เรื่องรักสามฤดู

-

เขียนโดย LaVieRosy

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.33 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,019 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565 16.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เสียงเพลงยุค 90s ดังคลอปะปนกับเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะและเสียงดังฉู่ฉี่ของเนื้อสัตว์ที่สัมผัสกระทะ จารวีคีบเนื้อหมูสีชมพูแทรกมันวางเรียงบนกระทะทองเหลืองเต็มแน่น ขอบรอบกระทะมีน้ำซุปกำลังเดือดอัดไปด้วยผักบุ้ง เห็ดเข็มทอง วุ้นเส้น เต้าหู้ไข่และปูอัด ทั้งสามเป็นลูกค้าประจำร้านนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายเพราะติดใจในคุณภาพของวัตถุดิบและถูกปากกับรสชาติน้ำจิ้มทำเองทั้งสามแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน ทั้งน้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มแจ่ว 

 

พศิกาจิ้มลูกชิ้นทอดป้อนเข้าปากเพื่อนที่กำลังพลิกเนื้อหมูบนเตา ในขณะที่ดารินยกถ้วยขึ้น ตั้งหน้าตั้งตาคีบวุ้นเส้นสูดเข้าปากอย่างหิวโหย

 

“ช้าๆ ริน แกไม่ได้กินอะไรมารึไง มาถึงก็สูดเอาสูดเอา”

 

“สอนทั้งวันตั้งแต่แปดโมง โหยจนอยากจะกินช้างทั้งตัว”

 

ดารินหรือที่อาจารย์และนิสิตในมหาวิทยาลัยรู้จักในนาม รศ.ดร.ดาริน นั้น เป็นอาจารย์สาวผู้เรียบร้อยเคร่งขรึม พูดน้อย ตัวเล็กบอบบาง ไม่สุงสิงคุยเล่นกับใคร นิสิตและเพื่อนอาจารย์ตั้งฉายาให้เธอว่า เจ้าหญิงหิมะ เพราะผิวขาวเหมือนน้ำนมและบุคลิกที่ติดจะเย็นชาของเธอ ในชีวิตดารินมีเพื่อนสนิทเพียงสองคนคือพศิกาและจารวีเท่านั้น เธอไม่ชอบพบปะสังสรรค์หรือเข้างานสังคม ยกเว้นแต่จะจำต้องไปเพราะเรื่องงาน ก็จะไปเพื่อทำงานแล้วกลับทันที

มีเพียงเพื่อนสนิทสองคนที่ดารินไปไหนมาไหนด้วย ดารินเป็นคนขยันและเคร่งครัดกับการเรียนมากที่สุดในกลุ่ม เรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองและได้ทุนเรียนต่อจนจบระดับปริญญาโทและเอกจากมหาวิทยาลัยท็อปไฟว์ในประเทศสหรัฐอเมริกาและกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยตามฝัน

 

ตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย พศิกากับจารวีก็ได้ดารินเป็นผู้ติวให้อย่างหนักหน่วง จารวีนั้นไม่เท่าไหร่เพราะใจอยากเรียนคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกับดารินอยู่แล้ว แต่พศิกาที่ไม่มีใจอยากเรียนอะไรนอกจากเรียนทำขนมนั้น ต้องใช้คำว่าถูกเพื่อนเคี่ยวเข็ญให้อ่านหนังสือและฝึกทำข้อสอบมาตลอด จนสอบเข้าได้เรียนที่เดียวกันและพากันเรียนจบมาพร้อมกัน

 

“จา มันไหม้เกินไปไหม”

 

ดารินทักเมื่อเงยหน้ามาเจอจารวีกำลังจ่อหมูสามชั้นขอบเกรียมสีดำเตรียมเข้าปาก คนที่ถูกทักรีบยัดหมูชิ้นนั้นเข้าปากแล้วแกล้งทำหลับตาพริ้มเคี้ยวตุ้ยๆอย่างมีความสุขจนพศิกาหัวเราะ

 

“แกก็รู้ เราชอบแบบนี้อ่ะ ขอกินให้หายเหนื่อยหน่อยเถอะ อ่านสัญญามาทั้งวัน ตาลายไปหมด”

 

 

จารวี เป็นฝ่ายกฎหมายที่บริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่ วันนี้เธอประชุมกับฝ่ายจัดซื้อเพื่อตรวจสอบร่างสัญญากับซัพพลายเออร์หลายสิบฉบับเพื่อเร่งสรุปตัวเลขประมาณการค่าใช้จ่ายให้ผู้บริหารเอาเข้าประชุมบอร์ดในสัปดาห์หน้า ได้กินมื้อกลางวันเป็นข้าวกล่องเย็นๆที่น้องในทีมซื้อมาให้แบบรีบๆเท่านั้น

 

พศิการีบเอาใจเพื่อนคีบหมูสามชั้นเกรียมๆไปใส่จานของจารวีอีกหลายชิ้น ส่วนดารินก็ตักเต้าหู้ไข่ของโปรดเพื่อนใส่ถ้วยให้เพิ่ม ทั้งสองต่างรู้ดีว่าการอ่านสัญญาหนึ่งฉบับนั้นกินพลังงานมากมายแค่ไหน เพราะตอนฝึกงาน เลือกไปฝึกอยู่ที่เดียวกันและได้รับมอบหมายจากทีมให้อ่านตรวจทานร่างสัญญาซ้ำ เป็นงานที่ต้องการความรู้ ความละเอียดรอบคอบและความเข้าใจในการใช้ภาษา เพราะคำทุกๆคำล้วนก่อให้เกิดผลผูกพันตามมาต่อองค์กรทั้งสิ้น

 

“มาเร่งเอาอีกแล้วเหรอ จัดซื้อบริษัทแกเขาไม่คิดจะเผื่อเวลาให้คนอื่นทำงานบ้างรึไง”

 

ดารินเคืองแทนเพื่อน สูดวุ้นเส้นเหนียวนุ่มเข้าไปอีกคำใหญ่

 

“นั่นสิ หลายครั้งละนะ ครั้งก่อนแกก็กลับบ้านเกือบเที่ยงคืน”

 

 

 

พศิกาสำทับ มือเอื้อมไปเติมเครื่องดื่มสีเหลืองที่มีฟองขาวให้เพื่อน วันนี้เธอรับบทสารถี จึงดื่มน้ำอัดลมแทน ส่วนเพื่อนสาวหมดกันไปคนละสามกระป๋องแล้ว เป็นที่รู้กันว่าถ้าวันไหนใครขับรถ คนนั้นก็จะเสียสละงดแอลกอฮอล์เพื่อความปลอดภัยเสมอ

 

“คอนแทรคแอดมินเขาออกพร้อมกันสามคน งานมันเลยช้า บายเออร์เขาก็ไม่ถนัดจะลงมาทำเอง ทำไงได้ บอร์ดจู่ๆก็เร่งมาจะเอาตัวเลข ฝ่ายผลิตก็เร่งจะเอาของ ก็น่าเห็นใจอ่ะนะ”

“แกเป็นคนใจดี ยอมรอมชอมแบบนี้ไง ถึงได้คบพี่ธรมาได้นานเป็นสิบปี”

 

พศิกาที่ตอนนี้ล่วงหน้าเพื่อนไปถึงของหวาน หยุดคนน้ำแข็งในถ้วยเฉาก๊วยนมสดหันตัวมาทางคนที่นั่งด้านข้าง ดารินจิบเครื่องดื่มในถ้วยมีหูไปอีกอึกแล้ววางลง ยกมือขึ้นกอดอกมองมาที่จารวีเช่นกัน

 

“ท่าทางเมื่อกี้ มันอะไร มีอะไรอยากเล่าไหม”

 

เป็นดารินที่ยิงคำถามอย่างไม่อ้อมค้อม แม้จะพูดน้อยที่สุดในกลุ่มแต่ทุกครั้งที่พูดก็ตรงไปตรงมาและจริงใจเสมอ หญิงสาวที่ตกเป็นเป้าสายตาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอไม่คิดปิดบังเพื่อนเพราะถึงคิดปิดอย่างไร คนที่รู้จักกันมานานกว่าค่อนชีวิตย่อมจับสังเกตได้อยู่แล้ว พอคิดว่าจะพูดสิ่งที่รู้สึกมานานในใจออกมาอย่างไร ก็พาลหมดความอยากอาหารไปดื้อๆ

 

“ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี เราแค่รู้สึกว่าเราไม่ได้รู้สึกกับพี่ธรเหมือนเดิมอีกแล้ว”

 

จารวียกแก้วขึ้นดื่มไปอีกอึกใหญ่ ขณะที่เพื่อนทั้งสองหันมาสบตากัน

 

“จะผิดมากไหม ถ้าเราจะขอเลิกกับพี่ธร”

 

“จา”

 

“แกว่าอะไรนะ”

 

พศิกาและดารินประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกัน จารวีวางเครื่องดื่มในมือลงแล้วประสานสายตากับเพื่อนรักทั้งสอง

 

“เราคิดมาซักพักแล้วล่ะ ทบทวนดูทั้งความรู้สึก เวลาสิบปีที่ผ่านมา ความผูกพันเอย อะไรเอย เราควรจะรักคนที่เรากำลังจะแต่งงานด้วย ฝันถึงอนาคตที่มีความสุขกับเขา แต่เรากลับไม่อยากนึกถึงภาพนั้น เหมือนใจมันไม่ไปกับเรา หัวใจมันไม่ได้พองฟูเหมือนเมื่อก่อนตอนนึกถึงเขา พวกแกว่า จะผิดมากไหม ถ้าเราไม่ได้รักเขาเหมือนเดิมอีกแล้ว”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา