เรื่องรักสามฤดู

-

เขียนโดย LaVieRosy

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.33 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,527 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565 16.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) บทที่ 6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

จารวีนอนมองแสงสว่างจ้าที่ลอดผ่านม่านหนาทึบเข้ามา วงแขนแข็งแรงของคนที่นอนซบอยู่ด้านหลังข้างหนึ่งรัดรอบช่วงเอว อีกข้างหนึ่งสอดเข้ามาใต้คอของเธอ นาฬิกาบอกเวลาเกือบเที่ยง เสียงหายใจสม่ำเสมอดังอยู่ริมหู มือใหญ่ของวัชรธรล็อคประสานมือเธอเอาไว้แนบแน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหนีไป เธอตื่นได้พักหนึ่งแล้วแต่ยังไม่อยากขยับไปไหน นอนมองท้องฟ้าและปล่อยใจซึมซับอ้อมกอดอันอบอุ่นจากร่างใหญ่เปลือยเปล่าที่แนบสนิทกับร่างเปลือยเปล่าของเธอ 

 

Make-up sex ไม่ใช่ครั้งแรกระหว่างเขาและเธอ บางครั้งเขาเป็นคนเริ่ม บางครั้งเธอก็เป็นคนเริ่ม จารวียอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เรื่องบนเตียงของเขาและเธอเข้ากันได้ดี ไม่เคยมีปัญหา วัชรธรเป็นคนแรกและคนเดียวที่สอนให้เธอรู้จักความสัมพันธ์ทางกายระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว สอนให้เธอพูดคุยบอกกับเขาได้ทุกอย่างและเขาเองก็บอกกับเธอทุกอย่าง สิบปีที่ผ่านมา เรื่องนี้จึงไม่ใช่ปัญหาของทั้งคู่ 

 

หญิงสาวมองมือใหญ่แข็งแรงที่ล็อคมือเธอเอาไว้ มือของเขาอบอุ่นแต่บางสัมผัสก็ร้อนผ่าว เช่นเดียวกับตัวตนของเขา อบอุ่นเหมือนแสงแดดอ่อนแต่ก็ร้อนแรงเหมือนเปลวเพลิงเช่นกัน จารวีคิดไม่ตก ความสับสนในหัวใจของเธอคืออะไร เธอรักเขาแต่ไม่อยากแต่งงานกับเขา เธอรักเขาแต่ไม่อยากเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา เธอรักเขาแต่เธอก็รักตัวเอง หัวใจที่ประนีประนอมด้วยการโอนอ่อนผ่อนตามเขาเพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้ราบรื่นเสมอมา เริ่มดิ้นรนไขว่คว้าหาอิสระเสรี

เธอต้องการเวลาเพื่อคิด

 

เสาร์อาทิตย์ต้นเดือนคือเวลาที่ลูกค้ามากันหนาแน่นที่สุดของร้าน พศิกาตื่นมาถึงร้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ทุกต้นเดือน ร้านจะมีเมนูพิเศษหมุนเวียนกันไป สำหรับวันนี้มีชีสพายมะยงชิด มะยงชิดกับข้าวเหนียวมูนสามสีให้ลูกค้าเลือกไม่ว่าจะเป็นสีเขียวใบเตย สีฟ้าอัญชันหรือสีชมพูกระเจี๊ยบและไอศกรีมมะยงชิดให้เลือกคู่กับข้าวเหนียวมูนและไอศกรีมมะยงชิดครัมเบิ้ล 

 

หญิงสาวเปิดเครื่องเสียงดังคลออยู่ในครัวใหญ่ มือขยับคล่องแคล่วไปตามธรรมชาติโดยอัตโนมัติอย่างที่ทำมาสิบปี ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่พศิกาชอบที่สุดของวัน ได้ทำสิ่งที่รักอย่างบรรจงจากใจ ได้กลิ่นขนมหอมอบอวล หัวใจเธอสงบสุขเสมอเมื่ออยู่ในครัวของเธอแห่งนี้ พศิกาทำงานเพลินจนฟ้าสว่าง นัทชาที่พศิกามอบหมายให้เป็นเสมือนหัวหน้าพนักงานส่วนครัวก็มาถึง 

 

"พี่หลิววว นัทซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้มาค่าา" 

 

เสียงใสลอยมาก่อนตัว นัทชาทำงานกับพศิกามาตั้งแต่เริ่มตั้งร้านใหม่ เรียกว่าล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกันก็คงไม่ผิด จึงสนิทสนมกับพศิกามากกว่าใคร 

 

"ขอบคุณจ้า มาแต่เช้าเลยเรา"

 

"เวลาทอง เงินกำลังจะไหลมาเทมา ต้องรีบมาสิคะ"

 

สาวน้อยยิ้มกว้างให้เธอ นัทชาเป็นผู้หญิงร่างเล็กกะทัดรัด คล่องแคล่ว สดใสร่าเริงและมีฝีมือด้านขนมไทยอย่างหาตัวจับยากในเด็กสมัยใหม่ นัทชาเติบโตมาในครอบครัวที่ทำขนมไทยชนิดต่างๆขายตั้งแต่สมัยรุ่นทวด วิชานั้นส่งต่อมาเป็นรุ่นๆ มารดาของหญิงสาวเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่ยังแบเบาะ นัทชาจึงเติบโตมากับบิดาที่เป็นตำรวจและยาย เธอได้เรียนรู้ซึมซับวิชาจากยายมาตั้งแต่จำความได้จนกลายเป็นความรักความชอบในการทำอาหาร

 

หลังจากนั่งพักคุยกันเรื่องงานประจำวันเหมือนทุกๆเช้าเคล้ากับปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ สองหญิงสาวก็แยกกันทำงานคนละสเตชั่น นัทชาอยู่ฝั่งขนมไทย ส่วนพศิกาดูแลฝั่งขนมเค้ก ขนมอบ ไม่นานพนักงานก็ทยอยกันมา ทั้งส่วนครัวและส่วนด้านหน้าร้าน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเองเพราะรู้กันดีว่าเสาร์อาทิตย์ต้นเดือนแบบนี้ ร้านจะมีลูกค้าเยอะมากเสมอ 

 

เมื่อแผ่นป้ายที่ประตูกระจกพลิกกลับเป็นคำว่า "Open" ไม่นาน ลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาไม่ขาด ช่วงเช้าๆถึงก่อนเที่ยง ขนมอบอย่างพาย ครัวซองต์ จะต้องเติมออกมาจากครัวตลอดเพราะลูกค้าส่วนมากสั่งทานเป็นมื้อเช้าคู่กับชาหรือกาแฟ ยังมีแซนวิชแบบต่างๆและแซนวิชเปิดหน้าหลายรสชาติเครื่องแน่นที่ขายหมดเร็วมากเพราะพศิกาจัดหน้าให้เต็มที่ เธอถือความซื่อสัตย์และ "ให้" ลูกค้าในการดำเนินธุรกิจแบบที่อากงเคยสั่งสอนมาตลอด 

'อาหลิว เราค้าขาย เราอยู่ได้เพราะลูกค้า เราต้องให้ก่อน แล้วเดี๋ยวลูกค้าจะให้เราเอง ขายอะไรต้องดี ต้องคิดว่าถ้าเราจ่ายเงินแล้วเราอยากได้แบบไหน ลูกค้าก็เหมือนกัน ซื่อสัตย์และให้ลูกค้าก่อนเสมอนะ'

 

พศิกาเติบโตมาในครอบครัวคนจีนแท้ เหล่ากงหรือบิดาของอากงนั้นลงเรือสำเภาอพยพมาจากเมืองจีนช่วงสงครามตั้งแต่อายุสองปีกับบิดามารดา รับจ้างแบกข้าวสาร รับจ้างทำงานช่างเล็กๆน้อยๆในวันหยุด จนตั้งตัวได้ก็จับพลัดจับผลูมาค้าขายทองจนกระทั่งถึงตอนนี้ พี่ชายคนโตของเธอ พงศ์ดนัย รับช่วงต่อทางธุรกิจมาตั้งแต่เรียนจบ ส่วนพี่ชายคนรอง พงศ์กิตติ์ เลือกเรียนแพทย์สาขาโรคหัวใจ ตอนนี้เป็นอาจารย์หมอในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย 

 

ในช่วงแรกที่พศิกาจะเปิดร้านขนม ครอบครัวยกเว้นพี่ชายทั้งสอง คัดค้านกันอย่างหนัก เนื่องจากอยากให้เธอมาสานต่อธุรกิจร้านทองของตระกูลที่มีหลายสาขาในกรุงเทพฯมากกว่าและมองว่าการขายขนมไม่ยั่งยืนแต่พศิกาก็อาศัยความดื้อเงียบของเธอ มุมานะทุ่มเทพิสูจน์ตนเองจนร้านยืนระยะมานานเข้าปีที่สิบ แต่ก็ไม่วายที่ครอบครัวจะพูดถึงเรื่องนี้ทุกครั้งที่มีการรวมญาติ ทั้งเรื่องร้านและเรื่องที่หญิงสาวยังครองตัวเป็นโสด 

 

พศิกานั่งประจำสเตชั่นขนมเค้ก เธอรับงานเค้กแต่งตามความชอบของลูกค้าด้วยนอกจากเค้กที่ทำขายหน้าร้านประจำ ตอนนี้เทรนเค้กมินิมอลกำลังเป็นที่นิยม หญิงสาวหมุนแท่นวางเค้กตรงหน้า ประคองมือบีบตัวอักษรเป็นคำอวยพรวันเกิด 

 

"พี่หลิวคะ มีลูกค้ามาติดต่อเรื่องจัดชุดเบรก 300 ชุดค่ะ" 

 

พศิกาเงยหน้าขึ้นจากงานตรงหน้า ชนิศา หัวหน้าพนักงานส่วนหน้าร้านเข้ามารายงาน ชนิศาเป็นอีกคนที่ร่วมล้มลุกคลุกคลานกับพศิกาและนัทชามาตั้งแต่เริ่มตั้งร้านใหม่ๆ หญิงสาวเป็นคนพูดน้อย มีความเป็นผู้นำ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี พศิกาจึงไว้ใจมอบให้ควบคุมดูแลส่วนหน้าร้านทั้งหมด 

 

"โอเคจ้ะ เดี๋ยวพี่ออกไป" 

 

หญิงสาวเดินออกตรงออกมาที่โต๊ะตามที่ชนิศาแจ้ง ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังหันหน้ามองออกไปที่สวนสวยติดกระจก ท่าทีกอดอกเหยียดขาตรงพิงเก้าอี้อย่างสบาย ไหล่กว้างนั้นอยู่ในเสื้อยืดสีขาวเรียบๆ เสี้ยวหน้าที่เห็นเผยจมูกโด่งคมสันและรอยยิ้มเบาบาง ตรงหน้าเขามีถ้วยกาแฟกับจานใส่ครัวซองต์ที่วางเปล่า 

 

"สวัสดีค่ะ" 

 

ชานนท์ หันมาตามเสียงสดใส ภาพตรงหน้าทำให้เขาชะงักไปครู่หนึ่ง หญิงสาวร่างกลมกลึง รวมผมต่ำหลวมๆ มีลูกผมปรกลงมารุ่ยร่าย ใบหน้านวลเนียนปราศจากเครื่องสำอางนั้นมันเล็กน้อย เธอคงอยู่ในครัวมาตั้งแต่เช้า เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์เข้ารูปห้าส่วนอยู่ใต้ผ้ากันเปื้อนสีดำปักชื่อร้าน ชายหนุ่มเปิดยิ้มกว้าง

 

"สวัสดีครับ" 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา