
 
            “มากเกินไปรึเปล่าคะ ปรางเกรงใจค่ะ”
 
“ผมรู้มาว่าคุณจบปริญญาโทมาสองใบจากอังกฤษ เคยทำงานฝ่ายกฎหมายให้...ผมเดาว่าตอนนั้นคุณได้รายเดือนมากกว่าตอนนี้อีกนะ อีกอย่างแพทไม่เคยเดินมาขอผมว่าอยากเรียนกับครูคนไหนเป็นพิเศษเลย มีคุณคนแรกนี่แหละครับ เพื่อความสุขของลูก มันไม่มากไปหรอกครับ ผมไม่ได้หมายถึงตัวเลขนะ ผมหมายถึงมูลค่าทางใจ”
 
นี่สินะ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ วาทะศิลป์และศิลปะในการเจรจาต่อรองของเขาทำเธอตกลงใจไปแล้วมากกว่าครึ่ง
 
“ถ้าปรางตกลง ตอนนี้ยังไม่ดึกมาก ผมจะพาไปดูบ้านให้ปรางตัดสินใจ เผื่อได้เจอแพทด้วย เขาคงดีใจมากครับที่เห็นคุณ”
 
ปริมาก็งงๆเหมือนกันว่าเหตุใดเธอจึงตกลงมากับเขาง่ายๆแบบนี้ รู้ตัวอีกทีรถตู้ของเขาก็เลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้านเดี่ยวโมเดิร์นขนาดใหญ่ ผ่านโรงรถที่มีรถหลายคันจอดเรียงรายและสวนขนาดใหญ่ที่จัดแต่งอย่างสวยงามเปิดไฟไลท์อัพ สว่างไสว จนมาจอดเทียบที่บันไดทางขึ้นบ้าน
 
ปฐวีพาเธอเดินผ่านประตูทึบบานใหญ่ที่ติดตั้งรหัสล็อคอัตโนมัติอย่างดี เข้าไปเจอแกรนด์เปียโนตัวใหญ่สีขาวเด่นสะดุดตา บนนั้นมีกรอบรูปตั้งโต๊ะบานใหญ่ สมาชิกในบ้านยิ้มกว้างให้กล้องมีเด็กหญิงน่ารักตัวน้อยนั่งอยู่ตรงกลางยิ้มกว้างกว่าใครจนตาหยี ถัดลงมามีหญิงสูงวัยรูปร่างเล็กบอบบางผู้หนึ่งในชุดเสื้อคอบัวสีขาวแขนยาวเรียบร้อยกับกระโปรงสีน้ำเงินเข้มยาวเกือบถึงข้อเท้ายืนกุมมือยิ้มอยู่
 
“ป้างามจิตครับ บอสใหญ่ของทุกคนที่นี่”
 
ผู้สูงวัยหันมาค้อนเจ้านายหนุ่มก่อนจะยกมือไหว้หญิงสาวจนปริมาแทบรีบยกมือมารับไหว้แทบไม่ทัน
 
“เรียกป้างามก็ได้ค่ะ อาจารย์ สวยน่ารักเหมือนที่คุณหนูเล่าให้ฟังไม่มีผิดเลยค่ะ”
 
งามจิตรู้สึกถูกใจหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักในชุดเรียบร้อยมิดชิดสีหวานสวยตั้งแต่แรกเห็น ครูสาวคนก่อนๆหน้านี้ยกเว้นแก้วตาที่แต่งงานมีลูกมีสามีแล้วนั้น แต่งตัวทั้งรัดทั้งสั้นทั้งเปิดเผยเนื้อตัว ราวกับจะมาจับเจ้านายหนุ่มมากกว่ามาสอนหนังสือเด็กอย่างไรอย่างนั้น
 
“สวัสดีค่ะ ป้างาม คราวหน้าไม่ต้องไหว้ปรางนะคะ ปรางเด็กกว่ามาก ให้คุณป้าไหว้ไม่ได้ค่ะ”
 
ท่าทีจริงใจ คำพูดจริงจังนั้น ทำให้งามจิตยิ่งพึงใจรวมถึงปฐวี
“เดี๋ยวป้างามจะพาคุณไปดูห้องครับ บ้านเราแบ่งเป็นฝั่งๆเหมือนคอนโดทุกคนมีพื้นที่ของตัวเอง เราใช้ส่วนกลางด้วยกัน จะมีเจ้าตัวแสบนั่นแหละครับที่ทุกที่เป็นของตัวเองหมด”
 
“คุณพ่อว่าแพทอีกแล้วว”
 
เสียงใสมาดังมาก่อนที่สาวน้อยตัวเล็กจะโผล่มาตรงทางเดินติดกระจกใสชั้นบน แต่พอเห็นปริมาเท่านั้น คนตัวเล็กก็น้ำเสียงเปลี่ยนทันที
 
“พี่ปราง เย้ๆๆ พี่ปรางมาอยู่กับเราแล้ว”
 
ร่างเล็กนั้นวิ่งซอยเท้าเร็วๆลงบันไดมาจนงามจิตร้องให้ระวัง เด็กสาววิ่งมาคว้ามือปริมาไว้ ยิ้มกว้าง
 
“พี่เขายังไม่ได้ตกลงเลย พ่อพาเขามาดูบ้านเราก่อน ไปตัวแสบ ไปขายของซิ เกิดสอบไม่ได้ขึ้นมา ต้องมาขายเหล็กแบบพ่อนะ ดูซิว่าจะไหวรึเปล่า”
 
“ขายเหล็กน่ะ ไม่ไหวแน่นอนค่ะ เพราะแพทจะต้องไปเป็นอาจารย์หมอผ่าตัดรักษาคนไข้ให้ได้ แต่บ้านเราเนี่ย ให้แพทพาพี่ปรางไปเอง รับรอง พี่ปรางตกลงแน่ๆค่ะ”
 
สาวน้อยยิ้มอย่างมั่นใจแล้วควงแขนพาหญิงสาวเดินลึกเข้าไปชมบ้าน 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา