LacuXs: Academy of Light
-
เขียนโดย VonDerVisE
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.05 น.
8 ตอน
1 วิจารณ์
4,599 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 14.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) การสอบเข้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ณ จตุรัสกลางเมืองที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วย เสาขนาดใหญ่ ทั้ง 4ทิศ ตรงกลางของจตุรัสนั้น มี ผลึกแก้ว คริสตัลขนาดมหึมา ว่ากันว่า นี้คือ ผลึกเวทมนต์ที่ครั้งหนึ่ง ผู้ก่อตั้งเมือง sandford ได้ใช้เพื่อปกป้องประชาชนของเขาจากสงครามกับพวก dark mage มันจึงเป็นดั่งสัญลักษณ์ของเมือง sandford และเป็นจุดดึง ดูดนักท่องเที่ยวจากทั่ว สารทิศ มันยังเป็นดั่งสวนให้ผู้คนในเมืองได้พักผ่อน เข้ามาใช้ชีวิตกันอย่างสนุกสนาน ในพื้นที่อันสวยงาม แต่วันนี้ของทุกปี ที่จตุรัส จะกลายเป็นสนามสอบให้กับผู้ที่ต้องการจะเข้าไปศึกษายังสถาบัน light academyพื้น ที่ทั้ง สี่ ทิศ ของจตุรัสจะถูกแบ่ง เป็นโซนการทดสอบ โดยพื้นที่ทิศใต้จะเป็นที่สมัครสอบ, ตะวันออก เป็น ที่วัดพลังปราณ, เหนือเป็นที่วัดพลังกาย, และตะวันตก เป็นที่ประลอง โดย เหล่าอาจารย์จากสถาบันจะมาดูการประลอง เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าไม่มีไครโกง ก่อนเข้าไปยังสถาบันอันโด่งดัง
ผู้คนจากทั่วทุกทิศเริ่มทยอยมาที่จตุรัสกันอย่างล้นหลาม ประชาชนธรรมดาไปนั่งจับจองพื้นที่รอบๆเพื่อดูการสอบเข้า ผู้คนเริ่มไปแออัดกันที่ เสาทิศใต้เพื่อที่จะสมัครเข้าด้วยจำนวนขนาดนี้ เหล่าผู้คุมที่นั่งอยู่ต่างยุ่งอยู่กับการจัดการกับเอกสาร
“ใจเย็นๆ นะค้า ทีละคน” สาววัยกลางคนกำลังบอกให้ผู้สมัครแต่ละคนใจเย็นลงเนื้องจากว่าทีมงานของเธอไม่สามารถลองรับทุกความต้องการได้ เธอนั้นปวดหัวกับสิ่งที่เจอมากแต่ก็มีเหมือนเสียงที่ช้วยชีวิตของเธอไว้
“เอาละทุกคนไม่ต้องแย่งกัน เข้าแถวกันให้เป็นระเบียบนะจ้า” ทุกคนหันไปมองยังทิศทางของเสียงที่ลอยมา เป็นตัวตลกที่ยืนเด่นอยู่บนยอดน้ำพุ ของจตุรัส ทางทิศใต้
“ทุกคนโปรดฟัง ทางนี้ การจะสมัครสอบ นั้นถูกแบ่งเป็น 4 โซน แต่ก่อนอื่น การจะสมัครเข้าได้นั้นโปรดเตรียม 10 เหรียญเงิน ไปยังโซนใต้เพื่อที่จะได้เข้าไปทดสอบนะจ้าทุกคน” ตัวตลกบิดตัวไปมาระหว่างพูดอยู่บนยอดน้ำพุ
“โปรดใจเย็นและเข้าแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ก่อเรื้อง ไม่อย่างนั้นระวังจะถูกผู้คุมตัดสิทธิ์การสมัคร นะจ้า” หลังจากได้ยินดังนั้นผู้คนก็เริ่มจัดแถวใหม่เพื่อให้เป็นระเบียบมากขึ้น
“แย่แล้ว!! 10เหรีนญเงิน ก็ว่าคุ้นๆ เหมือนอาจารย์เคยบอกอยู่ แต่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจเอาเงินที่อาจารย์ให้ไปซื้อของกินระหว่างเดินทางมาเมืองนี้จนหมดละอะดิ”
เด็กหนุ่มคิดในใจพร้อมกับยืนคิ้วขมวด เอามือจับคาง
“นี้คุณตัวตลก.... นี้”
ตัวตลกหันไปหาเสียงที่เรียกเขาอยู่ ดวงตาของเขาหลี่ลง เผยให้เห็นหนุ่มน้อยที่สพายอาวุธพังๆ “ว่าไงไอหนู” ตัวตลกยืนท้าวเอว ก่อนจะมองลงมาจากน้ำพุ
“คือว่า ผมไม่มี 10เหรียญเงินอะ ดิ มีวิธีไหนให้เข้าไปสอบได้ไหมอะคุณตัวตลก”
ตัวตลกยิ้มก่อนจะกระโดดตีลังกาลงมาจากยอดน้ำพุแล้วยืนด้วยแขนทั้งสองข้างอย่างสวยงาม ชาวบ้านปรบมือให้กำการแสดงเล็กน้อย “ขอบคุณครับ ขอบคุณ” ตัวตลกโบกมือให้กับประชาชน “เจ้าหนู มีคนฝากนี้มาให้เจ้า” ตัวตลกชูมือขึ้นมา แล้วเขาก็ดึงถุงออกมาจากไหนไม่รู้ ก่อนจะโยนไปให้เด็กหนุ่ม “นั้น 10 เหรียญเงิน รีบเอาไปสมัครสะสิ” เด็กหนุ่มถึงกับงง
“ไครฝากมาอะคุณตัวตลก ผมไม่รู้จักไครเลยนะ” “ฮืมม...นั้นนะสิไครกันน้า” ตัวตลกบิดตัวไปมาก่อนจะกระโดดกลับขึ้นไปยังยอดน้ำพุอีกครั้ง
“รีบไปได้แล้วข้างานยุ่งนะเจ้าหนู” “อะ” เหมือเด็กหนุ่มจะคิดอะไรออกก่อนจะยิ้มแล้วเริ่มวิ่งไป “ขอบคุณนะครับ เซลติก” เด็กหนุ่มวิ่งไปพร้อมโบกมือลามายังตัวตลก
“เอาละม่านการแสดงได้เปิดขึ้นแล้ว” ตัวตลกก่าวก่อนจะเริ่มทำหน้าที่ของเขาอีกครั้ง
“ฮืมม?”
เด็กหนุ่มต่อคิวไปอย่างช้าๆ “เห้ย หลบไปนี้มันนานจนข้าขี้เกียจรอแล้ว” ชายร่างยักษ์ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด “หลบไปๆ” เขาเริ่มเดินชนคนที่อยู่ในแถวไปเรื้อยๆ ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตทำให้เขาไม่ได้ใส่เกราะอะไรมาด้วย ที่ข้างเอวมีลูกตุ้มขนาดมหึมา มาด้วย แต่กลับมาหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่ม ที่ตัวสูงแค่ช้วงเอวของเขาเท่านั้น “มองอะไรไอหนู อยากตายหรือไง”
“คุณควรกลับไปต่อแถวนะ คนอื่นก็รอคิวเหมือนกัน” เด็กหน่มพูดกับชายร่างยักษ์อย่างตรงไปตรงมา ผู้คนแถวนั้นเริ่มถอยห่าง ไม่อยากจะมีเรื้องสักเท่าไหร่ เพราะชายร่างยักษ์นั้น คือ โอราวาน ผู้ที่ถูกขนามนามว่ายักษ์แห่งขุนเขา ชายร่างยักษ์หงุดหงิดกับคำพูดของเด็กหนุ่ม เขาง้างมือขนาดใหญ่หวังสัดเด็กหนุ่มให้กระเด็น
“ตัวแค่นี้ยังจะมาสมัครงานอย่างงี้อีกเรอะ” หมัดของเขาพุ่งใส่อย่างแรงทำให้เกิดคลื่นลมรุนแรงปะทะ เด็กหนุ่มรีตาลงพร้อมกับกำลังจะยกมือขึ้น แต่ยังไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น คลื่นลมก็ถูกหยุด ด้วยตัวตลกกับนิ้วเพียง หนึ่งนิ้วเท่านั้น
“ผมบอกแล้วนะว่าไม่ให้ก่อเรื้องนะ” ตัวตลกหมุนนิ้วเป็นวงกลม ก็ทำให้ โอราวาน หมุนเคว้ง หน้าฟาดลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง ตึง.. ผู้คนต่างมองไม่ละสายตา
“โอะ.. ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มให้กับตัวตลก ตัวตลกชูมือขึ้น พร้อมโบกมือเบาๆ เหล่าทหารที่คุ้มกันก็โผล่โค้งเล็กน้อยก่อนจะพาร่างที่หมดสติของ โอราวานไป
“เจ้านี้เป็นตัวดึงดูดปัญหาชั้นดีเลยนิเจ้าหนู” เซลอติกแอ่นหลังหันมามอง เด็กหนุ่ม
“ผมยังไม่ทันทำอะไรเลยนะครับ” เด็กหนุ่มยืนกอดอกหน้าตาฉุนหนิดหน่อย ก่อนตัวตลกจะทำมือเหมือนไล่เบา ด้วยการสบัดหลังมือ พร้อมยิ้มและหายไปในที่สุด ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปรกติ ผู้คนเริ่มต่อแถวอีกครั้ง เด็กหนุ่มเดินจนไปถึงแถวหน้าซึ่งก็เป็นเวลาใกล้เที่ยงพอดี
“กรุณาว่าง 10 เหรียญเงินไว้ ด้วยคะ” หญิงสาวกล่าว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากการเก็บเอกสาร เธอถึงกับตลึงในความของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ เด็กหนุ่มล้วงไปหยิมถุงเงินก่อนจะวางมันลงบนโตะสมัครทันที
“ข...ขอชื่อกับอายุ ด้วยคะ” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเพราะความเขินอาย
“ลาคัส อายุ 14 ปีครับ” “นามสกุลคะ” หญิงสาวพูดขณะกรอกใบสมัคร “อืม..ไม่มีครับ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะลังเลเล็กน้อย “เธอไม่มีนามสกุล จริงๆหรอ” ที่หญิงสาวถามอย่างนั้นอาจเป็นเพราะหน้าตาที่หล่อเหลา เมือนผู้ดีชั้นสูง หากเธอเขียนชื่อโดยไม่มีนามสกุล แล้วเด็กคนนี้เป็นทายาทของคนชั้นสูง เธออาจจะเดือดร้อนได้
“ไม่มีครับ...หรือพี่สาวจะเอานามสกุลพี่สาวใส่ไปก็ได้นะครับ”
เด็กหนุ่มตอบอย่างตรงไปตรงมา หญิงสาวหน้าแดงเป็นอย่างมาก ตัวเธอก็อายุไม่ได้ห่างจากเด็กคนนี้มากนัก การที่จะให้นามสกุลไครไปก็เหมือนเป็นการขอแต่งงานโดยชอบธรรม “เด็กบ้า..ไม่มีก็ไม่มี” เธอกรอกใบสมัครจนเสร็จ ก่อนจะยื่นให้ ลาคัส เซ็นรับรอง ตึง! เสียงตราได้ถูกประทับลงบนกระดาษหนังแกะอย่างดี “มันมี 4ช่องนิครับพี่สาว” เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย
“เธอจะได้ตราประทับทั้งสี่หากเธอผ่านการสอบคัดเลือกทั้งหมด”
เธอยื่นกระดาญที่มีสัญลักษณ์ของเมือง light kingdom พร้อมบอก “โชคดีกับการคัดเลือกนะ เชิญไปที่ เสาทางด้านทิศตะวันออก เพื่อทำการวัดโซลด้วยคะ” เธอชำเลืองมองเด็กหนุ่มด้วยความเขินอาย “อื้อ” เด็กหนุ่มยิ้ม ก่อนจะเดินออกไป สายตาของหญิงสาวยังคงจ้องมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มไม่ละสายตา
“เห้ ตาฉันแล้วใช่ไหม” เสียงของผู้ชายคนถัดไป ทำให้เธอตกใจก่อนจะร้อนรน รีบทำงานต่อในทันที
ณ เสาทางทิศตะวันออก ผู้คนต่างยืนรอการทดสอบวัดโซล การวัดโซลจะให้ผู้เข้าร้วม เอามือเข้าไปสำผัส กับผลึกแก้วตรงกลาง ผลึกแก้วข้างหลังจะมี 4 อัน ผู้เข้าการทดสอบจะไม่ต้องทำอะไรหากแต่ผลึกจะทำการตรวจสอบโดยอัตโนมัต ผลึกแต่ละอันจะบ่งบอกปริมาณโซลในร่างของแต่ละบุคคล หากโซลมีปริมาณที่มาก ผลึกข้างหลังก็จะส่องแสงและส่งไปยังผลึกถัดไป ใครที่ไม่อาจทำให้ผลึกเปล่งประกายได้เลยก็จะถือว่าสอบตกในทันที
“เห้ นายอะ” เสียงของใครคนนึงกำลังเรียกลาคัสอยู่ข้างหลัง เขาหันไปมองยังเสียงที่มาก็ได้พบกับเด็กชายร่างเล็กอีกคน เขาตัวเล็กกว่าลาคัสนิดหน่อยหากแต่พลองที่อยู่ด้านหลังของเขามันชั้งสูงเหลือเกินเมื่อเทียบกับขนาดตัวของเขา
“นายชื่ออะไรเราชื่อ ซุน ยินดีที่ได้รู้จัก มาเป็นเพื่อนกันนะ” เด็กน้อยถามด้วยประโยคทั้งพวงเล่นเอาคนฟังถึงกับงงไม่ใช้น้อย ลาคัสยิ้มพยักหน้า ก่อนจะบอกชื่อของออกตนไป
“นายอายุเท่าไหร่ มาคนเดียวหรอ มีใครรู้จักที่งานนี้ไหม แล้วนายเก่งรึเปล่า”
คำถามเยอะแยะทำเอาลาคัสตอบไม่ทันเลย และได้แต่ทำหน้าแปลกประหลาด
ลาคัสมองไปยังเด็กน้อยที่มีนัยตาสีเขียวและตอบคำถามไปทีละข้อ “งั้นนายก็เป็นพี่เรานะสิ” แต่ก่อนที่ ซุนจะทันได้ถามอะไรเพิ่ม ก็มีเสียงของผู้คุมที่ดึงเอาความสนใจของทั้ง สองไปก่อน
“ โซล ระดับ 2 เชิญไปยังเสาทิศเหนือได้เลยคะ” “โซลระดับ 1 เชิญไปยังทิศเหนือคะ” ผู้ตรวจสอบทำงานกันอย่างแข่งขัน เนื้องจากผู้คนนั้นเยอะจำเป็นต้องรีบทำเวลาก่อนที่ จะเข้าสู่ช่วงหลักของงานผู้คนมากมายเริ่มสำผัสไปที่ผลึก บ้างก็มีแสง บ้างก็ไม่มีแสง จนมาถึงคิวของลาคัส กับ ซุน
“เชิญผู้สมัครคนต่อไปด้วยคะ” ซุนและลาคัสขึ้นไปยังแท่นที่มีผลึกอยู่คนละอัน ซุน เอามือสำผัสที่ ผลึก ตาสีเขียวของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก่อนที่ผลึกจะส่องแสงออกมาอย่างสว่างไสว ผลึก ชิ้น ที่ 1 สีค่อยๆสว่างขึ้น ชิ้นที่2 ก็ ค่อยๆสว่างขึ้นเช่นกัน ทันไดนั้น ชิ้นที่ 3 ก็ค่อยๆสว่างขึ้น “3 ชิ้นเลยหรอ ไอเด็กนั้นมันอัจฉริยะชัด” ผู้คนที่ดูอยู่ถึงกับอุทาน
“โซลระดับ 3 เชิญไปยังเสาทิศเหนือได้เลยคะ” ซุนเอามือลง ก่อนจะมองไปที่ลาคัส
“เดี่ยวไปรอตรงนู้นนะ” ซุนกระโดดลงจากแท่นทดสอบ
เด็กหนุ่มค่อยๆเอามือสำผัสกับผลึกก่อนจะปิดตาแล้วสูดลมหายใจเข้าเบาๆ วิ้งๆ เสียงของผลึกค่อยๆดังขึ้น แต่มันกลับไม่มีแสงใดๆออกมาเลย ผู้คนข้างหลังต่างพากันหัวเราะ
“ฮาๆ ไอหนูกลับไปเลี้ยงวัวที่บ้านดีกว่ามั้ง”
“แปปนึงๆ ขออีกทีๆ” ลาคัสพูดกับผู้คุม ผู้คนต่างพากันขำ
“เชิญท่านต่อไป...” ก่อนจะพูดจบก็มีผู้คุมอีกคนมากระซิบอะไรสักอย่าง ผู้คุมหยุดนิ่งไปพักหนึงก่อนจะเอ่ย “เชิญลองอีกครั้งคะ ลาคัสยิ้มทั้นที เขาพยักหน้าและเอามือวางลงผลึกอีกครั้ง ผู้คนข้างหลังก็ยังเยาะเย้ย เด็กหนุ่ม ยังไม่ทันจะหมดเสียงหัวเราะ เปรี้ยๆ ผลึกค่อยๆร้าว มันไม่ได้ส่องแสงใดๆ มันผิดปรกติเป็นอย่างมาก โผละ!! ผลึกตรงกลางแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ใช่แค่นั้น ผลึกข้างหลังทั้ง 4 ก็แตกออกพร้อมๆกัน โผละๆๆๆ
ผู้คนถึงกับปากข้าง ไม่ใช่แค่ ผู้ทดสอบ แต่ผู้คุมก็ ปากข้างเช่นกัน
ฟู่.. ลาคัสถอนหายใจออก พร้อมกับยิ้ม
“ช...เชิญไปยังเสาทิศเหนือเลยคะ” เด็กหนุ่มยื่นตราไปให้ประทับก่อนจะเดินไปยังที่ต่อไป
“นายทำได้ยังไง” เด็กน้อยที่ยืนรอ ลาคัสอยู่ถามอย่างงุนงง
“ไม่รู้สิ” เด็กหนุ่มขำ พลางยิ้ม ทั้ง สองเดินไปยังเสาทิศเหนือ ที่ผู้สมัครจะต้องทำลาย ผลึกที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งให้ได้ ผู้เข้าทดสอบสามารถใช้อาวุธหรืออะไรก็ได้ในการทำลายผลึกนี้ ต้องกล่าวว่าผลึกนั้นแข็งมาก ผู้เข้าสมัครจำเป็นจะต้องควบคุม ออร่า หรือ มานา เป็นอย่างดีถ้าจะสามารถทำลายผลึกได้ เนื่องจากผลึกนั้นจะไม่แตกหากพลังไม่เพียงพอ และถ้าหากพลังมากเกินไป ผลึกก็จะไม่แตกเช่นกัน เปรียบง่ายๆคือ ผลึกนี้มีไว้เพื่อวัตรความสามารถในการควบคุมปริมาณและกำลังที่พอเหมาะนั้นเอง ผู้คนมากมายต่างพากันล้มเหลวเนื่องจากความหินของการทดสอบ
บางคนถึงกับเอ่ยว่าผลึกนี้คือการทดสอบที่เป็นไปไม่ได้ หากแต่ทั้ง ลาคัส และ ซุนนั้นใช้เวลาไม่นานในการเข้าใจ และสามารถทำลายผลึกลง ทั้ง 2ผ่านการทดสอบพลังกายนั้นอย่างไม่ยากเย็น ตราประทับถูกปั้มลงบนกระดาษหนังแกะของทั้ง 2 ขาดเพียง 1ตราเท่านั้น การประลองที่เสาทิศตะวันตก จะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะได้เข้าไปยัง สถาบันหรือไม่
ประชาชนเริ่มเดินทางไปยังที่ทดสอบสุดท้าย เพราะที่นี้ตือศูนย์รวมความตื่นเต้น จากผู้เข้าทดสอบทุกคน
…………………………………………………………………………………………………………………………..
ผู้คนจากทั่วทุกทิศเริ่มทยอยมาที่จตุรัสกันอย่างล้นหลาม ประชาชนธรรมดาไปนั่งจับจองพื้นที่รอบๆเพื่อดูการสอบเข้า ผู้คนเริ่มไปแออัดกันที่ เสาทิศใต้เพื่อที่จะสมัครเข้าด้วยจำนวนขนาดนี้ เหล่าผู้คุมที่นั่งอยู่ต่างยุ่งอยู่กับการจัดการกับเอกสาร
“ใจเย็นๆ นะค้า ทีละคน” สาววัยกลางคนกำลังบอกให้ผู้สมัครแต่ละคนใจเย็นลงเนื้องจากว่าทีมงานของเธอไม่สามารถลองรับทุกความต้องการได้ เธอนั้นปวดหัวกับสิ่งที่เจอมากแต่ก็มีเหมือนเสียงที่ช้วยชีวิตของเธอไว้
“เอาละทุกคนไม่ต้องแย่งกัน เข้าแถวกันให้เป็นระเบียบนะจ้า” ทุกคนหันไปมองยังทิศทางของเสียงที่ลอยมา เป็นตัวตลกที่ยืนเด่นอยู่บนยอดน้ำพุ ของจตุรัส ทางทิศใต้
“ทุกคนโปรดฟัง ทางนี้ การจะสมัครสอบ นั้นถูกแบ่งเป็น 4 โซน แต่ก่อนอื่น การจะสมัครเข้าได้นั้นโปรดเตรียม 10 เหรียญเงิน ไปยังโซนใต้เพื่อที่จะได้เข้าไปทดสอบนะจ้าทุกคน” ตัวตลกบิดตัวไปมาระหว่างพูดอยู่บนยอดน้ำพุ
“โปรดใจเย็นและเข้าแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ก่อเรื้อง ไม่อย่างนั้นระวังจะถูกผู้คุมตัดสิทธิ์การสมัคร นะจ้า” หลังจากได้ยินดังนั้นผู้คนก็เริ่มจัดแถวใหม่เพื่อให้เป็นระเบียบมากขึ้น
“แย่แล้ว!! 10เหรีนญเงิน ก็ว่าคุ้นๆ เหมือนอาจารย์เคยบอกอยู่ แต่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจเอาเงินที่อาจารย์ให้ไปซื้อของกินระหว่างเดินทางมาเมืองนี้จนหมดละอะดิ”
เด็กหนุ่มคิดในใจพร้อมกับยืนคิ้วขมวด เอามือจับคาง
“นี้คุณตัวตลก.... นี้”
ตัวตลกหันไปหาเสียงที่เรียกเขาอยู่ ดวงตาของเขาหลี่ลง เผยให้เห็นหนุ่มน้อยที่สพายอาวุธพังๆ “ว่าไงไอหนู” ตัวตลกยืนท้าวเอว ก่อนจะมองลงมาจากน้ำพุ
“คือว่า ผมไม่มี 10เหรียญเงินอะ ดิ มีวิธีไหนให้เข้าไปสอบได้ไหมอะคุณตัวตลก”
ตัวตลกยิ้มก่อนจะกระโดดตีลังกาลงมาจากยอดน้ำพุแล้วยืนด้วยแขนทั้งสองข้างอย่างสวยงาม ชาวบ้านปรบมือให้กำการแสดงเล็กน้อย “ขอบคุณครับ ขอบคุณ” ตัวตลกโบกมือให้กับประชาชน “เจ้าหนู มีคนฝากนี้มาให้เจ้า” ตัวตลกชูมือขึ้นมา แล้วเขาก็ดึงถุงออกมาจากไหนไม่รู้ ก่อนจะโยนไปให้เด็กหนุ่ม “นั้น 10 เหรียญเงิน รีบเอาไปสมัครสะสิ” เด็กหนุ่มถึงกับงง
“ไครฝากมาอะคุณตัวตลก ผมไม่รู้จักไครเลยนะ” “ฮืมม...นั้นนะสิไครกันน้า” ตัวตลกบิดตัวไปมาก่อนจะกระโดดกลับขึ้นไปยังยอดน้ำพุอีกครั้ง
“รีบไปได้แล้วข้างานยุ่งนะเจ้าหนู” “อะ” เหมือเด็กหนุ่มจะคิดอะไรออกก่อนจะยิ้มแล้วเริ่มวิ่งไป “ขอบคุณนะครับ เซลติก” เด็กหนุ่มวิ่งไปพร้อมโบกมือลามายังตัวตลก
“เอาละม่านการแสดงได้เปิดขึ้นแล้ว” ตัวตลกก่าวก่อนจะเริ่มทำหน้าที่ของเขาอีกครั้ง
“ฮืมม?”
เด็กหนุ่มต่อคิวไปอย่างช้าๆ “เห้ย หลบไปนี้มันนานจนข้าขี้เกียจรอแล้ว” ชายร่างยักษ์ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด “หลบไปๆ” เขาเริ่มเดินชนคนที่อยู่ในแถวไปเรื้อยๆ ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตทำให้เขาไม่ได้ใส่เกราะอะไรมาด้วย ที่ข้างเอวมีลูกตุ้มขนาดมหึมา มาด้วย แต่กลับมาหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่ม ที่ตัวสูงแค่ช้วงเอวของเขาเท่านั้น “มองอะไรไอหนู อยากตายหรือไง”
“คุณควรกลับไปต่อแถวนะ คนอื่นก็รอคิวเหมือนกัน” เด็กหน่มพูดกับชายร่างยักษ์อย่างตรงไปตรงมา ผู้คนแถวนั้นเริ่มถอยห่าง ไม่อยากจะมีเรื้องสักเท่าไหร่ เพราะชายร่างยักษ์นั้น คือ โอราวาน ผู้ที่ถูกขนามนามว่ายักษ์แห่งขุนเขา ชายร่างยักษ์หงุดหงิดกับคำพูดของเด็กหนุ่ม เขาง้างมือขนาดใหญ่หวังสัดเด็กหนุ่มให้กระเด็น
“ตัวแค่นี้ยังจะมาสมัครงานอย่างงี้อีกเรอะ” หมัดของเขาพุ่งใส่อย่างแรงทำให้เกิดคลื่นลมรุนแรงปะทะ เด็กหนุ่มรีตาลงพร้อมกับกำลังจะยกมือขึ้น แต่ยังไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น คลื่นลมก็ถูกหยุด ด้วยตัวตลกกับนิ้วเพียง หนึ่งนิ้วเท่านั้น
“ผมบอกแล้วนะว่าไม่ให้ก่อเรื้องนะ” ตัวตลกหมุนนิ้วเป็นวงกลม ก็ทำให้ โอราวาน หมุนเคว้ง หน้าฟาดลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง ตึง.. ผู้คนต่างมองไม่ละสายตา
“โอะ.. ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มให้กับตัวตลก ตัวตลกชูมือขึ้น พร้อมโบกมือเบาๆ เหล่าทหารที่คุ้มกันก็โผล่โค้งเล็กน้อยก่อนจะพาร่างที่หมดสติของ โอราวานไป
“เจ้านี้เป็นตัวดึงดูดปัญหาชั้นดีเลยนิเจ้าหนู” เซลอติกแอ่นหลังหันมามอง เด็กหนุ่ม
“ผมยังไม่ทันทำอะไรเลยนะครับ” เด็กหนุ่มยืนกอดอกหน้าตาฉุนหนิดหน่อย ก่อนตัวตลกจะทำมือเหมือนไล่เบา ด้วยการสบัดหลังมือ พร้อมยิ้มและหายไปในที่สุด ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปรกติ ผู้คนเริ่มต่อแถวอีกครั้ง เด็กหนุ่มเดินจนไปถึงแถวหน้าซึ่งก็เป็นเวลาใกล้เที่ยงพอดี
“กรุณาว่าง 10 เหรียญเงินไว้ ด้วยคะ” หญิงสาวกล่าว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากการเก็บเอกสาร เธอถึงกับตลึงในความของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ เด็กหนุ่มล้วงไปหยิมถุงเงินก่อนจะวางมันลงบนโตะสมัครทันที
“ข...ขอชื่อกับอายุ ด้วยคะ” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเพราะความเขินอาย
“ลาคัส อายุ 14 ปีครับ” “นามสกุลคะ” หญิงสาวพูดขณะกรอกใบสมัคร “อืม..ไม่มีครับ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะลังเลเล็กน้อย “เธอไม่มีนามสกุล จริงๆหรอ” ที่หญิงสาวถามอย่างนั้นอาจเป็นเพราะหน้าตาที่หล่อเหลา เมือนผู้ดีชั้นสูง หากเธอเขียนชื่อโดยไม่มีนามสกุล แล้วเด็กคนนี้เป็นทายาทของคนชั้นสูง เธออาจจะเดือดร้อนได้
“ไม่มีครับ...หรือพี่สาวจะเอานามสกุลพี่สาวใส่ไปก็ได้นะครับ”
เด็กหนุ่มตอบอย่างตรงไปตรงมา หญิงสาวหน้าแดงเป็นอย่างมาก ตัวเธอก็อายุไม่ได้ห่างจากเด็กคนนี้มากนัก การที่จะให้นามสกุลไครไปก็เหมือนเป็นการขอแต่งงานโดยชอบธรรม “เด็กบ้า..ไม่มีก็ไม่มี” เธอกรอกใบสมัครจนเสร็จ ก่อนจะยื่นให้ ลาคัส เซ็นรับรอง ตึง! เสียงตราได้ถูกประทับลงบนกระดาษหนังแกะอย่างดี “มันมี 4ช่องนิครับพี่สาว” เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย
“เธอจะได้ตราประทับทั้งสี่หากเธอผ่านการสอบคัดเลือกทั้งหมด”
เธอยื่นกระดาญที่มีสัญลักษณ์ของเมือง light kingdom พร้อมบอก “โชคดีกับการคัดเลือกนะ เชิญไปที่ เสาทางด้านทิศตะวันออก เพื่อทำการวัดโซลด้วยคะ” เธอชำเลืองมองเด็กหนุ่มด้วยความเขินอาย “อื้อ” เด็กหนุ่มยิ้ม ก่อนจะเดินออกไป สายตาของหญิงสาวยังคงจ้องมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มไม่ละสายตา
“เห้ ตาฉันแล้วใช่ไหม” เสียงของผู้ชายคนถัดไป ทำให้เธอตกใจก่อนจะร้อนรน รีบทำงานต่อในทันที
ณ เสาทางทิศตะวันออก ผู้คนต่างยืนรอการทดสอบวัดโซล การวัดโซลจะให้ผู้เข้าร้วม เอามือเข้าไปสำผัส กับผลึกแก้วตรงกลาง ผลึกแก้วข้างหลังจะมี 4 อัน ผู้เข้าการทดสอบจะไม่ต้องทำอะไรหากแต่ผลึกจะทำการตรวจสอบโดยอัตโนมัต ผลึกแต่ละอันจะบ่งบอกปริมาณโซลในร่างของแต่ละบุคคล หากโซลมีปริมาณที่มาก ผลึกข้างหลังก็จะส่องแสงและส่งไปยังผลึกถัดไป ใครที่ไม่อาจทำให้ผลึกเปล่งประกายได้เลยก็จะถือว่าสอบตกในทันที
“เห้ นายอะ” เสียงของใครคนนึงกำลังเรียกลาคัสอยู่ข้างหลัง เขาหันไปมองยังเสียงที่มาก็ได้พบกับเด็กชายร่างเล็กอีกคน เขาตัวเล็กกว่าลาคัสนิดหน่อยหากแต่พลองที่อยู่ด้านหลังของเขามันชั้งสูงเหลือเกินเมื่อเทียบกับขนาดตัวของเขา
“นายชื่ออะไรเราชื่อ ซุน ยินดีที่ได้รู้จัก มาเป็นเพื่อนกันนะ” เด็กน้อยถามด้วยประโยคทั้งพวงเล่นเอาคนฟังถึงกับงงไม่ใช้น้อย ลาคัสยิ้มพยักหน้า ก่อนจะบอกชื่อของออกตนไป
“นายอายุเท่าไหร่ มาคนเดียวหรอ มีใครรู้จักที่งานนี้ไหม แล้วนายเก่งรึเปล่า”
คำถามเยอะแยะทำเอาลาคัสตอบไม่ทันเลย และได้แต่ทำหน้าแปลกประหลาด
ลาคัสมองไปยังเด็กน้อยที่มีนัยตาสีเขียวและตอบคำถามไปทีละข้อ “งั้นนายก็เป็นพี่เรานะสิ” แต่ก่อนที่ ซุนจะทันได้ถามอะไรเพิ่ม ก็มีเสียงของผู้คุมที่ดึงเอาความสนใจของทั้ง สองไปก่อน
“ โซล ระดับ 2 เชิญไปยังเสาทิศเหนือได้เลยคะ” “โซลระดับ 1 เชิญไปยังทิศเหนือคะ” ผู้ตรวจสอบทำงานกันอย่างแข่งขัน เนื้องจากผู้คนนั้นเยอะจำเป็นต้องรีบทำเวลาก่อนที่ จะเข้าสู่ช่วงหลักของงานผู้คนมากมายเริ่มสำผัสไปที่ผลึก บ้างก็มีแสง บ้างก็ไม่มีแสง จนมาถึงคิวของลาคัส กับ ซุน
“เชิญผู้สมัครคนต่อไปด้วยคะ” ซุนและลาคัสขึ้นไปยังแท่นที่มีผลึกอยู่คนละอัน ซุน เอามือสำผัสที่ ผลึก ตาสีเขียวของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก่อนที่ผลึกจะส่องแสงออกมาอย่างสว่างไสว ผลึก ชิ้น ที่ 1 สีค่อยๆสว่างขึ้น ชิ้นที่2 ก็ ค่อยๆสว่างขึ้นเช่นกัน ทันไดนั้น ชิ้นที่ 3 ก็ค่อยๆสว่างขึ้น “3 ชิ้นเลยหรอ ไอเด็กนั้นมันอัจฉริยะชัด” ผู้คนที่ดูอยู่ถึงกับอุทาน
“โซลระดับ 3 เชิญไปยังเสาทิศเหนือได้เลยคะ” ซุนเอามือลง ก่อนจะมองไปที่ลาคัส
“เดี่ยวไปรอตรงนู้นนะ” ซุนกระโดดลงจากแท่นทดสอบ
เด็กหนุ่มค่อยๆเอามือสำผัสกับผลึกก่อนจะปิดตาแล้วสูดลมหายใจเข้าเบาๆ วิ้งๆ เสียงของผลึกค่อยๆดังขึ้น แต่มันกลับไม่มีแสงใดๆออกมาเลย ผู้คนข้างหลังต่างพากันหัวเราะ
“ฮาๆ ไอหนูกลับไปเลี้ยงวัวที่บ้านดีกว่ามั้ง”
“แปปนึงๆ ขออีกทีๆ” ลาคัสพูดกับผู้คุม ผู้คนต่างพากันขำ
“เชิญท่านต่อไป...” ก่อนจะพูดจบก็มีผู้คุมอีกคนมากระซิบอะไรสักอย่าง ผู้คุมหยุดนิ่งไปพักหนึงก่อนจะเอ่ย “เชิญลองอีกครั้งคะ ลาคัสยิ้มทั้นที เขาพยักหน้าและเอามือวางลงผลึกอีกครั้ง ผู้คนข้างหลังก็ยังเยาะเย้ย เด็กหนุ่ม ยังไม่ทันจะหมดเสียงหัวเราะ เปรี้ยๆ ผลึกค่อยๆร้าว มันไม่ได้ส่องแสงใดๆ มันผิดปรกติเป็นอย่างมาก โผละ!! ผลึกตรงกลางแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ใช่แค่นั้น ผลึกข้างหลังทั้ง 4 ก็แตกออกพร้อมๆกัน โผละๆๆๆ
ผู้คนถึงกับปากข้าง ไม่ใช่แค่ ผู้ทดสอบ แต่ผู้คุมก็ ปากข้างเช่นกัน
ฟู่.. ลาคัสถอนหายใจออก พร้อมกับยิ้ม
“ช...เชิญไปยังเสาทิศเหนือเลยคะ” เด็กหนุ่มยื่นตราไปให้ประทับก่อนจะเดินไปยังที่ต่อไป
“นายทำได้ยังไง” เด็กน้อยที่ยืนรอ ลาคัสอยู่ถามอย่างงุนงง
“ไม่รู้สิ” เด็กหนุ่มขำ พลางยิ้ม ทั้ง สองเดินไปยังเสาทิศเหนือ ที่ผู้สมัครจะต้องทำลาย ผลึกที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งให้ได้ ผู้เข้าทดสอบสามารถใช้อาวุธหรืออะไรก็ได้ในการทำลายผลึกนี้ ต้องกล่าวว่าผลึกนั้นแข็งมาก ผู้เข้าสมัครจำเป็นจะต้องควบคุม ออร่า หรือ มานา เป็นอย่างดีถ้าจะสามารถทำลายผลึกได้ เนื่องจากผลึกนั้นจะไม่แตกหากพลังไม่เพียงพอ และถ้าหากพลังมากเกินไป ผลึกก็จะไม่แตกเช่นกัน เปรียบง่ายๆคือ ผลึกนี้มีไว้เพื่อวัตรความสามารถในการควบคุมปริมาณและกำลังที่พอเหมาะนั้นเอง ผู้คนมากมายต่างพากันล้มเหลวเนื่องจากความหินของการทดสอบ
บางคนถึงกับเอ่ยว่าผลึกนี้คือการทดสอบที่เป็นไปไม่ได้ หากแต่ทั้ง ลาคัส และ ซุนนั้นใช้เวลาไม่นานในการเข้าใจ และสามารถทำลายผลึกลง ทั้ง 2ผ่านการทดสอบพลังกายนั้นอย่างไม่ยากเย็น ตราประทับถูกปั้มลงบนกระดาษหนังแกะของทั้ง 2 ขาดเพียง 1ตราเท่านั้น การประลองที่เสาทิศตะวันตก จะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะได้เข้าไปยัง สถาบันหรือไม่
ประชาชนเริ่มเดินทางไปยังที่ทดสอบสุดท้าย เพราะที่นี้ตือศูนย์รวมความตื่นเต้น จากผู้เข้าทดสอบทุกคน
…………………………………………………………………………………………………………………………..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ