เรื่องรักสามฤดู
เขียนโดย LaVieRosy
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.33 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565 16.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) บทที่ 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคำถามของจารวี ทำให้เพื่อนสนิททั้งสองนิ่งชะงัก ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของจารวีที่วางอยู่ก็ดังขึ้น หน้าจอแสดงชื่อสายเข้าว่า ‘พี่ธร’ หญิงสาวมองแล้วถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะกดรับสาย
“ค่ะ พี่ธร”
“จา ไปร้านนั้นอีกแล้วเหรอ มันแคบก็แคบ ดูไม่สะอาดด้วย มีแต่เนื้อหมูติดมันบางๆ ทำไมไม่ไปกินปิ้งย่างร้านดีๆกัน ร้านเปิดใหม่มีให้เลือกเยอะแยะไป”
“จาเคยบอกพี่ธรแล้วนี่คะ ว่าเราชอบร้านนี้กันมาก”
“ชอบมากแล้วเปลี่ยนไม่ได้หรือไง”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้ใบหน้างามรูปไข่เรียบเฉยขึ้น
“นั่นสินะคะ ต่อให้ชอบมากก็เปลี่ยนได้นี่นะ”
ดารินและพศิกาเบิกตามองกัน
“จา ดื่มเหรอ ทำไมพูดแปลกๆ”
“ดื่มค่ะ แต่ไม่ได้ขับรถ หลิวขับ แค่นี้ก่อนนะคะ พี่ธร วันนี้จาเหนื่อยมาก หิวมากด้วย อยากกินต่อแล้ว”
“พี่กำลังจอดรถ เดี๋ยวเจอกัน”
เสียงที่ลอดออกมาทำให้ดารินกับพศิการีบจัดแจงโต๊ะให้ดูเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่นานชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในเชิ้ตขาวพับแขนแค่ข้อศอกกับกางเกงสแล็คสีเทาเข้มก็เดินตรงเข้ามา เขาดูโดดเด่น แพงระยับไปทั้งตัว ไม่เข้ากับร้านไม้เก่าๆริมคลองนี้เลยสักนิด เพื่อนทั้งสองยกมือไหว้ชายหนุ่มที่นั่งลงตรงเก้าอี้ข้างแฟนสาว ดารินย้ายตัวเองมานั่งข้างพศิกาตั้งแต่ได้ยินว่าเขากำลังจอดรถ
“พี่ธร ดื่มอะไรซักหน่อยไหมคะ”
พศิกาแสร้งยิ้มถามทำลายความมึนตึงที่เกิดขึ้นระหว่างสองหนุ่มสาว
“ไม่ครับ หลิว ขอบคุณครับ พี่มารับจากลับ พี่อิ่มจากประชุมมาแล้ว”
จารวีหน้านิ่งสนิทแบบที่เพื่อนทั้งสองรู้ว่ากำลังไม่พอใจ เธอคว้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นบอกเพื่อน
“กลับก่อนนะ แล้วคุยกัน”
“จา”
เสียงวัชรธรกดต่ำ คิ้วดำขมวดมุ่นเมื่อเงยมองแฟนสาว
“จาอิ่มพอดีค่ะ พี่ธรมารับไม่ใช่เหรอคะ ลุกสิคะ”
จารวีเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ สบสายตาคมที่เหมือนมีเพลิงระอุอยู่ในนั้นอย่างไม่เกรงกลัว เมื่อเขาไม่ตอบเธอก็หมุนตัวเดินออกไปทันที วัชรธรถอนหายใจแล้วลุกขึ้นตาม
“พี่ขอตัวนะครับ หลิว ริน กลับบ้านดีๆนะ”
สองสาวที่เหลือยกมือไหว้ชายหนุ่มแทบไม่ทัน ได้แต่สบตากัน
“ทะเลาะกันอีกแน่”
พศิกาพึมพำ
“ไม่เหลือ”
ดารินทำหน้าปลงแล้วยกแก้วขึ้นดื่ม
ตั้งแต่จารวีขึ้นรถมา ตลอดระยะทางมีแต่ความเงียบที่น่าอึดอัด วันนี้เป็นวันศุกร์สิ้นเดือน รถจึงติดพอสมควร วัชรธรมองไปที่แฟนสาวเป็นระยะ หญิงสาวนั่งกอดอกหันหน้าออกไปด้านข้างกระจก เห็นเพียงลำคอเรียวระหงและเสี้ยวหน้ารูปไข่งดงาม จารวีเป็นคนสวยสะดุดตา เครื่องหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เรือนร่างอรชร ผิวพรรณนวลเนียนไปทั้งตัว ผมยาวตรงสลวยวันนี้มัดรวบไว้ต่ำ มีลูกผมรุ่ยร่ายปรกลงมา หญิงสาวสวมเชิ้ตขาวทับด้วยกางเกงยีนส์เอวสูง บริษัทของเธออนุญาตให้ใส่ยีนส์ไปทำงานได้ทุกวันศุกร์ จึงได้เห็นช่วงเอวเล็กคอดรับกับสะโพกผาย
รถยนต์คันหรูขยับไปอย่างเชื่องช้า วัชรธรเอื้อมมือไปจับแขนเรียวเล็กที่กอดกันเอาไว้แน่น เขารู้ดีว่าความเงียบคือสัญญาณของความโกรธ
“จาครับ”
ชายหนุ่มเรียกเธอเสียงอ่อน เขายอมรับว่าครั้งนี้เขาบุ่มบ่ามเกินไป ร้านหมูกระทะร้านนั้นเป็นร้านโปรดของสามสาวมายาวนาน เขาก้าวล่วงช่วงเวลาส่วนตัวของเธอ
“จาครับ พี่ขอโทษ พี่แค่เป็นห่วงเพราะจาท้องเสียง่าย”
จารวีไม่ใช่คนแสนงอน แต่ความหวั่นไหวในใจที่มีอยู่ทำให้เธออยากคุยกับเขาให้ชัดเจนกว่าทุกครั้ง
“พี่ธรเป็นห่วงหรือแค่อยากเอาชนะกันแน่คะ”
“จา”
วัชรธรตกใจในคำถามที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน จารวีที่เขารู้จักนั้น อ่อนหวาน น่ารัก หัวอ่อน ยอมโอนอ่อนไปตามเขาเสมอ ที่สำคัญจารวีไม่เคยหาเรื่องทะเลาะหรือจุกจิกกับเขาเลย
“จา ดื่มมาเยอะรึเปล่า ทำไมวันนี้จาดูแปลกไป”
“จาไม่ใช่เด็กแล้ว จามีสติรู้ตัวดีและวันนี้จาอยากคุยกับพี่ธรเรื่องของเรา”
ชายหนุ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง หากพูดกันตามจริง เขาก็เริ่มสังเกตเห็นเค้าลางของความเปลี่ยนแปลงของจารวีและความสัมพันธ์ของเขาและเธอมาพักใหญ่ แต่เลือกที่จะไม่หยิบมาพูดถึงเพราะกลัวว่าจะสูญเสียจารวีไป
“ถึงคอนโดแล้วเราค่อยคุยกันเถอะค่ะ อย่าเพิ่งคุยตอนขับรถเลย”
ข้อดีอีกข้อที่ทำให้เขารักหญิงสาวมากคือเธอเป็นคนมีเหตุผลเสมอ ไม่เคยฟูมฟายโวยวายใช้อารมณ์ตลอดการคบหากันสิบปีที่ผ่านมา จริงอยู่ว่า รูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นสะดุดตาอาจทำให้วัชรธรเดินเข้าหาเพื่อทำความรู้จักกับเธอ แต่สิ่งที่ทำให้เขารักเธอโดยไม่คิดไขว้เขวคือตัวตนและจิตใจของจารวี
อีกพักใหญ่กว่ารถยนต์คันหรูจะเลี้ยวเข้าลิฟต์ขนาดใหญ่ที่ยกตัวขึ้นไปยังหน้าห้องชุดบนชั้นสูงสุดของตึกสูงสวยใจกลางเมือง วัชรธรเป็นลูกชายคนโตของตระกูลวัชรกุล ครอบครัวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ทั้งหมู่บ้านขนาดต่างๆ คอนโดหลายระดับ ห้องชุดให้เช่าและอาคารให้เช่าเป็นสำนักงานสำหรับบริษัทร้านค้าในเขตธุรกิจใจกลางเมือง ห้องชุดแห่งนี้วัชรธรซื้อเก็บไว้ด้วยตนเอง เพราะทำเลที่ไปไหนมาไหนสะดวกและยังเป็นโครงการแรกที่เขาคุมการออกแบบก่อสร้างเลือกทุกรายละเอียดมาด้วยตนเองทั้งหมด
เขาจับจูงข้อมือเล็กของแฟนสาวเข้ามาภายในโถงรับแขกกว้าง สูงโปร่ง ตรงมาที่โซฟาตัวใหญ่สีน้ำตาลอ่อนเป็นรูปตัวยูน่าทิ้งตัวลงนอน เข้าชุดกับโต๊ะกลางที่ทำจากไม้เนื้ออ่อนตัวใหญ่ทรงกลม จารวีเป็นคนไปช่วยเลือกแบบสั่งทำที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ฝีมือดีกับเขา สีและเนื้อผ้าของโซฟา ก็เป็นเธอที่ไปช่วยเลือก หญิงสาวลูบมือเล็กขาวนวลไปตามเนื้อผ้านุ่มนั้น
เวลาสิบปี บรรจุไว้ด้วยความทรงจำมากมายเหลือเกินระหว่างเขาและเธอ เธอจะทำใจได้หรือที่จะไม่ได้มาที่นี่อีก ไม่ได้มานั่งพิงในอกกว้างอบอุ่นดูซีรี่ส์เรื่องโปรดด้วยกันอย่างเคย ไม่ได้มานั่งทำงานเป็นเพื่อนเขากับเอกสารระเกะระกะกองเต็มไปทั่ว ไม่ได้มาดื่มเบียร์รสนุ่มที่เขาและเธอชอบด้วยกัน มีกลับแกล้มเป็นถั่วแระญี่ปุ่นสีเขียวที่เขาคอยแกะใส่จานให้เธอเสมอ วันคืนเหล่านั้นมักจบลงด้วยบทรักอ่อนหวานเร่าร้อนบนโซฟาตัวนี้ เขาจะกอดเธอไว้แนบแน่นจวบจนรุ่งเช้าทุกครั้ง
จารวีปาดน้ำตาที่ซึมออกมา แสร้งทำเป็นหันไปมองระเบียงด้านนอก ระหว่างที่แฟนหนุ่มเดินถือน้ำส้มใส่แก้วสองใบมาวางบนโต๊ะตรงหน้า ทั้งสองดื่มน้ำส้มคั้นสดเย็นเจี๊ยบที่แม่บ้านมาคั้นไว้ให้ทุกวัน ปล่อยให้ความเงียบเดินไปเรื่อยๆ จารวีรู้สึกสดชื่นขึ้นมากหลังจากได้ลิ้มรสชาติหวานอมเปรี้ยวเย็นฉ่ำไป ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆขยับตัวเข้ามาจนร่างแนบชิด แขนแข็งแรงโอบหัวไหล่เข้าหาและเลื่อนลูบลงมากอดรัดที่รอบเอว สัมผัสอันนุ่มนวลคุ้นเคยนั้นทำให้หัวใจจารวีสั่นไหว
“จาครับ พี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะ พี่รู้ว่าพี่ล้ำเส้นไป”
“จาไม่โกรธแล้วค่ะ พี่ธรขอโทษไปแล้วก็จบ”
วัชรธรจับเธอให้หันมาหากัน เขาสบดวงตากลมงดงามนั่นอย่างค้นคว้า
“ไม่โกรธพี่ แล้วจาอยากคุยเรื่องอะไรครับ”
จารวีหลุบตาลงชั่วครู ประสานมือทั้งสองข้างของตนเองวางที่ตักตอนที่สบตาพูดกับเขา
“จาคิดว่า จาอยากได้เวลาคิดเรื่องของเรา”
แฟนหนุ่มหน้าเปลี่ยนสีทันที
“จาจะบอกพี่ว่าอะไร”
จารวีสูดลมหายใจเข้าลึกราวกับจะเรียกกำลังใจ ก่อนเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่นว่า
“จา ไม่ได้รักพี่ธรเหมือนเดิมแล้ว จาไม่อยากแต่งงาน เราสองคน...ลองห่างกันซักพักได้ไหมคะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ