LacuXs: Academy of Light

-

เขียนโดย VonDerVisE

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.05 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  4,717 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 14.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) บ้านทั้ง 5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   ในห้องทรงงานใน light academy. ห้องที่ถูกจัดอย่างสวยหรู กับโตะขนาดใหญ่ตรงกลางห้องนั้น มันชั้งดูอลังการยิ่งนัก. องค์รักษ์ 2คนยืนอยู่ซ้ายและขวาของโต๊ะ พวกเขาดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง. ชายนิรนามที่สวมชุดเกราะสีทรายกำลังอ่านเอกสารที่ใช้ในการสมัคร เขาอ่านไปเรื้อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ ลาคัส. เขาอ่านคำบรรยายที่เหล่าผู้จดทะเบียนมาให่ ก่อนจะพลิกหน้ากระดาษ เพื่อดูผลลับของการทดสอบ 

“น่าสนใจอย่างที่ใด้ยินมาจริงๆ” ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็เปิดออก

“นายท่าน ผู้เข้าแข่งขันมากันพร้อมแล้วครับ” 

 ชายที่ใส่ชุดคลุมสีขาวกล่าว กับชายที่ใส่เกราะสีทรายที่กำลังอ่านเอกสาร. เขาลุกขึ้นยืนจากโตะทำงานก่อนจะมี องค์รักษ์ เอาผ้าคลุมมาสวมให้. ผ้าคลุมสีขาวถูกประดับด้วย รอยทักสีทองสวยงาม ตรงกลางมีสัญลักษณ์ ดาบ ขนาดใหญ่ซึ่งเป็น สัญลักษณ์ประจำ อณาจักร light kingdom. “มาต้อนรับพวกเขากันเถอะ” ชายร่างใหญ่เดินออกจากห้องทำงานก่อนที่ประตูจะปิดลง

 

      ณ ลานกว้างขนาดใหญ่หน้าสถาบัน ผู้ที่ผ่านการทดสอบ กำลังยืนกันอย่างมีระเบียบ เพื่อรอพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ. ที่ลานตรงกลางนั้นมีรูปปั้นขนาดใหญ่ เป็นรูปของ ชายใส่ชุดเกราะที่ดูเก่าแก่และเอาดาบปักลงพื้น. ชุดเกราะนั้นเหมือนชุดเกราะประจำ อาณาจักร light kingdom ที่มีสีทราย หากแต่ไม่สามารถรู้ได้ว่ารูปปั้นนี้เป็นของใคร ธงประจำ อาณาจักรนขนาดใหญ่เท่ากำแพงถูกห้อยไว้ ทั้ง2 ข้างติดบันไดทางขึ้น. ด้านบนชั้น สองมีระเบียง ยื่นออกมาทั้ง ซ้ายและขวา. แต่ละระเยียงมีธงห้อยอยู่เป็นสีที่แตกต่างกัน แต่สัญลักษณ์ทั้งหมดเป็นรูป ดาบขนาดใหญ่ทุกอัน.

ตรงกลางเป็นลาน พร้อมบรรลัง สีทองอยู่ตรงกลาง. 

 

   “โปรดต้อนรับเหล่าบุตรชายและบุตรสาว ของเหล่า อณาจักรพันธมิตร ทั้ง7 คน “  ประตู เหล็กด้านขวา ข้างๆ ธงผืนใหญ่เปิดออก. เสียงฝีเท้าของค่อยๆดังขึ้น  ผู้ผ่านการทดสอบพยายามชำเลืองมองไปยังประตูที่เปิดอยู่ก่อนจะตาลุกวาวกันยกใหญ่. นำมาโดย องค์หญิงผู้สวมเกราะสีเขียว แห่งอาณาจักร lucion องค์หญิง ลูลุช เดอ ชาน.

 “งดงามมาก” ผู้คนที่เฝ้าดูเหมือนถูกต้องมนต์ ทุกคนต่างพูดคุยกันถึงความงามขององค์หญิง กันเป็นการใหญ่. ตามมาด้วย เจ้าหญิงผู้ปิดบังตัวตนตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวีเอร่า ราวีเร้  และ เจ้าชายแห่งเมือง sanzero บัททิว เซ้นต์ ชอน. บัททิวเหลือบมองไปยัง สามัญชน ที่ทำตัวน่ารังเกียจมันทำให้ทุกคนถึงกับเงียบ. ทุกคนต่างสำผัสได้ถึงความหนาวเหน็บ. ต่อจากนั้น ฝาแฝดก็ค่อยๆเดินออกมาจากประตู และนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้คนได้เห็น ฝาแฝดแห่งนคร white sand โยร่า กับ โยเร่ ทั้งสองนั้นทักเปียทัดหูคนละข้าง สีผมของพวกเขาทั้ง สองนั้นมันเป็นสีเงินที่แวว วาว. ผิวของทั้งคู่เป็นสีแทน พร้อมกับดวงตาสีเหลืองที่สวยงาม. พวกเขามีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลไม่ใช้น้อย. ผู้คนต่างจับจ้องไปยังทั้ง สิงที่แท้บจะแยกไม่ออกว่าคนไหนเป็น ผู้ชาย หรือ ผู้หญิง. หากไม่นับเรื้องเสื้อผ้าก็คงจะเรียกสลับกันไปมาเป็นแน่แท้. แต่อยู่ๆ บรรยากาศที่สดใสก็บิดเบี้ยว ทุกคนสำผัสได้ถึงความน่ากลัว. มีไครกำลังจะออกมา. หลายคนต่างกลืนน้ำลายกันยกใหญ่. หากแต่ผู้ที่ออกมากับเป็นชายร่างใหญ่ ที่น่าจะสูง 170 ซม มีโซ่คล้องที่คอและแขนดุจนักโทษ. หลายๆคนต่างตะลึงกับสิ่งที่เห็น “นี้หรือ โมเลีย ยังเด็กอยู่เลยไม่ใช่หรือไง ทำไมตัวใหญ่ขนาดนี้ และโซ่พวกนั้นน่ากลัวเหลือเกินเหมือนคนป่าเลย” ผู้คนซุบซิบกัน. ก่อนจะมีอีก คนที่เดินออกมาอย่างใจเย็น .ชายผู้ดูสง่างาม ที่มาพร้อมกับดวงตาสีแดง ซิลเว้อ. 

“เอาละในเมื่อมากันครบแล้วก็จะขอเชิญราชาแห่ง light kingdom ทุกคนจงคุกเข่า ต่อหน้าราชา วารอน ไดม้อน คริมาตา!”

 เสียงแตรดังขึ้นก่อนที่ประตูหลัง บรรลังจะเปิดออก. ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่าง คุกเข่าลง รวมทั้งเหล่าขุนนางที่ อยู่แถวหน้า. หากแต่ ลาคัสนั้นเหมือนไม่รู้อะไรแล้วยังยืน มองอยู่ตรงนั้น. ราชาค่อยๆเดินมายัง ระเบียง ก่อนจะเอะใจถึงเด็กที่ไม่ได้คุกเข่าลง. เขายิ้มจางๆ ก่อนจะไปนั่งบนบรรลัง. อมนุษย์ที่คุกเข่าอยู่ข้างๆรีบดึง ลาคัส ให้ลงมาคุกเข่า

 “เจ้าอยากหัวหลุดรึไง” 

“เอะ..โทษทีๆ เหม่อไปหน่อย” เด็กหนุ่มหัวเราะ. มนุษย์เสือพูดก่อนจะแอบขำนิดๆ“เอ็งนี้มัน บ้าบอสิ้นดี.. ข้าชื่อ ไลก้า ยินดีที่ได้รู้จัก” เด็กหนุ่มยื่นมือขึ้นมา 

“ข้าลาคัส ยินดีเช่นกัน” เสือหนุ่มมองไปยังมือที่ยื้นออกมา. ปรกติ อมนุษย์นั้นจะโดนรังเกียจเนื้องจากสภาพร่างกายของพวกเขา. นี้เป็นครั้งแรกที่ไลก้า สัมผัสได้ถึงความ เป็นกันเองจากมนุษย์ทั่วไป. เขายื่นมือขึ้นมาจับ มือของเด็กหนุ่ม. 

“โห..อย่างนุ้ม” เด็กหนุ่มตาลุกวาวกับอุ้งมือของไลก้า. ทั้งสองขำกันนิดหน่อยก่อนจะมองไปยัง บันลัง.

 “ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่สถาบันการศึกษาของเรา เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เลขาของข้าจะ  อธิบายการ คัดเลือกเข้าสู่บ้าน ทั้ง 4สี. บ้าน 4สี ประกอบไปด้วย ฟีนิกซ์แดง, ยูนิคอร์น สีฟ้า,  กริฟฟรินเขียว และ เปกาซัสเหลือง  พวกเจ้าจะได้อยู่ในบ้านหลังนี้จนกว่าจะจบการศึกษา หรือ บางคนก็ไม่อาจจะไม่จบ. เอาละข้าพูดมาพอแล้ว ขอให้พวกเจ้าตั้งใจฟังสิ่งต่อไปนี้เพราะจะเป็นตัวลิขิตอนาคตของพวกเจ้าทุกคน” ราชานั่งลงบนบันลัง. 

ทันใดนั้น เลขาที่ใส่ชุดคลุมสีขาวก็ เดินออกมาพร้อมกับดึงเอา กระดาษม้วนออกมาจากชายแขนเสื้อ. “ต่อไปนี้ จะอธิบาย การขัดสีเข้าสู่แต่ละบ้าน ขอเชิญ เหล่าผู้นำของแต่ละบ้านออกมาประจำตำแหน่งด้วย. 

“ผู้นำสีแดง แห่งบ้าน ฟีนิกซ์ ซอนยา วากิโน” ผู้หญิงหัวสีแดงเพลิง ผิวสีแทน เดินออกมายังหน้าระเบียงพร้อมกับเหล่า นักเรียน ปี2-3 ของเธอ. เธอนั้นใส่ชุดน้อยชิ้นมากทำเอาผู้ชายหลายๆคนถึงกับจ้องตาเป็นมัน “ไหนมีใครน่าสนใจบ้าง” ซอนยากวาดสายตาไปรอบๆพีพร้อมกับยิ้มอย่างน่ากลัว. ทุกคนที่เห็นไม่กล้าสบตามองและก้มหน้าในทันที

“ผู้นำสีเขียวแห่งบ้าน  กริฟฟริน เอมิลี้ เอทิลร่อน” ผู้หญิงผอมเพรียว เดินออกมาพร้อมกับผ้าคลุมสีเขียว หน้าอกของเธอนั้นใหญ่โตจนทำให้ผ้าคลุมไหล่ที่เธอสวมปิดบังได้ไม่มิด. 

“ผู้นำสีฟ้าแห่งบ้าน ยูนิคอร์น อิลอซโซ้ ราวีเร่” ผู้ชายผอมสูงเดินออกมาพร้อมกับ ผ้าพันคอที่สีน้ำเงินปิดปากยาวจนถึงพื้น. “ราวีเร่.. งั้นก็เป็นพี่ชายของ เจ้าหญิง ราวีเอร่านะสิ” ผู้ฟังเริ่มพูดคุยกัน.

 “ผู้นำสีเหลืองแห่งบ้าน เปกาซัส เซบัสเตียน สตอโลน“ ชายร่างกายกำยำเดินออกมาพร้อมกับที่ขาดเอวสีเหลือง ตัวเขาถือว่าใหญ่มากหากเทียบกับคนอื่น เขาอาจจะสูงถึง 2 เมตรครึ่งเลยทีเดียวเขาไว้เคราไม่ยาวหนักมันทำให้ใบหน้าของเขาเข้มขรึมเป็นอย่างมาก 

“และผู้นำสีทองแห่งบ้าน ไวเวิร์น เซลติก โกลค์ คริมาตา” ลาคัสถึงกับหันไปมองยัง ระเบียงของสีทอง. ตัวตลกเดินออกมายังระเบียง พร้อมโบกมือไปยัง ผู้ที่อยู่ข้างล่าง. 

“นั้นมันตัวตลกหน้าที่รับสมัครนิ” 

“เดี่ยวสิ เซลติก โกลค์ คริมาตา ..เขาเป็นผู้จบสงครามของ 10ปีก่อนไม่ใช่หรอ และ นั้นมันนามสกุล เดียวกันกับองค์ราชาเลยนะ” 

“ใช่ ท่านซิลเว้อที่อยู่ข้างหน้าก็นามสกุลเดียวกัน”

 “แล้วทำไมถึงใส่ชุดตัวตลกมาละ” ผู้คนเริ่มตั้งคำถามไปต่างๆนาๆ. ลาคัส ยิ้ม ดวงตาของเขาเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด. 

“มันยังชอบแต่งตัวแปลกๆเหมือนเดิมเลยนะ” ผู้นำสีแดงพูด พรางหัวเราะ. “ฮาๆๆ...เซลติก ข้าโคตรชอบการแต่งตัวของเจ้า”เลย ชายร่างใหญ่ จากระเบียงสีเหลืองหัวเราะสียงดังก่อนจะปาดน้ำตาที่เล็ดออกมาเพราะการหัวเราะ. 

“ โกลด์ ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ชอบชุดตัวตลกของเจ้า”ราชาที่นั่งอยู่บนบันลัง ชำเลืองมองไปยังระเบียงของสีทอง. 

“ขออภัยฝ่าบาท”  เซลติก ดึงชุดตัวตลกออก ทำให้เห็นชุดสีขาวกับ กับกำไลสีทอง และผ้าขาดหัวสีทองแบบเดียวกับซิลเว้อ อันแวววาว.  ซิลเว้อออกอาหารตื่นเต้นเล็กน้องเมื่อได้เห็น พี่ชายของเขายืนอยู่บนระเบียง 

“ ขออธิบายถึงเรื้องบ้านพิเศษสักหน่อย บ้านสีทองนั้น จะถูกจัดให้สำหรับผู้ที่ถูกเลือกจากรูปปั้นคัดกรองเป็นพิเศษเท่านั้น สีทองหมายถึงการที่มีพลังอันเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นน้อยคนมากจะได้เข้าไปยังบ้านสีนี้ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าการอยู่บ้านสีอื่นนั้นด้อยกว่า ไม่มีการยืนยันว่า ทุกคนที่เข้าไปยังสีนี้จะประสบ ความสำเหร็จ”

ต่างมีเสียงซุบซิบกันในหมู่ผู้ผ่านการทดสอบ 

“ได้ข่าว ว่าบ้านสีทองหินมาก ตัวท่าน เซลติก เองถ้าไม่พอใจใครก็ไล่ออกทันที”

“ใช่ๆ ดูได้จากระเบียงบ้าน ไม่มีใครมาเลย เมื่อเถียบกับบ้านหลังอื่นที่มีรุ้นพี่มา 3-4คน”

 

“ต่อจากนี้พวกเจ้าทุกคนจะถูกคัดสรร ผ่านรูปปั้นของ ผู้สร่างอาณาจักร light kingdom ซึ่งก็คือบรรพบุรุษของราชาองค์ปัจจุบันนั้นเอง เลขาในชุดคลุมขาว ท่องคาถาโบราณซึ่งทำให้ ดาบที่ปักอยู่กับพื้นของรูปปั้นค่อยๆเปลี่ยนจากหินเป็น อัญมณีสีใส”พวกเจ้าแต่ละคนจะต้องมายืนข้างหน้ารูปปั้นอันศักดิ์สิทธิ์นี้ แล้ว อัญมณี จะทำการคัดเลือกพวกเจ้าไปอยู่ในบ้านแต่ละหลัง สีแต่ละสีจะบ่งบอกถึงตัวตนของพวกเจ้าทุกคน เมื่อถูกเลือกแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนสีได้ ขอให้เข้าใจโดยทั่วกัน” ผู้ชายที่ใส่ชุดคลุยสีขาวเก็บ ม้วนกระดาษไปก่อนจะพูดว่า “ขอเชิญเหล่าขุนนางเข้าสู่พิธีการเลือกบ้านได้นะบัดนี้” ลูลุช ลุกขึ้นมาก่อนจะเดินไปยังหน้ารูปปั้น. ดวงตาของรูปปั้นส่องแสง ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวดาบ. มีสีต่างๆมากมายพุ่งออกมาจากดาบอัญมณี. ฟิ้วๆ แต่ละสีวิ่งวนไปมาก่อนจะหมุดกลับมาที่ ผู้ที่ยืนอยู่ ปรากฎเป็นสีเขียวสว่าง. ราชายิ้มพร้อมปรบมือให้กับลูลุช ทำให้ทั้งห้องก็ปรมมือไปด้วยเช่นกัน

 “เย้..เสียงเล็กๆ ลอดออกมาจากระเบียงของสีเขียว อุ้ย...ขอโทษค้า” เอมิลี้หัวเราะแห้งๆ. 

“ท่านเนี้ยน้า ดีใจจนออกหน้าทุกที” เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้วยส่ายหัว. 

“นะๆ เราได้คนน่าสนใจเลยนิ” ผู้ชายอีกคนยิ้มพร้อมกับมองไปยังลูลุช.  ทันใดนั้นแสงสีเขียวที่เท้าของลูลุช ก็ทำให้เธอลอยขึ้นไปยังระเบียงของบ้านสีเขียวในทันที. “ยินดีต้อนรับน้า” เอมิลี้โบกมือพร้อมกับยิ้มให้” เชิญคนต่อไป การคัดเลือกเริ่มดำเนินการไปเรื้อยๆ บัททิว ได้ไปอยู่กับสีแดง ฝาแฝดทั้ง 2 ไปยังบ้านสีฟ้า โมเลีย ได้บ้านสีเหลือง เจ้าหญิงราวิเอร่ากลับได้บ้านสีแดง. ทุกคนถึงกับงง เพราะตัวองค์หญิงน่าจะได้อยู่กับผู้เป็นพี่แท้ๆของเธอที่บ้านสีฟ้า  แต่กลับไปอยู่สีแดงแทน

ผู้นำสีแดงออกอาการตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด 

“ เห้ย อิลอซโซ้ น้องสาวเอ็งได้อยู่กับข้าวะ” พร้อมหัวเราะเสียงดังไปยังบ้านสีฟ้า. หัวหน้าบ้านสีฟ้าไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะดึงผ้าพัดคอขึ้นมาบังปากของเขา

      มาถึง ซิลเว้อ องค์ราชามองดูอย่างใจจดใจจ่อ. โกลด์เองก็มองมาที่น้องของเขาเช่นกัน มือของเขานั้นพาดเอวพร้อมจ้องไปยังน้องชายของเขาอย่างไม่ละสายตา. ซิลเว้อเดินไปข้างหน้ารูปปั้น  แสงค่อยๆรวมตัวกันขึ้นมามหาศาล ทันใดนั้นดาบก็เปลี่ยนสีในทันที สีเขียว. 

 “เอ๊ะ” ทุกคนต่างตกใจ “นี้ก็อีกคนไม่ใช่ว่าต้องได้สีทองแล้วไปอยู่กับท่าน โกลด์หรอ”

 ผู้คนเริ่มพูดคุยกันอย่าง งุนงง. องค์ราชาถอนหายใจดุจโล่งอก. พลางคิดในใจ ดีนะซิลเว้อได้ไปอยู่บ้านอื่น นี้ขืนไปอยู่ กับโกลด์ แล้วออกมาบ้าๆบอๆ อณาจักรนี้จะเป็นอย่างไรละเนี้ย. ตัวซิลเว้อก้มหน้า ใครดูก็คงสำผัสได้ถึงความผิดหวังที่ออกมาจากเจ้าตัว.

 ซิลเว้อค่อยๆลอยขึ้นไปยังบ้านสีเขียว ดวงตายังคงมองไปที่บ้านสีทองที่ขณะนี้ยังไม่มีใครสักคนยืนอยู่ข้างพี่ของตน. โกลด์ ได้แต่โบกมือให้ อย่างยิ้มแป้น. 

“ไม่เป็นไรข้าจะแสดงให้ท่านพี่เห็นถึงความสามารถของข้า” ซิลเว้อกำมือแน่น. 

หลังจากนั้นการขัดเลือกก็ดำเนินต่อไป แต่ละคนแยกย้ายไปยังสีที่ตัวเองได้ แต่บ้านเดียวที่ยังไม่มีใครได้ย่างเท้าเข้าไปเลยคือบ้านสีทอง.

 “ปีนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครไปบ้านสีทองเลยนะ” ชายร่างใหญ่ที่มีมี่ขาดเอวสีเหลืองทำหน้าเบื่อๆนิดหน่อย. 

สาวหัวสีแดงก็คิดเช่นเดียวกัน ว่าปีนี้อาจจะน่าเบื่อกว่าที่คิด

“ใจเย็นอาจารย์ยังเหลือไอนั้นอีกคนไง” บัททิวชี้ไปยังเด็กคนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่. คนๆนั้นคือลาคัส เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหน้ารูปปั้น. ทุกคนต่างจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มที่หล่อเหลา ผู้หญิงทุกคนถึงกับตกอยู่ในภวังค์ 

“เด็กบ้านี้มันหล่ออะไรขนาดนี้เนี้ย” “ผู้นำบ้านสีแดงชะงัก

 “เด็กนั้นน่ารักมากเลย” ผู้นำสีเขียวเอามือท้าบ อก.

“เอาละไหนดูหน่อยว่าเจ้าไปอยู่บ้านไหน” เซลติกคิดในใจ. ไม่ใช้แค่เซลติก แต่ทุกคนที่ได้เห็นฝีมือต่างอยากรู้เช่นกัน บางคนก็คิดว่าเขาอาจจะเป็นผู้มีพลังเป็นพิเศษ หรือ เขาอาจจะแค่โชคดีที่เข้ามาได้ถึงที่นี้ แสงจากตัวดาบค่อยๆ วิ่งออกไปเป็นหลายสาย มันบินวนรอบตัวลาคัสไปมา ก่อนจะแตกกระจายออก. ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ถึงกับงง เพราะการคัดเลือกไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน. แสงค่อยๆบินวนไปมาก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวสว่าง. เลขาที่ยืนอยู่ถึงกับงงเพราะไม่เคยเห็นสีขาวมาก่อน และนี้มันเป็นแสงที่แสบตามากจริงๆ แต่ทันใดนั้น ดาบอัญมณีที่เป็นขาว ก็ค่อยๆหม่นหมอง มันกลับหม่นลงเรื้อยๆ. ก่อนที่ตัวดาบจะกลับไปเป็นหินอีกครั้ง ผู้คนต่างตกใจกันยกใหญ่ แม้แต่ตัวราชาเองยังถึงกับ บีบ แขนเก้าอี้จนแตก. 

“อะไร มันเกิดอะไรขึ้น? องค์ราชาหันไปมอง ลาคัสที่ยืนอยู่ตรงกลางลาน ด้วยสายตาอันดุดัน. ในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีใครไม่ได้สีจาก 5 สีประจำบ้าน มาก่อน มันเป็นสิ่งที่ใหม่เกินจนคนธรรมดาจะเข้าใจ.

 “เจ้าหนูเจ้ามาจากไหน และใครคือพ่อแม่ของเจ้า” องค์ราชาถามไปยังเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่  ทั้งห้องอยู่ในความเงียบ ไม่มีไครกล้าเอ่ยใดๆทั้งสิ้น ลาคัสยืนมองไปยังราชาไดม้อน ก่อนจะปิดตาและกุมอกเขาหายใจเข้าสุดปอดก่อนจะกล่าว

 “ข้าชื่อ ลาคัส ข้าไม่มีพ่อและแม่ ข้าอยู่กับ อาจารย์ของข้าแค่ 2คน” เด็กหนุ่มตอบอย่างหนักแน่น 

“อาจารย์? อาจารย์ของเจ้าคือใคร?” ราชาไดม้อนถาม

 “อาจารย์ของข้าขื่อ ไมเคิ้ล แต่ท่านได้เสียไปแล้วเมื่อ 7ปีก่อน..” 

“7ปี? เท่ากับเจ้านั้น 7ขวบเองไม่ใช่รึไง แล้วกระบวนยุทธ์ที่เจ้าใช้ไครเป็นคนสอน ไม่มีทางที่เด็ก 7ขวบจะเข้าใจได้ขนาดนั้นเป็นแน่” ลาคัสมองไปยังราชาที่ยืนอยู่ก่อนจะมองไปรอบๆตัว. ทุกคนต่างสงใสเช่นกัน เพราะในงานทดสอบ สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นเป็นอะไรที่เกินกว่าจะจินตนการได้. 

 “ประทานอภัย แต่ข้าเรียนทุกอย่างจาก อาจารย์ของข้าคนเดียวเท่านั้น” ลาคัสมองไปยัง ราชาที่ยืนอยู่อย่างแน่วแน้ 

“ไมเคิ้ล? ชื่อที่เจ้ากล่าวถึงนั้นมีเป็นร้อยเป็นพันช้วยเจาะจงหน่อยได้ไหมเจ้าหนู”

 ลาคัสลังเล เล็กน้อย

 “ข้าก็ไม่สามารถอธิบายได้หมด คนแรกที่ข้าลืมตาแล้วเจอก็คือ อาจารย์ของข้า เขานั้นแก่ชรามากแล้ว เขาเลี้ยงดูข้าตั้งแต่เยาว์วัย แต่ตัวข้าก็ไม่รู้เรื้องราวของอาจารย์ มากมายเพราะท่านเป็นคนเงียบๆ คงต้องขออภัยองค์ราชาด้วย” ลาคัสก้มตัวลงช้าๆ. 

ไลเก้อ ที่ยืนมองอยู่ก็สัมผัสได้ ถึงแม้ยามปรกติ ลาคัสนั้นจะดู บ๋องๆ แต่ยามที่อยู่ต่อหน้าผู้มีอำนาจ กลับดูฉะฉาน แข็งแกร่ง อย่างน่าประหลาด .

 “แล้วอาวุธนั้นของ เจ้ามันคืออะไร เจ้าหนู” ทุกคนต่างมองไปยังซากอาวุธที่ดูไม่ออกว่าเป็นชนิดไหนกันแน่ นั้นคงเป็นคำถามที่หลายๆคนสงสัย โดยเฉพาะ

ลูลุชที่ได้เจอกับเด็กหนุ่มเป็นคนแรกๆ ตอนนี้แม้แต่ตัวเจ้าของก็ชำเลืองมองไปยังอาวุธของตน. “ท่านได้มอบสิ่งนี้ไว้ให้ข้าก่อนท่านจะเสีย มันเป็นของดูต่างหน้ามากกว่า” ราชาหันไปมองยังเลขาที่ยืนอยู่ “เด็กนั้นพูดความจริงพะยะค่ะ”  

“สิ่งสุดท้ายที่ อาจารย์ข้ากล่าวคือ เมื่อเจ้าอายุ 14 เจ้าจงออกเดินทางไปยังเมืองอันไกลโพ้น และจงลิขิตชะตาของเจ้าเองเถอะ” ราชานั่งลงบนบันลังอีกครั้ง “สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อัญมณีที่กลับกลายเป็นหิน...มันอาจหมายถึงเจ้าไม่เหมาะสมที่จะอยู่ที่สถาบัญแห่งนี้ก็เป็นได้... เจ้าจะทำอย่างไรเจ้าหนู?” เด็กหนุ่มหยุดคิดไปสักพักก่อนจะตอบไปว่า 

“ตัวของข้านั้นเฝ้ารอวันนี้มายาวนานถึง 7 ปี ตัวข้าได้พิสูจน์ความสามารถ ออกไปให้ได้ประจักษ์กันแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่ตัวฝาบาท” 

ลาคัสก้มหน้าลงเล็กน้อย คำพูดของเด็กหนุ่มนั้นแทงใจราชาไม่ใช่น้อย ตัวราชานั้นรู้ดี เพราะถ้าเขาปฏิเสธที่จะรับลาคัสเข้าสู่สถาบัน เขาคงจะเสียดายอัจฉริยะ บุคคลที่ ไม่รู้ว่าในช้วงชีวิตของเขาจะมีโอกาสที่จะได้เห็นอีกรึไหม. แล้วการที่จะปล่อยให้บุคคลที่สามารถเติบโตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไปอยู่ยังดินแดนอื่นนั้น เขาคงจะเสียหน้าแก่บรรพบุรุษที่ก่อตั้งอาณาจักรจนมีชื่อเสียงไม่ใช้น้อย.

“ท่านพ่อ... ไม่สิองค์ราชา ขอข้ารับเด็กนั้นมาอยู่ในการดูแลเองจะได้ไหม” เซลติกชูมือขึ้นพร้อมมองไปยังเด็กหนุ่ม

 “โกลด์ เจ้าแน่ใจงั้นรึ”

 “แน่นอนอีกอย่างบ้านสีทองเองก็ไม่ได้มีเด็กเข้ามาทุกปีอยู่แล้ว นอกจากสองปีที่แล้วที่มี 2 คนนี้ก็ห่างหายไป 3-4ปีได้แล้ว” เซลติกยิ้มอย่างมั่นใจ. นี้ยิ่งทำให้ทุกคนเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง มันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีไครสักคนที่ได้เข้าไปยังบ้านสีทอง หากแต่การทำเช่นนี้จะไม่เป็นการเข้าข้างกันเกินไปรึเปล่า นี้หมายความว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะได้ทำการเรียนตัวต่อตัวกับบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้จบสงครามจากศึกครั้งก่อนและยังเป็นคนที่มีสิทธิ์จะได้สมยานาม The Master ที่อายุน้อยที่สุด และนั้นอาจทำให้หลายๆคนต้องอิจฉา 

“งั้นข้าจะถามความเห็นของผู้นำบ้านทุกคน ถ้าทุกคนตกลงก็จะเป็นไปตามนั้น.. มี่ใครจะข้านการที่จะให้เด็กนั้นไปอยู่บ้านสีทองไหม” ทุกคนต่างก้มหัวลงไม่มีใครเอ่ยอะไรทั้งสิ้น 

“ดี..ก็เอาตามนั้น..โกลด์เจ้าจงดูแลเด็กหนุ่มนั้นให้ดี เอาละการขัดเลือกนั้นได้จบแล้ว พวกเจ้าทุกคนจะต้องพิสูจน์ตนเองว่าเหมาะสมที่จะเรียนในสถานที่นี้ จงอย่าทำให้ชื่อของสถาบันต้องหม่นหมอง โดยเฉพาะเจ้า” ราชาไดม้อนมองลงไปยังเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ 

“พวกเจ้าทุกคนคงจะเหนื่อย ข้าได้เตรียมอาหารชั้นเลิศไว้รองรับพวกเจ้าแล้ว... ยินดีต้อนรับสู่ light academy”  สุดเสียงขององค์ราชา พื้นที่อยู่รอบเท้าของลาคัสก็ปรากฏเป็นแสงสีทอง

 “เจ้านี้มันตัวดูดเรื้องชั้นยอดเลยนะ” เซลติกเอนหัวมองไปยังเด็กหนุ่มที่กำลังลอยขึ้นมา

 “ข้าไม่ได้ทำไรเลยนะพี่ชาย” ลาคัสหัวเราะก่อนที่ตัวเขาจะลอยขึ้นมายังระเบียง. ผู้คนในห้องต่างดีใจและเริ่มพูดคุยกับคนในบ้าน.

“ข้านะไม่โอ๋เจ้าหลอกนะไอหนู ถ้าไม่ไหวนะเจ้าตายแน่นอน” เซลติกเดินนำลาคัสไปยังห้องโถง เสียงเฮฮาของผู้คนในบ้านต่างหัวเราะอย่างสนุกสนาน มีเพียง เหล่าขุนนาง และ ผู้นำแต่ละบ้านที่มองไปยังระเบียงของบ้านสีทอง ถึงไม่ต้องคุยกันแต่ทุกคนก็ให้ความสนใจเด็กคนนี้ไม่น้อย. ลูลุช มองไปยังหนุ่มรูปงาม

“ข้าอยากรู้จักเจ้ามากกว่านี้ เจ้าน่าสนใจจนเกินไปแล้ว”.

 งานเลี้ยงได้ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ อาหาร นาๆชนิดถูกเรียงวานไว้บนโตะยาวประจำของแต่ละบ้าน

 “โหอะไรเนี้ย น่ากินเหลือเกิน” ลาคัสมองไปยังอาหารที่เปล่งประกาย สำหรับเขาแล้วที่โตมากับ อาจารย์เพียง 2 คน ปรกตินั้นเขาก็ได้เพียงล่าสัตว์ จับ สัตว์ มาทานเพื่อประทังชีวิต สิ่งที่เขาเห็นมันทำให้เขาตื่นตาเป็นอย่างมาก นั้นคงเป็นความคิดของใครหลายๆคน. เด็กหนุ่มที่หล่อเหลา ประวัตชีวิตที่คลุมเครือ และยังอาวุธที่ดูแปลกประหลาดนั้น คงพูดได้ว่าตอนนี้ไม่มีใครไม่อยากรู้เรื้องราวของ เด็กหนุ่มลาคัสอย่างแน่นอน. ราชาไดม้อน มองไปยังชีวิตใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น 

“มันดีแล้วหรือครับองค์ราชา” ชายในชุดเกราะสีทรายยืนหยุดนิ่ง 

“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน..ไปเตรียมราชรถให้ข้า ข้าจะกลับไปยังเมืองหลวง” เลขาก้มลงเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป.  

 

…………………………………………………………………………………………………………………………..

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา