LacuXs: Academy of Light
-
เขียนโดย VonDerVisE
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.05 น.
8 ตอน
1 วิจารณ์
4,592 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2565 14.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เซลติก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในเมืองก่อนจะมองไปรอบๆ ตึกราบ้านช่องที่นี้ส่วนมากจะเป็นตึกคูหา จะมีประมาณ 2 ถึง 3 ชั้น บนหลังคาจะเป็น หลังคาเรียบให้ผู้คนออกมาตากผ้า เนื่องจากถนนผู้คนนั้นแออัดเกินไป บางคนก็จัดพื้นที่เป็นที่พักผ่อน เป็นดาดฟ้า ที่สวยงามตามแต่ละหลัง “โครกกก..” ท้องของเขาร้องขึ้นมามันทำให้เขาเขินเล็กน้อย ก่อนจะลูบท้องพลางเดินไปอย่างช้าๆ เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ที่เป็นถุงผ้าจากเอวขึ้นมา เขาเปิดดู แล้วเทเหรียญออกมา เหรียญ 3 เหรียญไหลออกมาพร้อมกับทรายจำนวนหนึ่ง 2 เหรียญทองแดง 1 เหรียญเงิน
“กินไรได้บ้างเนี่ย”
เขาถอนหายใจก่อนจะเดินดูรอบๆ เขตตลาดที่คนจอแจ พ่อค้าแม่ค้าต่างพยายามเต็มที่ ที่จะขายของๆตน ทุกๆอย่างดูมีสีสัน มีชีวิตชีวา ผู้คนต่างเดินเลือกซื้อของกันอย่างพลุ่งพล่าน
“ท่านสนใจ อาวุธจากร้านเราไหมครับ นี้คือเหล็กเนื้อดีที่สามารถตัดไม้ได้เหมือนกับเต้าหู้เลยนะ”
พ่อค้าร่างท้วมเดินตามเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดง ชุดของเขาประดับไปด้วยเพชรพลอย พร้อมกับองครักษ์อีกกว่า10 คน ชุดเกราะของพวกเขาเป็นสีเงินแวววาวสะท้อนกับแสงอาทิตย์ ทำให้เห็นได้อย่างเด่นชัด เด็กหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้า เขาดูท่าทางเย่อหยิ่ง
“ของร้านเจ้าก็ไม่ต่างจากขยะข้างทาง ดาบที่ข้าครองคือดาบประกายไฟ มันมีค่ามากกว่าทุกอย่างที่เจ้าจะหาได้ทั้งชาติเสียอีก”
เหล่าองครักษ์เดินมาบังพ่อค้าร่างท้วม ก่อนจะเดินต่อไป
“รับอะไรไปทานหน่อยไหมคะ” แม่ค้าต่างพยายามขายของๆตนเพื่อให้เด็กหนุ่มคนนี้หันมาเหลียวมอง แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเขาเดินไปอย่างไม่แยแส
“ที่นี้มันช่างน่าเบื่อจริงๆ ไหนบอกเป็นเมืองท่า ก็นึกว่าจะมีแต่ของดีๆสะอีก นี่เดินมาพักนึงยังไม่เจออะไรน่าสนใจเลย”
“ถึงจะเป็นเมืองท่าแต่ก็ไม่ใช่ Grand market นะขอรับ”
องครักษ์ร่างใหญ่กล่าว เขามีหน้าตาดุดัน ผมสีน้ำตาล พร้อบกับรอยแผลเป็นบริเวณ ตาซ้าย มันเหมือนเป็นรอยถูดฟัน ทำให้ตัวเขา ดูหน้าเกรงขามเป็นอย่างมาก
“นั้นสินะ คงต้องบอกท่านพ่อให้พาไปสักหน่อยละมั้งที่นี้มีแต่พวกสามัญชน มันช่างเหม็นเน่าสะเหลือเกิน”
เด็กหนุ่มเดินแบบยโสก่อนจะหันซ้ายหันขวาเพื่อดูของรอบๆอีกสักพัก เขาหยุดเดินแล้วหันไปหาองครักษ์
“งั้นก็กลับกันเถอะ พรุ่งนี้มีงานคัดเลือกสอบเข้า light academy ถึงเราจะได้เทียบเชิญมาก็ อยากจะไปดูพวกสามัญชน สอบเข้าสักหน่อย
“ขอรับนายท่าน”
เด็กหนุ่มดีดนิ้ว ทันใดนั้นกลุ่มองครักษ์ก็เดินกลับไปเป็นฟอเมชั้นบดบังนายน้อยของตนทำให้ไม่มีผู้คนไหนเห็นตัวนายน้อยได้อีก
ในขณะนั้นเด็กหนุ่มที่หิวโซเดินไปยังตลาดก่อนจะถามหาอาหารราคา 2เหรียญทองแดง แต่ในเวลานี้ เงินราคาเท่านี้คงได้ผลไม้เพียงลูกเดียวเท่านั้น เนื่องจากเป็นเมืองท่าของที่นี้ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อยหากเปรียบเทียบกับที่อื่น พ่อค้าแม่ค้าต่างไล่เด็กหนุ่มอย่างเหยียดหยาม เด็กหนุ่มก็ได้แต่เกาหัวหัวเราะพยายามไกล่เกลี่ยเรื่อยมา สุดท้ายเขาก็ไม่สำเร็จที่จะหาของประทังท้องที่หิวโหย
“เห้อ หิวชะมัดเลย”
เด็กหนุ่มบ่นพึมพำในขณะที่จะนั่งลงกับพื้น ตึกๆ เสียงฝีเท้าอันรวดเร็ววิ่งผ่านโซนตลาดไปแยบยลมันเหมือนเป็นเงาที่วิ่งผ่านผู้คน
”เห้ย ใครขโมยของไป กลับมาจ่ายเงินเดี๋ยวนี้”
เสียงพ่อค้าแม่ค้าเริ่มโวยวายแต่ก็ไม่เจอใคร วัยรุ่นชายคนนึงกระโดดขึ้นไปยังกำแพงหินก่อนจะไปนั่งยองๆบนหลังคาบ้านเรือน ในมือเขาถือผลไม้พร้อมกับกัดลงไปอย่างเอร็ดอร่อย เขาเหลือบมองเห็นเด็กหนุ่มนั่งอยู่ตรงซอยข้างตลาด ดูจากท่าทีก็พอเดาได้ว่าหิวไส้จะขาด“เฮ้ เจ้าหนู ข้าให้” เด็กหนุ่มเงยหน้ามองไปที่ชายที่นั่งอยุ่บนหลังคา เขาโยนผลแอปเปิ้ลลงมาให้ 2ผล ก่อนจะเดินหายไปบนหลังคา แต่ไม่ทันไรที่จะเดินพ้นจากสายตา ร่างของเด็กหนุ่มก็มาโผล่ข้างหน้าของชายหนุ่มในทันที
“โหๆ ไม่ธรรมดานิหว่า เสียงเท้าเจ้าเบาเอาเรื่องเลยนะ”
“ยังไม่เท่าพี่ชายหรอกฮาๆ ขอบคุณสำหรับอาหารนะ ว่าแต่..... มีอีกสัก 2ลูกไหมอะ มันไม่พอ” เด็กหนุ่มเกาหัวเบาๆพร้อมกับสีหน้าเจือนๆ มันทำให้ชายที่ยืนอยู่ ถึงกับขำเสียงดัง
“อะไรของเจ้านะ ฝีเท้าระดับเจ้า คงสามารถเอาของได้มากมายไม่ต้องมาขอฉันละมั้งไอหนูแล้วไอ 2ลูกแรกไปไหนแล้วละ”
“กินหมดแล้ว ฮาๆ” เด็กหนุ่มตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับยิ้มแห้ง “เห้ยไวไปป่าว” ชายหนุ่มถึงกับอุทานออกมาเสียงดังก่อนจะโดนดักด้วยคำพูด
” มันไม่ดีนะพี่ ที่ขโมยของคนอื่นนะ ” พร้อมกับสายตาที่มองอย่างตรงๆ
“แต่นายก็ขอของจากโจรอยู่นะเจ้าหนู” ชายหนุ่มมองไปยังเด็กหนุ่มด้วยสีหน้ากวนๆ ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าถุง
“แต่นี้มันของข้านะ…..เอาสิ รับไป” เขาโยนผลไม้ให้ไปอีก 2ลูก
“เจ้าชื่ออะไรเจ้าหนู ตัวข้าชื่อ เซลติก” เด็กหนุ่มที่กำลังเขี้ยวผลไม้อย่างอร่อย
“ไว้เจอกันนะฮะ เซลติก” ก่อนจะเดินไปพร้อมโบกมือ “ฮะ... ชื่อละเว้ย”
เซลติกตะโกนใส่เด็กหนุ่มแต่ก็ไม่ทัน เด็กหนุ่มโดดลงไปจากหลังคาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เป็นเด็กที่ประหลาดชะมัด” เซลติกได้แต่บ่นพึมพำในใจ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้
“พรุ่งนี้น่าจะสนุกแน่ๆแล้วก็ไอน้ันให้ความรู้สึกที่แปลกเหลือเกิน” ก่อนจะเก็บกระเป๋าสะพายหลังแล้วกระโดดไปที่อื่น
ใน วังใจกลาง light kingdom ณ ทางเดินยาวที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วย พรมที่หรูหรา รูปภาพและของประดับนาๆ ที่แควนตามฝาผนัง มันทำให้ดูยิ่งใหญ่สมเป็น เมืองหลวงของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ทุกอย่างดูอลังการ มีทหารใส่เกราะหรูหรายืนลาดตระเวนอยู่ทั่วทุกที่ของพื้นที่ราชวัง
ประตูบานใหญ่ได้ถูกเปิดออกโดยเหล่าทหาร เผยให้เห็นชายร่างใหญ่ กับ ชายอีกคนเดินออกมาตามทางเดิน งานพรุ่งนี้จัดไปถึงไหนแล้ว ชายร่างใหญ่ที่ใส่ชุดเกราะสีทรายกล่าว ชายที่สวมชุดคลุยสีขาวขาน
“ขอรับ 80 เปอร์เซ็นต์ได้แล้วครับผม”
“อืม ดีมากแล้วปีนี้ได้เชิญใครไปบ้างสำหรับการสอบที่จะถึง”
“ก็มี ลูกสาวของเจ้าเมือง lucion องค์หญิง ลูลุช เดอ ชาน , ลูกสาวคนแรกแห่งนคร tirtana ราวีเอร่า ราวีเร้ , เจ้าชายแห่งเมือง sanzero บัททิว เซ้นต์ ชอน, ฝาแฝดแห่งนครwhite sand ที่อยู่ด้านตะวันออกของเมืองเรา โยร่า กับ โยเร่ แล้วก็ เด็กที่ได้ฉายาอสูรจากหมู่เกาะ bracion โมเลีย ครับท่าน” ชายร่างใหญ่เอ่ย
“รวม ซิลเว้อ ก็เป็น 7คนสินะ ดีรีบดำเนินการให้เสร็จ อย่าลืมจัดที่ให้พวกขุนนางประจำเมืองด้วยละแล้วก็เตรียมราชรถไว้ เราจะเดินทางไปยัง sandford ในทันที” ชายอีกคนก้มลงรับบัญชาแล้วเดินออกไป ชายร่างใหญ่ มองออกไปนอกหน้าต่าง มองไปยังเมืองที่อยู่เบื้องหน้า เจาเอามือลูบไปที่ชานหน้าต่างช้าๆ ก่อนจะเอามือขึ้นมาดู
“เยี่ยมมากไม่มีฝุ่น”
เวลาล้วงเลยไปถึงช่วงเย็น อากาศเริ่มเย็นลงจนเห็นได้ชัด เด็กหนุ่มนั่งมองดูผู้คนที่เริ่มเก็บของไปมา สถานที่ ที่เคยเป็นตลาดที่ผู้คนพลุกพล่าน เริ่มเงียบสงัด ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ทำให้เห็น ดวง จันทร์ อย่างเด่นชัด ท้องฟ้าที่มีหมู่ดาวมากมาย มันช่างสวยงามเหลือเกินสายลมพัดอ่อนๆพาความหนาวเย็นปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรแห่งแสง เด็กหนุ่มมองไปยังจตุรัสตรงกลางเมือง ในที่พักของพวกขุนนาง ลูลุชนั่งเขียนจดหมายบนโต๊ะไม้ขนาดปานกลาง บนโต๊ะมีเทียนที่อยู่ในโคมอย่างสว่างไสว โต๊ะตัวนีอยู่ติดกับหน้าต่างทำให้แสงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างมา กระทบลงในห้องเผยให้เห็นห้องขนาดใหญ่ ภายในถูกจัดอย่างสวยงาม ถึงแม้มันจะไม่ได้สวยหรูเหมือนห้องนอนของเธอที่ นคร lucion แต่มันก็เป็นหนึ่งในห้องพักที่ดีที่สุดที่จะหาได้จากนคร sandford
ที่พักใน academy จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะมันจะถูกแบ่งตามลำดับชั้นเรียนซึ่งมันก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ตัวเธอนั้นนั่งหน้าคิ้วขมวดเพราะยังคงนึกถึงเหตุการณ์ยามบ่าย เด็กหนุ่ม ปริศนาคนนั้น กับความสามารถ ที่ไม่ธรรมดา ที่สามารถจัดการ เลิชด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ถึงแม้เลิชจะเป็นทหารชั้นธรรมดาแต่ก็มีออร่าในระดับที่ดี ถ้าจะให้เปรียบเทียบคนปรกติกับผู้ใช้ออร่าแล้วก็คงเหมือนเอา มดสู้กับมัา นั้นคือความห่างชั้นของทั้งสอง หากแต่ เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้ใช้ออร่า หรือ มานาใดๆก็สามารถจัดการเลิช ได้อย่างง่ายดาย เด็กคนนั้นต้องเป็นเด็กจากตระกูลชั้นสูงแน่ๆ ถึงมีพลังแฝงมาได้ขนาดนั้น แล้วยังเป็นผู้ใช้กระบวนยุทธ์อีก ลูลุชพึมพำ ยิ่งในสมัยนี้ที่มีแต่อาวุธยุทโธปกรณ์มากมายให้เลือกและไหนอาวุธแต่ละชนิดยังมีพลังเป็นของมันเองอีก วิชายุทธ์ นั้นแทบจะไม่มีใครเรียนรู้เลยและหายไปจากพื้นดินมาอย่างยาวนาน สีหน้าของเด็กสาวค่อยๆเปลี่ยนไป
“เขาช่างน่าสนใจจริงๆ ฉันเฝ้ารอที่จะดูเขาในวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว” ลูลุชยิ้มก่อน มองออกไปนอกหน้าต่างที่ซึ่งเห็น พระจันทร์ ได้อย่างชัดเจน
ตัดมาที่เด็กหนุ่มเขายังคงมองไปที่มีแสงไฟรอบๆเมือง แสงอันสว่างสไว ที่มอบความอบอุ่นให้ผู้คนที่อยู่รอบๆในเมืองที่เริ่มจะเย็นเฉียบ เหล่าบรรดาร้านเหล้าและ สถานบรรเทิงมากมายค่อยๆ เปิดตัวขึ้นอย่างช้าๆ เสียงของผู้คน ดังขึ้น ผู้คนมากมายต่างมาหาความสำราญ หลังจากวันที่เหน็ดเหนื่อย บางคนก็มาพบปะเพือนฝูงที่ไม่ได้เจอกันมาอย่างยาวนาน มันเป็นคำคืนที่สนุกสนาน เด็กหนุ่มที่อยู่บนดาดฟ้าเฝ้ามองผู้คนมากมายที่เดินไปมาบนท้องถนน ภาพความสำราญของผู้คนมันทำให้เขา สนใจและยากลงไปร้วมสนุกเช่นกับคนอื่น หายแต่ เขายังคงนึกถึงอะไรสักอย่าง เขาก้มมองไปยังอาวุธที่อยู่ข้างกายพร้อมเอามือลูบไปที่ส่วนแตกหัก ก่อนจะหันไปมอง ยัง light academy ที่มีผู้คุมยืนกันอย่างแข่งขัน ไม่ไกลจากตัวสถาบันมากนักนั้นจะมีโบสถ์ อยู่บนยอดนั้นเป็นรูปกางเขน และเสียงระฆังของมันกำลังกังวาลไปทั่วบริเวณ
“พรุ่งนี้แล้วสินะ... อาจารย์ครับมันเป็นเวลาที่ยาวนานแต่ยังไงก็โปรดนำทางผมด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มนั่งยิ้มพร้อมแกว่งเท้าอยู่บนดาดฟ้าอย่างสบายอารมณ์
……………………………………………………………………………………………………………………………………...
“กินไรได้บ้างเนี่ย”
เขาถอนหายใจก่อนจะเดินดูรอบๆ เขตตลาดที่คนจอแจ พ่อค้าแม่ค้าต่างพยายามเต็มที่ ที่จะขายของๆตน ทุกๆอย่างดูมีสีสัน มีชีวิตชีวา ผู้คนต่างเดินเลือกซื้อของกันอย่างพลุ่งพล่าน
“ท่านสนใจ อาวุธจากร้านเราไหมครับ นี้คือเหล็กเนื้อดีที่สามารถตัดไม้ได้เหมือนกับเต้าหู้เลยนะ”
พ่อค้าร่างท้วมเดินตามเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดง ชุดของเขาประดับไปด้วยเพชรพลอย พร้อมกับองครักษ์อีกกว่า10 คน ชุดเกราะของพวกเขาเป็นสีเงินแวววาวสะท้อนกับแสงอาทิตย์ ทำให้เห็นได้อย่างเด่นชัด เด็กหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้า เขาดูท่าทางเย่อหยิ่ง
“ของร้านเจ้าก็ไม่ต่างจากขยะข้างทาง ดาบที่ข้าครองคือดาบประกายไฟ มันมีค่ามากกว่าทุกอย่างที่เจ้าจะหาได้ทั้งชาติเสียอีก”
เหล่าองครักษ์เดินมาบังพ่อค้าร่างท้วม ก่อนจะเดินต่อไป
“รับอะไรไปทานหน่อยไหมคะ” แม่ค้าต่างพยายามขายของๆตนเพื่อให้เด็กหนุ่มคนนี้หันมาเหลียวมอง แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเขาเดินไปอย่างไม่แยแส
“ที่นี้มันช่างน่าเบื่อจริงๆ ไหนบอกเป็นเมืองท่า ก็นึกว่าจะมีแต่ของดีๆสะอีก นี่เดินมาพักนึงยังไม่เจออะไรน่าสนใจเลย”
“ถึงจะเป็นเมืองท่าแต่ก็ไม่ใช่ Grand market นะขอรับ”
องครักษ์ร่างใหญ่กล่าว เขามีหน้าตาดุดัน ผมสีน้ำตาล พร้อบกับรอยแผลเป็นบริเวณ ตาซ้าย มันเหมือนเป็นรอยถูดฟัน ทำให้ตัวเขา ดูหน้าเกรงขามเป็นอย่างมาก
“นั้นสินะ คงต้องบอกท่านพ่อให้พาไปสักหน่อยละมั้งที่นี้มีแต่พวกสามัญชน มันช่างเหม็นเน่าสะเหลือเกิน”
เด็กหนุ่มเดินแบบยโสก่อนจะหันซ้ายหันขวาเพื่อดูของรอบๆอีกสักพัก เขาหยุดเดินแล้วหันไปหาองครักษ์
“งั้นก็กลับกันเถอะ พรุ่งนี้มีงานคัดเลือกสอบเข้า light academy ถึงเราจะได้เทียบเชิญมาก็ อยากจะไปดูพวกสามัญชน สอบเข้าสักหน่อย
“ขอรับนายท่าน”
เด็กหนุ่มดีดนิ้ว ทันใดนั้นกลุ่มองครักษ์ก็เดินกลับไปเป็นฟอเมชั้นบดบังนายน้อยของตนทำให้ไม่มีผู้คนไหนเห็นตัวนายน้อยได้อีก
ในขณะนั้นเด็กหนุ่มที่หิวโซเดินไปยังตลาดก่อนจะถามหาอาหารราคา 2เหรียญทองแดง แต่ในเวลานี้ เงินราคาเท่านี้คงได้ผลไม้เพียงลูกเดียวเท่านั้น เนื่องจากเป็นเมืองท่าของที่นี้ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อยหากเปรียบเทียบกับที่อื่น พ่อค้าแม่ค้าต่างไล่เด็กหนุ่มอย่างเหยียดหยาม เด็กหนุ่มก็ได้แต่เกาหัวหัวเราะพยายามไกล่เกลี่ยเรื่อยมา สุดท้ายเขาก็ไม่สำเร็จที่จะหาของประทังท้องที่หิวโหย
“เห้อ หิวชะมัดเลย”
เด็กหนุ่มบ่นพึมพำในขณะที่จะนั่งลงกับพื้น ตึกๆ เสียงฝีเท้าอันรวดเร็ววิ่งผ่านโซนตลาดไปแยบยลมันเหมือนเป็นเงาที่วิ่งผ่านผู้คน
”เห้ย ใครขโมยของไป กลับมาจ่ายเงินเดี๋ยวนี้”
เสียงพ่อค้าแม่ค้าเริ่มโวยวายแต่ก็ไม่เจอใคร วัยรุ่นชายคนนึงกระโดดขึ้นไปยังกำแพงหินก่อนจะไปนั่งยองๆบนหลังคาบ้านเรือน ในมือเขาถือผลไม้พร้อมกับกัดลงไปอย่างเอร็ดอร่อย เขาเหลือบมองเห็นเด็กหนุ่มนั่งอยู่ตรงซอยข้างตลาด ดูจากท่าทีก็พอเดาได้ว่าหิวไส้จะขาด“เฮ้ เจ้าหนู ข้าให้” เด็กหนุ่มเงยหน้ามองไปที่ชายที่นั่งอยุ่บนหลังคา เขาโยนผลแอปเปิ้ลลงมาให้ 2ผล ก่อนจะเดินหายไปบนหลังคา แต่ไม่ทันไรที่จะเดินพ้นจากสายตา ร่างของเด็กหนุ่มก็มาโผล่ข้างหน้าของชายหนุ่มในทันที
“โหๆ ไม่ธรรมดานิหว่า เสียงเท้าเจ้าเบาเอาเรื่องเลยนะ”
“ยังไม่เท่าพี่ชายหรอกฮาๆ ขอบคุณสำหรับอาหารนะ ว่าแต่..... มีอีกสัก 2ลูกไหมอะ มันไม่พอ” เด็กหนุ่มเกาหัวเบาๆพร้อมกับสีหน้าเจือนๆ มันทำให้ชายที่ยืนอยู่ ถึงกับขำเสียงดัง
“อะไรของเจ้านะ ฝีเท้าระดับเจ้า คงสามารถเอาของได้มากมายไม่ต้องมาขอฉันละมั้งไอหนูแล้วไอ 2ลูกแรกไปไหนแล้วละ”
“กินหมดแล้ว ฮาๆ” เด็กหนุ่มตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับยิ้มแห้ง “เห้ยไวไปป่าว” ชายหนุ่มถึงกับอุทานออกมาเสียงดังก่อนจะโดนดักด้วยคำพูด
” มันไม่ดีนะพี่ ที่ขโมยของคนอื่นนะ ” พร้อมกับสายตาที่มองอย่างตรงๆ
“แต่นายก็ขอของจากโจรอยู่นะเจ้าหนู” ชายหนุ่มมองไปยังเด็กหนุ่มด้วยสีหน้ากวนๆ ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าถุง
“แต่นี้มันของข้านะ…..เอาสิ รับไป” เขาโยนผลไม้ให้ไปอีก 2ลูก
“เจ้าชื่ออะไรเจ้าหนู ตัวข้าชื่อ เซลติก” เด็กหนุ่มที่กำลังเขี้ยวผลไม้อย่างอร่อย
“ไว้เจอกันนะฮะ เซลติก” ก่อนจะเดินไปพร้อมโบกมือ “ฮะ... ชื่อละเว้ย”
เซลติกตะโกนใส่เด็กหนุ่มแต่ก็ไม่ทัน เด็กหนุ่มโดดลงไปจากหลังคาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เป็นเด็กที่ประหลาดชะมัด” เซลติกได้แต่บ่นพึมพำในใจ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้
“พรุ่งนี้น่าจะสนุกแน่ๆแล้วก็ไอน้ันให้ความรู้สึกที่แปลกเหลือเกิน” ก่อนจะเก็บกระเป๋าสะพายหลังแล้วกระโดดไปที่อื่น
ใน วังใจกลาง light kingdom ณ ทางเดินยาวที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วย พรมที่หรูหรา รูปภาพและของประดับนาๆ ที่แควนตามฝาผนัง มันทำให้ดูยิ่งใหญ่สมเป็น เมืองหลวงของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ทุกอย่างดูอลังการ มีทหารใส่เกราะหรูหรายืนลาดตระเวนอยู่ทั่วทุกที่ของพื้นที่ราชวัง
ประตูบานใหญ่ได้ถูกเปิดออกโดยเหล่าทหาร เผยให้เห็นชายร่างใหญ่ กับ ชายอีกคนเดินออกมาตามทางเดิน งานพรุ่งนี้จัดไปถึงไหนแล้ว ชายร่างใหญ่ที่ใส่ชุดเกราะสีทรายกล่าว ชายที่สวมชุดคลุยสีขาวขาน
“ขอรับ 80 เปอร์เซ็นต์ได้แล้วครับผม”
“อืม ดีมากแล้วปีนี้ได้เชิญใครไปบ้างสำหรับการสอบที่จะถึง”
“ก็มี ลูกสาวของเจ้าเมือง lucion องค์หญิง ลูลุช เดอ ชาน , ลูกสาวคนแรกแห่งนคร tirtana ราวีเอร่า ราวีเร้ , เจ้าชายแห่งเมือง sanzero บัททิว เซ้นต์ ชอน, ฝาแฝดแห่งนครwhite sand ที่อยู่ด้านตะวันออกของเมืองเรา โยร่า กับ โยเร่ แล้วก็ เด็กที่ได้ฉายาอสูรจากหมู่เกาะ bracion โมเลีย ครับท่าน” ชายร่างใหญ่เอ่ย
“รวม ซิลเว้อ ก็เป็น 7คนสินะ ดีรีบดำเนินการให้เสร็จ อย่าลืมจัดที่ให้พวกขุนนางประจำเมืองด้วยละแล้วก็เตรียมราชรถไว้ เราจะเดินทางไปยัง sandford ในทันที” ชายอีกคนก้มลงรับบัญชาแล้วเดินออกไป ชายร่างใหญ่ มองออกไปนอกหน้าต่าง มองไปยังเมืองที่อยู่เบื้องหน้า เจาเอามือลูบไปที่ชานหน้าต่างช้าๆ ก่อนจะเอามือขึ้นมาดู
“เยี่ยมมากไม่มีฝุ่น”
เวลาล้วงเลยไปถึงช่วงเย็น อากาศเริ่มเย็นลงจนเห็นได้ชัด เด็กหนุ่มนั่งมองดูผู้คนที่เริ่มเก็บของไปมา สถานที่ ที่เคยเป็นตลาดที่ผู้คนพลุกพล่าน เริ่มเงียบสงัด ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ทำให้เห็น ดวง จันทร์ อย่างเด่นชัด ท้องฟ้าที่มีหมู่ดาวมากมาย มันช่างสวยงามเหลือเกินสายลมพัดอ่อนๆพาความหนาวเย็นปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรแห่งแสง เด็กหนุ่มมองไปยังจตุรัสตรงกลางเมือง ในที่พักของพวกขุนนาง ลูลุชนั่งเขียนจดหมายบนโต๊ะไม้ขนาดปานกลาง บนโต๊ะมีเทียนที่อยู่ในโคมอย่างสว่างไสว โต๊ะตัวนีอยู่ติดกับหน้าต่างทำให้แสงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างมา กระทบลงในห้องเผยให้เห็นห้องขนาดใหญ่ ภายในถูกจัดอย่างสวยงาม ถึงแม้มันจะไม่ได้สวยหรูเหมือนห้องนอนของเธอที่ นคร lucion แต่มันก็เป็นหนึ่งในห้องพักที่ดีที่สุดที่จะหาได้จากนคร sandford
ที่พักใน academy จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะมันจะถูกแบ่งตามลำดับชั้นเรียนซึ่งมันก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ตัวเธอนั้นนั่งหน้าคิ้วขมวดเพราะยังคงนึกถึงเหตุการณ์ยามบ่าย เด็กหนุ่ม ปริศนาคนนั้น กับความสามารถ ที่ไม่ธรรมดา ที่สามารถจัดการ เลิชด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ถึงแม้เลิชจะเป็นทหารชั้นธรรมดาแต่ก็มีออร่าในระดับที่ดี ถ้าจะให้เปรียบเทียบคนปรกติกับผู้ใช้ออร่าแล้วก็คงเหมือนเอา มดสู้กับมัา นั้นคือความห่างชั้นของทั้งสอง หากแต่ เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้ใช้ออร่า หรือ มานาใดๆก็สามารถจัดการเลิช ได้อย่างง่ายดาย เด็กคนนั้นต้องเป็นเด็กจากตระกูลชั้นสูงแน่ๆ ถึงมีพลังแฝงมาได้ขนาดนั้น แล้วยังเป็นผู้ใช้กระบวนยุทธ์อีก ลูลุชพึมพำ ยิ่งในสมัยนี้ที่มีแต่อาวุธยุทโธปกรณ์มากมายให้เลือกและไหนอาวุธแต่ละชนิดยังมีพลังเป็นของมันเองอีก วิชายุทธ์ นั้นแทบจะไม่มีใครเรียนรู้เลยและหายไปจากพื้นดินมาอย่างยาวนาน สีหน้าของเด็กสาวค่อยๆเปลี่ยนไป
“เขาช่างน่าสนใจจริงๆ ฉันเฝ้ารอที่จะดูเขาในวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว” ลูลุชยิ้มก่อน มองออกไปนอกหน้าต่างที่ซึ่งเห็น พระจันทร์ ได้อย่างชัดเจน
ตัดมาที่เด็กหนุ่มเขายังคงมองไปที่มีแสงไฟรอบๆเมือง แสงอันสว่างสไว ที่มอบความอบอุ่นให้ผู้คนที่อยู่รอบๆในเมืองที่เริ่มจะเย็นเฉียบ เหล่าบรรดาร้านเหล้าและ สถานบรรเทิงมากมายค่อยๆ เปิดตัวขึ้นอย่างช้าๆ เสียงของผู้คน ดังขึ้น ผู้คนมากมายต่างมาหาความสำราญ หลังจากวันที่เหน็ดเหนื่อย บางคนก็มาพบปะเพือนฝูงที่ไม่ได้เจอกันมาอย่างยาวนาน มันเป็นคำคืนที่สนุกสนาน เด็กหนุ่มที่อยู่บนดาดฟ้าเฝ้ามองผู้คนมากมายที่เดินไปมาบนท้องถนน ภาพความสำราญของผู้คนมันทำให้เขา สนใจและยากลงไปร้วมสนุกเช่นกับคนอื่น หายแต่ เขายังคงนึกถึงอะไรสักอย่าง เขาก้มมองไปยังอาวุธที่อยู่ข้างกายพร้อมเอามือลูบไปที่ส่วนแตกหัก ก่อนจะหันไปมอง ยัง light academy ที่มีผู้คุมยืนกันอย่างแข่งขัน ไม่ไกลจากตัวสถาบันมากนักนั้นจะมีโบสถ์ อยู่บนยอดนั้นเป็นรูปกางเขน และเสียงระฆังของมันกำลังกังวาลไปทั่วบริเวณ
“พรุ่งนี้แล้วสินะ... อาจารย์ครับมันเป็นเวลาที่ยาวนานแต่ยังไงก็โปรดนำทางผมด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มนั่งยิ้มพร้อมแกว่งเท้าอยู่บนดาดฟ้าอย่างสบายอารมณ์
……………………………………………………………………………………………………………………………………...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ