หนีหนี้..เลยเจอรัก
-
เขียนโดย HanaHana[ฮานาฮานะ]
วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 18.59 น.
14 ตอน
0 วิจารณ์
6,653 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 19.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) มีพบก็ต้องมีจาก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ต้าเฉินถูกนำตัวเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาล เพราะบาดแผลตามตัวของเขาสาหัสเอามากๆทำให้เขาต้องนอนรักษาตัวเป็นเวลาเกือบอาทิตย์ก่อนที่หมอจะอนุญาตให้เขากลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ ซีเหย่าทำเรื่องลาพักฟื้นให้ต้าเฉิน เขามาเยี่ยมและอยู่เป็นเพื่อนต้าเฉินตลอดช่วงเวลาพักฟื้น
อาการบาดเจ็บตามร่างกายฟื้นตัวเร็วใช้เวลาไม่นานก็ดีขึ้นแต่อาการบาดเจ็บภายในไม่อาจจะรักษาให้หายเหมือนบาดแผลภายนอกได้ต้าเฉินไม่ยอมเปิดปากถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเองเจ็บปางตายได้แม้กระทั่งกับพ่อแม่เขาก็ไม่พูดเมื่อถูกถามถึงแฟนสาว(หลอกๆ)เขากลับมีท่าทางซึมเศร้าก่อนจะปิดตาลงเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
ต้าเฉินบอกกล่าวพ่อกับแม่ก่อนจะเดินขึ้นรถคู่ใจแล่นออกสู่ถนนเบาะข้างคนขับที่เคยมีแต่เสียงพูดคุยไม่หยุดหย่อนจนน่ารำคาญกลับเงียบสงบยิ่งกว่าเดินหลงป่าต้าเฉินกลับมาทำงานอย่างปกติแต่ที่ไม่ปกติก็คงจะเป็นสภาพจิตใจและท่าทางที่ดูเข้มขรึมของเขา
“ต้าเฉิน! นายมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาฉันได้นะ” ซีเหย่าเดินเข้ามาทักเพื่อนที่แผ่รังสีความเย็นชาจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ “แกทำตัวแบบนี้ทำให้เพื่อนร่วมงานอึดอัดนะพวกเขาไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้แกเลย”
“วันนี้ไม่มีอะไรแล้วฉันขอกลับก่อนนะ”
ต้าเฉินไม่สนใจคำพูดของซีเหย่าคว้ากระเป๋าเดินออกจากสถานีตำรวจเขานั่งมองพวงมาลัยอยู่สักพักและนึกถึงคำพูดของเพื่อนรักไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้ซีเหย่าเป็นที่ปรึกษาแต่เพราะปรึกษาซีเหย่าที่หลงรักลินลี่ไม่ได้เพราะเขาเองก็อยู่ในสถานะเดียวกันและที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาไม่สามารถปกป้องเธอได้
หลังจากฟื้นตัวต้าเฉินมักจะเลิกงานเร็วและออกตามหาลินลี่แม้จะได้ข้อมูลสำคัญๆบางอย่างจากหัวหน้าตุ๊งติ๊งแต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเขาเลยแม้แต่น้อยบ้านเกิดหรือบ้านญาติเขาก็ลองไปมาแล้วแต่กลับไม่มีคนอยู่หากมีก็ถูกขายไปให้คนอื่นเรียบร้อยแล้ว
เขาลองตัดสินใจไปยังสถานที่ที่เขาคิดว่าเธอจะต้องถูกจับตัวไปขายบริการแต่ก็ไม่พบต้าเฉินกลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่จัดเอามากๆเรื่องการดื่มของมึนเมาและสูบบุหรี่เป็นปกติของเหล่าชายซีเหย่าเองก็เป็นแต่ไม่หนักและบ่อยแบบนี้
“ต้าเฉิน! ลูกดื่มเหล้ามาอีกแล้วหรอ?”
ผู้เป็นแม่เข้าไปประคองลูกชายที่มักจะดื่มเหล้าหัวทิ่มกลับบ้านแทบทุกวันหลังจากออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นานเขาทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปทำให้ทั้งเขาและแม่ล้มลงไปนั่งกองกับพื้นซองเปล่าของบุหรี่กระเด็นออกจากกระเป๋าเสื้อ
“ต้าเฉิน! นี่ลูกสูบบุหรี่หมดนี่เลยหรอ?”
ผู้เป็นแม่เริ่มรับไม่ได้กับการทำตัวสำมะเลเทเมาแบบนี้ของลูกเธอชูซองบุหรี่ที่ว่างเปล่าขึ้นมาก่อนจะต่อว่าลูกชาย
“ใช่! ผมมันไม่ดี... ผมมันอ่อนแอ... เธอถึงไม่ได้อยู่กับผม... ฮือ~ เพราะผมปกป้องเธอไม่ได้ฮือ~ ผมมันอ่อนแอฮือ~”
ต้าเฉินร้องไห้ไปพร้อมกับกอดผู้เป็นแม่เธอสวมกอดลูกชายอย่างอ่อนโยนต่อให้เขาทำตัวไม่ดีแค่ไหนหรือแย่แค่ไหนเขาก็ยังเป็นลูกชายที่เธอรักเธอไม่แม้แต่จะถามถึงแฟนสาวของลูกที่หายตัวไปเพราะเธอคิดว่ามันต้องมีเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังบางอย่างที่ไม่สามารถบอกเธอได้รอลูกพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกแม่นะ
“ตื่นแล้วหรอไอ้ตัวดี!” ผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่หัวโต๊ะอาหารเช้าพูดขึ้นอย่างคนอารมณ์เสีย
“ผมออกไปข้างนอกก่อนนะครับ” ต้าเฉินไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเดินเลี่ยงออกไปที่หน้าบ้านแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อผู้เป็นแม่ร้องห้าม
ต้าเฉินถูกจับลงตะกร้าล้างน้ำล้างคราบกลิ่นแอลกอฮอล์และบุหรี่ออกตอนนี้เขาอยู่ในสภาพของคุณชายผู้ดูดีหล่อเหลาเพียบพร้อมเดินเคียงข้างกับหญิงสาววัยกลางคนที่ดูสง่างามเซี่ยวอวี๋พาต้าเฉินมาออกงานเปิดตัวแกลลอรี่ของหลานสาวเพื่อนรักเผิงเดินออกมาต้อนรับเพื่อนสาวพร้อมด้วยหญิงสาวหน้าตาน่ารักด้านหลัง
“ไม่เจอกันนานยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะต้าเฉิน” เผิงส่งยิ้มมาให้เขาก่อนจะแนะนำหลานสาวที่คราดกันคราวก่อนให้รู้จัก “เจิ้นหรูทักทายพี่เขาหน่อยสิ”
“สวัสดีค่ะ” เจิ้นหรูยิ้มทักทายต้าเฉินอย่างเขินอายเขาพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอตามมารยาทเจิ้นหรูดูจะตกใจกับใบหน้าของเขาก่อนจะร้องทักออกไป “พี่เหมือนคนในภาพนั้นมากเลยค่ะ”
ต้าเฉินขมวดคิ้วให้กับคำพูดต่อไปของเจิ้นหรูทั้งเผิงและเซี่ยวอวี๋เองก็หันมาให้ความสนใจคำพูดของเจิ้นหรูก่อนที่เผิงจะชิ่งเอาตัวเซี่ยวอวี๋ออกมาให้พวกเขาอยู่กันตามลำพังเซี่ยวอวี๋มีท่าทีอิดโรยในตอนแรกเพราะเธอรู้ดีว่าลูกชายเธอมีคนที่จับจองหัวใจอยู่แล้วแต่ก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อนที่แนะนำหลานสาวสุดรักให้แก่ลูกชายเธอ
“เมื่อกี้บอกว่าพี่หน้าเหมือนใครนะ?” ต้าเฉินพยายามทำตัวสนิทสนมเพื่อไม่เป็นการหักหน้าเพื่อนรักแม่หรือทำให้แม่ของเขาเองเสียหาย
“ผู้ชายในภาพนั้นค่ะ” เจิ้นหรูนำต้าเฉินไปยังภาพที่เธอเอ่ยถึง
ภาพขนาดใหญ่ถูกหุ้มด้วยกรอบไม้ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีฟ้าหม่นยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่กลางหาดทรายบอกตรงๆไม่ได้หรอกว่าชายหนุ่มคนนั้นแท้จริงแล้วเป็นต้าเฉินหรือไม่เพราะมันเป็นภาพจากด้านข้างมองใบหน้าได้ไม่ชัดเจนเพราะแสงอาทิตย์ที่สาดเข้ามาแต่ภาพนี้เขากลับจำได้ดีว่าเป็นภาพของเขาที่ถ่ายโดยลินลี่
“ใครเป็นคนถ่ายภาพนี้? และตอนนี้คนคนนั้นอยู่ไหน??” ต้าเฉินจับแขนทั้ง 2 ข้างของเจิ้นหรูแน่น
“คนถ่ายภาพนี้เป็นพี่สาวของฉันเองค่ะและก็เป็นหุ้นส่วนครึ่งหนึ่งของแกลลอรี่นี้ด้วยตอนนี้น่าจะคุยอยู่กับผู้ใหญ่ฝั่งโน้น”
“พี่สาว?”
“ใช่ค่ะพี่สาวฉันไปเที่ยวทะเลมาเธอบอกว่าเจอผู้ชายแปลกๆคนหนึ่งกำลังยืนทำมิวสิคอยู่กลางหาดเลยถ่ายรูปเก็บมาไว้”
ต้าเฉินปล่อยแขนเจิ้นหรูก่อนจะเอ่ยขอโทษที่ทำตัวเสียมารยาทไปเขาคงคิดมากไปว่าเจ้าของภาพถ่ายนี้เป็นลินลี่ตอนที่เขาไปเที่ยวกับเธอก็มีคนมากมายอยู่ตรงนั้นอาจจะเป็นผู้คน 1 ในนั้นก็ได้ที่บังเอิญถ่ายมุมเดียวกับเธอที่สำคัญเธอเป็นเพียงผู้หญิงจนๆคนหนึ่งที่กำลังวิ่งหนีหนี้มหาศาลไม่ใช่พี่สาวของเจิ้นหรูหรือหลานสาวของน้าเผิงที่เป็นเจ้าของร้านอาหารร้านเสื้อผ้าร้านแกลลอรี่สินค้านำเข้าแบบนี้
“พี่ต้าเฉินเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ?” เจิ้นหรูจับแขนเพื่อเรียกสติต้าเฉินเขามองหน้าเจิ้นหรูหน่อยๆก่อนจะยกมือวางบนหัวเธอเบาๆ “พี่ไม่เป็นอะไรหรอกแค่เหนื่อยๆกับงานน่ะ”
เจิ้นหรูหน้าแดงไปกับรอยยิ้มอ่อนโยนของต้าเฉินเธอก้มหน้าที่แดงกล่ำนั้นลงต้าเฉินมองไปยังภาพเขาที่ถูกถ่ายโดยฝีมือคนอื่นในมุมเดียวกับที่ลินลี่ถ่ายสายตาเขาไปสะดุดกับร่างสูงระบ่าที่ยืนอยู่ห่างใกล้ผ่านช่องปูนที่ใช้เป็นฉากตั้งรูปเธอสวมรองเท้าส้นสูงใส่ชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนซึ่งเป็นสีเดียวกับเสื้อเขาในภาพถ่ายผมยาวสีน้ำตาลถูกปล่อยทิ้งไว้กลางหลัง
“ลินลี่” ต้าเฉินพึมพำออกมาเบาๆ
**********************************
นางเอกเปลี่ยนตัวไม่ได้เนอะ? แค่กๆๆๆๆ //ลูกเตะลอยเข้าก้านคอ
มะ..ไม่เปลี่ยนๆๆ คนเดิมคนเดียวแน่นอน
อาการบาดเจ็บตามร่างกายฟื้นตัวเร็วใช้เวลาไม่นานก็ดีขึ้นแต่อาการบาดเจ็บภายในไม่อาจจะรักษาให้หายเหมือนบาดแผลภายนอกได้ต้าเฉินไม่ยอมเปิดปากถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเองเจ็บปางตายได้แม้กระทั่งกับพ่อแม่เขาก็ไม่พูดเมื่อถูกถามถึงแฟนสาว(หลอกๆ)เขากลับมีท่าทางซึมเศร้าก่อนจะปิดตาลงเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
ต้าเฉินบอกกล่าวพ่อกับแม่ก่อนจะเดินขึ้นรถคู่ใจแล่นออกสู่ถนนเบาะข้างคนขับที่เคยมีแต่เสียงพูดคุยไม่หยุดหย่อนจนน่ารำคาญกลับเงียบสงบยิ่งกว่าเดินหลงป่าต้าเฉินกลับมาทำงานอย่างปกติแต่ที่ไม่ปกติก็คงจะเป็นสภาพจิตใจและท่าทางที่ดูเข้มขรึมของเขา
“ต้าเฉิน! นายมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาฉันได้นะ” ซีเหย่าเดินเข้ามาทักเพื่อนที่แผ่รังสีความเย็นชาจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ “แกทำตัวแบบนี้ทำให้เพื่อนร่วมงานอึดอัดนะพวกเขาไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้แกเลย”
“วันนี้ไม่มีอะไรแล้วฉันขอกลับก่อนนะ”
ต้าเฉินไม่สนใจคำพูดของซีเหย่าคว้ากระเป๋าเดินออกจากสถานีตำรวจเขานั่งมองพวงมาลัยอยู่สักพักและนึกถึงคำพูดของเพื่อนรักไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้ซีเหย่าเป็นที่ปรึกษาแต่เพราะปรึกษาซีเหย่าที่หลงรักลินลี่ไม่ได้เพราะเขาเองก็อยู่ในสถานะเดียวกันและที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาไม่สามารถปกป้องเธอได้
หลังจากฟื้นตัวต้าเฉินมักจะเลิกงานเร็วและออกตามหาลินลี่แม้จะได้ข้อมูลสำคัญๆบางอย่างจากหัวหน้าตุ๊งติ๊งแต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเขาเลยแม้แต่น้อยบ้านเกิดหรือบ้านญาติเขาก็ลองไปมาแล้วแต่กลับไม่มีคนอยู่หากมีก็ถูกขายไปให้คนอื่นเรียบร้อยแล้ว
เขาลองตัดสินใจไปยังสถานที่ที่เขาคิดว่าเธอจะต้องถูกจับตัวไปขายบริการแต่ก็ไม่พบต้าเฉินกลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่จัดเอามากๆเรื่องการดื่มของมึนเมาและสูบบุหรี่เป็นปกติของเหล่าชายซีเหย่าเองก็เป็นแต่ไม่หนักและบ่อยแบบนี้
“ต้าเฉิน! ลูกดื่มเหล้ามาอีกแล้วหรอ?”
ผู้เป็นแม่เข้าไปประคองลูกชายที่มักจะดื่มเหล้าหัวทิ่มกลับบ้านแทบทุกวันหลังจากออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นานเขาทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปทำให้ทั้งเขาและแม่ล้มลงไปนั่งกองกับพื้นซองเปล่าของบุหรี่กระเด็นออกจากกระเป๋าเสื้อ
“ต้าเฉิน! นี่ลูกสูบบุหรี่หมดนี่เลยหรอ?”
ผู้เป็นแม่เริ่มรับไม่ได้กับการทำตัวสำมะเลเทเมาแบบนี้ของลูกเธอชูซองบุหรี่ที่ว่างเปล่าขึ้นมาก่อนจะต่อว่าลูกชาย
“ใช่! ผมมันไม่ดี... ผมมันอ่อนแอ... เธอถึงไม่ได้อยู่กับผม... ฮือ~ เพราะผมปกป้องเธอไม่ได้ฮือ~ ผมมันอ่อนแอฮือ~”
ต้าเฉินร้องไห้ไปพร้อมกับกอดผู้เป็นแม่เธอสวมกอดลูกชายอย่างอ่อนโยนต่อให้เขาทำตัวไม่ดีแค่ไหนหรือแย่แค่ไหนเขาก็ยังเป็นลูกชายที่เธอรักเธอไม่แม้แต่จะถามถึงแฟนสาวของลูกที่หายตัวไปเพราะเธอคิดว่ามันต้องมีเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังบางอย่างที่ไม่สามารถบอกเธอได้รอลูกพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกแม่นะ
“ตื่นแล้วหรอไอ้ตัวดี!” ผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่หัวโต๊ะอาหารเช้าพูดขึ้นอย่างคนอารมณ์เสีย
“ผมออกไปข้างนอกก่อนนะครับ” ต้าเฉินไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเดินเลี่ยงออกไปที่หน้าบ้านแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อผู้เป็นแม่ร้องห้าม
ต้าเฉินถูกจับลงตะกร้าล้างน้ำล้างคราบกลิ่นแอลกอฮอล์และบุหรี่ออกตอนนี้เขาอยู่ในสภาพของคุณชายผู้ดูดีหล่อเหลาเพียบพร้อมเดินเคียงข้างกับหญิงสาววัยกลางคนที่ดูสง่างามเซี่ยวอวี๋พาต้าเฉินมาออกงานเปิดตัวแกลลอรี่ของหลานสาวเพื่อนรักเผิงเดินออกมาต้อนรับเพื่อนสาวพร้อมด้วยหญิงสาวหน้าตาน่ารักด้านหลัง
“ไม่เจอกันนานยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะต้าเฉิน” เผิงส่งยิ้มมาให้เขาก่อนจะแนะนำหลานสาวที่คราดกันคราวก่อนให้รู้จัก “เจิ้นหรูทักทายพี่เขาหน่อยสิ”
“สวัสดีค่ะ” เจิ้นหรูยิ้มทักทายต้าเฉินอย่างเขินอายเขาพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอตามมารยาทเจิ้นหรูดูจะตกใจกับใบหน้าของเขาก่อนจะร้องทักออกไป “พี่เหมือนคนในภาพนั้นมากเลยค่ะ”
ต้าเฉินขมวดคิ้วให้กับคำพูดต่อไปของเจิ้นหรูทั้งเผิงและเซี่ยวอวี๋เองก็หันมาให้ความสนใจคำพูดของเจิ้นหรูก่อนที่เผิงจะชิ่งเอาตัวเซี่ยวอวี๋ออกมาให้พวกเขาอยู่กันตามลำพังเซี่ยวอวี๋มีท่าทีอิดโรยในตอนแรกเพราะเธอรู้ดีว่าลูกชายเธอมีคนที่จับจองหัวใจอยู่แล้วแต่ก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อนที่แนะนำหลานสาวสุดรักให้แก่ลูกชายเธอ
“เมื่อกี้บอกว่าพี่หน้าเหมือนใครนะ?” ต้าเฉินพยายามทำตัวสนิทสนมเพื่อไม่เป็นการหักหน้าเพื่อนรักแม่หรือทำให้แม่ของเขาเองเสียหาย
“ผู้ชายในภาพนั้นค่ะ” เจิ้นหรูนำต้าเฉินไปยังภาพที่เธอเอ่ยถึง
ภาพขนาดใหญ่ถูกหุ้มด้วยกรอบไม้ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีฟ้าหม่นยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่กลางหาดทรายบอกตรงๆไม่ได้หรอกว่าชายหนุ่มคนนั้นแท้จริงแล้วเป็นต้าเฉินหรือไม่เพราะมันเป็นภาพจากด้านข้างมองใบหน้าได้ไม่ชัดเจนเพราะแสงอาทิตย์ที่สาดเข้ามาแต่ภาพนี้เขากลับจำได้ดีว่าเป็นภาพของเขาที่ถ่ายโดยลินลี่
“ใครเป็นคนถ่ายภาพนี้? และตอนนี้คนคนนั้นอยู่ไหน??” ต้าเฉินจับแขนทั้ง 2 ข้างของเจิ้นหรูแน่น
“คนถ่ายภาพนี้เป็นพี่สาวของฉันเองค่ะและก็เป็นหุ้นส่วนครึ่งหนึ่งของแกลลอรี่นี้ด้วยตอนนี้น่าจะคุยอยู่กับผู้ใหญ่ฝั่งโน้น”
“พี่สาว?”
“ใช่ค่ะพี่สาวฉันไปเที่ยวทะเลมาเธอบอกว่าเจอผู้ชายแปลกๆคนหนึ่งกำลังยืนทำมิวสิคอยู่กลางหาดเลยถ่ายรูปเก็บมาไว้”
ต้าเฉินปล่อยแขนเจิ้นหรูก่อนจะเอ่ยขอโทษที่ทำตัวเสียมารยาทไปเขาคงคิดมากไปว่าเจ้าของภาพถ่ายนี้เป็นลินลี่ตอนที่เขาไปเที่ยวกับเธอก็มีคนมากมายอยู่ตรงนั้นอาจจะเป็นผู้คน 1 ในนั้นก็ได้ที่บังเอิญถ่ายมุมเดียวกับเธอที่สำคัญเธอเป็นเพียงผู้หญิงจนๆคนหนึ่งที่กำลังวิ่งหนีหนี้มหาศาลไม่ใช่พี่สาวของเจิ้นหรูหรือหลานสาวของน้าเผิงที่เป็นเจ้าของร้านอาหารร้านเสื้อผ้าร้านแกลลอรี่สินค้านำเข้าแบบนี้
“พี่ต้าเฉินเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ?” เจิ้นหรูจับแขนเพื่อเรียกสติต้าเฉินเขามองหน้าเจิ้นหรูหน่อยๆก่อนจะยกมือวางบนหัวเธอเบาๆ “พี่ไม่เป็นอะไรหรอกแค่เหนื่อยๆกับงานน่ะ”
เจิ้นหรูหน้าแดงไปกับรอยยิ้มอ่อนโยนของต้าเฉินเธอก้มหน้าที่แดงกล่ำนั้นลงต้าเฉินมองไปยังภาพเขาที่ถูกถ่ายโดยฝีมือคนอื่นในมุมเดียวกับที่ลินลี่ถ่ายสายตาเขาไปสะดุดกับร่างสูงระบ่าที่ยืนอยู่ห่างใกล้ผ่านช่องปูนที่ใช้เป็นฉากตั้งรูปเธอสวมรองเท้าส้นสูงใส่ชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนซึ่งเป็นสีเดียวกับเสื้อเขาในภาพถ่ายผมยาวสีน้ำตาลถูกปล่อยทิ้งไว้กลางหลัง
“ลินลี่” ต้าเฉินพึมพำออกมาเบาๆ
**********************************
นางเอกเปลี่ยนตัวไม่ได้เนอะ? แค่กๆๆๆๆ //ลูกเตะลอยเข้าก้านคอ
มะ..ไม่เปลี่ยนๆๆ คนเดิมคนเดียวแน่นอน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ